ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WANNAONE : BREAKING DOWN [ LAI GUANLIN x PARK JIHOON ]

    ลำดับตอนที่ #9 : BREAKING DOWN : VIII [RE WRITE]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.5K
      123
      23 มิ.ย. 61


    BREAKING DOWN ( VIII )


    -------------------------------------------------------------------















                    ก่อนหน้านั้น…




                    หลังจากกลับจากโรงพยาบาลในตอนเย็น ประธานนักเรียนสุดเข้มไม่ได้พาเจ้าตัวเล็กกลับโรงเรียนแต่อย่างใด แต่กลับหักพวงมาลัยเล็กซัสคันสวยไปอีกเส้นทางซะอย่างนั้น โดยที่ความเร็วก็ยังคงช้าเท่าเดิมตามความประสงค์ที่คนตัวเล็กได้ขอและที่ผมได้สัญญาไว้



                    เราจะไปไหนกันหรอ ”



                    เสียงหวานหูเอ่ยถามเมื่อตากลมเห็นว่าร่างสูงขับรถไปในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ย่านเมืองหลวงที่คนพลุกพล่านแถวนี้เต็มไปด้วยศูยน์การค้าและคอนโดมิเนียมหรู




                    ไปดอนโด ทางกลับโรงเรียนรถติด ไว้พรุ่งนี้จะพากลับ ”




                    ตามความเป็นจริงแล้ว คนอย่างไลควานลินที่ขับรถเป็นประจำไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอยู่แล้วกับอีกแค่รถติด




                    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้น




                    เหตุผลจริงๆ ก็มีไม่กี่อย่าง…




                    เพราะอยากจะดูแลไม่ว่าเวลาไหน….




                    และเพราะความเป็นห่วงมันมีอยู่ล้นใจ…. ก็แค่นั้น



                    .



                    .



                    .



                    Ring….. 




                    ว่า … ” ปลายนิ้วแกร่งกดรับสายเรียกเข้าหลังจากโทรศัพท์เครื่องหรูดังมาซักระยะนึงได้ ช่วงขายาวก้าวเข้าไปในห้องนอนเพื่อแวะดูคนตัวเล็กที่กำลังหลับปุ๋ยสบายอยู่บนเตียงคิงไซส์สีดำสนิทตัดกับผิวขาวน้ำนมของเจ้าตัวเอง




                    [ กับเพื่อนกับฝูงนี่พูดเสียงเย็น ไอ่ห่า ]




                    [ ใช่ซี้ พวกกูไม่ใช่จีฮุนห้องควีนนี่ ]





                    [ อย่าตัดพ้อไปเลย เรามันคนไม่สำคัญ ] แน่นอนคนที่โทรเข้ามาคือคังแดเนียล แต่ไอ่เสียงที่พูดๆ กันอยู่นี่ก็คงไม่พ้นพวกแม่งอีกตามเคย




                    ถ้าไม่เข้าเรื่อง กูจะวาง ” ความไร้สาระจะมาก่อนเสมอสำหรับพวกมัน ขอให้ได้พูด




                    [ โห่ย เพื่อนแซเล่น ]




                    [ เข้าเรื่องๆ มึงอยู่ไหนวะ ] น้ำเสียงจริงจังแต่ไม่ได้จริงจังขอปลายสายเอ่ยถาม ในขนาดที่กำลังเกาะกลุ่มฟังเสียงประธานนักเรียนคนโหด




                    ไม่ใช่อะไรหรอก เห็นเพื่อนหายหน้าหายตาไปตั้งแต่บ่ายกับคนตัวเล็กนามว่าพัคจีฮุนที่อยู่ห้องควีนละก็เป็นห่วงไง




                    คอนโด ” น้ำเสียงเรียบๆ เอ่ยตอบไปตามความเป็นจริงก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเงียบๆ มือหนาอีกข้างเอื้อมไปกดสวิทช์เพื่อเปิดม่านผืนใหญ่ที่บดบังผนังกระจกอวดวิวทิวทัศน์อันสวยงามยามพลบค่ำของเมืองหลวง




