NO MORE OUR FLAG ไตรรงค์ นายอยู่ไหน?
ไตรรงค์ เด็กหนุ่มที่หนีจากแผ่นดินบ้านเกิดเพื่อหลีกหนีสงครามกลางเมืองความจริงแสนเจ็บปวด แต่แล้วก็ถูกความจริงนั่นให้กลับมาที่แห่งนี้อีกครา เพื่อตามหาพ่อและเพื่อนที่เขาคิดว่าตายไปแล้ว
ผู้เข้าชมรวม
138
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ, มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง, มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ
กองทัพไทย สงคราม การเมือง ทหาร สงครามกลางเมือง สืบสวน ลึกลับ ซึ่งกินใจ จิตตก เสียดสี ความขัดแย้ง ดราม่า
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คำทักทายจากผู้เขียน
สวัสดีครับ หลายๆท่านคงได้เห็นเรื่องที่ผมเขียนก่อนหน้าเรื่องนี้แล้วยังครับ เพราะมันเกี่ยวข้องกันอยู่เล็กน้อย แต่ช่างมันเถอะเพราะยังเขียนไม่จบเหมือนกัน สำหรับเรื่องนี้ก็เป็น uncompleted นะครับ ผมแค่ทดลองเขียนแนวนี้ดูบ้าง
ปล.ถ้าชอบอย่าลืมกดไลค์และติดตามกันด้วยนะครับ
ปล.อีกที อย่าคิดมากนะครับ นิยายกาวๆเนื้อเรื่องออกทะเลและโคตรปญอ.(ด่าตัวเองเจ็บน้อยสุด)
“คุณกล้าได้ยังไง…” รงค์พูดขึ้นขณะที่ตนกำลังถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ทรมาณ ในห้องมืดปิดทึบไร้แสงจากตะวัน
“ขอโทษนะ? หมายความว่าไง?” เสียงพูดจากเครื่องคอมที่โดนดัดแปลงไม่ให้รู้ว่าเป็นเสียงของใคร
“คุณกล้าได้ยังไงที่บอกว่าผมไม่รักผืนแผ่นดินนี้วะ!!!” เขาตะโกนสุดเสียงโดยไม่รู้ว่าอีกฝั่งจะได้ยินหรือไม่
“ผมอุทิศชีวิตนี้ให้ชาติและประชาชน เพื่อนของผมต้องมาตายก็เพราะความเลวระยำและความเห็นแก่ตัวของพวกคุณ! และยังมีหน้ามาถามคนอื่นถึงความรักชาติอีก! ก็ในเมื่อชาติไม่เคยมอบความยุติธรรมให้กับพวกเขา! และพวกคุณ…ใช่…พวกมึงทุกตัว คือคนที่พรากความยุติธรรมออกไป!”
ขณะที่พูดไป ไตรรงค์ หรือ รงค์ ก็ได้มีน้ำตาไหลออกมา มันเป็นน้ำตาแห่งความแค้น ความเสียใจ ความผิดหวัง และหมดหวัง เขานึกคิดว่าชีวิตของเขามาถึงจุดนี้ได้ยังไง
พ.ศ.2581 มากกว่่า 100 กว่าปีที่ประเทศแห่งนี้ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่ระบอบประชาธิปไตย แต่มันก็ไม่เคยได้เป็นประชาธิปไตยจริงๆ ตลอดเวลามานี้ จนกระทั้งหลังการเลือกตั้งในปี พ.ศ.2566 รัฐบาลที่มาจากพรรคสายกลางและซ้ายได้ร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จและผลัดกันเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชน ท่ามกลางความไม่พอใจของพวกฝ่ายขวา ชนชั้นนำและกองทัพ
สถานการณ์โลกเริ่มครุกรุ่น ความขัดแย้งระหว่างพญาอินทรีขาวเสรีภาพแห่งสหรัฐอเมริกาและพญามังกรแดงแผ่นดินใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเริ่มทวีความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น ผลักดันให้รัฐบาลไทยต้องเลือกข้าง แม้จะพยายามเสริมสร้างประชาธิปไตยให้กับประชาชน สร้างสังคมแบบใหม่ เศรษฐกิจใหม่ รัฐสวัสดิการ จนทำให้ไทยได้กลายเป็นชาติในกลุ่มประเทศพัฒนาและประชาธิปไตยกำลังเบ่งบาน เศรษฐกิจเติบโต วิทยาการเทคโนโลยีก้าวกระโดด คนรุ่นใหม่ก็มีความหวังมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันกองทัพกลับทำตรงกันข้าม….
