After Our Decade Series A : โลกสุริยคราสครึ่งวง เล่ม 1-3 - นิยาย After Our Decade Series A : โลกสุริยคราสครึ่งวง เล่ม 1-3 : Dek-D.com - Writer
×

    After Our Decade Series A : โลกสุริยคราสครึ่งวง เล่ม 1-3

    โดย SixmaR.J

    แมรีลิน กันยาผู้ถูกตราหน้าว่าตนคือแม่มดผู้นำพาซึ่งหายนะ หล่อนสิ้นศรัทธาต่อทุกสรรพสิ่งที่ตนเองเคยเคารพ ความสูญเสียได้นำพาหล่อนมาพบกับตาแก่ผู้มีทักษะการเอาตัวรอดเป็นยอดที่จักปัดเป่าโชคร้ายออกไป

    ผู้เข้าชมรวม

    2,499

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    17

    ผู้เข้าชมรวม


    2.49K

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    129
    จำนวนตอน : 64 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 เม.ย. 67 / 15:52 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    After 0ur Decade โหมโรง : โลกสุริยคราสครึ่งวง (เล่ม 1-3)

    ชื่อสัญลักษณ์ : เดกะ (Deka-Nulla) / ความหมาย : จุดเริ่มต้น หรือ เลข 0

    วันที่เปิดเรื่อง 15 ต.ค. 2563 โดย SixmaR.J (AzA)

    Writer's Signature ลงรายเซ็นไรท์เตอร์

    After 0ur Decade Series A -นิยายสไตล์ตะวันตก อัพเดทตอนรายสัปดาห์-

    แนวหลัก : ไซไฟ - แฟนตาซี (ติดดิน) / แนวรอง : ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกอ่านเล่มไหน

    เรื่องนี้เป็นนิยาย Original สำหรับนักอ่านสายเนื้อเรื่องจริงจังที่ชอบความท้าทายใหม่ๆ

    เป็นนิยายที่แทบจะไม่มีใครเหมือนแน่ๆ และไม่มีใครกล้าเขียนด้วย! เพราะมันตอบโจทย์นักอ่านเฉพาะกลุ่ม

    เหมาะสำหรับนักอ่านสายบ้า Lore (ชอบจักรวาลนิยายใหญ่ๆ เช่น HP,LOTR,GOT,DUNE) เดินเรื่องแบบไม่รีบ

    (50/50) แฟนตาซี / อิงความจริง

    สำหรับเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ควรมีผู้ปกครองให้คำแนะนำแก่ข้อมูลบางส่วน เนื่องด้วยเนื้อหาจะเอนไปกลุ่มนักอ่านผู้ใหญ่ การเรียบเรียงเส้นเรื่องหรือทามไลน์เนื้อเรื่องตัวละครเป็นสิ่งสำคัญเพื่อไม่ให้ชวนสับสน ควรแยกแยะให้ออกว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควร (ทุกตัวละครเทาหมด!) ไรท์จะไม่จูงมือรีดเดอร์ให้เดินตามนิยาย มีแต่ท่านที่ต้องตามมันเอง 

    ปรัชญา , ดื่มด่ำโลกนิยาย (Immersive) , วิธีการเล่าเรื่องอาร์ทๆ (แฝงเมซเสจลึกซึ้งแต่ต้องตีความ) , และวัฒนธรรม นิยายเรื่องนี้มีสิ่งที่เกริ่นไปให้คุณกระดกอิ่มแน่นอน 

     

     สว่าง Utopia  (ตีมที่ให้อารมณ์เบาสมองในแบบที่แตกต่าง, มีกลิ่นอายดราม่าเล็กๆ) 

    Steam เล่าในเล่ม 1 ตัวละคร : อเดลลีน (สัญลักษณ์ Mars) : เศรษฐกิจการท่องเที่ยวท่วมล้น , การผลิตสินค้าส่งออกต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว , เรือเหาะไอน้ำขนาดยักษ์ที่สามารถแล่นผ่านมหาสมุทรได้ ให้กลิ่นอายวิคตอเรียน (ตีมนักบัลเลต์กลิ่นอาย Steampunk Victorian)

    Ray "1 ตัวละคร : แซม (Uranus) : การคมนาคมอวกาศทำได้อย่างลื่นไหล , อาณานิคมอวกาศในแถบดาวเคราะห์ชั้นใน , การผจญภัยหาขยะอวกาศเป็นที่นิยมเฉกเช่นกีฬาที่ควรค่าแก่การประกอบอาชีพ (ตีมไซไฟอวกาศ)

    Bios "1 ตัวละคร : โรลิน่า (Neptune) : สัญลักษณ์นี้แยกย่อยมาจาก Ray, การดัดแปลงพันธุกรรมเป็นเรื่องที่ปกติสำหรับชีวิตนอกอวกาศ , มนุษย์หน้าตาประหลาดสามารถพบได้ทั่วไป -หรือว่ามนุษย์เองนั่นแหละ คือ เอเลี่ยน??- (ตีมไซไฟอวกาศ นึกง่ายๆ คือ Valerian ในเวอร์ชั่นที่แฟนตาซีน้อยลง)

