⚠️Warning⚠️
เนื้อหาด้านล่างนี้และในฟิคมีสปอยล์
โปรดอ่านก่อนเข้าไปอ่านเนื้อเรื่อง
ฟิคเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายวายจีนเรื่อง ปรมาจารย์ลัทธิมารของนักเขียนชื่อดังชาวจีน (โม่เซียงถงซิ่ว) มีรายละเอียดค่อนข้างมาก เพราะงั้นเพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมด แนะนำว่าควรอ่านเล่ม หรือเสพมังงะ อนิเมะมาก่อนเพื่อความสะดวก และความเข้าใจเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัว แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสอยากตามเนื้อเรื่องไปพร้อมๆกันก็สามารถอ่านเลยก็ได้ค่ะ จะพยายามขยายความให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายๆนะคะ
บทนำ

"ไปซะ!!"
"ไม่ เว่ยอิง ข้าจะอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆเจ้า"
"ไปให้พ้น!"
"เว่ยอิง --"
"ส่งตัวเว่ยอู๋เซี่ยนมาให้พวกเรา วั่งจี"
!!!!
'ไม่นะ หลานจ้าน เจ้าไม่ควรชักดาบออกมาเพื่อปกป้องข้า นั่นอาวุโสของตระกูลเจ้านะ'
"ละเว้นเขาเถิด แท้จริงแล้วเขาไม่ใช่คนร้ายกาจ พวกท่านน่าจะทราบดี"
"วั่งจี ลดดาบลง! มิเช่นนั้นแล้วเจ้าต้องรับโทษหนัก แม้แต่ข้าเองก็ไม่สามารถที่จะช่วยเจ้าได้"
"พี่ใหญ่ วั่งจียินดีรับโทษ ขอเพียงพวกท่านปล่อยเขาไป อย่าทำร้ายเขา"
'ทำไมนะหลานจ้าน ทำไมเจ้าถึงต้องทำเพื่อข้าขนาดนี้ คนที่ข้าคิดว่าเป็นศัตรูเช่นเจ้า กลับยืนหยัดปกป้องข้าจนนาทีสุดท้าย เจ้าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน?'
"ถ้าเจ้าไม่หลีกทาง พวกเราก็ไม่มีทางเลือก"
สิ้นเสียงของหลานซีเฉินตระกูลหลานทั้ง 33 ก็บุกเข้าโจมตีใส่หลานวั่งจีอย่างดุเดือด เว่ยอู๋เซี่ยนที่บัดนี้อ่อนแรงลงเต็มทีมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเป็นกังวล ถึงแม้ชายหนุ่มที่ออกโรงปกป้องเขาจะมีความสามารถเก่งกาจเพียงใด หากแต่ถูกรุมอยู่เช่นนี้ชายหนุ่มก็ถือว่าเป็นรองอีกฝ่ายอยู่มาก เว่ยอู๋เซี่ยนที่ถูกหลานวั่งจีผลักให้เข้ามาหลบอยู่ด้านหลังหินที่ใหญ่ที่สุดในถ้ำ พยายามลากสังขารตนเองออกมา หมายจะช่วยเหลือ แต่แล้วก็ถูกสายตาคมกริบของหลานวั่งจีมองมาอย่างมีความหมาย
'หลบอยู่ข้างในนั้นอย่าออกมาเป็นอันขาด'
แต่มีหรือว่าคนอย่างปรมาจารย์อี๋หลิงผู้นี้จะยอมให้หลานวั่งจีสู้เพื่อเขาอยู่เพียงผู้เดียว แต่แล้วก่อนที่จะได้ออกจากตรงนั้น เว่ยอู๋เซี่ยนก็รับรู้ได้ว่าร่างกายของเขาตอนนี้ขยับเขยื้อนไม่ได้แม้แต่นิด
"หลานจ้าน หลานวั่งจี!"
สายตาของเว่ยอู๋เซี่ยนจับจ้องไปยังคนที่สู้รบกับคนในตระกูลตัวเองอยู่อย่างไม่ลดละ ดวงตาเรียวของปรมาจารย์ร่างบางสังเกตเห็นแผลตามร่างกายของหลานวั่งจี ที่ถึงแม้ผู้สร้างรอยแผลเหล่านั้นจะไม่ได้หมายทำให้เจ็บหนัก แต่ก็ทำให้มีเลือดไหลซึมออกมาจนเลอะเทอะ พาให้ชุดที่เคยขาวสะอาดตาที่ชายหนุ่มสวมใส่ เต็มไปด้วยสีแดงจากเลือดของตัวเอง
"ยอมจำนนเสียเถอะวั่งจี เจ้าต้องปล่อยเขาไป เรื่องที่เจ้าหวังไว้คงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว จงยอมรับ"
"ไม่! -- ปล่อยเขาตายไม่ได้ ตายไม่ได้พี่ใหญ่"
จบการพูดคุยของสองพี่น้อง ก็เกิดการต่อสู้กันขึ้นอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้ การโจมตีกลับรุนแรงขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว และเป็นหลานวั่งจีที่พลาดโดนจับกุม ดวงตาคมเจิ่งนองไปด้วยน้ำตา หลานวั่งจีหันมาหาเว่ยอิง พร้อมกับคลายสะกดจุดให้ร่างบาง ก่อนจะตะโกนเสียงดังที่สุดในชีวิต
"หนีไป เว่ยอิง!"
