คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : chapter 7 : It's love (100%)
Chapter 7 : It's love
วันนี้ท้องฟ้าสดใสกว่าทุกวัน แว่นกันแดด หมวก เสื้อยืดสบายๆกับกางเกงขาสั้นสีสดใสทำให้การไปเที่ยวทะเลในครั้งนี้น่าตื่นเต้นขึ้นไปอีก ล้อรถหมุนเจ็ดโมงเช้า ตอนแรกทุกคนก็กลัวว่านัดเช้าเกินไปใครบางคนจะตื่นมาไม่ไหว แต่กลายเป็นว่าตอนนี้แบคฮยอนมานั่งรอทุกคนอยู่ที่ลานจอดรถเรียบร้อยแล้ว นั่นก็เป็นเพราะว่าคนตัวเล็กตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ
“โอ้โห วันนี้ฝนจะตกปะเนี่ย ไอ้แบคมาก่อนใครเลยเว้ยย” จงแดเดินเข้ามาแซวเพื่อนตัวแสบ จริงๆจงแดไม่เกี่ยวกับการไปเที่ยวในครั้งนี้ด้วยเลยเพราะเขาอยู่คนละชมรม แต่ถ้าแบคฮยอนขอร้องพี่ชานยอลซะอย่างทำไมจงแดจะไปไม่ได้
“มันประหลาดมากเลยเหรอวะ?” แบคฮยอนขมวดคิ้วถาม
“มากกกกกกกกก!!!” จงแดลากเสียงยาวๆใส่คนตัวเล็ก
“คยองซูอ่ะ?”
“แวะซื้อขนมไปกินบนรถอ่ะ เดี๋ยวก็มา”
“อ๋ออออ”
แบคฮยอนพยักหน้ารับรู้ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่สัญญากันไว้เมื่อวันก่อนว่าจะมาทริปนี้ให้ได้ คนตัวเล็กลุกขึ้นพร้อมยิ้มกว้างใส่อีกคน
“มาด้วยเหรอ นึกว่าจะเบี้ยวซะแล้ว” แบคฮยอนเอ่ยทักทายน้องรหัส
“ผมสัญญาแล้วผมก็ต้องมา” เซฮุนตอบกลับ
“ซื้อขนมไปตุนไว้บ้างมั้ยเนี่ย เดี๋ยวจะหิวบนรถนะ เราน่าจะยิงยาวไปจนถึงทะเลเลย” แบคฮยอนมองน้องรหัสที่มาแต่ตัวกับกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ
“ผมไม่ชอบกินของจุกจิกน่ะครับ”
“กินจุกจิกแล้วมันทำไมเหรอ?!” แบคฮยอนยู่หน้าใส่น้องรหัส
“กินแล้วมันก็ ‘อ้วน’ ไงครับ” เซฮุนเน้นเสียงตรงคำว่าอ้วนให้ได้ยินชัดๆ เขายังไม่ได้บอกคนตัวเล็กว่าวันนั้นที่ต้องพยุงไปที่หอนั่นลำบากลำบนแค่ไหน สาเหตุก็เพราะการกินไม่หยุดนี่แหละถึงได้ตัวหนักแบบนี้ไง
“แต่--” ยังไม่ทันจะได้เถียงเสียงตะโกนให้ไปนั่งรวมพลก็ดังขึ้น แบคฮยอนชี้หน้าน้องรหัสเป็นเชิงว่า ‘ฝากไว้ก่อนเถอะ’ ก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วสะบัดหน้าเดินไป เซฮุนหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเดินตามอีกคนไปที่จุดรวม
รอจนทุกคนมาครบจึงได้เวลาออกรถ แบคฮยอนนั่งกับคยองซูโดยมีจงแดนั่งเบาะข้างๆกับเพื่อนอีกคน จงอินนั่งกับแทมิน ส่วนเซฮุนนั่งคนเดียวเพราะไม่อยากวุ่นวายกับใคร
“พี่นั่งด้วยได้มั้ย?” เสียงเข้มของประธานชมรมเอ่ยขึ้นขณะที่คนตัวสูงกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง เซฮุนหันไปมองรอยยิ้มมุมปากหล่อๆที่เป็นมิตรนั่นก่อนจะพยักหน้าเบาๆไปตามมารยาท ชานยอลเห็นอย่างนั้นจึงวางกระเป๋าก่อนจะนั่งลงข้างๆเซฮุน
ที่ว่างก็มีตั้งเยอะแยะทำไมไม่ไปนั่ง?...
