ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC AIMNAM : JUST LOVE รัก วุ่น วาย

    ลำดับตอนที่ #22 : CH 22

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.56K
      46
      29 ธ.ค. 59

          


              “เอมไม่ไหวแล้วน้ำ มันปวด ปวดไปหมดเลย"เสียงเอมร้องครวญดังขึ้นเป็นระยะ จนฉันถึงกับทำอะไรไม่ถูก ได้แต่หันไปสั่งเด็กชายที่ยืนกุมมือเอมเอาไว้เสียงสั่น..

    "กำปอ กำปอไปตามคนมาช่วยพ่อทีนะลูก ให้ไวที่สุดเลย"ฉันหันไปสั่งเด็กน้อยที่ยืนกุมมือเอมเอาไว้ ฉันจะให้เขาเห็นของแบบนี้ไม่ได้ .. เขายังเด็ก

    "แล้วแม่เอมจะเป็นอะไรมั้ย"

    "ไม่หรอกลูก พ่อสัญญา.."

    "แม่เอม กำปอไปตามคนมาช่วยแม่เอมก่อนนะ เดี๋ยวกำปอมานะ"เด็กชายเขย่ามือเอมอีกครั้งแล้ววิ่งออกไปทันที ฉันมองตามก่อนจะหันมาเอมช้าๆ  ทำอะไรไม่ถูกใจสั่นตัวสันไปหมด ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมาทำหน้าที่คลอดลูกตัวเองในวันนี้

    “เอมจ๋า เอมอดทนนะคะ”ฉันได้แต่บอกแค่นั้น .. .ฉันไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี แล้วฉันควรทำอะไรก่อน!.. และคนที่ฉันคิดว่าจะช่วยฉันได้ก็มีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น

     

     

              ฉันนั่งประคองกอดเอมเอาไว้ด้วยใจที่สั่นระรัว เอมปวดท้องหนักขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้เลือดสดๆนั้นไหลออกมาจากระหว่างขาของเอมจนเต็มไปหมด มืออีกข้างถือโทรศัพท์เอาไว้เพื่อคุยกับปลายสายที่ฉันหวังว่าจะช่วยเธอได้.. แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าคนที่เธอต้องการความช่วยเหลือจะรับสายแต่อย่างใด ความร้อนใจและใจร้อนของฉันเกือบจะทำให้ตัดสินใจกดวาง หากแต่เสียงปลายสายกลับดังขึ้นซะก่อน

    “พี่หมอ ! พี่หมอช่วยน้ำด้วย !! เอมจะคลอดแล้วพี่หมอ เอมจะคลอดตาหนูแล้ว”ฉันบอกเสียงสั่น พร้อมกับใบหน้าที่ร้อนผ่าว แต่เสียงปลายสายกลับเย็นประดุจน้ำแข็งตอบกลับมาเบาๆ

    “ใจเย็นๆนะตั้งสติแล้วฟังพี่ดีๆ”เสียงปลายสายตอบกลับด้วยเสียงอบอุ่น ฉันค่อยๆหายใจช้าๆ พร้อมดึงสติตัวเองกลับมาอยู่กับตัวเอง เสียงพี่หมอยังคงดังอย่างต่อเนื่องเพื่อบอกวิธีเบื้องต้นและวิธีทีที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถจะทำได้ในตอนนี้

     

                “พร้อมแล้วค่ะฉันพูดกับปลายสายเบาๆ พร้อมรอฟังขั้นตอนตามที่พี่หมอบอกอย่างตั้งใจฉันตัดสินใจที่จะทำคลอดตาหนูเองกับมือ อาจเพราะฉันกลัวว่าถ้าขับรถลงไปตอนนี้ และถ้าคลอดระหว่างทางมันคงแย่กว่านี้แน่ๆ ตาหนูของพ่อต้องปลอดภัย

    ค่ะ ตอนนี้ให้คุณเอมชันขาทั้งสองข้างนะ

    ค่ะรับคำเบาๆพร้อมจัดการตามที่พี่หมอบอกอย่างตั้งใจ เสียงเอมยังคงร้องอยู่เป็นระยะด้วยความทรมาน จนฉันเองไม่กล้าขยับมากด้วยกลัวเมียตัวเองจะเจ็บไปมากกว่านี้

    เรียบร้อยแล้วค่ะ..

    ตอนนี้ก็ให้คุณเอมเตรียมตัวค่ะ..เราจะคลอดเจ้าตัวเล็กกันแล้ว..น้ำเตรียมพร้อมนะคะ..

    ค่ะ..

