ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My ghost นี่ผีหรือที่รัก?

    ลำดับตอนที่ #40 : เด็กผี x H A P P Y N E W Y E A R

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.21K
      109
      31 ธ.ค. 62

    ประกาศจ้าาาา
    ตอนนี้ไรท์มีเพจแล้ววว ไรท์จะแจ้งเกี่ยวกับการอัพนิยายที่เพจน้าา
    FB PAGE: BBeatrizXX
    จิ้มแล้วไปกดไลค์กดติดตามได้เลยยย ><
    ตอนนี้ก็ไปติดตามนิยายต่อเลยจ้าา


    เป็นสเปเชี่ยลปีใหม่ให้อ่านกันก่อนนะคะ

    **ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักนะคะ**


    5:30 น.

    ผมลืมตาขึ้นเพราะมันถึงเวลาที่ตัวเองตื่นเป็นประจำเพื่อเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัวเหมือนทุกครั้ง แต่ช่วงหลังๆ นี้กลับต่างออกไปตรงที่บริเวณช่วงหน้าอกของผมทุกอะไรบางอย่างทับเอาไว้ บางอยู่ที่นุ่มนิ่มไม่ได้หนักเกินไปที่จะผลักออก แต่ก็เพราะความนุ่มนิ่มนั่นแหละที่ทำให้ผมไม่กล้าผลักออกไป

    ผมดันตัวเองขึ้นนั่งหลังพลิงที่หัวเตียง ปล่อยให้ร่างกายช่วงหน้าท้องโดนความนุ่มนิ่มทับแทน ก่อนจะมองไปที่เตียงนอนฝั่งด้านขวาของตัวเองที่เหลือพื้นที่เยอะมากๆ จนสามารถนอนได้อีกสามถึงสี่คน แต่พื้นที่ตรงนั้นกลับว่างเปล่า มีแค่ผ้าปูเตียงที่ยับยู่ยี่เท่านั้นที่ผมเห็น ส่วนด้านซ้ายของผม... เรียกได้ว่าถ้ากลิ้งอีกแค่สองรอบผมก็สามารถตกเตียงได้เลยทีเดียว...

    ส่วนตัวคิดว่ามันไม่แฟร์ แต่เมื่อคืนก่อนนอนผมกลับมองว่ามันแฟร์สำหรับ 'เธอ' แต่ก็นั่นแหละ... สุดท้ายผมก็โดนเบียดอยู่ดี

    อ๋อ ที่ผมบอกว่าเธอน่ะผมหมายถึงร่างนุ่มนิ่มที่ตอนนี้กำลังกอดก่ายร่างกายผมเอาไว้อยู่ครับ ไม่ใช่อะไรน่ากลัวเช่นผีองผีอำหรอก ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งก็เท่านั้นเอง เหตุการณ์ก่อนนอนเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นนอกจากการทะเลาะและงอนกันของเราสองคนที่เป็นสาเหตุของการนอนคนละฝากฝั่งเตียงนี่แหละ แต่เมื่อกลางดึกเธอคนนี้กลับแอบขยับมานอนกอดผมซะงั้น

    ไม่ใช่การละเมอ แต่เป็นการแอบจริงๆ อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ

    เด็กหนอเด็ก...

    ผมมีความคิดที่จะปลุกเธอ เอาจริงๆ คือจะดึงแขนเล็กๆ นั้นออกแล้วก็ยกแก้มนิ่มๆ ของเธอไปวางไว้บนหมอนดีๆ ก็จบเรื่องแล้ว แต่เพราะไม่ได้มีความอยากเข้าห้องน้ำขนาดนั้นผมก็เลยนอนเล่นโทรศัพท์รอเวลาที่คนตัวเล็กจะตื่น กะว่าถ้าพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงเข้ามาในห้องแล้วเธอยังไม่ตื่นก็คงได้ปลุกนั่นแหละ

    ช่วงนี้หยุดปีใหม่ ตัวผมอ่ะคิดว่าอยากหากิจกรรมดีๆ ทำด้วยกันอยู่ แต่บางทีมันก็อยากอยู่ห้องแล้วนอนเฉยๆ อ่ะ และเพราะแบบนี้แหละเมื่อคืนผมกับเจ้าของความนุ่มนิ่มนี้เลยทะเลาะกันเล็กน้อย เพราะเธออยากทำหลายอย่างมาก! แต่ผมกลับอยากอยู่เฉยๆ เมื่อความคิดของเรามันไม่ตรงกัน ตอนแรกเธอจะกลับไปนอนที่บ้านของตัวเองแล้ว แต่เพราะพี่เธอต้องขับรถกลับไปมาหลายรอบเธอเลยไม่อยากรอบกวน ส่วนผมก็ไม่ไปส่งเพียงเพราะนานๆ ทีเราถึงจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้...