เขาออกจะรู้สึกรำคาญนิดๆ แทนที่จะได้นั่งคนเดียวอย่างสบายใจกลับต้องมานั่งกับคนอื่น เซฮุนไม่ได้อยากจะมีเพื่อนหรือมีมิตรสัมพันธ์ที่ดีกับใครซักเท่าไหร่ เขาจึงเลือกที่จะใส่หูฟังแล้วเปิดเพลงดังๆหลับตาไปเลยเพื่อไม่ให้อีกคนชวนคุย ซึ่งชานยอลก็ไม่ได้สร้างความรำคาญอะไรมากมายนัก เขาเห็นรุ่นน้องปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก คิดว่ารุ่นน้องคงอยากมีเวลาส่วนตัวจึงไม่อยากไปรบกวน ทั้งคู่ต่างคนต่างนั่งกันไปแบบเงียบๆจนกระทั่งถึงจุดหมาย
ทันทีที่รถจอดทุกคนต่างก็วิ่งกันลงจากรถแล้วมุ่งตรงไปที่ชายหาดทันที เช่นเดียวกับแบคฮยอน สองมือเล็กจูงมือเพื่อนสนิททั้งสองคนให้เดินตามไปเดินเล่นที่ชายหาด จริงๆคยองซูก็ไม่ได้อยากจะลงไปเดินเตะน้ำเลยซักนิด เขาอยากนั่งรับลมเย็นๆบนฝั่งมากกว่าแต่ก็ขัดใจเพื่อนไม่ได้ มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเรียกจงแดกับคยองซูเซลฟี่กันสามคนก่อนจะฉีกยิ้มกว้างใส่โทรศัพท์ ไม่ใช่เพราะเขาบ้ากล้องแต่เพราะเขาอยากจะเก็บทุกความทรงจำที่มีกับเพื่อนๆเอาไว้ รูปหนึ่งรูปสามารถแทนเหตุการณ์และความรู้สึกต่างๆได้เป็นร้อยเป็นพัน เพราะอย่างนี้เขาจึงบันทึกทุกๆอย่างเอาไว้เพื่อจดจำมัน
คาดว่าสิบนาทีที่ยืนอยู่ตรงนั้นคงจะได้ประมาณเกือบร้อยรูป มีทั้งรูปเดี่ยวรูปคู่และรูปสามคน ผลัดกันถ่ายอย่างสนุกสนาน แบคฮยอนยิ้มกว้างใส่กล้องอย่างอารมณ์ดีโดยไม่รู้ว่าใครบางคนแอบมองอยู่จากที่ไกลๆ เซฮุนมองพี่รหัสจากบนฝั่ง จริงๆเขาก็ไม่ได้อยากจะมองดูคนตัวเล็กซักเท่าไหร่ แต่พอเหลือบไปเห็นเขาก็ไม่สามารถละสายตาไปไหนได้อีก เขามองพี่รหัสอยู่อย่างนั้นแล้วเผลอยิ้มบางๆออกมาไม่รู้ตัว
“ฝันกลางวันเหรอวะ?” เซฮุนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้สติจากเสียงเรียกของเพื่อนสนิท จงอินจ้องหน้าคนตัวสูงราวกับสงสัยว่าที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่นฝันหรือเป็นบ้า
“ว่างนักเหรอถึงมานั่งสังเกตกูเนี่ย” คนตัวสูงตอบกลับไปก่อนจะแกล้งมองไปทางอื่น
“เวลากูจะคุยกับมึงกูก็จะเห็นมึงนั่งเหม่ออยู่บ่อยๆบางทีก็ยิ้มคนเดียว เอาจริงๆนะ มึงดูเหมือนคนอยู่ในห้วงของความรักเลยว่ะ” เซฮุนหันมองหน้าเพื่อนผิวเข้มก่อนจะขมวดคิ้วครุ่นคิดกับประโยคเมื่อครู่ของอีกคนแล้วตัดสินใจถามสิ่งที่ค้างคาออกไป
“กูดูเหมือนคนมีความรักเหรอวะ?” เซฮุนจ้องหน้าจงอินอย่างต้องการคำตอบ
“อืม” จงอินพยักหน้าหนักแน่นเพื่อยืนยันสิ่งที่เขาคิด
“แล้วการที่เราเริ่มรักใครซักคนนี่มันป็นยังไงวะ?” เขาหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าจริงจัง
“เกิดมามึงเคยมีความรักป่ะเนี่ย?” จงอินขมวดคิ้วใส่คนตัวสูงแต่ก็ได้การส่ายหน้ากลับมาเป็นคำตอบ
“โอ้โห!!” จงอินอุทานออกมาเสียงดัง เขาไม่คิดว่าคนหน้าตาดีอย่างเซฮุนจะอยู่โดยปราศจากความรักมาทั้งชีวิต โอ้แม่เจ้า เซอร์ไพรส์สุดๆ
“แล้วตกลงมันเป็นไง?” เซฮุนจ้องหน้าเพื่อนสนิทอย่างจริงจัง
“ก็....ตื่นมาอยากเห็นหน้าเขาเป็นคนแรก ก่อนนอนก็คิดถึงแต่เขาเป็นคนสุดท้าย”
“....”
