[ LARYNGITIS]#จิงโจ้จับอีกา
เหตุเกิดจากน้าเอ๊ะป่วย และผลิตไปไลค์รูป แค่นั้นแหละ(...)
ผู้เข้าชมรวม
1,885
ผู้เข้าชมเดือนนี้
17
ผู้เข้าชมรวม
***ฟิคเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการที่น้าเอ๊ะแอดมิทเข้าโรงพยาบาล***
เขาเกลียดโรงพยาบาล
แหงล่ะ คงไม่มีคนสติดีที่ไหนชอบนอนเล่นอยู่ในโรงพยาบาลหรอก
เขาเกลียดกลิ่นยา เกลียดกลิ่นแอลกอฮอล์
เกลียดหมอกับพยาบาลที่คอยมาถามเซ้าซี้เขาตลอดทุกๆชั่วโมง แต่เกลียดยิ่งกว่าคือการที่ต้องมานอนฟังน้องสาวตัวดีนั่งบ่นโดยที่เขาเถียงอะไรกลับไปไม่ได้เลยสักคำ
“น้องบอกพี่แล้วนะว่าช่วงนี้ให้เพลาๆการใช้เสียงบ้าง เป็นไงล่ะ
เข้าโรงพยาบาลเลย สมน้ำหน้ามั้ยล่ะ” ประโยคนี้พูดซ้ำมาแล้วสองรอบ
“เสียเงินค่าพยาบาลโดยใช่เรื่องอีก แถมยังต้องหยุดงานนานกว่าเก่าด้วย
ไหนน้องจะต้องลางานมาหาพี่อีก เงินเดือนนี้ยิ่งช็อตๆอยู่” นี่ก็พูดซ้ำมารอบนึงแล้ว
“น้องจะบอกพ่อกับแม่ แล้วก็จะไม่ช่วยพี่แก้ตัวด้วย”ประโยคนี้---เฮ้ย! อย่าบอกนะ!
ชายหนุ่มเด้งตัวขึ้นจากเตียงทันทีเมื่อน้องสาวตัวดีกล่าวอ้างถึงบุพการี
เขาจะให้พ่อกับแม่รู้ว่าเขาเข้าโรงพยาบาลไม่ได้เด็ดขาด! แค่เขาไม่ยอมไปทำงานที่บริษัทแล้วหนีมาทำอาชีพร้องเพลงตอนกลางคืนแค่นี้ก็แทบจะตัดขาดพ่อแม่ลูกกันอยู่แล้ว
ขืนรู้ว่าเขาใช้เสียงจนคออักเสบอีกงานนี้มีหวังโดนห้ามแบบเด็ดขาดแน่!
คุณน้องสาวยืนเท้าสะเอวแล้วฉีกยิ้มด้วยสีหน้าอย่างผู้ชนะ
“น้องพูดจริงนะ ไม่ได้ขู่ด้วย”
คนป่วยส่ายหน้ารัวๆอย่างไม่กลัวคอเคล็ดตามอายุ
ปากขยับแบบไม่มีเสียงว่า ห้าม-บอก
แต่ดูเหมือนคุณน้องสาวจะไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่
หญิงสาวในชุดสีขาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไล่หาเบอร์โทรพ่อกับแม่
อีกาดำกัดฟันกรอดก่อนจะหยิบสมุดข้างตัวกับปากกาที่ขอจากนางพยาบาลเอาไว้มาเขียนบางอย่างยุกยิกก่อนจะยื่นให้เจ้าหล่อนดู
[ถ้าเธอเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
พี่จะแบ่งเงินสามเดือนแรกให้เดือนละ 10%]
“ 20% ขาดตัว”
คนถูกต่อรองได้แต่กัดฟันกรอดๆ
แต่อีกฝ่ายเป็นผู้กุมชะตากรรมเขาอยู่จึงได้แต่ต้องจำใจพยักหน้ารับ ไอ้น้องเค็ม! จำเอาไว้เลย!