    แม่ง คิดแล้วก็อยากจะฟัดแก้มนิ่มๆ จนพอใจแล้วค่อยปล่อยเธอกลับบ้านไป แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายผมก็ไม่เคยพอใจสักที - -

    "งื้ออ" เสียงใสเริ่มมีการเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสีชมพูธรรมชาติของเธอคนนั้น แก้มนิ่มๆ เริ่มเปลี่ยนตำแหน่งการวางแล้ว ในขณะที่ฝ่ามือมีการตบๆ ที่หน้าท้องของผมเป็นระยะๆ ก่อนที่ร่างกายทุกส่วนของเธอจะเริ่มนิ่งไป ต่อมาร่างเล็กของเธอก็สะดุ้งขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นนั่งจัดผมของตัวเองให้เรียบบร้อยแล้วมองซ้ายขวาจนสายตาของเธอมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของผม...

    หึ หึๆๆๆๆๆ

    จะมีเด็กโวยวายในอีก

    ห้า

    สี่

    สาม

    สอง

    "พี่เหนือเข้ามาใกล้จันทร์เจ้าทำไม!! จันทร์เจ้าโกรธพี่ดาวเหนืออยู่นะ! งอนด้วย! อยากกินไอติมด้วย! แล้วก็อยากไปถ่ายรูปสวยๆ ที่ห้างด้วย!" แค่ตื่นมา หน้าตาก็ยังไม่ล้าง แต่จันทร์เจ้าก็สามารถตั้งสติภายในไม่กี่วิแล้วโวยวายขึ้นทันที แต่ก็ได้ไม่นานนั่นแหละ 

    และเพราะว่าเธอเพิ่งตื่นก็เลยทำให้ตอนนี้ริมฝีปากสีชมพูก็เลยหยุดชะงักแล้วนอนฟุบลงเหมือนเดิม "ง่วงอ่า"

    "ง่วงก็นอนดิ" ผมว่าก่อนจะดันร่างของเธอออกจากตัวแล้วรีบไปจัดการธุระส่วนตัวก่อนจะรีบออกมาแล้วสอดตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่มข้างจันทร์เจ้าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้นั่งพิงที่หัวเตียงเหมือนเดิม ผมนนอนกอดคนตัวเล็กเอาไว้แล้วซุกหน้าไว้กับไหล่บางของเธอ "ก็บอกแล้วว่าวันนี้ให้อยู่ห้องเฉยๆ" ผมว่าต่อหลังจากที่ได้ท่าที่เหมาะสมและมีแขนเล็กพาดที่ลำตัวของผมเอง

    "ก็ไม่เคยได้ไปข้างนอกด้วยกันเลยอ่ะ" เสียงของจันทร์เจ้าดังอู้อี้อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพลิกตัวหันหน้ามาฝั่งผมแล้วเคลื่อนตัวลงไปให้หน้าอยู่บริเวณอกแกร่งของผมก่อนจะใช้ใบหน้าถูไถไปมาเหมือนคนมันเขี้ยวอะไรสักอย่าง

    ชอบแหละดูออก

    "ก็ไปรับไปส่งมหาลัยอยู่ไง" ผมว่าอย่างนั้นแต่ก็รู้สึกผิดอยู่นิดๆ นั่นแหละที่ไม่ค่อยได้ไปไหนกับเธอเลยอ่ะ เนื่องจากทั้งงานที่บริษัทของพ่อผมที่ตอนนี้ผมเป็นคนรับช่วงต่อจากแม่เพราะพ่อเสียไปตั้งนานแล้วนั่นแหละเวลาว่างเลยไม่ค่อยจะมี 

