AIMNAM : my dear manager ผู้จัดการรัก
พี่เป็นผู้จัดการดูแลเรื่องงานให้เธอแล้วให้พี่ได้เป็นผู้จัดการชีวิตและหัวใจของเธอด้วยไดไหมเด็กน้อย
ผู้เข้าชมรวม
12,660
ผู้เข้าชมเดือนนี้
65
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
"พี่สาวคนสวย...หนูให้" สายตาคู่คมที่พร่ามัวจากการร้องไห้ที่มาจากความเจ็บปวดและความมึน(เมา)ของหญิงสาวร่างระหงนั้นช้อนขึ้นมองหน้าเด็กสาวและกดสายตาลงต่ำมาที่ผ้าในมือที่เด็กสาวยื่นมาตรงหน้าเธอ
ใช้ได้ใช่มั้ย
คงไม่ใช่ผ้าขี้ริ้วหรอกเนอะ
ฟรื้ดด
เสียงสั่งน้ำมูกของคนที่พึ่งจะหยุดร้องไห้ไปหมาดๆดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักของคนที่นั่งอยู่ข้างๆและเว้นระยะไม่ให้ใกล้เธอมากจนเกินไป
"ขำอะไรไม่เคยเห็นคนสั่งน้ำมูกหรอ" หันไปถามและมองด้วยสายตาที่เหวี่ยงๆพอๆกับสีหน้าในตอนนี้
"ขอโทษค่ะแต่หนูไม่ได้ขำพี่สาวคนสวยนะ...หนูขำน้องหมาที่เล่นกันตรงโน้นค่ะ" เธอหันมองไปตามนิ้วที่ชี้ของเด็กน้อย ก่อนจะเม้มริมฝีปากอย่างเก้อเขิน
หน้าแตก
"พี่สาวคนสวยไม่ต้องร้องไห้นะคะถ้าเมาแล้วไม่มีรถกลับให้หนูไปส่งได้นะ" เด็กน้อยที่ลุกขึ้นยืนนั้นหันมาเอ่ยกับเธออีกครั้งด้วยความสดใส สดใสอะไรเบอน์นั้นนะ สายตาคู่คมของเธอกดลงต่ำมาที่สิ่งที่เด็กน้อยนั่งคร่อมอยู่ ก่อนจะช้อนขึ้นกลับไปมองหน้าเด็กน้อยอีกครั้ง
จักรยานเนี่ยนะ?
ถามจริง!!
"ไม่ได้ร้องเพราะไม่มีรถกลับ ว่าแต่ดึกป่านนี้มาปั่นจักรยานเล่นทำไมแถวนี้ อายุเท่าไหร่เนี่ย" เอาเถอะอย่างน้อยก็มีน้ำใจแต่มันใช่เวลาจะมาปั่นจักรยานชมนกชมไม้รึเปล่าล่ะ
"หนูไม่ได้มาปั่นเล่นค่ะหนูมาหาเงิน"
"จะบ้าหรอเงินนะไม่ใช่ขยะที่จะหาได้ตามข้างทาง!"
"นั่นแหละค่ะเงินของหนู" เอ่อ...
