ยัยสุดแสบมัดหัวใจนายตัวร้าย - นิยาย ยัยสุดแสบมัดหัวใจนายตัวร้าย : Dek-D.com - Writer
×

    ยัยสุดแสบมัดหัวใจนายตัวร้าย

    เมื่อพี่ชายสุดที่รักเล่นการพนันจนเป็นหนี้ (เจ้าพ่อ) ชีวิตที่เคยสงบสุขของฉันได้หายวับไปในพริบตา ต้องคอยหนีอย่างหัวซุกหัวซุน แต่โชคไม่เข้าข้าง หนีพ่อดันมาเจอลูก บอกได้คำเดียวว่าซวยสุดๆงานนี้

    ผู้เข้าชมรวม

    122

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    122

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    3
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  21 มี.ค. 58 / 13:55 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    กรุงเทพมหานคร

                    ทั่กๆๆๆๆ ตึกๆๆๆๆ

                    แฮ่กๆๆ ไม่ไหวแล้วโว้ย จะวิ่งตามกันไปถึงสวรรค์วิมานไหน ไอ้พวกบ้านี่ก็อึดชะมัด วิ่งไล่ตามฉันไม่รู้จักเหนื่อย ถ้าจะอึดขนาดนี้ ทำไมไม่ไปแข่งวิ่งโอลิมปิกห๊ะ รับรองพวกแกคว้าเหรียญทองมาให้ประเทศไทยได้แน่ แฮ่กๆๆ...ขอหยุดหายใจแป๊บ

                    ผู้ชายใส่ชุดสูทสีดำหลายคนกำลังวิ่งกรูมาทางฉัน เฮ้อ ขอพักสักห้านาทีไม่ได้เลยหรือไง เพราะพี่ชายตัวดีของฉันแท้ๆ ดันไปเล่นพนันบอลแล้วแพ้พนันจนเป็นหนี้เกือบสามแสน ฉันอยากจะบีบคอพี่ชายตัวแสบให้ตายคามือ เมื่อไม่มีเงินจ่ายหนี้พวกมัน ฉันก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุน ส่วนพวกนั้นก็กัดไม่ปล่อยสักที

                    ตี้ด ตี้ด พี่ชายสุดหล่อโทรมารับโหน่ย~

                    บ้าเอ้ย! จะโทรมาทำไมตอนนี้ ฉันวิ่งอยู่ ฉันไม่เคยได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ไหนทุเรศเท่าของฉันเลย

                    “ฮัลโล พี่ไทน์”

                    [แกอยู่ไหน ตายรึยัง]

                    “ตอนแรกก็ยังไม่ตาย พอพี่โทรมาฉันกำลังตาย พวกมันไล่ฉันไม่หยุด วาเลนไม่ไหวแล้วนะ ถ้าฉันวิ่งต่อไปฉันจะต้องตายแหงๆ”

                    [เอาอย่างนี้ แกไปเจอไอ้บีเจที่หน้าตึกซีเนียร์ ฉันให้มันรอรับแกอยู่ที่นั่น ระวังตัวด้วย]

                    “ดะ...เดี๋ยว”

                    ไม่ทันแล้ว พี่ฉันพูดจบก็วางสายไปอย่างรวดเร็ว บ้าที่สุด แล้วฉันจะรู้จักไอ้ตึกซีเนียร์อะไรนั่นไหมล่ะ ฉันวิ่งต่อไปหันหลังไปมองพวกทวงหนี้ เฮ้อ ยังจะตามมาอีก ไม่ได้การล่ะฉันต้องทำอะไรสักอย่าง

                    ระหว่างทางที่หนีพวกทวงหนี้ ฉันก็วิ่งซอกแซกเข้าตามตรอกออกตามซอยต่างๆ หวังว่าคราวนี้มันคงจะตามไม่ทันนะ แต่เอ๊ะ นี่ฉันอยู่ส่วนไหนละเนี่ย โอ้ยอยากจะบ้าตาย ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งมองซ้ายมองขวากลัวว่าพวกนั้นจะตามมาเจอ และแล้วพวกมันก็เจอฉันจนได้

