คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : BREAKING DOWN : VIII [RE WRITE]
BREAKING DOWN ( VIII )
-------------------------------------------------------------------
ก่อนหน้านั้น…
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลในตอนเย็น ประธานนักเรียนสุดเข้มไม่ได้พาเจ้าตัวเล็กกลับโรงเรียนแต่อย่างใด แต่กลับหักพวงมาลัยเล็กซัสคันสวยไปอีกเส้นทางซะอย่างนั้น โดยที่ความเร็วก็ยังคงช้าเท่าเดิมตามความประสงค์ที่คนตัวเล็กได้ขอและที่ผมได้สัญญาไว้
“ เราจะไปไหนกันหรอ ”
เสียงหวานหูเอ่ยถามเมื่อตากลมเห็นว่าร่างสูงขับรถไปในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ย่านเมืองหลวงที่คนพลุกพล่านแถวนี้เต็มไปด้วยศูยน์การค้าและคอนโดมิเนียมหรู
“ ไปดอนโด ทางกลับโรงเรียนรถติด ไว้พรุ่งนี้จะพากลับ ”
ตามความเป็นจริงแล้ว คนอย่างไลควานลินที่ขับรถเป็นประจำไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอยู่แล้วกับอีกแค่รถติด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้น
เหตุผลจริงๆ ก็มีไม่กี่อย่าง…
เพราะอยากจะดูแลไม่ว่าเวลาไหน….
และเพราะความเป็นห่วงมันมีอยู่ล้นใจ…. ก็แค่นั้น
.
.
.
Ring…..
“ ว่า … ” ปลายนิ้วแกร่งกดรับสายเรียกเข้าหลังจากโทรศัพท์เครื่องหรูดังมาซักระยะหนึ่งได้ ช่วงขายาวก้าวเข้าไปในห้องนอนเพื่อแวะดูคนตัวเล็กที่กำลังหลับปุ๋ยสบายอยู่บนเตียงคิงไซส์สีดำสนิทตัดกับผิวขาวน้ำนมของเจ้าตัวเอง
[ กับเพื่อนกับฝูงนี่พูดเสียงเย็น ไอ่ห่า ]
[ ใช่ซี้ พวกกูไม่ใช่จีฮุนห้องควีนนี่ ]
[ อย่าตัดพ้อไปเลย เรามันคนไม่สำคัญ ] แน่นอนคนที่โทรเข้ามาคือคังแดเนียล แต่ไอ่เสียงที่พูดๆ กันอยู่นี่ก็คงไม่พ้นพวกแม่งอีกตามเคย
“ ถ้าไม่เข้าเรื่อง กูจะวาง ” ความไร้สาระจะมาก่อนเสมอสำหรับพวกมัน ขอให้ได้พูด
[ โห่ย เพื่อนแซ็วเล่น ]
[ เข้าเรื่องๆ มึงอยู่ไหนวะ ] น้ำเสียงจริงจังแต่ไม่ได้จริงจังขอปลายสายเอ่ยถาม ในขนาดที่กำลังเกาะกลุ่มฟังเสียงประธานนักเรียนคนโหด
ไม่ใช่อะไรหรอก เห็นเพื่อนหายหน้าหายตาไปตั้งแต่บ่ายกับคนตัวเล็กนามว่าพัคจีฮุนที่อยู่ห้องควีนละก็เป็นห่วงไง
“ คอนโด ” น้ำเสียงเรียบๆ เอ่ยตอบไปตามความเป็นจริงก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเงียบๆ มือหนาอีกข้างเอื้อมไปกดสวิทช์เพื่อเปิดม่านผืนใหญ่ที่บดบังผนังกระจกอวดวิวทิวทัศน์อันสวยงามยามพลบค่ำของเมืองหลวง
