ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Special Ones

    ลำดับตอนที่ #15 : - คนละไม้คนละมือ...เก็บเล็กผสมน้อย - "ของของข้าหายไปไหน"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.81K
      4
      21 ต.ค. 53

    - คนละไม้คนละมือ...เก็บเล็กผสมน้อย -

    ของของข้าหายไปไหน

     

                วิลเลียมผลักประตูเปิดเข้ามาในร้านของท่านป้ามาร์กาเรต เห็นหญิงร่างท้วมกำลังสาละวนจัดการกับสมุดจดตรงหน้าอยู่ เขาไม่พูดพล่ามอะไรมาก เข้าไปทักทายทันที

                สวัสดียามบ่ายท่านป้า

                อ้าว สวัสดีวิลเลียม มาร์กาเรตเงยหน้าขึ้นมามองเขาแวบหนึ่ง ก่อนก้มลงมองงานต่อ วันนี้เจ้ามาก่อนเวลาเกินไปนะ แต่ก็ดีแล้ว มาช่วยข้าคำนวณตัวเลขในบัญชีนี่หน่อยสิ ข้าว่าข้าคิดผิดตรงไหนสักแห่ง แต่หาไม่เจอ

                พอดีข้ากำลังรีบน่ะท่านป้า คงอยู่ช่วยท่านไม่ได้หรอก ถึงจะพูดปฏิเสธ แต่ชายหนุ่มก็เดินเข้ามาใกล้ ข้าแค่ผ่านมาทางนี้ เลยมาทักทายท่านเฉยๆ เอ๊ะ! ท่านป้า ข้าว่าข้าเห็นผมหงอกบนศีรษะท่านเส้นหนึ่ง ให้ข้าช่วยดึงออกให้นะ

                วิลเลียมไม่บอกเปล่า ลงมือกระทำการถอนผมของคนสูงวัยกว่า โดยไม่รอการอนุญาตเลย

                ขอบใจเจ้ามาก

                มาร์กาเรตเองก็ไม่ได้อะไร เข้าใจว่าอีกฝ่ายหวังดี แต่พอนางเงยหน้าขึ้นมาคิดจะพูดกับชายหนุ่มอีกที ก็เห็นว่าร่างสูงของวิลเลียมหายไปจากร้านแล้ว

     

                ลูเครเซียเคาะประตูห้องทำงานของท่านเสนาบดีการคลัง เมื่อได้ยินเสียงบอกอนุญาตให้เข้าไปได้ นางก็เอ่ยจุดประสงค์การมาทันที

                ท่านลุงเซนดริก ข้าขอยืมปากกาขนนกของท่านหน่อยได้ไหม

                อ้อ... เอาเลยสิ เซนดริกยื่นปากกาให้เจ้าหญิงด้วยความเต็มใจ

                ขอบคุณท่านมาก เดี๋ยวข้าเอาไปใช้แล้วจะรีบเอามาคืนนะ

                ลูเครเซียรับปากกามาแล้วออกจากห้องไป ไม่ปล่อยให้ท่านเสนาบดีได้สงสัยหรือเอ่ยปากถามเลยสักนิดว่า ทำไมเจ้าหญิงแห่งดาเรเนียจึงต้องแวะมายืมปากกาถึงที่นี่ด้วย

                เจ้าไปหาปากกาที่เหมือนกันนี้มาคืนท่านลุงเซนดริกนะเมเดีย เจ้าหญิงส่งปากกาขนนกให้นางกำนัลผู้ติดตามดู

                เมเดียมองปากกาด้ามนั้นอย่างปลงๆ ขณะเดินตามเจ้าหญิงต่อไป

                นางต้องรับผิดชอบเคราะห์กรรมที่ผู้เป็นนายก่อไว้อีกแล้วสินี่...

     

                ที่ห้องเสื้อเฉิดฉัน...ร้านเสื้อที่เป็นหนึ่งของเครือข่ายของแม่มดดำ

                นายท่าน... ข้าว่ามีด้านเส้นหนึ่งลุ่ยออกมาจากเสื้อท่านนะ ให้ข้าช่วยจัดการให้ไหม

                อ้อ เอาสิ ลูกค้าอนุญาตด้วยความยินดี

                ว่าแล้วท่านเจ้าของร้านก็ตัดด้ายที่ลุ่ยออกมานั้น ทำท่าเหมือนจะทิ้งมันไป แต่ที่จริงแล้วเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้ออย่างดี

                เจ้าของห้องเสื้อกระซิบบอกลูกมือให้ขีดฆ่ารายชื่อหนึ่งออกไปจากรายการ หลังจากที่ลูกค้าคนนั้นจากไปแล้ว

                และเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายๆ กันนี้ก็เกิดขึ้นกับอีกหลายร้านในลูซแวร์...

