ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC AIMNAM : JUST LOVE รัก วุ่น วาย

    ลำดับตอนที่ #18 : CH 18

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.96K
      45
      27 ธ.ค. 59


    “แกโอเคนะน้ำ”

    ฉันพยักหน้าช้าๆ ไม่โอเคก็ต้องโอเคแหละ พี่แทพยักหน้าแล้วตบไหล่ฉันเบาๆ

    “ช่วงนี้ต้องใจเย็นๆนะ ค่อยๆคุยกัน”พี่ฟานี่พูดขึ้นมา พวกพี่เค้ามาเยี่ยม และเค้าก็เยี่ยมเสร็จแล้วด้วย ส่วนฉันได้แต่นั่งรอข้างนอก เพราะตั้งแต่เอมฟื้นขึ้นมา แม้แต่เข้าไปในห้อง ฉันยังไม่มีโอกาสเลย

    “เอมว่าไงบ้างเหรอคะ?”ฉันถามออกไปอย่างมีความหวัง ถ้าไม่ได้เจอหน้า งั้นขอรู้จากคนอื่นก็ได้

    “ก็ยังไม่พูดอะไรนะ แต่ก็อาการดีขึ้นแล้วแหละ”

    ฉันพยักหน้าอีกครั้ง ก็ดีแล้ว

    “พี่จะเอาหนังสือเกี่ยวกับแม่และเด็กเอามาให้อ่าน แกจะได้เตรียมตัวแล้วก็รู้ว่าควรรับมือยังไง”พี่แทเสริมขึ้นมา ฉันยิ้มนิดๆ

    “ขอบคุณค่ะ”

    “งั้นพี่ไปก่อนนะ”

    พี่สองคนบอกลา ก่อนจะพากันเดินออกไป ฉันมองตามแล้วถอนหายใจเล็กน้อย ค่อยๆเอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้เอาไว้  จะเข้าใกล้เมียกับลูกยังทำไม่ได้เลย แล้วจะเอายังไงต่อไปกับชีวิตดีวะ..

    “น้ำ

    “แม่เอมเป็นอะไรเหรอ?”ฉันถามออกไปอย่างตกใจเมื่อแม่ฉันเดินออกมาเรียกหน้าตาไม่ค่อยดีนัก

    “เข้าไปคุยกับเอมหน่อยลูก? คุยกันดีๆนะ”แม่ฉันบอกแล้วตบหลังฉันเบาๆ

    “น้ำคุยดีอยู่แล้วแม่”ฉันบอกแล้วเดินเข้าไปในห้องนิ่งๆ

                 

                    และทันทีที่เข้ามาถึง ความเงียบก็เกิดขึ้นโดยทันที ไม่มีใครพูดอะไร แม้กระทั่งเอมที่เป็นคนอยากคุยกับฉัน แล้วฉันจะทำยังไงได้แล้วฉันควรทำยังไงต่อไป

    “เอม

    “เอมจะเอาลูกออก”

    ตึง ! เหมือนโลกทั้งโลกดับลงเมื่อสิ้นเสียงเอม ไม่ได้ ฉันเป็นพ่อ ฉันจะให้เอมทำแบบนั้นไม่ได้ ไม่มีทาง !

    “ไม่ได้ น้ำไม่ยอม”

    “น้ำไม่มีสิทธิ์”

    “มีสิ! สิทธิ์ของความเป็นพ่อไง

    “น้ำไม่ได้อยากมีเค้าจริงๆหรอก น้ำก็แค่พลาด”เอมประชดฉันกลับ ในคำที่ฉันเคยพูดไป ฉันสะอึกเล็กน้อย คำพูดที่กลับมาทำร้ายตัวเองอีกครั้ง

    “น้ำไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น”

    “แต่ก็พูดมันไปแล้ว”