[ มึงกับเด็กห้องควีน… เฮ้ย! จริงดิ ] ความเล่นใหญ่ของพวกแม่งนี่มันส้นตีนจริงๆ
“ ยัง… ” จมูกโด่งเป็นสันถอนลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับความคิดไปไกลของเพื่อน
[ อ่าว แล้วทำไมมึงไม่พาเค้ากลับ ]
[ นี่คือโทรมาสาระแน ]
[ ด่าพวกกูว่าเสือกเถอะ ]
“ รถติด ”
[ แค่รถติดหรอๆ อ๋อออ เข้าใจๆ ] มันก็เป็นซะแบบเนี่ยพวกเหี้ย รู้เหตุผลอยู่แล้วยังมาล้อนั่นล้อนี่อยู่ได้
[ เอาลูกเค้าไปกกขอแม่เค้ายัง ข้อหาลักพาตัวนา ]
“ แม่เค้ายกให้กูแล้ว… ”
โครงหน้าเข้มผินไปหาใครบางคนที่ยังหลับปุ๋ยอยู่ สายตาอบอุ่นถูกส่งให้คนตัวเล็กที่ยังหลับไม่รู้ตัวมือแกร่งถูกเจ้าของเอื้อมไปลูบหัวทุยๆ ที่มีเส้นผมนุ่มสีคาราเมลอย่างอ่อนโยน
[ อั้ยย๋า! มึงมันไอ่เสือจอมร้ายกาจ ] เสียงตบโต๊ะดังกระแทกเข้ามาในสายจนร่างสูงต้องดึงโทรศัพท์ออกให้ห่างจากหูพอสมควรพร้อมกับส่ายหัวถอนหายใจดังเฮือกเพราะเอือมระอากับการกระทำของเพื่อน
“ กูวางนะ ”
[ อะอีกละ เพื่อนหยอกๆ โหดตลอด ]
“ ไอ่แซม ฝากคุมหอด้วย ” เสียงทุ้มเอ่ยสั่งการเพื่อนอีกคนเพราะวันนี้ผมยอมรับว่าตัวเองเกเรนิดหน่อย ยังไงตามหน้าที่ปกติก็ต้องผลัดเวรกันคุมอยู่แล้ว
[ เดี๊ยะๆ ไอ่พวกละเลยหน้าที่ ไอ่จินก็คนหนึ่งละ ] ปลายสายโวยวายยกใหญ่ถึงภาระหน้าที่ที่ไอ่ประธานวานให้ทำ
“ ไอ่จินไปไหน ” ควานลินถามถึงเพื่อนตัวสูงที่หลังจากเกิดเรื่องก็หายไปกับเพื่อนของคนตัวเล็กอีกคนหนึ่ง
[ นู้น… พาแดฮวีห้องควีนไปนั่งรถเล่นแล้วก็หายไปเลยไอ่สัด ]
[ โทรมาแค่ฝากไอ่พัคคุมหอ แล้วก็ตัดสายไปเลย ห่าราก ]
“ งั้นหรอ กูวางนะ ” ใบหน้าคมนิ่งคิดสักพักก่อนจะเอ่ยวางสายจากเพื่อน ไม่ต้องเดาให้ยากว่าถ้าพรุ่งนี้โผล่หน้าไปผมกับไอ่จินคงได้โดนพวกแม่งบ่นแน่ๆ เพราะวันนี้ดันมาเกเรพร้อมๆ กันเสียได้
[ เฮ้ยไอ่หลินเดี๋ยว… %&*#$^&*E$!!! ]
เมื่อก้อนนุ่มนิ่มที่น่าเอ็นดูนอนขดตัวอยู่บนเตียงคิงไซส์เริ่มขยับยุกยิกเป็นสัญญาณว่าคนตัวเล็กใกล้จะตื่นจากนิทราแล้ว มือแกร่งกดล็อคหน้าจอก่อนจะเอื้อมเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ตรงโต๊ะหัวเตียงโดยไม่ละสายตาจากเจ้าตัวเล็กเลย
“ งื้อ ” เสียงหวานละมุนละเมอออกมาจากกลีบปากบางเมื่อร่างกายสัมผัสได้ถึงความนุ่มสบายของหมอนใบเขื่องที่หนุนอยู่
