ขนมหวานสะท้อนห้วงกาล
คำขอโทษแด่คนที่ผมรัก
ผู้เข้าชมรวม
117
ผู้เข้าชมเดือนนี้
9
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ขนมหวานสะท้อนห้วงกาล
ข่าวเช้า
[สวัสดีประชาชนทุกคนนะครับ วันนี้เป็นเช้าที่สดใส อากาศดีมากๆเลยนะครับเนี่ย วันนี้ผมขอให้ทุกคนมีความสุขนะครับ มีช่วงเวลาที่ดีกับคนรัก ดูแลคนที่ห่วงใย สวัสดีครับ]
ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
'ไง หวัดดี นายก็เข้าที่นี่สินะแจยอล'
"อืม"
'ยังพูดน้อยไม่เปลี่ยน นี่ก็เที่ยงแล้ว เราไปหาอะไรกินกันเถอะ หิวไส้กิ่วแล้วเนี่ย!'
"โอเค"
ณ โรงอาหาร
สายตาของผู้คนทอดสายตามองแจยอลและโยฮัน เนื่องจากทั้งคู่มีหน้าตาที่หล่อเหลาและสวยงามในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะแจยอล ผมที่ดำขลับ ผิวที่ขาวละเอียด ไฝใต้ตาขวาของเขา ทำให้เขายิ่งดูมีสเน่ห์ขึ้น
'โว้ว แกร ดูคนนั้นสิ ออร่ามาก//^//'
'เด็กฝึกค่ายไหนหรือป่าว หล่อมาก//-//'
'นั่นแจยอลนี่ ใส่เสื้อโค้ดสีน้พตาลทับเสื้อคอเต่าสีดำ ลุคนี้เท่ห์สุดๆไปเลย >/////<'
'โยฮันก็น่ารักชะมัดเลย ใส่แค่เสื้อไหมพรมคอวี สไตล์น่ารักมากก ดูผมสีทองทรงเมสซี่สิ ว้าว'
'โห.. บรรยากาศรอบตัวของโยฮันน่ารักสดใสมาก ส่วนแจยอลก็ดูเงียบสงบมาก อย่างกับเทพพระเจ้าจุติแหนะ'
'ใช่ม้าา!! ตอนม.ปลายน่ะ ทั้งคู่ฮอตมากเลยนะ ตอนม.ปลายฉันเรียนอยู่รร.เดียวกับเขาแหละ!'
เสียงสนทนาของผู้คนในโรงอาหารยังคงดังเจื้อยแจ้วไม่ขาดสาย แต่ถึงแบบนั้นก็มีเพียงโยฮันที่หันไปทักทายและส่งจุ๊บให้กับผู้คน ส่วนแจยอลไม่ได้สนใจอะไรเลย เขาทำแค่เพียงเดินตรงไปที่ร้านขนมหวานโดยมีโยฮันที่ทักทายแฟนคลับซตามไปติดๆ
โยฮันเห็นแจยอลเดิรไปที่ร้านขนมหวานแทนที่จะเป็นร้านเขา เขาก็ไม่ได้แย้งแม้เขาจะหิวมากก็ตาม เพราะเขานํ้าดี ว่าเพื่อนคนี้ของเขาตั้งแต่ม.ปลายก็กินแต่ขนมหวานทุกวันในมื้อกลางวัน แม้เขาจะไม่เคยถามเหตุผล เพราะทุกครั้งที่เพื่อนสนิทของเขากินของหวาน โดยเฉพาะเค้กสตอเบอรี่ เวลาที่กิน จะทำหน้าอ่อนโยนแต่ก็เศร้าเสมอ ทั้งที่เจ้าตัวเคยเกลียดเค้กสตอเบอรี่มากแท้ๆ และบ่อยครั้งที่จะเห็นแจยอลเหลือบมามองที่เขา ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ หรือแจยอลรักคนที่เป็นตัวญาติเขาหรือป่าว