    “เอม น้ำขอร้อง เด็กเค้าไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เอมจะทำร้ายเค้าได้ลงคอเหรอ? เอมจะให้น้ำทำอะไรก็ได้ น้ำยอมเอมหมดเลยนะคะ ขอร้องนะ อย่าเอาเค้าออก อย่าทำร้ายลูกของเราเลย สงสารเด็กเถอะนะคะ”ฉันเข้าไปอ้อนวอน นาทีนี้ให้ทำอะไรก็ทำหมดเลย เพื่อลูก เพื่อตาหนูของฉัน

    “ไปให้พ้นออกไปซะ”

    เอมเอ่ยปากไล่ ทั้งๆที่น้ำเสียงก็สั่นเครือจนฉันเองก็รู้สึกได้ เอมทำแบบนี้ทำไมทำร้ายทั้งตัวเองทำร้ายทั้งฉัน

    “เอม..น้ำ..

    “บอกให้ออกไป!! ไปสิ!! ออกไป!!”เอมเริ่มโวยวายเสียงดัง จนแม่ฉันต้องวิ่งเข้ามาดูด้วยความตกใจ ฉันค่อยๆถอยหลังเดินออกไปช้าๆ มองเอมที่อยู่ในอ้อมกอดของแม่ตัวเองด้วยสายตาเจ็บปวด

    “แม่ขาแม่ให้เค้าออกไปเอมไม่อยากเห็นหน้าเค้าแล้วเอาเค้าออกไปที..”เอมปล่อยโฮออกมาในอ้อมกอดของแม่ฉัน แม่ฉันพยักหน้าให้ฉันออกไปก่อน ฉันมองนิ่ง ก่อนจะหันหลังเดินออกไปด้วยความเสียใจ ได้ยินเสียงสะอื้นของเอมฉันยิ่งเจ็บปวดที่สุด พอจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น ฉันดันเป็นคนทำมันพังด้วยคำพูดของตัวเองโคตรบ้าเลยว่ะ !!!


     

                      “แม่งเอ๊ย!!

    คำสบถเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ได้ดังขึ้นลั่นบนดาดฟ้าของตึก ความเจ็บปวดที่มือยังไม่เท่ากับความเจ็บปวดที่ใจเลย เพราะไม่รู้จะระบายเรื่องที่อัดอั้นตอนนี้ให้ใครฟัง ฉันเลยได้แต่ใช้ความเจ็บปวดเป็นที่ระบาย มือขาวที่ชุ่มไปด้วยเลือดนั้นสั่นเทาและไร้ความรู้สึก น้ำตาไม่มีให้ไหล หัวใจไม่มีความรู้สึกอีกแล้ว แบบนี้ใช่มั้ยที่เค้าเรียกว่าน้ำตาตกใน.. และอาการตายทั้งเป็น มันเป็นแบบนี้ใช่มั้ย .. ฉันค่อยๆทรุดนั่งลงกับพื้น หมดสภาพ

    “เกลียดน้ำมากเลยใช่มั้ยเอมเกลียดน้ำมากขนาดนั้นเลยใช่มั้ย”ฉันพึมพำเบาๆ จากคนที่รักกันมากที่สุด วันนี้กลับกลายเป็นคนที่ไม่อยากเห็นหน้ากัน ไม่อยากอยู่ใกล้กัน ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้ ฉันนั่งกอดเข่าตัวเองเอาไว้ ซบหน้าลงกับเข่าตัวเอง แบบนี้เองที่เขาเรียกว่าน้ำตาเช็ดหัวเข่า โคตรเจ็บเลย

              “ขอดูมือหน่อยได้มั้ยคะ?”

    ฉันได้ยินเสียงอบอุ่นของใครบางคนดังขึ้น ต่อให้ฉันไม่เงยหน้าขึ้นไปมอง ฉันก็รู้ว่าเป็นใคร

    “เจ็บมากใช่มั้ย?”เสียงอบอุ่นนั่นยังคงดังขึ้น

    “รู้ได้ยังไงว่าน้ำอยู่ที่นี่?”ฉันถามออกไปแต่ยังไม่เงยหน้ามอง

    “หมอเห็นคุณเดินขึ้นมา หมอก็เลยเดินตามมาดู

    “คุณหมอ..

