บ้านยาย - นิยาย บ้านยาย : Dek-D.com - Writer
×

    บ้านยาย

    โดย Cyndyella

    “ รีบมาได้ไหม นนท์ ทำอะไรลำบากมากเลย หมอให้ใส่เฝือกตั้งเกือบ 2 เดือน” นนท์พูดพร้อมถอนหายใจ “แล้วยายหละนนท์ แกเป็นยังไงบ้าง” “ นี่แหละ ที่อยากให้พี่รีบมา "

    ผู้เข้าชมรวม

    49

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    18

    ผู้เข้าชมรวม


    49

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  23 มี.ค. 67 / 12:58 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทที่ 1 กลับบ้าน

    ญานิน  มองไปนอกหน้าต่าง ที่มีน้ำหยดลงมา จากฝนที่เพิ่งซาไป บรรยากาศตอนเช้าหลังฝนตก ทำให้ ไม่อยากลุกออกจากเตียง ที่มีผ้าห่มผืนโปรด ที่หนาและแสนนุ่ม พร้อมกับเรื่องในหัวที่คิดวนไปวนมา กับเรื่องงานที่เธอตั้งใจจะลาออก และกลับบ้านไปอยู่บ้านนอกกับยาย และ น้องชายของเธอที่เป็นเด็กวัย 16 เพิ่งประสบอุบัติจนขาหัก ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งมันเป็นหน้าที่ ที่เธอต้องทำแทนพ่อแม่ของเธอที่จากไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อปีก่อน     

                   ภาพความทรงจำในวันนั้นยังจำได้ดี ที่เสียงโทรศัพท์ ดังเข้าขณะที่เธอเพิ่งเลิกงาน กลับถึงบ้าน เสียงปลายสายบอกว่าพ่อกับแม่ของเธอ ขับรถลงเหว ที่อยู่ห่างไม่ไกลจากหมู่บ้านของเธอมากนัก ปลายสายไม่บอกทันทีว่าทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บอกแต่เพียงว่าให้เธอทำใจดีๆ และรีบมาดูท่านให้เร็วเท่าที่จะทำได้ เธอรับรู้ได้ทันที ว่าถ้อยคำเหล่านั้นหมายถึงอะไร

    ~ ~ ตี๊ด ตี๊ดด ตี๊ด ตี๊ดดด~ ~ (เสียงริงโทนมือถือ)

    “ ฮัลโหล “

    “ จะมาวันไหน พี่นิน“ เสียงปลายสายคือ นัทนนท์ น้องชายตัวแสบของเธอ

    “ก็ยังไม่รู้เลย ว่าจะไปยื่นเรื่องลาออกวันนี้” เธอตอบกลับน้องชายของเธอ พร้อมกับ ลุกออกจากเตียง เพื่อไปเตรียมตัวอาบน้ำ

    “ รีบมาได้ไหม นนท์ ทำอะไรลำบากมากเลย หมอให้ใส่เฝือกตั้งเกือบ 2 เดือน” นนท์พูดพร้อมถอนหายใจ 

    “แล้วยายหละนนท์ แกเป็นยังไงบ้าง” 

    “ นี่แหละ ที่อยากให้พี่รีบมา ยายไม่ค่อยออกมาจากห้องพระเลย วันๆ เห็นสวดอะไร ไม่รู้อยู่หลายชั่วโมง เช้ามานะ จะตักกับข้าวมาทิ้งไว้ให้นนท์ และก็เข้าห้องพระไป ออกมาอีกทีก็เที่ยงๆ นนท์เคยไปแอบฟังนะพี่นิน บทสวดมนต์ ก็ไม่ได้สวดแบบบ้านเรา ไม่นะโม ไม่ตัสสะ เป็นบทสวด เหมือนคาถาแปลกๆเลยอะ” 

    ญานิน กรุ่นคิดเล็กน้อย เพราะตั้งแต่พ่อกับแม่เสียไป ก็ได้ทิ้งน้องไว้กับยาย โดยที่ตัวเธอเอง ก็ไม่ได้สนิทสนม หรือรู้จักกันมากเท่าที่ควร แต่ด้วยความจำเป็นเลยต้องฝากน้องชายคนเดียวเอาไว้กับยาย เพราะเป็นญาติใกล้ที่สุดเท่าที่จะช่วยได้

     “ อ้าวหรอ คนแก่ก็แบบนี้รึป่าว แกอย่าคิดมากเลย แล้วก่อนหน้าที่แกจะรถล้ม ยายแกสวดแบบนี้รึป่าวหละ”