'นายเนี่ย กินเค้กตลอดเลยน้า'
"อืม แต่มันก็ไม่ได้อร่อย"
'อ้าว แล้วนายกินทำไมละ เห็นกินทุกวัน นึกว่าอร่อยซะอีกนะ'
"อืม มันเคยอร่อยน่ะ" เเจยอลพูดขึ้ยพร้อมกับเหลือบมองตัวเขา
อีกแล้ว แจยอลน่ะ ชอบเหลือบมองผม ผมทำได้เพียงนั่งท้าวคางมองเขา อ๊ะ ลืมบอกไป ผมเองก็ซื้อเค้กมาเหมือนกัน เค้กรสเลม่อน กลิ้นสดชื่นมาก จริงๆผมน่ะไม่ได้ชอบเค้กหรอก แต่ว่า พอเห็นหมอนี่กินตั้งแต่ม.ปลาย ช่วงม.5 เทอม 2 ผมก็เริ่มกินตาม และมันอร่อยมากกก ทำเอาผมติดใจซื้อตามแจยอลกินทุกที แต่ว่า เมื่อก่อนน่ะ แจยอลไม่ได้นิ่งขนาดนี้นี่นา จำได้ว่าหัวเราะบ่อย อ่อนโยนและอบอุ่นมากกว่านี้แท้ๆ หรือป่าวนะ ผมเองก็จำไม่ได้ อยากจำได้จัง เกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ
ช่วงเย็นหลังเรียนเสร็จ
"ไปกัน"
'หือ อื้อ ไปไหนละ'
"ไปเดินเล่น"
'โอเค เลสโก้!!'
โยฮันพูดพร้อมยิ้มอย่างร่าเริง เพราะเขาชอบการเดินเล่น แจยอลชอบพาเขาไปเดินเล่นที่นึงเสมอ และที่นั่นตัวของโยฮันเองก็ชอบมากๆ ที่นั่นก็คือร้านหนังสือยังไงละ! วันนี้โยฮันเขาตั้งใจไว้แบ้วว่าตนเองจะซื้อหนังสือกลับห้องไปเยอะๆ ตัวเขาไม่ได้ชอบอ่านหนังสือหรอก แต่ชอบสะสม เพราะแต่ละเล่มมีคุณค่าและความตั้งใจของใครสักคนบนโลกใบนี้ ที่เขียนมันขึ้นมาจนจบ เขาชอบความตั้งใจนั้น รู้ตัวอีกทีก็รักหนังสือไปเสียแล้ว
'ว้าววว ร้านหนังสือ ใหญ่จัง!'
"เข้าไปกันเถอะ"
'อื้อ! ไปกันน'
โยฮันที่วิ่งเข้าร้านไปอย่างตื่นเต้น ไม่ได้หันกลับมามองคนที่อยู่ข้างหลังเลย ว่าแจยอลกับลังมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยนพร้อมกับคลี่ยิ้มออกมาเล็กๆ หากไม่สังเกต อาจไม่มีใครเห็นเลยก็เป็นได้ ในเวลานี้นั้น แจยอลกำลังนึกย้อนกลับไปช่วงเวลาตอนม.5 เทอม 1 เขาเห็นภาพโยฮันซ้อนทับกับตัวของโยฮันเองในอดีต ตอนนั้น โยฮันก็น่ารักสดใสร่าเริงแบบนี้ ไม่เปลี่ยนไปเลย จะเปลี่ยน ก็คงมีแค่อย่างเดียว..