    Atomic “2 ตัวละคร : ยุนนา (Venus) : โลกแห่งความเอนเตอร์เทน (บันเทิง) , บุพการีสามารถเลือกให้บุตรเกิดมารูปร่างหน้าตาดีได้ ,  เมืองที่ทุกอย่างล้วนเป็นสีขาวสะอาดสะอ้านในยามที่แสงตะวันเฉิดฉาย (ตีมไฮเทค Eco-Friendly)

    Utopia = มุมโลกที่คนอยู่แล้วคิดว่า พวกเขาสบายใจและไม่อึดอัดเท่านั้น (High-life) ไม่ใช่ทุ่งดอกทานตะวัน Field of Reeds ที่ทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบไปเสียหมด

    อลม่าน Dystopia  (ตีมที่เป็นโทนสีเทามัวๆ ให้อารมณ์อึดอัด, ตื้นตันใจ, ลึกลับน่าขนลุก) 

    Diesel เล่าในเล่ม 1 ตัวละคร : ไบรซ์ หรือ ไบรอัน (Earth) : สงครามปะทุขึ้นในพื้นที่ทะเลทรายอาหรับ , แถบตะวันออกกลางเป็นแหล่งขุดหาพลังงานน้ำมันแห่งเดียวของโลก (ตีมสงครามทะเลทราย)

    Cyber "2 ตัวละคร : โรส (โรเซ่) หรือ ฮิโตะคิริ กาตานะ (Mercury) : ไม่มีข้อมูลส่วนตัวเหลือไปอย่าง , ฤดูฝนกรดที่แสนจะยาวนาน , หุ่นยนต์เริ่มมาแทนที่การงานของมนุษย์ (ตีมนิยาย Cyberpunk)

    Hymn "3 ตัวละคร : แมรี่ลิน (Pluto) : ย้อนกลับสู่ยุคล่าแม่มด , ฤดูกาฬไข้ห่ามรณะ , พายุหิมะคร่าสติ , ศรัทธาคือสิ่งเดียวในการเยียวยาใจ (ตีม Peroid ย้อนกลับไปเล่าช่วงยุคกลาง)

    Cattle "3 ตัวละคร : ตาลุงไร้นาม (Saturn) : ยาเสพติดแพร่ระบาดในแถบบ้านนอก , เกมพนันเสี่ยงชีวิต , แก๊งซิ่งมอเตอร์ไซค์สุดโฉดแห่ง Route 66 (ตีมอเมริกันคาวบอยผสม Mad Max)

    Dystopia = มุมโลกที่คนอยู่แล้วคิดว่า พวกเขาใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างไม่มีความสุขและล้อมรอบไปด้วยภัยอันตรายหลากหลายรูปแบบ (Low-life)  ทว่ามันยังคงซุกซ่อนความสวยงามเอาไว้ เพราะยังไงซะนิยายเรื่องนี้มันก็ไม่มีโลก Utopia หรือ Dystopia อย่างเห็นได้ชัดเจน  หรือถ้าจะพูดให้เห็นภาพคือหยิน-หยางน่าจะชัดเจนสุด

     

    *โลกสุริยคราสไม่ได้หมายความว่าดวงอาทิตย์จะถูกทับด้วยดวงจันทร์*

    แต่มันคือการแบ่งแยกโลกระหว่างความสงบสุขกับความอลหม่าน (Utopia และ Dystopia)

    และจงอย่าลืมฟั่นเฟือน : ทุกเล่มจะเปิดด้วย Dystopia ก่อนเสมอ

    --------------------------------------------------------------------------------------------------

    SERIES A → F  / Story Roadmap \

    ไตรภาค Series A ไม่จำเป็นต้องอ่านเรียงลำดับเล่ม ท่านสามารถเริ่มตรงไหนก่อนก็ได้โดยทุกเล่มจะมีจุด Reference (โยง) เชื่อมกันอยู่ 10 ถึง 40% และไม่ควรอ่านนิยายหลายเรื่องสลับกับเรื่องนี้ (แนะให้ยิงยาวรวดเดียวจบเล่มไปเลยดีที่สุด) เดี๋ยวกลับมาอีกทีจะงงฉิบหายว่าอะไรเป็นอะไร ตัวละครเยอะแถมดีเทลโลกนิยายเยอะอีก