“มีอะไรที่เกี่ยวกับเขาก็จะนึกถึงเขาเสมอ พอนึกถึงก็จะยิ้มออกมาทุกที”
“...."
“เวลามองเขาจะรู้สึกว่าเขาน่ามองทุกการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะขยับไปไหนทำอะไรก็น่ารักไปหมดจนละสายตาไปไหนไม่ได้”
“....”
“เวลาเจอหรือคุยกันจะรู้สึกประหม่า หายใจไม่ค่อยออก ไม่กล้าสบตา หัวใจก็จะเต้นเร็ว ความรู้สึกมันแน่นที่ตรงนี้ไปหมด” จงอินพูดพร้อมชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองก่อนจะมองตรงไปยังชายหาดข้างหน้าที่คนตาโตยืนอยู่เพื่อบอกให้เพื่อนตัวสูงรู้ว่าสิ่งที่พูดมาทั้งหมดมันรู้สึกได้จริงเมื่อได้สัมผัสกับความรัก
“ว่าแต่มึงไปแอบชอบใครอ่ะ? เล่าเดี๋ยวนี้!!” จงอินละสายตาจากคยองซูก่อนจะชี้หน้าเพื่อนสนิทอย่างคาดคั้น
“ไม่มี๊!!”
“ไม่เนียนเลยนะมึงอ่ะ” จงอินส่ายหน้าให้กับความปากแข็งของเพื่อนตัวสูงทั้งที่เขาก็เป็นเพื่อนแท้ๆจะปรึกษาก็ได้เพราะเขายินดีจะรับฟังอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรไว้มึงอยากเล่าค่อยเล่าก็ได้” คนผิวเข้มตบบ่าเพื่อนสนิทเบาๆก่อนจะกระซิบข้างหู “วันไหนมึงพร้อมจะไว้ใจให้กูเป็นที่ปรึกษาหัวใจดวงน้อยๆของมึง ก็ tell me OK?” จงอินยิ้มเบาๆให้เซฮุนก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปจากตรงนั้นทิ้งให้อีกคนนั่งคิดทบทวนอะไรๆด้วยตัวเอง
หลังจากที่พักผ่อนกันตามอัธยาศัยจนพอใจชานยอลก็เรียกรวมทุกคนเพื่อแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมในวันนี้ โดยเกมส์ที่จะเล่นคือการชิงธง ใครที่ได้ธงมากที่สุดก็คือผู้ชนะและจะได้รางวัลพิเศษไป โดยแทมินเสนอตัวเองเป็นกรรมการเพราะข้อเท้าของเขายังเจ็บอยู่จึงร่วมสนุกไม่ได้มาก การแข่งขันจะแข่งเป็นคู่โดยการจับฉลาก ใครที่ได้เลขเดียวกันก็จะเป็นคู่บัดดี้ที่จะทำกิจกรรมร่วมกันตลอดทั้งทริปนี้ ตอนนี้ทุกคนกำลังต่อแถวเพื่อที่จะจับฉลาก ต่างคนต่างก็ตื่นเต้นและลุ้นว่าตัวเองจะได้คู่กับใคร
“เปิดกระดาษได้แล้วครับ ใครได้เลขอะไรก็ชูนิ้วเอาไว้สูงๆ ตะโกนหมายเลขของตัวเองก็ได้ พอเจอคู่แล้วขอให้ทุกคนจับคู่แล้วนั่งลงนะครับ” แทมินแจ้งรายละเอียดก่อนที่ทุกคนจะเปิดกระดาษของตัวเองเพื่อดูหมายเลข
‘3’
แบคฮยอนเปิดกระดาษของตัวเองก่อนจะอ่านหมายเลขที่ปรากฏในกระดาษ เขาหันซ้ายหันขวาเล็กน้อยก่อนจะชูนิ้วเป็นเลขสามขึ้นเหนือศีรษะ สายตาเรียวมองกราดหาบุคคลที่ชูเลขสามเช่นเดียวกับเขาอย่างตั้งใจก่อนจะหันไปเจอกับบุคคลที่ช่วงนี้ชอบมาวนเวียนในชีวิตอยู่บ่อยๆ
น้องรหัสของเขาอีกแล้ว....
ทั้งคู่ต่างคนต่างมองหน้ากันท่ามกลางผู้คนที่โวกเวกเสียงดังก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปหากัน
“เสียใจมั้ยที่ได้พี่เป็นบัดดี้” แบคฮยอนยิ้มแหยใส่น้องรหัส
“เสียใจ?”
