[Touken Ranbu] Ishikirimaru x Nikkari - [Touken Ranbu] Ishikirimaru x Nikkari นิยาย [Touken Ranbu] Ishikirimaru x Nikkari : Dek-D.com - Writer

    [Touken Ranbu] Ishikirimaru x Nikkari

    ฟิคดาบสั้นๆจากการเมากาว(?) ดาบเทพกับดาบเกือบเทพนี่ดีต่อใจมากมายยย

    ผู้เข้าชมรวม

    964

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    17

    ผู้เข้าชมรวม


    964

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    12
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 ต.ค. 59 / 20:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    แอบโดดเจ้าชายมาแต่งฟิคดาบ แบบว่า พึ่งมาป่วยดาบจริงจังช่วงปิดเทอม(...) หนุ่มดาบในเกมคือดีงามต่อใจ ฮอลลลล
    ทันโทว=มีดสั้น วากิซาชิ=ดาบสั้น ทาจิ=ดาบยาว โอดาจิ=ดาบใหญ่
    ปล.Tengu เขียนเป็นภาษาไทยกลัวผิดจังเลย เอาเป็นว่าช่างมันละกันเนอะ!
    _______________________________________________________________________________________________________

                    นิคคาริเดินไปเดินมาอย่างร้อนรนบริเวณหน้าชานเรือน ถึงแม้จะถูกความเหนื่อยล้าที่เป็นผลมาจากการออกศึกเล่นงานแต่วากิซาชิหนุ่มกลับไม่คิดจะไปพักผ่อนแต่อย่างใด ข้างๆเขานั้นเป็นทาจิหนุ่มที่อยู่ทัพเดียวกันนาม อิจิโกะ ฮิโตฟุริที่ยังคงนั่งนิ่ง แต่ภายในใจเองก็เต็มไปด้วยความกังวลไม่ต่างจากนิคคาริ

                    “กองทัพที่หนึ่งไปนานแล้วนะขอรับ”เสียงนิคคาริเต็มไปด้วยความกังวลอย่างมิอาจปิดซ่อน “พวกเขาควรจะกลับมาแล้วสิ เหตุใดจึงช้าเพียงนี้!

                    อิจิโกะนิ่งเงียบ ตามที่เขารู้มา หลังจากที่กองทัพที่หนึ่งได้เจอกับท่านอิชิคิริมารุระหว่างทาง นายท่านจึงสับเปลี่ยนให้อิชิคิริมารุไปอยู่ในกองทัพที่หนึ่งแทนเขา ซึ่งถูกย้ายมาอยู่ในกองทัพที่สองร่วมกับ นิคคาริ ยะเก็น อิมะโนะสึรุกิ โฮเนะบามิและนามาซึโอะ เหตุผลคือ “เพื่อให้ชินกับสงครามและความแข็งแกร่ง” ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นิคคาริผู้มาอยู่ที่ฮงมารุแห่งนี้ก่อนแล้วเกิดความกระวนกระวาย เพราะตัวของวากิซาชินั้นยังไม่ได้เจอกับโอดาจิเลยสักครั้งเดียว

                    “คงใกล้จะมาถึงกันแล้วล่ะครับ” อิจิโกะพูดอย่างสงบ อันที่จริงเขาก็เป็นห่วงกองทัพที่หนึ่งไม่น้อยไปกว่านิคคาริ “กรุณารอสักครู่เถอะครับ”

                    นิคคารินั่งลงข้างๆอิจิโกะ  ถึงอีกฝ่ายจะทำตัวใจเย็นเพียงใดแต่นิคคาริรู้ว่าลึกๆแล้วก็คงจะกังวลอยู่ไม่น้อย ในเมื่อคนสำคัญของอีกฝ่ายก็อยู่ในกองทัพนั้นเช่นเดียวกันกับเขา

                    คนสำคัญ...ที่ไม่อยากให้บาดเจ็บกลับมา

                    “ทุกท่านขอรับ!”เสียงตะโกนดังมาจากทันโทวตัวน้อย อิมะโนะสึรุกิวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาทั้งสอง “กองทัพที่หนึ่งกลับกันมาแล้วขอรับ!

