คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Mission 04 : Game Start
MISSION 04
Game Start
หลังจากที่ภารกิจ "ส่งนางฟ้ากลับบ้าน" ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นทางการ สองคู่หูสายลับปฏิบัติการค้นหาสัตว์ทดลองจึงออกตามหาพี่น้องของสติทช์ตามปกติ
แต่เพิ่มเติมตรงที่มาวินกับแองเจิ้ลขยันมาบ้านลีโล่แทบทุกวัน ต่อมเผือกของพรีคลีย์ถึงได้ทำงานหนักขึ้น ติดตามชีวิตรักของลีโล่ มาวิน สติทช์ และแองเจิ้ลหนักขึ้นจนจัมบ้ากับพี่นานี่ได้แต่เพลีย โดยเฉพาะพี่นานี่ที่พยายามปรามพรีคลีย์ไม่ให้ยุ่งเรื่องของลีโล่จนเกินงาม ถึงเธอยินดีที่น้องสาวตัวเล็กมีเพื่อนใหม่เพิ่มก็ตาม
ไม่ใช่แค่พรีคลีย์คนเดียวที่นึกสนุกอยากจับคู่ให้หนุ่มสาวสี่สหายต่างพันธุ์ได้ลงเอยกัน พี่น้องของสติทช์ที่ต่อต้านโปรแกรมทำลายล้างก็พลอยเม้าท์กันอย่างสนุกปาก คิดว่าฟ้าคงบันดาลให้มาวินเป็นเนื้อคู่ของลีโล่ สังเกตได้จากมาวินกับมาเรียต้องการเรียนรู้ภารกิจของลีโล่จากจัมบ้า สองพี่น้องโคลแมนถึงได้รู้ว่า... บรรดาสัตว์ทดลองทั้งหกร้อยกว่าชีวิต ถูกแบ่งออกเป็น 7 หมวดด้วยกัน
0-Series ชุดทดสอบของจัมบ้า ผู้ช่วยงานครัวเรือน
1-Series การสร้างความโกลาหลให้กลุ่มคน
2-Series เกี่ยวกับงานวิจัยทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์
3-Series เกี่ยวกับงานด้านจิตวิทยา
4-Series ความลับทางการทหารขั้นสุดยอด และเป็นผลงานการทดลองที่ล้มเหลว
5-Series ผู้จัดการธาตุต่าง ๆ และสิ่งแวดล้อม
6-Series เป็นองค์ประกอบการทำสงครามซึ่งเกี่ยวพันถึงกาแล็คซี่
จัมบ้ายังอธิบายต่ออีกว่า... ถึงสัตว์ทดลองทุกตัวได้รับการปลุกชีพ ก็ใช่ว่าทุกตัวจะแผลงฤทธิ์แต่แรกเริ่มเสมอไป เพราะจากประสบการณ์ที่ลีโล่กับสติทช์พบเจอ... สัตว์ทดลองบางตัวถูกออกแบบมาให้มีพลังที่แตกต่างกัน บางตัวเป็นภัย และบางตัวไม่เป็นภัย ซึ่งส่วนมากทั้งคู่จะพบแต่สัตว์ทดลองสายคอม-แบ็ตที่ต้องอาศัยสติปัญญาและพละกำลังที่ควบคู่กันมาละลายพฤติกรรมพวกเขาให้ได้ หรือถ้าพบตัวไม่มีภัย... เขาและเธอต่างก็มีมุมอยากลองจนกลายเป็นหาเหาใส่หัวอยู่เรื่อยไป ส่วนจะค้นพบได้อย่างไรนั้น... ก็ขึ้นอยู่กับเวลา โอกาส และโชคชะตา
อ้อว์! เกือบลืม... จัมบ้ายังคิดชื่อเล่นให้สองพี่น้องโคลแมน มาวินถูกเรียกเป็น "พ่อหนุ่มเนื้อคู่" และมาเรียถูกเรียกเป็น "ยัยหนูกามเทพ" เพราะนึกสนุกอยากจับคู่ให้ลีโล่ขึ้นมาฉับพลัน ทำเอาสติทช์แอบเคืองอยู่ลึก ๆ ถึงแม้มาวินเป็นพี่ชายของเพื่อนแองเจิ้ลก็ตาม แต่แองเจิ้ลก็ช่วยปรับความคิดของสติทช์ให้คิดในอีกแง่มุมหนึ่ง... ว่ามาวินเป็นเด็กผู้ชายที่ไม่ธรรมดา ภายนอกดูหล่อละมุนพอที่จะกระชากใจเด็กผู้หญิงแถวบ้านเก่า แต่มาวินก็มีมุมไฟท์เตอร์ให้เห็น จะสังเกตได้จากการฝึกหมัดมวยและเคนโด้ ซึ่งเป็นกิจกรรมเอาท์ดอร์ที่สองพ่อลูกตระกูลโคลแมนร่วมทำเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ แน่นอนว่าคิกซ์จับสติทช์มาเป็นคู่ซ้อมของมาวินด้วย มิตรภาพลูกผู้ชายมักเกิดขึ้นเพราะสิ่งเหล่านี้
ส่วนลีโล่กับมาเรียก็มีตุ๊กตาทำมือเหมือนกัน ลีโล่มี สครัมป์ (Scrump) และมาเรียมีเจ้าเหมียว พาซิด (Pasid) เป็นเพื่อนกอดคลายเหงา เด็กผู้หญิงตัวน้อยทั้งสองคนได้แชร์เครื่องดนตรีที่โปรดปรานให้ต่างฝ่ายได้รับรู้ ลีโล่มีกีต้าร์ไว้ร้องเพลงของราชาร็อกแอนด์โรลอย่างเอลวิส ส่วนมาเรียมีเปียโนไว้เล่นเพลงโปรดของแองเจิ้ล และเพลงอื่น ๆ ที่เธอร่ำเรียนและฝึกปรือมา แน่นอนว่ามาเรียเอาเรื่องความซนของแองเจิ้ลมาเล่าให้ลีโล่ฟัง ซึ่งเป็นความซนที่คิดขึ้นมาอย่างมีระบบระเบียบอย่างแปลกประหลาด
ความซนที่ว่านี้ คือ... "การเขียนเพลง"
ทำไมแองเจิ้ลถึงนึกสนุกอยากเขียนเพลงนะเหรอ!?