    แต่เราสองคนกำหนดเวลาที่จะให้ด้วยกันอยู่นะ เมื่อก่อนมีช่วงไปรับไปส่งที่โรงเรียน เดี่ยวนี้เป็นไปรับไปส่งที่มหาลัย ตอนเลิกเรียนถ้าไม่เล่นที่บ้านผม บ้านเธอก็เป็นคอนโดผมแทนเหมือนวันนี้ ซึ่งผมเพิ่งได้รับคำสั่งจากทุกคนในชีวิตว่าห้ามแตะต้องเธอจนกว่าจะอายุถึงยี่สิบปี และแน่นอนว่าตอนนี้ถึงแม้เธอจะอายุยี่สิบแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ล่วงเกินเธออยู่ดี

    แค่กอดบ้าง แทะเล็กแทะน้อยบ้างก็พอแล้ว

    ใช่...ทุกการกระทำของผมน่าจะเรียกว่าแทะเล็กแทะน้อยนั่นแหละ

    "ไม่เอาแค่นั้นสิ" จันทร์เจ้าว่าก่อนจะทุบที่หลังของผมเบาๆ แล้วดิ้นไปมาอีกรอบ "ไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนด้วยกันเลย" คราวนี้น้ำเสียงติดงอแงดังออกมาก่อนที่ผมจะรู้สึกเจ็บที่หน้าอกของตัวเอง

    "อย่ากัดดิ - -" ผมว่าพร้อมกับลุกขึ้นนั่งแล้วก้มหน้ามองจันทร์เจ้าที่ตอนนี้บูดบึ้งไปหมดแล้ว

    คนตัวเล็กลุกขึ้มานั่งตามก่อนจะเริ่มตั้งสติแล้วพูดอีกครั้ง "อยากงอแง..."

    "ที่พูดๆ เมื่อกี้พี่เรียกว่างอแง" ผมว่าแล้วเอื้อมมือไปจัดผมที่ยุ่งๆ ให้เธอ เพราะว่ามันยังไม่ทันได้เช้ามากผมเลยยังไม่ได้ทำอะไร อีกอย่าง...ก็อย่างที่บอกไปว่าวันนี้มันวันหยุดด้วย แพลนอะไรก็ยังไม่มี ที่มีก็ไม่ได้รีบขนาดนั้น ผมเลยยังคงนั่งๆ นอนๆ อยู่บนเตียงกับจันทร์เจ้าอยู่แบบนี้นี่แหละ ไว้อีกสักพักใหญ่ๆ เดี๋ยวค่อยไปอาบน้ำกันก็ได้ ยังไม่ทันได้เจ็ดโมงเช้าด้วยซ้ำจะรีบไปทำไม

    "อยากอ้อนแฟน" คราวนี้คำพูดของจันทร์เจ้าทำให้ผมหยุดชะงักมือของตัวเองที่กำลังจัดผมของเธออยู่แล้วเลื่อนสายตาลงไปสบตากับดวงตากลมโตของจันทร์เจ้าทันที

    ผมไม่ได้เอ่ยอะไรกลับไป ทำแค่เพียงใช้มือของตัวเองสัมผัสกับแก้มนิ่มๆ ของเธอแล้วลูบไปมาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะกางแขนทั้งสองข้างของตัวเองออก ไม่นานร่างเล็กๆ ของจันทร์เจ้าก็พุ่งตรงเข้ามาซุกที่ตัวของผมพร้อมกับเคลื่อนตัวขึ้นมานั่งบนตักของผมเหมือนลูกแมวที่วิ่งเข้ามาอ้อนเจ้าของไม่มีผิด

    ไม่เคยเลี้ยงหรอกแมวอ่ะ แค่เปรียบเทียบไปงั้นแหละ

    "พาจันทร์เจ้าไปกินอะไรอร่อยๆ ข้างนอกหน่อยนะคะ นะๆๆๆๆ” ไม่พูดเปล่า แต่คนตัวเล็กผละใบหน้าออกจากตัวผมก่อนจะกระพริบตาปริบๆ ให้ผมอย่างน่ารัก

