AIMNAM : my dear manager ผู้จัดการรัก - นิยาย AIMNAM : my dear manager ผู้จัดการรัก : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    AIMNAM : my dear manager ผู้จัดการรัก

    โดย Blurred2103

    พี่เป็นผู้จัดการดูแลเรื่องงานให้เธอแล้วให้พี่ได้เป็นผู้จัดการชีวิตและหัวใจของเธอด้วยไดไหมเด็กน้อย

    ผู้เข้าชมรวม

    12,660

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    65

    ผู้เข้าชมรวม


    12.66K

    ความคิดเห็น


    61

    คนติดตาม


    99
    หมวด :  แฟนฟิคไทย
    จำนวนตอน :  20 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  24 ธ.ค. 65 / 16:24 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    "พี่สาวคนสวย...หนูให้" สายตาคู่คมที่พร่ามัวจากการร้องไห้ที่มาจากความเจ็บปวดและความมึน(เมา)ของหญิงสาวร่างระหงนั้นช้อนขึ้นมองหน้าเด็กสาวและกดสายตาลงต่ำมาที่ผ้าในมือที่เด็กสาวยื่นมาตรงหน้าเธอ


    ใช้ได้ใช่มั้ย

    คงไม่ใช่ผ้าขี้ริ้วหรอกเนอะ


    ฟรื้ดด


    เสียงสั่งน้ำมูกของคนที่พึ่งจะหยุดร้องไห้ไปหมาดๆดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักของคนที่นั่งอยู่ข้างๆและเว้นระยะไม่ให้ใกล้เธอมากจนเกินไป
    "ขำอะไรไม่เคยเห็นคนสั่งน้ำมูกหรอ" หันไปถามและมองด้วยสายตาที่เหวี่ยงๆพอๆกับสีหน้าในตอนนี้
    "ขอโทษค่ะแต่หนูไม่ได้ขำพี่สาวคนสวยนะ...หนูขำน้องหมาที่เล่นกันตรงโน้นค่ะ" เธอหันมองไปตามนิ้วที่ชี้ของเด็กน้อย ก่อนจะเม้มริมฝีปากอย่างเก้อเขิน


    หน้าแตก


    "พี่สาวคนสวยไม่ต้องร้องไห้นะคะถ้าเมาแล้วไม่มีรถกลับให้หนูไปส่งได้นะ" เด็กน้อยที่ลุกขึ้นยืนนั้นหันมาเอ่ยกับเธออีกครั้งด้วยความสดใส สดใสอะไรเบอน์นั้นนะ สายตาคู่คมของเธอกดลงต่ำมาที่สิ่งที่เด็กน้อยนั่งคร่อมอยู่ ก่อนจะช้อนขึ้นกลับไปมองหน้าเด็กน้อยอีกครั้ง


    จักรยานเนี่ยนะ?

    ถามจริง!!


    "ไม่ได้ร้องเพราะไม่มีรถกลับ ว่าแต่ดึกป่านนี้มาปั่นจักรยานเล่นทำไมแถวนี้ อายุเท่าไหร่เนี่ย" เอาเถอะอย่างน้อยก็มีน้ำใจแต่มันใช่เวลาจะมาปั่นจักรยานชมนกชมไม้รึเปล่าล่ะ
    "หนูไม่ได้มาปั่นเล่นค่ะหนูมาหาเงิน"
    "จะบ้าหรอเงินนะไม่ใช่ขยะที่จะหาได้ตามข้างทาง!"
    "นั่นแหละค่ะเงินของหนู" เอ่อ...