    ที่ไรท์แนะนำให้อ่านคือเริ่มอ่านจากเล่ม 2 → 1 → 3 ตาม Timeline ในเรื่อง

    ข้อมูล เล่ม 1 After : ช่วงเวลา (พร้อมลิงก์ E-Book) แอคชั่นน้อยแต่ต่อยหนัก, โรแมนติกปนดราม่า เหมาะกับนักอ่านสาย Slow Burn, ที่สุดของเล่มนี้คือการจบแบบค้างเติ่งจนทุกคนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ห๊ะ? มึงจบงี้เลยเหรอ!” ถึงอย่างงั้นก็เถอะ เล่มนี้ถือคือจุดอธิบาย Lore ใหญ่ๆ ให้ทั้ง 2 เล่มที่จะตามมาจากนี้เลยดังนั้นห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะ Series B จะสานต่อจากปมของนางเอกเล่มนี้โดยเฉพาะ

    พาร์ท 1 After : ช่วงเวลา (ReadAWrite / MEB E-Book / Fict'log) ตอนที่ 1-27

    ดำเนินแบบชีวิตประจำวันปนกลิ่น Hope Romantic (60% คือนิยายคุย! 120,000 คำ)

    *เนื้อเรื่องโดยรวมคือการเกริ่น ว่าจักรวาลนิยายเรื่องนี้มีอะไรให้คนอ่านสามารถจับต้องได้บ้าง*

    ข้อดีของเล่มนี้ : ตัวละครเอก 4 ตัวที่ทำออกมาได้น่าจดจำ, ตัวเอกเก่าที่ต้องเดินเส้นเรื่องต่อจากตัวเอกใหม่เลยทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจ, ปูพรมสู่โลกนิยายอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่ชวนออกค้นหา รวมถึงปู Gadget (อุปกรณ์สุดล้ำต่างๆ) ที่ตัวละครเอกอาจจะต้องใช้ในอนาคต เช่น ……จุๆ ไม่สปอย…… 

    พาร์ท 1 จะมาในตีมช่วงเวลา แน่นอน! ช่วง Flashback ตัวเอกเยอะแน่ๆ แล้วการใส่ฉาก Flashback จะมาในแบบที่ไม่ซ้ำกันด้วย เพราะฉากย้อนอดีตคือเสน่ห์หนึ่งในการเล่าเรื่องของเล่มนี้

    ข้อเสีย : เนื้อเรื่องช่วงแรกของตัวเอกอย่างไบรซ์ค่อนข้างอืด, ตอนจบแบบทิ้งปมค้าง บังคับให้ต้องอ่านเล่ม 3 ถึงจะคลาย, เนื้อเรื่องทำมาเพื่อปูเส้นทางไป Series B โดยเฉพาะ, ตัวละครหลักมี 4 ตัวซึ่งมากกว่าเล่มอื่นๆ ที่มี 2 (บางครั้งก็เฉลี่ยบทบาทไม่เท่ากันในช่วงท้ายเรื่อง), ช่วงหลังจะให้อารมณ์คล้ายนิยายโรแมนติกทำให้ตอนจบนั้นดูธรรมดามากหากเทียบเล่ม 2 กับ 3

    พาร์ทนี้ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ Full Metal Jacket, Girl 2018, และ Star Trek

    ข้อมูล เล่ม 2 Our : จิตวิญญาณ (พร้อมลิงก์ E-Book) แอคชั่นดิบและบ่อย, ดราม่าระดับซีรีส์แบบเล่นกับอารมณ์ได้น่าตบสุดๆ, เล่มนี้มีตัวร้ายหลักชัดเจนกว่าเล่มไหนๆ, สนุกสุดเท่าที่ไรท์เขียนมาจนถึงกับต้องทำนิยาย Standalone (Series \8/) และเนื้อหาตอนพิเศษของตัวละครสำคัญ

    พาร์ท 2 0ur : จิตวิญญาณ (95,000 คำ / กระชับเนื้อเรื่อง) ตอนที่ 28-48

    พลิกโลกมาทวีปเอเชียกันบ้าง เนื้อเรื่องเริ่มมีกลิ่นแอคชั่นเข้ามาเล็กน้อย

    *เป็นเรื่องราวที่ไรท์ยกเรื่องใกล้ตัวทุกคน อย่างปัญหาหุ่น AI แทนที่ทรัพยากรมนุษย์มาเล่า*

    “อยากบอกว่าฉากต่อสู้ดิบมาก เล่มนี้ยิ่งพระเอกเป็นหุ่นยนต์คือทนมือทนตีน เทียบกับนางเอกนี่คนละขั้วเลย….น่ารักกวนตีน xD เนื้อเรื่องโดยรวมลึกซึ้งกินใจเพราะเล่มนี้ใช้ตีม จิตวิญญาณ 

    แถมการพัฒนาตัวละครนี่เริ่มตั้งแต่ 0 → 100 ประเด็นคือไรท์ยังลังเลอยู่ว่าพาร์ท 3 ที่บรรยายภาษาสระสลวยจะกลบเนื้อเรื่องพาร์ท 2 ได้รึเปล่า

