Hoshi yori saki ni mitsukete ageru [Saitama x Jenos]
แรงบันดาลใจจาก เพลง Hoshi yori saki ni mitsukete ageru ของ One punch man
ผู้เข้าชมรวม
964
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
โลกของเรามีประชากรประมาณ 7300 ล้านคน
ประเทศญี่ปุ่นมีประชากรประมาณ 120
ล้านคน
จำนวนที่มากมายขนาดนี้ ทำไมพวกเราถึงมาเจอกันได้
คำตอบ... โชคชะตา
เหมือนกับดวงดาวบนท้องนภา
ทั้งที่อยู่ห่างไกลกัน แต่เมื่อมองขึ้นมา
กลับส่องสุกสกาวอยู่เคียงคู่กัน
ไซตามะนั่งห้อยขาอยู่บนดาดฟ้าของอพาร์ทเม้นท์
ยามตกดึกจะมีลมเย็นๆพัดทำให้รู้สึกสบาย วันนี้ค่อนข้างจะพิเศษไปสักนิดสำหรับไซตามะ
เพราะนานๆทีเขาจะเห็นดาวเต็มท้องฟ้าแบบนี้
ปกติไม่เคยเห็นดาวหรอกนะ
เงยหน้ามองทีไรเห็นแต่ท้องฟ้ามืดๆชวนให้หงุดหงิดอยู่ร่ำไป
แน่นอนว่าที่มีดาวเพราะคนเขียนสั่งให้มี
ไม่งั้นมันก็ไม่เข้ากับฟิคเรื่องนี้นะสิ
“เซนเซย์”
เสียงเรียกที่ได้ยินอยู่เป็นประจำทำให้ไม่ต้องหันไปมอง
ไซตามะจึงขานรับแทน “อ้าว เจนอส มานั่งด้วยกันสิ”
แน่นอนว่าไซบอร์กหนุ่มไม่ปฏิเสธ
ไซตามะฟังเสียงก้าวเท้าที่ดังเป็นจังหวะ
เจนอสนั่งลงข้างๆเขา มีกลิ่นน้ำยารีดผ้าที่แสนจะคุ้นเคยติดกับเจ้าตัวมาด้วย นี่รีดผ้าอีกแล้วหรอ
“นายรีดผ้าเสร็จรึยัง”ไม่คิดจะถามในสิ่งที่อยู่บนบรรทัดข้างบนให้มากความ
กลิ่นติดมาขนาดนี้ ยังไงคำตอบก็ต้องเป็น ‘ครับ’
อยู่แล้ว
“เหลืออีกกองนึงครับ”
ไซตามะพยักหน้ารับ
ก่อนที่ความเงียบจะเข้าปกคลุมคนทั้งสอง พวกเขานั่งห้อยขากันโดยไม่มีใครพูดอะไร
อีกคนมองขึ้นข้างบน ส่วนอีกคนมองลงข้างล่าง มองอะไร? ข้างล่างมีอะไร??
สุดท้ายแล้ว
เจนอสก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ “ขอโทษครับ”
ไซตามะทำหน้าเหลอหลา
“นายขอโทษฉันทำไม”
เจนอสเหลือบมองไซตามะแวบนึง
ก่อนจะขยับปากพูดเบาๆ “เรื่องจดหมาย ผมขอโทษเรื่องจดหมาย”
“อ้อ”
ไซตามะตอบกลับไปแค่นั้น
คลื่นความเงียบเข้ามาปะทะรอบที่สอง
แต่ครั้งนี้ไซตามะเป็นคนพูดก่อน “นายไม่ต้องขอโทษหรอก”
“ต้องสิครับเซนเซย์!”เจนอสเผลอตะโกนเสียงดัง “เป็นความสะเพร่าของผมเองจดหมายฉบับนั้นถึงไปอยู่ในมือของเซนเซย์ได้
ผมมันไม่เอาไหน ผมขอโทษครับ!” ถ้าเจนอสยืนอยู่
ไซตามะมั่นใจว่าเจ้าตัวคงก้มหัวให้เขาแบบ 90 องศาแน่ๆ
“เฮ้
ฉันพูดจริงๆนะ มันไม่ใช่ความผิดของนายเลย”ไซตามะว่า
“เป็นฉันเองแหละที่หยิบเอาไปอ่าน ดังนั้นนายไม่ต้องขอโทษหรอก”
“ก็ถ้าผมทำลายมัน
อาจารย์ก็คงจะหยิบเอาไปอ่านไม่ได้หรอกครับ!”