                    วิ่งๆๆๆ ฉันวิ่งหนีจนไปหยุดอยู่หน้าผับแห่งหนึ่ง เสียงดนตรีดังกระหึ่มลอดออกมาข้างนอก ฉันเดินเข้าอย่างไม่ลังเลหวังว่าจะใช้เป็นที่หลบสักพัก เพราะในนี้คนแน่นมาก ฉันเดินเบียดผู้คนที่กำลังเต้นกันอย่างเมามันส์ จนมาหยุดอยู่หน้าบาร์ ฉันชะเง้อมองไปทางประทางเข้าแล้วก็พบว่า ชายชุดดำพวกมันยังตามฉันอยู่ ตกลงพวกนั้นเป็นคนหรือหมากันแน่ ตามดมกลิ่นฉันหรือยังไงย่ะถึงได้รู้ว่าฉันเข้ามาที่นี่

                    พวกมันเข้ามาใกล้แล้ว

                    เอาไงดีล่ะ ฉันมองซ้ายมองขวาก่อนจะเจอเทพบุตร ไม่สิ ผู้ชายหน้าตาคมเข้มนั่งกระดกเหล้าอยู่หน้าบาร์ ถึงในนี้จะมืดแต่ฉันก็รู้ว่าเขาต้องหล่อมาก มองข้างๆยังหล่อขนาดนี้ เอาว่ะ ช่วยเป็นไม้กันหมาให้ฉันหน่อยก็แล้วกัน

                    ฉันดึงโบว์ที่รัดผมออก แล้วสยายผมยาวสลวยของฉัน ดึงเสื้อให้เปิดไหล่นิดๆเผยให้เห็นผิวตรงหัวไหล่ขาวๆเนียนๆ พวกชายชุดดำกำลังตรงมาที่บาร์ฉันไม่รอช้า เดินเข้าไปสวมกอดเทพบุตรอย่างไม่ลังเล

                    “หืม”

    พ่อเทพบุตรไม่ทำท่าตกใจหรือขัดขืนเลยสักนิด แถมยังทำเสียงแปลกใจใส่ฉัน ฉันเหลือบมองชายชุดดำพวกนั้นกำลังเดินตรงมาทางนี้ ฉันรีบกดหน้าซุกกับแผงอกพ่อเทพบุตรทันที อ่า..กลิ่นนี้มันอะไร หอมแบบเย้ายวนชวมเคลิบเคลิ้ม ไม่ใช่สิ ไม่ใช้เวลาที่จะมาเคลิบเคลิ้มอะไรตอนนี้ ฉันรู้สึกเหมือนไม้กันหมาของฉันหันไปมองอะไรสักอย่าง ไม่ได้ จะให้เขาหันไปมองไม่ได้ถ้าเกิดเจอกับพวกชายชุดดำ แล้วพวกมันสงสัยเดินเข้ามาหาพวกเราจะทำยังไง หึหึ ระแวงไปทั่ว

    ฉันเงยหน้าจากแผกอกของผู้ชายหน้าหล่อก่อนจะใช้สองมือของฉันจับที่ใบหน้าของเขาให้หันกลับมาสบตาฉัน สูดลมหายใส่ลึกนับหนึ่งถึงสามฉันจากนั้นก็...

    จูบ!

    นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันใจกล้าหน้าด้านจูบผู้ชาย ริมฝีฝากฉันประกบกับริมฝีปากเขา ฉันรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าว ฉันมันเป็นผู้หญิงหน้าไม่อาย แต่ก็ไม่แคร์ เพราะถึงคราวจำเป็นฉันก็ต้องทำ ชายคนนั้นจูบตอบฉันจนฉันรู้สึกถึงกลิ่นแอลกอฮอล์ ไม่ได้ มันไม่ใช่แบบนี้ ตอนนี้เขากำลังคุกคาม มือของเขากำลังลูบที่หลังของฉัน ฉันพยายามจะผลักออกแต่ไม่เป็นผล เขากลับทำมากกว่าเดิม