"ฉันเองก็ตอบไม่ได้หรอก... ว่าแองเจิ้ลตั้งใจจะสื่อความในใจผ่านทางเพลงได้ยังไง เพราะเพลงแต่ละเพลงกว่าจะถูกเขียนออกมาเป็นที่รู้จักได้ มันก็ใช้เวลานานเอาเรื่อง ไม่เป็นเดือนก็เป็นปี... กว่าเพลงจะถูกบรรเลงออกมาอย่างไพเราะดึงดูดใจผู้ฟังได้" มาเรียตอบคำถามลีโล่ในขณะที่สามสาวกำลังดูสองพ่อลูกโคลแมน สติทช์ และคิกซ์ฝึกซ้อมเคนโด้เบื้องต้นอยู่ในโรงยิมริมหาด
"อย่างคำว่า... เทียนทิวา แองเจิ้ลอยากให้เป็นส่วนหนึ่งของบทเพลงรึเปล่า" วิคตอเรียถาม
"ก็อยากนะ ฉันแปลคำว่า ทิวา แล้ว บอกว่าเป็นตอนกลางวัน มันทำให้ฉันคิดท่อนเพลงขึ้นมาลอย ๆ ถ้านึกถึงแองเจิ้ลที่มีเราเป็นโอฮาน่าและเล่าที่มาของเธอให้ฟัง" มาเรียตอบ
"Bootifa! เนื้อเพลงว่ายังไงบ้างอ่ะ!? เผลอ ๆ พวกสติทช์อาจช่วยคิดได้นะ" สนูทตี้เสนอตัวขอเก็บข้อมูลเนื้อเพลงที่แองเจิ้ลเขียนขึ้น มาเรียจึงควักมือถือเปิดเสียง ๆ หนึ่งให้เพื่อน ๆ ได้รับฟัง
เป็นเสียงเปียโนที่แบ่งออกเป็น 3 ช่วงในประโยคเดียวกัน คาดว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งในท่อนฮุค
"ดั่งแสงเทียน... ที่ส่องเข้ามา... ในคืนที่ใจหมองหม่น" มาเรียคลอตามเสียงโน้ตที่ถูกบรรเลงออกมา
"เข้าใจคิดนะเนี่ย!" ลีโล่นึกชื่นชมให้กับความคิดสร้างสรรค์ของแองเจิ้ล "แต่มันก็ใช้เวลานานจริงนี่แหละ กว่าจะเป็นบทเพลงที่มีความหมายตรงกับคีย์เวิร์ดของแองเจิ้ลอย่างลงตัว ฉันคิดว่า... เทียนทิวาที่แองเจิ้ลพยายามจะสื่อ มีความหมายเป็นวงกว้างนะ ถ้าจะหาอินสไปเรชั่นก็หนีไม่พ้นพี่น้องของเธอ เผื่อว่าพวกเขาจะแชร์ประสบการณ์ดี ๆ ให้เธอ มาเรียจำอ้อมกอดของสไปค์ได้มั้ยล่ะ"
พูดถึงสไปค์ มาเรียจำได้ดี... ว่าอ้อมกอดของสไปค์อบอุ่นแค่ไหน ภาพสไปค์สวมเกราะกันไม่ให้ขนแหลมทิ่มแทงคน ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเจ้าเม่นร่างใหญ่เป็นพี่ใหญ่ของเธอจริง ๆ ทำให้มาเรียอดยิ้มไม่ได้ที่นึกถึงวันที่เธอกับแองเจิ้ลถูกโอบกอดอย่างพร้อมเพรียงกัน
"แสดงว่าจำได้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี... ที่เราในฐานะมนุษย์และสัตว์ทดลองจะเรียนรู้วิธีการสร้างสัมพันธมิตรซึ่งกันและกัน หวังว่าแสงเทียนในความมืดจะเป็นบทเพลงบอกเล่าเรื่องราวได้ดีเท่าเพลง Reflection ของเธอนะ" วิคตอเรียพูด
"ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น เผื่อว่าสักวัน... ฉันจะเอาบทเพลงนี้ไปกรอกหูไอ้โจรหน้าปลาวาฬนั่นให้ได้!" มาเรียพูดถึงแกนตูด้วยความคั่งแค้น เธอจำได้ดีว่าในวันที่ครอบครัวมาเรียกำลังจะย้ายบ้าน แกนตูบุกมาชิงตัวแองเจิ้ล ทำร้ายมาวินจนแขนหักรวมทั้งขู่ฆ่าเธอเพื่อบีบให้แองเจิ้ลยอมไปกับแกนตู ยิ่งรู้จากลีโล่ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือแฮมสเตอร์วิลล์ เธอก็ยิ่งแค้น... ที่หนูเจอร์บิลวายร้ายเป็นพวกชุบมือเปิบหวังฮุบผลงานเป็นของตนเอง ไม่สนว่าตัวตนลึก ๆ ของเหล่าสัตว์ทดลองเป็นอย่างไร
ลีโล่กับมาเรียจะรู้ตัวหรือไม่!?
ภยันตรายครั้งใหม่กำลังจะมาเยือนในอีกมิช้า!
