สุขาวดีที่รัก ภาคที่ ๑ เทพผู้ผิดพลาด

แนะนำตัวละคร
ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บต่างๆ ด้วยนะคะ (ขออภัยที่ไม่สามารถบอกเครดิตได้หมด)
หมายเหตุ : ทุกๆ ภาพเป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น บางอย่างอาจไม่ตรงคำบรรยาย
...................................    


    

(ซ้าย)  องค์สหัสนัยน์  (ขวา)  สุนันทาเทวี

องค์สหัสนัยน์ เป็นเทพผู้มีอำนาจสูงสุดปกครองสามโลก คือ แดนสุขาวดีหรือโลกมนุษย์ สวรรค์ และนรกภูมิ มีกายสีเขียวมรกต วงรัศมีรอบกายเป็นสีเขียวอ่อน เมื่อยามโกรธจัด จะเปล่งเป็นสีเขียวเข้มกระจายไปทั่วทุกทิศ พระองค์ทรงประทับที่ไพชยนต์มหาปราสาทบนยอดเขาพระสุเมรุ ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์  เบื้องล่างล้อมรอบด้วยนำทะเลจากสีทันดรสมุทร
สุนันทาเทวี เป็นพระชายาขององค์สหัสนัยน์ ถือกำเนิดมาจากดอกบัวสวรรค์ในสระสุนันทา มีความสามารถในการรักษาอาการบาดเจ็บของเหล่าเทพได้

      

(ซ้าย) พระธาษตรี  (ขวา)  นางอัปสรพสุนทรา

พระธาษตรี เป็นหนึ่งเทพผู้คุ้มครองทิศทั้งสี่ เรียกว่าจตุเทพ ทำหน้าที่รักษาสมดุลของผืนดินและผืนป่า ในยามปกติจะมีกายดั่งมนุษย์ ผิวคร้ามแดด แต่ในยามสู้รบ กายจะแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงอิฐ พระขรรค์สีทองเจิดจรัส พระธาษตรีเป็นเทพประจำทิศอุดร ณ ปราสาทสีทองคำอร่ามตา นามว่า โลกธาตุมหาปราสาท มีพระชายาและอนุภรรยาทั้งหมด ๖ นาง
พสุนทรา  เดิมทีมีวรรณะเป็นนางอัปสร เป็นบุตรสาวที่กำเนิดจากชายารองของพระเธียร มีนิสัยเรียบเฉย ไม่ค่อยพูดจาพาที รักน้องสาวมาก ต่อมาได้อภิเษกเป็นพระชายาเอกของพระธาษตรี จึงเลื่อนวรรณะขึ้นเป็นพระเทวี

    

(ซ้าย) พระอรรณพ  (ขวา)  นางอัปสรมัสยา

พระอรรณพ หรือเทพประจำทิศทักษิณ ทำหน้าที่ดูแลผืนน้ำทั้งหมด เป็นหนึ่งในจตุเทพผู้อ่อนโยนปนขี้เล่นใจดี ขี้อาย แม้แต่สาวที่ชอบก็ไม่กล้าเกี้ยวพาราสี ไม่ชอบการสู้รบ ยามปกติจะมีสีผิวขาวเหลือง แต่ในยามรบ ผิวกายจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอมเขียว ถือพระขรรค์สีเงินยวงสุกไสว พระอรรณพพำนักในปราสาทสีเงิน นามว่า สาคเรศมหาปราสาท
มัสยา  วรรณะเดิมเป็นนางอัปสร ประจำอยู่วิมานขององค์สหัสนัยน์ ทำหน้าที่ดูแลสระสุนันทา ต่อมาองค์สหัสนัยน์ได้ประทานนางให้อภิเษกเป็นพระชายาของพระอรรณพ เพราะรู้ว่าพระอรรณพหมายตาอยู่

    

(ซ้าย)  พระมารุต  (ขวา)  นางอัปสรสกุณี

พระมารุต เป็นหนึ่งในจตุเทพ ผู้ดูและผืนฟ้าและสายลมทั้งหมด ประจำอยู่ที่ทิศประจิม ที่ปราสาทสีไพลินระยิบระยับนามว่าอนิลนาถมหาปราสาท  พระมารุตเป็นชายรูปงาม เจ้าชู้ มีพระชายาและอนุภรรยาทั้งหมด ๑๖ นาง ในยามปกติจะมีผิวกายสีขาวซีด แต่ในยามรบจะมีกายเป็นสีเทาเขม่า ถือพระขรรค์สีทองแดงแกร่งกล้า
สกุณี เป็นธิดาของพระวิรุฬห์ราช มีนิสัยเข้มแข็งดุดันและเย่อหยิ่ง นางสามารถปกครองอนุภรรยาอีก ๑๕ นางของพระมารุตได้อยู่หมัดเพียงแค่ตวัดสายตา ขนาดพระมารุตยังต้องยอมลงให้

