เทพนิยายแห่งเมอร์ส
กลินดา เธอถือว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่เกิดมาในครอบครัวที่ดีคนหนึ่งเลยทีเดียว เธอเกลียดห้องสมุด เกลียดหนังสือคร่ำครึที่บรรดาฝุ่นปรารถนาจะไปจับเกาะเสียจนหนาเตอะ แต่หนังสือพวกนั้นซ่อนอะไรอยู่นะ??
ผู้เข้าชมรวม
63
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เทพนิยายแห่งเมอร์ส
แต่ง:ละอองหยดหมึก
จากใจผู้แต่ง
ก่อนอื่นต้องกล่าวทักทายผู้อ่านทุกท่านกันก่อน
สวัสดียามเย็นตอนที่ผู้แต่งเริ่มลงมือเขียนนิยายเรื่องนี้เป็นเวลาที่เย็นแล้วอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การปลดปล่อยจินตนาการ
ผู้เขียนขอแทนตัวเองว่า หยดหมึก นะ
ในส่วนของเนื้อหาเรื่องนี้จะค่อนข้างไม่อิงความจริงทั้งเนื้อหา
สภาพแวดล้อมของเมือง สรุปง่ายๆก็คือเมืองและประเทศอาจไม่มีอยู่จริงนั่นเอง ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านและติดตาม
หยดหมึกสัญญาว่าจะตั้งใจบรรจงและให้หัวใจในทุกๆคำทุกๆพยางค์และทุกๆความคิดของตัวละคร
หากผิดพลาดตรงไหน หรืออยากติชมแนะนำก็คอมเมนต์เข้ามาได้เลย หยดหมึก
ยินดีน้อมรับทุกคำวิจารณ์ และหากเนื้อหาหรือรูปภาพติดลิขสิทธ์ ก็ขออนุญาตมา ณ ที่นี้ด้วย
จงปลดปล่อยจินตนาการ…ละอองหยดหมึก
บทนำ
เช้าที่มืดหม่น ช่วงนี้ฤดูฝนได้คลืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ลมหนาวได้หอบอุ้มพัดพาเม็ดฝนเม็ดใหญ่มายังเมืองฮัมเมอร์ริ่ง ในเมืองดูเงียบเหงา ผู้คนต่างก็หลบฝนอยู่ในบ้าน นกน้อยที่เคยร้องเพลงในหน้าร้อนก็หายเงียบราวกับว่าไม่เคยมีพวกมันมาก่อน ที่ยังคงเป็นเหมือนเดิมในทุกๆปีก็คงจะเป็น กลินดา หนูน้อยที่ทำหน้าตาราวกับว่าเธอไม่เคยพึงพอใจอะไรเลยในชีวิตนี้มาก่อน เธอทำหน้าตาปั่นปึ่ง สองมือกอดอก ลำคอแข็งคอยแต่มองออกไปนอกหน้าต่างบ้านราวกับว่าข้างนอกบนทางเท้านั้นมีอะไรน่าสนใจนักหนา
ผู้คนในบ้านเดินไปมากันอย่างขวักไขว่
ทุกคนต่างมีงานล้นมือเกินกว่าจะสนใจอากับกิริยาที่หนูน้อยแสดงออก
“เอามันไปไปไว้ท้ายรถนะ…เออระวังหน่อยล่ะกระเป๋าใบนี้แพงมากเกินกว่าที่เธอจะทำงานทั้งชีวิตเพื่อซื้อมันมาเสียอีก”
ผู้หญิงที่ดูสูงศักดิ์กรีดนิ้วชี้ที่สวยงามประดับเพชรนิลจินดาทั้งหลายเพื่อบอกทางแก่คนงานที่ทำหน้าที่ยกกระเป๋าของเธอไป
เขาดูผอมแห้งและไม่รู้ว่ารูปร่างแบบนี้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน
“ไม่ไหวจริงนี่ถ้าฉันไม่ต้องไปเยี่ยมคุณพ่อล่ะก็นะ…ฉันจะไม่มีวันให้คนที่ท่าทางแบบนี้เข้ามาเหยีบบ้านแล้วก็พรมแสนสวยของฉันหรอก…พวกเขาน่ะสกปรกจะตาย!” หญิงคนดังกล่าวพูด
สายตาอันคมกริบของเธอตวัดไปที่ชายร่างผอม
“ฮึ!”