------------------------------------------------------------------------
ณ สนามบินคาไว
ถึงสนามบินแห่งนี้จะดูเล็ก แต่บรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวฮาวาย อเมริกัน และชาวต่างชาติก็พากันเดินขวักไขว่ไม่ขาดสาย แม้ว่าช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่นก็ตาม
หนึ่งในนักท่องเที่ยวเป็นชายหนุ่มผิวขาวร่างสูง อายุราว ๆ สามสิบกลาง ๆ ไว้ผมหยักศก สวมชุดสูทสีดำ บ่งบอกให้รู้ว่าเขาคือ "นักธุรกิจ" ที่มาเที่ยวตามลำพังเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง
ทันทีที่นักธุรกิจก้าวเท้าออกจากประตูสนามบิน ประตูรถลีมูซีนคันสีดำที่จอดรอรับก็ถูกเปิด
"คุณ แอนดรูว์ ไบรเซอร์ ใช่มั้ยครับ" ชายชุดดำผู้เป็นคนขับรถเป็นคนถาม นักธุรกิจที่ชื่อแอนดรูว์พยักหน้าตอบรับด้วยสีหน้าขึงขังประหนึ่งคนไร้ความรู้สึกแล้วก้าวเท้าเข้าไปในรถ
หลังจากที่แอนดรูว์ขึ้นรถแล้วนั้น... รถลีมูซีนก็ถูกขับออกจากสนามบินไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ ๆ เขาตั้งใจทำงานใหญ่ที่ได้รับมอบหมาย
เมื่อแอนดรูว์ได้ยินเสียงริงโทนดังเข้าสมาร์ทโฟน จึงควักออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดรับสายอย่างรู้งาน
"ครับท่าน" แอนดรูว์รายงานการเดินทางให้เจ้าของปลายสายรับทราบ "ตอนนี้ผมกำลังเดินทางไปโฮมสเตย์ตามที่ ๆ ระบุไว้ครับ" จากนั้นก็ทำการสแตนด์บายภารกิจ "เริ่มวันพรุ่งนี้ครับ"
การสแตนด์บายภารกิจลับจบลงเพียงเท่านี้ เหลือแค่รอเวลามาถึงโดยเร็วในอีกมิช้า
วันรุ่งขึ้น ณ กีโม่อาเขตเกมเซ็นเตอร์
เป็นเรื่องปกติที่เด็ก ๆ พากันมาหาความสุขจากสิ่งที่น่าตื่นเต้นและเสริมจินตนาการจากเกมทุกประเภท แม้บัดนี้ใกล้ถึงเวลาเปิดเทอมของเด็ก ๆ แล้วก็ตาม
ที่แห่งนี้... กลายเป็นบ้านของ เรมมี่ 276 สัตว์ทดลองตัวสีฟ้าอ่อนหัวโต มีลักษณะเหมือนผีจากเกมแพ็คแมน สามารถบินเข้าไปในหูเหยื่อและสร้างฝันร้ายได้ ปัจจุบันถูกปรับโปรแกรมให้เป็นส่วนหนึ่งในเกมเวอร์ชวลเรียลลิตี้ (Virtual Reality) เพื่อพาผู้เล่นเข้าสู่โลกจินตนาการในเกม
ซึ่งทุกอย่างก็เป็นปกติ
จนกระทั่ง... เกมใหม่ที่ถูกตั้งจะกลายเป็นที่นิยมของลูกค้าจำพวกเด็กและวัยรุ่นสมัยนี้ไปเสียแล้ว
The Virtual Celeb Power เป็นเกมแนวเวอร์ชวลมิวสิคัลที่จะพาผู้เล่นเข้าสู่โลกแห่งเสียงดนตรี เกมที่ได้รับความนิยมทั่วอเมริกา ผู้เล่นสามารถเลือกเพลงที่ชอบแล้วทำการแสดงให้ผู้ชมได้ทึ่งกันถ้วนหน้า ซึ่งจะมีอุปกรณ์สื่อกลางระหว่างผู้เล่นกับเครื่องเล่น มีรูปลักษณ์เหมือนเครื่องดนตรี ได้แก่... ขาตั้งไมโครโฟน เปียโนไฟฟ้าขนาดเล็ก และเฮดเกียร์สำหรับผู้เล่นเลือกเพลงแด๊นซ์ สามารถโชว์เดี่ยวหรือคู่ก็ได้ โชว์ของผู้เล่นคนไหนขึ้นสู่ท็อปเท็น (Top 10) โชว์นั้นก็จะเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางให้สมกับเป็น "เซเล็บพาวเวอร์" ตามชื่อเกมที่ถูกตั้งไว้เพื่อผู้เล่นโดยเฉพาะ
แน่นอนว่าเกมดี ๆ ที่ได้รับความนิยมแบบนี้ มีรึ... ที่พวกลีโล่จะเมินเฉย
"นึกไม่ถึงเลย... ว่าเกมดัง ๆ จะเผื่อแผ่มาให้ทุกคนลองของถึงที่นี่!" ลีโล่พูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
"ของมันดังทั้งที ถ้าไม่พูดถึงก็เอาท์แล้ว ต้องลองกันสักตั้ง!" มาวินเห็นตู้เกมเซเล็บพาวเวอร์แล้วถึงกับคันไม้คันมืออยากลอง
"ฉันพนันได้เลยว่าสติทช์ต้องชอบแน่ ๆ นักสู้สายลองของจะพลาดเกมสุดล้ำแบบนี้ได้ไง จริงมั้ยมาเรีย!?" วิคตอเรียเอาศอกกระทุ้งเอวมาเรีย
"มันก็ต้องแน่อยู่แล้ว แองเจิ้ลไม่ได้มีดีแค่นักสู้สายหวานนะ สายสตรองก็มี ถ้าไม่เชื่อ... คอยดูแล้วกัน" มาเรียเห็นด้วย เธอมีคู่หูเป็นเอเลี่ยนสาวหนึ่งในยอดนักสู้ แองเจิ้ลต้องปล่อยของอยู่แล้ว ในฐานะที่เธอเป็นหนึ่งในสัตว์ทดลองสายคอมแบ็ตผู้รักษาความสตรองให้ตัวเองตลอดเวลา
"คงต้องต่อคิวยาวหน่อยนะ กว่าจะถึงคิวเรา" ลีโล่พูดพลางมองคนที่กำลังต่อแถวรอเล่นเกมเซเล็บพาวเวอร์ ซึ่งแน่นอนว่าผู้เล่นส่วนมากจะเป็นเด็กผู้ชายที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นอยากสร้างความประทับใจให้สาว ๆ