    "กินข้าวบ้านแม่พี่ไง" ผมว่าพร้อมกับจับแก้มเธอยืดๆ อย่างมันเขี้ยวแล้วดึงเธอเข้ามาซบกับอกของตัวเองแรงๆ จนจันทร์เจ้าต้องร้อง "โอ้ย" ออกมา

    "ชนแรงอ่า"

    "เมื่อคืนก็บอกแล้วไงว่าสายๆ จะพาไปที่บ้าน ไปทำอะไรง่ายๆ กินด้วยกัน ชวนไอ้กรไปด้วย อย่าบอกนะว่าโกรธจนไม่ได้ฟังน่ะ?" ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้เหมือนดุ แต่ก็ไม่ได้ใช้เสียงที่อ่อนจนเกินไปจนเหมือนพูดเล่นกับเธอ "แต่จันทร์เจ้าไม่ต้องบอกไอ้กรแล้วก็ได้ เพราะตอนตื่นพี่ไลน์ไปบอกมันแล้ว"

    กาลเวลาเปลี่ยนไป...สรรพนามในการพูดคุยกันของเราก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

    มันเปลี่ยนเพราะเฉพาะตอนอยู่แค่สองคนนี่แหละ พอไปอยู่ข้างนอกกับคนอื่นมก็แทนตัวเองกับเรียกเธอเหมือนเดิม แต่พออยู่กับสองคนจันทร์เจ้าอยากได้บรรยากาศที่ดูเป็นแฟนกันมากกว่าปกติก็เท่านั้นเอง

    ซึ่ง...ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันดูเป็นแฟนกันมากกว่าเดิมตรงไหนเหมือนกัน แต่คนตัวเล็กอยากได้แบบนี้ผมก็ทำให้ ถึงแม้ช่วงแรกๆ ผมจะคัดค้านและต้านสุดฤทธิ์แค่ไหน แต่ตอนนี้กลับชินขึ้นมาแล้วซะงั้น

    "ลืมไปเลยว่าคุณป้าจะพาทำขนมด้วย" เสียงที่ดูตื่นเต้นขึ้นมาเล็กร้อยของจันทร์เจ้าทำให้ผมลอบหัวเราะในลำคออย่างนึกเอ็นดูก่อนจะจรดปลายจมูกตัวเองลงบนเรือนผมของจนทร์เจ้าแล้วโยกคนตัวเล็กไปมา

    "เคยบอกแล้วไงว่าเวลาโกรธก็ฟังด้วย ไม่ใช่จะทำเมินแล้วไม่ฟังอย่างเดียว" ผมบอก

    "ก็ตอนโกรธมันไม่อยากฟังอะไรอ่า" เธอว่า

    "เดี๋ยวถ้าบ่นให้ก็จะทำหน้าบึ้งใส่อีก จันทร์เจ้าโตแล้วนะ เลิกงอแงกับโกรธง่ายเหมือนตอนเด็กๆ ได้แล้ว" ผมว่า มันคือการตักเตือนและอบรมที่เหมือนจะซีเรียส แต่เอาเข้าจริงๆ เรื่องนี้เราพูดกันบ่อยแล้ว 

    เหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมาพอผมเริ่มทำงานก็มีแค่ผมที่นิ่งขึ้นเนื่องจากตัวงานที่ต้องทำด้วย และอายุที่เพิ่มขึ้นด้วยนั่นแหละ จะเล่นๆ แล้วคงไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันจันทร์เจ้าอายุเพิ่งจะขึ้นเลขสอง...คงไม่แปลกเท่าไหร่ที่คนวัยนี้จะมีมุมขี้งอนหรือเอาแต่ใจบ้าง แต่ผมก็อยากให้เธอลดมันน้อยลงสักนิด เพราะบางทีเราก็ทะเลาะกันเรื่องไร้สาระที่ผมเองก็ไม่ได้ว่างพอที่จะไปง้อหรือทำความเข้าใจกับสาเหตุของการทะเลาะกันมาก แต่ก็นั่นแหละ... ใช่ว่าจะเปลี่ยนกันง่ายๆ

    ส่วนผมก็ไม่ใช่ว่าไม่ปรับตัวไปตามอารมณ์ของเธอ แต่ก็นั่นแหละ...ผมต้องปรับตัวเข้ากับอะไรหลายๆ อย่าง บางทีบางช่วงเวลาผมก็ลืมไปว่าเธอยังเด็ก...