พระภานุ (ซ้าย) ยามปกติ (ขวา) ยามโกรธเกรี้ยวเมื่อออกรบ

พระภานุ เป็นเทพที่ถือกำเนิดขึ้นในสงคราม จึงมีนิสัยใจร้อน ก้าวร้าว และไม่ฟังใคร เขาเป็นหนึ่งในจตุเทพที่มีฤทธิ์มากที่สุด ประจำอยู่ทิศบูรพา  ณ ไตรวิกรมมหาปราสาท ความมุทะลุ และดื้อรั้นของเขาทำให้องค์สหัสนัยน์ส่งไปประจำยังทิศบูรพา ทำหน้าที่ดูแลดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เพื่อให้ความสว่างไสวกับโลกมนุษย์และสวรรค์ทั้งกลางวันและกลางคืน ในยามปกติพระภานุจะมีกายสีขาวใส ปากสีแดงสด แต่ในยามรบจะมีผิวกายสีแดงเพลิง บนศีรษะจะมีเปลวไฟล้อมรอบ ถือพระขรรค์เพชร พระภานุมีพระชายาที่ ๒ พระนางและอนุภรรยาอีก ๔๔ นาง ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้เล่ห์กลลวงให้สรัสวดีตกหลุมพราง เชื่อใจและไว้ใจยอมอภิเษกด้วย แต่เพราะความเอาแต่ใจและเอาตนเองเป็นที่ตั้ง ความมีทิฐิและมานะสูงจึงทำให้เขาเลือกเดินทางผิด และเป็นเหตุให้หญิงสาวที่เขารักมากที่สุดต้องเสียใจและไม่ยอมอภัยให้อีกเลย

นางอัปสรสรัสวดี

สรัสวดีเทวี

สรัสวดี  เดิมที่เป็นนางอัปสรประจำอยู่วิมานของพระทุคาติราช ทำหน้าที่ดูแลอุทยานดอกไม้ ถือกำเนิดจากดอกปาริชาต ซึ่งเป็นดอกไม้บนสวรรค์ มีความสามารถในการฟื้นฟูหรือทำให้ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาในมือทุกดอกฟื้นคืนกลับมาเบ่งบานและส่งกลิ่นหอมได้อีกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งมีเหตุการณ์ที่ทำให้ได้พบกับพระภานุโดยบังเอิญ  นางจึงตกหลุมรักพระองค์ในทันที แต่เพราะนางชอบความรักที่มีเพียงหนึ่ง จึงใจแข็งต่อพระภานุที่ทรงเสน่ห์เหลือล้น ทำให้พระภานุเจียนคลั่งทุกครั้งที่เข้าใกล้ แต่ในที่สุดความใจแข็งของนางก็พ่ายแพ้ให้กับความเจ้าเล่ห์แสนกลของพระภานุ นางตบปากรับคำขอแต่งงานไปโดยมิทันฉุกคิดว่านั้นจะนำพาความเสียใจให้กับนางไปตลอดชีวิต

อรัญญิกกาเทวี

อรัญญิกกา เป็นธิดาในพระชายาเอกของพระเธียร มีนิสัยดื้อรั้น และซุกซน ครั้งหนึ่งนางซุกซนลงไปเล่นน้ำในสระหนึ่งบนโลกมนุษย์ พบเจอพญาครุฑผู้เกเรและหมายจะได้นางเป็นเมีย แต่อรัญญิกกาพยายามจะหนี จึงถูกพญาครุฑสาปใส่ ให้กลายเป็นดอกไม้ตลอดกาล หากไม่แต่งงานภายในวันแรมที่จะถึง จึงเป็นเหตุให้พี่สาวร้อนใจ จนต้องหาคู่อภิเษกมาให้ แต่นางก็ไม่ยอมท่าเดียวเมื่อรู้ว่าคู่อภิเษกคือ อุรคเทวัญ  ครั้นเมื่อเจอพระภานุเข้าในวันหนึ่งก็ตกหลุมรักพระองค์ในทันที  แม้จะรู้ว่าพระภานุมีพระชายาอยู่แล้ว แต่ก็หักห้ามความรักนี้ไม่ได้เลย จึงต้องยอมเป็นพระชายารองอย่างจำใจ