    ข้อดีของเล่มนี้ : เอ่อ…. ข้างบนไรท์คงพูดไปหมดแล้วนะ เอ้อ! มีอีกอย่างสิ การแยกชีวิตโลกมืดกับโลกสว่างออกจากกัน ทำให้เราเห็นได้ว่าพระเอกกับนางเอกใช้ชีวิตแตกต่างกันขนาดไหน 5 ตอนแรกของพระเอกจะเดินเรื่องตอนกลางคืนเยอะมาก ส่วนอีก 5 ตอนที่เปลี่ยนมาเล่ามุมนางเอกคือเช้าเน้นๆ ไปตีความเอาเองแล้วกัน

    ข้อเสีย : ตัวร้ายที่แลดูใช้น้อยไม่ค่อยคุ้ม, ช่วงกลางเรื่องจะมีกลิ่นอายของนิยายโรแมนติกมาคั่นให้นักอ่านผ่อนคลายความตึงจากเนื้อเรื่องที่เพิ่งเครียดมาหมาดๆ ช่วงสลับมุมมองเป็นนางเอก และเราจะไม่ได้เห็นโมเม้น-หวานจิ้นของพระเอก-นางเอกเหมือนเล่มแรกเท่าไหร่ แต่จะเห็นความสัมพันธ์อบอุ่นแบบพี่-น้องแทน, ส่วนใครที่อยากได้ความเชื่อมโยงกับเล่มแรกคงต้องผิดหวัง เพราะเนื้อเรื่องโดยรวมนั้นไม่ได้เชื่อมต่อกับเล่มแรกมากนักเนื่องจากใช้เซ็ตติ้งในทวีปเอเชีย มิใช่ตะวันตกเหมือนเล่มแรก (เชื่อมแค่ 15%)

    การุญ  /\  เหี้ยม

    พาร์ทนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากมังงะ/อนิเมะ Akira, GITS, และ ซีรีส์ดราม่าเกาหลีรวมๆ ประกบกัน

    ข้อมูล เล่ม 3 Decade : ศรัทธา / โชคชะตา (กำลังดำเนินถึงช่วงท้าย) เนื้อเรื่องโดยรวมดิบแถมให้กลิ่นอายลึกลับกว่าสองภาคที่ผ่านมา,  ตัวเอกสะบักสะบอมลากเลือด, ภาษาเขียนที่สระสลวยจนถึงขั้นที่คนอ่านเองยังต้องใช้ตัวช่วย (มีฉากนึงมาเป็นกลอน xD) และสานต่อตอบจบที่โคตร “ห๊ะ?” ของเล่มแรก (สรุปให้คือเอาข้อดีเล่ม 1 เติมเต็ม Lore + เล่ม 2 กระชากอารมณ์นักอ่าน)

    พาร์ท 3 Decade : ศรัทธา / โชคชะตา (กำลังดำเนิน) ตอนที่ 50-???

    เนื้อเรื่องออกแนวโบราณๆ โดยจะเล่าในยุคล่าแม่มดและชีวิตนักบิดทะเลทราย

    ช่วงสุดท้ายของพาร์ท 3 จะสานต่อตอนจบของ 2 พาร์ทที่แล้วแน่นอน โดยไรท์จะจำกัดมุมมองการเล่าแค่ในกรอบตัวเอกของพาร์ท 3 เท่านั้น  คนที่ยังไม่ได้อ่าน 1-2 จักได้ไม่ต้องกังวลแต่ถ้าอ่านมาก่อนคงฟินกว่านี้ และอย่าให้ไรท์ต้องพูดถึงบทบรรยายช่วง 7 ตอนแรก “เพรียกใช้พจนานุกรมเสียหน่อยจักอำนวยยิ่งเจ้าคะ” พีเรียดจ๋า และแน่นอนธีมพาร์ทนี้คือศรัทธา …… มันต้องใช้วิจารณญาณหนักสุดกว่าทุกพาร์ทอยู่แล้ว ทุกคนรู้แก่ใจ

    ข้อดีของเล่มนี้ (อาจเปลี่ยนเมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไปสักระยะ) : ภาษาสวยขึ้น, ตัวเอกเก่งแต่ไม่ถึงขั้นไร้เทียมทานเหมือนโรสในเล่ม 2 (ไอ้ตัวนั้นกระสุนแทบทำอะไรไม่ได้เลย xD) ,เนื้อหาติดดินพอสมควรเพราะพาร์ทนี้เทคโนโลยีอนาคตแทบไม่ได้แตะ (แฟนตาซี-ไซไฟ ไม่ใช่ ไซไฟ-แฟนตาซี), เคมีของตัวเอกทั้งสองที่ไม่แพ้พาร์ท 2 (คล้ายเกม TLOU), การคลายปมที่ค้างคาของตอนจบพาร์ทที่แล้วได้น่าพอใจ, และท้ายที่สุด…..พวกเขาทุกคนจะกลับมา โดยช่วงองก์ 1-2 จะเป็นการแนะนำตัวละครเอกคู่สุดท้าย ส่วนองก์ 3 จะสรุปและขยายตอนจบเล่ม 1-2 ผ่านสายตาตัวละครเอกเล่มนี้ 

