ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC AIMNAM : JUST LOVE รัก วุ่น วาย

    ลำดับตอนที่ #5 : CH5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.22K
      75
      22 ธ.ค. 59

                

                     “ไอ้มาร์กตรงชั้นบนสุด ชั้นว่าควรจะปรับใหม่ เอาเป็นว่าเดี๋ยวชั้นจะเข้าไปแก้แบบให้ก่อนแล้วเดี๋ยวแกเอาไปเสนอลูกค้าอีกทีนะฉันบอกนิ่งๆ พร้อมกับหยิบแบบแปลนที่กางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเก็บเข้ากระบอกทรงกลมสีดำ มาร์กพยักหน้ารับคำสั่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไปบนโครงสร้างตึกที่คนงานกำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้น วันนี้ร้อนจริงๆ ทั้งที่เมื่อวานฝนยังตกอยู่แท้ๆเลย

    พี่น้ำจะเอาอะไรมั้ยครับ ผมจะออกไปหาอะไรกินหน่อย?”

    ฉันพยักหน้า ก็ดีเหมือนกัน ..

    งั้นขอเบียร์กระป๋องนึงละกัน คอแห้งว่ะฉันบอกแล้วล้วงเข้าไปหยิบเงินส่งให้ลูกน้องที่ยืนรออยู่

    อ่ะ จะเอาอะไรก็ซื้อมานะ แล้วเอาไปให้ในห้องด้วยฉันพูดแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานขนาดกะทัดรัดรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ตั้งใกล้ๆกับไซต์งานของฉัน อยากจะบอกว่าอากาศในนี้กับข้างนอกนั้นต่างกันชะมัด นี่ถ้าฉันไม่ต้องทำงานล่ะก็ฉันจะนั่งอยู่ในนี้แม่งทั้งวันเลยให้ตายเถอะ!! ฉันกางแผ่นแบบแปลนออกบนโต๊ะพร้อมใช้ความคิดในการออกแบบรูปทรงใหม่อีกครั้งแต่ทว่า.. ความคิดของฉันที่นึกออกในตอนนี้กลับไม่ใช่ที่จะใช้มันลงไปในงานชิ้นตรงหน้าเลย หากแต่มันเป็นงานอีกอย่างนึงต่างหาก.. ฉันวางดินสอลงก่อนจะหันไปหยิบกระดาษเปล่าที่วางอยู่ในกล่องลังข้างๆโต๊ะทำงานขึ้นมาวางทับแผ่นงานที่ถูกปล่อยเอาไว้..  ดินสอที่วางอยู่นั้นถูกฉันหยิบขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกดปลายลงที่แผ่นกระดาษขาวสะอาดเบาๆ

     


                   “โอ๊ย! เอม!! แกช่วยมีสมาธิหน่อยได้ปะวะ ยุกยิกๆอยู่ได้ อะไรกัดหรือไงยะ?!ทิฟฟานี่วีนขึ้นมาอย่างเหลืออดเมื่อนางแบบมือหนึ่งของเธอมีอาการแปลกไป ฉันถอนหายใจยาว ก็มันหงุดหงิดนี่!! ถ่ายไม่เสร็จซักที!

    เซ็ตนี้เซ็ตสุดท้ายแล้วย่ะ อดทนหน่อย เดี๋ยวแกก็ได้ไปหาสา..

    พี่ฟานี่!!ฉันตะโกนลั่นเมื่อพี่ฟานี่กำลังจะหลุดพูดคำๆนั้นออกมา ทีมงานทุกคนในกองถ่ายหันมามองอย่างสนใจ

    มองอะไรกัน ไม่มีหน้าที่หรือไง?เสียงเข้มของใครบางคนดังขึ้นมาทำลายสถานการณ์ลำบากให้พ้นไป ฉันอยากจะจัดการกับพี่ฟานี่ซะเดี๋ยวนี้!

    มิยองอา พูดอะไรระวังหน่อย..แทยอนเอ่ยเตือนคนรักเบาๆ ถ้าเธอไม่เข้ามาซะก่อน เอมกับฟานี่ก็คงตกอยู่ในที่นั่งลำบาก

    ขอบคุณนะคะพี่แท ถ้าไม่ได้พี่แท เอมคงแย่เพราะใครบางคนแถวนี้แน่ๆฉันพูดพร้อมกับเหลือบตามองแม่ตากล้องสาวตายิ้มที่ทำหน้าอ้อนใส่คนตัวเล็กที่เดินเข้ามาเคียงข้าง  พี่แทหรือแทยอน เจ้าของบริษัทนิตยสารชื่อดังทั้งในไทยและในเกาหลี แล้วที่ฉันทำงานเป็นนางแบบในสังกัดอยู่ตอนนี้ก็คือสังกัดของพี่แทเนี่ยแหละส่วนเรื่องช่างภาพคู่ใจคู่บุญบารมีของฉันก็คงไม่ต้องบอกหรอกนะก็คนที่ยืนคลอเคลียกับคนตัวเล็กอยู่นี่ยังไงล่ะ ถ่ายกี่งานกี่ปก เป็นอันขายดีขายหมดทุกแผง..

