[ตอนเดียวจบ] Dear soul🎀 แรกประสบการณ์รัก
Pwp ตอนเดียวจบค่ะ/ ขอหัวใจฮีลใจไรท์คนละดวงนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ผู้เข้าชมรวม
268
ผู้เข้าชมเดือนนี้
14
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
????อธิบาย: ตัวละครทุกคนอายุมากกว่า 18 ปี ตัวเอกพบกันโดยที่ พ่อ(ของเจเจ) และแม่(ของโซล)ของทั้งคู่แต่งงานใหม่เมื่อไม่นานมานี้ โปรดเอ็นดูเมะหมาน้อยๆๆ อุ๋งอิ๋งที่ดุเป็นบางเวลาของไรท์ด้วยนะคะ
non biological/ Related by parents marriage????????
PWP--ish???”/Dear Soul… ตอนเดียวจบ
สำหรับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง…
การมองเด็กหนุ่มอีกคนนั่งดื่มสตอเบอรี่มิลค์เชคไม่ควรจะทำให้สติตึงเครียดได้ขนาดนี้นะ
"โซลให้เค้าใส่โปรตีนสองสกู๊ป… อร่อยมากเจลองสิ"
"มะ...ไม่เป็นไร" พูดจบเจเจก็ยกกาแฟดำขมปี๋ของตัวเองขึ้นจิบ ต้องปลอบใจไม่ให้สำลักออกมาเมื่อร่างบอบบางของหนุ่มตรงหน้าลุกขึ้น พาดผ้าขนหนูไว้ที่พนักเก้าอี้ก่อนจะพึมพำถึงการลงสระรอบสุดท้าย
"เดี๋ยวโซลลงไปอีกรอบ เราค่อยกลับ รอแป็บนึงนะ"
"โอเคๆ " เจเจพยายามไม่มองไอ้เงาขาวๆ ไหวๆ ระดับสายตา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบเห็นเมื่อเจ้าตัวห่างออกไปแล้ว
ต้นขากลมแน่นกำลังปีนลงไปในสระ มือน้อยยกขึ้นโบกอีกรอบก่อนที่แผ่นอกเล็กบาง หน้าท้องนูนน้อยๆ กับก้นซาลาเปาใต้กางเกงว่ายน้ำขาสั้นสีดำจะหายลงไป เห็นแค่ผมสีน้ำตาลอ่อนดำผุดดำว่ายอยู่ท่ามกลางประกายสีฟ้าของน้ำ… เหมือนเงือกน่ะ แต่อวบนิดๆ ในสายตาเจเจก็รู้สึกว่าน่ารักดีโดยเฉพาะแก้มโมจิที่น่าบีบนั่น
ยามบ่ายของคลับเฮ้าส์ร้างผู้คน เด็กหนุ่มที่นั่งยุกยิกมาพักหนึ่งแล้วผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านใน…
เสียงถอนหายใจดังผสานกับน้ำหยดจากฝักบัวลงพื้นกระเบื้อง เมื่อมองดูแล้วว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น เขาก็หายตัวแว่บเข้าไปในห้องน้ำห้องหนึ่ง
ต่อให้มีคนอยู่เขาก็ไม่แคร์หรอก ให้ตายสิวะ! ใครอยากใช้ให้เขาเกิดมาเป็นวัยรุ่นอายุสิบเก้าที่บ้าพลัง และเลือดร้อนขนาดนี้ มันร้อนไปหมด ทั้งอารมณ์ความรู้สึก
เจเจเอนกายอยู่บนบานประตูด้านใน ยกเสื้อคาบไว้ในปากขณะที่มือวุ่นวายปลดเชือกผูกเอวกางเกงวอร์มออกอย่างหงุดหงิด
'รอไม่ได้รึไงวะ'
เขาคิดกับตัวเองพลางบีบประคองตัวตนที่จวนเจียนจะระเบิดอยู่รอมร่อ มันขยับไหวยังกับมีชีวิตจิตใจงั้นล่ะ มือเรียวลูบรูดไปด้วย กัดฟันแน่นไปด้วย จินตนาการของเขาแว่บไหวไปเห็นแผ่นอกบางของใครบางคน ริมฝีปากชุ่มฉ่ำที่เพลิดเพลินไปกับรสหวานน้อยอร่อยมากของมิลค์เชค ลิ้นเล็กๆ ที่ไล่เลียริมฝีปาก และหลอดแบบช้อน บางครั้งก็เผลอทำมันหยดไหลลงบนท่อนแขน รอยยิ้ม ฟันกระต่ายน่ารัก เสียงหัวเราะนั้นทำให้เขาสูดริมฝีปากอย่างไม่อาจหักห้ามใจ หน้าท้องเกร็งเห็นเป็นลอนเมื่อความสุขสมใกล้จะไปถึงจุดหมาย เขาเดินเข้าไปใกล้ชักโครก พ่นเสียงลมหายใจลอดผ่านซี่ฟันที่ขบแน่น เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ดวงตามองดูของเหลวอันพิลึกพิลั่นฉีดกระเด็นไปเปรอะเปื้อนอยู่บนฝาปิดชักโครก
บ้าเอ๊ย!! เขาไม่คิดว่ามันจะพุ่งขึ้นไปขนาดนั้น เล็งพลาดแบบนี้ก็ต้องถูกทำโทษด้วยการทำความสะอาดส้วมให้คลับเฮาส์ฟรีๆ สินะ
เมื่อทำธุระเสร็จสิ้น รวมไปถึงกำจัดคราบน่าอายพวกนั้นจนหมดก็เปิดประตูออกไปพบกับตัวต้นเหตุที่ทำให้เขางุ่นง่านแบบนี้
โซลเลิกคิ้ว "นึกอยู่เลยว่าเจหายไปไหน"
แผ่นหลังกว้างพิงอยู่บนกรอบประตูห้องน้ำเหมือนอยากจะจมหายไปอีกมิติเสียให้ได้
"เอ้อ… โซลเลิกว่ายน้ำแล้วเหรอ"
"เหนื่อยแล้วอ่ะ หิวด้วย เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จเรากลับกันเถอะ"
"อือ...เจรอข้างนอกนะ" ว่าจบร่างสูงก็ปลิวออกไปจากห้องน้ำคลับเฮาส์ทันที อยากจะบ้าตาย โซลไม่ควรได้รู้ว่าเขาทำอะไรลงไป…
…ไม่ควรได้รู้ว่าการอยู่ใกล้ๆ โซลทำให้ร่างกายเขาเกิดอาการประหลาดที่ยากจะอธิบาย
"อ๋อยยย เหนื่อยชะมัดเลย เจนายอย่าเท้าลากพื้นแบบนั้นสิ มันขี่ยากนะ" เสียงคนขี่จักรยานบ่นอุบ
"ก็รถจักรยานมันเตี้ยเกิ๊น! โซลแน่ใจว่าจะไม่ให้เจขี่เองจะได้ถึงบ้านเร็วๆ "
"ไม่เอา!"
