เกมเบรน-เอจ พัฒนาสมองด้วยเกม - เกมเบรน-เอจ พัฒนาสมองด้วยเกม นิยาย เกมเบรน-เอจ พัฒนาสมองด้วยเกม : Dek-D.com - Writer

    เกมเบรน-เอจ พัฒนาสมองด้วยเกม

    เกมเบรน-เอจ พัฒนาสมองด้วยเกม

    ผู้เข้าชมรวม

    955

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    955

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ต.ค. 49 / 13:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เกมเบรน-เอจ พัฒนาสมองด้วยเกม




      วันนี้ไม่ได้มีเรื่องเกี่ยวกับเกมอะไรมาเล่า แต่จะเป็นเรื่องของผลการวิจัยเกี่ยวกับคนเล่นเกม ที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟังว่า ผลของการเล่นเกมนั้น จะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง

      มาที่ผลการวิจัยชิ้นแรก ที่ระบุว่า ในขณะที่การออกกำลังกายทำให้ร่างกายแข็งแรง การเล่นเกมถือเป็นการออกกำลังกายสมองอย่างหนึ่ง ที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อขึ้นจากการใช้ความคิด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะความจำเสื่อมลงได้เมื่อยามสูงอายุ

      รายละเอียดของผลการวิจัยชิ้นนี้เป็นการศึกษาในประเทศจีน ซึ่งเผยแพร่ในวารสารประสาทวิทยาเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 5,000 คน ที่อายุ 55 ปีขึ้นไป พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เล่นเกมพัซเซิล หรือเล่นเกมใด หรือมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความคิด จะทำให้กระบวนการรับรู้ของประสาทเสื่อมช้าลง ในขณะที่ผู้สูงอายุที่มักแต่นั่งดูโทรทัศน์จะมีความเสี่ยงที่ประสาทจะเสื่อมเร็วมากขึ้น

      นายเดวิด เรโนลด์ส นักประสาทวิทยา บอกว่า มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นที่บ่งชี้ให้เห็นว่า คนที่เล่นพัซเซิล บอร์ดเกม และการทำกิจกรรมกระตุ้นความคิด จะสามารถลดความเสี่ยงที่จะความจำเสื่อมได้ หรือทำให้เกิดโรคจิตเสื่อมในยามแก่เฒ่าได้ ซึ่งการออกกำลังกายสมองนั้น เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้ป่วยสามารถทำได้เพื่อลดการเสื่อมของสมอง ดีกว่าการใช้ยาใดๆ เสียอีก


      ซึ่งเกมยอดนิยมสำหรับการฝึกสมองตอนนี้ คงจะหนีไม่พ้นเกม "ซูโดกุ" เกมที่ดูเหมือนจะง่าย แต่เล่นยาก แถมยังได้ฝึกสมองไปในตัวอีกต่างหาก

      ในขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างนินเทนโด ก็เป็นบริษัทแรกที่พัฒนาเกมที่ไว้ใช้สำหรับการฝึกความคิด ที่ชื่อ "เบรน เอจ" ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเกม "บิ๊ก เบรน อคาเดมี" ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน เกมที่เกิดจากแรงบันดาลใจของนักวิจัยชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ เรียวตะ คาวาชิมา เป็นเกมสำหรับเล่นกับเครื่องเล่นนินเทนโด ดีเอส ที่เป็นเครื่องแบบ 2 จอ โดยล้วนแล้วแต่เป็นเกมสำหรับฝึกสมองขั้นสูงทั้งสิ้น และนินเทนโดเองก็พยายามที่จะผลักดันให้บรรดาผู้ที่อายุ 40 ถึง 50 ปีขึ้นไป ได้ลองเล่นกันเพื่อฝึกสมอง จนตอนนี้ก็ขายได้แล้วกว่า 350,000 ชุดแล้ว


      มาถึงอีกงานวิจัยหนึ่งที่ทางเว็บไซต์โคตากุดอตคอมเป็นผู้คนพบงานวิจัยของคาวาชิมาที่เผยแพร่เมื่อเดือนเมษายน 2544 ระบุไว้ว่า การเล่นวิดีโอเกมจะทำให้การพัฒนาสมองส่วนที่ทำให้มนุษย์สามารถควบคุมพฤติกรรมต่อต้านสังคมลดการพัฒนาลง โดยคาวาชิมาได้ทดสอบทฤษฎีของเขาด้วยการเปรียบเทียบข้อมูลของการเปลี่ยนแปลงของสมองเด็กระหว่างที่กำลังเล่นเกมและขณะที่กำลังทำการทดสอบ "เครียเพ-ลิน" ซึ่งเป็นโจทย์เลขง่ายๆ คล้ายกับเกมเบรน เอจ พบว่า ระหว่างทำการทดสอบเครียเพ-ลิน เด็กจะใช้สมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาของส่วนหน้า ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำหรับการเรียนรู้ ความจำ ความรู้สึก และการควบคุมแรงกระตุ้น แต่ในขณะที่เด็กกำลังเล่นวิดีโอเกมอยู่นั้น จะมีการใช้สมองในส่วนที่เป็นการมองและการติดตามการเคลื่อนไหวเท่านั้น

      คาวาชิมาให้สัมภาษณ์ไว้ตอนนั้นว่า หากเป็นเช่นนี้ โลกเราอาจจะเกิดปัญหาเด็กรุ่นใหม่ที่เล่นแต่เกมคอมพิวเตอร์ กลายเป็นเด็กอย่างที่เราไม่เคยเห็นกันมาก่อน อันจะนำมาซึ่งปัญหาใหญ่หลวงคือความรุนแรงในสังคมที่เพิ่มขึ้น โดยเด็กนักเรียนเหล่านี้จะทำในสิ่งที่เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ หากมัวแต่เล่นเกมและไม่ทำอย่างอื่นเลย เช่น อ่านหนังสือหรือเรียนคณิตศาสตร์

      คาวาชิมาบอกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องปัญหาของสังคม ผู้ปกครองควรจะให้เด็กออกมาเล่นนอกบ้านกับเพื่อนๆ บ้าง และมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนมากที่สุดเท่าที่จ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×