    แล้วนี่ใกล้เสร็จกันหรือยัง?”แทยอนถามขึ้นพร้อมกับยกมือบางโอบเอวช่างภาพคนสวยเอาไว้

    แทคนอื่นมองอยู่นะทิฟฟานี่ติงเบาๆ เพราะตอนนี้พวกทีมงานหันมาสนใจเธอทั้งสองคนเป็นตาเดี๋ยวแล้วล่ะสิ..  แทยอนทำหน้านิ่ง ก่อนจะกวาดมองไปรอบๆด้วยสายตาเย็นชาๆ

    ฟังเอาไว้ให้ดีนะ ฟานี่คือคนรักของฉัน ฉันกับทิฟฟานี่เป็นแฟนกันเข้าใจตรงกันนะ แล้วเลิกเอาฉันไปพูดเป็นนิทานบ้าๆของพวกเธอได้แล้วด้วย ! ”แทยอนพูดขึ้นเสียงดังผิดนิสัย แถมเรื่องที่พูดยังเป็นเรื่องที่ทิฟฟานี่ไม่คาดคิดว่าแทยอนจะกล้าทำอีกด้วยบอกคนอื่นว่าเป็นแฟนกันเนี่ยนะแท.. ทุกคนในกองถ่ายอึ้งกิมกี่ที่จู่ๆช่างภาพมือหนึ่งของบริษัทและเจ้าของบริษัทก็คบหาดูใจกันในฐานะคนรู้ใจ งั้นแสดงว่าข่าวลือต่างๆที่ผ่านมาทั้งที่บอกว่าคุณแทยอนกำลังคบหาอยู่กับนางแบบมือหนึ่งอย่างเอมนี่ก็เป็นข่าวโคมลอยสินะตัวจริงที่ว่านี่ก็คือ ทิฟฟานี่ อย่างนั้นเหรอ?

    แทแท..

    แทอยากทำมาตั้งนานแล้ว เราจะได้ไม่ต้องคบกันแบบหลบๆซ่อนๆ แทเบื่อ.. แทอยากคบกับฟานี่แบบเปิดเผย แทไม่สนอะไรทั้งนั้นล่ะ..แทสนแค่ฟานี่คนเดียว..แทยอนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมจ้องเข้าไปนัยน์ตาของช่างภาพสาวตายิ้มนิ่ง.. ทิฟฟานี่ยิ้มกว้างพร้อมโผเข้ากอดแทยอนแน่น เธอเองก็รอที่จะมีวันนี้มานานแล้ว วันที่เธอจะได้คบกับแทยอนแบบคนปกติทั่วไป ไม่ต้องคบกันแบบหลบๆซ่อนๆกันต่อไปอีก.. ฉันยืนมองภาพของรุ่นพี่ของฉันทั้งสองคนที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความสุขด้วยสายตาปลื้มปริ่มและตื้นตันใจ แต่พอนึกถึงเรื่องของตัวเองหัวใจฉันที่มันพองโตเมื่อครู่ ก็ห่อเหี่ยวลงไปอีกฉันจะได้มีช่วงเวลาแบบนี้บ้างมั้ยนะ…  กับคนที่ฉันรักคนนั้น

    “อยากไปหาน้ำใช่ไหม?”

    ฉันสะดุ้งเมื่อพี่แทแตะแขนฉันเบาๆ พร้อมกับมองหน้าฉันเหมือนรู้ทันสิ่งที่ฉันคิด.. อยากสิ


       

                     ฉันเป่าปากเบาๆ พร้อมกับกระตุกยิ้มเล็กน้อยเมื่อแผ่นกระดาษขาวสะอาดเมื่อหลายชั่วโมงที่แล้วนั้นเต็มไปด้วยเส้นดินสอ.. ฉันหันไปหยิบกระป๋องเบียร์กระป๋องที่สามขึ้นมากระดกใส่ปากอีกครั้งจนหมด ความจริงฉันคิดว่าจะดื่มแค่กระป๋องเดียว แต่ก็เสียดายของ ไอ้มาร์กมันซื้อมาให้ฉันเกินจำนวนที่ฉันสั่ง แล้วการทำงานแบบนี้ออกแบบไปมันก็เพลินไปเหมือนกัน รู้ตัวอีกทีกระป๋องเบียร์สามกระป๋องก็วางอยู่บนโต๊ะทำงานแล้วเรียบร้อยฉันเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะก้มลงเซ็นลายเซ็นของตัวเองลงบนกระดาษแปลน

    เสร็จซักที..ฉันพูดเบาๆ พร้อมกับยกกระดาษที่มีลายเส้นขึ้นมาดูด้วยสายตาภูมิใจเป็นที่สุด มันคงจะไม่ใช่แค่แบบแปลนในกระดาษธรรมดานี้แน่ๆฉันหมายมั่นในใจ ตอนนี้มันคือสิ่งที่ฉันจะต้องทำมันให้ได้ขอแค่.. เมื่อวันนั้นมาถึง ฉันมีเธอคนนั้นอยู่เคียงข้างฉันก็พอใจแล้ว ฉันค่อยๆม้วนกระดาษเก็บลงใส่กระบอกใส่งานแล้วแขวนเอาไว้ที่ผนังห้อง.. ฉันนิ่งไปครู่เมื่อนึกได้ว่ายังไม่ได้โทรหาเอมเลยตั้งแต่เช้า ป่านนี้จะเป็นไงบ้างนะ.. ว่าแล้วฉันก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา..

    พี่น้ำเชิญข้างนอกหน่อยครับฉันพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะโบกมือไล่ ทำนองว่าเดี๋ยวฉันตามออกไปก่อนที่ฉันจะหันไปสนใจกับโทรศัพท์ต่อ.. แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น..เมื่อ..

    ไอ้ห่า!! แบตหมด!! มาหมดอะไรตอนนี้วะ??”ฉันพึมพำเบาๆอย่างหัวเสีย แล้วอย่างนี้ฉันจะติดต่อกับเอมยังไงล่ะ.. แต่ก็ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยว่ากันแล้วกัน.. ไปทำงานก่อน ฉันวางโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินตามไอ้มาร์กออกไปที่ไซต์งาน..