"เบิร์นเยอะดีนะ จะได้ลดไวๆ " เจเจเอ่ยมาจากเบาะซ้อนท้าย กลั้นหัวเราะแทบไม่ได้
การดูแลนักกีฬาว่ายน้ำมือสมัครเล่นที่ชอบดื่มมิล์คเชคเป็นชีวิตจิตใจไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กลิ่นสบู่หวานผสานอวลเหงื่อชื้น แม้จะเพิ่งอาบน้ำใหม่ๆ แต่ท่ามกลางแดดจัดยามบ่ายแบบนี้ก็ทำเอาคนขี่ที่ฮึกเหิมหอบแฮ่ก กว่าจะถึงบ้านเล่นเอาเสียเหงื่อจนต้องไปอาบน้ำอีกรอบ
"ลดลงไม่กี่ขีดเอง" โซลบ่นกับตัวเองเมื่อยืนบนเครื่องชั่ง เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วทำหน้ายู่ยี่เดินไปยังห้องของเจเจที่ปิดอยู่
"เจเจ" มือเคาะลงไปบนบานประตู ไร้เสียงตอบรับ "เจ, โซลจะบอกว่าถ้าเหนื่อยขนาดนี้แล้วยังไม่ลดอีกโซลจะเลิกออกกำลังกายแล้วนะ"
เงียบ… โซลดันมือจับประตูเข้าไปเบาๆ "เจ…"
ใจคิดถึงแต่เรื่องน้ำหนัก และอะไรจิปาถะ ตั้งแต่แม่ซื้อเตาอบให้เป็นของขวัญ เขาก็ฝึกทำขนมไม่ได้หยุด สนุกทำสนุกชิมจนแม่เองนั่นแหละทักว่าแก้มยุ้ยขึ้นรึเปล่า หลังจากวันนั้นแม้จะไม่สามารถหยุดทำขนม ซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบที่สุดในชีวิตได้ แต่จำเป็นต้องหยุดชิม และหันมาโหมลดน้ำหนักแทน
...มันก็แค่แก้ม… เขาเป็นคนมีแก้มนี่ และพุงหมาน้อยป่องๆ ที่เมื่อยืดตัวนิดหน่อยมันก็เหมือนจะแว่บหายไป เฮ้อออ!! อุตส่าห์เชื่อเจเจที่แนะนำให้ไปออกกำลังกาย ยิ่งไปด้วยกันรายนั้นมีแต่ลีนขึ้นเรื่อยๆ ทว่าเขากลับยังพองเหมือนอึ่งอ่าง
"เจ…" ดวงตากลมสอดส่ายมองไปรอบห้องนอนของน้องชายต่างบิดามารดา ประตูห้องน้ำเปิดออกมาพร้อมร่างสูงที่กำลังเสยผมขึ้นจากใบหน้าชื้นเหงื่อ ดวงตาเบิกโพลงเหมือนเห็นผีอีกรอบ
"นายโอเคนะ ท้องเสียเหรอเข้าห้องน้ำบ่อยจัง"
"อะ เอ่อ… ก็...นิดหน่อย" เจเจรู้สึกกระอักกระอ่วนสิ้นดี "โซลมาทำอะไรห้องเจ เดี๋ยวเราต้องไปเจอคุณคิ้มที่สนามบิน เตรียมข้าวของครบแล้วรึยัง"
"เตรียมตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว…" โซลเอ่ยเบา มองดูคนตรงหน้าที่พยายามไม่สบตา ไม่ใช่เรื่องน่าอายสักหน่อย แค่ท้องเสียเองนะ
เทศกาลสงกรานต์ปีนี้คาบเกี่ยวระหว่างชั่วโมงทำงานอันหนักหน่วงของคุณอาทร คุณพ่อของเจเจที่มีธุรกิจรัดตัวจนถึงวินาทีสุดท้าย ส่วนคุณคิ้มแม่ของโซลก็มีเรื่องให้จัดการนิดหน่อยที่บริษัท ทำให้ทุกคนต้องนัดเจอกันที่สนามบินเพื่อไปเที่ยววันหยุดที่นานๆ ทีจะมีสักหน โดยคุณอาทรที่บินตรงจากต่างประเทศได้บินล่วงหน้าไปแล้วที่จุดหมายปลายทาง
ที่สนามบิน คนเป็นพ่อนั่งดื่มกาแฟรออยู่ที่คอฟฟี่ช็อปแห่งหนึ่ง ทุกคนดูชื่นมื่น ตื่นเต้นเตรียมรับวันหยุดยาวที่จะมาถึง ทว่าเมื่อไปถึงโรงแรมกลับพบฝูงมหาชนจำนวนมาก คำว่าที่พักสวยบรรยากาศส่วนตัวในตอนนี้กลับไม่ต่างจากหาดพัทยาในหน้าร้อน ที่หน้าเคาน์เตอร์คุณอาทรพยายามคุยกับพนักงานต้อนรับที่ขอโทษขอโพย
"เราจะชดเชยให้ด้วยชั่วโมงสปา ของว่างและเครื่องดื่มตามใจลูกค้าเลยนะคะ เราต้องขออภัยจริงๆ ค่ะลูกค้า"
เจเจลากกระเป๋าของครอบครัวตามมาสมทบในขณะที่โซลมองพ่อเลี้ยงสลับกับพนักงานท่าทางเลิ่กลั่ก
"เกิดอะไรเหรอฮะพ่อ"
"เราจองไว้สามห้องใช่มั้ย แต่ระบบไฟมีปัญหาห้องนึง เข้าอยู่ไม่ได้ แล้วห้องอื่นก็เต็มหมด ให้ตายสิ"
เจเจเหลือบไปมองพี่ชายตัวเล็กพลางยักไหล่ "ผมนอนกับโซลก็ได้นี่ฮะ ไม่มีปัญหาใช่ไหมโซล ก็ให้พ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน จะให้มาจับคู่พ่อใคร,ลูกใครมันก็ไม่ใช่อ่ะเนอะ"
ว่ากันด้วยเหตุผลนั้นโซลก็ได้แต่ถอนใจ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยนอนกับใครเลย หมายถึงใครอื่นที่ไม่ใช่แม่น่ะ จะว่าไปแม่ก็แยกห้องนอนกับเขาตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ ที่จำความได้ไปไหนก็มีห้องของตัวเองตลอด ไม่เคยต้องแชร์… มันไม่ใช่การเข้าค่ายลูกเสือนี่
งั้นจะถือว่านี่คือการเข้าค่ายละกัน โซลยักไหล่ กุญแจห้องถูกส่งมา เจเจลากกระเป๋าของตัวเองและโซลขึ้นลิฟท์ไป
...เตียงคู่ หมายถึงเตียงเดี่ยวควีนไซส์สำหรับนอนคู่กันน่ะ เฮ้อ...นั่นมันเหนือความคาดหมาย
"โซลเลือกข้างก่อนสิ" เจเจเสนอ โซลคิดว่าตรงไหนก็คงเหมือนกันจึงเดินไปนั่งอยู่บนเตียงฝั่งซ้าย วางกระเป๋าสะพายและจัดของเรียงไว้บนโต๊ะหัวเตียง โซลเป็นคนมีระเบียบมาแต่ไหนแต่ไร…โทรศัพท์ สายชาร์จ และลิปมันหลอดสีฟ้า
เจเจอดยิ้มไม่ได้ เขาถอดเสื้อออก เหลือเพียงตัวเปลือยเปล่ากับกางเกงวอร์มขาสามส่วน เมื่อเห็นสายตาของโซลที่หลุบหนีก็เอ่ยเบา
"ร้อนนะ บนรถตู้ก็แอร์เสียรึไง มาถึงก็ไฟเสีย โรงแรมหรูแบบไหนของพ่อ"
"อือ…" โซลหยิบโทรศัพท์มากด ตอบข้อความของใครบางคนพลางอมยิ้ม เจเจถือวิสาสะยืดคอก้มมองดูเล็กน้อย
"เพื่อนเหรอ"
มือบางพลิกโทรศัพท์หนีจนมันหลุดมือตกลงพื้น เจเจก้มลงเก็บให้ ออกจะเสียมารยาทที่เขาหันหน้าจอขึ้นมาดู สายตาไม่เห็นด้วยของคนตรงหน้าที่คว้าโทรศัพท์คืนคือการลงโทษ
"เจแค่อยากรู้… โซลสนิทกับเค้าเนอะ"
เสียงตัดพ้อ? แม้แต่เจ้าตัวยังแปลกใจ คราวก่อนที่คุณคิ้มไม่ว่างไปรับโซลที่มหาลัย เจเจอาสาขับรถไปแทน ก็พบว่าพี่ชายต่างสายเลือดของเขาใกล้ชิดเป็นพิเศษกับเพื่อนร่วมคลาสคนนั้น
แม้จะยังไม่มีใบขับขี่แต่พ่อยืนยันกับคุณคิ้มว่าเจเจมีวุฒิภาวะและมีความสามารถที่จะขับรถได้ในเวลาฉุกเฉิน
'ผมเลี้ยงลูกให้เป็นผู้ใหญ่เกินตัว, วันหนึ่งเขาต้องดูแลกิจการทั้งหมดของผม เขาคือคนเดียวที่ผมจะฝากชีวิต และไว้ใจ'
เหตุผลนั้นแหละทำให้เจเจที่อายุน้อยกว่าโซลถึงสองปี แต่ดูโตจนเหมือนวัยเดียวกัน ไม่ต้องพูดถึงรูปร่างสูงโปร่งที่ได้มาจากคุณอาทร เจเจคือเบบี้วัยสิบเก้าในร่างของผู้ใหญ่ที่โตเต็มที่
เสียงอาบน้ำดังออกมาจากห้องน้ำเคล้าเสียงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่ทั้งคู่เปิดเอาไว้เพื่อลดความเงียบในห้อง เจเจก้าวไปยังโต๊ะกลางข้างเตียง หยิบหลอดสีฟ้าใสออกมาแล้วทาลงไปบนริมฝีปาก กลิ่นหอมเหมือนนมชวนให้จินตนาการเตลิดเปิดเปิง เขาเลียริมฝีปากในขณะที่นึกว่านี่คือจูบของโซล หอมหวาน นุ่มนวลจนอยากจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว
เสียงประตูห้องน้ำเปิด เจเจทำเป็นเดินกลับไปที่เตียง เฝ้ามองคนตัวเล็กกว่าหยิบลิปมันที่เขาเพิ่งแอบใช้ขึ้นมาทาต่อ เป็นโมเมนท์ที่ทำให้หัวใจเต้นรัวจนต้องเม้มปากตามอย่างไม่รู้ตัว รสนมหวานหอมจากหลอดก็ยังไม่สู้ปากอิ่มอมชมพูที่น่าลิ้มลองยิ่งกว่า
เจเจอยากมีโอกาสนั้นกับโซลจริงๆ แต่เขาจะต้องทำยังไงล่ะ…อย่างที่รู้อยู่แก่ใจ พวกเขาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในฐานะพี่น้อง…
