MUICHIRO | Demonsayer - นิยาย MUICHIRO | Demonsayer : Dek-D.com - Writer
×

    MUICHIRO | Demonsayer

    โอกาสมีให้คว้าเสมอ ไม่ใช่ขี้ขลาดแล้วโยนมันทิ้งไปกับฝุ่น เสาหลักหมอกแห่งหน่วยพิฆาตอสูร โทคิโท มุอิจิโร่ เป็นคนกล่าวเอาไว้

    ผู้เข้าชมรวม

    143

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    143

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    6
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 ก.ค. 67 / 12:17 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ว่ากันว่า 

    คนตายแล้วถ้าทำดี จะได้ไปยังสรวงสวรรค์เพื่อกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้าและคนที่รอคอยอยู่บนนั้น

    ส่วนคนชั่วจะถูกส่งกลับนรกเพื่อชดใช้บาปทั้งหมดที่ก่อขึ้นมาครั้งที่ยังมีชีวิต 


     

    แต่เหมือนนรกจะไม่ต้อนรับผมนะ 

    พระผู้เป็นเจ้าก็เช่นกัน 


     


     


     

    ผมลืมตาตื่นขึ้นมา พลางมองเพดานห้องผู้ป่วยแสนคุ้นเคยของคฤหาสน์โคโจ ทั้งที่เมื่อกี้พึ่งตายเพราะถูกโคคุชิโบ อสูรจันทราข้างขึ้นลำดับที่หนึ่งตัดร่างกายของผมออกจนเป็นสองส่วนแล้วแท้ ๆ 

    มันยังชวนให้ผมเป็นอสูรเพื่อรับใช้ คิบุตสึจิ มุซันอยู่เลย 

    คิดแล้วก็รู้สึกรังเกียจสายเลือดตัวเองไม่ใช่น้อย

    “ ตื่นแล้วหรอคะ ? ” เสียงคุ้นหูเอ่ยพูดขึ้น มาพร้อมการปรากฏตัวของหญิงสาวผู้สวมฮาโอริลายผีเสื้อและใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ 

    อ่าว !? นี่ไม่ใช่แค่ความทรงจำหรอกหรอ ? 

    นึกว่าพระเจ้าจะสงสารที่นรกไม่รับจนต้องได้มานอนสำนึกผิดกับเรื่องราวทั้งหมดซะอีก 

    “ คุณชิโนบุ ? ” 

    “ ใช่ค่ะ อย่าพึ่งขยับตัวนะ เดี๋ยวแผลจะฉีกเอาได้ ” ชิโนบุพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะลุกขึ้นมา 

    แผลอะไร ? อย่าบอกนะว่าต่อร่างกายผมจนกลับมาใช้งานได้..ล้ำเลิศจริง ๆ ทักษะทางการแพทย์ของคุณเขา

    “ ไม่คิดไม่ฝันเลยนะคะ ว่าคนอย่างคุณโทคิโทคุงจะโดนทำร้ายจนเป็นแผลเหวอะหวะได้ขนาดนี้ ” คนโตกว่าบ่นพึมพำ

    “ ผมโดนอะไรนะครับ ” เขาถามอย่างคาดหวัง ขอให้เป็นอย่างที่คิด 

    “ ก็ภารกิจกำจัดอสูรที่ป่า...น่ะสิคะ โชคดีที่มันไม่โดนอวัยวะสำคัญส่วนไหนของร่างกาย ” 

    นั่นสินะ จะไปเป็นได้ยังไงกัน ต่อตัวของคนที่ขาดครึ่งไปแล้วให้มีชีวิตกลับมาได้...

    แต่เดี๋ยวก่อนนะ นี่มันเหนือความคาดหมายไปเยอะเลยไม่ใช่หรือไงกัน

    นั่นมันภารกิจที่ผมเคยทำก่อนจะรู้จักทันจิโร่อีกไม่ใช่หรอ ?

    “ ทำไมสีหน้าดูตกใจแบบนั้นล่ะคะ ” ชิโนบุเลิกคิ้วขึ้นสูง คงไม่ใช่ว่าเขาสูญเสียความทรงจำหรอกใช่ไหม 

    “ เปล่าครับ แค่หน้าอสูรตัวนั้นมันโง่ติดตาเฉย ๆ ” เขาตอบเหมือนรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ 

    ในอดีตเขาไม่เคยโดนอสูรกระจอกแบบนั้นจ้วงท้องแบบนี้สักครั้ง ทำไมคราวนี้ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้ 

    “ งั้นพักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ ราตรีสวัสดิ์ ” 

    เด็กหนุ่มดันตัวขึ้นนั่งอย่างเจ็บปวดเมื่อมั่นใจว่าเจ้าของคฤหาสน์ผีเสื้อออกไปแล้ว 

    ทีแรกก็อยากจะคิดว่าทั้งหมดมันเป็นภาพลวงตาอยู่หรอกนะ แต่แผลนี่มันไม่เจ็บเกินไปหน่อยหรอ ? 

    เขาคิดพลางมองแสงจันทร์สาดส่องผ่านหน้าต่างที่ไม่ได้ปิดม่านเอาไว้  นัยน์ตาสีฟ้าทะเลจ้องมองบุหลันเต็มดวงด้วยสาตาที่มิได้ว่างเปล่าเหมือนแต่ก่อน 

    “ ใจร้ายไม่สมกับชื่อพระผู้เป็นเจ้าแห่งสรวงสวรรค์เลย ” 

    มุอิจิโร่พูดพึมพำกับตัวเองราวกับน้อยใจในชีวิต หากแต่แววตากลับดูสนุกสนานและยินดีมากกว่าจะเป็นเช่นนั้น 

    “ แต่หากท่านให้โอกาสมาแบบนี้ ผมคงไม่อาจที่จะปฎิเสธท่านได้ ”

    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าเด็กหนุ่มรูปงาม เขายกมือสางเรือนผมสีดำยาวไล่ปลายสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ไปข้างหลัง 

    รู้สึกขอบคุณไม่น้อยที่ได้โอกาสที่ใคร ๆ ก็ต่างต้องการไขว่คว้าแบบนี้ แม้เวลาที่เขาต้องการอยากจะเริ่มกลับไปแก้ไขมันนานกว่านี้อีกสามสี่ปีก็ตาม 

    อยากย้อนกลับไป เมื่อตอนที่ครอบครัวยังมีชีวิตอยู่…
     

     

     

     

     


     

    ใครกันเล่าจะอยากปฏิเสธพรที่ได้มาเช่นนี้ 


    เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ต้องมาเสียใจกับเรื่องอะไรอีกแล้ว

     

    น่าเสียดายที่ผมไม่ใช่คนประเภทที่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือแล้วทำอะไรซ้ำ ๆ ซาก ๆ ให้มันจบเหมือนเดิม 


     


     


     

    ขอบคุณบทเรียนทุกอย่างในชาติที่แล้วที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็นคนที่เจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้ 


     


     


     


     


     


     


     


     


     


     


     


     


     

    ทิ้งมุอิจิโร่คนเก่าที่ดูเหม่อลอยไปเถอะครับ มาเริ่มใหม่กับผมคนนี้ดีกว่านะ 


     


     


     


     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น