    "ปีหน้าจันทร์เจ้าจะปรับปรุงตัวใหม่ค่ะ จะทำตัวว่านอนสอนง่ายขึ้นด้วย คราวนี้สัญญาเลย"

    "สัญญาแล้วต้องทำให้ได้นะ?" 

    "อื้ม!"

    "ดี จันทร์เจ้ามีแฟนเป็นประธานบริษัทจะมาทำตัวเป็นเด็กน้อยน่ารักนุ่มนิ่มแบบนี้ไปตลอดไม่ได้นะ เข้าใจไหม?"

    "เข้าใจแล้วว แต่พี่เหนือชอบแบบนุ่มนิ่มๆ ไม่ใช่หรอ?" คนบนตักถามพร้อมกับหรี่ตามองผมอย่างจับผิด แน่นอนว่าผมไม่มีคำตอบให้เธอ... มีแค่การพรมจูบทั่วใบหน้าคนตัวเล็กแทนการพูดออกไปเท่านั้น

    ผมน่ะ...ไม่ได้ชอบแบบอะไรนุ่มนิ่มๆ หรอก 

    ความจริงผมแค่ขอบจันทร์เจ้า แล้วบังเอิญเธอเป็นเด็กนุ่มนิ่มก็แค่นั้นเอง


    เวลาผ่านไป...

    ตอนนี้เรามาที่บ้านของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้วและแน่นอนว่าผมไม่ได้มีส่วนร่วมกับการเข้าครัวเลยนั่งเล่นๆ นอนๆ ที่ห้องนั่งเล่นรอไอ้กรปลีกตัวออกจากลูกค้ามาเจอตามที่นัดไว้ 

    นี่ก็เป็นอีกความเปลี่ยนแปลงหนึ่งที่ผมก็ไม่รู้ว่าได้ยังไง แต่ตอนนี้เหมือนแม่ผมมีลูกชายสองคนและลูกสาวหนึ่งคนงั้นแหละ - -

    จันทร์เจ้ากับไอ้กรน่ะถ้าว่างก็มาเล่นบ้านผม ช่วงเทศกาลอะไรก็มาฉลองบ้านผมบ่อยๆ ด้วย สาเหตุหนึ่งเพราะแม่ผมชวนนั่นแหละ แต่บางที...เราดูเหมือนครอบครัวเดียวกันเกินไป จนผมว่ามันเริ่มไม่ใช่แล้ว

    ห้ามเป็นครอบครัวเดียวกันแบบแม่ลูกนะ!

    เพราะจันทรร์เจ้าน่ะต้องเป็นลูกสะใภ้แม่ผมเท่านั้น!

    ได้แค่คิดเองในใจคนเดียวเท่านั้นแหละ ถ้าให้พูดออกไปจริงๆ ผมคงไม่กล้าหรอก เพราะบางทีมันก็ดูจะเขินเกินไปหน่อยนึงอ่ะนะ - -///

    ใช้เวลาไม่นานมากเท่าไหร่แม่ผมกับจันทร์เจ้าก็ทำมื้อเที่ยงเสร็จ เป็นเวลาเดียวกันกับที่ไอ้กรมาถึงบ้านพอดี

    "วันนี้นอนที่บ้านสิ พวกแม่บ้านกับคนใช้เขาจะมาเคาท์ดาวน์ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน พวกลูกก็มาเล่นกับทุกคนก็ได้" แม่ผมพูดขณะที่ตักเอากุ้งตัวโตๆ ใส่ในจานของจันทร์เจ้า

    ไอ้กรมองหน้าผมสลับกับแม่ผมอยู่สักพักก่อนจะก้มมองจันทร์เจ้าแล้วถามความเห็น "ถ้าจันทร์เจ้าอยากนอนนี่พี่ก็อนุญาต ไม่ห้าม"

    "แล้วพี่กรนอนด้วยไหม?" 