               “พี่น้ำระวังนะครับ..มาร์กพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงเมื่อเจ้านายสาวเขาปีนขึ้นไปดูงานถึงชั้นบน แค่บอกว่ามีรอยร้าวนิดหน่อยเท่านั้นเอง เจ้าตัวก็รีบขึ้นไปดูให้เห็นกับตาทันที ฉันนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยร้าวจากผนังตึก.. นี่มันต่ำกว่ามาตรฐานชัดๆ..

    ไอ้มาร์ก!

    ครับ

    ยกเลิกสัญญาจ้างเดี๋ยวนี้!ฉันสั่งเสียงเข้ม..

               

                      “พี่น้ำใจเย็นๆก่อนมั้ยครับ บางทีมันอาจจะมีการผิดพลาด บริษัทนี้เราก็จ้างมาตั้งแต่เราตั้งบริษัทใหม่ๆแล้วนะครับมาร์กพยายามเกลี้ยกล่อมฉันขณะที่ฉันกำลังปีนลงมาจากชั้นบน ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้นแหละ จะทำงานกันมานานแล้วหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ทำงานต่ำกว่ามาตรฐานแบบนี้ฉันรับไม่ได้จริงๆ

    ทำงานต่ำกว่ามาตรฐานแบบนี้ ชั้นไม่สนอะไรทั้งนั้น พรุ่งนี้แกบอกให้นัตตี้ทำเอกสารแล้วเอามาให้ชั้นเซ็นที่นี่..แล้วก็หาบริษัทรับเหมาใหม่ด้วย ด่วน!ฉันพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด มาร์กพยักหน้าอย่างกลัวๆในท่าทีของฉัน..

    ส่วนค่าแรงคนงาน..ฉันจะออกให้ทั้งหมดเอง..ไม่เกี่ยวกับบริษัท

    ฉันพูดเสียงเครียด ตึกทุกตึกที่ฉันเป็นคนออกแบบฉันก็อยากให้มันออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด มันจะไม่มีคำว่าผิดพลาดจากผลงานของฉันเป็นอันขาด

    เอาเป็นว่าเอาตามนี้ละกัน แกกลับไปพักได้ละ คืนนี้ฉันจะค้างที่นี่ฉันพูดพร้อมยกมือขึ้นตบไหล่ลูกน้องคนสนิทที่ยืนหน้าซีดเป็นไก่ต้มเบาๆ

                         ฉันเปิดประตูเข้ามาในที่พักเงียบๆ ก่อนจะยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อของตัวเอง ถึงจะอยู่ในห้องแอร์ก็เถอะ แต่จะให้นอนทั้งๆที่เสื้อมันมีกลิ่นอับแบบนี้คงไม่ไหวค่ะ ที่พักของฉันนั้นเป็นห้องขนาดสีเหลี่ยมผืนผ้า ในนี้มีครบทุกอย่างทั้งตู้เย็น แอร์ เตียง ไฟฟ้า ครบสมบูรณ์แบบคล้ายกับบ้านหลังหนึ่งเลย ที่ฉันมีแบบนี้ก็เพราะพี่แทนั่นแหละค่ะ พี่แทคอยซัพพอร์ตฉันตลอดในเรื่องการทำงานรวมถึงเรื่องส่วนตัวด้วย ฉันถอดเสื้อออกช้าๆเพราะความปวดร้าวที่ได้รับจากการใช้งานกล้ามเนื้ออย่างหนักทั้งวัน.. ฉันอยากจะนอนแล้วจริงๆนะ.. ฉันกำลังจะนั่งลงที่เตียง หากแต่เสียงเคาะประตูกลับดังขึ้นซะก่อน ? นี่มันมีอะไรกันอีกเนี่ย.. ฉันเอาเสื้อพาดบ่าเอาไว้ก่อนเดินไปเปิดประตูเพื่อรอรับฟังเรื่องที่จะตามมาเมื่อประตูนั้นถูกเปิดออก..

    มีอะ..อื้อ!..เสียงฉันถูกกลืนหายไปพร้อมกับฉันที่จะต้องประคองตัวเองไม่ให้หงายหลังล้มลงไปเพราะร่างบางที่พุ่งเข้ามาหาทันทีที่ประตูเปิดออก ฉันตวัดมือปิดประตูแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่าร่างบางไม่ได้มาคนเดียว.. แถมยังเป็นผู้ชายอีกด้วย ! ฉันกดล็อคประตู ก่อนที่ฉันจะดันร่างบางไปที่เตียง..เราสองคนล้มลงไปบนเตียงด้วยกันก่อนที่ฉันจะถอนริมฝีปากออกมาเมื่อดึงสติกลับคืนมาได้สำเร็จ..

    มาได้ยังไง?”ฉันถามเสียงหอบ ก็เล่นมาแบบนี้แถมยังจูบไม่ให้ทันตั้งตัว ฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปหายใจ..