    “ขอโทษนะครับ..คุณคิลเลอร์เห็นผู้หญิงตัวเล็กๆสูงประมาณนี้ วิ่งมาทางนี้บ้างหรือป่าวครับ” ฉันถึงกลับสะดุ้ง ก็ไอ้ชายชุดดำถามถึงฉันกับนายหน้าหล่อ ไม่ใช่สิ คิลเลอร์ เขาชื่อ คิลเลอร์

    คิลเลอร์ถอนริมฝีปากออกจากฉันแล้วหันหน้าไปสบตากับชายชุดดำ ส่วนฉันก็แกล้งหันหน้าหนีแล้วซบลงไปที่อกคิลเลอร์ เท่ากับว่าพวกมันไม่ยังไม่เห็นหน้าฉัน

    “ฉันจะไปรู้ได้ไงวะ ผู้หญิงในนี้มีตั้งเยอะ พวกแกไปไกลๆหน้าฉันก่อนจะฉันจะอารมณ์เสีย ไป๊!” คิลเลอร์คอกใส่พวกนั้นดังลั่น ฉันเองยังสะดุ้ง ก่อนที่ชายชุดดำคนนี้จะไปรู้สึกเหมือนว่าจะมีใครมาเพิ่ม

    “ขอโทษนะครับที่รบกวนความสุขส่วนตัว แต่พวกเรากำลังตามหาผู้หญิงคนนึงซึ่งผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกหนี้ของท่านเอบเนอร์...ถ้าคุณคิลเลอร์จะให้ความร่วมมือผมจะขอดูหน้าผู้หญิงของคุณคิลเลอร์จะได้ไหมครับ”

                    ไม่นะ ฉันกำเสื้อคิลเลอร์จนแน่น เหมือนเขาเองก็รู้สึกได้ เขานิ่งเงียบอยู่ครู่นึงก่อนจะเอ่ยปากบอกผู้ชายอีกคน

                    “ถึงแกจะเป็นมือขวาคนโปรดของพ่อฉัน...แต่ไม่ได้หมายความว่าแกจะมาสั่งฉันได้นะไอ้ออสก้า”

                    อึก! พ่อหรอ พ่อนายคือเจ้าหนี้ฉันแล้วนายก็คือลูกของเจ้าหนี้ฉัน อ๊ากกก ฉันเข้าใจสุภาษิตหนีเสือปะจระเข้ อย่างลึกซึ้งก็วันนี้

                    “ขอโทษครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะสั่งคุณคิลเลอร์”

                    “ผู้หญิงคนนี้ฉันเป็นคนพามาเอง แต่ถ้าแกอยากดูก็ได้ แต่ พวกแกต้องฝ่าตีนลูกน้องของฉันให้ได้ก่อนละกัน”

    คิลเลอร์พูดจบเสียงฝีเท้าคนเป็นสิบก็ยืนล้อมพวกเราไว้

                    “ถ้าคุณคิลเลอร์ยืนยันว่าพาผู้หญิงคนนี้มาเอง ผมก็ไม่มีอะไรจะถามต่อ”

    พวกชายชุดดำเดินออกจากร้านไป ใครจะไปโง่พอสู้กับคนเป็นสิบละเนอะ ฉันเงยหน้ามาสบตากับคิลเลอร์ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป มือหนาๆของคิลเลอร์คว้าข้อมือฉันทันควัน

    “ฉันไม่ช่วยใครฟรีๆหรอกนะ อีกอย่างเธอก็เป็นลูกหนี้ของพ่อฉันอีกด้วย” คิลเลอร์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

    “จะเอายังไงก็ว่ามา”

    “นอนกับฉัน แล้วฉันจะปล่อยเธอไป”

    หน้าไม่อาย มาขอให้ฉันนอนกับนายเนี่ยนะ ไอ้ทุเรศเอ๊ย ฉันสะบัดข้อมือออกจากมือหนาๆของเขา แต่คิลเลอร์กลับกระชากข้อมือจนฉันเซลงไปนั่งบนตักของเขาอย่างง่ายดาย

    “ไม่มีทาง”