    “ อืมมมม เป็นนะ เห็นเข้าห้องพระบ่อยๆ แต่นนท์ก็ไปเรียนอะ เลยไม่รู้ว่าปกติ แกสวดนานขนาดนี้รึป่าว กลับมาอีกทีก็เกือบมืด ก็เห็นแกนอนไปแล้ว เออ พี่นิน ยายชอบพาคนมาที่บ้านด้วยนะ มาช่วงเย็นๆ มาสวดมนต์กัน เกือบมืดก็กลับออกไป มาแทบทุกวันเลย“

    “ นี่แกอยู่กับยายทุกวัน แกไม่ถามบ้างหละนนท์ หัดคุยกับยายบ้างนะ ไม่ใช่จะเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง คุยกับสาว เล่นเกมส์ อะไรของแกอะ เออ พี่แค่นี้ก่อนนะ จะสายแล้ว”

    หลังจากวางสายน้องชายเธอก็รีบ พาตัวเองออกไปทำงาน เตรียมที่จะลาออกและขอออกแบบด่วน ภายใน 3 วัน ด้วยเหตุผลที่จำเป็น แหละหวังว่าหัวหน้าจะไม่ว่าอะไรมากนัก

     

                   ฟ้าครึ้มๆ แทบจะทั้งวันขนาดตอนเที่ยง หมู่บ้านอันเงียบสงบ ที่นัทนนท์ ย้ายมาอยู่ได้เกือบปี หลังจากที่พ่อแม่จากไป การเป็นเด็กใหม่ในหมู่บ้านแห่งนี้ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว ด้วยผิวพรรณนวลผ่อง ประกอบกับสันจมูก ที่เข้ารูปกับใบหน้า จัดว่าเด็กใหม่หน้าหล่อ คารมร้าย แถมกีฬาเด่น ประจำโรงเรียน ทำให้มีเพื่อนได้ไม่ยาก แต่ถึงกระนั้น การเรียนกลับไม่ได้ดีเท่าหน้าตา ทำให้ นัทนนท์ หันมาติดเพื่อนฝูง หัดดื่มเหล้า เมาบุหรี่ ขับรถเที่ยวเล่น จนเป็นเหตุ ให้ขาหัก ต้องเข้าเฝือก อดเที่ยวไปซักระยะหนึ่ง ทำให้นัทนนท์ได้อยู่บ้านมากขึ้นกว่าที่เคย ได้เริ่มสัมผัส อะไรแปลกๆที่บ้านก็ครั้งนี้แหละ

                   เสียงประตูห้องพระเปิดออกเบาๆ ทำให้นัทนนท์รู้ว่า ยายได้ทำการสวดมนต์เสร็จแล้ว คงจะเอาข้าวมาให้ตัวเค้าที่ห้อง เหมือนทุกวัน ที่เช้า จะเป็นข้าวต้ม กลางวันจะเป็นแกงฟักทอง หรือเขียวหวาน และเย็น จะเป็นผัดผัก หรือข้าวผัด แบบนี้วนไปจนนนท์เองนั้นก็เบื่อเต็มทน 

                   ยายเปิดประตูเข้ามา พร้อมวางจานราดแกงฟักทอง “ กินไปเถอะ ที่บ้านเรามีกินแค่นี้” ยายพูดเหมือนรู้ ว่านนท์คิดอะไรอยู่ 

    “ ยาย นนท์อยากกินผัดกระเพราหมู บ้างได้ไหม หรือเป็นอะไรก็ได้ แค่ไข่ดาว ไข่เจียวก็ได้ “

    “ ก็บอกแล้วว่าที่บ้านเรามีแค่นี้ กินๆไปเถอะ ถ้าไม่อะไรกินแล้วแกจะรู้สึก” ยายพูดพร้อมมองตาแข็ง ทำเอาตกใจ ก็แค่ขอไข่ดาว ไข่เจียวเอง ไม่เห็นต้องเครียดขนาดนั้น นนท์คิดและยาก็เดินออกไป พร้อมปิดประตูห้องพระเงียบสนิท จะว่าไปไอ้ห้องพระที่ว่า นนท์เองก็ไม่เคยเข้าไปสักครั้ง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลังฟระตูไม้เก่าๆบานนั้น มีหน้าตาเป็นแบบไหน ห้องสีอะไร และมีหลวงพ่ออะไรบ้างที่ยายกราบไว้บูชา ขณะกินข้าวไปก็คิด ถ้าพี่นินมาไวๆได้วันนี้เลยก็คงดี คงได้กินกระเพราหรือไข่เจียวแน่ๆ และก็ก้มหน้ากินข้าวต่อไป พร้อมแชทคุยเรื่องตลกๆกับเพื่อน ชวนกันเล่นเกมส์เหมือนที่เคย