     

                ไฮเดนที่ได้รับงานจากวิลเลียมมาแล้วในตอนเที่ยงเริ่มออกเดินแวะเวียนไปตามร้านในรายชื่อ เป้าหมายของเขาคือเจ้าของร้านเล็กร้านน้อยเหล่านี้นั่นเอง

                การทำงานครั้งนี้ของไฮเดนไม่มีอะไรมาก เพราะนายท่านวิลเลียมคิดให้เขาเสร็จสรรพแล้วว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เขาแค่ต้องไปประกาศตัวว่ายินดีรับซื้อของเก่าจำพวกขยะที่เสมือนจะไร้ค่าทั้งหลายในราคาที่น่าพอใจ ใครๆ รู้เข้าก็อยากขายให้กันทั้งนั้น

                แต่ด้วยบุคลิกของไฮเดนทำให้เขาประสบกับความยากลำบากในการทำงานบ้างเหมือนกัน เพราะเจ้าของร้านบางคนพอเห็นหน้าเขาแล้วก็นึกว่าจะมาขู่กรรโชกทรัพย์ รีบยกของต่างๆ ให้ทันที

                ชายฉกรรจ์ต้องเสียเวลาอธิบายอยู่นาน กว่าแต่ละคนจะเข้าใจว่าเขาไม่ใช่โจร และไม่ได้คิดจะมาขโมยของ

                ด้วยเหตุนี้ ไฮเดนจึงได้ของจากบุคคลในรายการกลับมาในราคาที่ถูกกว่าที่เขาตั้งเอาไว้แต่แรก เพราะดูเหมือนจะยินดีที่เขามาดี จนยอมยกของเก่าที่เหมือนจะเป็นขยะเหล่านั้นให้

                ไฮเดนไม่แน่ใจนักว่าวิลเลียมคิดจะเอาสิ่งเหล่านี้ไปทำอะไรกัน แต่เมื่อนายท่านขอมา พ่อบ้านที่ดีก็ควรจัดหามาให้ได้ตามประสงค์ และเขาก็รับปากไว้แล้วว่าจะไม่สงสัยมากเกินควร ท่านวิลเลียมก็บอกแล้วนี่นาว่า ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสม จะอธิบายเรื่องทุกอย่างให้เขาเข้าใจเอง

     

                บ่ายวันนั้น ร้านของอาลีมีการจัดรายการลดราคาสินค้าเป็นพิเศษ เรียกลูกค้าหน้าใหม่ และผู้คนหลากหลายที่เคยคิดว่าของร้านนี้แพงไม่เหมาะกับฐานะตน ให้เข้ามาลองดูสักครั้ง

                พ่อค้าอาวุธขายของออกไปได้มากเป็นประวัติการณ์ ทว่ากำไรที่ได้กลับมากลับน้อยนิดยิ่งนัก ที่สำคัญ เขายังจำเป็นต้องแบ่งเหรียญบางส่วนจากคนบางคนไปให้นายท่านด้วย

                อาลีเริ่มคิดว่า ร้านเขามีปัญหาขึ้นมาก็ตั้งแต่เจ้าหนุ่มนั่นปรากฏตัว แต่อย่างไรคงโทษหมอนั่นได้ไม่เต็มปากนัก เพราะชายหนุ่มดูเหมือนจะเป็นที่โปรดปรานของนายท่าน ถ้าหากเขาพูดไม่ดีออกไป อาจจะมีภัยมาถึงโดยไม่รู้ตัวได้...

                เขาจะอดทนรอดูไปก่อน จนกว่านายท่านผู้ยิ่งใหญ่จะมีอะไรดีๆ ตอบแทนให้เขากลับมาละกัน

                อาลีที่รู้จักหันทิศทางตามกระแสลมเป็นอย่างดี ค่อนข้างแน่ใจว่า ตอนนี้เอาใจวิลเลียมไว้ก่อนย่อมที่สุด

     

                อีกาดำตัวหนึ่งบินสำรวจอยู่เหนือน่านฟ้าแห่งนครลูซแวร์

                เมื่อมันเห็นเป้าหมายที่ต้องการก็บินโฉบลงมาเอาของไป...

                เฮ้ย! หมวกของข้า เสียงคนตกเป็นเหยื่อร้อง

                วาเรนเอาของไปทิ้งไว้ที่หนึ่ง ก่อนเริ่มปฏิบัติการใหม่อีกครั้ง

                เฮ้ย! วิกข้า! วิกข้าหายไปไหน!” มีอีกคนโวยวาย

                วาเรนแปลกใจอยู่บ้าง ตอนแรกมันตั้งใจจะเฉี่ยวเอาหนังศีรษะหรือเส้นผมมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่คิดว่านั่นจะเป็นผมปลอม...

                แต่ในเมื่อที่เป็นของที่คนคนนั้นครอบครองเหมือนกัน... ก็ถือว่าใช้ได้แล้วละนะ

                อีกาบินผ่านไปโดยไม่สนใจเสียงร้องโวยวายที่ดังไล่หลังอยู่เลย

                ของของข้าหายไปไหน...

