เทพนิยายแห่งเมอร์ส - นิยาย เทพนิยายแห่งเมอร์ส : Dek-D.com - Writer
×

    เทพนิยายแห่งเมอร์ส

    กลินดา เธอถือว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่เกิดมาในครอบครัวที่ดีคนหนึ่งเลยทีเดียว เธอเกลียดห้องสมุด เกลียดหนังสือคร่ำครึที่บรรดาฝุ่นปรารถนาจะไปจับเกาะเสียจนหนาเตอะ แต่หนังสือพวกนั้นซ่อนอะไรอยู่นะ??

    ผู้เข้าชมรวม

    64

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    64

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  24 ต.ค. 60 / 17:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เทพนิยายแห่งเมอร์ส แต่ง:ละอองหยดหมึก

    จากใจผู้แต่ง

    ก่อนอื่นต้องกล่าวทักทายผู้อ่านทุกท่านกันก่อน สวัสดียามเย็นตอนที่ผู้แต่งเริ่มลงมือเขียนนิยายเรื่องนี้เป็นเวลาที่เย็นแล้วอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การปลดปล่อยจินตนาการ ผู้เขียนขอแทนตัวเองว่า หยดหมึก นะ ในส่วนของเนื้อหาเรื่องนี้จะค่อนข้างไม่อิงความจริงทั้งเนื้อหา สภาพแวดล้อมของเมือง สรุปง่ายๆก็คือเมืองและประเทศอาจไม่มีอยู่จริงนั่นเอง ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านและติดตาม หยดหมึกสัญญาว่าจะตั้งใจบรรจงและให้หัวใจในทุกๆคำทุกๆพยางค์และทุกๆความคิดของตัวละคร หากผิดพลาดตรงไหน หรืออยากติชมแนะนำก็คอมเมนต์เข้ามาได้เลย หยดหมึก ยินดีน้อมรับทุกคำวิจารณ์ และหากเนื้อหาหรือรูปภาพติดลิขสิทธ์ ก็ขออนุญาตมา ณ ที่นี้ด้วย                                                                                          

                                                                                          จงปลดปล่อยจินตนาการละอองหยดหมึก

    บทนำ

     เช้าที่มืดหม่น ช่วงนี้ฤดูฝนได้คลืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ลมหนาวได้หอบอุ้มพัดพาเม็ดฝนเม็ดใหญ่มายังเมืองฮัมเมอร์ริ่ง ในเมืองดูเงียบเหงา ผู้คนต่างก็หลบฝนอยู่ในบ้าน นกน้อยที่เคยร้องเพลงในหน้าร้อนก็หายเงียบราวกับว่าไม่เคยมีพวกมันมาก่อน  ที่ยังคงเป็นเหมือนเดิมในทุกๆปีก็คงจะเป็น กลินดา  หนูน้อยที่ทำหน้าตาราวกับว่าเธอไม่เคยพึงพอใจอะไรเลยในชีวิตนี้มาก่อน เธอทำหน้าตาปั่นปึ่ง สองมือกอดอก ลำคอแข็งคอยแต่มองออกไปนอกหน้าต่างบ้านราวกับว่าข้างนอกบนทางเท้านั้นมีอะไรน่าสนใจนักหนา  

    ผู้คนในบ้านเดินไปมากันอย่างขวักไขว่ ทุกคนต่างมีงานล้นมือเกินกว่าจะสนใจอากับกิริยาที่หนูน้อยแสดงออก

    เอามันไปไปไว้ท้ายรถนะเออระวังหน่อยล่ะกระเป๋าใบนี้แพงมากเกินกว่าที่เธอจะทำงานทั้งชีวิตเพื่อซื้อมันมาเสียอีก ผู้หญิงที่ดูสูงศักดิ์กรีดนิ้วชี้ที่สวยงามประดับเพชรนิลจินดาทั้งหลายเพื่อบอกทางแก่คนงานที่ทำหน้าที่ยกกระเป๋าของเธอไป เขาดูผอมแห้งและไม่รู้ว่ารูปร่างแบบนี้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน

    “ไม่ไหวจริงนี่ถ้าฉันไม่ต้องไปเยี่ยมคุณพ่อล่ะก็นะฉันจะไม่มีวันให้คนที่ท่าทางแบบนี้เข้ามาเหยีบบ้านแล้วก็พรมแสนสวยของฉันหรอกพวกเขาน่ะสกปรกจะตาย!” หญิงคนดังกล่าวพูด สายตาอันคมกริบของเธอตวัดไปที่ชายร่างผอม

    “ฮึ!” หนูน้อยริมหน้าต่างส่งเสียงลอดจมูกออกมา

    “โอ้จริงสิกลินดาลูกรักเตรียมของเสร็จรึยังจ๊ะ ชุดกระโปรงผ้าไหมสั่งตัดพิเศษของลูกน่ะ มันสวยมากใช่มั้ยจ๊ะ ไหนจะรองเท้าหนังแกะเข้าชุดอีก วันเกิดของคุณตาลูกสาวของแม่จะต้องสวยกว่าลูกหลานคนชนบทเป็นไหนๆ” หล่อนกล่าว หล่อนมีนามว่า โดโรที ไดมอน สามีของเธอตายเมื่อเธอคลอดลูกสาวได้ไม่นาน เขาตายไปแต่ก็ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้เธอมหาศาลชนิดที่ว่าต่อให้ใช้ทั้งชาติดก็ไม่มีวันที่จะใช้หมด แต่กระนั้นเธอก็กลับเอาเวลาไปใส่ใจกับการเข้าสังคมและการแต่งตัว มีเด็กหนุ่มเข้ามาจีบและพัวพันกับเธอมากมาย เธอคือแม่ม่ายที่รวยและทรงเสน่ห์ที่สุดที่เมืองฮัมเมอร์ริ่งเคยมีมา 