คนตัวเล็กที่จมอยู่ในกองผ้าห่มหนาขยับเล็กน้อยก่อนดวงตากลมหวานจะปรือขึ้นมองแล้วหลับลงอีกครั้งเพราะแสงไฟจากตึกรามที่ผ่านกระจกกระทบเข้านัยน์ตาสวย
เมื่อโฟกัสเริ่มชัดเจนดวงตากลมเริ่มกวาดมองไปรอบห้องที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นลอฟท์คุมโทนด้วยสีดำทั้งผนังห้องที่ฉาบไปด้วยปูนเปลือย ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ตั่งเตียงคิงไซส์ มีความดิบเถื่อนตามสไตล์เจ้าของห้องอย่างชัดเจน
“ ตื่นแล้วหรอ ”
เสียงทุ้มเข้มที่ดังขึ้นมาจากร่างสูงสมส่วนของผู้ชายที่ปรากฎในกรอบสายตา เขานั่งเฝ้าอยู่ตรงนี้ ตรงโซฟาใกล้ๆ เตียง
คนตัวเล็กในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นเลิกชายผ้าห่มผืนหนาออกก่อนจะหย่อนเท้าน้อยๆ ที่มีผ้าพันปวดอยู่ลงข้างเตียงใหญ่
ความงุนงงยังคงไม่หายไปจากคนที่พึ่งตื่นนอน ความคิดความอ่านดูจะเชื่องช้าต่อสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน
อ๋า … จีฮุนทำตัวเป็นภาระของร่างสูงอีกแล้ว
เจ้าตัวคงจะเผลอหลับในรถแน่ๆ ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกพาขึ้นมาที่นี่ได้ยังไง ไหนจะเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ชุดเดิมที่จีฮุนเคยใส่อีก
“ เราขึ้นมาที่นี่ได้ยังไงหรอ ” จีฮุนช้อนตามองร่างสูงที่ลุกจากเก้าอี้แล้วตรงเข้ามานั่งยอตัวด้านหน้าของตัวเอง มือขาวถูกประสานกันทั้งสองข้างจนแน่นเมื่อจู่ๆ ก็เกิดอาการเกร็งทำตัวไม่ถูกกะทันหัน
“ อุ้มขึ้นมา … ”
“ จริงๆ ปลุกเราก็ได้ ”
“ คงยากหน่อยเพราะเธอขี้เซาเหลือเกิน ”
“ ขอโทษนะ เซนคงหนักมากเลยใช่มั้ย ” ใบหน้าน่ารักสลดลงทันทีที่ตัวเองทำให้เซนของนักเรียนทั้งเซดริกต้องลำบาก จีฮุนต้องหนักมากแน่ๆ การันตีได้จากฉายาลูกหมูที่ได้มาจากคุณแม่กับแม่นม
“ ต่อให้เธอหนักกว่านี้ ฉันก็อุ้มเธอได้ ” คนตัวสูงหัวเราะเบาๆ อย่างอ่อนโยน ความจริงแล้วจีฮุนไม่ได้ตัวหนักเลยเห็นมีน้ำมีนวลแบบนี้แต่แท้จริงแล้ว
ซ่อนรูป …
“ ขอโทษที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้โดยพลการ ” แก้มกลมแดงซ่านขึ้นมาเมื่อร่างสูงเอ่ยจบก่อนจะก้มหน้างุดลงทันที “ กลัวเธอไม่สบายตัว … อย่าโกรธกันเลย ”
“ เปล่าๆ เราไม่ได้โกรธเลยนะ ” มือสวยละออกจากกันก่อนจะยกขึ้นมาส่ายไปมาทันที จีฮุนจะโกรธคนตรงหน้าลงได้อย่างไรกัน ดูแลจีฮุนขนาดนี้ทั้งที่ความจริงแล้วควานลินไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยก็ได้