มันอาจเป็นเพราะฮอร์โมน เจเจโทษสิ่งนั้นเต็มๆ ความงุ่นง่านไม่ได้ดั่งใจสุมอยู่ในร่างสูง ที่เลานจ์บาร์สุดหรูสำหรับครอบครัว ท่ามกลางเสียงดนตรีเบาแสนผ่อนคลายแต่เขากลับดื่มได้แค่ม็อกเทลเพราะอายุไม่ถึงยี่สิบยิ่งทำให้อึดอัด เด็กหนุ่มมองพี่ชายต่างแม่ที่ได้รับอนุญาตให้ดื่มเป็นครั้งแรก เบียร์แก้วโตที่คุณพ่อแนะนำให้เริ่มลองเรียกริ้วแก้มแดงขึ้นประดับบนหน้าสวย
นั่น…ค่อยผ่อนคลายจิตใจที่ว้าวุ่นของเจเจลงไปได้หน่อย
"...แต่ถ้าไปดื่มเองกับเพื่อน ลูกต้องบอกแม่ก่อนนะจ๊ะ" คุณคิ้มดูจะเป็นห่วงลูกชายมากทีเดียว ในขณะที่พ่อของเขากลับรู้สึกว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จำเป็นต้องให้โซลได้ลอง เพื่อให้รู้รสชาติ ไม่ปิดกั้นเพื่อลดความอยากรู้อยากเห็น
"... ลองไวน์ของพ่อด้วยสิโซล" คุณอาทรเลื่อนแก้วมาให้
"เอ่อ… จะดีเหรอฮะ" โซลหันไปหาแม่อย่างขอความเห็น คุณคิ้มย้ำด้วยรอยยิ้มว่าอนุญาตให้ดื่มได้นิดเดียว
"...ดื่มหลายแบบเดี๋ยวจะไม่สบายท้องเอานะจ๊ะ"
"น่าอิจฉาคนได้ดื่มอ่ะ" เจเจตัดพ้อ มองแก้วเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ประดับด้วยร่มจิ๋วโง่ๆ สีหน้าเศร้าสร้อยจนคนเป็นพ่อหัวเราะออกมา
"เดี๋ยวยี่สิบแล้วค่อยลองนะลูก อีกนิดเดียวเอง"
"เจเจลองสักจิบไม่ได้เหรอฮะ" โซลหันไปขออนุญาตให้ แต่คุณอาทรปฏิเสธ เด็กหนุ่มหน้ามุ่ย
เมื่อคนดื่มกันได้ที่ก็เคลิ้มไปเรื่อย ผู้ใหญ่ทั้งสองเดินไปที่ฟลอร์เต้นรำแล้วโอบกอดกัน ในขณะที่โซลกับเบียร์แก้วที่สองก็ทำให้รู้สึกมึนขึ้นมาแล้ว
"โซลไม่สบายรึเปล่า หน้าแดงจัง"
"เปล่าๆ น่าจะเป็นเพราะเบียร์น่ะ" คนตัวเล็กสั่นหน้า แหงล่ะ ผิวขาวโบ๊ะแบบนั้นลองได้เมาแล้วก็ดูมีเลือดฝาดขึ้นมากว่าปกติ เจเจมองยิ้มๆ
"งั้นโซลเลิกดื่มดีกว่านะเจว่า"
"อือ…" โซลพยักหน้า มองเห็นแม่โบกมือเรียกจึงลุกขึ้นไปหา ทุกคนกำลังสนุกที่ลานเต้นรำในขณะที่เจเจนั่งอยู่เพียงลำพัง เขาเอื้อมหยิบแก้วเบียร์ที่เหลือของพี่ชายขึ้นดื่มอึกๆ ไม่เลวแฮะ อยากลองอีกแต่ก็นะ…
เขาเฝ้ามองร่างเล็กอวบของพี่ชายหมุนอยู่รอบกายคุณพ่อที่พยายามจะสอนให้โซลเรียนรู้ทุกสิ่ง เหมือนครอบครัวในฝันที่ไม่เคยปิดกั้นเมื่อถึงเวลา โซลหัวเราะ คุณคิ้มคอยช่วยอยู่ข้างๆ แต่โซลดูจะไม่ถูกกับกิจกรรมเข้าจังหวะใดๆ เจเจขำเมื่อชายหนุ่มหัวเราะร่าแล้ววิ่งกลับมาที่โต๊ะ
"คุณอาทรเต้นเก่งม้ากกก" โซลเอ่ยชม
"พ่อเก่งทุกอย่างแหละ เออนี่ โซลสั่งเบียร์เพิ่มสิ เจทำหกหมดแล้ว"
ดวงตากลมโตเป็นประกายอย่างรู้ทัน โซลเอนกายมากระซิบ
"นายแอบดื่มใช่ป่ะ"
"อย่าบอกพ่อนะ เจอยากลองบ้างอ่ะ"
โซลยิ้มกริ่ม "ไม่บอกหรอก"
เบียร์แก้วต่อมาจึงเปรียบเสมือนน้ำร่วมสาบานที่โซลจิบก่อนจะแอบยื่นให้เจเจดื่มบ้าง คนพี่คอยเฝ้าต้นทาง สังเกตการณ์ไม่ให้พ่อแม่จับได้ เจเจลิ้มรสของโรเซ่ที่หอมหวานอย่างหิวกระหาย
"อร่อยจัง" มือหนายื่นแก้วกลับมาคืน
"อือ อร่อยดี แต่พอแล้ว โซลว่าโซลเมาแล้ว"
"ดื่มไปแค่นี้เอง" สงสัยเป็นพวกคออ่อน แต่ก็น่าเอ็นดู โซลดื่มม็อกเทลของเจเจแทนเพื่อล้างคอ แต่ก็ยกแก้วเร็วเกินด้วยประสาทสัมผัสไม่สมประกอบ ทำเอาเสื้อเปียกเลอะจากเครื่องดื่มเปรี้ยวหวานสีเขียว
"แย่จัง ต้องเปลี่ยนเสื้ออ่ะ" โซลร้อง บอกว่าจะไปขออนุญาตผู้ใหญ่ทั้งสองกลับขึ้นห้องก่อน ด้านเจเจเองก็ขอตัวขึ้นไปเป็นเพื่อนด้วย
เจเจรออยู่หน้าห้องน้ำ โซลว่าจะไม่กลับลงไปที่เลานจ์ เพราะรู้สึกเมาแล้ว และอยากพักผ่อน
“เจจะกลับลงไปรึเปล่า” เสียงดังถามกลับมา
“ไม่อ่ะ ง่วงแล้ว เดี๋ยวเจส่งข้อความลงไปบอกพ่อ”
มือคว้าโทรศัพท์มากด เดินไปหยิบน้ำที่ตู้เย็น กลับมาที่เตียง ทว่าในห้องน้ำกลับเงียบผิดปกติ เจเจร้อนใจเมื่อผ่านไปกว่าสิบห้านาทีแล้ว
"โซล…" มือเคาะประตูเบาๆ แล้วเรียกอีกหน แต่ไม่มีเสียงตอบรับเด็กหนุ่มจึงฝืนเปิดประตูเข้าไปส่องดูก็เห็นอีกฝ่ายนั่งหลับอยู่บนพื้นพิงอ่างอาบน้ำทั้งที่ยังแกะกระดุมไม่ถึงเม็ดสุดท้าย ผิวอกเหนียวหนืดใต้เชิ้ตที่เปียกแฉะดูไม่สบายตัว เจเจยิ้มแล้วนั่งยองลงต่อหน้า ด้วยความหวังดีมือหนาค่อยแกะกระดุมที่เหลือให้ แต่อะไรบางอย่างในความคิดชั่ววูบทำให้อยากตบหน้าตัวเอง เมื่อมองเห็นแผ่นอกบาง กับปลายยอดสีชมพูสวย ปลายนิ้วในยามที่ถอดเสื้อแกล้งป่ายปัดไปโดนอย่างจงใจ แค่สองสามครั้งจนมันค่อยแข็งชี้
น่ารักเป็นบ้า!
“อืออออ” โซลขยับตัวห่อไหล่ ปรือตาขึ้นน้อยๆ หันทำท่าจะคว้าหยิบชุดนอนที่พาดอยู่บนขอบอ่าง
“มาๆ เจช่วย” เด็กหนุ่มหยิบเสื้อขึ้นมาแทน
“อือ ขอบใจนะ” โซลเอนกายมาข้างหน้าให้อีกฝ่ายช่วยถอดเชิ้ตออกให้ เจเจกางเสื้อคลุมบ่าไหล่เล็กที่ตกห้อย โซลหาวแล้วพักหน้าผากไว้บนบ่าของน้องชาย ชุดถูกสวมให้อย่างให้อย่างเบามือ ผมเส้นเล็กสีน้ำตาลอ่อนชี้ยุ่งเหยิงก็ถูกปัดแต่งให้พ้นไปจากดวงตาที่หลับพริ้ม
“แค่เช็ดทิชชู่เปียกก็พอ โซลไม่ไหวแล้วอ่ะ”
เด็กหนุ่มช่วยเช็ดรอยเปียกเหนียวของเครื่องดื่มบนแผ่นอกออกให้ จากนั้นก็ติดกระดุมเสื้อนอนเสร็จสรรพแล้วฉุดร่างอวบน้อยๆ ของพี่ชายขึ้นจากพื้น
ทั้งคู่ทรุดตัวนั่งอยู่บนปลายเตียงที่เจ้าของดูมึนๆ กับอีกคนที่ตื่นเต็มที่… ก็ตื่นทุกส่วนในร่างกายแหละบอกเลย
ขนตาของโซลยาวเฟื้อยและมีสีอ่อนเช่นเดียวกับสีผม น่าจะเป็นเพราะคุณคิ้มมีเชื้อสายลูกครึ่งทำให้โซลรับเอาความงามโดดเด่นพวกนั้นมาทั้งหมด
เสียงโทรศัพท์ของโซลดังเตือนข้อความเข้า เจเจหันไปมองแล้วพูดหยอก
“ไม่คุยกับแฟนก่อนนอนเรอะ”
“บ้า!” โซลเอากำปั้นทุบต้นขาเจเจเพราะอยู่ในรัศมีใกล้มือสุด “ไม่ใช่แฟนสักหน่อย”
“โซลไม่มีแฟนจริงๆ น่ะ”
“ไม่มี ถามอะไร” คนตัวเล็กคลานขึ้นไปเอาหัวเกยหมอนแล้วปิดปากหาว ขยับตัวได้ที่ก็ทำตาเยิ้มมองโทรศัพท์บนโต๊ะข้างเตียง
“แค่อยากรู้ เห็นสนิทกับเพื่อนคนนั้นจัง”
โซลหัวเราะ
“นั่นน่ะผู้ชาย”
น้องชายคว่ำปากงอน เหลือบตาไปมองมือบางเกาแก้มเบาๆ แล้วขยับหมอนให้ได้ที่
“โซลเคยจูบใครไหม”
“หือ ถามอะไรเนี่ย!” คนตั้งท่าจะนอนซุกหน้าเขินๆ ลงไปในหมอน
“ก็เจไม่เคย”
“แล้วไงล่ะ” โซลเลิกคิ้ว นิ่งขึงกันไปทั้งคู่ก่อนที่อีกฝ่ายเริ่มมีความคิดที่ชั่วร้าย
“สอนเจหน่อยสิ” ว่าจบร่างสูงก็คลานจากปลายเตียงขึ้นไปหาทำท่าเหมือนเสือกำลังล่าเหยื่องั้นล่ะ
“เฮ๊ยยยย เดี๋ยวๆๆ” โซลร้องไปหัวเราะร่วน ตีมือเจเจที่ยื่นเข้ามาหา “ก็บอกว่ายังไม่มีแฟน จะเคยจูบได้ไง”
เจเจคว้าจับข้อมือบางไว้ได้ในที่สุด หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง คิดแล้วล่ะว่าเขาจะต้องเป็นจูบแรกของโซล
“จริงน่ะ”
โซลสั่นหัวอย่างเอือมระอา บิดข้อมือหนีแล้วบอกว่าง่วงนอน ทว่าอีกฝ่ายกลับยิ่งกระชับแน่น เจเจยกมือขึ้น กดกายอีกฝ่ายตรึงไว้กับที่นอน
“งั้นเรามาลองดีมั้ย อย่างน้อยก็ฝึกไว้”
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิง นายจะบ้าเรอะ!”
