แต่งไว้เพื่อรอดูผลตอบรับว่าจะดีหรือเปล่า ถ้าใช้คำผิดยังไงก็ช่วยแนะนำกันด้วยนะ
“สวัสดีดวงวิญญานผู้หลงทาง”
ทันที่ที่ลืมตาตื่นขึ้นมานั้นผมก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งทักขึ้นมาจากทางด้านหลัง ผมหันกลับไปดูด้วยความสงสัยและงุนงงแบบสุดๆ ผมจ้องเธอตาไม่กระพริบ แล้วเหมือนเธอจะรู้ตัวว่าผมกำลังงุนงงอยู่เธอเลยกล่าวคำๆเดิมอีกครั้ง
“สวัสดีดวงวิญญานผู้หลงทาง”
“ครับ?ห่ะ?วิญญาน?”
“ฮิๆคงจะไม่เขาใจสถานะการตอนนี้สินะ”
เธอหัวเราะเบาๆ ดูๆไปก็น่ารักดีแฮะคนๆนี้ ผมคิดในใจ
“เธอน่ะตายแล้วนะรู้ตัวรึเปล่า?”
พูดเสร็จเธอก็ดีดนิ้ว
ทันใดนั้นภาพเหตุการทุกๆอย่างก็ได้แสดงขึ้นด้านหลังของเธอ ภาพของชายคนหนึ่งกำลังทำงานอย่างขยันขันแข็งก็ได้ปรากฏตัวขึ้นแทบจะทันที นั้นมันเรานิ ผมคิดในใจ สักพักหนึ่งก็ตัดภาพมาที่ยายแก่ๆคนหนึ่งกำลังนั้งตัวสั่นพร้อมกับชายวัยรุ่น2คนที่มีลายสักเต็มแขนกำลังยื่นมองแกอยู่ ยายแก่กับชายวัยรุ่นอยู่ฝังตรงข้ามของถนนประจวบเหมาะกับชายคนนั้นที่ออกมานั้งพักสูบบุหรี่พอดี เขาเห็นยายแก่เหมือนจะต้องการความช่วยเหลือเขาเลยข้ามถนนตรงไปหาเธอทันที
(เห้ย!!ทำอะไรกัน)
ชายวัยรุ่นหันควับแล้วพูดว่า
(โหๆสมัยนี้ยังมีพ่อพระอยู่ด้วย)
ชายคนนั้นยังไม่ทันได้พูดต่อ ชายวัยรุ่นอีกคนก็พุ่งเขามาพร้อมยกหมัดขวาขึ้นแล้วส่งมัดเข้าไปที่หน้าของชายคนนั้น เขาเอี๊ยวตัวหลบไปทางซ้ายได้แบบชิวเชียดพร้อมปล่อยหมัดอัปเปอคัตสวนแบบทันที ผลักกกก หมัดนั้นโดนปลายคางชายวัยรุ่นแบบพอดิบพอดีชายวัยรุ่นหงายหลังลงไปกองอยู่กับพื้นพร้อมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาเพราะความเจ็บ ชายวัยรุ่นอีกคนเห็นแบบนั้นจึงวิ่งเข้าใส่แบบไม่คิดหน้าคิดหลังทั้งๆที่เห็นเพื่อนนอนกุมปากอยู่กับพื้น ชายคนนั้นตั้งท่ารอพอได้จังหว่ะเขาก็ยกขาขึ้นพร้อมหวดหน้าแข้งใส่ที่ท้องของชายวัยรุ่นอย่างแรง ชายวัยรุ่นถึงกับเข่าทรุด
(ไม่ใช้พ่อพระโว้ย เขาเรียกสามัญสำนึก)
ชายคนนั้นพูดใส่ชายวัยรุ่นทั้ง2คน
พูดเสร็จเข้าก็เดินเข้าไปหายายแก่ที่นั้งอยู่
(ยายเป็นอะไรมากไหมครับให้ผมพ—)
พูดยังไม่ทันจบผมก็เห็นชายวัยรุ่นคนแรกที่ล้มลงลุกขึ้นมาพร้อมมีดพกแล้วพุ่งตรงเข้าใส่ชายคนนั้นจากด้านหลัง เสี่ยววินาทีที่ผมนั้งดูเหตุการนั้นอยู่จิตใจผมเริ่มไม่อยู่กับตัว ตาพร่ามัว หนาวไปทั่วทั้งแผ่นหลัง
“จำได้แล้ว”
ผมพูดขึ้น
“อืม ทำใจเถอะนะตายมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ช้าก็เร็วมนุษญ์ก็ต้องตาย ไม่อุบัติเหตุ ก็สิ้นอายุไข”
เธอเงียบไปสักพักเเล้วพูดต่อ
“เอาละเข้าเรื่องกันต่อชั้นมีทางเลือกให้เธอ3ทางนะตั้งใจฟังล่ะ”
ผมถอนหายใจดังเฮ้อออ พร้อมกับพยามตั้งใจฟังสิ่งที่เธอจะพูด
“ก่อนอื่นเลยชั้นมีชื่อว่า เอริส เป็นเทพที่คอยชี้นำและให้ทางเลือกกับดวงวิญญานทุกดวงในจักรวาล”
“ห่ะทั้งจักรวาล จิงดิ!”
ผมพูดขัดเธอเพราะความสนใจ
“อย่าขัดกันสิ โธ่..”