เป็นภาพที่สติทช์เห็นแล้วถึงกับขุ่นเคืองเป็นอย่างยิ่ง
"Pujaras, Naga bootifa." สติทช์บ่นออกมาในทันทีที่เห็นผู้ชายสมัยนี้... จีบสาวด้วยเทรนด์เกมเซเล็บพาวเวอร์ คิดว่าเกมนี้จะสร้างความประทับใจให้สาว ๆ ได้ มองปราดเดียว... รู้ในทันทีว่าผู้ชายพวกนี้มีดีแค่อวดตามเทรนด์เท่านั้นล่ะนะ
"Ih." แองเจิ้ลเห็นด้วย "หนุ่ม ๆ พวกนี้ทำทุกวิถีทางเพื่อขึ้นบัญชีท็อปเท็นให้สาว ๆ ภูมิใจ ทั้งที่ไม่มีความเป็นตัวตนแม้แต่น้อย สาว ๆ ก็เหมือนกัน ดู ๆ ไปแล้ว... มีแต่เจ๋งตามกระแสทั้งนั้น"
"ช่าย... ลีโล่กับมาวินมีดีมากกว่าตั้งหลายร้อยพันเท่า เอาเข้าจริง... แค่ลีโล่ระบำฮูล่าก็เจ๋งแล้ว!" สติทช์พูดถึงลีโล่ด้วยความภาคภูมิใจ จำได้ดีว่าการระบำฮูล่าเป็นศิลปะการเต้นที่ลีโล่โปรดปรานเป็นอย่างยิ่ง และเขาชอบมากที่เห็นลีโล่เต้น... ไม่ว่าจะในคลาสหรืองานประกวด
เพราะการระบำฮูล่าเป็นเสน่ห์ที่ทำให้สติทช์ตกหลุมรักลีโล่จนถึงทุกวันนี้
"พี่พูดถูก ลีโล่สวยธรรมชาติแบบฮาวายเอี้ยนแท้ ไม่ต้องปรุงแต่งหรือประทินโฉมให้เป็นเจ้าหญิงจ๋า เหมือนที่มาเรียก็ถือคติของคุณแม่... ไม่หญิงจ๋า ถ้าให้ฉันเอาลีโล่กับมาเรียเทียบกับดอกไม้... ทั้งคู่ก็เป็นดอกไม้ที่ผลิบานได้ยาก แต่พอมันบาน... มันจะงดงามกว่าดอกไม้ทั้งมวล" แองเจิ้ลกล่าวถึงผู้หญิงกับดอกไม้ในเชิงเปรียบเทียบ เธอเชื่อเสมอ... ว่าลีโล่กับมาเรียเป็นผู้หญิงที่แปลกในสายตาคนรอบข้าง แต่ความแปลกก็มีเสน่ห์ที่งดงามซุกซ่อนอยู่ เพียงแค่รอเวลาที่ตัวตนของพวกเธอจะถูกเผื่อแผ่สู่สาธารณชนเข้าสักวัน
สติทช์ฟังแล้วรู้สึกดีขึ้น แองเจิ้ลพูดจนสติทช์เห็นภาพลาง ๆ ว่าถึงลีโล่จะมีเสน่ห์หรือไม่ ตัวตนของเธอจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
แต่ใบหูเจ้ากรรมดันได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังเม้าท์มอยกัน
"เธอแน่ใจแล้วเหรอ... ว่าไอ้เกมเวอร์ชวลเซเล็บพาวเวอร์จะทำให้ฉันมีเพื่อนเพิ่มและเจ๋งกว่านังคนเพี้ยน!?" น้ำเสียงแหลมคุ้นหูดังขึ้น สติทช์รู้ในทันที... ว่าเป็น เมอร์เทิล เอ็ดมันด์ ยัยแว่นสมองทึบ คู่อริปากร้ายของลีโล่ที่ชอบเอาชนะไปเสียทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องไร้สาระก็ตาม
"แน่เสียยิ่งกว่าแน่อีก เกมนี้ฮิตจะตาย ว่ากันว่า... โชว์ของใครขึ้นเป็นท็อปเท็นของเกม โชว์นั้นจะถูกพูดถึงอย่างล้นหลามเลยทีเดียวเชียว!" ยูกิ หนึ่งในก๊วนประสานเสียงคำว่า "ใช่" เป็นคนยืนยัน
"คงจะพูดถึงกันเฉพาะในอเมริกามากกว่า บนเกาะนี้จะมีใครกันที่แด๊นซ์เจ๋งพอจะขึ้นท็อปเท็นของเกมได้" เอเลน่า พูดออกมาด้วยความไม่มั่นใจ รู้สึกว่าเกมนี้จะเหมาะสำหรับแดนเซอร์มืออาชีพมากกว่า
"มันก็ต้องมีสักคนล่ะน่า ถ้าโชว์ฉันได้เป็นหนึ่งในท็อปเท็นของเกม ฉันอาจจะได้แดนเซอร์หรือไม่ก็คอเพลงเจ๋ง ๆ มาเป็นเพื่อนตบหน้าพวกนังคนเพี้ยนและหมาประหลาดนั่นสักที" เมอร์เทิลพูดออกมาด้วยความลำพองใจ ทำเอาสติทช์กับแองเจิ้ลฟังแล้วรู้สึกเคืองหูพิลึก... ยัยแว่นเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหนกัน
"พวกนั้นอยู่นู่นไง!" เทเรซ่า ชี้นิ้วมาทางสติทช์ สุนัขจำแลงจากต่างดาวทั้งสองหนุ่มสาวถึงกับถอนหายใจอย่างพร้อมเพรียงกัน
ไม่แคล้วต้องเปิดศึกน้ำลายอีกเช่นเคย
"อะโลฮ่าจ้ะ... นังสมาคมคนเพี้ยน" เมอร์เทิลทักทายพวกลีโล่ด้วยสมญานามที่นางคิดขึ้น
"อะโลฮ่าจ้ะเมอร์เทิล" ลีโล่ทักทายด้วยน้ำเสียงปกติ
"ไม่นึกไม่ฝันเลย... ว่าพวกหล่อนจะมาลองของที่นี่" เมอร์เทิลพูดถึงเกมที่พวกลีโล่กำลังจะลงเล่น
"เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เกมใหม่จะกวักมือเชื้อเชิญเรามาเล่น อย่างมากก็แค่... หอมปากหอมคออ่ะนะ" มาเรียตอบรับ
"หอมปากหอมคอ!? อย่าถ่อมตนไปหน่อยเลย ฉันรู้นะ... ว่าพวกหล่อนอยากเป็นคนสำคัญจากเกม" เมอร์เทิลเปิดฉากกระแนะกระแหนพวกลีโล่ สติทช์ส่ายหน้าเบา ๆ ด้วยความระอาเต็มทีกับความคิดอคติของนางผู้ไม่เคยคิดจะเป็นเพื่อนกับลีโล่
"คนสำคัญอะไรมิทราบ" วิคตอเรียไม่สบอารมณ์นักกับคำพูดของอีกฝ่าย