                    [ มึงกับเด็กห้องควีน… เฮ้ย! จริงดิ ] ความเล่นใหญ่ของพวกแม่งนี่มันส้นตีนจริงๆ




                    ยัง… ” จมูกโด่งเป็นสันถอนลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับความคิดไปไกลของเพื่อน




                    [ อ่าว แล้วทำไมมึงไม่พาเค้ากลับ ]




                    [ นี่คือโทรมาสาระแน ]




                    [ ด่าพวกกูว่าเสือกเถอ ]




                    รถติด ”




                    [ แค่รถติดหรอๆ อ๋อออ เข้าใจๆ ] มันก็เป็นซะแบบเนี่ยพวกเหี้ย รู้เหตุผลอยู่แล้วยังมาล้อนั่นล้อนี่อยู่ได้




                    [ เอาลูกเค้าไปกกขอแม่เค้ายัง ข้อหาลักพาตัวนา ]





                    แม่เค้ายกให้กูแล้ว… ”




                    โครงหน้าเข้มผินไปหาใครบางคนที่ยังหลับปุ๋ยอยู่ สายตาอบอุ่นถูกส่งให้คนตัวเล็กที่ยังหลับไม่รู้ตัวมือแกร่งถูกเจ้าของเอื้อมไปลูบหัวทุยๆ ที่มีเส้นผมนุ่มสีคาราเมลอย่างอ่อนโยน




                    [ อั้ยย๋า! มึงมันไอ่เสือจอมร้ายกาจ ] เสียงตบโต๊ะดังกระแทกเข้ามาในสายจนร่างสูงต้องดึงโทรศัพท์ออกให้ห่างจากหูพอสมควรพร้อมกับส่ายหัวถอนหายใจดังเฮือกเพราะเอือมระอากับการกระทำของเพื่อน




                    กูวางนะ ”




                    [ อะอีกละ เพื่อนหยอกๆ โหดตลอด ]




                     ไอ่แซม ฝากคุมหอด้วย เสียงทุ้มเอ่ยสั่งการเพื่อนอีกคนเพราะวันนี้ผมยอมรับว่าตัวเองเกเรนิดหน่อย ยังไงตามหน้าที่ปกติก็ต้องผลัดเวรกันคุมอยู่แล้ว




                    [ เดี๊ยะๆ ไอ่พวกละเลยหน้าที่ ไอ่จินก็คนนึงละ ] ปลายสายโวยวายยกใหญ่ถึงภาระหน้าที่ที่ไอ่ประธานวานให้ทำ




                    ไอ่จินไปไหน ” ควานลินถามถึงเพื่อนตัวสูงที่หลังจากเกิดเรื่องก็หายไปกับเพื่อนของคนตัวเล็กอีกคนนึ




                    [ นู้น… พาแดฮวีห้องควีนไปนั่งรถเล่นแล้วก็หายไปเลยไอ่สัด ]




                    [ โทรมาแค่ฝากไอ่พัคคุมหอ แล้วก็ตัดสายไปเลย ห่าราก ]




                    งั้นหรอ กูวางนะใบหน้าคมนิ่งคิดสักพักก่อนจะเอ่ยวางสายจากเพื่อน ไม่ต้องเดาให้ยากว่าถ้าพรุ่งนี้โผล่หน้าไปผมกับไอ่จินคงได้โดนพวกแม่งบ่นแน่ๆ เพราะวันนี้ดันมาเกเรพร้อมๆ กันเสียได้




                    [ เฮ้ยไอ่หลินเดี๋ยว… %&*#$^&*E$!!! ]




                    เมื่อก้อนนุ่มนิ่มที่น่าเอ็นดูนอนขดตัวอยู่บนเตียงคิงไซส์เริ่มขยับยุกยิกเป็นสัญญาณว่าคนตัวเล็กใกล้จะตื่นจากนิทราแล้ว มือแกร่งกดล็อคหน้าจอก่อนจะเอื้อมเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ตรงโต๊ะหัวเตียงโดยไม่ละสายตาจากเจ้าตัวเล็กเลย