    “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะโทรบอกไอ้ออสก้าว่าเธออยู่กับฉัน จะเอาไง” ฉันกัดฟันแน่นอย่างเหลืออด นี่ฉันต้องมาเจอกับเทพบุตรซาตานหรอเนี่ย แต่จะทำยังไง ถ้าไม่ไปกับหมอนี่เขาจะส่งฉันให้กับพ่อของเขา เอาว่ะเลือกทางที่เสี่ยงน้อยที่สุด ยังไงฉันก็เคยเรียนศิลปะป้องกันตัวมาบ้าง

    “อยากทำอะไรก็ทำ” ฉันกระแทกเสียงใส่เขา คิลเลอร์ยิ้มอย่างผู้ชนะ เขาฉุดข้อมือฉันให้เดินตามเขาไป ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้เลยต้องจำใจเดินตามเขาไปที่ชั้นสาม คิลเลอร์เปิดประตูห้องแล้วผลักฉันเข้าไปก่อนจะเขาจะปิดประตูลงล็อก

    เขาเดินมาทางฉันสายตาเขาเหมือนเหยี่ยวที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ ฉันเดินถอยหลังจนติดผนัง คิลเลอร์ก้มมองหน้าฉัน ฉันเงยหน้ามองหน้าเขา จะบอกว่าคิลเลอร์สูงกว่าฉันมาก เขาจับปลายคางฉันเชิดก่อนที่จะประทับริมฝีปากแต่ฉันกลับเบือนหน้าหนี คิลเลอร์เลยเลื่อนมือค่อยๆปลดกระดมเสื้อฉันออกเม็ดแรก

    คิดหรอว่าฉันจะยอมอะไรง่ายๆ ฉันจับมือคิลเลอร์ที่กำลังจะปลดกระดุมเม็ดที่สอง จากนั้นฉันก็บิดมือเขาอย่างไม่ปราณี คิลเลอร์ทำสีหน้าเจ็บปวดจังหวะที่เขาเจ็บ ฉันบิดแขนเขามาไขว้ที่หลัง

    “นี่เธอ”

    “อย่าขยับนะ ไม่งั้นฉันหักแขนนายแน่” คิลเลอร์นิ่วหน้าอย่างเจ็บปวด มันเจ็บใช่ไหมล่ะ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับฉัน ไม่นานนักเขาก็พลิกสถานการณ์ คิลเลอร์หมุนตัวแขนเขาหลุดจากมือฉัน กลายเป็นว่าตอนนี้เขาใช้แขนล็อคคอฉันไว้

    “อย่างเธอจะสู้ฉันได้หรอ อ่อนวะ”

    หืม อ่อนหรอ

    ปึก!

    “อั่ก!

    ฉันกระทุ้งศอกไปที่คิลเลอร์ที่ล็อกคอฉันอยู่ข้างหลัง หมอนั่นงอตัวเล็กน้อยแต่ไม่ยอมปล่อยฉัน ฉันเลยกระทุ้งศอกไปอีกรอบ คราวนี้คิลเลอร์ใช้มืออีกข้างรับข้อศอกฉันไว้ทัน เขาบิดแขนข้างที่กระทุ้งศอกใส่เขาไว้ข้างหลัง ตอนนี้ฉันเสียเปรียบแบบสุดๆ โดนล็อกคอโดนล็อกแขน

    “คราวนี้ก็มาสนุกกันได้แล้ว เบบี๋” หมอนั่นกระซิบข้างหูฉัน เบบี๋หรอ ฉันอยากจะอ้วก

    งับ!

    ฉันกัดไปที่แขนของคิลเลอร์ที่เขาใช้ล็อกคอฉันอยู่ รู้สึกใช่ไหมว่ามันเจ็บขนาดไหน คิลเลอร์ร้อยโอ้ยด้วยความเจ็บอีกครั้ง เขาปล่อยฉันออก ฉันหันไปเผชิญหน้ากับเขาก่อนที่จะ..

    ปึก! ผลัวะ!