    เอมจ๋าอดทนนะคะ..อีกนิดเดียวนะฉันบอกเอมเบาๆที่นอนร้องโอดครวญทรมานเพราะตาหนูในท้องนั้นอยากจะออกมาดูโลกภายนอกเต็มที่แล้ว แต่ดูเหมือนเค้าจะไม่ยอมง่ายๆ เอมสั่นไปทั้งตัว และกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จนฉันถึงกับหน้าเสีย ทำไมมันดูเหมือนแย่ลงๆ เอมก็ร้องเจ็บปวดแทบขาดใจ แล้วไหนจะยังเลือดสดๆที่ไหลอกมาจนดูน่ากลัวนี่อีกด้วย มือเรียวเอื้อมวางบนท้องของคนเจ็บท้องเอาไว้อย่างอ่อนโยนพลางพร่ำบอกตาหนูให้หยุดแกล้งแม่ให้ทรมานเสียที

    ตาหนู แม่หนูเขาเจ็บปวดเหลือเกินลูก หนูอย่าทำแบบนี้สิลูก พอแล้วนร้องบอกเบาๆ.. พลันเด็กในท้องก็เหมือนรับรู้คำสั่งของผู้เป็นพ่อ ลดการถีบการดิ้นลงไปพอให้ความเจ็บปวดได้ทุเลาลง.. ฉันค่อยๆยิ้มออกมาอย่างโล่งอก ตอนนี้ร่างของเอมชุ่มไปด้วยเหงื่อจนเต็มไปหมด จนฉันเองรู้สึกผิดที่คิดอยากจะมีลูกขึ้นมาทันที ฉันไม่คิดว่าการคลอดลูกจะเจ็บขนาดนี้ จะขาดใจตายแล้ว

    เอมจ๋า น้ำขอโทษ

     

    น้ำ ฟังพี่นะ ดูซิคะว่าปากมดลูกเปิดพอหรือยัง?”เสียงปลายสายถาม ฉันพยักหน้ารัวๆ พร้อมกับเลิกชุดของเอมเปิดดูสิ่งที่คุณหมอบอก..

    น้ำว่า..น้ำคิดว่ามันเปิดพอแล้วนะคะ…”พูดเสียงสั่นขณะที่สายตาก็ปรายตามองร่างบางอย่างห่วงใย โธ่..

    ท้องแรกอาจจะนานหน่อยนะ ไม่ต้องกังวลนะคะ ใจเย็นๆนะเสียงพี่หมอปลอบโยนอย่างใจเย็น เพราะรู้ว่ายังไงคนทำคลอดต้องใจร้อนเป็นไฟแล้วแน่ๆ

    ค่ะตอบกลับพร้อมกับมองร่างบางอย่างแสนรัก อดทนนะคะเอม

     

                     ช่วงเวลาความเจ็บปวดยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันเบาใจคือศีรษะของเจ้าตัวเล็กที่โผล่ออกมาให้เห็น แต่พอเสียงร้องครวญของเอมดังขึ้นให้ได้ยิน หัวใจของฉันก็พลันดิ่งลงอีกครั้ง

    เอม..

    น้ำ..ฮือ..เจ็บน้ำฮือร่างบางปล่อยโฮออกมาอย่างสุดอั้น ทั้งเจ็บทั้งปวด ลูกจ๋า.. แม่ใจจะขาดแล้ว..

    อดทนอีกนิดนะคะ เค้ากำลังจะออกมาแล้วสู้ไปด้วยกันนะคะเอมฉันเสียงนุ่ม มือที่จับเอาไว้ซึ่งกันและกันบีบให้กำลังใจเอมเบาๆและเพื่อบอกให้รู้ว่าฉันจะไม่ไปไหน จะอยู่ข้างๆจนกว่ามันจะผ่านพ้นไป

    เอมใจจะขาดแล้วน้ำโอ๊ย!..ฮือ..เอมปวดเอมจ็บไปหมดแล้วคนเจ็บท้องร้องครวญเหมือนจะสิ้นใจ จนฉันนั้นเริ่มกลัว ถ้ารู้ว่าคลอดลูกมันจะทำให้คนที่ฉันรักต้องเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ฉันจะไม่อยากมีลูก จะไม่คิดมีเลยจริงๆ น้ำใสๆไหลลงมาจากดวงตาทั้งสองข้างของคนที่กำลังจะเป็นคุณพ่ออย่างฉัน ความสำนึกผิดนั้นพุ่งเข้ามาในใจของอย่างหนักหน่วงจนทำให้มีน้ำตา..