    พี่แทพามา..ทำไมเอมโทรหาไม่ติดเอมถามฉันเสียงพร่าพร้อมกับนัยน์ตาชวนฝันนั้นจ้องมาที่ฉัน ฉันหันไปมองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะหันหน้ากลับมาตอบ

    แบตหมด..เพิ่งจะได้ชาร์จเมื่อกี้

    แน่ใจนะ?”เอมถามย้ำ พร้อมจะเอาเรื่องฉันอยู่ตลอดเวลาถ้าฉันเกิดพูดอะไรไม่เข้าหูขึ้นมา ฉันพยักหน้าพร้อมขยับตัวพิงกับหัวเตียงเอาไว้ ดึงเอมมากอดเอาไว้แนบอก เตียงมันเล็กนิดเดียว คงต้องนอนกอดกันทั้งคืนแล้วแหละ

    ไม่อึดอัดเหรอที่มานอนเบียดกันกับน้ำในนี้เนี่ยฉันถามนิ่งๆพร้อมจรดปลายจมูกลงบนหน้าผากมน เอมส่ายหน้าน้อยๆพร้อมยกมือขึ้นบิดจมูกฉันเบาๆ

    นอนกับน้ำจะอึดอัดได้ยังไงล่ะ?”เอมพูดเสียงนุ่ม จนฉันถึงกับหลุดยิ้มออกมา..

    ช่างพูดนักนะเอม..น้ำอยากให้เรื่องของเรามันจริงจังซักทีฉันพูดนิ่งๆ พร้อมกับทำหน้าจริงจัง.. จริงอยู่ที่เราสองคนเป็นผู้หญิง ถึงจะมีอะไรกันลึกซึ้งอีกกี่ครั้งมันก็จะไม่มีการพลาดมีเจ้าตัวเล็กเด็ดขาด.. ฉันอยากให้เรื่องนี้มันจริงจังได้แล้วไม่ใช่ปล่อยให้มันผ่านไปวันๆ..

    น้ำหมายความว่าไง?..”

    น้ำอยากรับผิดชอบเอมสำหรับเรื่องเมื่อคืนนั้น..

    เอมนิ่วหน้าเล็กน้อย แค่อยากรับผิดชอบ?? ไม่มีอย่างอื่นด้วยใช่มั้ย?

    แค่รับผิดชอบเหรอ?”เอมถามย้ำ พร้อมกับจ้องตาฉันนิ่ง ฉันจ้องนัยน์ตาคมตอบ ก่อนจะพยักหน้า..

    งั้นไม่ต้องหรอก..เอมไม่ได้อยากให้น้ำมารับผิดชอบอะไร..เอมพูดเสียงเรียบพร้อมกับลุกขึ้น หากแต่ฉันดึงเอาไว้พร้อมกอดเอมเอาไว้แน่น ฉันจะไม่ยอมให้เรื่องมันผ่านไปเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว.. วันนี้แหละที่ฉันจะต้องทำอะไรซักอย่าง

    แต่งงานกับน้ำได้มั้ย?..ได้มั้ยเอม?”ฉันถามเสียงนุ่ม พร้อมรอคอยคำตอบอย่างตั้งใจ.. เอมนิ่งงัน ไม่ยอมตอบฉัน..ความเงียบเข้าปกคลุมเราทั้งสองจนใจของฉันแทบจะหยุดเต้นเอาซะแบบนั้น ทำไมเอมไม่ตอบล่ะ

    เอมทำไมไม่ตอบน้ำล่ะ?”

    จะให้เอมแต่งงานกับน้ำเพราะเพียงแค่น้ำอยากรับผิดชอบในตัวเอมอย่างนั้นเหรอ?”เอมหันมาถามฉันด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ฉันมองนิ่ง ไม่ใช่

    ก็เอมบอกน้ำแล้วไง ว่าไม่ต้องรับผิดชอบไงน้ำ

    ก็จะให้น้ำปล่อยให้มันผ่านไปได้ยังไง ก็ในเมื่อคืนนั้นน้ำได้เอมเป็นเมียแล้ว..น้ำก็ต้องรับผิดชอบในตัวของเอมสิ

    จะรับผิดชอบทำไม ก็ในเมื่อน้ำไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่แล้วนี่ ก็มีแต่เอมที่รู้สึกอยู่คนเดียว!เอมพูดเสียงดังลั่น เหมือนกำลังไม่พอใจฉันอยู่มากๆ

    เอมรู้ได้ยังไงว่าน้ำไม่รู้สึก ถ้าน้ำไม่ได้รู้สึกอะไรน้ำจะมีอะไรกับเอมทำไม?...คืนนั้นมันไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบนะเอม

    ถ้ามันไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบแล้วน้ำจะต้องมารับผิดชอบเอมทำไมล่ะ!

    ก็แล้วจะให้น้ำปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆงั้นเหรอ? ไม่เอาด้วยหรอกนะเอม..ฉันพูดเสียงแข็ง จ้องหน้าคนในอ้อมกอดอย่างไม่เข้าใจ ฉันอยากจะรับผิดชอบ ก็แล้วทำไมเอมจะต้องหงุดหงิดขนาดนั้นกับการที่ฉันอยากจะรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้น

    ก็ปล่อยผ่านไปสิ ไม่ต้องไปสนอะไรทั้งนั้นล่ะ..

    แต่น้ำสน น้ำไม่ยอมให้เรื่องนี้มันผ่านไปโดยที่เราทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว น้ำอึดอัด..

