[S.Fic Touken Ranbu] あなたと私(Ishikirimaru x aoe) - [S.Fic Touken Ranbu] あなたと私(Ishikirimaru x aoe) นิยาย [S.Fic Touken Ranbu] あなたと私(Ishikirimaru x aoe) : Dek-D.com - Writer

    [S.Fic Touken Ranbu] あなたと私(Ishikirimaru x aoe)

    “เจ้าชอบซากุระไหม อาโอเอะซัง” “ท่านจะชวนข้าไปชมซากุระด้วยกันรึไง” "ถ้าหากข้าตอบว่าใช่ล่ะ เจ้าจะไปด้วยกันกับข้าไหม"

    ผู้เข้าชมรวม

    431

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    431

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    6
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 ต.ค. 59 / 09:25 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

                    ทั้งร้อน ทั้งเจ็บ...

                    ดวงตาสีอำพันลืมขึ้นมาอย่างช้าๆ สัมผัสแรกที่รับรู้ คือกลิ่นของควันไฟและคาวเลือด

                    นิคคาริใช้แขนยันตัวนั่ง แต่หากกระดูกแขนข้างขวาที่หักอยู่ภายในได้รับการกระทบกระเทือน ความรู้สึกเจ็บแล่นไปทั่วร่าง ก่อนที่วากิซาชิจะแผดเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

                    สมรภูมิรบที่ถูกส่งมากลายเป็นทะเลสีชาด ความร้อนจากกองเพลิงที่ยังระอุส่งผลให้วิสัยทัศน์ของนิคคาริพร่ามัว ปลายธงชัยที่ขาดวิ่นกำลังโบกสะบัด  ทุกย่างก้าวที่เดินไป คือร่างของเหล่าทหารและสหายที่หมดสิ้นลมหายใจ

                    นากิคิทสึเนะ...

                    กองทัพเคบิอิชิจู่โจมพวกเขาทันทีที่มาถึง ไม่มีแม้แต่เวลาให้เตรียมตัว ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าคือผู้อยู่รอดนี่คือกฎของโลกที่แสนโสมมนี้

                    นิคคาริยังคงเดินต่อไป แขนขวาขยับไม่ได้ ส่วนดวงตาข้างซ้ายนั้นพร่ามัว ชายหนุ่มหยุดชะงักยามเมื่อสะดุดเข้ากับร่างของใครคนหนึ่ง

                    โดทานูกิมาซาคุนิ

                    ข้างกันนั้นเป็นร่างของอุจิคาตะนะนาม โอคุริคาระ ที่กำลังหายใจอย่างรวยริน นิคคารินั่งลงข้างเขา ยามเมื่อสำรวจบาดแผลบนตัวคร่าวๆ พบว่าอีกฝ่ายเสียเลือดมากจากขาข้างซ้ายที่ขาดสะบั้น หากแต่ยังมิทันเอ่ยสิ่งใด โอคุริคาระกลับเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน

                    “เขา..อยู่...ตรงนั้น”เสียงนั้นแหบพร่าและขาดเป็นช่วงๆ “อีกฟากหนึ่ง..ของสมรภูมิ”

                    ชายหนุ่มเข้าใจถึงคำว่า “เขา”ที่ โอคุริคาระพูดถึง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าตอนนี้ คือการช่วยเหลือสหายร่วมรบที่อยู่ตรงหน้า

                    “ข้าต้องช่วยท่าน!” เขากล่าวก่อนที่จะรับรู้ว่าเสียงของตัวเองนั้นก็ไม่ต่างจากอีกฝ่าย โอคุริคาระส่ายหน้าเบาๆ

                    “มาซาคุนิ คาเนซาดะ และยามาบุชิ ทุกคนสิ้นลมหมดแล้ว”

                    ดวงตาของวากิซาชิเบิกกว้าง

                    “และข้าก็กำลังจะตามพวกเขาไป”โอคุริคาระหลับตาลงอย่างเชื่องช้า “ข้าทำ..ในส่วนของข้า...อย่างดีที่สุดแล้ว”

                    แล้วโอคุริคาระก็หลับไป

                    ชายหนุ่มรับรู้ถึงความเค็มของหยาดน้ำตาที่กำลังไหลริน นี่เขาต้องสูญเสียสหายทั้ง 4 คนไปพร้อมกันในสมรภูมิแห่งนี้เชียวหรือ