“นายอาจจะไม่อยากคู่กับพี่ แต่พี่สัญญานะว่าพี่จะพยายามเล่นเกมส์ให้สุดความสามารถเลย เราจะต้องชนะให้ได้!!!” แบคฮยอนทำสีหน้าจริงจังใส่น้องรหัสจนเซฮุนอดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางของอีกคน
“เวลามองเขาจะรู้สึกว่าเขาน่ามองทุกการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะขยับไปไหนทำอะไรก็น่ารักไปหมดจนละสายตาไปไหนไม่ได้”
เซฮุนรีบดึงสติกลับมาเมื่อนึกไปถึงคำพูดของเพื่อนสนิท เขาส่ายหน้าไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกไป อยู่ดีๆทำไมคำพูดของจงอินถึงผุดขึ้นมาในหัวของเขาก็ไม่รู้
การแข่งแบ่งออกเป็นสามเกมส์คือวิ่งขาเดียว กินวิบาก และหาสถานที่ตามรูปถ่าย โดยจะมีธงเล็กๆทั้งหมดยี่สิบผืน เกมส์แรกคือวิ่งขาเดียว แต่ละคนจะต้องมัดขากับคู่ของตัวเองแล้ววิ่งบนชายหาด ใครไปถึงเส้นชัยก่อนคู่นั้นก็ชนะ เซฮุนก้มลงใช้ผ้าผูกขาตัวเองกับพี่รหัสให้แน่นจนมั่นใจว่าจะไม่หลุดระหว่างทางก่อนจะลุกขึ้นแล้วบังเอิญสบตากับอีกคนที่ยิ้มกว้างใส่เขาพร้อมยื่นมือออกมา
“แปะมือกันหน่อย” เซฮุนมองมือเล็กที่ยื่นมาตรงหน้าเขา เขาชั่งใจอยู่เล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือไปแปะกับมือของอีกคนเบาๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับความนุ่มนิ่มเต็มมือแบบนี้ ทำไมมือคนตัวเล็กถึงได้นุ่มแบบนี้นะ ทั้งที่ก็เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ
“ทุกคนพร้อมแล้วนะครับ” แทมินส่งเสียงถามผู้เข้าแข่งขัน ทุกคนก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงฮึกเหิม “ถ้าอย่างนั้นก็ระวัง....เตรียมตัว”
ปี๊ดดดดดด!!!
เสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นสัญญาณของการเริ่มการแข่งขัน ทุกคู่ต่างรีบออกตัวจากจุดเริ่มตัวและวิ่งไปยังเส้นชัย เป็นเรื่องยากที่แบคฮยอนจะก้าวขาได้ทันเซฮุนเพราะน้องรหัสของเขาขายาวมากแต่เขาดันขาสั้น คนตัวเล็กพยายามจะก้าวขาให้ยาวขึ้นเพื่อตามอีกคนให้ทันแต่ก็ไม่สามารถทำได้ตลอดรอดฝั่ง เมื่อขาเล็กก้าวตามไม่ทันจึงทำให้เขาสะดุดแล้วล้มลงไปกับพื้น
“โอ้ย!!” เมื่อแบคฮยอนสะดุดเซฮุนจึงต้องหยุดวิ่งแล้วหันไปมองอีกคน
“ลุกไหวมั้ยครับ?” คนตัวสูงก้มลงไปถามพี่รหัส คนตัวเล็กพยักหน้าเบาๆก่อนที่เซฮุนจะช่วยพยุงพี่รหัสลุกขึ้นแล้ววิ่งต่อไป
“โอ้ย!! เจ็บอ่ะ” แบคฮยอนล้มลงไปอีกครั้งก่อนจะจับที่ข้อเท้าตัวเอง ทุกคนต่างหันมาดูคนตัวเล็กเป็นตาเดียวรวมถึงชานยอลด้วย ชานยอลทำท่าจะวิ่งเข้าไปดูคนตัวเล็กแต่เขาคงจะลืมไปว่าขาของเขาถูกผูกติดกับคู่ตัวเองอยู่