     

     

             “เมื่อไหร่จะคลอดกันเป็นคุณหมอนัทที่อดรนทนไม่ไหว เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องดังลอดเข้ามา ทำให้เขาอยู่ไม่สุข ทำไมมันถึงช้านัก ! ลุ้นไปด้วยแล้วเนี่ย

    ทีเขาก็อยากจะให้พ่อกับแม่ผ่านช่วงเวลาดีๆนี้ไปด้วยกันคุณหมอพัดตอบกลับเบาๆ

    ไม่ใช่ว่ามีปัญหาหรอกนะ.. แกก็รู้นี่ว่า

    “เด็กจะต้องไม่เป็นอะไร”คุณหมอพัดบอกเสียงนิ่ง เธอต้องให้เขาปลอดภัย!

     

          

                “ลองอีกครั้งนะคะคนดี น้ำจะอยู่ตรงนี้ น้ำอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนนะฉันบอกเสียงสั่นแม้ใบหน้าจะเต็มไปด้วยน้ำตาและเม็ดเหงื่อที่ขึ้นเต็มใบหน้าของฉัน แต่ตอนนี้ต้องเข้มแข็งและเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้กับอีกคน ฉันต้องห้ามอ่อนแอ…  ใบหน้าคมพยักหน้าช้าๆ เธอจะสู้.. สู้เพื่อลูกน้อยที่กำลังจะเกิด ความหวังของแม่ตอนนี้คือให้หนูได้ออกมาข้างนอกเท่านั้นหลังจากที่หนูต้องอดทนอยู่ในท้องของแม่ถึงเก้าเดือน ตอนนี้พ่อของหนูเขากำลังรอรับหนูอยู่นะคะ ลูกจ๋า อย่าดื้อ อย่าแกล้งให้แม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไปเลยนะลูก อย่ารีรออีกต่อไปเลยลูกจ๋าออกมาหลับมานอนในอ้อมกอดของพ่อกับแม่เถอะนะลูกรักร้องบอกลูกรักในท้องอย่างแสนอ่อนโยน พร้อมมือนุ่มที่สั่นเทายกขึ้นวางบนท้องของตัวเองเอาไว้แล้วลูบเบาๆ ก่อนจะออกแรงทั้งหมดที่มีให้เจ้าตัวเล็กได้ออกมาพบหน้าผู้เป็นพ่อและผู้เป็นแม่

           “กรี๊ดดดดดด!!!เสียงกรีดร้องที่แสดงถึงความเจ็บปวดขั้นสุดของร่างบางทำให้ทั้งคนเป็นพ่ออย่างน้ำและคนที่ฟังอยู่อีกที่ถึงอย่างคุณหมอที่คอยบอกวิธีและสอบถามอาการถึงกับเงียบกริบ

    ..

    ..

    ..

    “ทำไมเงียบไปแล้ว”คุณหมอนัทถามเบาๆทุกอย่างเงียบสงบ.. ทั้งๆที่ควรจะมีเสียงเด็กร้อง แล้วทำไมถึง

    “ฉัน น้ำน้ำได้ยินพี่มั้ย..น้ำ..”คุณหมอพัดพยายามเรียกอีกคน แต่ดูเหมือนจะไร้การตอบรับใดๆ

     

     

                ฉันอุ้มเด็กทารกน้อยตัวแดงฉานขึ้นมาสู่อ้อมอก ดวงตาเล็กๆนั้นนิ่งสนิท มือน้อยๆไม่มีการขยับใดๆทั้งสิ้น มันเกิดอะไรกัน ทำไมเขาถึงไม่ส่งเสียงร้องออกมา..ฉันมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้ในหัวของฉันไร้ซึ่งสิ่งใดๆ ความคิดหายไปกับอากาศ สติค่อยๆหลุดลอย..

    “คุณน้ำ!! พ่อน้ำ!!

    “ทำไมเค้าไม่ร้องเลยล่ะคะ?...” ฉันถามเบาๆ ป้าแม่บ้านที่กำปอไปตามมาช่วยค่อยๆเดินเข้ามาดู เธอรีบหยิบผ้ามาเช็ดตัวให้ลูกของฉันลวกๆ แล้วตบที่ก้นของเด็กน้อยเบาๆ หวังจะให้เขาตื่น.. แต่ไม่เลย.. เขายังนิ่งเงียบ.. เขาไม่ขยับตัวเมื่อเห็นว่าเด็กไม่ขยับตัวแล้ว ป้าแม่บ้านจึงหันไปช่วยเอมทันที อย่างน้อยป้าแกก็น่าจะพอรู้วิธีว่าหลังจากนี้ควรจะทำอะไร ในขณะที่ฉันไร้ซึ่งสติไปแล้วในตอนนี้

    “นะ..น้ำ..ละ..ลูกล่ะตะ..ตาหนู..”เสียงเอมที่อ่อนแรงดังขึ้นเงียบๆ ฉันไม่กล้าจะให้เอมรู้เรื่องนี้ และฉันก็ยังไม่ยอมรับความจริงด้วยเรื่องนี้มันไม่มีทางเกิดขึ้น ! ไม่มีทาง !!

