Love, Fate and Destiny - Love, Fate and Destiny นิยาย Love, Fate and Destiny : Dek-D.com - Writer

    Love, Fate and Destiny

    โดย BlueIvy

    ฉันยินดีที่เขาสุข ถึงฉันจะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของความสุขนั้น..ฉันมองรักของเขาด้วยรักที่ไม่สมหวังของฉัน...ฉันมองหัวใจที่แตกสลายของชายที่ฉันรัก ด้วยหัวใจที่แตกสลายของตัวเอง..นี่เป็นการบอกรัก..นี่เป็นการบอกลา

    ผู้เข้าชมรวม

    4,174

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    4.17K

    ความคิดเห็น


    73

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ก.พ. 49 / 20:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ฉันเดินอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมากลางฤดูหนาว  
      มันทำให้วันนี้ช่างหนาวเหน็บกว่าทุกวัน  
      โลกทั้งโลกดูมืดไปหมด
      ...ไม่ใช่เพราะมันเป็นตอนใกล้ค่ำ...
      แต่เพราะเมฆหนาที่หมุนวนอยู่เบื้องบนและสายฝนเย็นเฉียบที่กระหน่ำลงมาเป็นสายเรียวสีเงิน
      ฉันเดินอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่ขวักไขว่ไปมา
      ...แต่ฉันเดินอยู่คนเดียว...
      ใบหญ้าสีเขียวซีดเต้นระริกแทบเท้าของฉัน
      เสียงน้ำฝนแต่ละหยดกระทบพื้นคอนกรีตเบื้องหลังแทบจะกลบเสียงการจราจร
      ท่ามกลางผู้คนกับร่มหลากสี
      ฉันยืนเปียกอยู่เบื้องหลังพวกเขา
      ไม่มีใครหันมามอง...ฉันดีใจ...
      ปลายเท้าของฉันเย็นเฉียบ
      ...รู้สึกเจ็บแปลบในทุกก้าวย่าง...
      ฉันเดินอยู่ข้างถนนด้วยเท้าเปล่า
      เส้นผมของฉันเปียกลีบลู่ไปกับแผ่นหลัง
      เช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่แนบกับร่าง
      น้ำฝนไหลลงมาตามใบหน้าของฉัน ... กลบรอยน้ำตา...
      ฉันร้องไห้...



      สองชั่วโมงก่อน..ฉันได้รับจดหมายจากคุณโรเบลล์
      จดหมายจากอดีตเพื่อนสนิทของฉัน
      ...จ่าหน้าซองถึงตัวฉันเอง...



      สิบแปดเดือนก่อนฉันได้รู้จักกับแอนดรูว์  โรเบลล์
      ตอนที่ฉันเพิ่งย้ายมาเรียนตอนกลางเทอม
      เขาทักฉันด้วยไมตรี ... เราเป็นเพื่อนรักกัน
      ...สำหรับแอนดรูว์...ฉันเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเขา...
      ...แต่สำหรับฉัน ... เขาไม่ใช่แค่เพื่อน...
      ฉันแนะนำให้แอนดรูว์รู้จักกับไดอาน่า
      เพื่อนหญิงที่อยู่ในคลาสเดียวกัน
      ฉันไม่ได้สนิทกับเธอมาก ... เธอไม่ได้อยากสนิทกับฉัน
      เธออิจฉาฉัน ... เพราะฉันสนิทกับแอนดรูว์
      ฉันอิจฉาเธอ...เพราะเธอได้แบ่งปันบางอย่างกับเขาซึ่งฉันไม่มีวันได้
      ...ทั้งคู่รักกัน...
      ...ฉันรู้...ฉันรับรู้...ฉันยินดีรับรู้...
      ........ฉันเจ็บ........
      ...แต่ฉันยินดี...
      ใช่...ฉันยินดีที่เห็นเขามีความสุข...
      ...ถึงมันจะหมายความว่าฉันจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสุขนั้นก็ตาม...
      ฉันไม่ได้ห้ามตัวเองไม่ให้รัก
      เพราะฉันรู้ฉันทำไม่ได้
      ฉันจึงรัก
      ...ฉันมองความรักของเขา   ด้วยความรักที่ไม่สมหวังของตัวเอง...
      และยินดีจะรอเขา ... ถึงมันจะหมายถึงการรอจนวันตาย...

      ...จนวันตาย?...