ไซตามะเอามือลูบหน้าอย่างเหนื่อยใจ
เด็กคนนี้มีความสามารถพิเศษในการเอาความผิดเข้าตัวรึไง ไอ้เรื่องจดหมายที่จะมีไปรษณีย์เอาโดรนเข้ามาส่งให้
กว่า 99% ก็เป็นจดหมายจากแฟนๆของเจนอส อีกประมาณเกือบๆเปอร์เซ็นอาจจะเป็นของไซตามะ
ซึ่งมีเนื้อความที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์สักเท่าไหร่
และจุดจบของจดหมายเหล่านั้นคือกลายเป็นเถ้าถ่านด้วยฝีมือของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร
แต่เผอิญวันนี้ไซตามะกลับนึกครึ้มอยากลองอ่านดูสักฉบับ
ก็เลยแอบหยิบออกมา
มันเป็นความผิดไซตามะ
ที่ทำให้เจนอสโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง
“นี่
พ่อขวัญใจมหาชน”ไซตามะใช้นิ้วจิ้มแก้มคนข้างๆ นุ่มดีแหะ “เมื่อไหร่จะเลิกโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของตัวเองซะทีห๊ะ?”
เขาถาม ก่อนที่จะเลื่อนมือแกร่งขึ้นมาลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ เส้นผมที่ทำจากไฟเบอร์นุ่มกว่าที่คิดเอาไว้จึงอดที่จะขยี้เล่นไม่ได้
“นายไม่จำเป็นต้องขอโทษทุกเรื่องหรอกนะ
อีกอย่าง...ไอ้จดหมายนั่นฉันทิ้งมันลงท่อระบายน้ำไปแล้วล่ะนะ”
เจนอสผินหน้ามามองไซตามะเล็กน้อย
ดวงตาสีอำพันที่เรืองแสงยามราตรีดูคล้ายราวกับลูกหมาตัวน้อยๆที่กำลังอ้อนเจ้าของ
ชวนให้ไซตามะเสียศูนย์เล็กน้อย
แม่งเอ้ยยย
โครตน่ารัก
“เซนเซย์เสียใจรึเปล่าครับ”จู่ๆเจนอสก็ถามขึ้น
ทำให้ไซตามะหยุดขยี้ผม_ตรงนี้เจนอสที่แอบขยับศีรษะรับสัมผัสจากมือของอีกฝ่ายรู้สึกเสียดายอยู่นิดๆ_แล้วชักมือกลับทันที
“อืมม ไม่รู้สิ”ไซตามะใช้นิ้วเกาแก้มเบาๆ
“มันรู้สึกโหวงๆมากกว่าเสียใจนะ”
เซนเซย์โกหก
เจนอสคิดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาแอบใช้โปรแกรมตรวจสอบระดับฮอร์โมนในร่างกายของเซนเซย์มาตั้งแต่เช้าแล้ว
พบว่าระดับฮอร์โมนของเซน์เซย์ขึ้นลงผิดปกติ โดยเฉพาะหลังจากอ่านจดหมายนั่น
เขามันไม่ได้เรื่องเอง
“เฮ้ๆ
นายทำหน้าเครียดอีกแล้วนะ”ไซตามะว่า
เขาให้แขนขวาของตัวเองโอบเจนอสก่อนจะดึงอีกฝ่ายให้ล้มลงมานอนด้วย “เลิกทำหน้าเครียดแล้วมานอนนับดาวกันเถอะ”
มือแกร่งขยับลงมากุมมือที่ทำจากโลหะของอีกฝ่าย
ถึงแม้อากาศจะทำให้โลหะเย็นตัวลง แต่ไซตามะกลับรู้สึกว่า
มือของเจนอสนั้นอุ่นที่สุด
อุ่นจนต้องขยับมือกระชับอีกฝ่ายให้แน่นขึ้น
เจนอสเกิดอาการเงอะงะเล็กน้อย
เขาไม่เคยถูกเซนเซย์จับมือมาก่อน ดังนั้นเขาควรจะทำตัวอย่างไรดี?