                    นิคคาริลุกขึ้น ก่อนจะลากร่างกายของตนเองที่ราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เดินตามหาใครอีกคนหนึ่ง เคบิอิชิมีดสั้นที่ยังเหลือรอดพุ่งเข้ามาหาเขา ก่อนที่จะถูกชายหนุ่มใช้ดาบสั้นที่หักลงครึ่งหนึ่งของตนฟันทิ้งอย่างรวดเร็ว นิคคาริโยนดาบที่หักของตนทิ้งอย่างไม่ใยดี

                    “เจ้าชอบซากุระไหม อาโอเอะซัง”

                    อา...ทำไมถึงนึกเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมาตอนนี้กันนะ

                    “ทำไมหรือ”นิคคาริถามกลับด้วยความประหลาดใจ “ท่านจะชวนข้าไปชมซากุระด้วยกันรึไง”ชายหนุ่มพูดติดตลก ในเมื่อยามนี้พวกเขายังคงอยู่ในช่วงเหมันตฤดู ด้านนอกฮงมารุนั้นล้วนถูกย้อมด้วยหิมะสีขาว การชมดอกซากุระนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

                    “ถ้าหากข้าบอกว่าใช่ล่ะ”อีกฝ่ายกล่าวยิ้มๆ “ เจ้าจะไปด้วยกันกับข้าไหม อาโอเอะซัง”

                    ทุกๆย่างที่ก้าวเดินนั้น นิคคาริรู้สึกได้ถึงความหนักอึ้ง เสียงในหัวกรีดร้องบอกให้หยุด อย่างน้อยๆก็จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ แต่เขาเพียงแค่อยากรู้ แค่อยากไปดูให้แน่ใจ

                    ทั้งๆที่..ส่วนลึกในจิตใจนั้นรู้อยู่เต็มอก

                    ชายหนุ่มหยุดเดิน เมื่อร่างของอิชิคิริมารุปรากฏแต่สายตา นิคคาริรีบถลาเข้าไปหาคนรักของตนทันที

                    “ท่านอิชิคิริมารุ”ชายหนุ่มใช้มืออีกข้างที่ยังปกติดีอยู่ตบที่ใบหน้าของอีกฝ่ายเบาๆ ชุดสีเขียวอ่อนมีเลือดซึมออกเป็นวงกว้าง นิคคาริใจหายทันทีเมื่ออิชิคิริมารุไร้การตอบสนอง

                    รู้สึกในอกมันปวดร้าว น้ำตาพลันไหลออกมาอย่างมิอาจห้ามได้

                    “อาโอ..เอะซัง”

                    “ท่านอิชิคิริมารุ!

                    นิคคาริก้มลงซบพรางร้องไห้ออกมาทันทีเมื่อโอดาจิหนุ่มเรียกชื่อเขา อิชิคิริมารุยกมือขึ้นสัมผัสศีรษะวากิซาชิของตนเบาๆ ก่อนจะทัดบางสิ่งเข้าที่หูข้างซ้ายของนิคคาริ

                    อิชิคิริมารุรู้สึกถึงความสุขที่เอ่อล้นขึ้นมาในอก ยามที่คนข้างกายตอบรับคำชวนของเขา อาจจะเร็วไปที่จะชวนใครสักคนไปชมซากุระในฤดูหนาวเช่นนี้ แต่อิชิคิริมารุกลับไม่คิดเช่นนั้น

                    ชายหนุ่มขยับตัวเพื่อกอดคนข้างๆให้แน่นขึ้น อากาศในฤดูหนาวยามค่ำคืนถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่นจากสัมผัสของอีกฝ่าย อิชิคิริมารุกระซิบที่หูของคนรักตนเบาๆ

                    “สัญญากับข้าแล้วนะ”

                    มือหนาที่มีคราบเลือดติดอยู่ลากจากใบหูลงมาที่แก้ม ก่อนที่ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น

                    “เจ้าเหมาะกับดอกซากุระจริงๆด้วย อาโอเอะซัง”