“ นึกว่าโกรธกันเพราะเห็นแก้มเธอแดงไปหมด ” แกล้งกันเล่นใช่มั้ย … เพราะร่างสูงหัวเราะเบาๆ ทั้งที่ความจริงแล้วควรจะทำหน้าวิตกกังวลสิถ้าคิดว่าเราจะโกรธน่ะ
“ อย่าแกล้งเราเลย … ” เสียงหวานบ่นงุ้งงิ้งเบาๆ อย่างน่าเอ็นดูการกระทำน่ารักส่งผลให้เซนเซดริกหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งก่อนจะเอื้อมไปหยิบของบางสิ่งที่วางอยู่ข้างๆ
สลิปเปอร์สีขาวนุ่มถูกสวมเข้าปลายเท้าเล็กโดยฝีมือคนตัวสูงที่นั่งย่อตัวลงตรงหน้า เพื่อไม่ให้ความเย็นเฉียบของพื้นไม้กระดานสัมผัสกับเท้าเจ้าตัวเล็กเพราะกลัวความปวดจะทำร้ายให้คนตรงหน้าร้องไห้อีก
เนื่องจากตอนเดินไปลานจอดรถของโรงพยาบาลได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับโรงเรียนแต่จะกลับดอนโดแทน ร่างสูงคิดว่าถ้าถึงห้องคงจะปล่อยให้เจ้าตัวเล็กไปอาบน้ำแต่จีฮุนดันหลับปุ๋ยตั้งแต่ในรถไปเสียอย่างนั้น
เขาไม่ได้ปลุกเจ้าตัวเล็กให้ตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด
ที่บอกว่าขี้เซา… เพราะควานลินรู้มาตั้งนานแล้ว
และร่างสูงเองชอบมองจีฮุนนอนหลับเพราะเวลาคนตัวเล็กหลับมันน่ารักมากสำหรับเขา
เหมือนแมวน้อยครางเสียงงุ้งงิ้งน่าเอ็นดู
พอถึงห้องเขาเลยจัดการเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้าตัวเล็ก ยอมรับว่าตัวเองไม่เคยต้องใช้ความอดทนมากมายขนาดนี้ จีฮุนทำให้เขาแทบคลั่งแต่ความผิดชอบชั่วดีและความซื่อสัตย์ที่มีต่อคนตัวเล็กเองมันมีมากมายพอที่จะยับยั้งตัวเองไม่ให้เผลอล่วงเกินเจ้าของผิวกายขาวไป
“ ดะ เดี๋ยวเราใส่เองก็ได้นะ ”
จีฮุนอดที่จะเกรงใจไม่ได้ที่อีกคนเป็นถึงเซนแห่งเซดริก แต่กลับย่อตัวสวมสลิปเปอร์ให้กับคนที่มีตำแหน่งเป็นแค่นักเรียนห้องควีนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เพราะตั้งแต่เช้าก็มีแค่ควานลินเท่านั้นที่ทำให้เกือบทุกอย่างจนจีฮุนรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองชักจะเหมือนเด็กน้อยที่ทำอะไรเองไม่เป็นเสียแล้ว
คนตัวเล็กเลยกลายเป็นเด็กดื้อโน้มตัวลงหวังจะเอื้อมมือเรียวสวยไปคว้าสลิปเปอร์ที่อยู่ในมือแกร่งมาใส่เอง หากแต่สายตาดุๆ ของเซนที่เงยหน้ามามองกันกลับทำให้จีฮุนชักมือกลับหยุดการกระทำของตัวเองได้อย่างง่ายดาย
“ ไม่ดื้อ ไม่ซน เป็นเด็กดีก็พอ ”