"โธ่... จะบอกอะไรให้ นังโลเลคนเพี้ยนเป็นคนประหลาดเพียงหนึ่งเดียวบนเกาะนี้ ไม่ใช่สิ... หนึ่งเดียวบนโลกมากกว่า ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่านังโลเลใช้วิชามารอะไร หล่อนถึงได้หลวมตัวเป็นเพื่อนคนเดียวไม่พอ ยังลากสองพี่น้องคู่แฝดไปเป็นเพื่อนไปทำอะไรพิลึก ๆ ด้วยกันอีก" เมอร์เทิลเย้ยหยัน
"ช่ายยยย!!" สามสาวลูกไล่ผสมโรงเอออออีกเช่นเคย
"ลีโล่ไม่ได้เป็นนางมารอะไรหรอก อย่างที่ฉันบอกพวกเธอไปสัก... ทุกวีคจนแทบหมดซัมเมอร์แล้วว่าได้ ฉันกับมาเรียยินดีเป็นเพื่อนกับลีโล่ เพราะลีโล่เป็นคนใจกว้างใจดี ไม่เหมือนพวกเธอ... ใจแคบ เอาบรรทัดฐานตัวเองมาตัดสินว่าเป็นคนปกติแล้วมองทุกคนเป็นตัวประหลาดไปหมด ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าความคิดพวกเธอ... ยังปกติอยู่รึเปล่า" มาวินตอกกลับจนสี่สาวช่างติเป็นฝ่ายหงายเงิบไป
"นี่... นายด่าฉันว่าเป็นพวกสมองเพี้ยนเหรอ!?" เมอร์เทิลพยายามสรรหาคำต่าง ๆ มาตอบโต้มาวิน ถึงมาวินจะหล่อเหลาถูกสเป็คเธอมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้ามาวินเลือกที่จะเป็นเพื่อนกับลีโล่ เธอคงต้องเซย์กู๊ดบาย
"ก็แล้วแต่เธอจะพิจารณานะ เพราะคนหรือสัตว์ล้วนเป็นสัตว์สังคม เธอจะมองคนที่ไม่เหมือนตัวเองด้วยสายตาอคติไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกนะ ไม่อย่างนั้น... เพื่อนเธอที่เออออกับความคิดร้าย ๆ จะหมดความอดทนเข้าสักวัน เธอจะเป็นคนเสียใจเองเข้าสักวัน" มาวินทิ้งคำพูดให้ยัยแว่นกลับไปทบทวนตัวเองสักครั้ง แต่ดูเหมือนเมอร์เทิลจะไม่นำพา
นางจึงทำได้แค่... กัดฟันกรอดแล้วเดินกระแทกเท้าออกจากเกมเซ็นเตอร์ไปในทันที เพื่อนลูกไล่วิ่งตามไปด้วยความเป็นห่วง สติทช์กับแองเจิ้ลมองตามแล้วแอบขำด้วยความสะใจที่ยัยแว่นสมองทึบล่าถอยไปอย่างไร้คำพูดใด ๆ
สัตว์ทดลองทั้งสองหนุ่มสาวจึงหันไปโฟกัสกับการเล่นเกมของพวกลีโล่ต่อ
เมื่อผู้เล่นคนล่าสุดทำการแสดงจนจบเพลงและก้าวเท้าลงจากเวทีเซเล็บพาวเวอร์ ถึงคิวของพวกลีโล่ที่จะต้องโชว์พาวเวอร์สักตั้ง
มาเรียเป็นคนแรกที่พร้อมจะโชว์ศักยภาพทางด้านการเคลื่อนไหวทางร่างกายตามจังหวะดนตรี หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ... การแด๊นซ์ เธอกับแองเจิ้ลมีบทเพลงในใจที่พร้อมงัดออกมาโชว์เต็มที่
เพราะพื้นที่ที่เป็นเวทีจำลองของเกมมีความกว้างขวาง สามารถวาดลวดลายการโชว์ได้สูงสุดเพียงโชว์ละ 3 คน มาเรียกับแองเจิ้ลจึงเป็นคู่หูคู่แรกที่พร้อมสร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีให้มวลมนุษย์ได้ประทับใจกันถ้วนหน้า
เพลง Cinderella จึงเป็นอีกเพลงที่ฉีกแนวไปจากเจ้าหญิงโดยสิ้นเชิง
เพียงแค่สองสาวสวมเฮดเกียร์ที่มีลักษณะเหมือนเฮดโฟนและเริ่มเพลง สองสาวก็เข้าสู่โหมดแดนเซอร์ตัวน้อยที่พร้อมวาดลวดลายในทันท่วงที แววตาของทั้งคู่ดูดุร้อนแรงดั่งอารมณ์บทเพลงที่มั่นใจว่าเข้ากับพวกเธอมากที่สุด
ชื่อเพลง... ซินเดอเรลล่า ก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเธอเป็นเจ้าหญิงในนิทานที่แม่เล่าให้เด็กน้อยฟัง เด็กก็จะนอนฝันว่าจะมีเจ้าชายขี่ม้าขาวช่วยชีวิตเจ้าหญิงจากอันตรายแล้วอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขดั่งในนิทาน แต่พอตื่นขึ้นมาพบความจริงว่าโลกแห่งความจริงกับโลกนิทานนั้นมันต่างกัน แกนหลักของบทเพลง คือ... ผู้หญิงยุคนี้ไม่ใช่เจ้าหญิงที่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากเจ้าชายเสมอไป เพราะผู้หญิงกับผู้ชายมีความเท่าเทียมกัน ซึ่งตีความนิยามความรักจากบทเพลงนี้ได้... ว่าผู้หญิงไม่ต้องการให้ผู้ชายมาประคบประหงมดูแล
ผู้หญิง... ต้องการสร้างความเข้มแข็งเพื่อเขาที่รักเธอ และดูแลเธออย่างเท่าเทียมกัน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ... ผู้ชายกับผู้หญิงมีความเสมอภาคกัน บทเพลงนี้ถึงได้ฉีกแนวจากเจ้าหญิงดั่งท่อนฮุคเพลงนี้
I don't wanna be like Cinderella sittin' in a dark old dusty cellar.