พอนึกถึงตรงนี้ใบหน้าของแจยอลที่เคยเปื้อนรอยยิ้มก็กลับมาเรียบนิ่งตามเดิม ด่อนจะเดินเข้าไปในร้านตามหลังโยฮันไป เขาเดินขึ้นไปที่ชั้นสองและเลือกนั่งที่มุมหนึ่งของร้าน เขาเชื่อว่าโยฮันจะต้องมาที่นี่ ตรงนี้ เพราะในตอนนั้น เขาก็มาที่นี่..เช่นกัน
'อ๊ะ! อยู่นี่เอง ดูสิ แจยอล! ฉันได้หนังสือมาเพียบเลยละ! ที่นี่มีแต่หนังสือดีๆทั้งนั้นเลย'
เเจยอลเหลือบมองหนังสือในมือของโยฮันที่ถือว่าเป็นปึก หนึ่งในนั้นมีเล่มสีฟ้าทะเลรูปผู้ชายคนหนึ่งที่เหม่อมองอะไรสักอย่าง ขนมหวานสะท้อนห้วงกาล เขาได้แต่ทำเมินเฉย ไม่ยอมปริปากบอกว่าตัวเขาเองที่เป็นคนเขียนเล่มนั้น แต่ทันใดนั้น
'นายดูนี่สิ! ฉันชอบเล่มนี้มากเลย ฉันมีแล้วเเหละ แต่ฉันเอามาให้นาย!'
รอยยิ้มของโยฮันคลี่ยิ้มออกมาอย่างเบิกบายพร้อมกับยื่นหนังสือมาให้ตัวของเขาเอง สีหน้าของโยฮันแสดงออกมาอย่างชัดเจนง่าชอบเล่มนี้มากและอยากที่จะให้เขาอ่านมัน
'นี่ๆ นายซื้อเถอะ นะๆๆ'
"ทำไมละ นายชอบเล่มนี้หรอ"
'อื้อ! ไม่ใช่แค่ชอบนะ รักเลยละ นายรู้ไหม เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ฉันอ่านละ'
หลังจากนั้นโยฮันก็เริ่มเล่าเนื้อหาในหนังสือให้ตัวของแจยอลฟัง เขาทำได้เพียงตั้งใจฟังสิ่งที่โยฮันพูดด้วยใบหน้าที่นิ่งสงบแต่เเววตากลับเศร้าสื่นถึงเรื่องราวบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ในตอนนี้เช่นกัน
'นายฟังนะ มีผู้ชายคนนึงในตอน.ปลายชื่อ J แอบชอบเพื่อตัวเอง ที่ชื่อ Y และเพื่อนคนนั้นก็เหมือนจะชอบเขากลับเช่นกัน ทั้งคู่รักกันมาก ไม่แคร์สายตาใคร ไม่แคร์อะไรเลย ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทั้งคู่ทำกิจกรรมร่วมกันหลายอย่าง ไม่ว่าจะกิน เที่ยว ทำอาหาร ทำขนม แต่ว่า พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายน่ะ คัดค้าน เพราะเป็นพวกหัวโบราญน่ะ อ่านถึงตอนนี้แล้วฉันน่ะ อึดอัดจริงไปนะ!'
"นั่นสินะ" แจยอลพูดพลางยิ้มอ่อนๆ มองโยฮันด้วยสายตาที่อ่อนลง
'แล้วก็นะ! ดันเกิดเหตุไม่คาดคิดน่ะสิ ฉากนี้ทำเอาฉันใจหวิวเลย Y น่ะประสบณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์ เพราะพ่อกับแม่ของเขาทะเลาะกันบนรถเรื่องที่ลูกของพวกเขาเป็นเกย์ ตอนนั้น ในใจของเด็กหนุ่มคนนั้นแตกสลาย ที่พ่อแม่ไม่ยอมรับเขา ตัวของเด็กหนุ่มคนนี้สังเกตเห็นรถบรรทุกมี่เเล่นมาจากทางด้านข้าวแล้ว แต่เขาไม่คิดจะเอ่ยอะไรบอกมา ทำได้แค่นิ่งเงียบ ในตอนนั้นเอง J ก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาเห็น Y มองที่รถบรรทุกและหันมายิ้มให้เขา ตัวของ Y ตั้งใจยิ้มให้คนผู้เป็นที่รักครั้งสุดท้าย ก่อนที่ภาพจะดับหายไป'
