คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : #จันทร์เจ้าเด็กผี:: 16[100 per.]
บทบรรยาย:: ดาวเหนือ
ผมทำอะไรไม่ถูกกอยู่เกือบพักใหญ่เพราะจันทร์เจ้าเอาแต่นอนตัวสั่นแถมยังดิ้นไปมาไม่หยุด ตอนแรกเหมือนตัวเองจะตั้งสติได้ แต่แม่ง...ยิ่งเวลาผ่านไปนาน ยิ่งเห้นจันทร์เจ้าดิ้นแรงแค่ไหนผมก็ยิ่งคงบคุมสติของตัวเองไม่อยู่ มือมันสั่นไปหมด น้ำตาเวรๆ ก็จะไหลออกมาให้ได้ มันพึ่งพาใครไม่ได้เลยแม้แต่หมอที่อยู่ที่นี่ด้วย
"ฉันกลัวนะเว้ย" ผมพึมพำเสียงเบาก่อนจะเริ่มวางมือลงที่แขนของจันทร์เจ้าอีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านี้พยายามจะทำอะไรหลายๆ อย่างแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรที่ช่วยให้เธอหยุดดิ้นได้เลย
ขาเริ่มยืนไม่อยู่ มันอ่อนแรงชิบหายแม้ว่าเสียงต่อสู้กันของไอ้กรที่อยู่ข้างนอกจะดังข้นเป็นระยะๆ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ขาทั้งสองข้างก้าวออกไหจากห้องเลยแม้แต่ก้าวเดียว จนตอนนี้เข่าสองข้างเริ่มทรุดลงที่พื้นข้างเตียงคนป่วยของจันทร์เจ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"อย่าเป็นแบบนี้ดิ" พูดไปงั้นแหละ รู้ทั้งรู้ว่าพูดไปยังไงเธอก็ไม่ได้ยิน แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะบอกไปอยู่ดี
นานเกือบห้านาทีหลังจากที่ผมนั่งคุกเข่าอยู่แบบนั้น...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าอยู่ดีๆ ก็มีไอเย็นผ่านร่างผมไปวูบหนึ่ง ไม่สิ เหมือนมันปกคุมที่เตียงของจันทร์เจ้ามากกว่า แต่บังเอิญผมที่อยู่ข้างเตียงสัมผัสได้ถึงมันเหมือนกัน และแล้วหลังจากนั้นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ร่างที่นอนดิ้นอยู่หลายนาทีก็สงบลง
ไม่ได้มีอาการเหมือนเมื่อกี้โผล่ออกมาให้เห็นอีกเลยแม้แต่น้อย...
ผมยืนขึ้นขมวดคิ้วแล้วมองไปรอบๆ ห้องเพราะเคยสัมผัสความเย็นแบบนี้มาก่อน... มันเป็นความรู้สึกเหมือนตอนที่ลุงเทวดาของจันทร์เจ้าโผล่มาไม่มีผิด ถ้าให้ผมเดา...การที่จันทร์เจ้าสงบลงแบบนี้เพราะเป็ฯเพราะเขาช่วยแน่ๆ อ่จเป็ฯเพราะไอเย็นของเขาเมื่อกี้ด้วยนั่นแหละที่ทำให้เธฮสงบลงแบบนี้น่ะ
"ขอบคุณ...ครับ" ผมพูดเสียงเบาพลางมองไปรอบๆ ห้อง หวังว่าเขาจะยังอยู่สักที่แถวๆ นี้และได้ยินเสียงของผม
หวังว่าคำขอบคุณของผมจะไปถึงเขา...