    ข้อเสีย (อาจเปลี่ยนเมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไปสักระยะ) : ภาษาสลวยสวยเก๋ขึ้นก็จริงแต่อาจจะมากเกินไปจนบางครั้งต้องพึ่งพจนานุกรมในช่วง 7 ตอนแรกเนื่องจากเนื้อเรื่องเป็นการย้อนอดีตไปช่วงยุคกลาง ค.ศ.1500 ก่อนจะดึงนักอ่านกลับมาในยุค 2070 เหมือนเล่มหนึ่ง-สอง, โดยเล่มนี้อาจจะมีเนื้อหารุนแรงกว่าเล่มก่อนๆ 2 เท่า เพราะด้วยเนื้อหาที่ติดดินของมัน (ตอนพรรณนาฉากบั่นคอในเล่ม 2 ยังไม่โหดอีกเหรอ?! ถ้าจำไม่ผิดเล่ม 3 น่าจะเป็นเล่มที่เห็นฉากพยายามฆ่าหรือฆ่ากันเยอะสุดแล้วมั้ง แขนขาด ยิงกบาล จับเผา มาครบ)

     

    พาร์ทนี้ได้แรงบันดาลใจจาก The Witch 2015 (น้องจอย~), Mad Max, และ Django

    Blessed are the meek for they will inherit the earth.

    (บุญของผู้มีใจอ่อนโยน เหตุว่าเขาจะได้ครอบครองแผ่นดิน)

    Blessed are they which do hunger and thirst after righteousness.

    (บุญของผู้โหยหาความชอบธรรม เหตุว่าเขาจะได้รับความอิ่มหนำสมบูรณ์)

    BEING THE GOOD SAMARITAN FOR THE DEATH TO BE CONCEIVED

     

    Status : เล่ม 3 ศรัทธา / โชคชะตา - ส่วนที่ 10 : โลกสุริยคราสครึ่งวง

    Status ตอนล่าสุด : ตอนที่ 64 : โลกสุริยคราสครึ่งวง บทที่ 14 : แก้วตาดวงใจ (v.2)

     

    *หมายเหตุ (นักอ่านหน้าใหม่ห้ามข้ามเด็ดขาด!!!)*

    *นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่ง โดยมีการนำประวัติศาสตร์มาดัดแปลง*

    *ตัวละครทุกตัวถูกสร้างขึ้นและไม่ได้อิงจากชีวิตใคร ยกเว้นชื่อบุคคลอ้างอิง 1900-1990s เช่น เอลวิส*

    *สถานที่ (ยกเว้นชื่อประเทศ, รัฐ-เมือง, แลนด์มาร์ก, ดวงดาว) ไรท์อุปโลกน์ขึ้นมาทั้งหมด*

      [สิ่งที่ควรระวังในการอ่าน โดยเฉพาะเนื้อหาในสัญลักษณ์ DYSTOPIA]

      มีเนื้อหาพรรณนาถึงความรุนแรงและสื่อถึงการฆาตกรรม, การใช้เทคโนโลยีดัดแปลงร่างกายมนุษย์อย่างผิดจริยธรรม Body Horror (เล่ม 2), เนื้อหาที่เกี่ยวกับความเชื่อและโยงศาสนา (เล่ม 3), ภาษาที่สื่อถึงการเหยียดรูปแบบต่างๆ (เล่ม 3 ยิ่งพระเอกเป็นคนผิวดำ), และฉากที่ตัวละครใช้สารคล้ายสิ่งเสพติด แถมยังมีการใช้มุกสำหรับผู้ใหญ่กับฉากร่วมรักเบาๆ (อันนี้เห็นได้ชัดในเล่ม 1 ส่วนที่ 3 Ray & Bio) 

     

    เสริม : ทำไมไรท์ถึงเรียกผิวดำแทนที่จะใช้ผิวสี เพราะหากเป็นบริบทของคนไทยอาจเห็นว่ามันสุภาพที่เรียกแบบนั้น แต่จริงๆ ผิวสีคือการเรียกเหมารวมกลุ่มคนที่ต่างจากคนผิวขาว 

    People of Color

    เอเชีย = ผิวโทนเหลือง / แอฟริกัน = ผิวดำ-มืด-คล้ำ / อินเดียไปอาหรับ = ออกแขกๆ

    คำว่า “Black People (คนดำ)” เป็นสิ่งที่คนต่างชาติปกติเค้าใช้กัน หรือถ้าสุภาพกว่านี้คงต้องเรียก 