รัฐบาลเอนเอียงเข้าหาพญาอินทรีกับนาโต้เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งด้านความมั่นคงโดยเฉพาะอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยที่เพิ่มมากขึ้นจนสามารถผลิตอาวุธ อาทิเช่น รถถัง เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินรบยุคที่ 5 (กำลังพัฒนายุคต่อไปเช่นกัน) เรือบรรทุกเครื่องบิน จรวดขีปนาวุธ หรือแม้แต่โดรนสมรรถนะสูง แม้จะได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองทัพในเรื่องนี้ แต่กองทัพนั้นดำเนินนโยบายไปคนละทางกับรัฐบาล…
ด้วยการสนับสนุนของชนชั้นนำบางส่วนและฝ่ายขวาสุดโต่ง พวกเขาเข้าหาพญามังกรแดงและหมีขาว พยายามเปลี่ยนให้กองทัพนั้นออกจากภายใต้การควบคุมของรัฐบาลหรือประชาชนมาเป็นกองกำลังส่วนตัว รัฐบาลพยายามหาวิธีป้องกันความขัดแย้งนี้ด้วยการจะปฏิรูปกองทัพโดยยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ลดขนาดกองทัพและจำนวนของนายพลแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากกองทัพ
ความนิยมของกองทัพตกต่ำถึงขีดสุด เมื่อพวกเขาไม่สามารถปกป้องผืนแผ่นดินไทยที่พวกเขาอ้างว่าเป็นผู้รักษาแต่เพียงผู้เดียว บัดนี้ กองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่เคยสู้รบกับซีแยหรือชาวสยามผู้รุกรานแผ่นดินของพวกเขามานานกว่าร้อยปี ความฝันที่ได้ปักธงชัยสีแดงขาวและเขียวรูปจันทร์เสี้ยวเหนือเมืองปัตตานีและดินแดนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กลายเป็นประเทศใหม่ในชื่อ สาธารณรัฐปาตานีดารุสลาม ในปี พ.ศ.2572 ก็ได้กลายเป็นจริงพร้อมกับเสียงสัญเสริญพระผู้เป็นเจ้าที่ดั่งสนั่นเหนือคาบสมุทรมลายู
เมื่อเชื่อถือกองทัพไม่ได้อีกต่อไป รัฐบาลก็ได้ตัดสินใจที่จะหารือคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศจัดตั้งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) หรือกองกำลังรักษาดินแดน (กรด.) และยังจัดตั้งกระทรวงใหม่ชื่อ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิไทย (Thai Department of Homeland Security:TDHS) ซึ่งเป็นกองกำลังภาคประชาชน โดยผู้ที่จะสามารถเป็นกองกำลังพิทักษ์ชาติได้นั่นต้องได้รับการฝึกทหารมาอย่างเข้มข้น ก็มีทั้งอดีตทหาร ตำรวจ ทหารพราน ตชด. อส. กรมป่าไม้และประชาชนให้ความสนใจที่จะเข้าร่วม แต่เกือบครึ่งหนึ่งของกองกำลังนี้คือ…..นักศึกษาวิชาทหาร หรือ รด.
รัฐบาลพยายามลดอำนาจของกองทัพ พวกเขาจึงพยายามที่จะผลักดันให้กองกำลังนศท. ซึ่งมาจากเด็กม.ปลายกับนักศึกษานี้ขึ้นมาเป็นกองกำลังสำรองอย่างแท้จริงเพื่อคอยถ่วงดุลกับกองทัพ ทั้งการเพิ่มหลักสูตรนศท.ให้เป็นการศึกษาภาคบังคับที่เด็กผู้ชายต้องเรียน และยังเปิดรับสมัครเด็กหญิงในอัตราที่สูงขึ้น หลักสูตรที่เข้มขึ้นด้านการฝึก ลดวิชาที่ไม่จำเป็น และยังอัดฉีดงบประมาณจำนวนมากให้กับกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมินี้ รวมไปถึงอนุญาติให้กับประชาชนที่ได้รับการฝึกอาวุธครอบครองอาวุธปืนได้ ซึ่งแน่นอนไม่วายถูกประชาชนหลายฝ่ายวิพากย์วิจารณ์แม้แต่ผู้สนับสนุนรัฐบาลจนคะแนนความนิยมของรัฐบาลลดลง
แต่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิก็ได้พัฒนาจนขึ้นเป็นรูปเป็นร่างอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพมากขึ้น แม้ไม่อาจเทียบกับสามเหล่าทัพแต่ก็ไม่สามารถมองข้ามได้จนอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในภายภาคหน้า
แต่นั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนทุกคนกลัวและคาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นอีกครั้งจนได้….