สุดท้าย
เจนอสก็เลือกที่จะกระชับมือของตัวเองเข้ากับไซตามะเช่นกัน
ความเงียบเข้าปกคลุม
ดวงดาวแข่งกันทอแสงบนท้องฟ้า ย้อมราตรีที่มืดมิดให้ดูมีชีวิตชีวา
“เซนเซย์”
เจนอสขยับปากพูดเบาๆ “แทนที่เราจะมานอนนับดาวกันแบบนี้
ให้ผมใช้โปรแกรมคำนวณให้ดีกว่ามั้ยครับ ผมมั่นใจว่า มีความแม่นยำสูงถึง 85.6 % เชียวนะครับ”
ไซตามะมองเจนอสอย่างไม่เชื่อสายตา
ไอ้ที่เงียบไปนี่คือนอนนับดาวจริงๆเรอะ? อะไรจะซื่อปานนั้น
“นายนี่มันไม่โรแมนติกเอาซะเลยนะ
ทำแบบนี้เดี๋ยวแฟนคลับนายก็หนีหายกันหมดหรอก”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีนะสิครับ”เจนอสว่า
“ผมเองก็เบื่อเผาซองจดหมายพวกนั้นเต็มทนแล้ว”
“แล้วก็อีกอย่าง
ผมไม่อยากได้แฟนคลับหรอกครับ เพราะผมอยากเป็นแค่แฟนคลับของอาจารย์มากกว่า”
คำพูดตรงๆที่แสนจริงใจของเจนอสทำให้ไซตามะได้แต่พูดคำว่าขอบคุณออกมาเบาๆ
“นี่เจนอส ฉันจะสอนอะไรให้เอามั้ย”ไซตามะหันหน้ามาถาม
“บทเรียนพิเศษที่ฉันจะสอนให้กับนายเพียงคนเดียว”
ดวงตาสีอำพันเบิกกว้างอย่างสนใจ
เจนอสพยักหน้ารับ
“คนที่แข็งแกร่งน่ะ
ไม่ได้หมายความว่าทั้งข้างนอกและข้างในจะต้องแข็งแกร่งเสมอไปหรอกนะ
ยังไงก็ตามมนุษย์ก็ยังคงมีสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึกหลงเหลืออยู่บ้าง
มากน้อยกันไปตามแต่ละคน แต่นั่นแหละ เพราะมนุษย์มีความรู้สึก
บางครั้งเราก็แสดงมันออกมาตรงๆไม่ได้”ไซตามะร่ายยาว “ไม่เหมือนหุ่นยนต์แบบนายที่พูดทุกอย่างตามที่ประมวลผลออกมา
บางครั้งเนี่ย ถึงบอกว่า ‘ไม่’ แต่จริงๆอาจจะเป็น ‘ใช่’ ก็ได้นะ”
“นั่นก็เพราะ
เราไม่ต้องการให้คนที่เรารักต้องมาเป็นห่วง”
เจนอสขมวดคิ้ว “ผมไม่เข้าใจว่าเซนเซย์ต้องการจะสื่ออะไร”
ไซตามะยิ้มเล็กน้อย
“ฉันต้องการบอกนายว่า ใช่ ฉันเสียใจ จดหมายนั่นทำให้ฉันเสียศูนย์น่าดูเลย” เขาแค่นเสียงหัวเราะ
“แต่ว่าช่างมันเถอะ ฉันเองควรจะทำตัวให้ชินได้แล้---”
เสียงของไซตามะหายเข้าไปในลำคอ
เมื่อเจนอสขยับตัวมาจูบข้างขมับของเขาเบาๆ แต่เมื่อเจนอสถอนจูบออก เขาก็รีบหลบสายตาทันที
“คือพอดีว่าผมยังเหลือผ้าอีกกองนึงที่ยังไม่ได้รีดเพราะฉะนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ!!”พูดรัวจนลิ้นพันกัน เจนอสเด้งตัวขึ้นแล้วรีบวิ่งไปที่ประตูทางขึ้นดาดฟ้าในทันที
แต่ก่อนที่จะก้าวขาลงไป
เจนอสก็หันกลับไปพูดบางสิ่งกับไซตามะ “เซนเซย์เป็นคนที่แข็งแกร่ง
เพราะฉะนั้นรีบกลับมานะครับ”
ไม่มีเสียงตอบรับจากไซตามะที่นอนอยู่
แต่เจนอสรู้ว่าอีกฝ่ายได้ยินในสิ่งที่เขาพูด
เขาได้แต่ภาวนาว่าเซนเซย์จะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ เขาไม่ได้บอกให้ไซตามะรีบกลับเข้าห้อง แต่ที่เขาบอกให้ไซตามะกลับมา
คือกลับมาเป็นอาจารย์ที่แข็งแกร่งของเขาเหมือนเดิม
เป็นอาจารย์ที่ยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรมด้วยอุดมการณ์ของตัวเอง
แล้วเจนอสก็เดินลงจากดาดฟ้าไป
ทางด้านของไซตามะที่ยังคงนอนอยู่
ได้แต่ยิ้มออกมา “ขอบคุณนะ” ขอบคุณคนที่ส่งจดหมายมาด่า
และขอบคุณลูกศิษย์ผู้น่ารักของเขา
“ฉันกำลังจะกลับไป”
________________________________________________________
ฟฟฟฟฟฟ เราเองค่ะ บอกก่อนเลยว่าแต่งฟิคนี้ขึ้นหลังจากที่ได้อ่านความหมายของเพลงตอนจบ คือมันแบบใช่อะ!! แข็งแกร่งจนอดเป็นห่วงไม่ได้ ก็เลยลองจับท่อนนี้มาทำเป็นฟิคดู ถ้ายังสื่ออารมณ์ได้ไม่เต็มที่ก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ เราจะพัฒนาการเขียนเราต่อปายยย
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ เด็กหญิงจานบิน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เด็กหญิงจานบิน
ความคิดเห็น