"เป็นเรื่องที่เศร้ามากเลยนะ ถ้าฉันเป็น J โลกของฉันคงแตกสลายแน่"
'นายคิดเหมือนกันเลย ฉากนั้นฉันร้องไหนเลยละ ฉันสงสาร ทั้งคู่เลย'
"แล้ว..เป็นไงต่อละ"
พวกเราเดินไปต่ายเงินค่าหนังสือ พร้อมกับฟังเรื่องที่โยฮันเล่าอย่างตั้งใจ ในเวลานี้ตะวันก็ตกดินแล้ว ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มชมพูสวย ลมเย็นๆที่พัดมาตามทาง เหมาะกับการเดินเล่นเป็นที่สุด พวกเขาเดินตามถนนที่อยู่ข้างๆทางน้ำใส โดยมีโยฮันพูดเล่าเรื่องไม่หยุด
'อืมม.. ก็ Y น่ะ ไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่พ่อกับแม่เขาน่า ดับคาที่เลย เหมือนเขาจะสูญเสียความทรงจำไปน่ะ จำอะไรไม่ได้สักอย่าง แม้แต่ตอนนี้ แม้แต่ J ที่วิ่งเขามากอดเขา เขายังดันตัวคนรักออก คำแรกที่ที่โยฮันพูดคือ (อะไรของนายเนี่ย เป็นห่วงฉันมากเลยหรอ นายเป็นเพื่อนที่ดีกว่าที่คิดนะเนี่ย) หลังจากตัวของ J ได้ยิน เขาก็ติดสะตั้น พูดอะไรไม่ออก Y จำได้เพียงแค่เขาถูกรถชนเพียงเท่านั้น นั่นทำให้ใจของ J แทบจะแหลกศลาย คนรักจำเขาไม่ได้ เขาทำได้เพียงเป็นเพื่อนที่ดีให้กับคนรักของเขาที่ความจำเสื่อมเท่านั่น หมอบอกว่ามีโอกาสที่จะกลับมาจำได้อยู่ แต่ว่าโอกาสนั่นน้อยมาก เขาจึงพยายามพาคนรักเขาไปในสถานที่ต่างๆที่พวกเขาเคยใช้เวลาร่วมกัน แต่จนจบเรื่อง คนรักของเขาก็จำเขาไม่ได้เลย'
"...." แจยอลเหม่อมองท้องฟ้า ปล่อยให้ลมพัดผมไหวๆของตน ภาพที่โยฮันเห็นทำเอาตัวเขามีความรู้สึกบางอย่างผุดขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้
'.....'
"หืม" แจยอลหันไปมองโยฮันเพราะจู่ๆเข้าตัวก็เงียบไปกระทันหันผิดปปติกับลักษณ์นิสัยเขา
'เอ่อ จบแล้วละ' โยฮันทำได้เพียงลููบหลังคอตัวเองเบาๆแก้เขิน เพราะเผลอเหม่อมองเพื่อนตัวเองนานเกินไป เขามองว่าเพื่อนเขาสวยและหล่อมากๆ ใครที่ได้คบคงหน้าแดงทั้งวันแหง
"แล้ว.. นายคิดยังไงกับเรื่องนี้ละ"
'อืม.. นักเขียนที่เขียนเรื่องนี้ใช้ชื่อว่า คุณนักเขียนสายหมอก เคยให้คำตอบกับสำนักพิมพ์ไว้ว่า มันดััดแปลงมาจากเรื่องจริงของเขา ถึงจะเป็นแค่ข่าวลือ แต่ฉันเชื่อนะ'
"...."
'เพราะในนิยายน่ะ ได้บอกความรู้สึกไว้หมดแล้วไงละ ฉันรู้สึกเศร้ามากๆเลยล่ะ ตั้งแต่หนังสือเล่มนี้ออกมา ก็ผ่านมา 2 ปีกว่าๆแล้ว'
"...."