                    ดอกไม้ที่เขาเด็ดมาระหว่างการเดินทาง ยามนี้เหมันตฤดูได้ผ่านพ้นไปแล้ว เหล่าบุบผาเองก็แตกหน่อออกดอกอย่างบานสะพรั่ง แต่เสียดายที่เขาคงไม่มีโอกาสได้อยู่ชมพร้อมกับคนข้างๆ

                    “ขอโทษนะ”อิชิคิริมารุกระซิบ “แล้วก็ขอบคุณ ที่มาหาข้าในวาระสุดท้าย”

                   นิคคาริรู้สึกราวกับมีเข็มนับร้อยเล่มแทงทะลุก้อนเนื้อในอก วากิซาชิหนุ่มตัวชา เขากลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากของตนและพยายามอย่างยิ่งที่จะหัวเราะออกมา

                    “ท่านจะผิดคำสัญญากับข้าหรือ”เสียงของเขาสั่นเครือ “ไหนบอกว่าจะพาข้าชมซากุระไง”

                    “ตอนนี้ซากุระบานแล้วนะ”นิคคาริสะอื้น “และข้าอยากไปดูกับท่าน”

                    โอดาจิหนุ่มคลี่ยิ้มจางๆ ความเจ็บปวดจากบาดแผลในตอนนี้ เทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดที่ต้องเห็นอีกฝ่ายร่ำไห้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ต่างฝ่ายต่างเป็นคนสำคัญของกันและกัน

                    “ทำไมข้าถึงเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้กันนะ”

                    “อาจเป็นเพราะไปคร่าชีวิตเด็กเล็กล่ะกระมัง

                    นับตั้งแต่ที่ได้สนทนากันในครั้งนั้น ความรู้สึกของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป

                    จากคนแปลกหน้ากลายมาเป็นสหาย และจากสหายกลายมาเป็นคนรัก

                    “ข้ารักเจ้านะ” อิชิคิริมารุเอ่ย “และจะรักตลอดไป” ถ้าหากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากอยู่กับคนตรงหน้าให้นานกว่านี้

                    “วากิซาชิเพียงหนึ่งเดียวของข้า” เพียงแค่สักวินาทีเดียวก็ยังดี

                    ราวกับทุกอย่างเคลื่อนไหวช้าลง แสงของลูกแก้วสีอเมทิสต์นั้นจางหาย ดวงตาของโอดาจิค่อยๆปิดลง สัมผัสที่อยู่ตรงแก้มหายไปยามเมื่อมือของอิชิคิริมารุร่วงหล่น พร้อมกับเสียงลมหายใจที่หยุดลง

                     นิคคาริกรีดร้องเฉกเช่นคนเสียสติ ชายหนุ่มกอดร่างที่ไร้ลมหายใจของอีกฝ่ายไว้แน่น คนรักของเขาได้จากไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่เกินกว่าที่เขาจะรับได้ไหว ยามเมื่อนิคคาริต้องสูญเสียทั้งสหายและคนรักของเขาไปพร้อมกัน

                   พื้นด้านหลังสั่นสะเทือน เสียงลมหายใจที่หนักหน่วงบอกให้รู้ว่ายังคงมีเคบิอิชิที่เหลือรอด นิคคาริไร้ความรู้สึกที่แม้แต่จะสู้เพื่อเอาชีวิตรอด รู้สึกราวกับภายในถูกทำให้แตกเป็นเสี่ยงๆ เขายังมีค่าพอให้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่แสนบิดเบี้ยวเช่นนี้ด้วยหรือ

                    เป็นศาตรา ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สู้

                    เป็นอาวุธที่สักครั้งหนึ่งเคยได้รับความเมตตาให้ใช้ชีวิตเช่นมนุษย์คนหนึ่ง

                    นิคคาริหลับตาลงรอรับความตาย

    เพียงได้แต่ภาวนาว่า เราจะได้เจอกัน..สักแห่งที่ใดในโลกอันโสมมนี้

    “ข้าก็รักท่าน อิชิคิริมารุของข้า”

    ______________________________________________________________________________________________

    //ต้มน้ำร้อนพลางโยนมาม่าลงไปสองก้อน 

    อยากลองเขียนฟิคเวลาที่ดาบแตก คิดว่ามันคงจะดรามาดี

    ว่าเเต่...มีใครโดนคำโปรยเรื่องนี้หลอกมั่ง-----

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×