    “โอ้ย นี่เธอ”

    “จุกใช่ไหมละ..สมน้ำหน้าอยากมาบ้ากามกับฉันดีนัก...อ่อนวะ”

    จะไม่ให้จุกได้ยังไงล่ะ ก็ฉันเตะเข้าเป้าซะขนาดนั้นแถมหมัดให้ด้วยแบบฟรีๆ หมอนั่นกุมเป้าลงไปกองกับพื้นพูดไม่ออกสีหน้าบ่งบอกว่าเจ็บปวดสุดๆ ฮุวะฮ่าๆ ตลกหน้าหมอนี้ชะมัด แต่ก็สมน้ำหน้า คนแบบนี้ก็ต้องเจออย่างฉัน ฉันรีบสาวเท้าเดินไปที่ประตูห้องก่อนจะปลดล็อก แต่แค่นี้มันยังไม่สะใจ ฉันเดินกลับไปที่คิลเลอร์อีกรอบ

    ผลัวะ!

    “ลาขาด ชาตินี้อย่าได้เจอกันอีกเลย ไอ้โรคจิต”

    ฉันซัดหมัดเข้าไปที่เบ้าหน้าของคิลเลอร์อีกรอบอย่างไม่ทันตั้งตัว หมอนั่นกุมหน้าตัวเองแล้วมองฉันอย่างเกรี้ยวโกรธ ฉันรีบเดินออกจากที่นี้ไปทันที ลืมไปเลยว่าบีเจรอฉันอยู่ที่ตึกซีเนียร์

    ไม่นานแท็กซี่ก็มาส่งฉันที่ตึกซีเนียร์ ฉันเห็นบีเจและพี่ไทน์ยืนพิงรถรอฉันอยู่ สองคนนั้นดูกระวนกระวายมากๆ ฉันรีบวิ่งไปหาพวกเขาทันที

    “วาเลน ทำไมมาช้า พี่คิดว่าโดนพวกมันเล่นงานซะแล้ว”

    พี่ไทน์ทำสีหน้าโล่งอกเมื่อเห็นฉันกลับมาครบสามสิบสอง

    “ก็เกือบคะ...พอดีหนีพ่อไปเจอลูก ซวยสุดๆ”

    “ลูก?” พี่ไทน์กับบีเจพูดพร้อมกัน

    “คิลเลอร์ลูกชายเจ้าหนี้ของพี่น่ะสิ ไอ้บ้านั่นช่วยฉันจากพวกชุดดำแล้วบอกให้ฉันนอนกับเขาเพื่อเป็นการตอบแทน แต่ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการไอ้บ้านั่นแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นหมันแล้วมั้ง ฮ่าๆ” ฉันพูดอย่างอารมณ์ดี

    “ซวยแล้วไง แกทำร้ายคิลเลอร์หรอเนี่ย มันไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่ ไอ้หมอเนี่ยกัดไม่ปล่อยเหมือนพ่อมัน”

    “เอางี้ แกแล้วก็น้องสาวแกมาย้ายมาอยู่ที่คอนโดฉันก่อน ถ้าเกิดแกกลับบ้านไปวันนี้มีหวังโดนจับ พวกนั้นต้องดักรอแกอยู่ที่บ้านแน่ๆ” บีเจที่ยืนฟังเอ่ยปากช่วย พี่ไทน์ผนักหน้ารับ

    “ขอบคุณนะบีเจ”

    ฉันยิ้มให้บีเจอย่างซึ้งใจ บีเจเป็นเพื่อนของพี่ไทน์ถึงเขาจะอายุมากกว่าฉันแต่บีเจไม่ยอมให้เรียกเขาว่าพี่เหตุผลคือมันฟังดูแก่ บีเจยีหัวฉันจนยุ่งเหยิงแล้วเปลี่ยนมากอดคอฉันแทน รู้สึกใจฉันเต้นแปลกๆแฮะ

    “เฮ้ยๆ ปล่อยเลย” พี่ไทน์รีบแกะมือบีเจออกจากคอฉัน

    “ชิ! หวงน้อง” บีเจเบ้ปากอย่างหมันไส้ ฉันมองสองคนนี้แล้วส่ายหัว
                ....................................................................................................................................................................

     

     

     

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น