    หนูน้อยไม่ตอบเธอผลักอ้อมกอดของผู้เป็นมารดาออกเบาๆแล้วเดินไปยังห้องของตัวเธอเอง เธอผลักประตูปิดเบาๆเอาแผ่นหลังเล็กแนบกับประตู เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนขึ้นไปนั่งบ่นเตียง เตียงนอนที่แสนหนานุ่มและอบอุ่นกลับไม่ช่วยทำให้จิตใจของหนูน้อยอบอุ่นขึ้นบ้างเลย เอหยิบรูปของบิดาขึ้นมาดู พ่อที่เธอเองก็ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นสักครั้งในชีวิต แม่ของเธอบอกว่าพ่อเป็นนักเดินทางและนักเขียน เขามีบทประพันธ์มากมาย แม่ของเธอยังบอกอีกว่าพ่อตายเพราะ

    พ่อของลูกเสียเพราะเขาอยากจะเขียนเรื่องพืชที่ชื่ออะควาอะไรสักอย่างที่อยู่ริมผาทำให้เขาพลัดตกเขาเสียชีวิต แม่ของเธอพูดขณะดูนิตยสารเพื่ออัพเดทกระแสนิยมของเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย

    “ขนาดวาระสุดท้ายของพ่อยังอุทิศเพื่อหนังสือเลยเหรอคะ?” หนูน้อยกล่าวเบาๆกับรูปถ่าย เจ็บแปล็บๆในอก กรึก!เสียงไม้กระดานหน้าห้องของเธอลั่น หนูน้อยรีบเก็บรูปของพ่อเอสอดเข้าไปในสมุดบันทึกเล่มหนาแล้วยัดมันเข้าตู้เตี้ยข้างหัวนอน

    “เก็บของเสร็จรึยังคะคุณหนูคุณผู้หญิงให้มาตามแล้วค่ะ”มาเรียนั่นเอง เธอเป็นหัวหน้าแม่บ้านที่คอยรับใช้ตระกูลไดมอนมานาน ตั้งแต่รุ่นคุณยายของเธอ อีกทั้งเธอยังเป็นแม่นมให้กับกลินดาด้วย

    “มาเรีย”กลินดาลุกจากเตียงช้าๆเธอเปิดประตูออกแล้วเข้าโผกอดแม่นมของเธอ มีแต่มาเรียเท่านั้นที่พร้อมจะรับฟังและเข้าใจเธอ “คุณจะไปกับเราใช่มั้ยคะมาเรีย ตอบสิว่าใช่ ตอบหนูว่าคุณจะไป” กลินดากล่าวเธอโอบรัดเอวหนาของแม่นมร่างท้วมแน่น

    “โถคุณหนูคะ อิชั้นแก้แล้วคงไปไม่ไหวหรอกค่ะ อีกอย่างที่ปราสาทของคุณตาของคุณหนูน่ะมีคนรับใช้มากมายไม่ต้องเอาคนแก่ภาระอย่างอิชั้นไปหรอกค่ะ”มาเรียกล่าวเธอปลอบประโลมหนูน้อยที่เธอทั้งรักทั้งถนอมมาแต่เล็ก

    “แต่ว่า

    “ไม่มีแต่นะคะคุณหนู อิชั้นเชื่อว่าคุณหนูอยากพบกับคุณพ่อใช่ไหมคะ รู้มั้ยว่าคุณตาและคุณพ่อน่ะ สนิทกันมากแค่ไหน อิชั้นเชื่อว่าคุณหนูจะต้องพบบางสิ่งบางอย่าง ที่น่าอัศจรรย์แน่ๆ” มาเรียกล่าวเธอย่อตัวลงเพื่อสบตากับกลินดา

    “มาเรีหยมาเรีย!” เสียงของคุณผู้หญิงแห่งบ้านดังขึ้นมาถึงด้านบนทำให้ทั้งคู่จบบทสนทนาแต่เพียงเท่านั้น มาเรียนช่วยถือกระเป๋าใบน้อยของกลินดาลงไปชั้นล่าง กลินดากอดสมุดบันทึกเล่มโตที่ดูเก่าจนหนังหุ้มถลอกไว้แน่น บนหน้าปกมีตัวอักษรสีทองจางๆเป็นสัญลักษณ์ตัวอักษร และ


    ...จบไปแล้วกับบทนำ ยินดีต้อนรับผู้อ่านทุกท่านเข้าสู่การผจญภัยครั้งใหม่ เรื่องราวในตอนหน้าจะเกิดอะไรขึ้นพลาดไม่ได้เลย...

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น