    ทำไมเหรอน้ำ! มีอะไรกับเอมแล้วมันทำให้น้ำอึดอัดขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้ารู้สึกแบบนั้นก็ปล่อยเอมสิ ไม่ต้องกอด ไม่ต้องโดนเนื้อต้องตัว ไม่ต้องมองหน้า ไม่ต้องคุย ปล่อยสิ ปล่อยนะน้ำ!เอมพยายามดึงมือฉันที่มันยังรัดแน่นไม่ยอมปล่อยตามที่เอมบอก ฉันยังกอดเอมเอาไว้แน่น ถึงแม้ว่าเอมจะหยิกจะตีฉันขนาดไหน ฉันก็ไม่ยอมปล่อยเอมตามที่บอกแน่ๆ

    น้ำไม่ได้อึดอัดแบบนั้น แต่น้ำอึดอัดในความรู้สึก เอมรู้มั้ยว่าทุกครั้งที่มีคนถามว่าเราเป็นอะไรกัน ภาพคืนนั้น..ภาพที่เรากำลังมีความสุข..มันลอยเข้ามาทุกที แล้วมันก็ทำให้น้ำไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้เลย..น้ำอึดอัดมากนะเอมกับสิ่งที่เราสองคนเป็นอยู่ตอนนี้ น้ำไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ของเรามันเรียกว่าอะไร น้ำไม่รู้เลยว่าน้ำควรวางตัวยังไงเวลาอยู่ใกล้กับเอมแล้วน้ำก็ไม่รู้เลยว่าถ้าวันนึง..เอมเกิดมีแฟนขึ้นมาแล้วน้ำจะทำยังไง…”ฉันพูดเสียงสั่น เอมรู้มั้ยว่าฉันกลัวมากขนาดไหนตอนนี้ กลัวว่าวันนึงฉันจะไม่ได้เป็นคนเดียวที่มีสิทธิ์กอดเอมเอาไว้แบบนี้..กลัวทุกๆสิ่งจะพรากเธอไปจากฉันเอมหันหน้ามาหาฉันช้าๆ เราสองคนสบตากันนิ่งและนาน.. ฉันเผลอตัวกดปลายจมูกแนบลงไปกับแก้มเนียนอย่างแผ่วเบา ค่อยๆไล้ปลายจมูกไปตามโครงหน้าสวยช้าๆ กดเอมลงบนเตียงพร้อมเลื่อนมือออกไปกดปิดสวิทช์ไฟให้ทั้งห้องมันมืดลง



                     แสงแรกของวันสาดส่องเข้ามาปะทะกับหน้าฉัน เป็นเหมือนนาฬิกาปลุกชั้นดีที่ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตาอย่างเสียไม่ได้...  ความสุขเมื่อคืนเพิ่งผ่านพ้น ก่อนจะยิ้มน้อยๆ เมื่อดวงตากลมโตที่ฉันชอบแสนชอบนั้นกำลังจ้องมองฉันอยู่พร้อมกับยื่นริมฝีปากนุ่มเข้ามาจูบแก้มฉันเบาๆ ฉันยิ้มน้อยๆพลางจูบแก้มนุ่มคืนอย่างไม่น้อยหน้า

    “กลับได้แล้วนะ เดี๋ยวน้ำจะต้องทำงานแล้ว”ฉันบอกเบาๆ ลูบแก้มนุ่มของอีกคนอย่างแสนรัก

    “ต้องไล่กันเลยเหรอ??”อีกคนถามอย่างน้อยใจนิดๆ

    “ไม่ได้ไล่..แต่ไม่อยากให้ใครมาเห็นเอมในที่แบบนี้ ยิ่งที่นี่มีแต่ผู้ชาย น้ำยิ่งไม่อยากให้เห็น”ฉันบอกเสียงนุ่ม พลางไล้สายตามองไปยังเรือนร่างที่มีเสน่ห์ที่สุดในสายตาฉัน เอมหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะยกมือบางขึ้นมาสัมผัสกับแก้มฉันเบาๆ

    “ไม่เอาแบบเมื่อคืนแล้วนะน้ำ เราจะไม่ทะเลาะกันเพราะเรื่องนั้นอีกแล้วนะ”เอมบอกฉันพร้อมส่งสายตาอ้อนวอนมาสบกับนัยน์ตาของฉันนิ่ง  ฉันนิ่งไปครู่ ก่อนจะพยักหน้าช้าๆเป็นการตอบคำถาม เอมยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นแล้วโน้มหน้าลงมาจูบหน้าผากฉันเบาๆ แล้วลุกขึ้นแต่งตัว ในขณะที่ทุกวินาทีมันอยู่ในสายตาของฉันทั้งหมดทั้งสิ้น เรือนร่างที่ฉันได้สัมผัสมันทุกสัดส่วน เจ้าของร่างกายที่เป็นของฉันทั้งตัวแต่หัวใจฉันไม่รู้เลย เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจที่มันเบิกบานอยู่เมื่อครู่กลับรู้สึกห่อเหี่ยวลงไปอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้เลยว่าจะรู้สึกมีความสุขดีกับตอนนี้ดีหรือเปล่า  หลังจากฉันจัดการพาเอมไปส่งเรียบร้อยแล้วฉันก็กลับมาทำงานที่ไซต์งานต่อทันที แต่ไม่รู้ทำไมสมาธิของฉันวันนี้มันถึงได้น้อยนิดนัก มันหงุดหงิด ไม่เป็นตัวของตัวเองแบบบอกไม่ถูก แถมวันนี้เนื้อตัวมันก็ปวดเมื่อยคล้ายๆจะเป็นไข้แบบนั้น

    ดื่มน้ำก่อนครับพี่น้ำ

    ฉันหันไปรับขวดน้ำเย็นๆมาจากลูกน้องแล้วยกขึ้นดื่มอย่างกระหาย ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ฉันยังไม่ได้พักเลย เพราะต้องการดูให้เห็นกับตาว่าทีมช่างชุดใหม่ที่จ้างมานั้นทำงานให้ฉันอย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ ฉันจะได้วางใจเวลาไม่ได้เข้ามาดูงานที่ไซต์ด้วยตัวเอง

    แล้วเรื่องเงินค่าจ้างกับช่างชุดเก่าเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย?”ฉันหันไปถามมาร์ก ก่อนจะหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อแสงแดดมันจ้าซะเหลือเกิน..