    "พี่...คงมีธุระน่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะกลับเวลาไหนเลยว่าจะนอนที่บ้านแทน" ไม่ใข่ธุระอะไรหรอก เชื่อผมเถอะ 

    "ง่า"

    "ไว้พรุ่งนี้พี่จะพาไปเลือกของขวัญปีใหม่นะ" ไอ้กรว่าก่อนจะลูบผมจันทร์เจ้าเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองผม เหมือนมีอะไรจะพูดด้วย ก่อนที่มันจะเริ่มขยับริมฝีปาก "คืนนี้คงต้องฝากจันทร์เจ้าให้นอนกับคุณป้านะครับ"

    ว้อท... 

    ห้ะ... 

    อะไรนะ...

    เดี๋ยวก่อน...

    "ความจริงจันทร์เจ้าคุยกับคุณป้าก่อนหน้านี้แล้วว่าขอนอนด้วยเพราะว่าไม่ได้นอนกับคุณป้ามานานม๊ากกกเลย แต่ไม่คิดว่าจะได้นอนเร็วด้วยขนาดนี้นะเนี่ย..." จันทร์เจ้าว่าก่อนจะส่งสายตาตื่นเต้นไปให้แม่ผมที่นั่งอยู่หัวโต๊ะก่อนจะหันมาหาผม "ให้จันทร์เจ้านอนกับคุณป้านะคะ"

    "......" ไม่เอาอ่ะ วันนี้มันวันสิ้นปีนะ ที่ไม่อยากออกไปไหนเพราะจะได้อยู่ด้วยกันนะ ทำไมเธอถึงจะมาทิ้งผมแบบนี้ล่ะ

    แล้วนั่น...มากระพริบตาปริบๆ ใส่เพราะคิดว่าผมต้องยอมแน่ๆ เลยใช่ไหม? 

    ทำไมนะ...ทำไมผมต้องแพ้อะไรแบบนี้ด้วยนะ

    "อืม แล้วแต่" นี่คงเป็นกรรมของการไม่พาจันทร์เจ้าไปนู่นนี่ตามที่เธอขอสินะ...


    23:40 น.

    ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่ที่ระเบียงห้องนอนตัวเอง มองท้องฟ้าที่มืดสนิทแล้วยกนาฬิกาขึ้นมาด้วยดูความอยากรู้ว่าอีกนานแค่ไหนเราถึงจะเข้าสู่ปีใหม่กัน แต่พอรู้แล้วก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเท่าไหร่เลย...แต่คิดว่าถ้าเป็นจันทร์เจ้าเธอต้องอยู่ไม่สุขแน่ๆ ยิ่งใกล้เวลาเธอยังยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่

    แต่ตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่กับแม่ผม...

    ทิ้วผมไว้ตรงนี้คนเดียว...

    โคตรใจร้ายเลย... นี่ผมไปขโมยเธอมาจากห้องแม่ผมได้ไหมนะ?


    'ก๊อกๆ'


    จังหวะที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยูรเสียงประตูห้องก็ดังขึ้ย ทำให้ผมต้องเกินกลับเข้าห้องแล้วตรงไปที่ประตูก่อาจะถามออกไปว่า "ใคร?" เพื่อความปลอดภัย

    "จันทร์เจ้าเอง" และก็เป็นเด็กคนที่ผมเพิ่งบ่นให้ไปเมื่อกี้ที่มาเคาะห้องของผมในเวลา 23:45 น.

    ผมเปิดประตูให้เธอ มองเธอเดินเข้ามาแล้วปิดประตูเอาไว้ก่อนจะถามออกไปอย่างสงสัย "ยังไม่นอนอีกหรอ?"

    "ยัง จันทร์เจ้ารอเคาท์ดาวน์กับพี่เหนือ" เธอว่ากฝพร้อมกับเดินเข้ามากอดแขนผมแล้วพาเดินออกไปที่ระเบียงห้องของผมที่ถูกเปิดประตูเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

    "รออยู่นี่ จะไปเอาผ้ามาปูไว้นั่งดูพลุ" ผมว่าก่อนจะรีบเดิาเข้าไปในห้องแล้วเอาผ้าห่มผืนใหญ่ออกมาหนึ่งผืนเพื่อให้ทั้งปูและห่มเราสองคนเอาไว้ 