    “ไม่ต้องพูดอะไรหรอกค่ะ ให้หมอทำแผลให้ แล้วเดี๋ยวหมอจะให้คุณอยู่คนเดียวตามที่คุณ

    ไม่ทันที่คุณหมอพูดจบ ฉันก็ดึงคุณหมอมากอดเอาไว้พร้อมสะอื้นอย่างหนัก ความเจ็บปวดที่ได้รับมา ความรู้สึกทั้งหมด ขอยืมไหล่คุณหมอเป็นที่ระบายหน่อยก็แล้วกันนะคะ

    “น้ำเจ็บคุณหมอ น้ำเจ็บแบบที่น้ำไม่เคยรู้สึกเลยมันเจ็บจนมันชาชาไปหมดแล้ว”

    ฉันแทบจะพูดไม่รู้เรื่อง คุณหมอยกมือขึ้นกอดตอบฉันเอาไว้เบาๆเธอไม่พูดอะไร เพียงแต่ให้ฉันกอดเอาไว้แบบนั้นเราสองคนกอดกันอยู่นาน จนฉันเองเริ่มดีขึ้น และค่อยๆคลายอ้อมแขนออกจากคุณหมอ

    “ดีขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ”

    “ค่ะ”ฉันตอบเบาๆ พลางยกมือขึ้นปาดน้ำตา..  คุณหมอกระตุกยิ้มเล็กน้อย จนฉันเองต้องถามอย่างแปลกใจ

    “อะไรเหรอคะ?”

    “คุณน้ำเหมือนเด็กเลยค่ะ”

    ฉันค่อยๆยิ้มบางๆ ก่อนจะมองหน้าคุณหมอนิ่ง

    “คุณหมออยู่กับน้ำทุกทีเวลาที่น้ำต้องการใครซักคน

    “เรื่องบังเอิญมากกว่าค่ะ”

    “งั้นเหรอคะ

    “เราไปทำแผลกันดีกว่ามั้ยคะ”

                         “โอ๊ย!! คุณหมอ แสบๆ”ฉันร้องลั่นพร้อมสูดปากด้วยความเจ็บ มือคุณหมอเบานะ แต่แผลฉันน่ะ

    “ทีตอนทำไม่เห็นเจ็บนี่คะ”

    “ก็ตอนนั้นมันไม่ได้อะไรนี่คะ”ฉันเถียงกลับ พลางมองคุณหมอพันแผลให้ฉันอย่างตั้งใจ

    “เสร็จแล้วค่ะ พรุ่งนี้อาจจะระบมนะคะ ระวังด้วย”คุณหมอบอกยิ้มๆ แล้วถอดถุงมือยางออกก่อนจะเดินไปล้างมือเพื่อทำความสะอาด

    “คุณหมอ?..

    “คะ?”

    “น้ำถามจริงๆนะ คุณหมอยังไม่มีแฟนเหรอคะ? คุณหมอสวย แล้วก็ดีมากขนาดนี้นะ”

    คุณหมอหันมาหาฉันช้าๆพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ

    “ถามทำไมคะ?”

    “เอ่อน้ำแค่สงสัยน่ะค่ะ”

    “หมอยังไม่อยากเป็นภาระใครค่ะ ลำพังแค่ทำงานหมอก็แทบไม่มีเวลาแล้ว”

    ฉันพยักหน้า ก็คนเป็นหมอนี่นะ ฉันมองไปรอบๆห้องคุณหมออย่างสนใจ แต่แล้วก็สะดุดตากับรูปบางอย่างที่ตั้งอยู่ตรงหลังโต๊ะทำงานของคุณหมอ..