    ครับผม แต่ว่ามีส่วนนึงขอทำงานที่นี่ต่อ..เพราะว่าถ้ากลับไปก็ต้องโดนไล่ออกอยู่ดี..ผมก็เลยอนุญาต พี่น้ำไม่ว่าอะไรนะครับ?”

    ฉันพยักหน้าน้อยๆ เรื่องนี้ฉันไว้ใจไอ้มาร์กมากเหมือนกัน ฉันมั่นใจว่ามันทำงานแทนฉันได้ดีในระดับนึงเลยล่ะ

    พี่น้ำไปพักก่อนมั้ยครับ ดูไม่ค่อยดีเลยมาร์กถามเสียงห่วงๆ บอสเขาดูไม่ค่อยดีตั้งแต่เช้าแล้ว อาจเพราะตากแดดนานเกินไปแน่ๆ

    ไม่เป็นไร...ฉันพูดเบาๆพร้อมส่งขวดน้ำคืนให้มาร์กเหมือนเดิม ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ด้านนอกเพื่อดูแปลนงานต่อ.. มาร์กมองตามแล้วส่ายหน้าช้าๆ จะไหวได้ยังไง ดูสิ หน้าแดงตัวแดงหมดแล้ว.. พี่น้ำนะพี่น้ำ.. ไม่เคยห่วงตัวเองเลยจริงๆ มาร์กถอนหายใจยาวๆ แล้วจะเดินกลับไปทำงาน แต่สายตาของเขากลับหันไปเห็นเจ้านายสาวนั้นกำลังฟุบลงไปกับพื้น ชายหนุ่มร้องลั่นก่อนจะพุ่งเข้าไปหานายสาวทันที

    พี่น้ำ!!

          

                     “นี่ชั้นบอกให้แกพาไปคลินิกนะเว้ย ไม่ได้ให้มาโรงพยาบาลฉันอดที่ว่ามันไม่ได้ บอกให้มันพาไปคลินิกใกล้ๆ มันดันพามาที่โรงพยาบาลซะแบบนั้น ดูสิเนี่ยต้องมาเสียเวลานั่งรอหมอไปอีก..

    ก็พี่ล้มลงไปกับพื้น ตัวมีแต่รอยแดงเต็มไปหมด แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะพี่?”ไอ้มาร์กพูดพร้อมกับทำหน้าทำตาละห้อย จนฉันอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้

    เออๆ ไม่ได้ว่าอะไรทั้งนั้นล่ะ..แล้วนี่เมื่อไหร่หมอจะมาวะ…”ฉันถามนิ่งๆ รอมานานแล้วนะ ไม่มาซักที

    เดี๋ยวก็มาครับ ใจเย็นสิพี่ อะ นั่นไงมาแล้วครับ สวัสดีครับคุณหมอมาร์กพูดเสียงนุ่ม จนฉันเองที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ต้องเงยหน้ามองทันที..

               “สวัสดีค่ะ..คุณหมอคนสวยเอ่ยทักทายพร้อมกับรอยยิ้มหวานถูกส่งมาที่ฉัน.. ฉันนิ่งไปครู่ น่ารักจัง?? ฉันคิดในใจก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย...

    รบกวนช่วยรอด้านนอกก่อนนะคะ..คุณหมอคนสวยหันไปบอกมาร์กที่ยืนอยู่ ฉันพยักหน้าน้อยๆ เมื่อมาร์กมองมาที่ฉันก่อนจะเดินออกไปเมื่อเห็นฉันพยักหน้า

    ไปทำอะไรมาคะตัวถึงแดงขนาดนั้น?”คุณหมอถามยิ้มๆพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆฉัน

    เอ่อ..สงสัยจะตากแดดมากเกินไปหน่อยค่ะฉันตอบนิ่งๆ คุณหมอพยักหน้าพร้อมจดอะไรบางอย่างที่ฉันอ่านไม่ออกลงในใบกระดาษ

    ขอหมอดูหน่อยนะคะคุณหมอพูดพร้อมเอื้อมมือมาจับเบาๆที่แขน ฉันสะดุ้ง เมื่อรู้สึกแสบที่ผิวหนังยามคุณหมอสัมผัสเผลอตัวสูดปากเบาๆ คุณหมอเงยหน้ามองยิ้มๆ ก่อนจะดึงมือกลับไปวางไว้บนผ้าสีขาวที่วางอยู่ข้างๆ ฉันเห็นคุณหมอพลิกไปพลิกมาอยู่บนผ้านั้นอยู่นานสองนาน จนฉันเองอดที่จะนึกในใจไม่ได้ว่า คุณหมอกลัวเชื้อโรคเข้าหรือคุณหมอเป็นอะไรกันแน่?

    อันนี้ผ้าชุบแอลกอฮอล์ค่ะ เอาไว้ทำความสะอาดเฉยๆคุณหมอบอกยิ้มๆ คงจะเห็นว่าฉันมองอยู่นานแล้วล่ะมั้ง ก็เลยตอบ ฉันยิ้มเล็กน้อย อ๋อ แบบนี้นี่เอง

    ขอหมอวัดไข้หน่อยนะคะคุณหมอพูดนิ่งๆพร้อมขยับเข้าใกล้ฉัน ใช้อะไรบางอย่างที่ใช้วัดไข้แนบลงไปกับหน้าผากฉัน ระหว่างนั้นฉันก็เหลือบมองหน้าคุณหมอไปด้วย คุณหมอนี่สวยจริงๆ ขนาดแต่งหน้าอ่อนๆนะ ยังสวยกว่าผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดๆอีก..