ไปไม่เป็นเลย
จี้ใจดำเธอรึเปล่านะ
"ไหนมานั่งคุยกันก่อนสิเงยหน้านานๆเมื่อยคอ" เด็กน้อยพยักหน้ารับหงึกๆและกลับลงมานั่งที่เดิมอย่างว่าง่าย
"ทำไมต้องออกมาหา...เงินน่ะเวลานี้"
"ก็เวลานี้ร้านต่างๆปิดไงคะพวกขวดน้ำหรืออะไรที่พอขายได้คนก็จะมาเก็บเวลานี้แหละค่ะ"
"แล้วพ่อแม่ไปไหนทำไมปล่อยให้ออกมาคนเดียวดึกดื่น เป็นสาวแล้วนะมันอันตราย"
"หนูไม่มีพ่อแม่หรอกค่ะมีแต่หลวงตาที่เลี้ยงหนูมาแล้วที่หนูต้องออกมาหาของไปขายตอนนี้ก็เพราะว่าหลวงตาท่านชราแล้วหนูไม่อยากรบกวนท่านเรื่องค่าเทอมแต่หนูก็อยากเรียนก็เลยออกมาเก็บของไปขายสะสมเอาไว้เผื่อเงินพอจะได้เรียนต่อค่ะ"
โอเคเคลียจบทุกความสงสัย
ว่าแต่ถามจี้ใจดำเธออีกรึเปล่านะ
ขอโทษนะเด็กน้อย
เธอกระแอมในลำคอเล็กน้อยและเปิดกระเป๋าหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋าสะพายใบหูส่งให้กับเด็กน้อย
"พี่จะซื้อของที่หนูเก็บมาได้หรอคะ...แปบนึงนะคะหนูหาให้ว่ามีอะไรขายพี่ตอนนี้ได้บ้าง" เด็กน้อยทำท่าจะลุกไปหาของที่ว่าจริงแต่ก็ต้องนั่งลงที่เดิมเมื่อถูกมือบางของเธอดึงให้นั่งลงอีกครั้ง
"ไม่ได้จะซื้อแต่พี่ให้ รับไปสิ" เด็กน้อยส่ายหน้ารับ ก่อนจะส่งยิ้มให้กับเธอ เธอที่เผลอคลี่ยิ้มตามรอยยิ้มนั้น
สตอรี่ขนาดนี้ยังสดใสได้
เก่ง
"ทำไมไม่รับล่ะนี่พี่ให้ฟรีๆเลยนะ" เด็กน้อยดันมือบางของเธอที่มีเงินสดอยู่ในนั้นออกห่างจากตัวเอง ก่อนจะยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
"หนูขอบคุณนะคะที่พี่เต็มใจให้แต่หนูไม่รับของใครฟรีๆหรอกค่ะ หลวงตาสอนว่าของฟรีไม่มีในโลกถ้าอยากได้เงินก็ต้องทำงาน คนที่รับของคนอื่นฟรีๆโดยไม่ทำอะไรคือคนโลภค่ะ" เธอที่ได้ฟังเหตุผลของเด็กน้อยแปลกหน้านั้นคลี่ยิ้มมองอย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะเก็บเงินใส่กระเป๋าและเท้าข้อศอกไว้กับหัวเข่าของตัวเอง ก่อนจะเกยปลายคางไว้บนฝ่ามือของตัวเองมองเด็กน้อยด้วยความภูมิใจ
ภูมิใจแบบไม่มีสาเหตุ
"พี่จะส่งเรียนเอง" ถึงตอนนี้อาชีพผู้จัดการศิลปินของเธอจะไม่มีชื่อเสียงเหมือนแต่ก่อนแต่เธอก็มีเงินเก็บมากพอที่จะใช้ชีวิตสุขสบายไปได้ทั้งชีวิต ไหนจะสมบัติเก่าที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ให้อีก แค่ส่งเด็กน้อยเรียนไม่ทำให้เธอลำบากแน่นอน
"หนูต้องทำอะไรแลกใช่มั้ยคะ"
ฉลาด
"บ้านหลังนี้พี่อยู่แค่คนเดียวแม่บ้านจะมาทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้ง" เธอที่นั่งคุยกับเด็กน้อยจนฟ้าสางนั้นตามเด็กน้อยไปขออนุญาตดูแลเจ้าตัวกับหลวงตาที่วัด ก่อนจะพาเด็กน้อยที่มีเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเพียงไม่กี่ชิ้นกลับมาที่บ้าน