      คืนก่อนคริสต์มาส   ฉันอ่านหนังสืออยู่ในห้องตัวเอง
      นึกถึงความจริงที่ว่าแอนดรูว์ออกไปกับไดอาน่า
      ฉันเอง ... ที่เป็นคนวางแผนให้ทั้งคู่...
      ฉันบอกกับแอนดรูว์ ... แล้วจึงไปนัดไดอาน่าให้เขา
      "ขอบใจนะ! ฉันรักเธอจัง!!"
      เป็นคำขอบคุณที่เขาบอกกับฉัน  ตอนที่ฉันไปบอกเขาว่าเธอตกลง
      ..ฉันรู้ว่ามันคนละความหมายกัน...
      ...แต่ฉันก็ไม่เสียใจ...
      ฉันไม่มีสมาธิกับหน้าหนังสือ
      ข้างนอก   หิมะเริ่มโรยละออง
      ฉันหลับตาลงแล้วเห็นภาพเขากับเธออยู่ใต้ต้นสนต้นใหญ่ท่ามกลางเกล็ดหิมะขาวนวล
      ...ฉันไม่รู้ว่าคืนนั้น  ไดอาน่าไม่ได้ไปตามนัด...


      ตีสองเศษในคืนเดียวกัน   ฉันได้รับโทรศัพท์
      เสียงจากปลายสายสั่น  และฟังแทบไม่รู้เรื่อง
      ...แต่ฉันแน่ใจว่าเป็นเขา...
      ...นั่นคือแอนดรูว์...
      และถ้าฉันฟังไม่ผิด ... เขากำลังร้องไห้...
      ...ไดอาน่าไม่ได้ไปตามนัด...
      ไม่ใช่เพราะเธอแค่ไม่ไป...
      แต่ระหว่างทางไป   รถยนต์ชนเธอที่ทางข้าม
      เขาไม่รู้จนกระทั่งห้าทุ่ม
      ฉันเห็นภาพเขายืนรอเธออยู่ที่นั่น .. ท่ามกลางหิมะสามชั่วโมง...
      ...เขาได้ข่าวจากแม่ของไดอาน่าตอนห้าทุ่ม
      เขาตามไปหาเธอที่โรงพยาบาล
      ...ไดอาน่าจากไปแปดนาทีก่อนเที่ยงคืน...
      ...แปดนาทีก่อนคริสต์มาส...
      เขาไปถึงเธอทันเวลาที่เธอจะได้บอกรักเขา
      ...บอกรักเขาเป็นครั้งสุดท้าย...


      และเขาโทร.หาฉัน...
      ...ฉันดีใจ  ที่เป็นฉันที่เขาไว้ใจ...
      ดีใจที่ได้รับฟังคนที่ฉันรัก  คร่ำครวญถึงคนรักของเขา
      ...คนรักที่ไม่มีวันกลับมา...
      ฉันดีใจที่เขาเลือกคุยกับฉัน
      แต่อีกใจหนึ่ง   ฉันหวังว่าเขาจะเลือกคนอื่น
      ...ใครที่พอจะปลอบใจเขาได้   ใครที่จะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้...
      ...ฉันไม่แน่ใจว่าจะทำได้...
      ฉันกลัว ... แค่เพียงเปิดปากพูดอะไร  ฉันอาจร้องไห้
      ...ฉันร้องไห้ตอนนี้ไม่ได้...
      ตอนที่เขากำลังเสียใจมากกว่าฉัน
      เขาต้องการการปลอบโยน ... ฉันจะเรียกร้องคำปลอบจากเขาด้วยน้ำตาได้อย่างไร?
      แอนดรูว์ที่ฉันรู้จักเป็นคนที่วิเศษ
      เขามักจะเข้ามาทักด้วยความสดใส
      เขาทำให้คนรอบข้างอบอุ่น  และหัวเราะไปกับเขาได้
      ฉันจำได้ถึงบทกวีที่เขาแต่งให้ไดอาน่า
      เขาจะอ่านให้ฉันฟังเพื่อดูว่าฉันคิดยังไงก่อนที่เขาจะส่งให้เธอ
      นิ้วเรียวๆของเขาจะจับปากกาขีดเขียนถ้อยคำไพเราะ
      คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเวลาที่เขาหยุดนึก
      ...บทกวีที่เขาอ่านให้ฉันฟัง ... เป็นบทกวีที่เขาแต่งให้ผู้หญิงอีกคน...
      ฉันหลงรักในทุกๆความร่าเริงและอ่อนโยนของเขา
      และการเห็นเขาแตกสลายลงต่อหน้า ... มันมากเกินกว่าที่ฉันจะรับไหว...
      ฉันปล่อยให้เขาพูด  ปล่อยให้เขาร้องไห้  จนถึงตีสี่
      ฉันฟังเขาโดยที่ปลอบประโลมเขาได้เพียงไม่กี่คำ
      ...อาจเป็นทุกอย่างที่ฉันให้ได้ ในเวลานั้น...


