เรื่องเล่าวันวาน ตอน งานกฐิน - เรื่องเล่าวันวาน ตอน งานกฐิน นิยาย เรื่องเล่าวันวาน ตอน งานกฐิน : Dek-D.com - Writer

    เรื่องเล่าวันวาน ตอน งานกฐิน

    เรื่องเล่าของวัยวุ่น 90 เมื่อ 30 ปีที่แล้ว งานวัดสนุกๆในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง

    ผู้เข้าชมรวม

    93

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    93

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 พ.ค. 65 / 14:53 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    เคยเล่นหลอกผีกันไหม มีผีเด็กสนุกๆมาเล่าสู่กันฟัง

    ย้อนกลับไปประมาณเกือบสามสิบปีที่แล้ว ช่วงเวลานั้นคงจะเป็นต้นฤดูหนาว เพราะเป็นหน้ากฐิน คิดว่าน่าจะช่วงๆเดียวกับเวลานี้ แต่เพราะเป็นเกือบสามสิบปีที่แล้ว อากาศก็จะหนาวๆเย็นๆแล้วละ

    วันนั้นวัดในหมู่บ้านเราได้รับจองกฐินจากเจ้าภาพที่กรุงเทพฯ น่าจะเป็นกองใหญ่ เพราะพ่อเราซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจัดเตรียมการต้อนรับคณะกฐินจากเมืองหลวงอย่างอลังการ ทั้งจัดสถานที่ รวมถึงข้าวปลาอาหาร และแน่นอนที่สุดศิลปวัฒนธรรมล้านนาต่างๆที่ชาวเมืองหลวงอยากดู อยากชม พ่อผู้ใหญ่จัดให้ ไม่ให้น้อยหน้า

    เราในฐานะลูกสาวคนโตของผู้ใหญ่บ้านมีหรือที่จะไม่ทำอะไร  ก็เกณฑ์สมัครพรรคพวก เพื่อนฝูงมาช่วยงานกันอยู่หลายวัน โดยเฉพาะเพื่อนสาวหลายคน ก็มารับหน้าที่ ช่างฟ้อนนางรำในงานครั้งนี้ด้วย 

    ตัวเรานั้น รำได้ไม่สวยเท่าเพื่อนๆ ก็รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ(พิธีกร)ก็แล้วกัน 

    แต่ด้วยความที่เรารักสวย รักงาม นี่ถึงฉันจะเป็นผู้ดำเนินรายการ ฉันก็ต้องแต่งชุดสวยๆเหมือนนางรำนะ เพื่อนๆบอก แล้วแต่แกเลย จัดไป

    วัดที่จัดงานอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรานัก เพราะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ พวกเราเดินไปเดินมาระหว่างบ้านกับวัดได้ตลอด

    วันงาน คณะกฐินมาถึงกันตอนเย็น กำหนดการคือ คืนนี้พักกันก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยถวายองค์กฐินกัน งานวัดมีตั้งแต่คืนนี้ละ นางรำเพื่อนๆเราก็รำกันคืนนี้ ส่วนของพวกเราแสดงช่วงหัวค่ำ เพราะพวกเรายังเป็นเด็ก จะได้รีบกลับบ้าน รำเสร็จก็เดินเทียวงานวัดรอบ สองรอบ แล้วพวกเราก็เดินกลับบ้าน

    ทางกลับบ้านไม่มืดมาก แต่ถ้าถามว่าสว่างไหม ก็ไม่นะ ด้วยความที่พวกเราชินทาง เพราะสอง-สามวันก่อนหน้านี้ก็มาซ้อมรำ เดินกลับเวลานี้เสมอๆ ก็ชินทางนั้นละ

    ทางเดินกลับบ้านเราจะมีแม่น้ำสายเล็กๆเป็นแม่น้ำหลักที่ตัดผ่านกลางหมู่บ้านของเรา ย่าเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนเป็นแม่น้ำที่กว้าง และลึกกว่านี้มาก หน้าแลงยังมีปลาชุม และที่สำคัญ มีผีนางเงือกด้วย(ว้าย!!!! มีผีด้วย)

    ย่าบอกว่า ตอนกลางคืน จะมีเสียงคนมาเล่นน้ำ คืนไหนพระจันทร์สว่างๆลองมองมาที่แม่น้ำกลางหมู่บ้านจะเห็นเงาคน ผมยาวๆ ดำผุดดำว่ายอยู่ พร้อมกับได้ยินเสียงเพลงเย็นๆ  ย่าก็บิ้วซะ