    “ขอโทษนะคะคุณหมอ

    ฉันบอกเบาๆแล้วเดินไปหยิบรูปนั้นขึ้นมาดูใกล้ๆก่อนจะค่อยๆหันไปมองคุณหมอนิ่ง

    “คุณหมอคุณหมอเคยเป็นหมอที่หมู่บ้านพราวตะวันเหรอคะ?”

    คุณหมอพัดนิ่งไปครู่ ก่อนจะพยักหน้า

    “ค่ะ หมอเคยไปประจำอยู่ที่นั่น”

    ฉันยืนค้าง ถ้าอย่างนั้น..

    “งั้น

    “คุณน้ำควรไปดูคุณเอมได้แล้วนะคะ ทำตามที่หมอแนะนำ ให้เวลาเธอซักพัก ค่อยๆคุย ค่อยๆง้อ เดี๋ยวก็ดีขึ้น เธอไม่เอาลูกออกหรอกค่ะ หมอรู้ดี”คุณหมอชิงตัดบทก่อนที่ฉันจะได้ถามอะไรออกไป ฉันยืนจ้องหน้าคุณหมอนิ่ง หรือฉันจะคิดมากไปเองนะ

    “งั้น..ก็ได้ค่ะ เอาไว้เจอกันนะคะ”ฉันพูดนิ่งๆ แล้วค่อยๆเดินออกไปแล้วยืนหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าประตู ที่มีชื่อและนามสกุลคุณหมอติดอยู่หน้าห้อง..

    “แพทย์หญิงพัดชาพี่หมอพัดในตอนนั้น?...หรือจะเป็นคนๆเดียวกัน”ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ

    “อ้าว อยู่นี่เอง มานี่เลย เกิดเรื่องใหญ่แล้วไม่รู้เหรอ?”เป็นเจ้าดาที่วิ่งเข้ามาหาฉันพร้อมฉุดกระชากฉันวิ่งออกไปทันที

    “เฮ้ย ! เรื่องไร!!

         

                  “จะย้ายกลับไปอยู่บ้านเหรอ?!!

    ฉันถามเสียงดังลั่น แม่และดาพยักหน้าพร้อมกัน ฉันทำหน้าเครียด ลำพังอยู่ด้วยกันตอนนี้ฉันก็แทบเข้าใกล้ไม่ได้ แล้วจะย้ายกลับไปอยู่บ้านคุณพ่อคุณแม่ ฉันไม่ลงแดงตายพอดีเหรอ?

    “น้ำจะทำไงดีแม่? แม่ช่วยน้ำทีสิ”

    “แม่ก็ช่วยพูดแล้วไง.. เอมยอมที่จะเอาลูกไว้แต่ว่าขอกลับไปอยู่กับคุณพ่อคุณแม่เค้า”

    “ถ้าเอมกลับไปอยู่ที่นู่นแล้วน้ำจะทำไง น้ำจะขาดใจตายเอานะแม่ เมียกำลังท้องกำลังไส้อยู่อ่ะ”

    “เรื่องนั้นแม่ก็รู้..แม่ถึงโทรไปหาคุณพ่อคุณแม่เอมมานี่ไง”

    “แล้วท่านว่าไงแม่ ท่านว่าไง”

    “ท่านเข้าใจดี แล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ท่านเคารพการตัดสินใจของเอม ท่านฝากมากบอกด้วยว่าให้น้ำใจเย็นๆท่านจะช่วยพูดให้เอง”

    “ใจเย็นเหรอแม่? นี่น้ำทำอะไรไม่ได้เลยนะ จะให้น้ำใจเย็นๆอยู่อีกเหรอ?”