                   ทางด้านญานิน การลาออกจากงานราบรื่นกว่าที่คิด หัวหน้าเธอดูใจดีผิดปกติ ที่ให้เธอ ทำงานได้วันนี้เป็นวันสุดท้ายได้เลย และพร้อมจ่ายเงินเดือนเต็มเดือนให้เธอด้วย เป็นการตอบแทนที่เธอเป็นพนักงานดีเด่นมาหลายปี และพาเธอไปเลี้ยงส่งด้วยหมูกระทะแบบเกาหลี และ โซจูไม่อั้น ทำเอาเธอ ตาปรือกลับบ้าน เป็นการบอกลาบริษัทที่สนุกคืนหนึ่ง

    ญานิน กลับถึงบ้านในคืนวันนั้น ไขประตูห้องพักกึ่งคอนโด ที่ทั้งสะอาดน่าอยู่ ทำเอาใจหาย ที่รู้ว่าพรุ่งนี้ต้องเก็บของ ขนย้ายกลับบ้าน แต่งานคืนนี้ ทำเอาเหนื่อยล้ามากกว่าที่จะทยอยเก็บอะไร นิน ทิ้งตัวลงนอน และเผลอหลับไป 

    “ ญานิน ญานินลูก กลับไปหานนท์ รีบกลับไปหาน้องนะ แล้วพาน้องมาอยู่ด้วย นิน อย่าทิ้งน้องนะ” เสียงแม่ผุดขึ้นมาในความฝัน ทำเอาเธอสะดุ้งตื่น ขึ้นมากลางดึก มองไปรอบๆ ห้อง ก็เห็นว่าไฟยังเปิดอยู่ “นี่เผลอหลับไป จนลืมปิดไฟอีกแล้วนะเนี่ย “ เธอพูดกับตัวเองเบาๆ พร้อมคิดว่า ไม่ได้ฝันถึงแม่นานเลย ฝันถึงทั้งที ก็น่าจะคุยกันนานๆหน่อย คิดแล้วก็ปิดไฟกลับไปนอนต่อ แต่ขณะที่เธอนั้นกำลังข่มตาให้หลับ ก็ได้ยินเสียงพึมพำ เหมือนใครสักคนกำลังสวดอะไรบางอย่าง แต่จับใจความไม่ได้ ดังอยู่ที่ปลายเท้าของเธอ ญานิน พยายามลืมตาแต่ยิ่งฝืนเท่าไหน เปลือกตาก็ยิ่งหนักขึ้น เธอเลยขัยบตัวเพื่อลุก กระนั้นตัวเธอก็ขยับไม่ได้ เสียงสวดดังขึ้นเรื่อย ทำเอาเธอรู้สึกกลัวขึ้นมา ว่าใครกันเข้ามาทำอะไรในห้องเธอ 

    “ ตาเฮ โฟมู ตะเฮ ตะเฮเตียน” “ ตาเฮ โฟมู ตะเฮ ตะเฮเตียน” “ ตาเฮ โฟมู ตะเฮ ตะเฮเตียน” เสียงบทสวดอันแหบพร่า ดังก้องขึ้นข้างใบหู ทำเอาเธอรู้เลยว่า บุคคลสวดนั้น ยืนอยู่ข้างๆ และกำลังสวดดอยู่ข้างใบหูของเธอ 

    ญานิน ตัวสั่นเทา เริ่มสวดมนต์ ในใจ ไม่รู้บทไหนเป็นบทไหน หวังว่าจะช่วยเธอให้หลุดพ้นจากสิ่งที่เจอได้ สักพักเสียงสวดค่อยเบาลง และเงียบไป หนังตาค่อยเบาลง และลืมตาขึ้นมาได้ ท่ามกลางห้องที่มืดสนิท ญานินรีบลุกไปเปิดไฟ และมอง นาฬิกา 04.15 นาที เธอคิดได้ทันทีเลยว่า เธอคงต้องเก็บของตอนนี้เลย ให้ข่มตาหลับคงไม่ลงตอนนี้แน่นอน เธอคิดได้ว่าเรื่องที่เธอเจอ ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเป็นแน่ และแม่ก็มาเข้าฝันบอกเธอ

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น