“แหม
เรียกจากเฮียแค่ 20%เองหรอกน้องอีกาเผือก
เป็นพี่นะพี่จะเรียกสัก 30%”
คนมาเยือนใหม่พูดด้วยเสียงกวนๆ
ทำให้คนป่วยถึงกับหันมาจ้องตาเขม็ง ไอ้โจ้ ถ้าไม่ช่วยก็อย่ามากวนน้ำให้ขุ่นสิ!
“พี่โจ้!”อีกาเผือกวิ่งเข้าไปเกาะแขนคนมาเยี่ยมพี่ชายตนด้วยท่าทีกระดี๊กระด๊าจนคนที่นอนอยู่บนเตียงได้แต่มองตามด้วยความหมั่นไส้
“ไม่คิดว่าจะเจอพี่ที่นี่นะ”เกาะแขนไปพอยังเอาหัวไปถูอีก
ช่วยเห็นหัวคุณพี่ชายที่นอนอยู่ตรงนี้ด้วยครับ!
จิงโจ้ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆพร้อมกับแกะมือปลาหมึกของอีกาเผือกออกอย่างเนียนๆ
“ต้องมาสิครับ”พูดพลางมองคนเจ็บที่บัดนี้เบือนหน้าหนีมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็ผมเป็นคนทำให้พี่เข้าโรงพยาบาลนี่
“น้องอีกาเผือกมีงานก็รีบไปทำเถอะ
เดี๋ยวพี่จะดูแลเฮียต่อเอง”จิงโจ้ว่าพร้อมกับชูถุงอาหารที่เพื่อนร่วมงานฝากเขาเอามาเยี่ยมคนป่วยตรงหน้าให้คุณน้องสาวดู
มีทั้งอาหารที่ไม่ทำให้ระคายคอและผลไม้เต็มไปหมด
“นี่พี่โจ้ไล่น้องอ้อมๆรึเปล่าเนี่ย”คุณน้องสาวถามติดตลก
ก่อนจะชายตามองพี่ชายตนที่นั่งทำหน้าเป็นทองไม่รู้ร้อน
“งั้นน้องฝากพี่ชายด้วยแล้วกันนะคะ อ้อ ส่วนพี่หายแล้วก็อย่าลืม 20% ล่ะ”
คนเป็นพี่ขยับปากพูด
เออ แบบไม่มีเสียงแล้วโบกมือไล่น้องสาวผู้มีจิตใจโหดเหี้ยมถึงขั้นรีดเงินจากพี่ชายที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลคนนี้ได้ออกไป
อีกาเผือกกรอกตาใส่เล็กน้อยแต่ก็ยอมคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องไปแต่โดยดี
แต่ก่อนที่ประตูจะปิดลง
“น้องไม่อยากเป็นก้างขวางคอพวกพี่หรอกนะ!”ทิ้งระเบิดขนาดย่อมๆไว้แล้วปิดประตูลงดังปัง!
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
อีกาดำมองคนมาเยี่ยมใหม่แล้วเสหน้าหันไปทางอื่นราวกับไม่ต้องการเปิดบทสนทนา
ถึงแม้ของกินที่อยู่ในมือจะล่อตาล่อใจก็เถอะ
นายจิงโจ้ลอบถอนหายใจก่อนจะเอาของไปวางไว้บนโต๊ะแล้วจัดแจงหยิบผลไม้ที่เขาวานให้เพื่อนในวงช่วยปลอกให้จัดใส่จาน
แตงโมเนื้อแดงฉ่ำของโปรดของคนป่วยถูกยื่นให้ตรงหน้า
“ผลไม้ครับ”
อีกามองผลไม้ในจานนิ่งๆ
ขณะที่มือเรียวกำลังจะรับมา จานผลไม้กลับถูกยกขึ้นหนีเขาไปเสียก่อน “ให้ผมป้อนพี่ดีกว่า”นายจิงโจ้ยักคิ้วให้อย่างกวนๆ
“ฉัน..”จะพูดว่าฉันคออักเสบ
ไม่ได้แขนหัก แต่เส้นเสียงกลับทรยศโดยการไม่มีคำพูดใดๆออกมา
คนป่วยจึงได้แต่จำใจอ้าปากกินแตงโมที่เด็กตรงหน้าป้อนมาให้เสียไม่ได้
“ว่าง่ายแบบนี้ก็น่ารักดีนะครับ”เห็นคนป่วยยอมอ้าปากกินง่ายๆแบบนี้แล้วรู้สึกดีจนอดยิ้มออกมาไม่ได้