“พี่หยุดทำไม? จะชนะอยู่แล้วนะ วิ่งเร็วครับ” ยองแจกระตุกแขนรุ่นพี่ให้วิ่งต่อไปเพราะอีกนิดเดียวก็จะถึงเส้นชัยแล้ว ชานยอลจึงต้องวิ่งต่อไปตามแรงดึงของรุ่นน้องถึงแม้ว่าจะเป็นห่วงคนตัวเล็กแทบตาย
“สงสัยข้อเท้าจะพลิก” เซฮุนก้มลงแกะผ้าที่ผูกขาออกก่อนจะช้อนร่างคนตัวเล็กขึ้น
“ทำอะไรอ่ะ?! ไม่แข่งต่อเหรอ?” แบคฮยอนเอ่ยถามน้องรหัสที่อุ้มตัวเขาขึ้นแล้วเดินออกจากการแข่งขัน
“เดินไม่ได้ยังจะแข่งต่ออีกเหรอครับ?” เซฮุนทำหน้าดุใส่อีกคนที่ห่วงการแข่งมากกว่าตัวเอง เขาวางร่างเล็กลงที่เก้าอี้ก่อนจะจับที่ข้อเท้าเล็กข้างขวา
“เจ็บ!!” แบคฮยอนร้องออกมาเสียงดังเมื่อเซฮุนขยับข้อเท้าของตัวเอง
“เห้ยเป็นไงบ้างวะ?” ลีแทยงเดินเข้ามาถามคนตัวสูงด้วยความเป็นห่วงรุ่นพี่
“ข้อเท้าพลิกอ่ะ กูวานขอผ้ากับน้ำแข็งหน่อยได้มั้ย?” เซฮุนหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
“ได้ๆ รอแปบหนึ่ง” แทยงตอบรับก่อนจะรีบวิ่งไปเอาของมาให้
“ขอโทษนะ ไม่ได้แข่งต่อเลย” คนตัวเล็กทำสีหน้าเศร้าใส่น้องรหัส
“ไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นหรอกครับ” เซฮุนพูดขึ้นโดยยังคงจับข้อเท้าของอีกคนเพื่อดูอาการ
“ไม่ได้นะ ก็พี่โม้เอาไว้เยอะว่ามันสนุก แต่พี่กลับทำให้มันไม่สนุกแล้วอ่ะ” ใบหน้าน่ารักงอลงก่อนจะสบตากับน้องรหัส เขารู้สึกผิดจริงๆนะที่ทำให้งานดูกร่อยไป เซฮุนหลุดหัวเราะออกมากับความจริงจังของพี่รหัส เขาส่ายหน้าและยิ้มบางๆเพื่อให้อีกคนสบายใจ จริงๆแล้วเขาเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ได้เล่นก็ดีไม่ได้เล่นก็ไม่เป็นไร
การแข่งกินวิบากผ่านไปโดยที่เซฮุนกับแบคฮยอนไม่ได้ร่วมแข่งด้วย ตอนนี้เป็นเวลาพักก่อนจะเข้าสู่ช่วงเกมส์ต่อไป
“แย่เลยว่ะ ขาเจ็บแบบนี้ก็ลงเล่นน้ำไม่ได้อ่ะดิ” จงแดบ่นเสียดายแทนคนตัวเล็กที่วางแผนกันเอาไว้ซะดิบดีว่าจะลงเล่นน้ำด้วยกัน
“มึงก็เล่นกับไอ้คยองไป” เขาเองก็อยากจะเล่นน้ำทะเลใจจะขาด แต่ตอนนี้แค่เดินก็ยังกะเพลกเลยนับประสาอะไรกับลงน้ำ
“กูว่าจะไม่เล่นอ่ะ” คยองซูเอ่ยขึ้น คนตาโตเป็นประเภทขี้เกียจสนุกสนาน เขาชอบที่สงบๆมากกว่า
“มึงคิดว่ากูอยากเล่นกับมึงนักเหรอ เล่นๆไปเกิดมึงไม่พอใจกูขึ้นมาจับกูกดน้ำตายห่าพอดี” พูดจบก็เอียงหัวหลบหมัดของคนตาโตที่กะจะชกโทษฐานพูดจาปากหมาในที่สาธารณะ
“ทุกคนครับ เราจะเริ่มเกมส์ตามหาสถานที่กันแล้วนะครับ ขอให้ทุกคนมารับรูปถ่ายตรงนี้ด้วยครับ” แทมินประกาศเรียกทุกคนให้ไปรวมตัวกันเพื่อเอารูปถ่ายแล้วแจ้งรายละเอียดของเกมส์ให้ฟัง
“กติกาของเกมส์นี้ก็คือทุกคู่จะได้รูปถ่ายของสถานที่ต่างๆทั้งหมดสิบแปดใบ ซึ่งจะมีการซ่อนธงเล็กๆเอาไว้ที่นั่น เพียงแค่ตามหาสถานที่เดียวกันกับในรูปถ่ายที่ได้ก็จะเจอธงซ่อนอยู่ ใครเจอก่อนคนนั้นก็ได้ธงไป มีใครสงสัยกติกามั้ยครับ?”