พระพรหม

พระพรหม หรือท้าวจตุพักตร์เป็นเทพผู้รักษาสมดุลของสวรรค์ อยู่ภายใต้การปกครองขององค์สหัสนัยน์ มีกายสีม่วงอ่อน ในยามปกติจะมีเพียงหน้าเดียว แต่ในยามสงครามจะมีสี่พักตร์แปดกร ถือคทามรกต ซึ่งองค์สหัสนัยน์ประทานให้ มีนิสัยตรงฉินและซื่อสัตย์ หลงรักสรัสวดีตั้งแต่แรกพบ คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจนางมาตลอด จนกระทั่งนางอภิเษกกับพระภานุไป เขาก็มิสนใจหญิงสาวผู้ใดอีกเลย

พระวิรุฬห์ราช

พระวิรุฬห์ราช เป็นเทพผู้ดูแลกฎของสวรรค์ มีกายปกติสีส้มอ่อน อาวุธคู่กายคือตรีศูลเพทาย ประทับอยู่ ณ ป่าผารุสกวัน มีพระชายาและอนุภรรยารวม ๗ นาง มีบุตรสาวที่เกิดจากชายาเอกนามว่าสกุณี ในบรรดาเทพ ๘ พระองค์ พระวิรุฬห์ราชอาวุโสที่สุด

   

    

(ซ้าย)  พระทุคาติราช  (ขวา)  ศศิวิมลเทวี

พระทุคาติราช เป็นเทพผู้ดูแลกฎแห่งกรรมในโลกมนุษย์ มีกายสีชมพูอ่อน สี่กร ถืออาวุธเป็นจักรแก้ว มีพระชายาและอนุภรรยาทั้งหมด ๑๒ นาง เขาเคยแอบหมายตาสรัสวดีเอาไว้ แต่นางก็ไม่เล่นด้วย และไม่หลงลมคำเกี่ยวพาราสี จนกระทั่งพระภานุเข้ามา เขาจึงยอมปล่อยนางให้พระภานุไปโดยง่าย เพียงแค่เห็นแววตาทั้งสองที่สื่อความรักให้แก่กันและกัน
ศศิวิมลเทวี ถือกำเนิดจากก้อนเมฆสีทอง ที่พระทุคาติราชประทับ นางเป็นหญิงสาวขี้หึง แต่ก็ไม่เคยบอกกล่าวแก่ภัสดาเลย จึงแอบกลั่นแกล้งอนุภรรยาและสรัสวดีอยู่บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมสงบลงเมื่อพระทุคาติราชสัญญาว่าจะไม่รับอนุภรรยาอีก

พระเธียร

พระเธียร เป็นเทพผู้รักษาความสมดุลในโลกมนุษย์ มีกายสีดำทมิฬ ใบหน้าดุดัน ถือหอกสีนิล เป็นพระบิดาของพสุนทราเทวี และอรัญญิกกาเทวี มีพระชายาและอนุภรรยาทั้งหมด ๕ นาง

ปรวาณ

ปรวาณ มีวรรณะเป็นเทวดาผู้ใกล้ชิดองค์สหัสนัยน์ มีกายสีเงินสุกไสว คอยรับใช้และรายงานเรื่องราวทุกอย่างให้องค์สหัสนัยน์ฟังอยู่เสมอ เป็นบริวารที่มีฤทธิ์มากองค์หนึ่ง แต่พยายามเก็บงำอิทธิฤทธิ์เอาไว้ เพราะอยากอยู่รับใช้องค์สหัสนัยน์ไปตลอดกาล

พระพาย

พระพาย เป็นเทวดาแห่งสายลม อยู่ภายใต้การปกครองของพระมารุต มีหน้าที่พัดพาลมพายุไปทั่วทุกทิศ และนำข่าวสารจากรอบโลกมารายงานพระมารุต