นี่ถ้าเป็นพี่อีกาเวลาปกติคงจะเอาส้อมจิ้มหัวเขาทะลุไปแล้วล่ะ
จู่ๆรอยยิ้มก็เลือนหายไปเมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้คนตรงหน้าต้องเข้าโรงพยาบาล
มือที่กำลังป้อนแตงโมอยู่หยุดชะงักทันที “ผมขอโทษนะพี่”
ขอโทษที่เป็นสาเหตุทำให้พี่ต้องลาหยุด แล้วยังต้องเสียเงิน 20% ให้กับน้องสาวอีก
ถ้าวันนั้นเขาใจเย็นหน่อย
ไม่ไปมีเรื่องกับพวกนักเลงข้างถนน
พี่อีกาดำก็คงจะไม่ต้องขึ้นร้องเพลงแทนเขาที่นอนหมดสภาพอยู่ในโรงพยาบาลติดต่อกันหลายชั่วโมงจนเส้นเสียงอักเสบแบบนี้หรอก
เป็นเพราะความใจร้อนของเขาแท้ๆเลยเชียว
เขามักจะเป็นคนหาเรื่องมาให้อีกฝ่ายคอยตามเก็บเสมอๆ
เพราะแบบนี้ เขาถึงไม่กล้าบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปเสียที
อีกาดำมองคนที่อยู่ๆก็ซึมไปเสียดื้อๆ
โดยยังมีชิ้นแตงโมจ่อคาอยู่ที่ริมฝีปากเขา ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่าซึมเรื่องอะไร
สาเหตุหลักที่ทำให้เขาเส้นเสียงอักเสบจนแม้แต่จะพูดออกมาก็ยังทำไม่ได้ก็มาจากเด็กคนนี้ล้วนๆ
การขึ้นร้องเพลงแทนอีกฝ่ายที่มีคิวติดกับตัวเอง 5 ชั่วโมงเต็มๆต่อให้เป็นนักร้องที่เก่งขนาดไหนก็ไม่รอดจากมือหมอสักรายหรอก
เรื่องนี้เขาเตรียมใจไว้ตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์ว่าจิงโจ้เจ็บหนักถึงขั้นขึ้นเวทีไม่ได้แล้วล่ะ
เขาไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ ออกจะเต็มใจช่วยด้วยซ้ำ จะเคืองก็แค่ต้องเสีย 20% ให้คุณน้องสาวตัวดีนี่แหละ
มือของคนอายุมากกว่ายกขึ้นลูบศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยไหมนุ่มสีน้ำตาลเข้มคล้ายสื่อว่า
อย่าคิดมาก ก่อนที่มืออีกข้างจะจับมือคนป้อนแตงโมเข้าใส่ปาก
นายจิงโจ้ได้แต่มองการกระทำนั้นอย่างอึ้งๆ
คนป่วยใช้ลิ้นเลียรอบริมฝีปากด้วยความเคยชิน
โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำนั้นดูเซ็กซี่แค่ไหนในสายตาของคนป้อน ริมฝีปากฉ่ำวาวเผยอขึ้นเล็กน้อยคล้ายเชื้อเชิญ
จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าได้ลองชิมจะหวานขนาดไหน จะหวานกว่าแตงโมที่อยู่ในมือเขาไหม
นายจิงโจ้กลืนน้ำลายลงคอโดยไม่รู้ตัว
คนป่วยโบกมือผ่านหน้าจนคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ถึงกับสะดุ้ง
อีกาดำขยับปากถามจับใจความได้ประมาณว่า เหม่ออะไร
อีกาดำชี้นิ้วไปยังจานเปล่าที่ก่อนหน้านี้ยังมีผลไม้เนื้อสีแดงวางอยู่
จิงโจ้พยักหน้าเบาๆก่อนจะเอาจานไปเก็บแล้วหยิบน้ำส่งให้คนป่วยดื่ม
ศีรษะของรุ่นน้องหนุ่มส่ายรัวๆเพื่อไล่ความคิดบางอย่างออก
เมื่อกี้ดันเผลอคิดอกุศลไปซะได้
“เป็น...ไร..”