เพียงแค่หนึ่งประโยคเดียวเท่านั้น สามารถกำราบคนตัวเล็กขี้เกรงใจได้สำเร็จแก้มกลมๆ ที่ไม่รู้ว่าอุณหภูมิห้องมันร้อนหรือว่าอาการเขินที่กำเริบกันแน่ แดงซะน่ากินเหมือนกับลูกตำลึงสุกงอม
ความจริงแล้วคนตัวเล็กจะสามารถเดินได้ปกติแต่ก็ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการเดินโดยที่จะเปลี่ยนการถ่ายน้ำหนักจากที่ขาไปที่ส่วนบนของร่างกายแทนเมื่อข้อเท้าบอบบางไม่สามารถลงน้ำหนักได้เต็มที่
แต่ถึงอย่างนั้นอุปกรณ์ช่วยเดินก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลย เมื่อจีฮุนอยู่กับควานลิน
อ้อมแขนแกร่งโอบกระชับร่างน้อยในอ้อมกอดอีกครั้ง และมันจะเป็นแบบนี้ไปอีกหลายๆ ครั้งไม่มีเบื่อ กลิ่นหอมเฉพาะตัวของร่างเล็กที่หอมฟุ้งกระทบจมูกชวนให้ดอมดมอีกทั้งยังอยู่ใกล้กันเพียงแค่นี้
“ กอดแน่นๆ ”
แต่ในเมื่อมีผมอยู่ทั้งคน …
คนตัวเล็กก็ไม่จำเป็นต้องใช้มันอยู่แล้วถูกมั้ย?
“ หิวข้าวหรือยัง ” ภายในโซนรับแขกร่างเล็กถูกอุ้มมาวางลงเบาๆ ตรงโซฟาตัวเขื่องสีเทา เมื่อถูกถามแบบนี้ใบหน่าน่รักได้แต่พยักหน้าตอบกลับไปจะบอกว่าที่ตื่นก็เพราะว่าท้องไส้เจ้ากรรมประท้วงโครกครากเพราะว่าหิวนี้แหละ
เมื่อสบตากับเจ้าของร่างสูงเหมือนควานลินจะรับรู้ถึงความต้องการของคนตัวเล็กว่าเจ้าก้อนตรงหน้าหิวขนาดไหน เรียวขายาวจึงเดินหายเข้าไปในโซนครัวสักพักมือแกร่งทั้งสองข้างถือถาดที่มีชามใบใหญ่เดินมานั่งลงข้างๆ แล้ววางมันลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้า
จมูกรั้นๆ น่ารักสูดกลิ่นข้าวต้มกุ้งหอมฉุยตรงหน้า เรียกน้ำย่อยในกระเพาะได้ดีกว่าเดิม มือน้อยๆ เอื้อมไปหยิบช้อนหวังจะจัดการข้าวต้มชามใหญ่ แต่ดันพึ่งนึกได้ว่าคนที่นั่งข้างๆ เขาอาจจะยังไม่ได้กินข้าวเหมือนกันหรือเปล่านะ
“ แล้ว… เซนกินข้าวหรือยัง ”
“ ยัง ” เมื่อตอบไปแบบนั้นช้อนที่อยู่ในมือเรียวสวยก็ยื่นมาตรงหน้าคนตัวสูงทันที คนตาใสแป๋วจ้องมองกันก่อนจะกระดิกช้อนเบาๆ เหมือนบอกกลายๆ ว่าให้กินด้วยกัน
มือหนาหยิบช้อนตรงหน้าขึ้นมาก่อนจะตักข้าวต้มในชามที่มีไออุ่นสีขาวลอยฟุ้งขึ้นมาน้อยๆ ริมฝีปากเอิบของร่างสูงเป่าลมเบาๆ เพื่อไล่ความร้อนออกเพราะกลัวว่ามันจะทำให้กลีบปากบางของคนตัวเล็กจะเจ็บ
ตากลมโตเบิกออกเล็กน้อยเมื่อข้าวต้มถูกจ่อมาริมฝีปากแดง เราเองก็นึกว่าคนตัวสูงจะตักกินเองเสียอีก ใบหน้าหล่อเหลาเพยิดขึ้นเล็กน้อยเหมือนบอกว่าให้รีบกินได้แล้ว