“เจไม่ซีฯ แค่อยากมีประสบการณ์”
“บ้าแล้ว ปล่อยเถอะ นอนดีกว่า พรุ่งนี้โซลอยากลุกไปเดินเล่นชายหาดแต่เช้า” หน้าโซลมุดหมอน แต่กลับถูกจับไหล่บิดให้นอนหงายอย่างอ่อนโยน ดวงตากลมใต้คิ้วขมวดเงยสบอย่างสงสัย
“โซลไม่อยากรู้เหรอว่ามันเป็นไง”
“...” โซลพูดอะไรไม่ออก ได้แต่กระพริบตาปริบ สมองล้าเพราะดึกแล้วและอาจจะเมาด้วยก็ได้ มันเป็นคำถามแบบไหนหนอ “อะ…เอ่อ…”
“โซลเกลียดเจเหรอ”
“ไม่ใช่แบบนั้น…แต่…” โซลบิดข้อมือ ด้วยเหตุผลฝังหัวของขนบบางอย่างที่ทำให้การฟังถ้อยคำเหล่านั้นน่ากระอักกระอ่วนชวนให้กระถดกายหนี อีกใจก็รู้สึกจั๊กจี้ประหลาดๆ เมื่อมือของน้องชายที่ใหญ่กว่าเลื่อนขึ้นมาสอดนิ้วประสาน
“แต่…”
“อย่าคิดว่าเป็นผู้ชายกับผู้ชายสิ แค่ลองว่าฟีลมันจะเป็นไง แค่ปาก หญิงชายยังไงก็เหมือนกัน”
เจเจรู้สึกเหมือนตัวเองชั่วได้ใจจริงๆ ต้องหลอกล่ออีกฝ่ายขนาดนี้ สกิลคงถ่ายทอดมากับสายเลือดล่ะมั้ง เพราะไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน แต่ก็ทำได้ดี เพราะโซลมีท่าทีสับสน หรือไม่ก็เมา
…น่าจะอย่างหลัง
แกนี่มันร้าย… เจเจด่าตัวเองในใจ ก้มใกล้อีกนิดแล้วกระซิบ ทำท่าจุ๊ปาก
“นะ รู้กันสองคน ไม่บอกใคร”
ไม่มีอะไรน่ากังวลสักหน่อย…
เจเจใช้มือลูบแก้มบวมเบาๆ ก้อนเนื้อนุ่มกำลังเรื่อสีชมพูจาง ดวงตาหลุบต่ำทำท่าลังเล
“อือ…” เสียงครางสั้นในลำคอที่เจเจคิดเอาเองว่าคือการอนุญาต
พี่ชายชันกายจะลุกขึ้น แต่กลับถูกยึดให้นอนนิ่ง เพื่อรับริมฝีปากที่กดแนบลงมาอย่างรุกเร้าในคราแรก ไม่ใช่เพียงเพื่อจะลิ้มลอง ทว่าเอาจริงเอาจัง ปากสวยถูกบังคับให้อ้าออกด้วยเสียงออกคำสั่งพร่าๆ โซลทำตามอย่างว่าง่าย เสื้องอืออาน่ารักไม่ได้ฟังดูคล้ายขัดขืนทำให้เจเจเลียบนปากหวานเหมือนนมข้น สอดแทรกลิ้นลงลึกขึ้นอีก
“อื้ออออ!!!” เป็นสัมผัสนี้ที่ทำให้โซลดิ้น ลิ้นเล็กถูกดูดอย่างแรง เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น นี่คือการจูบที่โซลคาดไม่ถึง มือกำผลักบนแผ่นอกแน่นจนปากผละออกจากกันในที่สุด สายน้ำเหนียวเยิ้มไหลเชื่อมอยู่ระหว่างปากทั้งสองที่หอบหายใจ
“เจ็บ” ดวงตากลมโตมีประกายสั่นไหว เหมือนจะร้องไห้ หรืออะไรไม่รู้
“เจขอโทษ” เด็กหนุ่มยอมปล่อยพี่ชาย จับข้อมือไว้หลวมๆ คลึงนิ้วหัวแม่มือลูบไล้ลงมาบนท้องแขนอีกฝ่ายอย่างปลอบโยน “เจไม่ดูดแล้วก็ได้”
ว่าแล้วก็ก้มลงล้วงลิ้นควานหาอะไรบางอย่างแทน น่ารัก อร่อย ทั้งเสียงในลำคอ และเรียวลิ้นที่ตอบสนองนวดไล้อยู่ในโพรงปาก นึกว่าฝันไป พี่ชายอ่อนหัดของเขาค่อยตอบสนองอย่างเชื่องช้า กลัวๆ กล้าๆ ในคราแรก แต่กลับกลายเป็นจูบรับที่ทวีความหวานมากยิ่งขึ้น ปากประกบเนิ่นนาน หยอกเย้ากันอยู่นานจนหายใจแทบไม่ออกทั้งคู่
“เจ”
“ฮะ…” เจตอบรับ ปากเลื่อนลงไปที่คอแล้วขบเม้ม
“นายทำอะไร”
“จูบไง จูบตรงนี้ ดีไหม…” แรงดูดตึงรั้งอยู่บนคอ มือก็ขยำหน้าอกบางจนอีกฝ่ายร้องตกใจ ปลายนิ้วบดบี้อยู่บนยอดอกเล็กที่เริ่มแข็งขึ้นอีกหน แต่คราวนี้ไม่ได้เป็นเพราะแอร์เย็นแต่อย่างใด
“อะ…อือออ” คิ้วสวยขมวดแน่น ดวงตาของโซลมีแววตื่นตกใจ เจเจผละมือจากตรงนั้นมาประคองแก้มของพี่ชายเบาๆ
“เป็นไรโซล ไม่ดีเหรอ…เจ็บรึเปล่า”
“นิดนึง แล้วก็…อืออออ….มันแปลกๆ” มือซุกซนของคนน้องเลื่อนลงไปอีกหน คราวนี้เป็นอกอีกข้างที่ถูกกลั่นแกล้ง โซลบิดไหล่เบาๆ สีหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยเพราะอีกฝ่ายเริ่มรุนแรงขึ้น
“แปลกยังไง เพราะเราเป็นผู้ชายน่ะเหรอ”
“โซลไม่ได้มีนมแบบผู้หญิง ไม่ต้องบีบขนาดนั้น” โซลยกมือขึ้นดันอีกฝ่ายออก
“เจอาจชอบแบบนี้ก็ได้ ไม่ต้องใหญ่ขนาดนั้น” ดวงตาเรียวรีของเด็กหนุ่มหลุบลงมองเสื้อนอนบางแนบเนื้อ และยอดอกที่พุ่งชันอยู่ใต้นั้น โซลยกมือขึ้นกอดอกช้าๆ แล้วพลิกตะแคงข้าง สีหน้าของพี่ชายดูไม่ดีเลย เขินอายมากไป หรือไม่ก็ฤทธิ์แอลกอฮอลล์ที่ยังหลงเหลืออยู่
“โซลไม่อยากลองดูเหรอ” ท่อนแขนแกร่งคร่อมกายที่หันข้างให้ ก้มลงนิดๆ ให้จมูกเกลี่ยบนแก้มหอม แต่โดนปัดหน้าออกอย่างเร็ว เสียงหัวเราะอย่างหวาดหวั่นดังขึ้น
“ไม่รู้สิ อย่าเลย! พอแล้ว”
“ทำไมล่ะ”
มือซุกซนเลื่อนลงมาคลำอยู่บนเป้ากางเกงขาสั้นของพี่ชายที่เริ่มนูนแน่น
“อย่า!” โซลเปล่งเสียงร้องอย่างอับอาย รีบพลิกตัวหนี หัวใจเต้นแทบระเบิด ไม่เคยมีใครจับต้องตรงนั้นมาก่อน “ทำไมต้องทำแบบนั้น!!!”
เหนือความคาดหมายของเด็กหนุ่มเช่นกันกับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย มันยิ่งทำให้ทั้งร่างร้อนผ่าว
“จูบทำให้โซลแข็งเหรอ”
“นายไม่แข็งรึไง” โซลบ่นอุบอิบ มองเจเจที่ยกมือขึ้นกำแท่งลำที่ขวางกายอยู่ใต้กางเกง มันก็อยากเอ่ยทักทายพี่ชายมาสักพักแล้วนี่นะ โซลอายหน้าแดง มองแล้วก็หันหน้าหนี เพราะน้องเจใหญ่กว่าของเขาเสียอีก
นี่เด็กกว่าตั้งสองปีทำไม…บ้าแล้ว ไม่ใช่เรื่องน่าอิจฉาเลย โซลดุตัวเองยังไม่ทันจบก็ถูกแกล้งอีก เอวกางเกงถูกดึงลงแล้วฉากต่อสู้เล็กๆ ก็เกิดขึ้นเมื่อน้องโซลโผล่ออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็น สีชมพูเข้มที่เจ้าตัวพยายามจะปกปิดถูกมือใหญ่คว้าไปครอบครองคลึงเคล้น
“ไม่เอ๊า! อย่าจับนะ อึ๊!!! เจบ้าไปแล้วเรอะ!”