พ.ศ.2581 กองทัพได้ส่งกองกำลังในสังกัดภาคกลางเข้าควบคุมกรุงเทพฯภายใต้การนำของ คณะกู้ผืนแผ่นดิน เพื่อบีบบังคับให้รัฐบาลลาออกด้วยเหตุผลว่าประชาชนไม่พอใจรัฐบาล การยอมอ่อนข้อต่อการแยกดินแดน การคอรัปชั่นที่เพิ่มขึ้นและการตกเป็นเบี้ยล่างให้พวกชาติตะวันตก สิ่งนี้จึงทำให้กองทัพเสียสัตย์ที่เคยให้้ไว้กับประชาชนว่าจะไม่ยุ่งการเมือง….การรัฐประหารเริ่มขึ้นแล้ว
แม้จะดูเหมือนการรัฐประหารครั้งก่อน ก็แค่เอารถถังออกมาวิ่งเล่น ปิดถนน ปิดสถานที่ราชการ ประกาศกฎอัยการศึก จับกุมคณะรัฐบาล ซึ่งมันง่ายเหมือนที่พวกเขาเคยทำมาก่อน….แต่แล้ว….พวกเขาคิดผิด
ประชาชนจะไม่ทนอยู่ภายใต้พวกเผด็จการอีกต่อไป! พวกเขาจับอาวุธลุกขึ้นสู้! โดยมีแกนนำเป็นเหล่านศท.และว่าที่เนชั่นเนลการ์ด คนรุ่นใหม่ นักการเมือง รวมถึงภาคประชาชนและทหารบางส่วนที่ไม่เข้าร่วมคณะกู้ผืนแผ่นดินที่ภายหลังต้องกลายเป็นกบฎเสียเอง…สงครามที่เกิดขึ้นถูกเรียกว่าคือจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมืองไทย ต่างคนต่างพากันเรียกการรัฐประหารครั้งนี้ว่า……การล่มสลายของเมืองพระเจ้า (The Falling of God City)
เหตุการณ์ทุกอย่่างดูเหมือนจะจบลงแต่กองทัพกบฎกลับไม่ยอมจบ พวกเขาตัดสินใจทำลายเมืองหลวงแห่งเทพทิ้ง เมื่อไร้อำนาจศูนย์กลาง ดินแดนต่างๆที่เคยรวมภายใตธงไตรรงค์ก็แตกสลาย….
ดินแดนที่ยังขึ้นตรงต่อรัฐบาลประชาธิปไตยถูกเรียกว่า เดโมแครซี่สเตท (Democracy State) และสถาปนาเป็น สาธารณรัฐไทย (Republic of Thailand)
ดินแดนที่ถูกฝ่ายกบฎของทหารคณะกู้ผืนแผ่นดินยึดครองถูกเรียกว่า มิลิทารี่สเตท (Military State) และสถาปนาเป็น สหภาพแห่งรัฐไทย (Union of Thailand State)
นอกจากนี้ยังมีดินแดนหลายๆที่ถูกโจมตีและยึดครองโดยกองกำลังต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน และเขตแดนก็ไม่ชัดเจน เป็นดินแดนทับซ้อนสะส่วนมาก อาณาจักรรัตนโกสินทร์ล่มสลายเสียแล้ว…
แนะนำตัวละคร
นายไตรรงค์ ปฏิญาณ หรือ รงค์ ชายหนุ่ม 24 ปี อดีตนศท. และกรด. จากกรุงเทพฯ ตอนนี้เขาเป็นเพียงผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์กับแม่ของเขา พยายามลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน ความเจ็บปวดที่พยายามทำร้ายกัดกินหัวใจของเขาจากเด็กหนุ่มที่เคยร่าเริงกลายเป็นชายเก็บตัว ไม่พูดไม่จากับใคร และเขายังต้องต่อสู้กับฝันร้ายและผลกระทบกระเทือนทางจิตใจจากสงคราม
นางสาวอิษราวดี แก้วปิ่น หรือ ทราย หญิงสาววัย 19 ปี นักศึกษาแพทย์สาวที่ตอนนี้เธอกลายเป็นสารวัตรหญิงกองกำลังรักษาดินแดนสังกัดกองกำลังแห่งสาธารณรัฐปลดแอกภาคใต้ (Southern Liberation's Republic Force) เธอยึดมั่นในความยุติธรรมและเกลียดสงคราม เธอทำหน้าที่สืบสวนและปราบปรามยาเสพติดภัยร้ายในช่วงสันติภาพหลอกๆนี้ เหมือนที่พ่อและพี่สาวของเธอเคยทำ
ผลงานอื่นๆ ของ BluerifleART ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ BluerifleART
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น