เมื่อไม่มีใครสงสัยอะไรทุกคนจึงแยกย้ายกันไปตามหาธง ต่างคนต่างก็ชูรูปถ่ายขึ้นเทียบกันสถานที่จริงและเดินวนไปเรื่อยเพื่อหาตำแหน่งของมัน
“พี่จะเล่นมั้ยครับ?” เซฮุนถามพี่รหัสอีกครั้งเพราะเขาเห็นว่าข้อเท้าของอีกคนไม่ได้มีอาการดีขึ้นเลย
“เล่นสิ”
“แล้วพี่เดินไหวหรอ? เกมส์นี้มันต้องเดินนะ”
“ไหวอยู่หน่า สบายมาก” แบคฮยอนยิ้มกว้างพร้อมยักคิ้วกวนๆใส่น้องรหัสเพื่อยืนยันว่าเขาไม่เป็นอะไร เซฮุนพยักหน้าตอบรับเบาๆก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มออกตามหาสถานที่
“โขดหินนี่มันอยู่ตรงไหนกันนะ?” แบคฮยอนหันซ้ายหันขวาพร้อมชูรูปถ่ายเทียบแล้วหมุนตัวไปรอบๆ
“ผมว่ามันน่าจะอยู่ฝั่งซ้าย”
“พี่ว่าฝั่งขวามากกว่า”
“ผมว่าซ้ายนะ”
“แต่พี่ว่าขวาอ่ะ”
เซฮุนมองหน้าพี่รหัสที่เถียงเสียงแข็งยืนยันความคิดตัวเอง เขาถอนหายใจออกมาเบาๆกับความดื้อของอีกคน เอาเป็นว่าครั้งนี้เขาจะยอมตามใจคนตัวเล็กก็แล้วกัน
“งั้นไปทางขวาก่อนก็ได้ครับ ถ้าไม่เจอค่อยกลับมาดูทางซ้ายกัน”
“เจอแน่นอน เดี๋ยวคอยดูเลย” แบคฮยอนทำสีหน้ามั่นใจใส่น้องรหัสก่อนจะเดินนำอีกคนไปทางขวา
“แบคฮยอน”
ขาเล็กที่กำลังก้าวเดินหยุดลงก่อนจะหันไปตามเสียงเรียก
“พี่ชานยอล” แบคฮยอนเดินกะเพลกเข้าไปหาอีกคนก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าแล้วสบตากับรุ่นพี่
“ข้อเท้าเป็นยังไงบ้าง?” ชานยอลถามขึ้นก่อนจะก้มลงมองข้อเท้าของอีกคนที่พันผ้าเอาไว้
“ก็เดินได้ครับแต่เจ็บนิดหน่อย” แบคฮยอนยิ้มกว้างใส่อีกคน เขาพยายามทำตัวให้ปกติเพื่อให้ทุกคนสบายใจว่าเขาไม่เป็นอะไร
“แล้วออกมาเดินทำไม เดินมากๆมันไม่ดีนะ”
“แบคไหวอยู่ครับ แค่นี้ไกลหัวใจ”
“ชอบดื้อนักนะ” ชานยอลยิ้มบางๆให้กับความดื้อของอีกคนก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวทุยเบาๆด้วยความเอ็นดู
“อะแฮ่ม!!”
เสียงกระแอมของอีกคนดังมาจากข้างหลังขัดบทสนทนาของทั้งคู่ ไม่รู้นี่คือการกระแอมหรือว่ามีอะไรติดคอกันแน่ถึงได้กระแอมดังขนาดนี้ เซฮุนเดินเข้าไปหาอีกคนก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเล็ก
“เราไม่มีเวลาอยู่คุยกันนานๆนะครับ เราต้องไปตามหาธง” พูดจบก็ออกแรงดึงอีกคนเดินไปให้ไกลจากตรงนั้นโดยไม่สนว่ามันจะเป็นการเสียมารยาทกับรุ่นพี่มากแค่ไหน
“เซฮุนค่อยๆเดินสิ” เสียงเล็กพยายามจะบอกให้อีกคนเดินให้ช้าลงเพราะตอนนี้เขาเริ่มจะเจ็บข้อเท้าขึ้นมาแล้ว
“เซฮุน”
“....”