ผมเลื่อนมือลงจากแขนของจันทร์เจ้าไปที่ฝ่ามือเล็กๆ ของเธอก่อนจะจับขึ้นมาแล้วกดหน้าผากของตัวเองลงไปบนหลังมือของเธอแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างโล่งอก
หลากหลายความรู้สึกชิบหายเลยวันนี้
ทั้งตกใจ กลัว กระวนกระวาย โกรธ ไหนจะความรู้สึกอยากปะทะกับใครสักคนอีก แต่สุดท้ายตอนนี้ผมก็โล่งแล้ว โล่งไปหมดเลย เหมือนโดนยกภูเขาออกจากอกไม่มีผิด
"ชอบทำให้เป็นห่วงตลอดเลยนะยัยเด็กผี" ผมพึมพำเสร็จก็วางมือเธอลงไว้ที่เดิมข้างๆ ตัวแล้วหลังจากนั้นความสนใจของผมก็เพ่งไปที่หมอคนที่นั่งอยู่มุมห้องทันที "ตรววจเช็คยัยนี่ให้ดีๆ ไม่งั้นมึงโดนหนักเหมือนอีกสองคนแน่" ผมขู่เขาไปงั้นก่อนจะรีบเดินออกไปข้างนอกห้องแล้วมองที่ไอ้กรซึ่งตอนนี้กำลังยืนเหนื่อยหอบอยู่กลางห้องนั้น
"จันทร์เจ้าเป็นไงบ้างครับ?" มันหันมาถามมผมตอนที่ผมเดินไปวางแขนของตัวเองลงบนไหล่ของมัน
"คิดว่าปกติแล้ว อีกเดี๋ยวทีมของนักสืบจะถึงแล้ว" ผมว่าหลังจากหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดูเวลาและข้อความที่มีแจ้งเตือนเข้ามาหลายข้อความ
"ครับ"
"บนรถกูมีเชือก มึงเข้าไปอยู่กับจันทร์เจ้าก่อนก็ได้ เดี๋ยวจะไปเอาเชือกมามัดไอ้พวกนี้ก่อน" แล้วหลังจากนั้นผมก็มัดมือมัดเท้าไอ้คนที่จับตัวจันทร์เจ้าเอาไว้ ก่อนจะออกไปยืนโทรศัพท์คุยกับแม่ที่หน้าบ้านและรอรถของทีมที่กำลังจะถึงในไม่ช้านี้ ส่วนจันทร์เจ้า...ตอนนี้เธอน่าจปลอดภัยแล้วจริงๆ นั่นแหละ ไว้ทีมพยาบาลมาถึงเมื่อไหร่ผมค่อยถามรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเธอก็ได้
"อ่า ถ้ากลับเข้าไปในตัวเมืองแล้วจะโทรบอกอีกที"
[มั่นใจใช่ไหมว่าน้องไม่เป็นอะไร? ทำไมแม่กังวลแบบนี้นะ?] ผมค่อนข้างมั่นใจว่าที่แม่พูดมาคือเรื่องจริง เพราะตอนนี้ควรจะเป็นเวลาพักผ่อน ผ่อนคลาย และคลายเครียดของแม่แล้ว แต่ตตอนแม่ผมกลับต้องมารอฟังทุกอย่างจากผมเพราะมาด้วยไม่ได้แทน
ใช่ ตอนแรกแม่ผมจะมาด้วย แต่มันอันตรายผมเลยไม่ให้มา
[แล้วเรื่องของสองคนนั้น อย่างที่แม่บอกไปตอนแรก เราขังเขาไว้เพื่อสอบปากคำเองไม่ได้นะเหนือ คนพวกนั้นไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐหรือคนที่เกี่ยวข้อง รู้ใช่ไหมว่าถ้าเราขังเขาไว้มันก็ไม่ต่างกันกับที่เขาขังจันทร์เจ้าน่ะ?]