'ในตอนนี้ ทั้งสองตัวละครจะเป้นยังไงต่อนะ เขาใช้ชีวิตยังไง ทำอะไร กำลังพยายามทำให้คนรักจำเขาให้ได้อยู่หรือป่าว เพราะไม่มีเล่ม 2 ออกมาเลยน่ะสิ เลยแอบใจหาญ รู้สึกว่าคุณนักเขียนอาจจะกำลังเศร้าและทรมานอยู่ก็ได้'
"อืม..นั่นสิ.. "
'จริงสิ ได้ข่าวว่าต้องไปต่างประเทศนี่ อย่าลืมซื้อของมาฝากฉันนะ!'
"อยากได้อะไรละ"
'อืมม..เอาเป็น ลายเซ็นของนักเขียนคนนี้ได้ไหม! ฉันได้ข่าวว่าเขาก็ไปโรงพยายาลที่นายจะไปเหมือนกัน!'
"... ได้สิ ฉันจะเอามาให้นะ"
'ว่าแต่ นายจะไปทำอะไรหรอ พ่อนายเป็นหุ้นส่วนที่นั่นนี่ ทำงานหรอ?'
"อืม"
หลังจากนั้นทั้งคู่ได้แยกทางกันกลับบ้าน โดยตัวของแจยอลได้แวะซื้อขนมเค้กกลับไปด้วย ในขณะที่เขานั่งกินเค้ก เรื่องราวที่โยฮันเล่าวันนี้ก็วนเวียนอยู่ในหัวของเขา
ฝ่ายโยฮันเอง ก็กำลังยืนเหมือนอยู่ที่ระเบียงห้องของตัวเอง นึกย้อนกลับไปตอนที่เขาเหม่อมองแจยอล ในใจของเขาตอนนี้กำลังรู้สึกแปลกๆ หรือตัวเขาจะอ่านนิยายเล่มนั้นมากไปจนแอบชอบเพื่อตัวเองกันนะ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ใบหน้าของเขาเริ่มแดงขึ้นและร้อนผ่าว อ่า.. ในตอนนี้เขาคงหลงรักเพื่อนตัวเองไปแล้วเป็นแน่แท้
ณ สนามบิน
'อย่าลืมลายเซ็นเอามาให้ฉันละ!'
"อืม สัญญา"
'หือ...?'
"ขอกอดหน่อยสิ"
'เห๊ะ! อ..เอ่อ ได้!'
ตัวของโยฮันเลิ่กลั่กเพราะเมื่อคืนเขาเพิ่งคิดว่าตังเองชอบอีกฝ่ายอยู่หยกๆ และพอเห็นเพื่อนตัวเองในตอนนี้ ก็กลับยิ่งแน่ใจ เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ แต่เพราะโยฮันเป็นคนที่จริงจัง เขาจัดสินใจแล้วว่าจะบอกเรื่องนี้ตอนที่อีกฝ่ายกลับมา ไม่แน่ว่ามี่แจยอลมองเขาบ่อยๆอาจเพราะชอบเขาเหมือนกันก็ได้ ถึงเปอร์เซ็นน้อยแต่เขาก็จะลองสารภาพรักอยู่ดี
แจยอลกอดโยฮันแน่น และอยู่แบบนั้นไม่กี่นาทีต่อมาเขาต้องขึ้นเครื่อง แจยอลทำได้เพียงเอื้อมมือไปลูบหัวของโยฮันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะขึ้นเครื่องไป
'ทำไมแววตาของแจยอลถึงดูเศร้าจังนะ ทำเหมือนจะไม่ได้เจอกันอีกเเหนะ'
โยฮันทำได้เพียงพึมพำอยุ่แบบนั้นก่อนจะกลับไปที่ห้องตัวเอง นอนคิดแล้วคิดอีกว่าจะสารภาพรักยังไงหรือแบบไหน เขาคิดไว้หบายวิธีและเตรียมของเซอร์ไหร
1 อาทิตย์ผ่านไป
'จะกลับมาแล้วสินะ! จะมาเมื่อไหร่น้าา'
[สวัสดีครับตอนนี้ข่าวภาคเช้าขอเสนอ #+-#&&@-฿฿฿#]
กริ๊งๆ กริ๊งๆ
'อะไรน่ะ! แจยอลหรือป่าว!'