"หลานจ้าน เจ้า --"
"ไปเดี๋ยวนี้!!"
เฮือก!!!
"ฝันเรื่องเดิมอีกแล้ว"
ตั้งแต่เกิดมาสิบเจ็ดปี โม่เสวียนอวี่ ไม่เคยที่จะไม่ฝันเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องในอดีตชาติของตัวเขาเอง ปรมาจารย์อี๋หลิง (เว่ยอู๋เซี่ยน) ที่จริงมันมีตั้งหลายเรื่องในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ของเขาที่น่าเก็บเอามาฝันกว่าเรื่องนี้ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงต้องฝันถึงแต่เรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมา
แต่เรื่องความฝันอันนี้ก็ไม่น่าสงสัยเท่ากับเรื่องที่ว่า ทำไมเขาถึงได้เกิดมาทั้งที่ร่างและวิญญาณกระจัดกระจายไปคนละทิศทาง ยากจะต่อกลับมาดังเดิม แถมจำเรื่องในชาติที่แล้วได้หมดเกือบจะทุกอย่าง ทั้งที่มันไม่ควรจะเป็นไปได้ ซ้ำชาตินี้ยังเกิดมาด้วยรูปร่างและหน้าตาที่สมบูรณ์แบบ ติดขัดอยู่เรื่องเดียวคือเกิดมาเป็นคนอาภัพ เป็นลูกนอกสมรสของพ่อ พอแม่ตายก็ถูกขับไล่ออกจากตระกูลจนระหกระเหเร่ร่อนไม่มีที่อยู่ หากไม่ได้ เวินหนิง (ที่ชาตินี้ก็มาเกิดใหม่และในชาตินี้ก็ยังคงมีชีวิต อีกทั้งยังมีหน้าตาหล่อเหลาและท่าทางดุดันเฉกเช่นตอนเป็นขุนพลผีของปรมาจารย์อี๋หลิง) ให้พักอาศัยอยู่ด้วย คงไม่มีที่ซุกหัวนอน
ถ้าจะเล่าถึงเรื่องเวินหนิง ว่าเว่ยอู๋เซี่ยนที่เกิดใหม่เป็นโม่เสวียนอวี่ผู้นี้เจอกับเวินหนิงได้อย่างไร คงต้องเริ่มที่วันหนึ่งคุณชายโม่ผู้น่าสงสารถูกเอามาโยนอยู่หน้าประตูเมือง ลูกนอกสมรสของใต้เท้าเวินแห่งฉีซาน นามเวินหนิง มาพบเข้าจึงช่วยเหลือไว้
โม่เสวียนอวี่แนะนำตนเองต่อหน้าเวินหนิงว่าเขาคือเว่ยอิง และได้ถามว่าอีกฝ่ายนั้นจดจำตนเองได้หรือไม่ ผลที่ปรากฎคือเวินหนิงไม่รู้จักชายหนุ่มนามว่า เว่ยอิง หรือนามเว่ยอู๋เซี่ยนมาก่อน เช่นนั้นตัวเขาเลยเข้าใจว่า ตนเองเป็นผู้ที่ระลึกชาติได้คนเดียว หากเจอคนที่หน้าละม้ายคล้ายคนรู้จักในอดีตคนอื่นๆ คงไม่มีใครจำเขาได้เช่นเวินหนิงผู้นี้ ที่จำเขาไม่ได้อย่างแน่นอน
เวินหนิงเล่าให้ฟังว่าตัวเขาเดินทางรอนแรมมาจากฉีซานเพื่อที่จะไปพบกับอาจารย์ที่ล่ำลือว่าเก่งกาจ สามารถฝึกคนธรรมดาให้เป็นยอดนักปราบมารได้ นามว่า หลานซือจุย เมื่อได้ฟังชื่อสกุลของคนที่เวินหนิงกล่าวถึง แววตาของเว่ยอิงก็สั่นไหวขึ้นโดยไม่รู้ตัว
"เว่ยอิง เจ้ารู้จักท่านหลานซือจุยหรือ?" เวินหนิงถามเพราะตาของเขาเห็นว่าเว่ยอิงมีสีหน้าแปลกไปทันทีที่พูดถึงคนผู้นั้น
"ข้าเพียงเคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลนี้เท่านั้น แต่ท่านหลานซือจุยที่เจ้าว่า ข้าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว" เว่ยอิงปฎิเสธออกไปทันที เพราะนี่เป็นชื่อที่เขาไม่คุ้นเคยในสกุลหลานแห่งกูซู หรืออาจเป็นเพราะในความทรงจำของเขามีเพียงแค่ชื่อ...