                    ราวกับภูเขาถูกยกออกจากอก ทั้งคู่รีบลุกขึ้นก่อนจะวิ่งตามเท็งงุตัวน้อยไป มีดาบหลายเล่มมารอพวกเขาอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว สมาชิกของกองทัพที่หนึ่งมีอาการเหนื่อยล้า แต่ยามเมื่อสำรวจดูผ่านสายตาคร่าวๆ ก็พบว่าไม่ได้บาดเจ็บหนักอะไร

                    “ทำไมถึงกลับกันมาแค่นี้ล่ะ”คะชูที่ยืนอยู่ข้างกันกับยาสุซาดะถามเมื่อเห็นว่าสมาชิกที่ควรมี 6 กลับเหลืออยู่แค่ 4 คน “คาเนะซังกับอิชิคิริมารุซังล่ะ!

                    วินาทีนั้นนิคคาริรู้สึกใจหายวาบ ลมหายใจของวากิซาชิหนุ่มติดขัด ความคิดเลวร้ายที่สุดผุดขึ้นมาในหัว ถ้าเกิดว่าพวกเขาแตกล่ะ มือเรียวเผลอขยุ้มผ้าคลุมของตัวเอง ถ้าเกิดว่า เกิดเรื่องร้ายระหว่างทางล่ะ

                    ราวกับอ่านใจของนิคคาริได้ ยามัมบะกิริผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทัพในครั้งนี้จึงเอ่ยขึ้นมาขัดเบาๆ “ไม่ต้องห่วง ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายขนาดนั้น”

                    “พวกเขาแค่ต้องเข้าโรงซ่อมด่วนน่ะ”กระเรียนผู้ชื่นชอบความประหลาดใจกล่าวต่อ ก่อนจะทำเนียนเข้าไปกอดอิจิโกะ “ ข้าเหนื่อยมากเลยล่ะ~ อิจิโกะ” แต่ยังไม่ทันถึงตัวก็ถูดมีดสั้นของยะเก็นกับดาบของนามาซึโอะเข้ามาจ่อที่คอหอยอย่างรู้งาน ทสึรุมารุจึงแกล้งพ่นลมออกมาอย่างขัดใจ

                    ทาจิหนุ่มหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะดึงตัวน้องชายออกห่างจากทสึรุมารุ “เห็นท่านทสึรุมารุกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้วครับ” เขายิ้มให้เล็กน้อย ก็ยังดีกว่าบาดเจ็บกลับมาล่ะนะ

                    “แล้วท่านนิคคาริไปไหนแล้วล่ะครับ” อิจิโกะถามเมื่อไม่เห็นร่างของคนที่มาด้วยกันตั้งแต่แรก

                    “วิ่งไปโรงซ่อมตั้งแต่ข้ายังพูดไม่ทันจบแล้วล่ะ”

    .
    .
    .
                    สองขาพาร่างบางวิ่งมาถึงโรงซ่อมด้วยความรวดเร็ว นิคคาริหายใจไม่เป็นจังหวะ ที่หน้าโรงซ่อมนั้นมีซานิวะหญิงมายืนรออยู่ก่อนแล้ว เธอเดินเข้ามาหาวากิซาชิหนุ่ม

                    “ขอโทษนะคะ”ซานิวะเริ่มสนทนา สีหน้าเธอไม่สู้ดีนักยามเมื่อเห็นว่ามีดาบที่ได้รับความเสียหายหนักมากหลังจากกลับมาถึงสองเล่ม “เป็นความผิดของฉันเองที่ไม่ตรวจสอบศัตรูให้ดีก่อน ขอโทษจริงๆนะคะ!

                    “นายหญิง”นิคคาริรีบเข้ามาประคอง เมื่อคนตรงหน้ามีท่าทีจะเป็นลม “ไม่ใช่ความผิดของท่านหรอกขอรับ”               

                   ถึงแม้จะไม่ได้ตอบอะไร แต่สายตาที่นายหญิงส่งมาให้เขามันสื่อความได้ว่า ผิดสิคะ เป็นเพราะข้าแท้ๆ.. ซานิวะสาวจึงทำการตัดบท

                    “เธอคงอยากเข้าไปดูพวกเขาแล้ว โดยเฉพาะกับคุณหมอ ยังไม่ได้เจอกันเลยนี่คะ”

                    นิคคาริหลบสายตา

                    “ถ้าเช่นนั้นก็เข้าไปเยี่ยมเถอะค่ะ ปล่อยให้ข้าได้นั่งสำนึกผิดตรงนี้เสียเถอะ”

                    ใจหนึ่งก็อยากเข้าไปหา แต่อีกใจก็ไม่อยากปล่อยให้ซานิวะนั่งโทษตัวเองอย่างที่ว่าออกมาจริงๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น เด็กสาวจึงหัวเราะออกมาอย่างขบขัน