    น้ำ..ลูกอยู่ไหน..เอาเค้ามาให้เอมสิ..เอามาเดี๋ยวนี้!!”เอมบอกเสียงดัง

    “คุณน้ำคะส่งเด็กให้คุณเอมเถอะค่ะ อย่างน้อยก็ให้เห็นหน้ากันก็ยังดี..

    ฉันพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะค่อยๆเดินไปหาเอมพร้อมลูกน้อยในอ้อมแขน เด็กน้อยถูกวางลงข้างๆคนเป็นแม่ช้าๆ และทันที่เห็นว่าลูกน้อยไม่ขยับตัวและไม่ส่งเสียงร้องทั้งๆที่ควรจะเป็น หัวใจของคนเป็นแม่เหมือนมีคนกรีดมีดลงกลางใจแทบจะทันที ...

    “หนูกำลังหลับอยู่ใช่มั้ยลูกทำไมหนูนิ่งแบบนี้ล่ะคะ..”เอมถามทั้งน้ำตา ฉันค่อยๆเบือนหน้าหนีเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์ที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาแนบหู

    “พี่หมอ.. มันเป็นความผิดของน้ำเองน้ำผิดเอง”ฉันพูดเบาๆ ถ้าฉันไม่ตัดสินใจที่จะทำคลอดตาหนูเอง เรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้ ฉันทรุดลงกับพื้นร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น

    “ตาหนูพ่อขอโทษ..”ฉันพูดเบาๆ ก่อนจะค่อยๆหันไปหาเอมที่กอดเด็กน้อยเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ..ฉันเอื้อมมือไปลูบตัวเด็กน้อยเบาๆ ทั้งใบหน้าจิ้มลิ้มที่เหมือนฉัน จมูกโด่งและปากที่ได้เอมมาไม่มีผิด ..

    “ทำไมหนูทำแบบนี้กับพ่อและแม่ล่ะลูกพ่อกับแม่เฝ้ารอจะเจอหนูมาเกือบเก้าเดือน แต่พอจะได้เจอ หนูกลับทิ้งพ่อไปแบบนี้น่ะเหรอ”..

     ฉันถามเจ้าตัวน้อยด้วยความเสียใจ ถ้าลูกได้ยิน พ่ออยากให้ลูกรู้นะ ว่าพ่อรักลูกมากแค่ไหน พ่อรอหนูมานานแค่ไหนกลับมาได้มั้ยเจ้าตัวเล็ก กลับมาให้พ่อและแม่ได้ชื่นใจเถอะนะลูก ตาหนูของพ่อ น้ำตาหยดแล้วหลดเล่าทั้งฉันและเอมไหลลงไปโดนร่างน้อยๆจนเปียกไปหมด แค่เพียงลูกน้อยตื่นลืมตาขึ้นมา จะเสียอะไรหรือจะต้องแลกกับอะไร พ่อกับแม่ก็ยอมทั้งนั้น

     

    “ตื่นสิตาหนูตื่นมาให้แม่ได้กอดได้หอมสิคะลูก..อย่าทิ้งแม่ไปแบบนี้ ตื่นสิคะลูกรัก



            เสียงร่ำร้องของปลายสายของทั้งคนเป็นพ่อและเป็นแม่ ทำเอาคุณหมอทั้งสองถึงกับน้ำตาซึม ... ทั้งๆที่เด็กแข็งแรงดีด้วยซ้ำ แต่พอวันที่จะได้ลืมตาดูโลก... กลับเป็นแบบนี้ไปได้..

    "ฉันเสียใจด้วยนะพัด..."

    หมอพัดยังเงียบ...  เธอต้องยอมรับความจริงใช่มั้ย.... นัยน์ตาหวานค่อยๆหลับลงช้าๆ... พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลริน... 


    ..


    ..

    ..

    ...









     “อุแว๊ อุแว๊!!








    ต่อแล้ววววววววววววววววววววววววววววววว โฮ้ยยยยยยยยยย กว่าจะได้อัพ เค้าขอโทษน้าาาา ช้าไปเยอะเลยยยยยยยยยยยยย เค้าไม่ใจร้ายหรอกค่ะ ตาหนูต้องรอด แค่ขี้เซาไปนิด 5555

    ไว้เจอกันทุกคนนนนนนนนนนนนนนนน จุ๊บๆ ไม่มีสปอยล์ค่ะ ลุ้นกันเอาเองว่าจะเป็นไงต่อไป




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×