แค่กระตุ้นเร้ายังไม่พอ ฝ่ามืออีกข้างของน้องตัวแสบสอดประคองลงไปอีกด้านล่างจนโซลสะดุ้งสุดตัว
“นายจะทำอะไร โรคจิต!”
ผ่านบอลนุ่มน่ารักก็ไปถึงปากทางแน่นที่ถูกสะกิดเบา มันจั๊กจี้แล้วก็วาบหวามจนโซลต้องงอตัว แต่ท่านั้นกลับกลายเป็นการเปิดทางให้อีกฝ่ายแกล้งได้แรงยิ่งขึ้น ปลายเล็บสะกิดลึกขึ้นอีกจนเจ็บ มือบางยกขึ้นตบหน้าอีกฝ่ายเร็วแรง
“อ๊าาา นายเอาเล็บมาจิกฉันทำไม”
เจเจยกมือขึ้นมองปลายเล็บที่ยาวไม่ถึงมิล แต่มันคงไปโดนเนื้ออ่อนตรงนั้น
โซลลุกขึ้นนั่งชันเข่าเพื่อก้มมองสำรวจตัวเองตามปกติ แต่เป็นท่าทางที่ทำให้เจเจเกิดอารมณ์พุ่งพล่าน เพราะกางเกงที่ยังไม่ถอดปิดบังบางส่วนได้แค่วอมแวมเท่านั้น
“เจขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจน่ะ”
“แล้วทำไมจะต้องเอานิ้วแหย่ตรงนั้นด้วย” โซลจะดึงกางเกงขึ้น แต่กลับถูกจู่โจมจนหงายหลังไปอิงหัวเตียง
“ล้อเล่นเหรอโซล จะนอนทั้งแบบนี้เหรอ เดี๋ยวก็ฝันร้ายหรอก”
ทั้งคู่มองเป้ากางเกงตุงๆ ของตัวเองแล้วก็เขินกันและกัน แต่จะให้ทำไงล่ะ โซลทำท่าจะหนีจากเตียงแต่ถูกดึงตัวไว้ ปล่อยให้อีกฝ่ายจัดแจงท่าลามกน่าอายที่ฝ่ายพี่ชายต้องยกมือปิดหน้า
“อื้ออออ”
แกนกายปริ่มน้ำของเด็กหนุ่มเผยให้เห็นเมื่อสเว็ตแพนส์ถูกเลื่อนออก ขาของโซลยกเกยอยู่บนหน้าตักของเจเจที่เจ้ากี้เจ้าการจับมือพี่ชายให้วางอยู่รอบฐานของแก่นกายทั้งคู่ที่เขยิบให้แนบชิด มือนั้นเล็กเกินกว่าจะกำรอบ อีกมือจึงถูกจับวางลงข้างๆ
“อย่าบอกนะว่าโซลไม่เคยทำเอง” เจเจเหลือบตามอง หยั่งเชิงอีกฝ่ายที่เม้มปากแน่น แก้มแดงไปหมดแล้ว น่ารักที่สุด “แค่คราวนี้ทำให้เจด้วย เพิ่มมาอีกอัน”
พี่ชายไร้เดียงสากลืนน้ำลายอึกหนึ่ง เขาไม่เคยชินกับอะไรแบบนี้ แค่ของตัวเองแค่รูดรั้งนิดหน่อยมันก็เสร็จไปถึงไหนแล้ว แต่นี่ต้องใช้ถึงสองมือสาวอยู่นาน ทั้งตื่นเต้น อับอาย ทั้งเงอะงะ อารมณ์ไม่ได้ดั่งใจ ไหนจะยังเสียงครางของอีกฝ่ายที่กดดัน มือเล็กทำอะไรไม่ถูกเลิ่กลั่กไปหมด
“ดีแล้ว โซล… ดีมาก” ใบหน้าอ่อนวัยของคนน้องยื่นเข้าไปหา เอียงจูบและบดปากอย่างตั้งอกตั้งใจ ราวกับจะควานหาอะไรในปากหวานนั้น กายเล็กเริ่มแข็งชี้ เสียงร้องน่ารักทำให้มือใหญ่กว่าเข้าควบคุมจังหวะเองในที่สุด ฝ่ามืออุ่นกำอยู่บนความร้อนที่แผดเผาไม่แพ้กัน ความเปียกลื่นส่งเสียงน่าอายทำให้ร่างเล็กแทบคลั่ง
“อ๊าาาา อ๊าาาาา อึ๊ เจ…เบาๆ หน่อย”
“เจอยากเห็นโซลเสร็จน่ะ…นะ” จังหวะรูดดึงรุนแรงขึ้นอีก ท่อนขาโซลค่อยงอเกร็ง เสียงร้องยิ่งทวีคูณ
“โอ๊ยยย…อ๊าาาาาาาา เจ…อ๊าาาาาาา”
ปลายแข็งสีชมพูสวยพ่นน้ำออกมาอย่างรุนแรง ในขณะที่อีกฝ่ายก็ใกล้จะถึงแล้ว เจเจถูกกระตุ้นมากขึ้นด้วยความเปียกเยิ้มที่ลื่นไหลอยู่ใต้ฝ่ามือ อารมณ์ไต่ระดับไปจนถึงจุดสูงสุดและเป็นครั้งแรกที่เขาคำรามออกมาเสียงดัง
ตักของทั้งคู่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำรัก เสียงหอบหายใจของทั้งสองฝ่ายก้องกังวานอยู่ในห้อง โซลยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วเบ้ปากจนเจเจต้องขยับเข้าไปกอดปลอบ
“นายทำอะไร นี่นายทำอะไร…” เสียงสะอื้นครางโหย เจเจจูบซับน้ำตาบนแก้มแดงนั้น
“ไม่มีอะไรสักหน่อย เราแค่ช่วยกัน…ช่วยตัวเอง ไม่ใช่อะไรที่น่าอายสักหน่อย… นะ อย่าร้องไห้นะ”
ดวงตากระพริบปริบๆ คลอน้ำตา มองรอยยิ้มของน้องชายที่อ่อนโยน
“ไม่บอกใครนะ”
โซลเอ่ยอย่างกังวลคว้ากางเกงขึ้นมาสวมพลางมองไปรอบๆ ราวกับว่าจะได้เห็นดวงตาของใครมองจ้อง ความอับอายทำให้โซลโดดเด้งขึ้นไปบนเตียงที่ไม่ได้แตะต้องของเจเจ และยึดครองที่ตรงนั้นแทน
“อย่าบอกใคร” เจเจพยักหน้า เขารู้อยู่แล้วล่ะว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นความลับของเราทั้งสองคน
—--
กิจกรรมวันรุ่งขึ้นทางรีสอร์ทมีหลายอย่างให้เลือก และการส่งลูกค้าไปดำน้ำดูปะการังรอบเกาะต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงเป็นสิ่งที่โซลสนใจทำ เขาขออนุญาตแม่ไปดำน้ำทั้งที่แพลนเดิมของครอบครัวคือการไปชมตลาดเดินช้อปปิ้ง และตามหาร้านอาหารในตำนาน ที่สำคัญมันเป็นวันตึงเครียดตั้งแต่เช้า โซลไม่มองหน้าเจเจอีกเลย แต่มองในแง่ดีเพราะแก้มป่องปากอมยิ้มเป็นท่าเขินอายที่เด็กหนุ่มรู้จักดี พี่ชายกำลังหลีกเลี่ยงการสนทนา แต่เขากลับไม่ยอมแพ้ เจเจจึงขอติดสอยห้อยตามไปเดย์ทริปดำน้ำด้วย
“เจไม่ชอบดำน้ำนี่” คุณอาทรทักขึ้นมา
“ผมก็อยากลองอะไรใหม่ๆ นี่ฮะ ได้ยินว่าน้ำที่นี่ใสและลึกมาก เจอยากเห็นปลาดาว…นี่ไง!”
เด็กหนุ่มชี้ให้ดูภาพโปรโมทในโบรชัวร์ เป็นตัวอย่างสัตว์น้ำที่จะพบได้มากในบริเวณนี้ แนวประการังสวยเกิดใหม่สีสันใสที่เพิ่งฟื้นสภาพจากซึนามิ การสำรวจโลกใต้ทะเลที่แปลกและแตกต่างออกไปจากเดิมทำให้เจเจตื่นเต้น…ซะเมื่อไร!