      ฉันไปหาเขาที่บ้านในวันถัดมา
      เขาไม่ได้เปิดประตูรับ คุณโรเบลล์บอกว่าเขาไม่สบาย
      ...ฉันพยายามคิดว่าเขาไม่ได้หลบหน้าฉัน...
      ฉันไปหาเขาอีกในวันถัดมา ... และวันถัดมา ... และวันถัดมา...
      ...เขาไม่ได้ออกมาพบ...


      เราพบกันอีกครั้งในงานศพของไดอาน่า
      เขาแทบไม่เหมือนคนที่ฉันเคยรู้จัก
      แววตาขี้เล่นของเขา บัดนี้ดูเศร้าและไร้ซึ่งประกายของความมีชีวิต
      เขาไม่ได้ร้องไห้ แต่ก็ไม่ได้ยิ้ม หรือหัวเราะ
      อันที่จริง ... เขาไม่ได้แสดงถึงอารมณ์ใดใดเลย...
      เขาเฝ้าพูดว่าเป็นความผิดของเขาที่นัดเธอออกไปพบ
      ...ทั้งหมดเป็นความคิดของฉัน...
      ...ฉันต้องทนมองหัวใจที่แตกสลายของชายที่ฉันรัก ด้วยหัวใจที่แตกสลายของตัวเอง...


      หลังงานศพ ฉันไม่ได้พบแอนดรูว์อีก
      งานศพของไดอาน่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้พบเขา...ที่ยังมีชีวิต...

      สิบวันถัดมา ฉันได้รับโทรศัพท์จากคุณโรเบลล์
      ...ไม่ใช่ข่าวดี...ฉันไม่ได้หวังจะได้ข่าวดี...
      แต่ฉันไม่อยากจะได้ข่าวร้าย ... ไม่ใช่ตอนนี้...
      เสียงจากปลายสายทำฉันหยุดหายใจ
      ...แอนดรูว์ถูกรถชน...
      อุบัติเหตุเช่นเดียวกับไดอาน่า? ระยะเวลาใกล้ๆกัน?
      ฉันวิ่งไปโรงพยาบาลโดยไม่ได้แวะหยิบโค้ท
      แต่มันไม่เหมือนตอนที่แอนดรูว์ไปถึงไดอาน่า
      ...ฉันไปไม่ทัน...
      แอนดรูว์นอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย... คุณโรเบลล์ยืนอยู่ข้างๆ .. ร้องไห้
      ฉันไม่ได้ร้องไห้ ไม่ใช่เพราะฉันไม่เสียใจ
      แต่เพราะฉันไม่ยอมรับว่ามันเป็นความจริง
      ฉันเดินเข้าไป นั่งลง พูดกับเขาด้วยหวังว่าเขาจะตอบ
      ...เขาไม่ได้ตอบ...
      ...เขาไม่ได้ลืมตาขึ้นมา ยิ้มให้ฉันแล้วบอกว่าเขาล้อเล่น...
      ใบหน้าของเขาเรียบสนิท ไร้ซึ่งสัญญาณของชีวิต
      ฉันก้มลงไปมองเขาใกล้ๆ ไล้ไปตามใบหน้า แล้วสัมผัสริมฝีปากของเขาด้วยริมฝีปากของฉัน
      จูบแรกของฉัน ... ให้กับผู้ชายที่ฉันรักที่สุด ... ในตอนที่เขาหมดลมหายใจ
      ...ฉันจูบร่างไร้วิญญาณของเขา น้ำตาฉันไหล...
      ...มันเป็นจูบแรก ... และจูบสุดท้าย...



      วันต่อมา ท้องฟ้าไม่สดใส
      ฉันได้รับจดหมายจากมือของคุณโรเบลล์
      จากลูกชายของเขา ... ถึงฉัน...

      ฉันเปิดซองจดหมาย มือฉันสั่น
      ไม่ใช่ตื่นเต้น ... ฉันกลัวข้อความที่จะได้เห็น...
      บนกระดาษสีขาวสะอาด มีลายมือหวัดของเขาเขียนด้วยหมึกสีน้ำเงิน
      ตัวหนังสือสั่น หลายจุดเลือนไป
      ...เขาร้องไห้ตอนที่เขียนมัน...
      เนื้อความในจดหมายสั้น ...แต่ยาวพอจะกรีดลึกลงไปในหัวใจของผู้อ่าน...