จีฮุนรู้สึกเหมือนจะเป็นมือไม้อ่อนแรงก็คราเนี่ย ในเมื่อร่างสูงเหมือนจะเป็นมือเป็นเท้าค่อยทำนู้นทำนี่ให้ตลอดรวมถึงการป้อนข้าวในตอนนี้ด้วย ปากสีแดงอ้างับเข้าที่ช้อนก่อนแก้มกลมจะเคี้ยวตุ๋ยๆ จนน่าหยิก มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบจนข้าวต้มพ่องไปเกือบครึ่งชาม
“ ไม่กินหรอ เดี๋ยวหมดนะ ”
“ เป็นห่วงหรอครับ ”
“ อื้อ ”
เหมือนโดนฮุกด้วยหมัดหนักๆ ประธานนักเรียนสุดหล่อโดนน็อคเอาท์แบบตายกันข้างหนึ่งไปเลยด้วยคำตอบที่แสนจะสั้นแต่มีคุณค่าทางจิตใจเหลือเกินจากตอนแรกที่เป็นฝ่ายแกล้งกวนร่างบางตรงหน้าด้วยประโยคคำถามที่ร่างสูงไม่รู้เลยว่ามันตรงกับความรู้สึกจริงๆ ของคนตัวเล็กขนาดไหน
จีฮุนเป็นห่วงเหมือนกัน …
จะมัวดูแลแต่จีฮุนไม่ได้นะ
“ งั้นกินด้วยได้มั้ยครับ ” จีฮุนจ้องมองคนตัวสูงข้างๆ ที่ตอนแรกดูจะนิ่งไปหลังจากได้ยินคำตอบจากจีฮุนไปแต่พอมาคำถามต่อมาแววตาเขาก็เปลี่ยนไปมันดูแพรวพราวชอบกล
“ กินเลยๆ ”
เปลือกตาสีมุกหลับปี๋ทันทีเมื่อจู่ๆ คนตัวสูงก็โน้มตัวมาหาเรื่อยๆ จนแผ่นหลังบางตอนนี้นอนราบไปกับโซฟาตัวใหญ่แล้ว
งับ!
แถมแก้มกลมนุ่มนิ่มตอนนี้ยังถูกริมฝีปากอิ่มของร่างสูงงับเข้าเบาๆ แถมยังดูดดุนราวกับมันคือมาชเมลโล่หอมหวานส่วนปลายจมูกโด่งยังคงทำหน้าที่สูดกลิ่นหอมตามเนื้อนวลของคนตัวเล็กอย่างไม่บกพร่องอีกด้วย
“ อื้อ นึกว่าจะกินข้าว ” มือน้อยๆ ไม่รู้จะทำยังไงเลยได้แต่เอาทาบไว้ที่อกแกร่งของคนตัวสูงที่อยู่ด้านบน
“ นี่ไงกินอยู่ ” ร่างสูงผลักออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองเห็นคิ้วเรียวสวยของคนใต้ร่างขมวดเข้าน้อยๆ ทำหน้ามึนงงตามประสาก่อนรอยยิ้มมุมปากจะเผยให้เจ้าตัวเล็กได้เห็น
“ แต่นี่แก้มเรา กินได้ที่ไหนกัน ”
“ กินได้เหมือนกัน อิ่มด้วย ” เซนยันตัวลุกนั่งเหมือนเดิม มือแกร่งสองข้างคว้าแขนเล็กดึงขึ้นมานั่งดีๆ เหมือนเดิมก่อนจะเห็นหน้าตามึนงงเหมือนชิบะอีกครั้ง สายตาคมจ้องมองคนตัวเล็กไม่วางตาพร้อมกับเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อปลดสิ่งๆ หนึ่งที่ห้อยอยู่ที่ลำคอออกมา
สิ่งที่สะท้อนอยู่ในนัยส์ตาใสแป๋วคือสร้อยแบรนด์ TIFFANY & CO ที่ตัวจี้ตรงกลางจะเป็นวงกลมเล็กๆ ห้อยอยู่ สายสร้อยที่เป็นทองคำขาวเรียบหรูระยิบระยับสะท้อนรับกับโคมไฟสีเงินตรงกลางห้องได้อย่างสวยงาม
ตอนนี้มันถูกสวมเข้าที่ลำคอระหงของพัคจีฮุน….
