ถ้าใครโชคดีได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ ผมในฐานะคนเขียนขอบอกได้เพียงคำเดียว ถ้าคุณชอบ
Solo leveling เพอร์ซี่แจคซัน OVERLORD เรื่องนี้จะเป็นอีกเรื่องที่อยู่ในใจคุณ
เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มผู้คิดว่าตนเข้าใจกฎพื้นฐานของจักรวาล ( THE ONENESS ) แล้ววันหนึ่งเขาได้หลงเข้าไปในป่าลึกลับที่เต็มไปด้วยสัตว์มหัศจรรย์ เวทย์มนต์ ด้วยโชคร้ายหรือชะตา เขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมหาสงคราม เทพเจ้า
เมื่อเขาดิ้นรนจนได้กลับโลกเดิมของเขา ก็พบว่าโลกเดิมที่เขากลับมาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เวลามันได้ผ่านไป 5 ปี ผู้คนที่มีการทำงาน ของเซลย์สมองเกิน 15% จะสามารถเข้าประตูมิติเพื่อเข้าไปในโลกต่างมิติ ด้วยเทคโนโลยีประตูมิติที่ค้นพบ ในวันที่พระเอกได้พลัดหลงเข้าไปเมื่อ 5 ปีก่อน แต่สิ่งที่โชคร้ายที่สุด คือ พระเอกกลับมาโดยที่พลังของเขาได้สูญหายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ เหลือแต่เพียง (THE ONENESS) ทฤษฎีสรรพสิ่งที่ตัวเขาเองคิดขึ้นเท่านั้น ที่จะเป็นที่พึ่งให้เขา
ข้อมูลประกอบการอ่านแนะนำให้อ่านนิยายก่อน อ่านรายละเอียดเหล่านี้นะครับ
ระดับของสัตว์อสูรในเรื่องนี้ มี 8 ระดับ
1. สัตว์สามัญ มีความแข็งแกร่ง เท่าๆกับ สัตว์ป่าในโลกมนุษย์
2. สัตว์อสูร เริ่มมีพลังพิเศษมีความแข็งแกร่งกว่า ระดับสามัญ 10 เท่า
3. สัตว์อสูรระดับหัวหน้า (เอลเดอร์ ) ส่วนใหญ่เป็นจ่าฝูง มีความแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรธรรมดา 10 เท่า
4. สัตว์อสูรระดับขุนพล ( วอลอร์ด ) พวกนี้จะมีเขตุปกครองและแข็งแกร่งกว่าระดับหัวหน้า 10 เท่า
5. สัตว์อสูรระดับขุนนาง ( มาควิส ) ระดับนี้จะมี สติปัญญาสูง และแข็งแกร่งว่าระดับขุนพล 10 เท่า
6. สัตว์อสูรระดับราชา ( เอมเพอเลอร์ ) สามารถทำลายเมืองได้ แข็งแกร่งกว่า ระดับขุนนาง 10 เท่า
7. สัตว์อสูรระดับตำนาน ( รีเจนดารี่) แข็งแกร่งกว่าระดับราชา 10 เท่ามีแต่เทพเจ้าที่จะต่อกรได้
8. สัตว์อสูรระดับเทพเจ้า ( แองเจิลบีส ) แข็งแกร่งกว่าสัตว์เทวะ แม้แต่เทพพระเจ้ายังยำเกรง เป็นสัตว์ในตำนานต่างๆ ที่มีพลังขนาดทำลายล้างโลกได้เลย
ระดับการฝึก ฌาน หรือ ระดับพลังพิเศษของมนุษย์ ก็มี 8 ระดับเช่นกัน
1. ปฐมฌาน เป็นขั้นต้นของผู้เริ่มใช้พลัง ความแข็งแกร่งไม่ต่างจากมนุษย์มากนักแต่ใช้พลังพิเศษได้
