ข่าวดีที่ส่งไปไม่ถึง
เรื่องสั้น คร่าเวลา
ผู้เข้าชมรวม
131
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
บนหน้าต่างชั้นห้าของหอพักนักศึกษาสีเหลืองนวลตั้งเด่นอยู่หลังมหาวิทยาลัย หากนับจากทางด้านขวามือจะเป็นห้องที่สี่แต่นับจากทางซ้ายมือจะเป็นห้องที่เจ็ด ห้องที่พบเงา นิ่งคล้ายชิงช้าที่ไม่มีคนไปแกว่งไกวแต่กระดิกเล็กน้อยเมื่อมีลมพัดพา เงาของนักศึกษาสถาปัตย์ชั้นปีห้าที่กำลังเขียนแบบส่งอาจารย์เพื่อรับการตีตราว่าเขานั้นสำเร็จการศึกษาแล้ว
อีกไม่กี่สัปดาห์ หลายคนกำลังเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนไปดื่มด่ำในราตรีสุดท้ายของปี และร่วมเฉลิมฉลองกับเช้าของศกใหม่ที่ทุกคนรอคอย
ธารากำลังรอเทศกาลนั้นอยู่ นานเท่าไหร่แล้วที่หนุ่มสถาปัตย์คนนี้ไม่ได้กลับบ้านไปเจอหน้าพ่อเขา สงกรานต์เมื่อสองปีก่อนเขากลับไปงานศพแม่ของตน และตอนนี้เขาอยู่ที่หอพักนักศึกษาในมหาวิทยาลัยซึ่งห่างไกลจากบ้านเขามาก มากเสียจนไม่สามารถหาค่ารถสายใต้ไปกลับได้บ่อย ๆ ทำได้เพียงส่งความคิดถึงผ่านจดหมายฝากไปกับบุรุษไปรษณีย์ เพราะพ่อของธาราเริ่มเข้าสู่วัยชรา จดหมายที่ถูกส่งจากลูกชายนั้นทำได้เพียงอ่านเพื่อรับรู้ความรู้สึกของลูกชาย แต่ไม่อาจตอบกลับไปได้ด้วยระดับการศึกษาแค่ชั้นป.4 หากถามถึงเรื่องเทคโนโลยีคงต้องบอกว่าแม้แต่ชื่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ก็ไม่อาจทราบ และพ่อของเขาคงคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับคนจนที่ให้ลูกกู้เงินเรียน
หลังจากธาราสูญเสียแม่ไป ทำให้เหลือร่มโพธิ์ร่มไทรเพียงต้นเดียวที่ยังมีลมหายใจ เขาตัดสินใจกลับมาเรียนต่อจนกระทั่งขึ้นปีห้า ระหว่างสะสางงานชิ้นสุดท้าย เขาเขียนสิ่งที่ต้องทำติดบนผนังห้องสีขาวด้านหน้าโต๊ะทำงานไว้ว่า “ต้องกลับไปหาพ่อในวันหยุดยาวนี้ให้ได้” เงินทุกบาทถูกเก็บหอมรอมริบเอาไว้มากพอจนทำให้เขามั่นใจที่จะกลับไปซบอกอุ่น ๆ ของพระในบ้านผู้ให้กำเนิด
ช่วงอาทิตย์ก่อนหน้าเทศกาลปีใหม่ เรื่องไม่คาดฝันที่ใครหลายคนไม่คาดคิด
ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเหมือนคลื่นที่โหมทำลายชายฝั่งทะเลในชั่วพริบตา โรคระบาดใหญ่ถือกำเนิดขึ้น หลายคนว่ามันคือปีศาจร้ายกำลังฆ่าชีวิตผู้คนบนโลก หลายคนว่าคำสาปของพระเจ้ากำลังลงโทษมนุษย์ ธาราก็เชื่อแบบนั้น เพราะไม่ใช่แค่พิษของโรคร้ายที่กัดกินอวัยวะในร่างกาย แต่มันมีกระแสคลื่นจาง ๆ ที่ส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตเป็นวงกว้าง และเริ่มกัดกร่อนจิตใจของเขาไปอย่างช้า ๆ
“รัฐบาลสั่งห้ามเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส” เสียงประกาศจากโทรทัศน์ดังขึ้นบนห้องในหอพักของธารา
ก้อนเนื้อตรงกลางอกที่ออกจะเยื้องไปทางซ้ายของเขาเหมือนกำลังสลาย น้ำใส ๆ ไหลรินออกจากดวงตาทั้งสองข้าง ผ่านมาที่แก้ม ไหลหยุดพักที่คาง และหยดลงพื้นด้วยความถี่สูงจนเห็นเป็นสายเดียว
ข่าวดีไม่ได้เขียนผ่านจดหมาย เพราะตั้งใจจะไปบอกด้วยปากของตัวเองว่าลูกชายของพ่อเรียนจบแล้ว ความห่วงใย ประกอบกับความรู้สึกผิดที่ธาราไม่ได้กลับไปหาผู้บังเกิดเกล้าเลย มันวิ่งชนกันอย่างชุลมุนอยู่ในหัวใจของเขา
“พ่อต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ อีก 2 ปีผมเรียนจบแล้วจะรีบกลับมาหาพ่อ” ธาราเคยให้คำมั่นสัญญาไว้ให้ท่านสบายใจ มันคงต้องถูกเลื่อนไปหลังปีศาจร้ายนี้หมดฤทธิ์ลง ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเพียงใดเหมือนกัน
………………………………….…
“คุณมิ่งเสียชีวิตแล้วนะครับ...” เสียงโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่กู้ภัยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ว่าพ่อของเขาตายเพราะติดเชื้อจากคำสาปนั่น โรคร้ายเล่นงานพ่อธาราอย่างทุกข์ทรมานในบ้านเกิดหลังนั้นโดยไม่มีใครรับรู้ จนกระทั่งส่งกลิ่นเน่าคละคลุ้งอย่างรุนแรงทำให้ถูกพบร่างไร้วิญญาณ
จากความเสียใจ กลายเป็นความด้านชา ธาราจ้องวิทยานิพนธ์ที่เพิ่งปิดเล่มไปไม่กี่วันก่อน ความดีใจที่ตนประสบความสำเร็จนั้นได้จางหายไปอย่างช้า ๆ
กลับบ้านไปครั้งนี้มันคงพิเศษกว่าครั้งก่อน ๆ เพราะพ่อที่เขาคิดถึงสุดหัวใจจะกลายเป็นเถ้ากระดูกที่ไม่เหลือไว้เพียงเค้าโครงเดิมของร่างกายเลย
ห้องสี่เหลี่ยมนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายความสูญเสียตลบอบอวลไปทั่วไม่มีทางระบายออกไป และมันคงอัดอยู่ในนี้ไปสักระยะ
Twitter : @Mybollod
Faceboook : Bollod
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ bollod ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ bollod
ความคิดเห็น