                เหมือนประโยคคำถามลักษณะเดียวกันนั้นจะมีแว่วให้ได้ยินเนืองๆ อยู่ทั่วเมือง

     

                สวัสดีลุงจอห์น วิลเลียมยิ้มกว้างขณะกล่าวกับคนดูแลห้องเก็บเอกสาร

                ...สวัสดีวิลเลียม ไม่นึกว่าเจ้าจะกลับมาหาข้าเร็วขนาดนี้ ข้ายังหาข้อมูลเพิ่มเติมให้เจ้าไม่ได้เลย ช่วงนี้มีเอกสารใหม่ๆ เข้ามาเยอะน่ะ โจนาธานบอกพร้อมยกเหตุผลมาประกอบ ด้วยพอทราบถึงจุดประสงค์การมาเยือนของชายหนุ่ม

                อื้ม ไม่เป็นไร ข้าอารมณ์ดี และผ่านมาแถวนี้ เลยมาทักท่านลุงจอห์นหน่อยน่ะ วิลเลียมว่า มือเคลื่อนเข้ามาวางบนเคาน์เตอร์ไปด้วย

                อย่างนั้นหรือ... ชายสูงวัยมองอีกฝ่ายอย่างปรานี ก่อนหันไปจัดเอกสารเข้าที่ต่อ การอุตส่าห์เข้ามาเยี่ยมเขาลึกถึงที่นี่ไม่ดูแล้วไม่ค่อยธรรมดาเท่าไร

                ข้าไม่รบกวนการทำงานของลุงจอห์นละ แล้วไว้ข้าจะมาเยี่ยมใหม่ ชายหนุ่มที่เพิ่งมาถึงบอกลาปุบปับ

                เมื่อโจนาธานหันมามองอีกทีก็ต้องนึกแปลกใจที่วิลเลียมหายไปแล้ว

                ...เด็กสมัยนี้ช่างเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำอะไรรวดเร็วดีแท้...

                เขาคิด พลางเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดแว่นที่ควรวางอยู่บนเคาน์เตอร์... ทว่ามันกลับไม่อยู่ในที่ของมัน

                ...สสารมีแต่เปลี่ยนแปลงสถานะและที่อยู่ ไม่มีทางสูญหายไปเอง...

                โจนาธานนึกทวนถึงความรู้ที่เคยอ่านเจอมาในหนังสือวิทยาศาสตร์สักเล่ม เขาค่อนข้างชอบข้อความนี้จึงจดจำเอาไว้

                นั่นมันผ้าสำหรับเช็ดแว่น ไม่ใช่ผ้าขี้ริ้วราคาถูกๆ หรอกนะวิลเลียม            ชายสวมแว่นเปรยกับตัวเองเบาๆ แต่ที่จริงก็ไม่นึกติดใจเอาความมากนัก

                โจนาธานเชื่อว่า ทุกการกระทำของมนุษย์ย่อมมีเหตุผลเบื้องหลังรองรับอยู่ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะรอดูต่อไปว่า ชายหนุ่มคิดจะทำอะไร

                ซึ่งการที่เขามองโลก วัตถุ และผู้คนอย่างปล่อยวางได้เช่นนั้นก็เป็นการดีแล้ว เพราะหากมีการทำบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ และถ้าทุกคนที่มีของหายไปในวันนั้นจะมารายงานให้ทางการทราบ คนเฝ้าห้องเก็บเอกสารคงต้องจำเอาไว้ว่า นี่เป็นวันที่ลูซแวร์มีคดีของหายมากที่สุด

                ...แม้แต่กระดุมชุดนอนของพระราชา หรือหวีสางผมของพระราชินีก็ยังสาบสูญไปชั่วคราวเลย

    ---

    Speak Out

    October 20, 2010

    เป็นตอนสั้นๆ ที่ไม่ค่อยเป็นอดีตเท่าใดนัก ตั้งใจเขียนให้เห็นภาพรวมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลูซแวร์ในวันนี้มากกว่า

    ช่วงนี้รู้สึกว่าหาเรื่องในอดีตที่เข้ากันมาเขียนไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่เลย... บางทีอาจจะต้องเปลี่ยนเป็นตอนในปัจจุบันติดต่อกันแทน ถ้าหากหาจังหวะแทรกไม่ได้จริงๆ

    เขียนตอนปัจจุบันแล้วทำเรื่องคืบหน้ามากกว่านี้เนาะ... เล่าเรื่องอดีตเยอะๆ ก็ดูจะวนๆ ไปหน่อย... แต่ว่าตอนหน้าก็ใกล้จะได้ถึงตอนเฉลยเรื่องราวปมหนึ่งแล้วล่ะค่ะ (คิดว่านะ)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×