[S.Fic Touken Ranbu] あなたと私(Ishikirimaru x aoe)
“เจ้าชอบซากุระไหม อาโอเอะซัง” “ท่านจะชวนข้าไปชมซากุระด้วยกันรึไง” "ถ้าหากข้าตอบว่าใช่ล่ะ เจ้าจะไปด้วยกันกับข้าไหม"
ผู้เข้าชมรวม
430
ผู้เข้าชมเดือนนี้
9
ผู้เข้าชมรวม
ทั้งร้อน
ทั้งเจ็บ...
ดวงตาสีอำพันลืมขึ้นมาอย่างช้าๆ
สัมผัสแรกที่รับรู้ คือกลิ่นของควันไฟและคาวเลือด
นิคคาริใช้แขนยันตัวนั่ง
แต่หากกระดูกแขนข้างขวาที่หักอยู่ภายในได้รับการกระทบกระเทือน ความรู้สึกเจ็บแล่นไปทั่วร่าง
ก่อนที่วากิซาชิจะแผดเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
สมรภูมิรบที่ถูกส่งมากลายเป็นทะเลสีชาด
ความร้อนจากกองเพลิงที่ยังระอุส่งผลให้วิสัยทัศน์ของนิคคาริพร่ามัว ปลายธงชัยที่ขาดวิ่นกำลังโบกสะบัด
ทุกย่างก้าวที่เดินไป คือร่างของเหล่าทหารและสหายที่หมดสิ้นลมหายใจ
นากิคิทสึเนะ...
กองทัพเคบิอิชิจู่โจมพวกเขาทันทีที่มาถึง
ไม่มีแม้แต่เวลาให้เตรียมตัว ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าคือผู้อยู่รอดนี่คือกฎของโลกที่แสนโสมมนี้
นิคคาริยังคงเดินต่อไป
แขนขวาขยับไม่ได้ ส่วนดวงตาข้างซ้ายนั้นพร่ามัว ชายหนุ่มหยุดชะงักยามเมื่อสะดุดเข้ากับร่างของใครคนหนึ่ง
โดทานูกิมาซาคุนิ
ข้างกันนั้นเป็นร่างของอุจิคาตะนะนาม
โอคุริคาระ ที่กำลังหายใจอย่างรวยริน นิคคารินั่งลงข้างเขา ยามเมื่อสำรวจบาดแผลบนตัวคร่าวๆ
พบว่าอีกฝ่ายเสียเลือดมากจากขาข้างซ้ายที่ขาดสะบั้น หากแต่ยังมิทันเอ่ยสิ่งใด
โอคุริคาระกลับเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
“เขา..อยู่...ตรงนั้น”เสียงนั้นแหบพร่าและขาดเป็นช่วงๆ
“อีกฟากหนึ่ง..ของสมรภูมิ”
ชายหนุ่มเข้าใจถึงคำว่า
“เขา”ที่ โอคุริคาระพูดถึง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าตอนนี้
คือการช่วยเหลือสหายร่วมรบที่อยู่ตรงหน้า
“ข้าต้องช่วยท่าน!”