    “ล้อเล่นน่ะ เธอเข้าไปเยี่ยมพวกเขาเถอะ”

                    นิคคาริค้อมตัวให้เป็นเชิงขออนุญาต ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงซ่อม เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินเข้าไปแล้ว ซานิวะสาวจึงทิ้งตัวลงนั่งบริเวณนั้น โดยไม่สนใจว่าชุดสีขาวที่สวมใส่อยู่จะเลอะหรือไม่ เธอคร่ำครวญออกมาเบาๆ

                    “ฮือออ ขอโทษนะคาเนะซัง ขอโทษนะคะคุณหมอ”

                    ทรัพยากรมากมายที่ใช้สำหรับการซ่อมถูกวางกองอยู่ที่พื้น ยิ่งมีเลเวลสูงมาก เวลาที่ใช้กับจำนวนทรัพยากรก็ยิ่งมีมากขึ้นตาม จะยกเว้นเพียงกรณีของอิชิคิริมารุที่ต่อให้มีเลเวลน้อยก็ยังคงใช้เวลาในการซ่อมมากกว่าอิสึมิ โนะ คามิ คาเนซาดะ

                    “อาโอเอะซัง!” อิชิคิริมารุเรียกเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามา โอดาจิหนุ่มนอนอย่างหมดสภาพอยู่บนเตียงซ่อม ตามร่างกายมีแผลและเสื้อผ้าบางส่วนขาดวิ่น เป็นผลที่ได้รับมาจากการต่อสู้ทั้งสิ้น

                    “ท่านอิชิคิริมารุ”นิคคาริถลาเข้าไปหาคนตรงหน้าทันที ใบหน้าหวานแสดงความห่วงใยออกมาอย่างเห็นได้ชัด มือเรียวคว้ามือแกร่งมากอบกุมไว้เป็นการปลอบประโลมตัวเอง นิคคาริอดที่จะสะอื้นไห้ไม่ได้

                    อิชิคิริมารุตกใจเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นจากคนข้างๆ “เดี๋ยวสิ” เขาใช้มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ลูบไล้ไปตามโครงหน้าก่อนจะใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดคราบน้ำตาเบาๆ “เจ้าจะร้องไห้ทำไมอาโอเอะซัง” ชายหนุ่มกล่าว “ได้เจอกันทั้งที ข้าอยากเห็นเจ้ายิ้มมากกว่าร่ำไห้นะ”

                    นิคคาริปาดน้ำตาออก พยายามวาดยิ้มให้อีกฝ่าย “ข้าแค่กลัวว่าท่านจะเป็นอะไรไป”เสียงที่เปล่งออกมาเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็ทำให้อิชิคิริมารุยิ้มออกมาจางๆได้

                    “โอ่ยๆ” คาเนซาดะส่งเสียงร้องขึ้นมาแทรก ชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียงซ่อมข้างๆ “ข้าเองก็เจ็บหนักพอๆกับอิชิคิริมารุ ทำไมไม่เห็นมีใครมาสนใจข้าบ้างเลย”คาเนะซังตัดพ้อด้วยความน้อยใจ เขาชูนิ้วขึ้นมา 2 นิ้ว “ 2 ครั้งแล้วนะที่ข้าต้องเข้าโรงซ่อมน่ะ! ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ข้าก็เข้าโรงซ่อมมา 2 ครั้งเชียวนะ!

                    “ก็ไม่ใช่ความผิดของข้าหรืออาโอเอะ ที่ไม่มีใครมาเยี่ยมท่านนี่”อิชิคิริมารุตอบกลับยิ้มๆ “อีกอย่าง ข้าเองก็เข้าโรงซ่อมวันเดียวกับที่มาที่นี่เช่นกัน ข้าว่าข้าน่าสงสารกว่าท่านนะ”

                    “เหอะ!”คาเนะซังส่งเสียงขึ้นจมูก ก่อนจะพลิกตัวหันหลังไม่สนใจคู่รัก(?)ข้าวใหม่ปลามัน

                    “ฮะฮะฮะ” คุณหมอหัวเราะออกมาเบาๆ โอดาจิหนุ่มใช้มือลูบหัวนิคคาริอย่างอ่อนโยน ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อย “ทั้งๆที่ข้าเป็นหมอแท้ๆ แต่ในเวลานี้กลับรักษาตัวเองไม่ได้ ช่างน่าสมเพชเสียจริง”

                    “ใช่ ท่านน่ะมันงี่เง่าที่สุด”วากิซาชิหนุ่มว่า “ ท่านควรจะรู้กำลังของตนเองนะ”