อุรคเทวัญ

อุรคเทวัญ เป็นเทวดาภายใต้การปกครองของพระวิรุฬห์ราช มีธนูเป็นอาวุธ มีกายสีม่วงเข้ม ทำหน้าที่ดูแลสรรพสัตว์ในป่าหิมพานต์ มีนิสัยเจ้าชู้ และขี้หลี จนผู้หญิงทั่วสวรรค์ต่างเอือมระอาและหน่ายหนี อุรคเทวัญเป็นคู่หมายเดิมของอรัญญิกกาเทวี จึงโกรธเคืองพระภานุมากที่มาตัดหน้าแย่งนางไป

เทวปุตตมาร

เทวปุตตมาร  มีรูปกายเป็นยักษ์ ผิวกายสีน้ำเงินเข้ม ถือกระบองแก้วเป็นอาวุธ  เดิมทีเป็นเทพประจำทิศบูรพา แต่คิดการใหญ่หมายจะยึดอำนาจบนสวรรค์ไว้เป็นของตนจึงพยายามเข่นฆ่าเทวดาทุกตนที่ไม่ยอมศิโรราบให้ เมื่อถูกองค์สหัสนัยน์จับได้จึงถูกส่งลงไปยังนรกอเวจี แต่ในที่สุดก็หนีออกมาได้และทำการอุกอาจจนเป็นเหตุแห่งความสะเทือนใจมิรู้ลืม

บัวแก้ว

บัวแก้ว  เป็นนางอัปสรคนสนิทของสุนันทาเทวี คอยดูแลรับใช้ไม่ขาดตกบกพร่อง

นรีวรรณ

นรีวรรณ  เป็นนางอัปสรในวิมานของพระทุคาติราช ชอบยุแยงและขี้อิจฉา

____________________________________________________________________

วรรณะบนสวรรค์

วรรณะที่ ๑ : พระอินทร์/องค์สหัสนัยน์

- เป็นชื่อใช้เรียกเทวดาที่มีวรรณะที่มีอำนาจสูงสุดมีเพียง ๑ พระองค์

วรรณะที่ ๒ : เทพ/เทวี

- เทพใช้เรียกเทวดาที่มีวรรณะที่มีอำนาจรองลงมาจากองค์สหัสนัยน์ มีทั้งหมด ๘ องค์ คือ พระธาษตรี พระอรรณพ พระมารุต พระภานุ  พระพรหม พระวิรุฬห์ราช พระเธียร พระทุคาติราชโดยแยกประจำอยู่ ๘ ทิศ
- เทวี ใช้เรียกแทนหญิงสาวที่เป็นพระธิดา พระชายาขององค์สหัสนัยน์หรือหญิงสาวที่อภิเษกและได้รับการแต่งตั้งจากวรรณะเทพ ซึ่งจะต้องเลื่อนมาจากวรรณะนางอัปสร หากหญิงสาววรรณะเดิมต่ำกว่านางอัปสรจะแต่งตั้งได้เพียงแค่อนุภรรยาหรือพระสนมเท่านั้น

วรรณะที่ ๓ : เทวัญ/นางอัปสร

- เทวัญใช้เรียกแทนผู้ชายในวรรณะที่สาม ซึ่งมักกำเนิดจากมนุษย์ที่มีบารมีมาก หรือเป็นบุตรชายของพระเทวีที่เลื่อนชั้นมาจากนางอัปสร เปรียบเสมือนทหาร ซึ่งจะแบ่งเป็น ๙ สังกัดประจำเทพทั้ง ๘ องค์ และอีก ๑ กลุ่มจะปกป้ององค์สหัสนัยน์
- นางอัปสร ใช้เรียกแทนสตรีที่กำเนิดจากพระเทวีที่เลื่อนชั้นมาจากนางอัปสร หรือกำเนิดจากบุญบารีที่ทำไว้ จะแบ่งเป็น ๙ กลุ่ม เช่นเดียวกันเทวัญ มีหน้าที่ดูแลทุกสิ่งอย่างภายในปราสาท

วรรณะที่ ๔ : เทพารักษ์/เทพธิดา

- เทพารักษ์/เทพธิดา เป็นเทวดาชั้นดุสิต ทำหน้าที่คอยดูแลทุกข์ สุขของมนุษย์ บ้างก็ดำรงอยู่บนสวรรค์ บ้างก็ดำรงอยู่ตามไม้ใหญ่บนโลกมนุษย์

วรรณะที่ ๕ : คนธรรพ์

- คนธรรพ์ เป็นเทวดาที่คอยให้ความสำราญแก่เทวดาวรรณะสูงกว่า โดยการเล่นดนตรี หรือแสดงมหรสพ