คนป่วยที่พยายามจะพูดเค้นเสียงแหบออกมาจนได้ในที่สุด
“ใครอนุญาตให้พี่พูด!”กลับกลายเป็นชายหนุ่มเสียเองที่ตกใจ “พี่ห้ามใช้เสียง
3 วันนะ”
อีกาดำย่นคิ้ว
นี่กะจะให้เขาน้ำลายบูดเลยใช่มั้ย
“พี่”ศีรษะของรุ่นน้องซบเข้าที่บ่าของคนป่วย
ไรผมที่คลอเคลียอยู่บริเวณซอกคอให้ความรู้สึกจั๊กจี๋แปลกๆ “ผมขอโทษ”
คำขอโทษที่กล่าวออกมารอบที่สองทำให้คนฟังต้องยกมือลูบหัวเด็กไม่รู้จักโตอีกครั้ง
ไม่เป็นไร มือเรียวที่ลูบหัวเขาอยู่บอกแบบนั้น
อีกาดำสะดุ้งเมื่อจู่ๆสัมผัสที่ซอกคอเปลี่ยนไป
ริมฝีปากของนายจิงโจ้ค่อยๆไล่มาอย่างช้าๆ มีขบกัดบ้างเล็กน้อยก่อนจะลากผ่านสันกรามของเขาแล้วแตะที่บริเวณริมฝีปากเขาอย่างแผ่วเบา
ไม่มีการรุกล้ำใดๆทั้งสิ้น แค่คาเอาไว้อยู่อย่างนั้น
เขาอึ้ง
และอีกฝ่ายก็อึ้งเช่นกัน
“อะ..”อีกาเป็นฝ่ายได้สติก่อนที่จะใช้มือผลักหัวรุ่นน้องจอมฉวยโอกาสออกไปอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอายหรือความโกรธเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นิ้วชี้หน้ารุ่นน้องที่ยังดูอึ้งในการกระทำอย่างอุกอาจของตนไม่ต่างกัน
“พี่เดี๋ยวก่อน!”จิงโจ้พยายามห้ามคนที่กำลังจะคว้าของใกล้มือมาปาใส่เขา
“ผมไม่ได้ตั้งใจ!”
หมอนใบนิ่มถูกขว้างใส่หน้า
ก่อนที่ใบที่สองจะตามมา แต่เพราะคนปาเป็นอีกาดำมันจึงเจ็บกว่าปกติ
นายจิงโจ้ถือหมอนเดินเข้าไปใกล้คนเขินอย่างกล้าๆกลัวๆ “พี่เขินหรอ?”
“ไม่!”เสียงแหบตอบกลับมาถึงแม้หน้าจะแดงก่ำเป็นลูกมะเขือเทศ
จูบแรกที่เก็บมาตลอดสี่สิบปีถูกรุ่นน้องช่วงชิงไปได้ง่ายๆอย่างน่าเจ็บใจ
แต่เจ็บใจยิ่งกว่าคือตนเองก็ชอบสัมผัสที่ว่านั้นด้วย
เฮ้ย! นั่นรุ่นน้องนะ รุ่นน้องที่ร้องเพลงกับแกนะเว้ย!
เพราะแอบเหม่อไปเล็กน้อย
นายจิงโจ้เลยฉวยโอกาสประกบปากเข้าจูบที่สอง
“คุณ!”อุทานด้วยความตกใจ
“ผมไม่รู้”คนจูบตอบกลับมาแบบมึนๆก่อนที่จูบที่สามและที่สี่ตามมาในอีกไม่ช้า
มองคนถูกจูบซึ่งบัดนี้สติหลุดลอยไปไกลแล้ว
รุ่นน้องจอมฉวยโอกาสจึงเบียดริมฝีปากลงไปซ้ำโดยคราวนี้ขบกัดเล็กน้อยเพื่อให้อีกฝ่ายเผยอปากออกง่ายต่อการลอดลิ้นเข้าไปรับรสหวานจากภายใน
เมื่อถูกรุกล้ำถึงขนาดนี้
คนป่วยจึงกัดลิ้นอีกฝ่ายไปอย่างแรงจนนายจิงโจ้ต้องถอนจูบออกก่อนจะร้องออกมาดังลั่น
อีกาดำใช้มือปิดปากตัวเองไว้อย่างหวงแหน
ดวงตาแดงฉ่ำไปด้วยน้ำตาที่ไม่รู้ว่าคลอขึ้นมาด้วยสาเหตุอะไรจ้องมองรุ่นน้องจนเจ้าตัวรู้สึกผิด
ไม่ได้รู้สึกแย่ ก็แค่ตั้งตัวไม่ทัน
“พี่
คือผม”เรือหายล่ะ ทำอะไรลงไปแบบไม่ทันคิดอีกแล้ว ไอ้โจ้เอ๊ย!!