"หนูต้องทำงานอะไรแลกใช่มั้ยคะ หนูคิดว่าแบบนั้นจะสบายใจนะคะ" เธอหันกลับมามองเด็กน้อยที่ยังคงสร้างความประทับใจให้ไม่หยุดด้วยรอยยิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้ารับและเรียกเด็กน้อยมานั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน แต่สิ่งที่เด็กน้อยทำคือการนั่งคลุกเข่าที่พื้นตรงหน้าเธอ
"เสื้อผ้าหนูไม่สะอาดค่ะยังไม่ได้อาบน้ำ" เธอพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะปรายตามองถุงพลาสติกที่เด็กน้อยใช้ใส่เสื้อผ้าและของใช้มาอย่างครุ่นคิด
"ลุกค่ะ พี่จะพาขึ้นไปดูห้องนอนแล้วจะได้อาบน้ำเดี๋ยวพี่จะพาออกไปซื้อเสื้อผ้ากับของใช้แล้วเราค่อยมาตกลงกันว่าพี่จะให้ทำอะไร" เด็กน้อยพยักหน้ารับหงึกๆด้วยรอยยิ้มและถือถุงของใช้ตามเธอขึ้นบนชั้นสามของบ้าน
สูงกว่ากุฎิหลวงตาเยอะเลยนะเนี่ย
"ก็ทำงานบ้านทั่วไปนั่นแหละเวลาที่เหลือก็ตั้งใจเรียนก็พอ" เธอที่ถูกเด็กน้อยถามหาสิ่งที่ต้องทำแลกที่อยู่ที่กินและค่าเล่าเรียนนั้นตอบกลับด้วยเสียงเรียบ หลังจากที่พาเด็กน้อยไปซื้อเสื้อผ้าและของใช้ กว่าจะซื้อของเสร็จก็เล่นเอาเธอส่ะหมดแรง เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะเด็กน้อยของเธอเอาแต่พูดคำว่าเกรงใจจนเธอต้องดุน่ะสิ
"หนูล้างรถได้นะคะตอนอยู่กับหลวงตามีคุณตาใจดีมาจ้างหนูล้างบ่อยๆ"
"อือ ทำได้ก็ทำต้องใช้น้ำยาอะไรล้างก็บอกพี่แล้วกัน"
"ตัดหญ้าหนูก็ทำได้ค่ะ ไฟเสียหนูซ่อมได้ เครื่องใช้ไฟฟ้า..."
"เอาเป็นว่าทำอะไรได้ก็ทำแล้วกันค่ะ ถ้าหิวก็หาของในตู้เย็นกินเลยนะพี่ง่วงมากขอไปนอนก่อน"
"อ๋อค่ะ...หลับสนิทไม่ต้องฝันนะคะพี่เอม!"
ตาจะปิดทุกวินาที
ตั้งแต่เจอเด็กน้อยความเมาของเธอก็หายไปเลย
เสียงเพลงที่ดังคลอไปกับเสียงทำความสะอาดบ้านของเด็กน้อยนั้นเรียกความสนใจของเธอที่กำลังจัดตารางงานให้กับศิลปินในสังกัดจนเธอต้องละจากสิ่งที่ทำอยู่วิ่งลงมาที่ชั้นล่างด้วยความประหลาดใจ
"เมื่อกี้ใครร้องเพลงน่ะ! เธอหรือว่า..."
"หนูร้องเองค่ะ! เสียงดังรบกวนพี่หรอหนูขอโทษนะคะ" เธอส่ายหน้ารับรัวๆและรีบเดินมาปิดลำโพง ก่อนจะจับแขนทั้งสองข้างของเด็กน้อยให้หันมาทางเธอ
"ไหนร้องใหม่สิร้องแบบไม่มีดนตรี สื่ออารมณ์มาถึงพี่เหมือนว่าเธอกับพี่เป็นคนในเพลงนั้น" เด็กน้อยพยักหน้ารับหงึกๆก่อนจะเริ่มอ้าปากร้องเพลงตามคำสั่งอย่างว่าง่าย รอยยิ้มร้ายที่ปรากฎขึ้นบนริมฝีปากอิ่มยังร้ายไม่เท่าสายตาของคู่คมของเธอที่กำลังมองเด็กน้อยตรงหน้า
เอาล่ะนะ
ผู้จัดการเอมถึงเวลาคัมแบค
ผลงานอื่นๆ ของ Blurred2103 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Blurred2103
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น