    ไปไม่เป็นเลย


    จี้ใจดำเธอรึเปล่านะ


    "ไหนมานั่งคุยกันก่อนสิเงยหน้านานๆเมื่อยคอ" เด็กน้อยพยักหน้ารับหงึกๆและกลับลงมานั่งที่เดิมอย่างว่าง่าย
    "ทำไมต้องออกมาหา...เงินน่ะเวลานี้"
    "ก็เวลานี้ร้านต่างๆปิดไงคะพวกขวดน้ำหรืออะไรที่พอขายได้คนก็จะมาเก็บเวลานี้แหละค่ะ"
    "แล้วพ่อแม่ไปไหนทำไมปล่อยให้ออกมาคนเดียวดึกดื่น เป็นสาวแล้วนะมันอันตราย"
    "หนูไม่มีพ่อแม่หรอกค่ะมีแต่หลวงตาที่เลี้ยงหนูมาแล้วที่หนูต้องออกมาหาของไปขายตอนนี้ก็เพราะว่าหลวงตาท่านชราแล้วหนูไม่อยากรบกวนท่านเรื่องค่าเทอมแต่หนูก็อยากเรียนก็เลยออกมาเก็บของไปขายสะสมเอาไว้เผื่อเงินพอจะได้เรียนต่อค่ะ"


    โอเคเคลียจบทุกความสงสัย


    ว่าแต่ถามจี้ใจดำเธออีกรึเปล่านะ


    ขอโทษนะเด็กน้อย


    เธอกระแอมในลำคอเล็กน้อยและเปิดกระเป๋าหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋าสะพายใบหูส่งให้กับเด็กน้อย
    "พี่จะซื้อของที่หนูเก็บมาได้หรอคะ...แปบนึงนะคะหนูหาให้ว่ามีอะไรขายพี่ตอนนี้ได้บ้าง" เด็กน้อยทำท่าจะลุกไปหาของที่ว่าจริงแต่ก็ต้องนั่งลงที่เดิมเมื่อถูกมือบางของเธอดึงให้นั่งลงอีกครั้ง
    "ไม่ได้จะซื้อแต่พี่ให้ รับไปสิ" เด็กน้อยส่ายหน้ารับ ก่อนจะส่งยิ้มให้กับเธอ เธอที่เผลอคลี่ยิ้มตามรอยยิ้มนั้น


    สตอรี่ขนาดนี้ยังสดใสได้

    เก่ง


    "ทำไมไม่รับล่ะนี่พี่ให้ฟรีๆเลยนะ" เด็กน้อยดันมือบางของเธอที่มีเงินสดอยู่ในนั้นออกห่างจากตัวเอง ก่อนจะยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
    "หนูขอบคุณนะคะที่พี่เต็มใจให้แต่หนูไม่รับของใครฟรีๆหรอกค่ะ หลวงตาสอนว่าของฟรีไม่มีในโลกถ้าอยากได้เงินก็ต้องทำงาน คนที่รับของคนอื่นฟรีๆโดยไม่ทำอะไรคือคนโลภค่ะ" เธอที่ได้ฟังเหตุผลของเด็กน้อยแปลกหน้านั้นคลี่ยิ้มมองอย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะเก็บเงินใส่กระเป๋าและเท้าข้อศอกไว้กับหัวเข่าของตัวเอง ก่อนจะเกยปลายคางไว้บนฝ่ามือของตัวเองมองเด็กน้อยด้วยความภูมิใจ


    ภูมิใจแบบไม่มีสาเหตุ


    "พี่จะส่งเรียนเอง" ถึงตอนนี้อาชีพผู้จัดการศิลปินของเธอจะไม่มีชื่อเสียงเหมือนแต่ก่อนแต่เธอก็มีเงินเก็บมากพอที่จะใช้ชีวิตสุขสบายไปได้ทั้งชีวิต ไหนจะสมบัติเก่าที่พ่อแม่ทิ้งเอาไว้ให้อีก แค่ส่งเด็กน้อยเรียนไม่ทำให้เธอลำบากแน่นอน
    "หนูต้องทำอะไรแลกใช่มั้ยคะ"