Waiting for somebody, to come and set me free.
I don't wanna be like Snow White waiting for a handsome prince to come and save me.
On a horse of white, unless we're riding side by side.
Don't want to depend on no-one else.
I'd rather rescue myself.
ถึงมาเรียเป็นเด็กผู้หญิงที่ทำตัวเองให้สตรองจากการแด๊นซ์ แต่สัตว์ทดลองสาวสายคอมแบ็ตอย่างแองเจิ้ลมีหน่วยก้านดี... การเต้นของเธอจึงแสดงความคล่องแคล่วและพลิ้วไหลอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าเธอผ่านการฝึกฝนมาจากเทรนเนอร์มืออาชีพยังไงยังงั้น
แต่การเต้นที่เข้าคู่กันระหว่าง "นักเต้นมืออาชีพ" กับ "นักเต้นฝึกหัด" ก็ทำให้โชว์ดูน่าสนใจมากขึ้น ทำให้ผู้ชมเชื่อ... ว่าทั้งคู่ไม่ใช่เจ้าหญิงที่ต้องการให้ใครมาดูแลเพียงฝ่ายเดียวจริง เพราะผู้หญิงย่อมมีวันเติบโตเพื่อเป็นหลักกำลังสำคัญที่จะอยู่เคียงข้างผู้ชายได้ และผู้หญิงก็หวังว่าผู้ชายจะเข้าใจความสุขของเธอที่เป็นเธออย่างแท้จริง
เมื่อบทเพลงจบ... การเต้นของสองสาวจึงสิ้นสุดลงด้วยท่วงท่าหยุดอย่างสวยงาม ราวกับว่าเกมนี้พาทั้งคู่เข้าไปในมิวสิควิดีโอของบทเพลง ซึ่งมีเฮด-เกียร์เป็นสื่อกลางให้คนกับเกมเชื่อมสัมพันธ์กัน หน้าจอของเกมจึงประเมินผลการโชว์
กลายเป็นว่า... เพลงซินเดอเรลล่าของพวกเธอทะยานขึ้นสู่ หนึ่งในท็อปเท็น และอันดับของพวกเธอขึ้นสู่ ลำดับที่ 5
ผู้ชมพากันปรบมือให้กับการแสดงของพวกเธอ มาเรียกับแองเจิ้ลจึงโค้งตัวน้อมรับคำติชมจากพวกเขาก่อนจะก้าวเท้าลงจากเวทีอย่างสง่างาม
มาวินเป็นผู้เล่นคนต่อไปที่จะโชว์ศักยภาพทางด้านการต่อสู้ตามจังหวะดนตรี หรือว่ากันง่าย ๆ คือ... การแด๊นซ์ที่มีวิชาศิลปะป้องกันตัวผสมผสานควบคู่กัน
ถ้ามาวินเป็นแม่ทัพชาง สติทช์ก็คงเป็นมู่หลานตอนปลอมตัวเป็นทหารออกรบแทนพ่อผู้แก่เฒ่า
แต่สติทช์เป็นผู้ชาย ไม่มีความจำเป็นต้องปลอมตัว มาวินกับสติทช์จึงเปรียบเสมือนพี่น้องร่วมสาบานท่ามกลางสมรภูมิก็ว่าได้
เพลง I'll Make a Man Out of You จึงเป็นบทเพลงที่มาวินเลือกเพื่อท้าสติทช์โดยเฉพาะ
แค่สวมเฮดเกียร์ สองหนุ่มจึงตั้งการ์ดในทันที... ประหนึ่งว่าทั้งคู่พร้อมประลองฝีมือการต่อสู้ในค่ายมวย ทำเอาลีโล่อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะรู้นิสัยเพื่อนรักตัวสีฟ้าดีว่าเขาเอาจริงแค่ไหน หากลงสนามต่อสู้กับใครสักคน
บทเพลงเริ่มต้นเปรียบเสมือนสัญญาณระฆังออกคำสั่งให้ชกได้
ดูเหมือนว่า... เซเล็บพาวเวอร์จะนำบทเพลงแมน ๆ แบบนี้มาให้มาวินกับสติทช์บิ๊วท์และอินกับอารมณ์นักสู้มากเกินไปรึเปล่า มาวินขั้วสอง ถึงได้สำแดงเดชออกมาจนแองเจิ้ลอดห่วงสติทช์ไม่ได้ สังเกตได้จากแววตาที่มาวินจ้องมองสติทช์ตอนอยู่บนเวที ดูเป็นไฟท์เตอร์ที่เล่นเอาภาพเด็กผู้ชายแสนละมุนเฮฮาถูกลบไปในพริบตา
เพลงนี้มีความฮึกเหิมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นเพลงประกอบฉากแม่ทัพชางฝึกทหารทุกคนในสังกัด... รวมถึงมู่หลานที่ปลอมตัวเป็นชายให้เตรียมพร้อมอย่างสม่ำเสมอเพื่อสู้รบกับทหารชาวฮั่นเพื่อปกป้องประเทศชาติ มันช่างเข้ากันกับคาแรกเตอร์ของแม่ทัพชางกับมู่หลานเป็นอย่างยิ่ง แม่ทัพชางเป็นทหารผู้มีความจริงจังกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ ส่วนมู่หลานที่ขโมยชุดเกราะของพ่อไปออกรบ... ต้องปรับตัวเข้ากับเพื่อนทหารให้ได้
พูดง่าย ๆ ก็คือ... มาวินเข้าสู่โหมดต่อสู้ทีไร ความละมุนหายไป ความจริงจังจนดูแล้งน้ำใจก็มาแทนที่ จะแสดงให้พวกลีโล่เห็นได้จากวิชามวยเบื้องต้นที่มาวินฝึกปรือเรียนรู้มาจากพ่อ มาวินกับสติทช์แลกหมัดกันตั้งแต่เริ่มชก... กลายเป็นว่ามาวินได้เปรียบ ตีเข่าซัดเข้าที่ท้องของคู่ต่อสู้ตัวสีฟ้าจนจุก สติทช์ตั้งท่าจะซัดหมัดเข้าที่ใบหน้า แต่ถูกมาวินต่อยเข้าที่ใบหน้าถึง 2 หมัดจนมึน สติทช์คาดไม่ถึง... ว่ามาวินจะเป็นนักมวยตัวน้อยที่สู้กับเขาสูสีถึงขนาดนี้
สติทช์ถูกซัดจนแทบหมอบลงกับพื้น ยิ่งมีท่อนเพลงที่แม่ทัพชางเอ่ยปากไล่มู่หลานควบม้ากลับบ้าน... คิดว่ามู่หลาน (ฮัวผิง) ไม่คู่ควรที่จะเป็นทหารศึกคอยแทงใจ
"ลุกขึ้นมาสิสติทช์! งัดศักยภาพความแมนออกมาให้เต็มที่! ให้สาสมกับเป็นยอดนักสู้หมายเลข 626 หน่อย!" มาวินท้าทาย คำท้าบวกกับเนื้อเพลงที่ประเดประดังเข้าหูสติทช์ ทำให้สัตว์ทดลองตัวสีฟ้าลุกขึ้นมาตั้งการ์ด... หรี่ตามองหน้ามาวินราวกับว่าเขาคือคู่ต่อสู้ที่ต้องถูกอัดกระเด็นตกเวทีให้จงได้
"โอ๊ะโอ๋... ท่าจะไม่ดีซะแล้วสิ" ลีโล่เห็นสีหน้าของสติทช์แล้วรู้สึกได้... ว่าอาจจบไม่สวย จึงตะโกนเตือนเพื่อนชายหน้าใหม่ "พี่วิน! อย่าไปลองของให้มาก ถ้าไม่อยากเจ็บตัวในภายหลัง!"