เขากล่าวก่อนที่จะรับรู้ว่าเสียงของตัวเองนั้นก็ไม่ต่างจากอีกฝ่าย โอคุริคาระส่ายหน้าเบาๆ
“มาซาคุนิ
คาเนซาดะ และยามาบุชิ ทุกคนสิ้นลมหมดแล้ว”
ดวงตาของวากิซาชิเบิกกว้าง
“และข้าก็กำลังจะตามพวกเขาไป”โอคุริคาระหลับตาลงอย่างเชื่องช้า
“ข้าทำ..ในส่วนของข้า...อย่างดีที่สุดแล้ว”
แล้วโอคุริคาระก็หลับไป
ชายหนุ่มรับรู้ถึงความเค็มของหยาดน้ำตาที่กำลังไหลริน
นี่เขาต้องสูญเสียสหายทั้ง 4 คนไปพร้อมกันในสมรภูมิแห่งนี้เชียวหรือ
นิคคาริลุกขึ้น
ก่อนจะลากร่างกายของตนเองที่ราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เดินตามหาใครอีกคนหนึ่ง
เคบิอิชิมีดสั้นที่ยังเหลือรอดพุ่งเข้ามาหาเขา ก่อนที่จะถูกชายหนุ่มใช้ดาบสั้นที่หักลงครึ่งหนึ่งของตนฟันทิ้งอย่างรวดเร็ว
นิคคาริโยนดาบที่หักของตนทิ้งอย่างไม่ใยดี
“เจ้าชอบซากุระไหม
อาโอเอะซัง”
อา...ทำไมถึงนึกเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมาตอนนี้กันนะ
“ทำไมหรือ”นิคคาริถามกลับด้วยความประหลาดใจ
“ท่านจะชวนข้าไปชมซากุระด้วยกันรึไง”ชายหนุ่มพูดติดตลก
ในเมื่อยามนี้พวกเขายังคงอยู่ในช่วงเหมันตฤดู ด้านนอกฮงมารุนั้นล้วนถูกย้อมด้วยหิมะสีขาว
การชมดอกซากุระนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“ถ้าหากข้าบอกว่าใช่ล่ะ”อีกฝ่ายกล่าวยิ้มๆ
“ เจ้าจะไปด้วยกันกับข้าไหม อาโอเอะซัง”
ทุกๆย่างที่ก้าวเดินนั้น นิคคาริรู้สึกได้ถึงความหนักอึ้ง เสียงในหัวกรีดร้องบอกให้หยุด
อย่างน้อยๆก็จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ แต่เขาเพียงแค่อยากรู้
แค่อยากไปดูให้แน่ใจ
ทั้งๆที่..ส่วนลึกในจิตใจนั้นรู้อยู่เต็มอก
ชายหนุ่มหยุดเดิน
เมื่อร่างของอิชิคิริมารุปรากฏแต่สายตา นิคคาริรีบถลาเข้าไปหาคนรักของตนทันที
“ท่านอิชิคิริมารุ”ชายหนุ่มใช้มืออีกข้างที่ยังปกติดีอยู่ตบที่ใบหน้าของอีกฝ่ายเบาๆ
ชุดสีเขียวอ่อนมีเลือดซึมออกเป็นวงกว้าง นิคคาริใจหายทันทีเมื่ออิชิคิริมารุไร้การตอบสนอง
รู้สึกในอกมันปวดร้าว
น้ำตาพลันไหลออกมาอย่างมิอาจห้ามได้
“อาโอ..เอะซัง”
“ท่านอิชิคิริมารุ!”
นิคคาริก้มลงซบพรางร้องไห้ออกมาทันทีเมื่อโอดาจิหนุ่มเรียกชื่อเขา
อิชิคิริมารุยกมือขึ้นสัมผัสศีรษะวากิซาชิของตนเบาๆ ก่อนจะทัดบางสิ่งเข้าที่หูข้างซ้ายของนิคคาริ
อิชิคิริมารุรู้สึกถึงความสุขที่เอ่อล้นขึ้นมาในอก ยามที่คนข้างกายตอบรับคำชวนของเขา อาจจะเร็วไปที่จะชวนใครสักคนไปชมซากุระในฤดูหนาวเช่นนี้ แต่อิชิคิริมารุกลับไม่คิดเช่นนั้น
ชายหนุ่มขยับตัวเพื่อกอดคนข้างๆให้แน่นขึ้น
อากาศในฤดูหนาวยามค่ำคืนถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่นจากสัมผัสของอีกฝ่าย
อิชิคิริมารุกระซิบที่หูของคนรักตนเบาๆ
“สัญญากับข้าแล้วนะ”
มือหนาที่มีคราบเลือดติดอยู่ลากจากใบหูลงมาที่แก้ม ก่อนที่ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น
“เจ้าเหมาะกับดอกซากุระจริงๆด้วย
อาโอเอะซัง”
ดอกไม้ที่เขาเด็ดมาระหว่างการเดินทาง
ยามนี้เหมันตฤดูได้ผ่านพ้นไปแล้ว เหล่าบุบผาเองก็แตกหน่อออกดอกอย่างบานสะพรั่ง