"มีพัสดุมาส่งค้าบบ!!"
'อ๊ะ! ครับ!'
ให้ตายสิเรา คิดถึงแจยอลมากไป ใครมันจะไปเดินทางไวขนาดนั้นเล่า ฮ่าๆ! ขำแก้เขินไปงั้นจริงๆเขินมากเลย เห้อ ////^////
'หือ..? จากแจบอลหรอ?'
เขายกกล่องพับศดัขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่กลับเข้าไปในห้องแล้ววางลงบนเตียงพร้อมกับหาอะไรมากรีดเพื่อเปิดกล่อง
'อะไรน่ะ ของหรอ'
ในกล่องนั้น มีกล่องอะไรซักอย่างอยู่เต็มไปหมด
'สร้อย? เอ๊ะ มีแหวนด้วย!?'
หือ ทำไมมันคุ้นๆจังนะ สร้อยกับแหวนนี่ .. อืมม..คงเคยเห็นที่ไหนสักที่ล่ะมั้ง เคยเป็นของที่เราอยากได้หรือป่าวนะ
'อ๊ะ! หนังสือ เอ๊ะ! มีลายเซ็นด้วย!! เย้!!'
แจยอลทำตามสัญญาสินะ! ว่าแต่ ทำไมเขาไม่กลับมาละ.. งานยุ่งหรอ ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น ก็มีจดหมายเล็กๆที่หล่นออกมาจากหนังสือ
'หือ'
ถึงโยฮัน
[โยฮัน ฉันน่ะนะ คิดมาตลอดเลยว่าอยากที่จะดูแลนายให้ดีที่สุด นายคือคนที่สำคัญกับฉันมากจริงๆ.....
ณ โรงพยาบาล
ในห้องที่มีแสงอบอุ่นสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างฐานใหญ่ ที่นี่คือห้องของผู้ป่วย VIP มีชายคนหนึ่งกำลังเหม่อมองหน้าต่างก่แนจะละสายตากลับมามองที่กระดาษแผ่นหนึ่ง เขาบรรจงเขียนข้อความลงในกระดาษ มองกระดาษอย่างอ่อนโยนด้วยใบหน้าที่สื่อถึงความคิดถึงใครอีกคนของเขาในตอนนี้
'คุณหนู จะไม่ออกเขาจริงหรอครับ'
"อืม ฉัน ไม่อยากได้ยินเสียงเขาร้องไห้"
'..... ผมจะเอาไปส่งให้เองนะครับ'
"ขอบใจนะ"
... นายน่ะ ต้องมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขนะ ทางข้างหน้า อาจเจออุปสรรคมากมาย แต่ฉันขอให้นายยิ้มแบบนี้ไปเสมอนะ รอยยิ้มของนายยังคงสดใสเหมือนเดิม เหมือนเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนนั้นนายน่ะน่ารักมาก เรามีความสุขกันมาก ฉันโอนเงินทั้งหมดในบัญชีของฉันไว้ให้นานแล้ว มันมากพอที่นายจะใข้ชีวิตไปทั้งชีวิตเลยละ ถ้านายไม่ซื่อคฤหาสน์ใหญ่ๆ 100 หลังอ่ะนะ ฮ่าๆ เอาละ ฉันน่ะนะ มีความสุขจริงๆที่ได้อยู่กับนายในทุกๆวัน ต่อจากนี้ ขอให้มีคนรักที่ดี เลือกคนที่ดีละ คนที่รักนายและนายก็รักเขา ....
ฉันรักนายนะ จาก แจยอล]
'..... หมายความว่าไ...'
[ข่าวถัดไป คุณนักเขียนสายหมอกได้เสียชีวิตลงแล้วครับ...
'!!!!?'