                    “ข้ารู้ๆ”ดาบศักดิ์สิทธิ์กล่าว “คราวหน้าข้าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ข้าสัญญา”

                    “ข้าจะไปขอนายหญิงให้ข้าได้อยู่ทัพเดียวกับท่าน”นิคคาริกล่าวอย่างมาดมั่น “อย่างน้อยๆถ้าท่านอืดอาด ข้าจะได้ช่วยท่านทัน”

                    “อิชิคิริมารุน่ะช้าที่สุดในกองทัพ”เสียงของคาเนะซังดังแทรกขึ้น “เขาถึงหลบการโจมตีไม่ทันไงล่ะ”

                    โอดาจิหนุ่มปรายตามองอีกฝ่าย

                    “ข้าคิดว่าเจ้าควรไปพักผ่อนนะอาโอเอะซัง”อิชิคิริมารุกล่าว ชุดที่นิคคาริใส่อยู่ยังคงเป็นชุดที่เอาไว้สำหรับออกรบ แสดงว่าเจ้าตัวไม่ได้พักผ่อนเลยตั้งแต่กลับมา “ข้าไม่เป็นไรแล้วล่ะ”

                    “แค่เจ้ามาหาข้า ข้าก็รู้สึกดีขึ้นมากโขเลย”

                    นิคคาริมองอีกฝ่ายที่ยังคงส่งยิ้มมาให้ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วชายหนุ่มจึงถอนหายใจออกมา “ข้าแค่อยากให้ท่านรู้ว่าข้าเป็นห่วงท่าน”วากิซาชิก้มลงจูบที่จมูกของอิชิคิริมารุเบาๆ ก่อนจะถูกคนเจ็บดึงลงมาประกบริมฝีปากเข้าไปแทน นิคคาริไม่กล้าแม้แต่จะขยับหนี เพราะเกรงว่าจะไปกระทบกระเทือนแผลของอีกฝ่ายเข้า จึงทำได้เพียงแต่ปล่อยให้อิชิคิริมารุตักตวงความหวานจากตัวเขาไปอยู่ฝ่ายเดียว

                    ไหนว่าอยู่แต่ในศาลเจ้าไง!

                    “ในเมื่อท่านไม่เป็นไรแล้ว ขะ ข้าไปล่ะ”นิคคาริรีบวิ่งออกมาจากโรงซ่อมทันทีที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ อิชิคิริมารุได้แต่มองท่าทางตื่นๆเช่นนั้นด้วยความขบขัน

                    “ท่านก็ไม่น่าแกล้งเขาแบบนั้นนะ”คาเนะซังว่า

                    “ฮะฮะ ข้าอดไม่ได้น่ะ”

                    “แล้วเรื่องกองทัพที่เขาพูดมาล่ะ”คาเนะซังถาม “ท่านจะยอมรึไม่”

                    รอยยิ้มบนใบหน้าจางหายไปทันที อิชิคิริมารุกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แน่นอนว่าไม่”

                    เพราะข้าไม่อาจรับปากได้ว่าเจ้าจะปลอดภัย

                    เพราะว่าข้าไม่อยากให้เจ้าเห็น หากข้าต้องแตกสลาย

                    เพราะว่าเจ้าคือนิคคาริ อาโอเอะ คนที่ข้ารักมากที่สุด

            ____________________________________________________________________________________________________

         แต่งแบบเมาๆ ก็จบแบบเมาๆเช่นนี้แล5555 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งจากเหตุการณ์จริง คือเราดรอปนิกกี้ได้ก่อน แล้วดรอปหมอได้อีกวัน ปรากฎว่าพอเอาหมอไปใส่ในทัพ เดินไปกินขนมแปบเดียว ก็ตีมอนเสร็จแล้วเลยไม่ทันดูว่าทหารหมด! ก็เลยติดตัวแดงกันทั้งคู่ แต่ตอนนี้คาเนะซังเข้าโรงซ่อมรอบที่ 3 แล้วนะ อันที่จริงดาบเราทุกเล่มก็เคยเยือนโรงซ่อมกันหมดนะ555 อยู่กับเราบอกเลยว่าต้อง  สตรอง!

    #ตอนนั้นที่หมอเข้าโรงซ่อมยังดรอปโฮริคาว่าไม่ได้ เพราะงั้นอย่าน้อยใจไปเลยนะคาเนะซังถถถถถ

    #อยากให้น้องผ้าห่มมีบทเยอะกว่านี้จัง//ยกชาซด

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×