"อ่า รู้ แต่ผมจะมั่นใจได้ไงว่าถ้าปล่อยให้ตำรวจไปจัดการต่อแล้วมันจะมีอะไรคืบหน้าอ่ะ?" ไม่มั่นใจก็คือไม่มั่นใจอ่ะ คนมันคิดแบบนี้ไปแล้วต่อให้คนอื่นเอาเหตุผลล้านแปดมาบอก ผมก็ยังรู้สึกแบบนั้นอยู่ดี เข้าใจป่ะ? "แบบนี้มันไม่ใช่แค่ลักพาตัวเด็กไปเฉยๆ นะแม่ เขาพยายามฆ่า พยายามทำทุกอย่างเลยอ่ะ"
แม่ง ยิ่งพูดยิ่งโมโห
[เดี๋ยวแม่จะลองคุยกับคนใหญ่คนโตให้]
'ปี๊ป่อ ปี๊ป่อ'
แม่ผมพูดจบก็เป็นจังหวะเดียวกันที่เสียงไซเรนท์รถโรงพยาบาลเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาจอดอยู่ที่หน้าของผม
"เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะแม่ เขามากันแล้ว" ผมว่าพร้อมกับรีบกดตัดสายแม่แล้วมองพยาบาลหลายคนที่แห่กรูกันลงมาจากบนรถ ก่อนจะเริ่มมีคันอื่นตามมาอีกหลายคัน แต่เป็นรถคล้ายรถตู้คันเล็กสีดำ
"คุณดาวเหนือใช่ไหมคะ?"
"ครับ มีเด็กต้องการความช่วยเหลืออยู่ข้างในครับ" ผมรีบว่าก่อนจะชี้เข้าไปในบ้านแล้วมองหานักสืบคนนั้นก็เจอเขากำลังเดินเข้ามาหาผมอยู่นั่นเอง
"ขั้นตอนหลังจากนี้ผมกับทีมจะเป็นคนดำเนินการต่อเองครับ คุณดาวเหนือรอฟังความคืบหน้าได้เลยครับ"
"ครับ ถ้าเรื่องนี้ถูกส่งต่อให้ตำรวจแล้ว...ความจริงผมก็อยากให้คุณช่วยดูแลต่อด้วยนะครับ"
"ได้ครับ"
หลังจากนั้น...ทุกอย่างเหมือนจะวุ่นวายเล็กน้อย ทีมถูกแบ่งออกเป็นสามทีม
ทีมแรกคือหน่วยพยาบาลที่ย้ายจันทร์เจ้าขึ้นรถแล้วรีบพาไปที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
ทีมที่สองคือทีมที่จับชายสามคนที่เปฯผู้ลงมือทำการต่างๆ ขึ้นรถไปดำเนินการต่อตามที่เขาบอกผมไว้
ส่นทีมสุดท้ายคือทีมที่ตรวจดูบริเวณรอบๆ บ้านหลังนี้พร้อมทั้งตรวจสอบหาหลักฐานอย่างอื่นที่จะนำไปสู่คนสั่งการได้ด้วย ซึ่งทีมที่สามนี้ลงมือตอนที่ทุกคนเริ่มทยอยออกไปก่อนแล้ว
ไอ้กรขับรถตามจันทร์เจ้าไป โดยมันบอกผมว่าจะบอกรายละเอียดผมเมื่อจันทร์เจ้าตรวจสอบเสร็จ ในขณะที่ผมแยกไปกับทีมที่สองเพื่อไปฟังการสอบสวนด้วยกันที่นั่นเลย
ถึงแม้ปากจะบอกว่าฝากคนนู้นคนนี้ทำ แต่ใจมันกลับอยากทำเองทุกขั้นตอนมากกว่า ติดอยู่แค่ว่าผมไม่ได้นิ่งพอที่จะทำอะไรแบบนี้ได้
ความอดทนผมมันไม่ได้สูงมากขนาดนั้น ทุกคนก็รู้
แต่ผมคงทำได้แค่ฟังเฉยๆ นั่นแหละ อย่างเดียวที่ลงมือทำได้เองคงมีแค่เฝ้าจันทร์เจ้า คอยดูว่าหลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาจะเป็นยังไง
และเธอจะจำผมได้ไหม
คงต้องรอให้เธอฟื้นขึ้นมาแล้วตอบผมเอง...
Talk
เม้นโหน่ยยย
ความคิดเห็น