...คุณนักเขียนสายหมอกคือบุคคลที่ทุกคนให้ความรักเป็นอย่างมาก เขาได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 6 ซึ่งก็คือเมื่อวานนี้ครับ เขาเสียชีวิตจากโรคหัวใจของเขา เขาได้ให้ข้อมูลไว้กับพ่อบ้านของเขา ว่าเขาพยายามยื้อชีวิตมาตลอด 3 ปี แต่ตอนนี้ร่างกายของเขาไม่ไหวแล้ว เขาจึงบริจาคดวงตาเขาให้แก่คนที่ต้องการก่อนเขาจะเสียชีวิต คุณนักเขียนได้ฝากพ่อบ้านของเขาเพื่อบอกคนๆนึงว่า
"โยฮัน ฉันรักนายมากนะ จากนี้ ต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะ"
ครับ นี่คือข้อความสุดท้ายที่เขาได้พูดออกมา พร้อมกับหนังสือที่เขาวางขาย (เรื่อง ขนมหวานสะท้อนกาล 2 ) บอกเล่าเรื่องราวต่อจากเล่ม 1 ของเขา ตอนนี้เรารู้แล้วว่า Y คือชื่อของคนรักของเขาอย่าง โยฮัน และ J คือชื่อของเขา แจยอลครับ และนี่คือรุปของคุรนักเขียนครับ คุณนักเขียนสายหมอกต้องอนุญาตให้เราแพร่ภาพของเขาได้ เราจึงนำมาให้รับชม ช่างเป็นคนที่หน้าตาดีจริง......€$¢€™©=€°€×€]
ภาพตรงหน้าทำเอาโยฮันนิ่งค้างหน้าซีด น้ำตาจของเขาค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาไม่่จสดสาย ไม่มีแม้แต่การสะอื้น ในตอนนี้เขาทั้งช็อก มั้งแตกสลายไปพร้อมๆกัน ในตอนนี้ คนที่เขารัก ไม่อยู่แล้ว คนที่รักเขา
โยฮันทำได้เพียงร้องไห้เงียบๆ ก่อนกัดปากตัวเองในมือกอดหนังสือเล่มหนึ่งแน่น เขาเข้าใจทุกอย่างในทันที เขาตะโกนร้องไห้ออกมาลั่นพร้อมกับคุกเข่าลงพื้นสะอึกสะอื้นมือปิดหน้าตัวเองแบ้วร้อวไห้อย่างหนักจนแทบจะขาดใจตาย เสียให้ได้ เพื่อนข้างห้องที่ได้ยินเสียงขึงรีบเปิดประตูเข้ามาแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยเพราะโยอันร้องไห้จนขาดสติ และในที่สุดเขาก็หมดสติไป
6 ปีต่อมา
ณ งานหนังสือ
"เอ่อ...ขอโทษนะครับ คุณคือนักเขียนสายธารใช่ไหมครับ"
'ใช่ครับ'
"ผม อยากมาขอบคุณน่ะครับ"
'หืม?'
"คุณคือคนรัักของนักเขียนสายหใอกที่เสียไปใช่ไหมครับ"
'ใช่ครับ'
"เขาเคยมห้สิ่งล้ำค่ากับผม ผมไม่มีโอกาสได้ของคุณเขา แต่ผมคิดได้ว่าผมสามารถเดินทางมาหาคุณได้ ผมจะมาขอบคุณคุณแทนน่ะครับ ขอบคุณมากเลยนะครับ"
ดวงตาของโยฮันเบิกโพลง จ้องไปที่ดวงตาของอีกฝ่ายไม่ละสายตา ก่อนจะรีบยืนขึ้นและเรียกคนตรงหน้าที่กำลังจะเดินจากไปไว้
'ด..เดี๋ยว! คุณชื่ออะไรครับ!'
ก่อนที่คนตรงหน้าจะหันกลับมาสบตาเขาพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่อ่อนโยนราวกับฤดูมบไม้ผลิพร้อมกับเผยอปากพูดอย่างอ่อนโยน
"ผมชื่อ ชอง คาร์ล อาร์เธอร์คิง ครับ"
ติดต่อ: barcheas4869@gmail.com
โดเนท: 0886869606
ผลงานอื่นๆ ของ Barchaes ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Barchaes
ความคิดเห็น