    “แอฟริกัน (แต่ก็ใช่ว่าคนแอฟริกันจะมีแต่ประชากรผิวดำเสมอไปนะ)” ถ้าเราเรียกคนดำว่าผิวสีมันก็เหมือนเป็นการสื่อว่า เราเกรงใจเขาและรู้สึกกลัวว่าเราจะปฏิบัติกับเขาไม่เท่าเทียม ทั้งที่ในใจของคนดำเขาก็คิดว่า “ไอก็คนเหมือนยูแค่ผิวดำจะเหมารวมไอผิวสีทำมาย” คำว่าผิวสีนี่แหละที่แสดงถึงความไม่จริงใจทั้งที่เรารู้ว่าเขามีผิวสีดำ แต่ทำไมเรากลับพูดอ้อมๆ กับเขาเชิงประมาณว่า 

    “ยูเป็น people of color นะ ยูอยู่ในกลุ่มต่างจากผิวขาว แต่ไอไม่อยากพูดว่าดำเพราะกลัวยูเจ็บ” 

    อ่าว~!~ เอายังไงละทีนี้! บางทีในสายตาเขาอาจฟังดูเหมือนประชดมากกว่าจริงใจด้วยซ้ำ

     

    แต่!!! แต่~ หากคุณไม่ใช่คนดำแล้วไปใช้คำว่า “นิโกร (N Word)” เรียกคนดำเมื่อไหร่……

    คุณมีสามทางเลือก 1.กราบเท้าเขางามๆ / 2.วิ่ง / 3.ก้มตัวน้อมรับส้นตีน!

    วัฒนธรรมคนตะวันตกจะตรงไปตรงมาต่างจากของไทยที่อ่อนน้อมถ่อมตนอันนี้ไรท์ทราบดี  ถ้าคนไทยได้ยินคนเรียก “เห้ย! ไอ้ดำ!” ก็ต้องใจแป้วบ้างแหละเนอะ เพราะส่วนมากคำนี้ของเราจะมาแนวบูลลี่ๆ ทว่าไรท์อยากสื่อทั้งสองมุมมองให้ทุกคนได้เข้าใจ  ยิ่งนิยายของไรท์ที่พยายามถ่ายทอดวัฒนธรรมมันควรตรงตามเจ้าของวัฒนธรรมอยู่แล้ว ถ้าไรท์ต้องเอามารยาทแบบไทยไปใช้ในนิยาย ลองนึกภาพคนดำที่สนิทสนมกันพูดสนทนา

    เดี๋ยวยกตัวอย่างประโยคคำแสลงที่คนดำในย่านแอฟริกัน-อเมริกันพูดเลยนะ

    Ex. “Yo! Homie~ What's up~ Big G Thang! Get ya nasty ass over here”

    1.แปลเวอร์ชั่นมีมารยาท : “เฮ้! สวัสดีพวกผิวสี~ ไง! บิ๊กจีแตงก์ มานี่หน่อยสิพวก” 

    2.เวอร์ชั่นของไรท์ : “โย่วพี่มืด! เป็นไงบ้างวะ~ บิ๊กจีแตงก์! ย้ายก้นแกมานี่ให้ว่องเลยไอ้กร๊วก!”

    ?????? อันไหนฟังดูแอฟริกัน-อเมริกันมากกว่ากัน ??????

    \\*-*-*-และใช่! โดยรวมคือนิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคนโลกสวยอย่างยิ่ง (ไม่ไหวก็ถอยปาย~)-*-*-*//

    *โปรดอ่านเพื่อความบันเทิงและอย่างมีวิจารณญาณ ไรท์ให้ความสำคัญและเคารพแก่ทุกชาติพันธ์ุ ความเชื่อ รวมถึงวัฒนธรรมต่างๆ แม้บางครั้งตัวละครอันเปรียบเสมือนตัวแทนชาตินั้นๆ บ้างจะถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบตัวร้ายก็ตาม แต่อย่าลืมว่านิยายเรื่องนี้เป็นสีเทา = ทุกคนคือฮีโร่ในฝั่งของตนเอง ไม่มีใครดีเลิศหรือย่ำแย่ไปเสียทั้งหมดหรอก แค่ไรท์เลือกเล่าในมุมมองกลุ่มตัวเอกเป็นหลัก

    บทสนทนาตัวละครจะถูกปรับให้เข้ากับภาษาไทย ทันสมัย & ไม่ลิเกจนเกินไป ส่วนใครว่าชื่อตอนหรือ Chapter ทั้งภาษาไทยกับอังกฤษมันดูแปลกๆ ทำไมอ่านแล้วฟังคุ้นหูก็ตามนั้นแหละเด้อสู

    #คำสบถแรงๆ จะใช้เป็นภาษาชาติของตัวละคร เช่น อังกฤษ,สเปน,จีน,เกาหลี, ฯลฯ 

    *ห้ามนำตัวนิยายไปดัดแปลง, คัดลอก, แคป, หรือแก้ไขเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์หากไม่ได้รับอนุญาตจากไรท์*