อันที่จริงเขาอยากตามโซลไปมากกว่า พี่ชายไม่มีคอมเมนท์ในเรื่องนี้ แค่หยิบผ้าขนหนูคลุมทับเสื้อยืดแล้วก็ขอตัวไปรอเรือเร็วซึ่งใกล้ถึงกำหนดมารับที่ท่า
“พ่อกับแม่ต้องไปตลาดกันเองสิเนี่ย ดีเลย จะกินของอร่อย จะถ่ายรูปมาอวด เอาให้อิจฉาเลยเนาะพ่อเนาะ แม่อยากกินห่อหมกทะเลจัง” ว่าแล้วผู้ใหญ่ทั้งสองก็พากันนั่งฝันหวาน เสริชหาร้านอร่อยร้านดังในบริเวณใกล้ๆ ทำแพลนที่จะไปเที่ยวให้เด็กมันอิจฉา
เจเจหัวเราะเริงร่า อวยพรผู้ปกครองแล้วคว้าผ้าขนหนูก่อนจะเดินตามโซลไปติดๆ
“แล้วเจอกันฮะพ่อ, คุณคิ้ม ทานให้อร่อยนะฮะ”
“มีลูกวัยรุ่นนี่ไม่ดีเลยนะคุณ” คุณคิ้มถอนใจ “ยิ่งโตพวกเค้าก็ยิ่งห่างเราออกไปแบบนี้ อีกไม่กี่ปีฉันคงเหงามากแน่ๆ”
ชายกลางคนโอบบ่าภรรยาเอาไว้แล้วยิ้มอ่อนโยน “คุณยังมีผมนะ อย่าลืมสิ ลูกๆ เค้าก็ต้องโตไปมีชีวิตของตัวเอง”
“แต่โซลยังดูกะโปโล ลองเทียบกับเจเจแล้วฉันยังไว้ใจเจเจมากกว่าลูกของฉันซะอีก” หญิงสาวมีสีหน้าอ่อนใจ มองไปยังลูกแท้และลูกเลี้ยงที่พากันปีนขึ้นสปีดโบ้ท
“แหม…ผมเลี้ยงลูกคนเดียวตั้งแต่เจเจยังเด็กมากๆ ให้อยู่คนเดียวบ้าง กับพี่เลี้ยงบ้าง พนักงานที่บริษัทบ้าง ผมต้องเดินทางตลอด เป็นการเลี้ยงด้วยลำแข้งมากกว่า จะเอามาเทียบกับโซลที่มีคุณดูแลมาทั้งชีวิตไม่ได้หรอก เป็นด้านอ่อนโยนของโซล ที่ผมเองก็อยากให้เจเจมีกับเค้าบ้าง”
ด้านอ่อนไหวที่ดึงดูดใจของโซลกำลังทำหน้าที่ของมันอย่างช้าๆ แต่ว่าสม่ำเสมอ รู้ตัวอีกทีเจเจก็เอาแต่มองจ้องพี่ชายต่างสายเลือดที่ทำอะไรก็ดูละเมียดละไมน่ารักไปหมด ทริปดำน้ำไม่ได้น่าสนใจเท่ากับเวลามื้อเบรคซึ่งเป็นอาหารเบาๆ และผลไม้ เขามองโซลที่พินิจพิเคราะห์ดูแซนวิชหน้าตาธรรมดาๆ และบอกถึงความฝันในอนาคตว่าจะสามารถทำให้ของกินเบสิคดูน่าอร่อยขึ้นได้ยังไง โซลชอบขนมจึงอยากเป็นเชฟเบเกอรี่มาตั้งแต่ยังแบเบาะ…
“โซลว่าจะเปิดคาเฟ่ที่มีแต่ขนมทำเอง แล้วก็กาแฟดีๆ ถ้าเราได้ทำงานที่ชอบทุกวันคงมีความสุขเนอะ”
น้องชายได้แต่เออออเพราะในหัวแบลงค์ไปหมดแล้ว
โซลกินแตงโมไปหลายชิ้นแล้ว แต่เจเจกลับอิ่มทิพยเพียงแค่ได้มองเสื้อยืดสีขาวชื้นที่ลู่ติดผิวของอีกฝ่าย มันกำลังแห้งอย่างช้าๆ ด้วยแรงลมเอื่อยบนเกาะสวรรค์ที่คณะดำน้ำกำลังนั่งพักผ่อน นิ้วขาวๆ เปรอะเปื้อนน้ำแตงโม และเอื้อมหยิบมะม่วงสุกใส่ปากสีชมพูรสนม… ช่างเป็นภาพที่แสนทรมานจิตใจ
“เจเอาน้ำไหม มีโค้กนะ”
โซลถาม น้องสั่นหัว ต้นขาแน่นใต้ชอร์ทแพนท์เรื่อยลงไปยังเท้าขาวจั๊วกับรองเท้าแตะสีโรสโกลด์ลุกขึ้นยืน เจเจต้องสูดลมหายใจลึก มองนิ้วเท้าดุกดิกเพราะเปื้อนทรายแทน ก่อนจะอดใจไม่ไหวกับริ้วผมน้ำตาลอ่อนที่ยาวเล็กน้อยทัดหูเผยผิวแก้มแดงบ่มแดด เขาภาวนาให้ห้องน้ำบนเกาะแห่งนี้ว่างลงแต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ คณะดำน้ำมากกว่าสองคณะทำให้พื้นที่เกาะเล็กที่สวยงามคลาคล่ำไปด้วยผู้คนไม่ต่างอะไรกับบีชโรดพัทยา เป็นวันที่หายใจไม่ทั่วท้องอย่างต่อเนื่อง เพราะเขาไม่ชอบดำน้ำสนอกกลิ่ง มันชวนอึดอัด ดีแต่มีโซลคอยนำไปดูตรงโน้นนี้ เจเจคว้าจับมือที่กำลังชี้นิ้วให้ดูปลาดาวสีม่วง และกลุ่มปลาการ์ตูนกับดอกไม้ทะเลที่ไม่ค่อยได้พบบ่อย
ทั้งคู่พุ่งตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เจเจดึงจุกผมน้ำพุของพี่ชายที่เพิ่งขึ้นจากน้ำ โซลทำเสียงดุ
“อย่ากวนสิ อยากเห็นไม่ใช่เหรอพวกสัตว์น้ำน่ะ”
“อยากดูโซลโป๊มากกว่า” น้องชายตอบอย่างหอบๆ มันเหนื่อยไม่ใช่เล่นนะ ทั้งต้องว่ายทั้งต้องพยายามหายใจผ่านท่อ
“บ้า!” โซลร้อง เจเจเอื้อมมือไปบีบหน้าอกของอีกฝ่ายที่ส่งเสียงเกือบจะกรีดร้อง น้องชายหัวเราะที่ได้แกล้ง เวลาเขินโซลจะแก้มป่อง หน้าแดงไปถึงคอ
“โซลชอบเจมั้ย…” ร่างเปียกๆ ที่ลอยคออยู่ในน้ำหันไปหากัน เสียงเจื้อยแจ้วของสาวๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่พยุงตัวด้วยชูชีพดังห่างออกไป เรียกความสนใจของโซลให้หันมอง “ไม่มีใครได้ยินเราหรอก ตอบหน่อยสิ เจอยากรู้”
ตากลมโตสีน้ำตาลมองไปทางอื่น ปากที่พยายามไม่ยกยิ้มเป็นภาพที่น่าดู เจเจว่ายน้ำเข้าไปใกล้ มือของทั้งคู่เอื้อมจับกันใต้น้ำ ทว่าโซลไม่ได้ผละออก
“ความลับของเรา” เด็กหนุ่มยิ้มยั่ว
โซลไม่ตอบแต่ดำน้ำหนีลงไปลึกถึงพื้นทราย น้องชายที่ดำไม่เก่งเท่าแต่ก็พยายามดำตาม ทักษะฟรีไดฟ์ของเจเจต้องปัดฝุ่น แต่โซลดูจะเหนือชั้นกว่าหลายเท่าทำให้เขาตามลงไปไม่ทัน
พี่ชายหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาจากพื้นสมุทร
ปลิงทะเล!!! มันถูกจับอย่างไม่รังเกียจแล้วโยนใส่เจเจที่ว่ายน้ำหนี เด็กหนุ่มจำเป็นต้องขึ้นสู่ผิวน้ำเพราะหายใจหายคอไม่ทันด้วยความตกใจ โซลที่พุ่งตามมาเหนือน้ำหัวเราะอย่างสะใจ
“กลัวอะไร แค่ปลิง กินได้ด้วยนะรู้มั้ย”
“แหวะ!” เจเจทำท่าขยะแขยง “ของดีๆ มีตั้งเยอะไม่กิน แต่กินปลิง”
โซลยักไหล่ แล้วพากันว่ายกลับไปที่เรือ
—--
ผิวเปียกชื้นสัมผัสกันและกัน เจเจยังทวงหาคำตอบของคำถามที่ได้ถามไปแล้ว ทว่าอีกฝ่ายกลับยังไม่เอ่ยออกมา โซลหลับตาปล่อยให้น้ำฝักบัวที่พ่นลงมาอาบล้างคราบน้ำทะเลออกจากตัวคนทั้งคู่
“โซลน่ะ…” เสียงงอนง้อดังข้างหู คางมนเกยอยู่บนบ่าของโซลพร้อมอ้อมกอดรัดจากด้านหลังที่แน่นเข้าทำให้ลืมตาขึ้น หันไปเห็นสายน้ัำที่ไหลอยู่บนหน้าคมของผู้เป็นน้อง
“รีบอาบรีบเสร็จเถอะ” โซลว่า
เด็กหนุ่มหัวเราะ ยื่นหน้ามาหอมแก้วเบาๆ “ยังไม่ได้ทำจะเสร็จได้ไง”
มือเลื่อนลงไปจับอยู่บนต้าวน้องโซล
“อื้อ…” โซลร้องอย่างหงุดหงิด หน้าแดงจัดทุบน้องชายอย่างแรงสองสามทีแล้ววิ่งกลับไปที่ห้องทั้งที่ตัวยังเปียก
“โซลไม่เช็ดตัวล่ะ” เจเจตามมาพร้อมชุดคลุมในมือห่มให้บนบ่าเล็กของพี่ชายแล้วก้มลงประทับจูบ โซลดูไม่ขัดขืนอีกแล้ว ทว่าตอบรับด้วยการเปิดปากให้เขาได้ชิมรส