“พี่ฟังผมก่อน”ยิ่งมองคนแก่กว่าน้ำตาคลอก็ยิ่งรู้สึกผิด
แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปกอดปลอบ อีกาดำไม่ได้รู้ตัวเลยว่าสีหน้าที่กำลังทำอยู่มันน่ารักขนาดไหน
แต่สุดท้ายก็อดเข้าไปกอดปลอบไม่ได้อยู่ดี
อีกาดำพยายามดันรุ่นน้องจอมฉวยโอกาสออกไป
แต่อีกฝ่ายกลับกอดแน่นขึ้นกว่าเก่า จนเรี่ยวแรงแบบคนแก่อย่างไม่อาจสู้ได้
จึงได้แต่ปล่อยให้กอดไป โดยมีกำปั้นเขาต่อยไหล่อีกฝ่ายไปพลาง
“พี่อยากทำตัวน่ารักเอง
ผมทนไม่ไหว”
ตอนไหนวะ! จำได้แค่ว่าอยู่ดีๆก็ถูกจูบ!
“และผมก็ชอบพี่มากเกินกว่าจะทนไหวด้วย”คำสารภาพรักที่หลุดออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาคนแก่กว่าถึงกับชะงัก
มือที่กำลังจะชกมีอีกรอบคาอยู่กลางอากาศ
“ผมชอบพี่นะครับ
แล้วพี่ล่ะ คิดกับผมยังไง”
อีกาดำจำไม่ได้ว่าเขาตอบอะไรกลับไป
แต่เขาจำได้ว่านอกจากเขาจะเสียจูบแรกไปแล้ว เขายังเสียจูบที่สอง สาม สี่ ห้า หก
และจูบต่อๆมาอีกด้วย
โดยที่เขาไม่ได้ไปปฏิเสธอีกฝ่ายไปเลยแม้แต่พยางค์เดียว
.
.
.
.
“คุณมังกรไม่เข้าไปเยี่ยมคุณอีกาหรอครับ”
ระฆังถามหญิงสาวผู้เป็นเพื่อนสนิทของคนป่วยห้องนี้อย่างสงสัย
เมื่อหล่อนยืนอยู่หน้าประตูห้องตั้งนานแล้วแต่ไม่มีท่าทีว่าจะเข้าไปเยี่ยมคนข้างในเสียที
มังกรหันมาหาเขาก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
“ดิฉันว่าเราลงไปหากาแฟกินกันที่ล็อบบี้เถอะค่ะ
ไว้เดี๋ยวค่อยขึ้นมาเยี่ยมใหม่”
“ครับ?”
หญิงสาวยกมือปิดปากก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ
“ดิฉันกลัวว่าพวกเราจะไปขัดจังหวะเข้าน่ะค่ะ”
จังหวะในการสานสัมพันธ์ของคู่รักข้าวใหม่ปลามัน
แล้วเธอก็พาระฆังเดินออกมาจากห้องนั้นทันที
***
อุตส่าห์บอกไปว่าจะไม่แต่งอีก สุดท้ายก็กลับมาแต่งจนได้ หาทางออกจากด้อมไม่เจอค่ะ แงงงง
ติดตามจิงโจ้จับอีกาแบบยาวๆได้ที่ >>[Fic The Mask Singer] Secret of us #มัธยมหน้ากาก
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ เด็กหญิงจานบิน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เด็กหญิงจานบิน
ความคิดเห็น