เด็กชายน่าตาน่ารักตรงหน้าของเซนแห่งเซดริก….
“ รู้หรือเปล่า ว่ารัก…. ”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างถึงประโยคที่ร่างสูงเอ่ยออกมาจากริมฝีปากอิ่ม มันจะเป็นคำถามหรือมันจะเป็นคำสารภาพ แต่ที่แน่ๆ มันมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจจีฮุนเหบือเกิน
ราวกลับโลกทั้งโลกหยุดหมุนรอบตัวเราทั้งสองคนเงียบเชียบ แต่ภายในหัวของจีฮุนมีแต่เสียงทุ้มอ่อนโยนเอ่ยประโยคเมื่อกี้วนซ้ำไปซ้ำมา สมองและความรู้สึกในตอนนี้มันถูกโฟกัสแค่ใบหน้าหล่อเหลาที่มีแววตาคมจ้องมองมาอย่างจริงจังเท่านั้น
“ จีฮุนไม่รู้… ไม่รู้เลย… ”
น้ำเสียงหวานตอบกลับแผ่วเบาเหลือเกินแต่กลับชัดเจนสำหรับควานลินยิ่งกว่าอะไร มือน้อยๆ ยกขึ้นมาจับเครื่องประดับที่ห้อยอยู่บนลำคอตัวเองเบาๆ ก่อนจะก้มมองพินิจดูอย่างตั้งใจ แม้จะดูเรียบๆ แต่ตั้งใจที่ร่างสูงมอบให้อาจจะมีมูลค่าที่มากมายและลึกซึ้งกว่าราคาของมันแน่ๆ
เมื่อนึกย้อนไปในทุกเหตุการณ์ตั้งแต่แรก ทั้งการกระทำที่ชัดเจนและความเป็นห่วงจนมาถึงตอนนี้ จีฮุนจะตอบว่ากลัวได้หรือเปล่าเพราะอีกคนเป็นถึงเซนแห่งเซดริกแต่เขากลับเป็นแค่เด็กชายที่อ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น
“ งั้นอยากรู้ไว้ … ”
“ … ”
“ ไลควานลินรักพัคจีฮุน…. ”
สายตาที่มีความหมายหลายๆ อย่างถูกส่งมาให้คนตัวเล็กได้รับรู้ เด็กชายจีฮุนตัวน้อยพยักหน้าเข้าใจเบาๆ โดยมีน้ำสีใสคลอที่แก้วตากลมโตที่สวยหวานและอีกไม่นานมันต้องไหลลงมาแน่ๆ
มือแกร่งถูกเจ้าของยกขึ้นมาลูบเบาๆ ตรงหัวทุยๆ สีคาราเมลก่อนจะเลื่อนมากุมแก้มนิ่มตุ่ยๆ ทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไว้ ปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยก้อนนุ่มนิ่มไปมาคล้ายจะปลอบประโลมก่อนจะโน้มหน้าไปประทับจูบแผ่วเบาตรงริมฝีปากระเรื่อน่าเอ็นดูอย่างไม่มีการล่วงเกินหรือลุกล้ำใดๆ
ให้มันช่วยยืนยัน
ว่ารักมากขนาดไหน….
ความคิดเห็น