    ก่อนถึงบ้านเราซึ่งเป็นบ้านของผู้ใหญ่บ้าน จะมีลานกว้างๆเป็นลานใหญ่ สถานที่ทำกิจกรรมต่างๆของหมู่บ้าน เราเคยสงสัยว่า ที่กว้างขนาดนี้ไม่มีเจ้าของเหรอ ทำไม่กลายเป็นลานหมู่บ้านเฉยๆไปได้  ย่าเล่าว่า(ย่าอีกแล้ว) เคยมีเจ้านะ แต่มีเรื่องมีราวอะไรสักอย่าง จำไม่ได้แล้วจริงๆว่าเรื่องอะไร ทำให้มีมีใครกล้ามาอยู่ตรงนี้ ก็เลยกลายเป็นลานหมู่บ้านไป ตอนนั้นมันเป็นลานกว้างๆยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างอะไรเหมือนตอนนี้(ตอนนี้มีศาลา มีประปา ศูนย์ประชุม สว่างไสวไม่วังเวงจ้า  ) 

    ตอนที่พวกเราเดินมาถึง ก็มืดมากแล้ว พวกเรารีบวิ่งเข้าบ้านเพราะก่อนถึงเขตบ้านจะต้องผ่านดงกล้วยดงใหญ่ ใบกล้วยแต่ละใบ เวลามันสบับไหวๆอยู่ในเงาสลัวๆ มันทำให้จิตนาการบรรเจิดไปไกลได้

    พวกเรานั่งกินขนมต่างๆที่ช่วยกันหอบมาจากวัด อยู่กลางบ้าน น้องชายคนรองของเรายังไม่กลับมา คงดึกๆกว่าจะเข้ามา เด็กผู้ชายแม่ไม่ห่วง ส่วนพวกเราที่เป็นผู้หญิง รำเสร็จ แม่ก็รีบต้อนให้พวกเรากลับ

    กินขนมกันไป ตามประสาเด็กผู้หญิงก็ เมาส์มอยกันไป อยู่ๆเพื่อนคนหนึ่งก็พูดเรื่องผีเงือกที่ย่าเคยเล่าให้ฟังขึ้นมาซะงั้น แล้วก็พูดถึงเรื่องพวกเพื่อนๆผู้ชายที่ยังไม่กลับมาจากวัด ความคิดแผลงๆของพวกเราจึงเกิดขึ้น

    เนื่องจากพวกเรายังไม่ได้ถอนชุดนางรำออก หน้าตาก็ยังไม่ได้ล้าง หน้าแบบนี้ ชุดแบบนี้ ถ้าเข้าไปอยู่ในดงกล้วย หรือริมแม่น้ำ น่าจะหลอนใช้ได้(อันนี้แค่เด็กๆอยากแกล้งเพื่อนผู้ชาย)

    พวกเราก็เริ่มแบ่งทีม คนที่แต่งตัวธรรมดาไปดูคนในวัด ส่วนพวกเราที่แต่งชุดนางรำก็ไปประจำตามจุดต่างๆ

    ความลำบากอยู่ตรงที่สมัยก่อนไม่มีโทรศัพท์ เราติดต่อกันด้วยการวิ่งมาบอก แล้วก็ส่งสัญญาณไฟ ด้วยไฟฉาย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นผีปลอม หรือต้นทางก็เลยต้องเปลี่ยนกันไปแอบอยู่หลังวัดบ้าง พุ่มไม้ ต้นลำไยในวัด ศาลาบาตร ที่พักแขก หรือแม้แต่หลังเจดีย์บาง ว่าเป้าหมายไปตรงไหนแล้ว แล้วก็ส่งสัญญาณไฟแวบๆ กว่าเป้าหมายจะมา ผีปลอมที่แอบอยู่ตามจุดต่างๆ ต้องบริจาคเลือดให้ยุงไปหลายลิตร แล้วก็ต้องผลุบๆโผล่ๆอยู่นานกว่าจะได้ออกโรง

    เป็นอันว่า พวกเราหลอนเพื่อนๆผู้ชายสำเร็จ กลับบ้านไปคงหัวโก๋นกันหลายคน 

    เช้าวันต่อมา หลังคณะเจ้าภาพถวายกฐินเสร็จ ก็รีบเดินทางกลับ ยังสงสัยว่า ทำไมเค้ารีบกลับกันจัง  พวกเรามาช่วยผู้ใหญ่เก็บสถานที่

    “ป้าๆ ทำไมคณะกฐินเค้ารีบกลับกันละป้า ไม่อยู่เทียวต่อ”

    “เห็นเค้าบอกว่า เมื่อคืนโดนผีหลอก ผีที่นี่เยอะเหลือเกิน เดินไปทางไหนก็เจอ ทั้งริมน้ำ ทั้งดงกล้วย หลังวัด ศาลาบาตรก็มี เค้าพูดกันว่า มีทั้งแบบเป็นไฟแวบๆ เป็นกลิ่นหอม มีเป็นเสียงเพลงก็มี หน้าบ้านผู้ใหญ่ก็ยังมีเลยนะ”

    แหะ......แหะ....ผีเยอะจังเลยเนอะ...........หมู่บ้านเรานี่ ผีดุจริงๆ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×