                    งื้อ ” เสียงหวานละมุนละเมอออกมาจากกลีบปากบางเมื่อร่างกายสัมผัสได้ถึงความนุ่มสบายของหมอนใบเขื่องที่หนุนอยู่




                    คนตัวเล็กที่จมอยู่ในกองผ้าห่มหนาขยับเล็กน้อยก่อนดวงตากลมหวานจะปรือขึ้นมองแล้วหลับลงอีกครั้งเพราะแสงไฟจากตึกรามที่ผ่านกระจกกระทบเข้านัยน์ตาสวย




                    เมื่อโฟกัสเริ่มชัดเจนดวงตากลมเริ่มกวาดมองไปรอบห้องที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นลอฟท์คุมโทนด้วยสีดำทั้งผนังห้องที่ฉาบไปด้วยปูนเปลือย ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ตั่งเตียงคิงไซส์ มีความดิบเถื่อนตามสไตล์เจ้าของห้องอย่างชัดเจน




                    ตื่นแล้วหรอ ”




                    เสียงทุ้มเข้มที่ดังขึ้นมาจากร่างสูงสมส่วนของผู้ชายที่ปรากฎในกรอบสายตา เขานั่งเฝ้าอยู่ตรงนี้ ตรงโซฟาใกล้ๆ เตียง




                    คนตัวเล็กในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นเลิกชายผ้าห่มผืนหนาออกก่อนจะหย่อนเท้าน้อยๆ ที่มีผ้าพันปวดอยู่ลงข้างเตียงใหญ่



                    ความงุนงงยังคงไม่หายไปจากคนที่พึ่งตื่นนอน ความคิดความอ่านดูจะเชื่องช้าต่อสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจน



                    อ๋า … จีฮุนทำตัวเป็นภาระของร่างสูงอีกแล้ว




                    เจ้าตัวคงจะเผลอหลับในรถแน่ๆ ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกพาขึ้นมาที่นี่ได้ยังไง ไหนจะเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ชุดเดิมที่จีฮุนเคยใส่อีก



                    เราขึ้นมาที่นี่ได้ยังไงหรอ ” จีฮุนช้อนตามองร่างสูงที่ลุกจากเก้าอี้แล้วตรงเข้ามานั่งยอตัวด้านหน้าของตัวเอง มือขาวถูกประสานกันทั้งสองข้างจนแน่นเมื่อจู่ๆ ก็เกิดอาการเกร็งทำตัวไม่ถูกกะทันหัน



                    อุ้มขึ้นมา … ”



                    จริงๆ ปลุกเราก็ได้ ”



                    คงยากหน่อยเพราะเธอขี้เซาเหลือเกิน ”



                    ขอโทษนะ เซนคงหนักมากเลยใช่มั้ย ” ใบหน้าน่ารักสลดลงทันทีที่ตัวเองทำให้เซนของนักเรียนทั้งเซดริกต้องลำบาก จีฮุนต้องหนักมากแน่ๆ การันตีได้จากฉายาลูกหมูที่ได้มาจากคุณแม่กับแม่นม



                    ต่อให้เธอหนักกว่านี้ ฉันก็อุ้มเธอได้ ” คนตัวสูงหัวเราะเบาๆ อย่างอ่อนโยน ความจริงแล้วจีฮุนไม่ได้ตัวหนักเลยเห็นมีน้ำมีนวลแบบนี้แต่แท้จริงแล้ว



                    ซ่อนรูป …



                    ขอโทษที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้โดยพลการ ” แก้มกลมแดงซ่านขึ้นมาเมื่อร่างสูงเอ่ยจบก่อนจะก้มหน้างุดลงทันที “ กลัวเธอไม่สบายตัว … อย่าโกรธกันเลย ”



                    เปล่าๆ เราไม่ได้โกรธเลยนะ ” มือสวยละออกจากกันก่อนจะยกขึ้นมาส่ายไปมาทันที จีฮุนจะโกรธคนตรงหน้าลงได้อย่างไรกัน ดูแลจีฮุนขนาดนี้ทั้งที่ความจริงแล้วควานลินไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยก็ได้