แต่ดูเหมือนว่าคำพูดของลีโล่จะไม่นำพาเสียแล้ว ตราบใดที่สติทช์ยืนอยู่บนสนามรบจำลองแบบนี้
เจ้าหมาสีฟ้าจอมพลังลืมบทเพลง แจกหมัดรัว ๆ ใส่มาวินจนอีกฝ่ายได้แต่ตั้งการ์ดป้องกัน แต่แรงหมัดของสติทช์เหนือกว่ามนุษย์ แขนทั้งสองข้างของมาวินจึงเริ่มชาจนแทบจะตั้งการ์ดไม่ได้
"เฮ้ย... สติทช์! ใจเย็น ๆ สิวะ! เรามาโชว์ความเป็นแมนนะเว้ย... ไม่ใช่สนามมวย!" มาวินพยายามเรียกสติคู่ต่อสู้ แต่ตอนจบเพลง... สติทช์ปิดเกมด้วยการต่อยหน้ามาวินหนึ่งหมัดเต็ม ๆ
ผัวะ!
ร่างมาวินล้มลงน็อคเอาท์คาเวที สี่สาวจึงรีบวิ่งขึ้นไปประคองร่างมาวินด้วยความเป็นห่วง สติทช์ได้สติ... เห็นรอยช้ำบนใบหน้ามาวินแล้วใจเสียขึ้นมาฉับพลัน
"พี่วิน! นี่ฉันออกแรงมากไปสินะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ... ฉันขอโทษ!" สติทช์พุ่งปรี่เข้าไปขอโทษอดีตคู่ต่อสู้ในเกมเซเล็บพาวเวอร์ที่จัดเต็มเกินพิกัด ยิ่งเห็นเลือดไหลออกมาจากมุมปาก เขายิ่งใจเสียมากขึ้น... กลัวว่าฟันมาวินจะร่วงหมดปากเพราะแรงหมัดเมื่อครู่เป็นอันแน่แท้
"แหะ ๆ ๆ ไม่เป็นไรหรอกน้องชาย" มาวินลูบหัวสติทช์เบา ๆ เป็นเชิงปลอบให้ใจเย็นลง "แมน ๆ กำลังดีแบบนี้ พี่ชอบ"
"ยังมีหน้ามายิ้มอีกนะพี่นี่" มาเรียตีแขนพี่ชายฝาแฝดเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ที่เขายังฉีกยิ้มได้ทั้งที่โดนเมื่อต่อยแท้ ๆ
"ฉันก็บอกแล้วว่าอย่าลองของก็ไม่เชื่อ" ลีโล่ถอนหายใจ หันไปมองสติทช์ด้วยความเป็นห่วงแล้วลูบหลังเขาเบา ๆ "ไม่ต้องห่วงหรอกสติทช์ ถือเสียว่าเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่อยากให้พี่ปลดปล่อยตัวตนนักสู้ที่เป็นพี่ออกมา เหลือแค่การยั้งมือเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เท่านั้น"
สติทช์ฟังแล้วรู้สึกดีขึ้น แถมฟินทุกครั้งที่ถูกลูบหลัง อย่างน้อย... มาวินก็ไม่ได้ถือสาอะไร เด็กหนุ่มเพื่อนใหม่เห็นว่าสติทช์ปลดปล่อยความแมนในตัวออกมาได้ดีสมกับเป็นจอมพลังหมายเลข 626 อย่างที่จัมบ้าชื่นชมไม่มีผิด
แองเจิ้ลเห่าโฮ่งส่งสัญญาณให้มาวินกับสติทช์หันไปดูหน้าจอ พบว่าเกมกำลังประเมินผลการโชว์
โชว์แมนของทั้งคู่ทะยานขึ้นสู่ท็อปเท็น ความตื่นเต้นเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจนมาเรียกับแองเจิ้ลพลอยลุ้นไปด้วย
สุดท้าย... คะแนนโชว์ของมาวินกับสติทช์ก็สร้างความอึ้งตะลึงให้ผู้ชมอย่างคาดไม่ถึง
อันดับหนึ่ง!
"โอ้โห! แมนจนได้ดีนะเนี่ย!" วิคตอเรียออกปากชมสองหนุ่มผู้เป็นเพื่อนซี้ต่างสายพันธุ์ จึงหันไปชวนลีโล่ "ไม่ลองสักเพลงหน่อยเหรอลีโล่!?"