“โอ้ย!!” ต้องให้อีกคนล้มลงไปก่อนคนตัวสูงถึงจะได้สติว่าตัวเองกำลังทำอะไร เขาดึงสติตัวเองกลับมาก่อนจะก้มลงดูอาการคนตัวเล็ก
“ผมขอโทษ” เสียงเข้มแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำนิสัยไม่ดีแบบนี้ เขาไม่ได้ตั้งใจทำให้คนตัวเล็กเจ็บ
“เจ็บอ่ะ” แบคฮยอนนิ่วหน้าพร้อมเบะปากทำท่าจะร้องไห้ใส่อีกคน เซฮุนแกะผ้าที่พันข้อเท้าออกก่อนจะพบว่าเท้าของอีกคนบวมขึ้นกว่าเดิมมาก
“ผมว่าเราเลิกเล่นเกมส์เถอะ พี่ไม่ควรเดินเยอะๆนะ”
“แต่พี่อยากเล่นอ่ะ” แบคฮยอนเบะปากงอแงใส่น้องรหัส ไม่ว่าจะยังไงเขาก็อยากจะเล่นเกมส์นี้ เซฮุนถอนหายใจออกมาเบาๆกับความดื้อ เรื่องดื้อไม่มีใครเกินคนๆนี้เลยจริงๆ
“หือ?”
แบคฮยอนมองอีกคนที่ย่อตัวลงนั่งกับพื้นก่อนจะหันหน้ามาสบตากับเขา มือหนาตบไหล่ตัวเองเบาๆเพื่อเป็นการบอกอีกคนว่า
ขึ้นมาสิ วันนี้เขาจะเป็นขาให้เอง
“ให้ขี่หลังเหรอ?” แบคฮยอนถามเสียงแผ่วอย่างไม่แน่ใจ เขาไม่คิดว่าคนนิ่งๆขี้รำคาญอย่างน้องรหัสของเขาจะทำอะไรแบบนี้ ไม่คิดเลยจริงๆ
“อืม” เซฮุนพยักหน้าเบาๆให้คนตัวเล็กแต่อีกคนก็ยังคงยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นด้วยความแปลกใจ แบคฮยอนกำลังคิดว่าตัวเองอาจจะกำลังฝันอยู่ ใช่ เขาฝันอยู่แน่ๆ
“ช้าเดี๋ยวไม่ให้ขึ้นแล้วนะครับ”
“งื้อ” แบคฮยอนรีบกระโดดขึ้นหลังน้องรหัสก่อนจะกอดรอบคออีกคน ขาเล็กเกี่ยวเอวสอบแน่นเพราะกลัวตก
“อย่าทำพี่ตกนะ” เซฮุนใช้มือรับร่างของพี่รหัสก่อนจะลุกขึ้นแล้วหันหน้าไปมองคนข้างหลัง
“มีผมอยู่พี่จะไม่ตกแน่ครับ” คนตัวสูงยิ้มบางๆให้อีกคนก่อนที่ขายาวจะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างอย่างช้าๆแต่มั่นคงเพื่อเป็นการย้ำให้อีกคนมั่นใจว่า....เขาจะไม่มีวันทำคนตัวเล็กตกแน่นอน
“หนักมั้ย?” แบคฮยอนเอียงคอถามอีกคนที่เดินแบกเขามาชั่วโมงกว่าแล้ว คนตัวสูงไม่บ่นหรือแสดงท่าทีอะไรเลยจนเขาไม่รู้ว่าอีกคนคิดอะไรอยู่ คนตัวสูงอาจจะอยากเปลี่ยนใจวางเขาลงแล้วให้เดินเองก็เป็นได้
“อยากรู้คำตอบจริงๆเหรอครับ?”
“อื้อ”
เซฮุนหันไปมองหน้าคนข้างหลังนิดๆก่อนจะอมยิ้มบางๆ
“หนักครับ หนักมากด้วย”
“หูยยย!!”
“โอ้ยๆๆ พี่ครับ!!” เซฮุนร้องออกมาเมื่อมือเล็กบิดหูเขา
“ไม่เชื่อหรอก นายโกหก” แบคฮยอนเบะปากใส่น้องรหัส เขาก็รู้ว่าเขาตัวหนัก แต่จะตอบรักษาน้ำใจกันหน่อยก็ไม่ได้ คนใจร้าย
เซฮุนหัวเราะออกมาเบาๆกับความย้อนแย้งของอีกคน อยากรู้ก็เลยบอก พอบอกความจริงก็รับไม่ได้ แล้วเขาก็ไม่ได้ล้ออีกคนเล่นด้วย เพราะว่ามันหนักจริงๆ
‘แชะ’
เสียงชัตเตอร์จากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นก่อนที่คนตัวสูงจะหันไปเห็นโทรศัพท์ที่จ่อหน้าเขาอยู่ เขาเอาแต่เดินไปข้างหน้าคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนไม่รู้ตัวว่าอีกคนกำลังแอบถ่ายรูปเขา
“พี่ทำอะไรอ่ะ?!”