                    นึกว่าโกรธกันเพราะเห็นแก้มเธอแดงไปหมด ” แกล้งกันเล่นใช่มั้ย … เพราะร่างสูงหัวเราะเบาๆ ทั้งที่ความจริงแล้วควรจะทำหน้าวิตกกังวลสิถ้าคิดว่าเราจะโกรธน่ะ



                    อย่าแกล้งเราเลย … ” เสียงหวานบ่นงุ้งงิ้งเบาๆ อย่างน่าเอ็นดูการกระทำน่ารักส่งผลให้เซนเซดริกหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งก่อนจะเอื้อมไปหยิบของบางสิ่งที่วางอยู่ข้างๆ




                    สลิปเปอร์สีขาวนุ่มถูกสวมเข้าปลายเท้าเล็กโดยฝีมือคนตัวสูงที่นั่งย่อตัวลงตรงหน้า เพื่อไม่ให้ความเย็นเฉียบของพื้นไม้กระดานสัมผัสกับเท้าเจ้าตัวเล็กเพราะกลัวความปวดจะทำร้ายให้คนตรงหน้าร้องไห้อีก




                    เนื่องจากตอนเดินไปลานจอดรถของโรงพยาบาลได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับโรงเรียนแต่จะกลับดอนโดแทน ร่างสูงคิดว่าถ้าถึงห้องคงจะปล่อยให้เจ้าตัวเล็กไปอาบน้ำแต่จีฮุนดันหลับปุ๋ยตั้งแต่ในรถไปเสียอย่างนั้น



                    เขาไม่ได้ปลุกเจ้าตัวเล็กให้ตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด



                    ที่บอกว่าขี้เซา… เพราะควานลินรู้มาตั้งนานแล้ว



                    และร่างสูงเองชอบมองจีฮุนนอนหลับเพราะเวลาคนตัวเล็กหลับมันน่ารักมากสำหรับเขา



                    เหมือนแมวน้อยครางเสียงงุ้งงิ้งน่าเอ็นดู




                    พอถึงห้องเขาเลยจัดการเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้าตัวเล็ก ยอมรับว่าตัวเองไม่เคยต้องใช้ความอดทนมากมายขนาดนี้ จีฮุนทำให้เขาแทบคลั่งแต่ความผิดชอบชั่วดีและความซื่อสัตย์ที่มีต่อคนตัวเล็กเองมันมีมากมายพอที่จะยับยั้งตัวเองไม่ให้เผลอล่วงเกินเจ้าของผิวกายขาวไป




                    ดะ เดี๋ยวเราใส่เองก็ได้นะ ”




                    จีฮุนอดที่จะเกรงใจไม่ได้ที่อีกคนเป็นถึงเซนแห่งเซดริก แต่กลับย่อตัวสวมสลิปเปอร์ให้กับคนที่มีตำแหน่งเป็นแค่นักเรียนห้องควีนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เพราะตั้งแต่เช้าก็มีแค่ควานลินเท่านั้นที่ทำให้เกือบทุกอย่างจนจีฮุนรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองชักจะเหมือนเด็กน้อยที่ทำอะไรเองไม่เป็นเสียแล้ว




                    คนตัวเล็กเลยกลายเป็นเด็กดื้อโน้มตัวลงหวังจะเอื้อมมือเรียวสวยไปคว้าสลิปเปอร์ที่อยู่ในมือแกร่งมาใส่เอง หากแต่สายตาดุๆ ของเซนที่เงยหน้ามามองกันกลับทำให้จีฮุนชักมือกลับหยุดการกระทำของตัวเองได้อย่างง่ายดาย




                    ไม่ดื้อ ไม่ซน เป็นเด็กดีก็พอ ”




                    เพียงแค่หนึ่งประโยคเดียวเท่านั้น สามารถกำราบคนตัวเล็กขี้เกรงใจได้สำเร็จแก้มกลมๆ ที่ไม่รู้ว่าอุณหภูมิห้องมันร้อนหรือว่าอาการเขินที่กำเริบกันแน่ แดงซะน่ากินเหมือนกับลูกตำลึงสุกงอม