    ฉลาด


    "บ้านหลังนี้พี่อยู่แค่คนเดียวแม่บ้านจะมาทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้ง" เธอที่นั่งคุยกับเด็กน้อยจนฟ้าสางนั้นตามเด็กน้อยไปขออนุญาตดูแลเจ้าตัวกับหลวงตาที่วัด ก่อนจะพาเด็กน้อยที่มีเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเพียงไม่กี่ชิ้นกลับมาที่บ้าน
    "หนูต้องทำงานอะไรแลกใช่มั้ยคะ หนูคิดว่าแบบนั้นจะสบายใจนะคะ" เธอหันกลับมามองเด็กน้อยที่ยังคงสร้างความประทับใจให้ไม่หยุดด้วยรอยยิ้มบางๆ ก่อนจะพยักหน้ารับและเรียกเด็กน้อยมานั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน แต่สิ่งที่เด็กน้อยทำคือการนั่งคลุกเข่าที่พื้นตรงหน้าเธอ
    "เสื้อผ้าหนูไม่สะอาดค่ะยังไม่ได้อาบน้ำ" เธอพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะปรายตามองถุงพลาสติกที่เด็กน้อยใช้ใส่เสื้อผ้าและของใช้มาอย่างครุ่นคิด
    "ลุกค่ะ พี่จะพาขึ้นไปดูห้องนอนแล้วจะได้อาบน้ำเดี๋ยวพี่จะพาออกไปซื้อเสื้อผ้ากับของใช้แล้วเราค่อยมาตกลงกันว่าพี่จะให้ทำอะไร" เด็กน้อยพยักหน้ารับหงึกๆด้วยรอยยิ้มและถือถุงของใช้ตามเธอขึ้นบนชั้นสามของบ้าน


    สูงกว่ากุฎิหลวงตาเยอะเลยนะเนี่ย


    "ก็ทำงานบ้านทั่วไปนั่นแหละเวลาที่เหลือก็ตั้งใจเรียนก็พอ" เธอที่ถูกเด็กน้อยถามหาสิ่งที่ต้องทำแลกที่อยู่ที่กินและค่าเล่าเรียนนั้นตอบกลับด้วยเสียงเรียบ หลังจากที่พาเด็กน้อยไปซื้อเสื้อผ้าและของใช้ กว่าจะซื้อของเสร็จก็เล่นเอาเธอส่ะหมดแรง เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะเด็กน้อยของเธอเอาแต่พูดคำว่าเกรงใจจนเธอต้องดุน่ะสิ
    "หนูล้างรถได้นะคะตอนอยู่กับหลวงตามีคุณตาใจดีมาจ้างหนูล้างบ่อยๆ"
    "อือ ทำได้ก็ทำต้องใช้น้ำยาอะไรล้างก็บอกพี่แล้วกัน"
    "ตัดหญ้าหนูก็ทำได้ค่ะ ไฟเสียหนูซ่อมได้ เครื่องใช้ไฟฟ้า..."
    "เอาเป็นว่าทำอะไรได้ก็ทำแล้วกันค่ะ ถ้าหิวก็หาของในตู้เย็นกินเลยนะพี่ง่วงมากขอไปนอนก่อน"
    "อ๋อค่ะ...หลับสนิทไม่ต้องฝันนะคะพี่เอม!"


    ตาจะปิดทุกวินาที


    ตั้งแต่เจอเด็กน้อยความเมาของเธอก็หายไปเลย


    เสียงเพลงที่ดังคลอไปกับเสียงทำความสะอาดบ้านของเด็กน้อยนั้นเรียกความสนใจของเธอที่กำลังจัดตารางงานให้กับศิลปินในสังกัดจนเธอต้องละจากสิ่งที่ทำอยู่วิ่งลงมาที่ชั้นล่างด้วยความประหลาดใจ
    "เมื่อกี้ใครร้องเพลงน่ะ! เธอหรือว่า..."
    "หนูร้องเองค่ะ! เสียงดังรบกวนพี่หรอหนูขอโทษนะคะ" เธอส่ายหน้ารับรัวๆและรีบเดินมาปิดลำโพง ก่อนจะจับแขนทั้งสองข้างของเด็กน้อยให้หันมาทางเธอ



    "ไหนร้องใหม่สิร้องแบบไม่มีดนตรี สื่ออารมณ์มาถึงพี่เหมือนว่าเธอกับพี่เป็นคนในเพลงนั้น" เด็กน้อยพยักหน้ารับหงึกๆก่อนจะเริ่มอ้าปากร้องเพลงตามคำสั่งอย่างว่าง่าย รอยยิ้มร้ายที่ปรากฎขึ้นบนริมฝีปากอิ่มยังร้ายไม่เท่าสายตาของคู่คมของเธอที่กำลังมองเด็กน้อยตรงหน้า


    เอาล่ะนะ


    ผู้จัดการเอมถึงเวลาคัมแบค

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น