“ให้เจทำให้นะ” ว่าจบก็คว้าจับน้องโซลไว้ทันทีจนอีกคนสะดุ้งเฮือก
“อะ…อื้อ…ไม่ต้องหรอก” โซลกระชับเสื้อคลุมให้แน่น อายจนแทบอยากจะหายตัวหมุนหนีแต่กลับถูกโอบกอดเอาไว้อีกหน เจเจคว้าจับผีเสื้อตัวน้อยที่เขาปรารถนาไว้อย่างไม่ยากเย็น ชายชุดคลุมถูกแหวกขึ้น มือใหญ่เค้าคลึงรูดรั้งอย่างชำนาญ รู้สึกดียิ่งกว่าใช้มือกับตัวเองซะอีก ผิวของโซลนุ่มเนียน ขึ้นสีชมพูได้ง่ายดาย มันน่าดูมาก พี่ชายร้องครางตามจังหวะมือที่เคลื่อนไหว มันเร็วแรงเกินกว่าอีกฝ่ายจะต้านทาน ทั้งขาทั้งเข่าอ่อนระทวยจนต้องทรุดลงบนที่นอนกลายเป็นท่าคลานที่น่าใจหาย เสียงร้องน่ารักจนแทบอยากจะกลืนกิน ปากสวยกัดแน่น หันมารับจูบที่รุกเร้าให้เปิดรับ ข้อมือของเจขยับอีกไม่กี่หนก็ทำให้พี่ชายของเขาปลดปล่อยออกมาเปียกชื้นอยู่บนผ้าคลุมเตียงสีขาว ร่างเล็กถูกประคองให้เอนกายลงในขณะที่เจ้าของร่างอ่อนปวกเปียกมองดูเจเจคลานขึ้นมาคร่อมตัว แกนกายหนาใหญ่และยาวกว่าในทุกมิติของเด็กอายุสิบเก้าพร้อมเต็มที่ โซลรู้ว่าเขาต้องทำอะไรเพื่อตอบแทน…
มือเล็กยื่นมาประคองความใหญ่โตที่เต็มอยู่ในมือ แต่เจเจส่ายหน้า
“โซลไม่ต้องทำหรอก เดี๋ยวเจทำเอง”
สองปลายนิ้วแตะเบียดอยู่กับปากทางรักที่เล็กแน่น โซลร้องอย่างตกใจพยายามขยับตัวหนี แต่เจเจไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น เขาเอื้อมไปที่โต๊ะข้างเตียงฝั่งโซลหยิบโลชั่นทามือที่มองเห็นวางอยู่ อันที่จริงเขาน่าจะเตรียมเจล หรือออยล์อะไรสักอย่าง ด้วยว่าครั้งแรกคงจะยากลำบากสำหรับทั้งคู่ แต่เขาก็ไม่ได้วางแผนให้มันเป็นแบบนี้
“เดี๋ยว นายทำบ้าอะไร!!!” โซลยื่นยื้อแย่งหลอดโลชั่นแต่เจเจยกมันขึ้นเหนือศีรษะแล้วทำหน้ากวนๆ
“เดี๋ยวเจซื้อคืนให้ทีหลังนะ”
เนื้อครีมนุ่มชุ่มชื่นหอมกลิ่นพีชคละคลุ้งถูกบีบลงมาบนมืออย่างไม่เสียดาย ลูบทาบนน้องเจที่ดูดุดันเต็มที่ โซลได้แต่อ้าปากค้าง ปลายนิ้วชื้นแตะกดอยู่บริเวณปากทางแล้วสอดลึกไปหนึ่งข้อนิ้ว โซลร้องเสียงหลง
“อ๊าาาากกกก นายทำอะไร!” โซลหอบหายใจกับสัมผัสที่เจ็บปวดเกินต้าน “อือออ มันเจ็บ”
“เจขอโทษ เดี๋ยวนะ”
ปลายหลอดโลชั่นถูกวางแล้วบีบลงตรงปากทาง สัมผัสแปลบเกิดขึ้นอีกเพราะมันถูกสอดบีบเข้าไปทำเอาอีกฝ่ายร้องสะอื้น
“อย่า…เจ…”
“เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว…โซลไม่อยากลองดูเหรอว่ามันเป็นยังไง เจอยากทำกับโซลนะ”
ท่อนขางอที่ชันเข่าขึ้นถูกยึดแน่นค่อยบังคับให้เปิดรับ เสียงกำกับให้พี่ชายผ่อนคลาย ในขณะที่ปลายนิ้วทั้งสองถูกสอดกลับเข้าไปข้างใน เสียงทรมานของโซลฟังดู…เร้าใจ ยิ่งรู้สึกมากขึ้นเมื่อถูกบีบรัดจนแน่น
“นะ…เนี่ย ได้สองนิ้วแล้ว ขออีกนิ้ว เดี๋ยวโซลก็จะไม่เจ็บแล้ว”
“อะ อะอออออวว อ๊าาาาา พอแล้วๆ” กายแอ่นโค้งขึ้น เจเจขยับตามไม่ลดละ ดูท่าผีเสื้อตัวอวบจะไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมือของแมงมุมอย่างเขา
ปลายนิ้วทั้งสามสอดเข้าออกลึกๆ กางนิ้วคว้านเพื่อให้แน่ใจว่ากว้างพอ ทั้งที่ดูยังไงก็ไม่กว้างพอ แต่บอกแบบนั้นกับโซลไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะสติแตกอีกเลยได้แต่โกหก
“อีกนิดนึง โซลเก่งมากเลย ให้เจลอง…” เด็กหนุ่มเหลือบตาขึ้น ปลายนิ้วยาวพยายามสอดควานหาอะไรบางอย่างแล้วกัดปากอย่างพึงพอใจเมื่อเสียงที่ครางเปล่งออกมานั้นฟังดูหวาดหยดย้อย ปลายน้องโซลสั่นกระตุกสีชมพูมันวาวนั้นยิ่งทำให้เจได้ใจ
“อ๊าาาา อะไร ทะ…ทำไม…”
“ดีไหมโซล ตรงนี้” นิ้วกดจิ้มอยู่ตรงจุดเดิมๆ อีกหลายหนจนต้นขาขาวสั่นระริก โดยไม่ฟังเสียงอุธรรณ์ใดๆ ปลายปริ่มน้ำก็สั่นแล้วปลดปล่อยน้ำพุเล็กๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แค่นี้มันก็ดีแล้ว… แต่จะดีกว่านี้ถ้าเขาได้ลองแบบที่อยาก
ต้นขาเป็นรอยแดงจากมือบีบถูกดึงขึ้นมาวางบนต้นขาแกร่ง ปลายจดจ่อรออยู่ไม่ไหวสอดลงไป นั่นเป็นครั้งแรกที่เจเจได้ยินเสียงผู้ชายกรีดร้อง
“อ๊ะ…อ๊าาาาาา เจ็บ…เจ ไม่เอา…ไอ้บ้าเอ๊ย!!!”
“เจทำให้โซลแล้วนี่… ให้เจบ้างสิ” สะโพกสอบออกแรงดันต้านการบีบรัด เสียงครางโหยทำให้เจเจต้องก้มลงไปจูบ “โซลผ่อนคลายหน่อย ให้เจเข้าไป”
ดวงตาสีน้ำตาลรื้นน้ำลืมขึ้น มือเล็กที่ไขว่คว้าถูกจับบีบแน่น เจเจประจำตำแหน่ง ทั้งที่ตัวเองก็แทบคลั่ง หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะตอนที่ออกคำสั่ง
“หายใจออกนะ” เขามองดูแกนกายสีสดเข้มของตัวเองพยายามมากที่จะเสือกไสตัวเองเข้าไปในความคับแน่นที่ลื่นไหลแต่ก็ยังไม่มากพอ
เสียงหอบหายใจเฮือกของอีกฝ่ายพร้อมกับท่อนลำที่ผลุบลงไปครึ่งหนึ่ง เขาทำให้พี่ชายที่น่ารักต้องหลั่งน้ำตาซะแล้ว โซลคงจะเกลียดเขาไปตลอดชาติตอนที่สะโพกกระแทกกระทั้นเร่งจังหวะจากเนิบนาบให้เข้าไปสุดแกนกาย กลายเป็นกระทุ้งโพรงรักจนอีกฝ่ายได้แต่ร้องอย่างเจ็บปวด เจเจเอนกายแล้วยกสะโพกนุ่มขึ้น ออกแรงงัดนิดๆ เมื่อเห็นพี่ชายตาลอย เซอร์วิสมายด์ของเด็กหนุ่มที่กระตือรือร้นกระแทกตรงจุดหวานที่เขารู้ดีว่ายังไงก็โดน ช่องทางของพี่ชายก็เท่านี้ มันเล็กแล้วก็แน่นมาก… ครั้งแรกของทั้งคู่… ความคิดนั้นเป็นเหมือนพลังขับเคลื่อนให้เอวกระทั้นขึ้นอีก
โซลเป็นของเจ…
…เป็นคนแรกของโซล เขาแน่ใจว่าโซลจะไม่กล้าทำกับใคร ถ้าทำให้โซลเจ็บ โซลคงเข็ด เจเจเร่งจังหวะขึ้นราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว สิ้นไร้ซึ่งสติของตัวเอง เขาเป็นสุข เขาเจ็บปวด แกนกายถูกรัดแน่นเป็นความทรมานที่ไม่อาจถอนตัว เขาขบกรามแน่นเมื่อรู้ถึงปลายทางรักที่จะมาเยือนในไม่ช้า
“โซล… โซล… ให้เจ…อื้อออออ อาาาาาาาาา”
เร็วกว่าที่ใจนึก ของเหลวไหลทะลักออกมาจากช่องทางนุ่มที่บวมแดง สีชมพูของหยาดน้ำที่เจือปนอยู่ทำให้เขาใจตกไปอยู่ตาตุ่ม…เสียงหอบของโซล…
“เจขอโทษ…เจขอโทษ เจ็บมากไหม”