                    ความจริงแล้วคนตัวเล็กจะสามารถเดินได้ปกติแต่ก็ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการเดินโดยที่จะเปลี่ยนการถ่ายน้ำหนักจากที่ขาไปที่ส่วนบนของร่างกายแทนเมื่อข้อเท้าบอบบางไม่สามารถลงน้ำหนักได้เต็มที่




                    แต่ถึงอย่างนั้นอุปกรณ์ช่วยเดินก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลย เมื่อจีฮุนอยู่กับควานลิน




                    อ้อมแขนแกร่งโอบกระชับร่างน้อยในอ้อมกอดอีกครั้ง และมันจะเป็นแบบนี้ไปอีกหลายๆ ครั้งไม่มีเบื่อ กลิ่นหอมเฉพาะตัวของร่างเล็กที่หอมฟุ้งกระทบจมูกชวนให้ดอมดมอีกทั้งยังอยู่ใกล้กันเพียงแค่นี้




                    กอดแน่นๆ ”




                    แต่ในเมื่อมีผมอยู่ทั้งคน …




                    คนตัวเล็กก็ไม่จำเป็นต้องใช้มันอยู่แล้วถูกมั้ย?




                    หิวข้าวหรือยัง ” ภายในโซนรับแขกร่างเล็กถูกอุ้มมาวางลงเบาๆ ตรงโซฟาตัวเขื่องสีเทา เมื่อถูกถามแบบนี้ใบหน่าน่รักได้แต่พยักหน้าตอบกลับไปจะบอกว่าที่ตื่นก็เพราะว่าท้องไส้เจ้ากรรมประท้วงโครกครากเพราะว่าหิวนี้แหละ




                    เมื่อสบตากับเจ้าของร่างสูงเหมือนควานลินจะรับรู้ถึงความต้องการของคนตัวเล็กว่าเจ้าก้อนตรงหน้าหิวขนาดไหน เรียวขายาวจึงเดินหายเข้าไปในโซนครัวสักพักมือแกร่งทั้งสองข้างถือถาดที่มีชามใบใหญ่เดินมานั่งลงข้างๆ แล้ววางมันลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้า




                    จมูกรั้นๆ น่ารักสูดกลิ่นข้าวต้มกุ้งหอมฉุยตรงหน้า เรียกน้ำย่อยในกระเพาะได้ดีกว่าเดิม มือน้อยๆ เอื้อมไปหยิบช้อนหวังจะจัดการข้าวต้มชามใหญ่ แต่ดันพึ่งนึกได้ว่าคนที่นั่งข้างๆ เขาอาจจะยังไม่ได้กินข้าวเหมือนกันหรือเปล่านะ




                    แล้ว… เซนกินข้าวหรือยัง




                   ยัง ” เมื่อตอบไปแบบนั้นช้อนที่อยู่ในมือเรียวสวยก็ยื่นมาตรงหน้าคนตัวสูงทันที คนตาใสแป๋วจ้องมองกันก่อนจะกระดิกช้อนเบาๆ เหมือนบอกกลายๆ ว่าให้กินด้วยกัน




                    มือหนาหยิบช้อนตรงหน้าขึ้นมาก่อนจะตักข้าวต้มในชามที่มีไออุ่นสีขาวลอยฟุ้งขึ้นมาน้อยๆ ริมฝีปากเอิบของร่างสูงเป่าลมเบาๆ เพื่อไล่ความร้อนออกเพราะกลัวว่ามันจะทำให้กลีบปากบางของคนตัวเล็กจะเจ็บ




                    ตากลมโตเบิกออกเล็กน้อยเมื่อข้าวต้มถูกจ่อมาริมฝีปากแดง เราเองก็นึกว่าคนตัวสูงจะตักกินเองเสียอีก ใบหน้าหล่อเหลาเพยิดขึ้นเล็กน้อยเหมือนบอกว่าให้รีบกินได้แล้ว