2. ทุติยฌาน ระดับพลังจะสูงกว่าขั้นปฐมฌาน 10 เท่า แบ่งเป็น ขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นสูง
3. ตติยฌาน ระดับพลังจะสูงกว่าขั้นทุติยฌาน 10 เท่า แบ่งเป็น ขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นสูง
4. จตุตถฌาน ระดับพลังจะสูงกว่าขั้น ตติยฌาน 10 เท่า แบ่งเป็น ขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นสูง
5. อากาสนัญจายตนะ ระดับพลังจะสูงกว่าขั้น จตุตถฌาน 10 เท่า แบ่งเป็น ขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นสูง
6. วิญญานัญจายตนะ ระดับพลังจะสูงกว่าขั้นก่อนหน้า 10 เท่า แบ่งเป็น ขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นสูง
7. อากิญจัญญายตนะ ระดับพลังจะสูงกว่าขั้นก่อนหน้า 10 เท่า แบ่งเป็น ขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นสูง
8. เนาวสัญญานาสัญญายตนะ พลังจะสูงกว่าขั้นก่อนหน้า 10 เท่า แบ่งเป็น ขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นสูง
แม้ระดับ พลังของมนุษย์จะมี 8 ระดับเหมือนกัน แต่ความแข็งแกร่งของมนุษย์กับสัตว์สูร ในระดับใกล้เคียงกัน มนุษย์ก็ยังจะอ่อนแอกว่าสัตว์อสูรอยู่มาก เปรียบเหมือนกับ คนธรรมดา อ่อนแอกว่า สัตว์ป่ามากนัก ดังนั้น มนุษย์จึงต้องชดเชยด้วยอาวุธ จำนวน และ สติปัญญา ในการเอาชนะสัตว์อสูร
ประเภทพลังจิตและวิชาที่เหมาะสม
1. (ไบโอ คอนโทรล) พลังจิตควบคุมร่างกายระดับเซลย์ เหมาะกับ วิชากำลังภายใน เพิ่มความแข็งแกร่ง ของร่างกาย แม้กระทั่งเปลี่ยนแปลงร่างกาย
2. (แชลแนลลิ่ง) การสื่อสารกับจิตที่ละเอียด เหมาะกับวิชาเข้าทรง อัญเชิญ
3. (ไซคิฮีลลิ่ง) พลังจิตที่ใช้รักษา เหมาะกับวิชารักษาและฟื้นสภาพร่างกาย
4. (ไซโครเมทรี) พลังจิตที่ทำให้เข้าใจสิ่งของ รับรู้เรื่องราวผ่านวัตถุ เหมาะกับ วิชาประดิษของลงอาคม
5. (ไมด์คอนโทรล) พลังจิตควบคุมจิตใจ เหมาะกับ วิชา ดีบัฟ บัฟ ควบคุมทาส สะกดจิต
6. (แอนนิมอลไซ) พลังจิตสื่อสารกับสัตว์ เหมาะกับวิชาควบคุมสัตว์
7 (ไซคิคแวมไพรริซึ่ม) พลังจิตดูดพลังชีวิต เหมาะกับวิชา ควบคุมศพ กินศพ ดื่มเลือด
8. (ไพโรคิเนซิส) พลังจิตควบคุมไฟ เหมาะกับวิชาเวทย์สายธาตุไฟ
9. (ครายโอคิเนซิส) พลังจิตควบคุมน้ำ เหมาะกับวิชาเวทย์ สายธาตุน้ำ
10. (แอรโรคิเนซิส) พลังจิตควบคุมอากาศ เหมาะกับวิชาเวทย์ สายธาตุลม
11. (เทเลคิเนซิส) พลังควบคุมวัตถุ ไม่มีวิชาที่เหมาะสมเป็นพิเศษ
12. (ซีเนอร์จี) เป็นพลังจิตสายพิเศษที่เกิดจากการผสานพลังจิตหลายอย่างเข้าด้วยกัน ทำให้เหมาะกับการฝึกวิชาหลายๆสาย
ความคิดเห็น