เธอพูดพร้อมทำหน้างอนๆ
‘อุกกกจับกดเทพจะตกนรกไหมฟ่ะจะน่ารักเกินไปแล้วว’
ผมคิดในใจ
“ใช้แล้วล่ะทั้งจักวาลเลย โลกที่เธอจากมาคงจะมีหนัง เกมส์ หรือศิลปะ ที่เกี่ยวกับต่างโลกด้วยใช้ไหมละ เรื่องราวพวกนั้นน่ะล้วนมีอยู่จริงนะในที่ไหนสักที่ในจักรวาล ในแต่ละระบบสุริยะ ในแต่ละดวงดาวล้วนมีเรื่องราวของมันเอง”
WTF?เอาจริงดิ
“อย่าบอกนะสงครามระหว่างดวงดาวแบบหนังเรื่องสตาร์วอ นี้ก็เป็นเรื่องจริง?”
“อืม มีสิ”
“เป็นไปได้ยังไงมันก็แค่จินตนาการของคนแต่งบทไม่ใช้หรอ?”
“ก็คนที่แต่งเขาเคยเห็นมากับตาไง”
เธอตอบแบบยิ้มๆเหมือนกำลังสนุกอยู่กับเจ้าเด็กขี้สงสัยแบบผม
“ห่ะ?”
“ชั้นเป็นคนส่งเขาเหล่านั้นไปเกิดที่โลกของเธอเองแหล่ะถึงจะเสียความทรงจำไปแต่พวกเขาก็สามารถระรึกชาติได้ผ่านทางสิ่งที่เรียกว่าจินตนาการของพวกเขาเอง ฮิๆ”
เธอหัวเราะผมที่กำลังนั้งเปิดปากกว้างด้วยความตกใจ
“เอาหล่ะมีอะไรจะถามต่อไหม ถ้าไม่ชั้นจะได้บอกทางเลือกทั้ง3ทางให้เธอฟัง”
“ไม่มีละครับ”
ผมตอบ
“ทางเลือกที่1 คือทางเลือกที่ปล่อยวางกรณีของเธอทางเลือกนี้อาจไม่จำเป็นสักเท่าไหร่เพราะเธอเกิดมาเพียงแค่ชาติเดียวส่วนกรณีของคนอื่นนั้นเกิดมาหลายชาติพอสิ้นอายุไขแล้วกลายเป็นวิญญานความทรงจำจากทุกชาติจะถูกระลึกขึ้นมาถ้าดวงวิญญานนั้นดีพอแล้วเลือกทางเลือกนี้ จะกลายเป็นเทพที่คอยชี้นำเหล่าดวงวิญญานเรียกง่ายๆก็เทพฝึกหัดหรือผู้ช่วยนั้นแหล่ะเพราะดวงวิญญานทั้งจักรวาลมันเยอะใช้ไหมล่ะเทพอย่างเราจึงต้องการเทพผู้ช่วยมาคอยชี้นำดวงวิญญานอื่นต่อไป ถ้าจะให้ยกตัวอย่างง่ายๆก็คงจะเเบบพระพุทธเจ้าที่เกิดเป็นพันๆชาติแล้วสะสมคุณงามความดีนั้นแหล่ะ”
“อืมพระพุทธเจ้าสินะเข้าใจแล้วครับ”
“ต่อไปคือทางเลือกที่2 คือเกิดใหม่แต่สูญเสียความทรงจำทุกอย่าง ทางเลือกนี้ถูกเลือกมากที่สุดเพราะดวงวิญญานมากกว่าครึ่งยังเสียดายเวลาในการใช้ชีวิตหรือมีปัญหาที่ร้ายแรงในชีวิตแล้วต้องการจะเริ่มต้นใหม่ แบบทึ้งความทรงจำเก่าๆไปให้หมด”
“อืมๆหืมแล้วทางเลือกสุดท้ายล่ะครับ ที่พูดมานี้เหมือนจะเป็นทางเลือกทั้งหมดเท่าที่จะให้เลือกได้เลยน่ะ”
“ทางเลือกที่3 จะมีเฉพาะดวงวิญญานใหม่ที่มีเพียงชาติเดียวเท่านั้น วิญญานเหล่านี้มีน้อยมากจึงมีทางเลือกพิเศษนี้ขึ้นมาคือสามารถเลือกรูปแบบโลกที่จะไปเกิดได้พร้อมความทรงจำจากชาติแรก ที่ต้องมีอย่างนี้เพราะเทพอย่างเราเห็นว่าเป็นอันดีที่วิญญานใหม่จะได้ใช้ชีวิตต่อเพิ่มอีก1ชาติเพราะดวงวิญญานดีๆแต่กลับต้องมาตายก่อนอายุไขตั้งแต่ชาติแรกที่เกิดนั้นน่าสงสารเกินไป เอาหล่ะเลือกมาสิ แต่คงไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วละใช้ไหม ฮิๆ”
‘แน่นอนต้องเลือกทางที่3อยู่แล้วเกิดเป็นลูกผู้ชายทั้งทีขอไปอยู่ที่ๆมีเวทมนกับฮาเร็มสาวๆหน่อยเถอะ’
ผมคิด
“ทางที่3ครับ ขอโลกที่มีเวทมน แฟนตาซี วิทยาศาร์ทไม่พัฒนามากยิ่งดีเลยครับ”
“....’ฮาเร็มหรอ’..”
เธอพึมพำอะไรกันนะ?ผมคิด
“ตกลงคะ ยืนยันดวงวิญญานเสร็จสิ้น ขอให้โชคดีกับโลกใหม่นะ อ่ะแล้วก็จะจับกดเทพไม่ได้นะอย่าทำเชียวละ”
“ขอบคุณครับ ห่ะเห้ยเดียวววววว”
“ฮิๆ”
แล้วภาพของเทพเอริสก็ตัดหายไป
จบบทนำ
ความคิดเห็น