                    จีฮุนรู้สึกเหมือนจะเป็นมือไม้อ่อนแรงก็คราเนี่ย ในเมื่อร่างสูงเหมือนจะเป็นมือเป็นเท้าค่อยทำนู้นทำนี่ให้ตลอดรวมถึงการป้อนข้าวในตอนนี้ด้วย ปากสีแดงอ้างับเข้าที่ช้อนก่อนแก้มกลมจะเคี้ยวตุ๋ยๆ จนน่าหยิก มันเป็นแบบนี้ไปรื่อยๆ ไม่เร่งรีบจนข้าวต้มพ่องไปเกือบครึ่งชาม




                    ไม่กินหรอ เดี๋ยวหมดนะ



                    เป็นห่วงหรอครับ




                    อื้อ ”




                    เหมือนโดนฮุกด้วยหมัดหนักๆ ประธานนักเรียนสุดหล่อโดนน็อคเอาท์แบบตายกันข้างหนึ่งไปเลยด้วยคำตอบที่แสนจะสั้นแต่มีคุณค่าทางจิตใจเหลือเกินจากตอนแรกที่เป็นฝ่ายแกล้งกวนร่างบางตรงหน้าด้วยประโยคคำถามที่ร่างสูงไม่รู้เลยว่ามันตรงกับความรู้สึกจริงๆ ของคนตัวเล็กขนาดไหน




                    ีฮุนเป็นห่วงเหมือนกัน …



                    จะมัวดูแลแต่จีฮุนไม่ได้นะ




                    งั้นกินด้วยได้มั้ยครับ ” จีฮุนจ้องมองคนตัวสูงข้างๆ ที่ตอนแรกดูจะนิ่งไปหลังจากได้ยินคำตอบจากจีฮุนไปแต่พอมาคำถามต่อมาแววตาเขาก็เปลี่ยนไปมันดูแพรวพราวชอบกล



                    กินเลยๆ ”




                    เปลือกตาสีมุกหลับปี๋ทันทีเมื่อจู่ๆ คนตัวสูงก็โน้มตัวมาหาเรื่อยๆ จนแผ่นหลังบางตอนนี้นอนราบไปกับโซฟาตัวใหญ่แล้ว




                    งับ!




                    แถมแก้มกลมนุ่มนิ่มตอนนี้ยังถูกริมฝีปากอิ่มของร่างสูงงับเข้าเบาๆ แถมยังดูดดุนราวกับมันคือมาชเมลโล่หอมหวานส่วนปลายจมูกโด่งยังคงทำหน้าที่สูดกลิ่นหอมตามเนื้อนวลของคนตัวเล็กอย่างไม่บกพร่องอีกด้วย




                    อื้อ นึกว่าจะกินข้าว ” มือน้อยๆ ไม่รู้จะทำยังไงเลยได้แต่เอาทาบไว้ที่อกแกร่งของคนตัวสูงที่อยู่ด้านบน




                    นี่ไงกินอยู่ ” ร่างสูงผลักออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองเห็นคิ้วเรียวสวยของคนใต้ร่างขมวดเข้าน้อยๆ ทำหน้ามึนงงตามประสาก่อนรอยยิ้มมุมปากจะเผยให้เจ้าตัวเล็กได้เห็น




                    แต่นี่แก้มเรา กินได้ที่ไหนกัน




                    กินได้เหมือนกัน อิ่มด้วย ” เซนยันตัวลุกนั่งเหมือนเดิม มือแกร่งสองข้างว้าแขนเล็กดึงขึ้นมานั่งดีๆ เหมือนเดิมก่อนจะเห็นหน้าตามึนงงเหมือนชิบะอีกครั้ง สายตาคมจ้องมองคนตัวเล็กไม่วางตาพร้อมกับเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อปลดสิ่งๆ นึงที่ห้อยอยู่ที่ลำคอออกมา




                    สิ่งที่สะท้อนอยู่ในนัยส์ตาใสแป๋วคือสร้อยแบรนด์ TIFFANY & CO ที่ตัวจี้ตรงกลางจะเป็นวงกลมเล็กๆ ห้อยอยู่ สายสร้อยที่เป็นทองคำขาวเรียบหรูระยิบระยับสะท้อนรับกับโคมไฟสีเงินตรงกลางห้องได้อย่างสวยงาม




                    ตอนนี้มันถูกสวมเข้าที่ลำคอระหงของพัคจีฮุน….




