Toy Story
คุณเคยลืมอะไรบางอย่างไปโดยที่ไม่รู้ตัวบ้างไหม? หลังจากอ่านเรื่องนี้จบแล้ว ลองก้มลงไปมองใต้โซฟา ใต้เตียง หรือหลังตู้เสื้อผ้าของคุณดูบ้างนะ บางที...พวกเค้าอาจจะกำลังร้องไห้อยู่ก็ได้...
ผู้เข้าชมรวม
639
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ความสุขของผม คือการได้อยู่ที่นั่น...
บนโซฟาสีขาวตัวนั้น....
และ...
บนตักของเธอ...
ผมรู้จักกับเธอ ตอนที่เธออายุประมาณ 7 ขวบ เราพบกันที่ร้านขายของเล่นแห่งหนึ่ง แน่นอน ผมอยู่ในฐานะของเล่น
ครั้งแรกที่ผมถูกพาเข้ามาในบ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่ไม่ใหญ่โตนัก เธอให้ผมอยู่บนโซฟาสีขาวในห้องนั่งเล่น ที่ข้างผนังในห้องนั่งเล่นมีรูปครอบครัวแขวนอยู่ และมีกระเป๋านักเรียนใบเล็กๆของเธอแขวนอยู่ด้วย ผมคิดว่าโซฟาสีขาวในห้องนั่งเล่นตัวนี้ คงเป็นเครื่องเรือนที่มีความสำคัญที่สุดในบรรดาเครื่องเรือนทั้งหมดของบ้านเลยทีเดียว เพราะพวกเค้ามักจะ นั่งดูทีวี อ่านหนังสือ หรืองีบหลับกันตรงนี้ ผมเคยได้ยินพ่อของเธอพูดให้เธอฟังว่าโซฟาตัวนี้ เป็นเฟอนิเจอร์ตัวแรกที่เรามี
"คุณพ่อคะ หนูรักโซฟาตัวนี้ที่สุดเลยค่ะ เราเก็บมันไว้ตลอดไปเลยได้มั๊ยคะ?"
เธอพูดพร้อมกับเอาแก้มนุ่มๆของเธอซบลงกับโซฟา ทำให้ผู้เป็นพ่ออดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้ ผมเองก็เช่นกัน ถ้าหากผมยิ้มได้ก็คงจะดีหรอก
ผมเองก็รักโซฟาตัวนี้มากเหมือนกัน มันเป็นเหมือนกับที่รวมตัวของทุกๆคน
คุณพ่อของเธอมักจะนั่งอยู่ทางด้านขวามือ ตรงนั้นเป็นมุมเหมาะที่สุดในการดูทีวี และก็อยู่ใต้แอร์พอดีด้วย เป็นที่ๆเหมาะที่สุดสำหรับคนขี้ร้อนอย่างพ่อของเธอ คุณแม่ของเธอนั่งทางซ้ายมือ ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูห้องครัว และเธอจะนั่งอยู่ตรงกลาง และอุ้มผมไว้บนตักเสมอ
เธอมักจะนั่งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนและเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอให้พ่อและแม่ของเธอฟังด้วยรอยยิ้ม และพ่อแม่ของเธอก็ดูจะมีความสุขมาก ผมก็เช่นกัน เธอมักจะลูบขนของผมไปมาอยู่เสมอ บางครั้งเธอก็จะใช้แปรงหวีขนยาวๆของผมอย่างเบามือ ดูเธอจะทะนุถนอมผมเอามากๆ อย่างกับผมเป็นสัตว์เลี้ยงตัวนึงที่มีชีวิตจิตใจ
ผมรู้มาว่าเธออยากเลี้ยงสุนัขมาก แต่แม่ของเธอไม่ยอมให้เลี้ยง คงเพราะงั้นเธอถึงได้เลี้ยงตุ๊กตาสุนัขอย่างผมเหมือนเป็นสุนัขจริงๆ ทุกวันผมเฝ้ารอ...รอให้พระอาทิตย์คล้อยลงต่ำ รอให้ถึงเวลาเย็น เวลาที่ทุกคนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก และผม บนโซฟาสีขาวและบนตักอุ่นๆของเธอ
ผมอดคิดไม่ได้ ว่าผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว และผมก็อดคิดไม่ได้อีกเหมือนกันว่าโซฟาสีขาวตัวนี้เป็นของผม เป็นบ้าน...ของผม ถ้าหากว่าผมอยู่อย่างนี้ได้ตลอดไปก็คงจะดี นั่นคือสิ่งที่ผมคิดอยู่ตลอดเวลา...
แต่ทว่า เวลาแห่งความสุขของผมมันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน ผมจำไม่ได้แล้วว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่ทุกคนไม่มานั่งดูทีวีพร้อมหน้ากันอยู่ที่โซฟาสีขาวตัวนี้อีก ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป ตอนที่เธออายุได้ประมาณ 10 ขวบ คุณพ่อเริ่มกลับบ้านช้าลง คงเป็นเพราะหน้าที่การงานที่มีเพิ่มขึ้น เธอเองก็คงมีเพื่อนเล่นเยอะขึ้น เลยไม่ค่อยมาสนใจผมอีกต่อไป กระเป๋าใบเล็กที่แขวนอยู่ที่ผนังไม่มีอีกแล้ว เวลาที่ครอบครัวอยู่พร้อมหน้ากันเริ่มน้อยลง เวลาที่ผมจะได้อยู่บนตักอุ่นๆของเธอก็น้อยลงเช่นกัน เพราะเธอมีห้องนอนส่วนตัวและมักจะเก็บตัวอยู่ในนั้น ผมและโซฟาเลยถูกทิ้งให้อยู่ในห้องนั่งเล่นที่ว่างเปล่า
แล้ววันหนึ่งคุณพ่อของเธอก็กลับบ้านมาพร้อมผู้ชาย 2-3 คน พวกเค้ายกโซฟาออกไป ชายคนหนึ่งจับผมโยนลงมาที่พื้น ไม่นานพวกเค้าก็กลับเข้ามาพร้อมโซฟาหนังสีน้ำตาลตัวใหม่ และแล้ว บางวันผมก็ยังเห็นพ่อแม่ลูก นั่งพร้อมหน้ากันอยู่บนโซฟาสีน้ำตาล แต่ผมไม่ได้อยู่บนตักของเธออีกแล้ว เธอคงจะลืมผมไปแล้ว ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ ใต้โซฟาสีน้ำตาลนี่หรอก ผมอดคิดถึงโซฟาตัวเก่าไม่ได้ โซฟาสีขาว... ถึงแม้มันจะดูเก่าแค่ไหน แต่มันก็คือที่ๆอบอุ่นที่สุดสำหรับผม
แล้วผมก็ได้รู้ความจริง ว่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์นั้นเชื่อไม่ได้ และคำว่าตลอดไป ก็เป็นเพียงคำสวยหรูที่ถูกแต่งขึ้นเท่านั้น ซึ่งมัน ไม่มีจริง...
ผลงานอื่นๆ ของ B!ackYogurt ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ B!ackYogurt
ความคิดเห็น