ใครบางคนเท่านั้น
"ได้ยินมาว่า ท่านหานกวงจวิน หรือนาม หลานวั่งจี ผู้อาวุโสของกูซูเป็นผู้เลี้ยงดูท่านหลานซือจุยมาด้วยตนเอง ฝึกวิชา ถ่ายทอดทุกอย่างให้แก่เขา จนบัดนี้ได้ขึ้นเป็นอาจารย์แทน"
"อย่างนั้นเองหรือ แล้วท่านหะ หาน..."
"หานกวงจวินน่ะหรือ? เขาทำไมล่ะ?"
"เขาเป็นอย่างไรบ้าง"
จะยังคงอยู่ที่กูซูไหมนะ
"ท่านหานกวงจวินสิ้นอายุขัยแล้วล่ะเว่ยอิง ตั้งแต่ฝึกทุกอย่างที่ควรรู้ให้ท่านหลานซือจุย ว่ากันว่าท่านก็จากไปอย่างสงบ... ความจริงมีข่าวลือมาตลอดว่าท่านอยากไปนานแล้ว เพียงแต่ห่วงสำนัก และห่วงคนในสกุลหลาน"
จากไปแล้วหรือ หลานจ้าน....
เจ้า....
"นี่... ถ้าเจ้าฟังแล้วเศร้าน่ะ เลิกเศร้าเสียเถอะ ได้ยินว่าลูกหลานสกุลนี้ถ่ายทอดวิญญาณได้ ข้าได้ยินมาว่าท่านหานกวงจวินฝากวิญญาณไว้กับหลานชายที่เกิดในตระกูลคนหนึ่ง เป็นลูกชายของ หลานผิงอัน ภรรยาท่านหลานจิ่งอี๋ นางคลอดบุตรออกมา เรียกได้ว่าหน้าตาเหมือนกับหานกวงจวินทุกกระเบียดนิ้ว แถมยังใช้นามเดิม หลานวั่งจี อีกด้วย ตอนนี้ก็คงอายุประมาณเรานี่ล่ะเว่ยอิง"
"มีเรื่องแบบนี้ด้วยงั้นหรือ?" เว่ยอิงกลืนความโศกเศร้าในหัวใจก่อนหน้านี้กลับไปในทันที ที่เวินหนิงกล่าวกำลังหมายถึงหลานจ้านสละสังขารเดิมแล้วมาเกิดใหม่โดยใช้วิญญาณเดิมใช่ไหมนะ? ...
ทำเพื่ออะไร
"เว่ยอิง หากว่าเจ้าไม่มีที่ไป เจ้าจะไปที่กูซูกับข้าหรือไม่? อย่างน้อยข้าก็มีเจ้าไปเป็นเพื่อน แต่ถ้าเจ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร ที่นั่นกฎเยอะข้าเข้าใจ" เวินหนิงถามกึ่งห่วงใย กึ่งอยากให้เว่ยอิงไปเป็นเพื่อน ใบหน้าหล่อเหลามองมาอย่างมีความหวัง แล้วแบบนี้เว่ยอิงจะปฎิเสธผู้มีพระคุณได้อย่างไรกัน
"ข้าจะไปกับเจ้าด้วย"
คำตอบเรียกรอยยิ้มให้ปรากฎบนริมฝีปากอิ่มของเวินหนิง ก่อนที่จะเข้ามากอดคอเว่ยอิงและพาเดินไปด้วยกัน
นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเจอกันครั้งแรกของเว่ยอิงและเวินหนิง (หลังจากกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง)
กลับมาที่ปัจจุบัน ตอนนี้เขาและเวินหนิงใกล้ถึงกูซูแล้ว ค่อยๆเดินทางนานแรมเดือน เวินหนิงคือคนที่ออกค่าใช้จ่ายที่พักในส่วนของเขาและเว่ยอิงทั้งหมดด้วยความเต็มใจ
'ข้า... อยากพบเจ้าแล้วหลานจ้าน คุณชายรองหลาน ได้ยินว่าเจ้ามาเกิดใหม่ ข้าเองก็เกิดใหม่ เราอายุเท่าๆกัน ถ้าเช่นนั้น เรามาทำความรู้จักกันใหม่ดีหรือไม่? คราวนี้ข้าไม่ใช่ปรมาจารย์อี๋หลิงอีกแล้ว ข้าเป็นเพียง...เว่ยอิง'
ความคิดเห็น