      ผมไม่หวังว่าคุณจะยกโทษให้ผมในสิ่งที่ผมทำไป แต่ผมขอโทษที่หนีและทิ้งคุณไว้เบื้องหลัง ผมอาจเป็นผู้ชายที่โง่ที่สุดในโลก ผมไม่แก้ตัวในทุกๆสิ่งเห็นแก่ตัวที่ผมเคยทำ ผมแค่ขอโทษ ผมไม่หวังว่าคุณจะยกโทษให้ผม แต่ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ ... และผมขอบคุณ ที่คอยเป็นเพื่อนผมตลอดมา ที่ทนคบกันมาได้เป็นปี ผมดีใจจริงๆที่ได้รู้จักกับคุณ ขอบคุณที่คอยรับฟังในทุกเรื่องที่ผมพูด ทั้งๆที่หลายเรื่องทำคุณเจ็บปวด ผมขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ขอบคุณสำหรับความรักของคุณ และผมเสียใจที่ไม่สามารถตอบแทนความรักของคุณได้


      บทกวีสุดท้าย ผมเขียนมันขึ้น เพื่อคุณ จริงๆ

      I will be the warm brezzes if you would feel me.
      I am in the songs the Nigels sing.
      I am the voices in your dreams if you would hear me.
      I am in the smile of flowers.
      I am among the stars if you would see me.


      ผมขอบคุณ และผมขอโทษ
      ผมรักคุณ
      แอนดี้ อาร์.



      ...อ่านจดหมายจบทำน้ำตาฉันไหลลงมา
      ฉันพับมันลง ... แล้วกางออกมาอีก .. อ่านมันอีกครั้ง
      ...และอีกครั้ง...
      เขารู้อยู่ตลอด ... ความรู้สึกของฉัน...
      ...เขาทำเป็นไม่รู้...
      และจากจดหมาย ... มันบอกได้ว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ
      ...แอนดรูว์จงใจให้รถชน...
      ...เขาตั้งใจตาย...
      ใช่...ฉันยกโทษให้เขาไม่ได้ ... ถึงเรื่องโง่ๆที่เขาทำลงไป
      ...และอะไรรู้มั๊ย แอนดรูว์? ...ฉันไม่มีวันเข้าใจคุณ...
      คุณอาลัยกับสิ่งที่คุณเคยมี
      แต่ฉัน ... กำลังอาลัยกับสิ่งที่ฉันไม่มีวันได้มา


      ข้างนอกฝนตกตอนที่ฉันอ่านจดหมายจบ
      เป็นฝนหลงฤดู ... หรือเป็นพระเจ้าที่ร้องไห้ให้กับเราฉันไม่รู้
      ฉันวิ่งออกไป .. ฉันไม่รู้ว่าทำไม ... ฉันไม่อยากรู้...

      ....แต่สายฝนเย็นเฉียบในฤดูหนาวอาจปลุกฉันตื่น....



      ***


      ฉันมองดอกคาร์เนชั่นสีขาวในกระถาง
      งานศพของแอนดรูว์เป็นสีขาวและดำ
      เบื้องหน้างานพิธีเป็นแท่นสูง ประดับด้วยดอกไม้สีขาว
      ตรงกลางเป็นโลงศพที่ยังคงเปิดอยู่
      ฉันยืนอยู่เบื้องหน้าเขาอีกครั้ง
      แต่ตาของเขาปิดสนิท ... เขาไม่ได้มองกลับมา
      เขาไม่ได้ยิ้มกลับมา อาจไม่รับรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่
      ในมือของฉันเป็นดอกกุหลาบสีแดง
      ฉันยกมันขึ้นจรดที่ริมฝีปาก
      รอยลิปสติกสีชมพูถูกพิมพ์ลงบนกลีบบาง
      ฉันวางมันลงบนหน้าอกของเขา
      ดอกกุหลาบสีแดงหนึ่งดอก ท่ามกลางกองดอกคาร์เนชั่นสีขาว
      ฉันไม่ได้กำลังไว้อาลัย...

      ......มันเป็นการบอกรักจากฉัน......มันเป็นการบอกลา.....
      ************************************************
      BlueIvy's Diary
      http://blueivy.whenifallinlove.net
      ********************************************************

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×