หนูน้อยริมหน้าต่างส่งเสียงลอดจมูกออกมา
“โอ้…จริงสิกลินดาลูกรัก…เตรียมของเสร็จรึยังจ๊ะ ชุดกระโปรงผ้าไหมสั่งตัดพิเศษของลูกน่ะ
มันสวยมากใช่มั้ยจ๊ะ ไหนจะรองเท้าหนังแกะเข้าชุดอีก วันเกิดของคุณตาลูกสาวของแม่จะต้องสวยกว่าลูกหลานคนชนบทเป็นไหนๆ”
หล่อนกล่าว หล่อนมีนามว่า โดโรที ไดมอน สามีของเธอตายเมื่อเธอคลอดลูกสาวได้ไม่นาน
เขาตายไปแต่ก็ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้เธอมหาศาลชนิดที่ว่าต่อให้ใช้ทั้งชาติดก็ไม่มีวันที่จะใช้หมด
แต่กระนั้นเธอก็กลับเอาเวลาไปใส่ใจกับการเข้าสังคมและการแต่งตัว มีเด็กหนุ่มเข้ามาจีบและพัวพันกับเธอมากมาย
เธอคือแม่ม่ายที่รวยและทรงเสน่ห์ที่สุดที่เมืองฮัมเมอร์ริ่งเคยมีมา
หนูน้อยไม่ตอบเธอผลักอ้อมกอดของผู้เป็นมารดาออกเบาๆแล้วเดินไปยังห้องของตัวเธอเอง
เธอผลักประตูปิดเบาๆเอาแผ่นหลังเล็กแนบกับประตู เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนขึ้นไปนั่งบ่นเตียง
เตียงนอนที่แสนหนานุ่มและอบอุ่นกลับไม่ช่วยทำให้จิตใจของหนูน้อยอบอุ่นขึ้นบ้างเลย
เอหยิบรูปของบิดาขึ้นมาดู พ่อที่เธอเองก็ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นสักครั้งในชีวิต
แม่ของเธอบอกว่าพ่อเป็นนักเดินทางและนักเขียน เขามีบทประพันธ์มากมาย
แม่ของเธอยังบอกอีกว่าพ่อตายเพราะ
‘พ่อของลูกเสียเพราะเขาอยากจะเขียนเรื่องพืชที่ชื่อ…อะควา…อะไรสักอย่างที่อยู่ริมผาทำให้เขาพลัดตกเขาเสียชีวิต’ แม่ของเธอพูดขณะดูนิตยสารเพื่ออัพเดทกระแสนิยมของเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
“ขนาดวาระสุดท้ายของพ่อยังอุทิศเพื่อหนังสือเลยเหรอคะ?”
หนูน้อยกล่าวเบาๆกับรูปถ่าย เจ็บแปล็บๆในอก กรึก!เสียงไม้กระดานหน้าห้องของเธอลั่น
หนูน้อยรีบเก็บรูปของพ่อเอสอดเข้าไปในสมุดบันทึกเล่มหนาแล้วยัดมันเข้าตู้เตี้ยข้างหัวนอน
“เก็บของเสร็จรึยังคะคุณหนู…คุณผู้หญิงให้มาตามแล้วค่ะ”มาเรียนั่นเอง
เธอเป็นหัวหน้าแม่บ้านที่คอยรับใช้ตระกูลไดมอนมานาน ตั้งแต่รุ่นคุณยายของเธอ
อีกทั้งเธอยังเป็นแม่นมให้กับกลินดาด้วย
“มาเรีย…”กลินดาลุกจากเตียงช้าๆเธอเปิดประตูออกแล้วเข้าโผกอดแม่นมของเธอ
มีแต่มาเรียเท่านั้นที่พร้อมจะรับฟังและเข้าใจเธอ “คุณจะไปกับเราใช่มั้ยคะ…มาเรีย ตอบสิว่าใช่ ตอบหนูว่าคุณจะไป”
กลินดากล่าวเธอโอบรัดเอวหนาของแม่นมร่างท้วมแน่น
“โถ…คุณหนูคะ
อิชั้นแก้แล้วคงไปไม่ไหวหรอกค่ะ
อีกอย่างที่ปราสาทของคุณตาของคุณหนูน่ะมีคนรับใช้มากมายไม่ต้องเอาคนแก่ภาระอย่างอิชั้นไปหรอกค่ะ”มาเรียกล่าวเธอปลอบประโลมหนูน้อยที่เธอทั้งรักทั้งถนอมมาแต่เล็ก
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่นะคะ…คุณหนู
อิชั้นเชื่อว่าคุณหนูอยากพบกับคุณพ่อใช่ไหมคะ รู้มั้ยว่าคุณตาและคุณพ่อน่ะ
สนิทกันมากแค่ไหน อิชั้นเชื่อว่าคุณหนูจะต้องพบบางสิ่งบางอย่าง
ที่น่าอัศจรรย์แน่ๆ” มาเรียกล่าวเธอย่อตัวลงเพื่อสบตากับกลินดา
“มาเรีหย…มาเรีย!” เสียงของคุณผู้หญิงแห่งบ้านดังขึ้นมาถึงด้านบนทำให้ทั้งคู่จบบทสนทนาแต่เพียงเท่านั้น
มาเรียนช่วยถือกระเป๋าใบน้อยของกลินดาลงไปชั้นล่าง
กลินดากอดสมุดบันทึกเล่มโตที่ดูเก่าจนหนังหุ้มถลอกไว้แน่น บนหน้าปกมีตัวอักษรสีทองจางๆเป็นสัญลักษณ์ตัวอักษร
‘ม’ และ ‘ด’
...จบไปแล้วกับบทนำ ยินดีต้อนรับผู้อ่านทุกท่านเข้าสู่การผจญภัยครั้งใหม่ เรื่องราวในตอนหน้าจะเกิดอะไรขึ้นพลาดไม่ได้เลย...
ผลงานอื่นๆ ของ ละอองหยดหมึก ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ละอองหยดหมึก
ความคิดเห็น