    Wallpaper : D.E.K.A Agents รุ่นที่ 2 

     

    สมาชิก

    1.ฮิโตะคิริ กาตานะ / โรส (AKA พระเอกเล่ม 2 ปล.ลูกรักไรท์เตอร์)

    Species : หุ่นยนต์ (Type Artificial Intelligence Android)

    สัญชาติ : ญี่ปุ่น

    ผม : ยาวปิดตาขวา สีเขียวนีออน (Series A ผมยาวพังก์ ส่วน B จะผมสั้น Tomboy)

    เพศ : ไม่ระบุแน่ชัด แต่มีลักษณะใบหน้าคล้ายผู้หญิงร่างกายผอมบาง ทว่าใช้คำเรียกตนว่า "ผม"

    อายุ : 1 ขวบ (อันนี้จริงจัง)

    ส่วนสูง : 175 cm (5'7 ฟุต)

    ทักษะพิเศษ : การต่อสู้และอาวุธระยะประชิดเป็นเลิศ, ร่างกายทนทานต่ออาวุธปืนเบา, ฉลาดรอบด้าน, ประสาทสัมผัสไวกว่ามนุษย์ปกติ 3 เท่า, ฐานข้อมูลเดินได้ + ดูดซับความรู้ได้ภายในเสี้ยววินาที

    จุดอ่อน : ระเบิด EMP, หรือคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งสามารถหยุดการทำงานของ CPU เจ้าตัวได้ชั่วขณะหนึ่ง 

    สรุปคือ : สาย Agility Rank S+


    2.ยูน ยอนฮวา / ยุนนา (AKA นางเอกเล่ม 2)

    Species : มนุษย์

    สัญชาติ : เกาหลีใต้

    ผม : ยาวประบ่า สีดำธรรมชาติไฮไลท์ชมพู / ชุดเครื่องร่อนจะมัดเปีย Pigtail เพื่อสวมหมวกได้

    เพศ : หญิง

    อายุ : 21 ปี

    ส่วนสูง : 165 cm (5'4 ฟุต)

    ทักษะพิเศษ : ทักษะด้านสสารและเคมีเป็นเลิศ โดยเฉพาะการใช้ระเบิด, ชอบแกะร่องรอยและคิดแผนสำรอง, ประสบการณ์เกี่ยวกับการบินด้วยเครื่องร่อนไม่เป็นสองรองใคร

    จุดอ่อน : เบาะบางด้านกายภาพ

    สรุปคือ : สาย Intelligence / Support Rank A


    3. ไบรอัน ว. ดิ๊กสัน / ไบรซ์ (AKA พระเอกเล่ม 1)

    Species : มนุษย์

    สัญชาติ : USA, California

    ผม : รองทรงต่ำ สีน้ำตาลเข้ม

    เพศ : ชาย

    อายุ : 31 ปี

    ส่วนสูง : 188 cm (6'2 ฟุต)

    ทักษะพิเศษ : ด้านกายภาพเป็นเลิศ, เชี่ยวชาญด้านยุทธวิธีและการวางแผน, มีประสบการณ์ในสนามรบและอาวุธปืนกลหนัก, ทักษะการขับขี่และดัดแปลงยานยนต์เหนือชั้น

    จุดอ่อน : ขี้กังวล (PTSD)

    สรุปคือ : สาย Offense / Strength Rank S


    4. อเดลลีน คาแล่น / อเดล (AKA นางเอกเล่ม 1)

    Species : มนุษย์

    สัญชาติ : England, UK

    ผม : ถักผมหางม้าสองข้างไว้บ่า (Twin tail) สีน้ำตาลส้ม

    เพศ : หญิง

    อายุ : 30 ปี

    ส่วนสูง : 175 cm (5'7 ฟุต)

    ทักษะพิเศษ : การดัดแปลงเศษเหล็กให้กลายเป็นอาวุธหรืออุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ, ทักษะด้านช่างกลเป็นเลิศเทียบหนึ่งในล้าน, การแทรกซึมด้วยอุปกรณ์ไฮเทค ทิเช่น หุ่นแมงมุมนาฬิกา, หิงห้อยหลอดไฟ, ฯลฯ

    จุดอ่อน : บอบบางด้านกายภาพ

    สรุปคือ : Intelligence / Support Rank A+


    5. + 6. แซมูเอล เอดก้า. เอดิสัน / โรลิน่า เอสทราด์ (สองตัวแสบแห่งเล่ม 1)

    Species : มนุษย์ / มนุษย์โคลนนิ่งหรือดัดแปลง

    สัญชาติ USA, Illinios / อาณาจักร Lyre (อาณานิคมดาวศุกร์)

    ผม : รองทรงสูงบนยาว สีน้ำตาลออกทอง / ผมบ็อบจรดคาง สีดำไฮไลท์น้ำเงิน (จริงๆ แล้วนางผมยาวแต่ใช้อุปกรณ์เก็บทรงให้เป็นทรงบ็อบได้)