    “โอ๊ยพี่น้ำ พี่ก็เข้าใจพี่เอมเค้าหน่อย คนกำลังท้องกำลังไส้ อารมณ์ก็ปรวนแปรแบบนี้แหละ เหมือนตอนพี่น้ำแพ้ท้องแทนพี่เอมนั่นแหละ!”ไอ้น้องสาวตัวดีเสริมขึ้นมา แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่โอเคอยู่ดี

    “น้ำ ตอนนี้ก็ปล่อยเอมเค้าไว้ก่อนนะลูก ให้เวลาเค้าหน่อยนะ เดี๋ยวแม่จะช่วยดูแลอีกแรง”

    “ก็ได้แม่ แม่ต้องรายงานทุกเรื่องให้น้ำรู้นะ

    “จ้ะ”

    ฉันถอนหายใจยาว หนักใจ !

     

                       “เอาไว้พ่อจะคุยให้ น้ำต้องใจเย็นๆ อย่าวู่วามนะ”

    ฉันพยักหน้าพร้อมยกมือไหว้คุณพ่อของเอมอย่างซึ้งใจ โชคดีที่ท่านรู้จักฉันมาตั้งแต่ที่ฉันรู้จักกับเอม ท่านจึงรู้ว่าฉันเป็นคนยังไง และเข้าใจความรู้สึกฉันดี

    “ขอบคุณค่ะคุณพ่อน้ำฝากดูแลเอมแล้วก็ตาหนูด้วยนะคะ”

    “ตาหนู?... นี่รู้แล้วเหรอว่าเป็นผู้หญิงผู้ชาย?”

    “ไม่รู้ค่ะ แต่เรียกตาหนูไว้ก่อน”

    “เรานี่นะ.. เอาเถอะๆ เดี๋ยวพ่อจะคุยให้แล้วกัน ไม่ต้องห่วงนะ กลับไปทำงานแล้วก็พักผ่อนให้สบายเถอะ ได้ข่าวว่าแพ้ท้องแทนเมียด้วยนี่”

    “คุณพ่อรู้ได้ไงคะ?..หรือคุณพ่อเคยเป็น”

    “พ่อเป็นพ่อคนมาก่อนนะ พ่อจะไม่รู้ได้ไง”

    “ค่ะๆ คุณพ่อเก่งเสมอ น้ำขอตัวนะคะคุณพ่อ แล้วน้ำจะแอบมาเยี่ยมบ่อยๆ”ฉันพูดแล้วหันหลังเดินขึ้นรถไป แต่ก็ต้องลดกระจกลงอีกครั้งเมื่อคุณพ่อเดินมาเคาะกระจก

    “คะ?”

    “พ่อว่าน้ำรู้วิธีจะเข้าใกล้เมียตัวเองนะ นึกให้ออกล่ะ มีตัวช่วยอยู่แล้วนี่”คุณพ่อพูดแค่นั้นแล้วหันหลังเดินกลับเข้าบ้านไป ฉันนิ่งไปครู่ ครุ่นคิดในคำพูดของคุณพ่อตัวช่วยเหรอ?... ใคร?

    พี่แท พี่ฟานี่ แม่ฉัน หรือ ดา หรือจะเป็นคุณพ่อ…. ก็ไม่ใช่นี่ !!

    “ตาหนู!!




    พอดีวันนี้ว่างค่ะ เลยนั่งเขียนไปเขียนมาอยู่ตั้งแต่จบตอนที่แล้วเลยได้เพิ่มมาอีกหนึ่งตอน 555

    แหมม แต่ละคนอินเหลือเกินนนน ไรท์ทีมคุณหมอค่ะ (วิ่งงงงง)

    หลอกๆ ไรท์ทีมตาหนูต่างหาก จริงๆมันก็ไม่วุ่นวายหรอกค่ะ แต่ไรท์คีพลุคตามที่รีดบอก 55555 

    มีสปอยล์ด้วยค่ะ แต่ไม่ได้สปอยล์เกี่ยวกับตอนต่อไปนะ 555555


    V
    V
    V
    V


    ฮั่นน่อววววววว เอมน้อยของไรท์เอง 5555555555






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×