ศิวธิรัตน์

เป็นเรื่องราวในอดีตชาติย้อนอดีตในสมัยก่อนในยามเสียกรุงครั้งที่สอง เริ่มต้นมาจาก “ฟักแฟง” ชายหนุ่มผู้มีจิตใจเป็นผู้หญิงกุลสตรีดีงามเป็นชาวบ้านธรรมดาอาศัยในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากกรุงศรี แต่เมื่อเกิดศึกสงครามทำให้อาณาจักรล่มสลายบ้านเรือนถูกเผาจนไม่เหลือซากพ่อแม่ก็ถูกทหารพม่าฆ่าตายถูกพัดพรากกับน้องสาวตนถูกจับไปเป็นเชลยหลังจากเสียกรุง ระหว่างขบวนของทหารเดินทางกลับเมืองฟักแฟงก็คิดหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะหนีหาทางออกจากค่ายพวกทหารเพื่อจะได้ไม่ต้องตกเป็นเชลยของพวกมัน เมื่อขบวนทัพหยุดพักฟักแฟงจึงได้โอกาสหนีออกมาจากค่ายจนได้ในที่สุดแต่พวกทหารก็รู้เข้าจึงเรียกพรรคพวกไล่ล่าตามเธอไป เมื่อเธอวิ่งหนีทหารอย่างสุดชีวิตแต่สิ้นสุดทางมาเจอกับหน้าผาระหว่างที่เธอกำลังครุ่นคิดหนักว่าจะเอายังไงในเมื่อไม่มีทางไปแล้วทหารก็เริ่มตามไล่ล่าเธอมาถึงที่แล้ว ในเมื่อไม่มีทางเลือกเธอจึงตัดสินใจจะกระโดดลงหน้าผาให้สิ้นใจไปยังดีกว่าตกเป็นเชลยของพวกพม่าให้พวกมันไล่จับไปขังก็เสียดายเปล่า

แต่ดูเหมือนว่าโชคดีมีปาฏิหาริย์หน้าผาที่เธอกระโดดลงไปตายกลับมีแม่น้ำลำธารไหลผ่านดวงเธอยังไม่ถึงฆาตที่จะสิ้นใจตายตามพ่อแม่ของเธอ จนกระทั่งมาเจอเจ้าชายเนรตา(อ่านว่า เน ระ ตา)และขันทีทั้งสี่ประจำพระองค์ที่ช่วยชีวิตเธอให้รอดพ้นจากความตาย เมื่อเธอฟื้นคืนได้สติเธอก็ได้รู้สังเกตการแต่งกายของเจ้าชายรู้ว่าเป็นเจ้าชายพม่ามันจึงทำให้ฟักแฟงเกลียดเจ้าชายตั้งแต่แรกเห็นเพราะความฝังลึกในใจที่ตนต้องเสียบ้านเมืองและเสียครอบครัวก็เพราะพวกเค้า แต่เมื่อไม่มีทางเลือกที่จะไปหาที่ซุกหัวนอนได้ที่ไหนเธอก็คอยแอบตามขบวนเสด็จไปแล้วแอบหลบๆซ่อนๆอยู่ตลอดแล้วเธอก็คิดออกว่าจะทำยังไงเพื่อที่จะได้อยู่ที่นี่เนื่องจากเธอเป็นชาวอโยธยาและเชลยหนีค่ายออกมาด้วยความที่เธอมีกิริยาตุ้งติ้งเหมือนผู้หญิงเธอก็เลยปลอมตัวเป็นขันทีแล้วใช้ชื่อใหม่ในภาษาพม่าว่า”ระชาชอเดีย”เพื่อเธอจะได้สอดแนมสืบความหาข้อเท็จจริงเผื่อว่าสักวันเธอจะมาช่วยกอบกู้อาณาจักรกลับคืนมาอย่างสันติสุขให้ได้.

เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวย้อนอดีตในชาติปางก่อนที่เคยอยู่ด้วยกันเกิดรักต่างขั้วและผจญภัยพัดถิ่นในเมืองต่างภาษา ช่วงระยะเวลาอ้างอิงจากเสียกรุงศรีครั้งที่สองและผจญภัยในเมืองพม่าหรืออาณาจักรอังวะเพื่อสอดแนมหาความเท็จจริง บุคคล สถานที่เหตุการณ์และอื่นๆ ทั้งหมดนี้เกิดจากจินตนาการของนักเขียนทั้งหมดบุคคลที่กล่าวอ้างอาจจะมีตัวตนจริงหรือไม่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ไทยและพม่าเพียงแค่ใช้รายละเอียดและเหตุการณ์บางอย่างเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการดำเนินเรื่องมีทั้งจริงแค่บางช่วงและที่เหลือต่อเติมเสริมแต่งจากจินตนาการของนักเขียนทั้งนั้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในนิยาย โดยไม่ได้มีเจตนาพาดพิงถึงใครหรือล่วงเกินอะไรใดใด

หากเกิดข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัย ณ ที่นี้นะคะ

ที่มาของชื่อเรื่อง ศิวธิรัตน์ มาจากชื่อรวมของ ศิวกร กับ เนธิรัตน์ สองตัวละครจากเรื่อง Drag Queen lady นางสาวเบียร์

ซึ่งไรท์อยากจะลองแต่งเป็นแนวอีกภาคที่เป็นเรื่องราวของทั้งคู่ในอดีตชาติที่เคยเจอกันมาก่อนความรักในอดีตชาติระหว่างเจ้าชายและเชลยปลอมตัวเป็นขันที เป็นแนววายพีเรียดย้อนเวลาไปในอดีตในชาติปางก่อน

ฝากติดตามด้วยนะคะ