    เพศ : ชาย / หญิง

    อายุ : 28 / 26

    ส่วนสูง : 180 cm (5'89 ft) / 177 cm (5'8 ft)

    ทักษะพิเศษ แซม : ทักษะการขับขี่ยานบินไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะการไล่ตามและหลบหนี สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีเยี่ยมเมื่อตื่นตัวสุดขีด

    ทักษะพิเศษ โรลิน่า : พลกำลังด้านกายภาพเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาสองเท่า, การสมานบาดแผลที่รวดเร็ว, ความสามารถในการโครงสร้างบนพื้นผิวให้คล้ายกับสัตว์ได้, สื่อสารกับสัตว์ได้อย่างง่ายดาย, การใช้เสน่ห์ในการเค้นข้อมูลจากผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย

    จุดอ่อน แซม : มักทำตัวมีปัญหาและไร้ซึ่งทักษะป้องกันตัว

    จุดอ่อน โรลิน : แม้จะเปลี่ยนสภาพภายนอกให้ดูคล้ายสัตว์ ทว่าก็ไม่สามารถแปลงเป็นสัตว์ได้โดยสมบูรณ์

    สรุป : Support Rank B / Carry Rank S


    7.ตาแก่ไร้นาม / ลุงเคราโฉด ปัจจุบันเปิดเผยแค่ชื่ออักษรตัวแรก H….. (AKA ตัวเอกเล่ม 3)

    Species : มนุษย์

    สัญชาติ : USA, Louisiana, New Orlean

    ผม : ดำสกินเฮด

    เพศ : ชาย

    อายุ : 40 ตอนปลาย

    ส่วนสูง : 193 cm (6'35 ft)

    ทักษะพิเศษ : ทักษะแม่นปืนโดยเฉพาะการใช้อาวุธระยะไกล, ประสบการณ์ชีวิตมากกว่าใครอื่น, เป็นที่ปรึกษาให้กับทุกคน, เข้าใจในวิถีชีวิตคนยุคเก่าและสามารถแทรกซึมเข้าไปในสถานที่ที่ห่างความเจริญได้อย่างไม่ยากเย็น

    จุดอ่อน : ร่างกายที่เริ่มเสื่อมไปตามกาลเวลา

    สรุป : สาย Offense 5 ดาว S+


    8. แมรีลิน บาริธา. เฮนเนส หรือ ซิสเตอร์แมรี่ (AKA นางเอกเล่ม 3)

    Species : มนุษย์

    สัญชาติ : ???

    ผม : ผมยาวหยิกปลาย สีเหลืองจำปาธรรมชาติ

    เพศ : หญิง

    อายุ : 30 ต้นๆ

    ส่วนสูง : 173 cm (5'7 ft)

    ทักษะพิเศษ : ทักษะการใช้พลังจิตที่สามารถพลิกแพลงสถานการณ์ได้ ,มีอำนาจในการควบคุมจิตใจผู้อื่นชั่วคราว,  อดีตคือแม่ชีโบสถ์ จึงสามารถกลมกลืนในพื้นที่ที่เคร่งความเชื่อได้โดยไม่ถูกจับผิดใดๆ

    จุดอ่อน : อำนาจวิเศษที่นางได้รับมานั้นคือเหรียญสองด้าน ยิ่งใช้พลังจิตมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนล้า เริ่มจากอาการเส้นเลือดฝอยแตกไปจนถึงขั้นสติหลุด และอาจเป็นอันตรายต่อมิตเองด้วยเช่นกัน

    สาย :  Support A+


     

    O' Father of The Afterlife. 0ur Judgment Has Risen, Soon The High Table Will Fall And Thou Shalt Prevail Afresh In a New Decade. (บรรพบุรุษผู้ล่วงลับเอ๋ย~ คำพิพากษาของผองเราได้เป็นที่ประจักษ์แล้ว  มินานนักหรอก เบื้องบนแห่งทิศทั้งแปดจักต้องมลายและท่านคือผู้กำชัยครั้นสุริยาใหม่ผงาดขึ้น

    มันคือการแย่งชิงถ้วยรางวัลระหว่างคนสองกลุ่ม  ผลงาน! ไม่มีใครดีหรือแย่กว่ากัน….เพราะแนวคิดในการรังสรรค์งานนั้นแตกต่างจนเข้ากันไม่ได้  สุดท้ายแล้ว~ มันก็จบที่ว่าผลงานของใคร! สมควรได้รับรางวัลมากกว่าเท่านั้นครับกล่าวโดย อาเธอร์ คริสตอฟ์. แวนดราน ประธานบริหารแห่ง A.R.C.I American

     

    Legacy Portrait

    ผู้บริหาร A.R.C.I รุ่นที่ 3 : Arthur Christoph. Vandran

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น