                    เด็กชายน่าตาน่ารักตรงหน้าของเซนแห่งเซดริก….




                    รู้หรือเปล่ ว่ารัก…. ”




                    ดวงตากลมโตเบิกกว้างถึงประโยคที่ร่างสูงเอ่ยออกมาจากริมฝีปากอิ่ม มันจะเป็นคำถามหรือมันจะเป็นคำสารภาพ แต่ที่แน่ๆ มันมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจจีฮุนเหบือเกิน




                    ราวกลับโลกทั้งโลกหยุดหมุนรอบตัวเราทั้งสองคนเงียบเชียบ แต่ภายในหัวของจีฮุนมีแต่เสียงทุ้มอ่อนโยนเอ่ยประโยคเมื่อกี้วนซ้ำไปซ้ำมา สมองและความรู้สึกในตอนนี้มันถูกโฟกัสแค่ใบหน้าหล่อเหลาที่มีแววตาคมจ้องมองมาอย่างจริงจังเท่านั้น




                    จีฮุนไม่รู้… ไม่รู้เลย…





               น้ำเสียงหวานตอบกลับแผ่วเบาเหลือเกินแต่กลับชัดเจนสำหรับควานลินยิ่งกว่าอะไร มือน้อยๆ ยกขึ้นมาจับเครื่องประดับที่ห้อยอยู่บนลำคอตัวเองเบาๆ ก่อนจะก้มมองพินิจดูอย่างตั้งใจ แม้จะดูเรียบๆ แต่ตั้งใจที่ร่างสูงมอบให้อาจจะมีมูลค่าที่มากมายและลึกซึ้งกว่าราคาของมันแน่ๆ




                    เมื่อนึกย้อนไปในทุกเหตุการณ์ตั้งแต่แรก ทั้งการกระทำที่ชัดเจนและความเป็นห่วงจนมาถึงตอนนี้ จีฮุนจะตอบว่ากลัวได้หรือเปล่าเพราะอีกคนเป็นถึงเซนแห่งเซดริกแต่เขากลับเป็นแค่เด็กชายที่อ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น




                    งั้นอยากรู้ไว้ … ”



                    




                    ไลควานลินรักพัคจีฮุน. ”




                    สายตาที่มีความหมายหลายๆ อย่างถูกส่งมาให้คนตัวเล็กได้รับรู้ เด็กชายจีฮุนตัวน้อยพยักหน้าเข้าใจเบาๆ โดยมีน้ำสีใสคลอที่แก้วตากลมโตที่สวยหวานและอีกไม่นานมันต้องไหลลงมาแน่ๆ




                    มือแกร่งถูกเจ้าของยกขึ้นมาลูบเบาๆ ตรงหัวทุยๆ สีคาราเมลก่อนจะเลื่อนมากุมแก้มนิ่มตุ่ยๆ ทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไว้ ปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยก้อนนุ่มนิ่มไปมาคล้ายจะปลอบประโลมก่อนจะโน้มหน้าไปประทับจูบแผ่วเบาตรงริมฝีปากระเรื่อน่าเอ็นดูอย่างไม่มีการล่วงเกินหรือลุกล้ำใดๆ




                    ให้มันช่วยยืนยัน




                    ว่ารักมากขนาดไหน…





    ---





    ซาหวักลีค่าาทู้กคลล <3

    ตอนนี้ก็จะมีแต่หลินฮุน อิอิ
    ไรต์ชอบอัพเวลาประมาณนี้ตลอดเลยไม่รู้เป็นไร หวังว่าทุกคนที่รอจะยังไม่หลับกันโน้ะ 

    ถ้ายังไม่หลับก็ช่วยไปบอกระดับความเขินให้ไรต์ได้ชื่นอกชื่นใจด้วยเน้าะ
    จะบอกในคอมเมนต์ให้กำลังใจหรือสกรีมแท็กฟิค #แพ้แล้วหลินฮุน ก็ได้นะคะ
    สุดท้ายนี้ รักส์ <3 บ้ายบาย


    1 COMMENT 1 HEART OR TAQS #แพ้แล้วหลินฮุน


















    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×