    หน้าหมอมีอะไรติดอยู่เหรอคะ?”

    ฉันนิ่งไปครู่ ไม่คิดว่าจะถูกจับได้.. ว่าแอบมองอยู่..

    เปล่าค่ะ..

    มีไข้อ่อนๆนะคะ เดี๋ยวหมอให้ยาไปทานแล้วก็ยาไปทานะ.. เดี๋ยวเชิญรับยาได้ที่ช่องแรกนะคะคุณหมอพูดเสียงนุ่มพร้อมกับยื่นใบสั่งยาให้ฉัน ฉันรับมาดูนิดหน่อยเพราะดูนานไปก็อ่านไม่ออกหรอก ฉันส่งยิ้มให้คุณหมออีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วจะเดินออกไป..แต่ทว่า..

    คุณหมอสวยมากนะคะฉันพูดยิ้มๆ พร้อมเดินออกไปนิ่งๆ ไม่ทันเห็นหน้าคุณหมอสาวสวยที่ขึ้นสีแดงระเรื่อยามถูกรับคำชมจากคนไข้ที่เพิ่งเคยเจอกันวันนี้

     

                     “น้องเอม !!

    ฉันหันไปตามเสียงเรียกเมื่อได้ยินเสียงดังขึ้น ก่อนที่ใบหน้าฉันจะเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงในรอบหลายวันที่ผ่านมา

    “สวัสดีค่ะคุณวิน”เป็นพี่ฟานี่ที่เหมือนจะรู้ใจ กล่าวทักทายขึ้นเสียก่อน พร้อมชิงเข้ามานั่งข้างฉันแทนที่จะปล่อยให้ พี่วิน หรือ ธาวิน ชายหนุ่มที่เธอเคยคบหาด้วย เข้ามานั่งข้างๆ รู้ใจดีขนาดนี้ สมแล้วที่เป็นพี่สาวคนสนิทของเธอ

    “สวัสดีครับคุณทิฟฟานี่ วันนี้มีถ่ายแบบกันเหรอครับ เหมือนผมเลย”ชายหนุ่มกล่าวอย่างสนิทสนม ก่อนจะมองข้ามมาหาฉันที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆ

    “น้องเอม

    “คะ?”ฉันขานรับพร้อมหันไปมองหน้าเล็กน้อย

    “วันนี้น้องเอมว่างหรือเปล่าครับ? ไปทานข้าวเย็นกับพี่นะ นานๆเราจะเจอกันที”เขาเอ่ยชวนพร้อมรอยยิ้มหวาน ฉันส่ายหน้า

    “ไม่ล่ะค่ะ พอดีเอมรีบ มีงานต่อ ไม่ว่าง”ฉันตัดบทอย่างไม่เหลือเยื่อใย และทันเห็นสีหน้าของพี่วินนั้นเจื่อนไปเล็กน้อย

    “งั้นเหรอครับ

    “เอม..เสียมารยาทไปหรือเปล่า?”พี่ฟานี่หันมากระซิบถาม ความจริงเธอก็เห็นใจชายหนุ่มอยู่ที่โดนยัยน้องของเธอทำท่าทีใส่แบบนี้ ฉันถอนหายใจเล็กน้อย เสียมารยาทอะไร แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ

    “ขอตัวนะคะ”ฉันพูดแล้วก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเดินออกไปทันที ปล่อยให้พี่วินและพี่ฟานี่อยู่ด้วยกันสองคนเงียบๆ ฉันไม่อยากเห็นหน้าและไม่อยากร่วมวงสนทนาให้นานกว่านี้ ผู้ชายห่วยๆ เสียเวลา !

     

           “เดี๋ยวสิครับน้องเอม น้องเอมครับ!

    พลั่ก !

    แรงเหวี่ยงบางอย่างทำให้ฉันเซถลาเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของใครบางคนที่วิ่งตามฉันมา และคงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก

    “ปล่อย!”ฉันพูดนิ่งๆพร้อมผลักพี่วินออกจากตัว ลุ่มล่ามกับฉันอีกแล้วนะ

    “น้องเอมครับเราจะคุยกันดีๆไม่ได้เลยงั้นเหรอ? เรื่องนั้นมันก็

    “จะขุดเรื่องเก่าๆมาทำไมคะ?”ฉันถามกลับพร้อมมองหน้าเขานิ่ง หากแต่เมื่อเห็นสายตาของพี่วินที่มองมา ก็ทำเอาฉันถึงกับกระตุกในใจไปเล็กน้อย

    “พี่พี่ขอโอกาสแก้ตัวซักครั้งได้มั้ยครับ? หรือก็ให้เราได้มีโอกาสได้คุยได้ปรับความเข้าใจกันก็ได้”น้ำเสียงที่เขาใช้นั้นดูจริงจังและเศร้าหมองจนฉันเองก็อดจะใจอ่อนไม่ได้

    “จะคุยเรื่องอะไรคะ? คุยตอนนี้ ตรงนี้ก็ได้นะ”

    “แน่ใจเหรอครับเอมว่าจะคุยกันตอนนี้….เราไปหาที่คุยกันได้มั้ย?..ในฐานะพี่ชายกับน้องสาวเท่านั้น นะครับ

    ฉันนิ่งไปครู่ ก่อนจะตัดสินใจพยักหน้าช้าๆ …. คงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง


                         “พี่วินจะพูดอะไรก็พูดมาค่ะ”ฉันเริ่มต้นถามคำถาม ฉันไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ ฉันแค่อยากให้เรื่องนี้มันจบไปเสียทีฉันถึงยอมมากับเขา

    “เรื่องของเรา..