"อืม... ไม่ดีกว่า" ลีโล่ปฏิเสธ
"อ้าว! ทำไมล่ะ!?" มาเรียถาม
"คิดดูอีกที ฉันคงไม่ถูกโฉลกกับเพลงพวกนี้สักเท่าไหร่" ลีโล่ให้เหตุผลก่อนที่จะก้าวเท้ากลับไปเล่นเกมของเรมมี่ในทันที สติทช์เห็นด้วย... รู้ว่าลีโล่ไม่บ้าจี้เล่นเกมใหม่เพราะเห็นว่าฮิตกัน และลีโล่ไม่ถนัดแดนซ์แบบโมเดิร์น
มันคงพิลึกน่าดู ถ้าลีโล่สวมเฮดเกียร์โชว์ระบำฮูล่า
ระบำฮูล่าแบบดั้งเดิมเป็นการเต้นที่น่าภูมิใจที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่มาเรียกับแองเจิ้ลกำลังเรียนรู้
เรียนรู้เพื่อเป็นประสบการณ์ใหม่ในการใช้ชีวิตบนเกาะแสนสงบสุข
โดยมิรู้ตัวว่าภยันตรายกำลังจะมาเยือนในอีกมิช้า!
------------------------------------------------------------------------
ภายในโฮมสเตย์ของแอนดรูว์
ผู้เช่าสุดไฮโซกำลังนอนแช่น้ำอุ่นพร้อมฟังเพลงคลาสสิคจากสมาร์ทโฟนด้วยอารมณ์เบิกบานใจจนถึงที่สุด เพียงแค่วันเดียวที่เดินทางมาเกาะนี้ เขาพบสิ่งประหลาดมากมายอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิต
ไม่ว่าจะเป็น... เจ้าตุ๊กตาน้ำแข็งพ่นละอองเย็นทำน้ำแข็งไสขายนักท่องเที่ยว เจ้าสัตว์ประหลาดตัวกลมก้นใหญ่ทำคลื่นให้บรรดานักเซิร์ฟได้โต้คลื่นกันอย่างสนุกสนาน เจ้าแองคลีโอซอรัสทำมิลค์เชคขายลูกค้า เจ้านักกล้ามสี่แขนเป็นครูสอนมวย เจ้าตุ๊กตาขนสีเหลืองผู้ทำผมให้ลูกค้ามาใช้บริการ ฉลามน้อยมีครีบแหลมคมใช้หั่นผักในร้านอาหารญี่ปุ่น และเจ้าเทอโรซอร์ตัวน้อยเป็นโค้ชเบสบอล
แหม... สัตว์ประหลาดพวกนี้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับมนุษย์อย่างผาสุก เป็นเรื่องที่ทำใจเชื่อได้ยากเสียจริง
คุณแอนดรูว์ ไบรเซอร์ มนุษย์จำแลงผู้เป็นนักสำรวจในคราบนักธุรกิจ ทำใจเชื่อได้ยากเสียเหลือเกิน... ว่าสัตว์ทดลองของจัมบ้าจะต่อต้านโปรแกรมทำลายล้างได้จริง
เป็นอย่างที่ ดร.พลาเจียส ว่าไว้ไม่มีผิด
บนดาวโลกมีมนุษย์อันตรายที่ทำให้โปรแกรมดั้งเดิมของสัตว์ทดลองล้มเหลวจริง
ซึ่งแน่นอนว่าคุณแอนดรูว์ต้องรู้จักชื่อ "ลีโล่ เพเลไค" จากแฮมสเตอร์วิลล์
และลีโล่ก็ทำให้เจ้า 626 กลายเป็นหมาน้อยผู้ซื่อสัตย์ในพริบตา
พูดถึง 626 ดร.พลาเจียสได้มอบหมายภารกิจให้คุณแอนดรูว์ลงมาสำรวจนี่
สำรวจ... เพื่อหาทางกำจัดจุดอ่อนของ 626 ให้สิ้นซาก
บัดนี้... คุณแอนดรูว์กำลังดูวิดีโอที่ฉายบนสมาร์ทโฟนอยู่
วิดีโอกำลังฉายภาพ "ศักยภาพการต่อสู้ของ 626" ตอนปะทะกับมาวินขณะเล่นเกมเวอร์ชวลเซเล็บพาวเวอร์ในร้านกีโม่อาเขตเกมเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นวิดีโอโฮโลแกรม 3 มิติ!
"อืมม์... มีความตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัดหลังจากสู้กับเด็กผู้ชาย" คุณแอนดรูว์พึมพำออกมาด้วยความสนอกสนใจที่วิดีโอโฮโลแกรมฉายภาพเจ้า 626 แสดงความห่วงใยคู่ต่อสู้อย่างออกนอกหน้า "แสดงว่าเด็กน้อยชุดมูมูสีแดงคนนั้นมีพรสวรรค์ที่เป็นภัยต่อนายท่านกับท่านแฮมสเตอร์วิลล์ว่าไว้ไม่มีผิด"
พูดถึงเด็กน้อยชุดมูมูที่ชื่อลีโล่ สมองของเขาก็นึกถึงบรรดาสัตว์ทดลองที่เป็นมิตรกับมนุษย์ สรุปได้ในทันที... ว่าลีโล่เป็นคนเปลี่ยนแปลง 626 และสัตว์ทดลองทุกตัวให้ต่อต้านโปรแกรมทำลายล้างในพริบตาที่เผชิญหน้า
ซึ่งรวมถึง 624 ที่มีความสามารถด้านการร้องเพลงและการต่อสู้ สัตว์ทดลองที่ถูกแฮมสเตอร์วิลล์คาดหวังว่าเสน่ห์ของเธอจะต่อกรกับลีโล่... ยังต้องพ่ายให้กับลีโล่เลย
The Virtual Celeb Power เป็นสื่อกลางให้คุณแอนดรูว์ได้รับข้อมูลการต่อสู้ของ 626 กับ 624 อย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็ส่งภาพและข้อมูลถึงดร.พลาเจียสในทันทีที่รู้จุดอ่อนของ 626
ปิดท้ายด้วยการติดต่อนายท่าน เพื่อสแตนด์บายขั้นต่อไปของภารกิจให้อีกฝ่ายรับทราบ แค่ต่อสายแล้วเปิดลำโพงในทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
"ภารกิจขั้นตอนแรกสำเร็จแต่โดยดี สำรวจผลงานได้จากของฝากที่ผมมอบให้ ภารกิจขั้นตอนต่อไป กำลังจะเริ่มต้นตอนหมดซัมเมอร์ครับ"
ç=================è
ความคิดเห็น