ร่างเล็กกว่าพลิกตัวตะแคงต้นขาเลอะเทอะไปด้วยน้ำรักที่ค่อยไหลออกมาจากช่องทางที่ขมิบรัดลงแล้ว เจรีบคว้าทิชชูออกมาซับรอยเปื้อน สำรวจดูรอยแผลฉีกที่ปริแดง
“อาจจะแค่ครั้งแรกอ่ะโซล…นะ…อย่าโกรธเจเลย”
มือเล็กที่แดงจัดกำแน่นเอื้อมคว้าดึงผ้าห่มมาคลุมตัว ยังหอบหายใจจนตัวโยน เจเจได้แต่กอดร่างแข็งเกร็งนั้นไว้จนทั้งคู่หลับไป กระทั่งตื่นอีกครั้งก็เป็นเวลาเย็นย่ำ คุณคิ้มโทรมาชวนให้ไปกินดินเนอร์ ซึ่งเป็นอาหารสตรีทฟู้ดยอดนิยม และของที่สั่งจากร้านชื่อดังต่างๆ
“ใจร้ายยังไงก็อยากให้ลูกได้ลองของอร่อยด้วย มาที่ห้องแม่เร็วๆ นะ หิวมั้ยลูก”
“หิวฮะ” โซลกระซิบตอบรับเบา แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงโดยไม่ปลุกเจเจ
คงยังไม่หายโกรธแหละ แม้จะจูบ จะกอดปลอบแต่โซลก็นิ่งเงียบ พี่ชายถอนหายใจหนักๆ แล้วลุกไปห้องน้ำเขาแสร้งทำเป็นหลับจนได้ยินเสียงปิดประตู โซลไปแล้วทิ้งเขาไว้เพียงลำพัง
กว่าจะทำใจให้ลุกขึ้นได้ก็นานอยู่เหมือนกัน เขาไม่ตอบรับโทรศัพท์ตามจากผู้ปกครองสายที่สองแล้วตัดสินใจไปแต่งตัว
บนระเบียงที่กว้างใหญ่กว่าห้องเด็กๆ หลายเท่า มีโต๊ะเล็กของห้องพักที่เต็มไปด้วยอาหารวางเต็มแน่น เป็นดินเนอร์วิวทะเลกว้างไกลที่หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว แม้จะนั่งเบียดกันหน่อยก็ตาม เจเจมองพี่ชายที่กำลังกินลูกชิ้นปลาหมึก ผู้ปกครองทักทายแต่โซลไม่แม้แต่จะหันมามอง
แบบนี้ก็เป็นเศร้า…โซลทำหน้ามึนๆ ขอดื่มไวน์ในแก้วของแม่ ชนแก้วกับคุณอาทรที่ยินดีอย่างยิ่ง เจเจนั่งข้างที่ว่าง ใกล้กันขนาดนี้แต่เหมือนห่างกันแสนไกล ผัดหมี่แบบบ้านๆ และส้มตำทะเลที่คุณคิ้มนำเสนอนั้นอร่อยมากแต่เขากินไม่ลง เพราะอีกคนหน้าบึ้ง
“ทะเลาะอะไรกันลูก” คุณคิ้มถามเพราะสังเกตเห็นนานแล้ว โซลเบะปาก
“โซลแกล้งผม” เจเจเอ่ยก่อน “เค้าเอาปลิงทะเลโยนใส่” คุณอาทรหัวเราะไม่คิดว่าลูกชายจะกลัวปลิง
“แล้วไปแกล้งเค้าทำไมนะโซล” คุณคิ้มดุ “ถ้ามีคนเอากิ้งกือมาโยนใส่โซลจะชอบมั้ย”
“ไม่ชอบ กิ้งกือน่าขยะแขยง” โซลวางส้อมลูกชิ้น แล้วหันไปหาเจเจ “แต่ปลิงมันนุ่มดีออก น่ารักด้วยดำๆ ดึ๋งๆ” ปรายตาแดงๆ มามอง แก้มมีริ้วสีชมพูดูน่ารัก
“เรื่องแค่นี้เองจะมางอนกันทำไม” คุณอาทรส่ายหน้า
“คงเพราะเจทำโซลเจ็บ” เจเจพูด “เจขอโทษ” เด็กหนุ่มเอ่ยเบาไม่มองสบตา
โซลโยนแตงกวาผักแกล้มใส่เจ้าน้องชายตัวร้าย
“ก็ขอโทษอยู่นี่ไง” เจเจเสียงดัง โยนแตงกลับ โซลคว้าถั่วฝักยาวโยนคืนกลายเป็นสงครามผักที่ทำให้ผู้ปกครองของทั้งคู่เหนื่อยหน่ายใจ
“อย่าเอาของกินมาเล่นแบบนี้!” คุณคิ้มร้องอย่างเหลืออด
ฟ่อนผักชีข้างจานปลาเผาฟาดหน้าเจเจอย่างแรงจนเหม็นฉุน
“คุณเห็นมั้ย ฉันบอกแล้วว่าโซลน่ะ….” คุณแม่เกือบจะกรี๊ดออกมา คุณอาทรต้องยกชามผักหนี
“อะไรกัน โตๆ กันแล้วยังทะเลาะเป็นเด็กๆ อยู่ได้ พอเลยเจ… พ่อบอกแล้วว่าอย่าใช้กำลังกับคนอื่น”
ธรรมเทศนาบทสั้นกับคู่กัดที่หันไปเริ่มกินอาหารทำให้ผู้ปกครองคิดว่าทั้งคู่แค่ทะเลาะกัน ไม่ได้มีเรื่องอื่นนอกเหนือจากนี้
เรื่องลับๆ ที่เจเจเองก็รู้สึกผิด…และโซลเองก็สับสน
—--
สิ้นเทศกาลแต่ยังไม่สิ้นใจ ทุกอย่างกลับไปสู่สภาพเดิมไม่ไหวแล้ว…
เรื่องราวว่าด้วยการคุยกันสองต่อสองถึงเหตุและผลที่คนทั้งคู่จะสามารถยอมรับเงื่อนไขบางอย่างรวมกัน ใช่ว่าจะเป็นพี่น้องแท้ๆ คลานตามกันมานี่นะ แต่ทุกครั้งกลับทำให้โซลสะเทือนใจหลายริกเตอร์ ช่วงเวลาลับที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีกยังเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ กิจกรรมที่ควรสงวนไว้แค่ระยะอยากรู้อยากลอง กลับกลายเป็นถอนตัวไม่ขึ้น
กลางดึกบนเตียงน้อยสำหรับนอนคนเดียวของโซลกลับมีสองร่างที่เบียดชิด ใกล้โต๊ะเขียนหนังสือตกแต่งมินิมอลกำลังสั่นกราว ถ้วยปากกาดินสอกลิ้งตกลงบนพื้น ตัวบางพาดขวางอยู่กับเตียงกำลังถูกกลั่นแกล้งคล้ายจะตอกให้จมลงในที่นอนลายตารางสีเทา ปากที่เปียกเยิ้มกัดอยู่บนหมอนซับเสียงครางหวานอย่างน่าเสียดาย
“อะ…โซล…เจไม่ไหวแล้ว”
“อื้ออออออออ” กลางกายของโซลถูกบดเบียดอยู่บนผ้าปูที่เริ่มเปียกเป็นวงกว้าง อยากร้องครางก็ทำได้ไม่สุดเสียงโดยมีมืออีกฝ่ายยกมาช่วยปิดเอาไว้ เอวเล็กถูกประคองขึ้นแล้วบรรจงมอบความหวามให้อย่างเน้นๆ
“อ๊ะ…เจ มันลึกไป” สะโพกที่ยกสูงแกว่งอยู่ในอากาศทั้งที่กายยังเชื่อมต่อกัน ท่อนขายาวของเด็กหนุ่มยกขึ้นวางบนเตียง เพื่อให้สัมผัสรักได้ถนัดยิ่งขึ้นจนอีกฝ่ายครางฮืออยู่กับหมอน เจเจขยับสะโพกออกแล้วตอกลงไปตรงๆ มันไม่ได้ช่วยโซลในทางปฏิบัติ มันลึกลงกว่าเดิมจนน้องโซลกระเด้งสั่นไหว
“โซล…โคตรดีเลย” จังหวะรัวเร็วในระยะสุดท้ายทำให้โซลกอดหมอนแน่น อ้าปากแต่ร้องไม่ออก ห้ามไม่ได้จนต้องปลดปล่อยอีกครั้งทั้งที่เพิ่งเสร็จไปแล้วไม่นาน
เสียงสูดปาก และครางต่ำมาพร้อมกับความอบอุ่นที่แผ่ซ่านอยู่ในช่องท้องของโซลมันเริ่มทะลักทลาย ยิ่งขยับหนียิ่งล้นออกมาเหมือนรักนั้นมีให้ตักตวงอย่างไม่รู้จบ
ลำตัวแผ่นหลังแดงซ่านยังสั่นไม่หยุด มือเล็กกำแน่น เจเจก้มลงจูบต้นคอขาวเหนือไรผมท้ายทอยที่เปียกชุ่มเหงื่อ
เขารักโซล…พี่ชายที่น่ารักของเขา
////
ไรท์ทักค่ะ... ตอนแรกว่าจะเขียนตอนพิเศษของ N'cream Agency พนักงานเอให้จบทั้งหมด แต่ไปๆ มาๆ เรื่องนี้ใกล้แล้วเลยดันให้จบก่อน เรื่องของเจเจ และโซลเป็นเรื่องภาคต้นที่เรามีไอเดียมานานมากแบ๊ววว:) ก่อนจะไปวาดเป็นเว็บตูนเรื่อง Bake Love ที่เราลงตัวอย่างไว้ในหน้าโปรไฟล์ เป็นเวบตูนเรื่องแรกที่ยังวาดไม่จบค่ะ5555555 (ป่วยก่อน)แต่ก็ใกล้แล้ว คิดว่าไม่นานจะไปวาดต่อให้จบนะคะ ใครที่อ่านเรื่องนี้จบ สนใจเว็บตูน แบบเรื่องราวหลังจากนี้เป็นไงแวะไปที่ Webtoon เสริชหา Bake Love / BakeLove นะคะ
ผลงานอื่นๆ ของ Capplepye ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Capplepye
ความคิดเห็น