    ฉันมองนิ่ง.. รอให้เขาได้พูดต่อ

    “จะเป็นไปได้ไหม? ถ้าเราจะกลับมาเริ่มต้นใหม่”เขาถามตรงๆพร้อมกับเอื้อมมือหนาของเขามาจับมือฉันเอาไว้ ฉันมองมือของเขานิ่งงันถ้าเป็นเมื่อก่อน คำตอบมันอาจจะได้แต่ตอนนี้

    “มาพูดอะไรเอาในตอนนี้ล่ะคะ? พูดในตอนที่เอมไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วเนี่ยนะ มันไม่สายไปหน่อยเหรอคะ?”ฉันถามกลับบ้างพร้อมดึงมือออกช้าๆ ไม่มีใครทนความเจ็บปวดแบบนั้นได้อยู่นานหรอกนะโดยเฉพาะคนอย่างฉัน

    “แต่น้องเอมก็ยังไม่มีใคร

    “แล้วรู้ได้ยังไงคะว่ายังไม่มี3ปีที่เราเลิกกัน พี่วินรู้เหรอว่าชีวิตเอมเป็นไง

    “พี่

    “เอมมีคนที่เอมรักแล้วค่ะ แล้วเอมก็รักเขามากด้วย พี่วินเก็บเอาความรู้สึกดีๆของพี่วินคืนไปเถอะนะคะ เอมไม่ต้องการ และก็คิดว่าคงไม่ต้องการมันอีกแล้ว ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆที่ยังเหลือเอาไว้ให้นะคะ แต่เอาไปใช้กับคนที่เขาต้องการเถอะค่ะ และคนๆนั้นไม่ใช่เอมอีกต่อไปแล้ว พี่วินมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่มั้ยคะ ถ้าอย่างนั้นเอมขอตัว”ฉันบอกนิ่งๆ แล้วจะเดินออกไป แต่ทว่าอยู่ๆฉันก็เหมือนคนจะเป็นลมขึ้นมาดื้อๆมือสั่นใจสั่น แถมเหงื่อยังออกตามร่างกายจนชุ่มไปหมด ฉันได้ยินเสียงพี่วินเรียกชื่อฉันและฉันถูกเขากอดเอวเอาไว้ ฉันพยายามจะร้องห้ามและพยายามดันเขาออกไป แต่ฉันกลับไม่มีแรงเหลือเลย..

    “พี่วิน.. ปล่อย”ฉันพยายามเรียกสติที่กำลังหายไปกลับคืนมา แต่สิ่งที่ฉันทำได้ตอนนี้คือพยายามไม่ให้ตัวเองล้มเท่านั้น

     “น้องเอมพี่ว่าน้องเอมไม่ไหวแล้วล่ะ ให้พี่ช่วยนะครับ”เสียงพี่วินกระซิบข้างหู พร้อมกับพาฉันเดินออกไปจากตรงที่เรายืนคุยกัน


                     “น้ำน้ำ..

    ฉันพึมพำเบาๆพร้อมกับเปลือกตาที่หนักอึ้ง ฉันมึนหัวไปหมดเลยตอนนี้ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้นะ ฉันพยายามมองไปรอบๆแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรไปได้มากกว่านี้ ตอนนี้ฉันรู้แค่ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังลูบไล้อยู่ที่ต้นขาฉันสัมผัสที่ชวนขนลุกนั่น ฉันไม่ชอบมันเลย!

    “น้องเอมหิวน้ำเหรอครับ? อยากทานน้ำเหรอ”ฉันได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ และเสียงนั่นมันก็คือเสียงพี่วิน …. มันกำลังจะทำอะไรฉัน !!

    “ไม่.. น้ำน้ำช่วยด้วย..”ฉันร้องออกมาเบาๆ หวังว่าน้ำจะเข้ามาช่วยฉัน น้ำช่วยเอมด้วย

    “ช่วยอะไรครับ พี่ไม่ได้พาน้องเอมมาทำอะไรซักหน่อย ก็แค่มาย้อนความหลังกัน”ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ พร้อมค่อยๆแกะกระดุมเสื้อของเขาออก เขาต้องการตัวผู้หญิงคนนี้ และเขาก็ต้องได้ คิดผิดชะมัดที่ปล่อยให้หลุดมือ !

    “ไม่เอา.. อย่าอย่าทำอะไรเอมนะ..น้ำ...น้ำช่วยเอมด้วย...น้ำขา..

    “ไม่ต้องกลัวหรอกครับน้องเอมมันสนุกนะ”พี่วินบอกเบาๆ พร้อมกับก้มลงมาหาฉันพร้อมรอยยิ้มร้ายที่น่ากลัวนั่น

    “น้ำ!!!



    .... "อย่ายุ่งกับเมียกู !!"....



    มาต่อแล้วนะคะ ยาวไปๆ อิอิ 

    เอมจะเป็นอะไรมั้ย ? น้ำจะช่วยได้ไหม? ลุ้นกันต่อไปคับ

    ขอบคุณทุกคอมเม้นน้าา ได้อ่านหมดเลยนะคะ ขอบคุณที่ชื่นชอบค่ะ เริ่มวุ่นวายไปทีละนิดๆ แล้ว  จะเป็นไงต่อไปก็ลุ้นกันต่อน้าา สำหรับใครอยากจะคุยกับไรท์ก็คุยกันได้ที่ทวิตนะคะ หรือติดแฮชแท็ก #JustloveFic

    แล้วเมนชั่นมาก็ได้น้าา ขอบคุณที่ติดตามคับผม

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×