    เมื่อออกมาข้างนอกแล้วผมก็จัดการปูมันแค่พื้นที่เล็กๆ ก่อนจะนั่งลงไปแล้วเอื้อมมือไปดึงเอวบางของจันทร์เจ้าลงมานั่งทับที่ตักของผมเองก่อนจะใช้ผ้าห่มส่วนที่เหลือคลุมช่วงขาของเราสองคนเอาไว้

    "อีกกี่นาทีอ่ะพี่เหนือ?" จันทร์เจ้าถามพร้อมกับพิงหลังลงมาที่หน้าอกของผมแล้วกอดแขนข้างหนึ่งของผมเอาไว้หลวมๆ 

    "อีกเจ็ดนาที" ผมว่าแล้วใข้มือข้างที่ว่างวางพาดที่หน้าท้องของจันทร์เจ้าแล้วดึงเข้ามาหาตัวเองให้เราสองคนแนบชิดกัน

    เสียงคนเฮฮาจากด้านล่างดังขึ้นมาเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทุกคนยังเงียบอยู่ แต่ก็นั่นแหละ ยิ่งใกล้เวลา ทุกคนก็ยิ่งตื่นเต้นกัน

    จนตอนนี้เหลืออีกแค่หลักวินาทีเท่านั้น...

    "สิบ!"

    "พี่ๆ เขาเริ่มนับถอยหลังแล้วอ่า" จันทร์เจ้าเด้งตัวขึ้นลุกนั่งตัวตรงก่อนจะมองไปที่ข้างล่างบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน เมื่อเริ่มได้ยินเสียงคนนับถอยหลังมาเรื่อยๆ "เก้า" คนตัวเล็กกระซิบเสียงเบาแล้วเงยหน้าจดจ้องท้องฟ้ายามค่ำคืนไว้

    "แปด" ดวงตากลมโตของเธอดูใสมากเลย...

    "เจ็ด" แขนเล็กของเธอเริ่มรัดแขนของผมแน่น

    "หก" เธอนั่งอยู่ไม่สุข

    "ห้า" ถ้าผมมองว่าตอนนี้เธอน่ารักมากจะผิดไหม?

    "สี่" และเพราะแบบนั้นผมเลยดึงแขนของตัวเองออกจากการเกาะกุมแล้ววางลงที่ท้ายทอยของเธอ

    "สาม" ผมออกแรงเพียงเล๋กน้อยให้จันทร์เจ้าเงยหน้าขึ้นมามองผม

    เราสอบตากันเพียงชั่วครู่ แต่นั่นก็ทำให้เธอพลาดที่จะนับถอยหลังที่วินาที่ที่สองก่อนวันสุดท้ายของปีไป

    และหลังจากนั้น...

    เหมือนว่าวินาทีสุดท้ายของปี...เธอก็ไม่ได้นับเหมือนกัน

    อาจเป็นเพราะว่าเมื่อกี้เธอน่ารักผมเลยจัดการ 'แทะเล็กแทะน้อย' เธอไป จนตื่นเช้าวันใหม่ของปีผมเลยโดนแม่สวดตั้งแต่เช้าเพราะว่าริมฝีปากของจันทร์เจ้าบวมเห่อไปหมด

    อะไรที่ผมบอกว่าแทะเล็กแทะน้อย...มันก็คือแทะเล๋กแมะน้อยนั่นแหละ


    **เตรียมกลับเข้าสู่เนื้อหาหลัก***



    Talk

    สุขสันต์วันปีให่นะคะนักอ่านที่น่ารักของไรท์ทุกคน ขอบคุณที่รอนิยายเรื่องนี้มาตลอดแม้ว่าจะหายไปนานม๊ากกกกเลยก็ตาม 55555(ไรท์ขอโทษค่ะ) 

    ไรท์ไม่มีอะไรจะบอกนอกจากขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ และก็ขออวยพรให้นักอ่านของไรท์ทุกท่านมีความสุขทั้งปี 2020 เลย สุขภาพแข็งแรงๆ เงินทองก็ไหลมาเทมาไม่จนนับไม่ทันเลยนะคะ 

    สุดท้ายนี้อยู่เป็นกำลังใจให้กันไปแบบนี้นานๆ นะคะ

    ขอบคุณค่ะ

    BBeatrizXX




    #จันทร์เจ้าเด็กผี
    1 เม้น = 1 กำลังใจน้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×