แต่เสียดายที่เขาคงไม่มีโอกาสได้อยู่ชมพร้อมกับคนข้างๆ
“ขอโทษนะ”อิชิคิริมารุกระซิบ
“แล้วก็ขอบคุณ ที่มาหาข้าในวาระสุดท้าย”
นิคคาริรู้สึกราวกับมีเข็มนับร้อยเล่มแทงทะลุก้อนเนื้อในอก
วากิซาชิหนุ่มตัวชา เขากลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากของตนและพยายามอย่างยิ่งที่จะหัวเราะออกมา
“ท่านจะผิดคำสัญญากับข้าหรือ”เสียงของเขาสั่นเครือ
“ไหนบอกว่าจะพาข้าชมซากุระไง”
“ตอนนี้ซากุระบานแล้วนะ”นิคคาริสะอื้น
“และข้าอยากไปดูกับท่าน”
โอดาจิหนุ่มคลี่ยิ้มจางๆ ความเจ็บปวดจากบาดแผลในตอนนี้ เทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดที่ต้องเห็นอีกฝ่ายร่ำไห้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ต่างฝ่ายต่างเป็นคนสำคัญของกันและกัน
“ทำไมข้าถึงเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้กันนะ”
“อาจเป็นเพราะไปคร่าชีวิตเด็กเล็กล่ะกระมัง”
นับตั้งแต่ที่ได้สนทนากันในครั้งนั้น ความรู้สึกของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
จากคนแปลกหน้ากลายมาเป็นสหาย
และจากสหายกลายมาเป็นคนรัก
“ข้ารักเจ้านะ”
อิชิคิริมารุเอ่ย “และจะรักตลอดไป” ถ้าหากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากอยู่กับคนตรงหน้าให้นานกว่านี้
“วากิซาชิเพียงหนึ่งเดียวของข้า” เพียงแค่สักวินาทีเดียวก็ยังดี
ราวกับทุกอย่างเคลื่อนไหวช้าลง
แสงของลูกแก้วสีอเมทิสต์นั้นจางหาย ดวงตาของโอดาจิค่อยๆปิดลง
สัมผัสที่อยู่ตรงแก้มหายไปยามเมื่อมือของอิชิคิริมารุร่วงหล่น
พร้อมกับเสียงลมหายใจที่หยุดลง
นิคคาริกรีดร้องเฉกเช่นคนเสียสติ
ชายหนุ่มกอดร่างที่ไร้ลมหายใจของอีกฝ่ายไว้แน่น คนรักของเขาได้จากไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่เกินกว่าที่เขาจะรับได้ไหว
ยามเมื่อนิคคาริต้องสูญเสียทั้งสหายและคนรักของเขาไปพร้อมกัน
พื้นด้านหลังสั่นสะเทือน
เสียงลมหายใจที่หนักหน่วงบอกให้รู้ว่ายังคงมีเคบิอิชิที่เหลือรอด นิคคาริไร้ความรู้สึกที่แม้แต่จะสู้เพื่อเอาชีวิตรอด รู้สึกราวกับภายในถูกทำให้แตกเป็นเสี่ยงๆ
เขายังมีค่าพอให้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่แสนบิดเบี้ยวเช่นนี้ด้วยหรือ
เป็นศาตรา
ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สู้
เป็นอาวุธที่สักครั้งหนึ่งเคยได้รับความเมตตาให้ใช้ชีวิตเช่นมนุษย์คนหนึ่ง
นิคคาริหลับตาลงรอรับความตาย
เพียงได้แต่ภาวนาว่า เราจะได้เจอกัน..สักแห่งที่ใดในโลกอันโสมมนี้
“ข้าก็รักท่าน อิชิคิริมารุของข้า”
______________________________________________________________________________________________
//ต้มน้ำร้อนพลางโยนมาม่าลงไปสองก้อน
อยากลองเขียนฟิคเวลาที่ดาบแตก คิดว่ามันคงจะดรามาดี
ว่าเเต่...มีใครโดนคำโปรยเรื่องนี้หลอกมั่ง-----
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ เด็กหญิงจานบิน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เด็กหญิงจานบิน
ความคิดเห็น