“อยู่นิ่งๆสิ อย่าขยับ” แบคฮยอนพยายามจะยื่นกล้องไปถ่ายน้องรหัสอีกครั้งแต่เซฮุนก็เอียงคอหลบ “ถ้านายขยับรูปมันจะหวืดนะ เห็นมั้ยเนี่ย”
“ก็ผมไม่อยากถ่ายนี่”
“ถ่ายเถอะนะ เซลฟี่กัน”
“ไม่ครับ”
“ถ่ายกัน นะๆๆๆ” แบคฮยอนใช้นิ้วเขี่ยแก้มอีกคนเบาๆ เขาอยากจะเก็บรูปแบบนี้เอาไว้ วันหลังเวลากลับมาดูจะได้จำได้ว่าครั้งหนึ่งคนตัวสูงเคยให้เขาขี่หลัง
“น้าาาา” เสียงอ่อนเสียงหวานของคนตัวเล็กทำให้เซฮุนชั่งใจอยู่ไม่น้อย เขาเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูป ไม่ชอบที่จะต้องมานั่งฉีกยิ้มใส่กล้อง แต่ถ้านี่จะเป็นรูปแรกของเขากับพี่รหัสตัวแสบ ครั้งนี้เขาจะยอมถ่ายก็ได้
เซฮุนพยักหน้าเบาๆเพื่อตอบตกลงก่อนที่อีกคนจะยื่นมือออกมาอีกครั้ง ใบหน้าของทั้งสองคนปรากฏขึ้นในหน้าจอเดียวกันก่อนที่มือเล็กจะกดชัตเตอร์รัวไปห้าหกรูป แบคฮยอนเลื่อนดูรูปที่ถ่ายก่อนจะหัวเราคิกคักชอบใจอยู่คนเดียว
“เวลาเจอหรือคุยกันจะรู้สึกประหม่า หายใจไม่ค่อยออก ไม่กล้าสบตา หัวใจก็จะเต้นเร็ว ความรู้สึกมันแน่นที่ตรงนี้ไปหมด”
หัวใจก็จะเต้นเร็ว…
ใช่....เขากำลังรู้สึกแบบนั้น
“เดี๋ยวจะส่งให้นะ” มือเล็กเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบรูปถ่ายขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้เขาได้ธงหกผืนแล้ว และกำลังจะมองหาธงผืนที่เจ็ดอยู่
“ตรงนั้นเซฮุน ต้นไม้ตรงนั้น” แบคฮยอนชี้ไปที่ต้นไม้ต้นใหญ่บนชายฝั่ง เขาชูรูปขึ้นเทียบอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นสถานที่เดียวกันก่อนที่จะสั่งให้ขายาวๆพาเขาเดินไปตรงนั้น
“นั่นไง เจอแล้ว!!” คนตัวเล็กส่งเสียงตื่นเต้นกับธงผืนที่เจ็ดที่ถูกแปะอยู่บนต้นไม้ เขาเอื้อมมือไปหวังจะหยิบมัน แต่ธงนั่นมันอยู่สูงเกินจนเอื้อมมือไม่ถึง
“หยิบไม่ถึงอ่ะ นายเขย่งหน่อย” เสียงเล็กสั่งให้อีกคนเขย่งปลายเท้าก่อนจะเอื้อมไปหยิบธงอีกครั้ง
???
ก่อนที่มือเล็กจะเอื้อมถึงธง ธงนั่นก็ถูกมือปริศนาคว้าเอาไปได้ก่อน คนตัวเล็กมองตามมือปริศนานั่นก่อนจะพบกับคนที่แย่งธงไปต่อหน้าต่อตา ชานยอลยืนนิ่งสบตากับคนตัวเล็ก เขามัวแต่สนใจธงจนไม่ทันมองว่าคนตัวเล็กก็กำลังจะหยิบมันเหมือนกัน
“พี่ขอโทษ พี่ไม่ทันมองว่าเราก็จะหยิบเหมือนกัน”
“ไม่เป็นไรครับ” แบคฮยอนยิ้มบางๆให้อีกคน เขายอมรับได้เพราะถึงเขาจะมาเจอมันก่อนแต่คนที่หยิบได้เป็นคนแรกไม่ใช่เขา เขาก็ไม่มีสิทธ์ที่จะได้มัน
“พ....พี่ชานยอล” แบคฮยอนอึ้งเล็กน้อยเมื่ออีกคนยื่นธงมาให้เขาพร้อมกับรอยยิ้ม รอยยิ้มที่เต็มใจที่จะให้ไม่ว่าเขาจะต้องแพ้ในเกมส์นี้ก็ตาม
“พี่!! ไปให้เขาทำไมอ่ะ?!” ยองแจกระตุกแขนรุ่นพี่เบาๆแต่ชานยอลก็ยังคงยื่นธงให้อีกคน แบคฮยอนมองใบหน้าหล่อของรุ่นพี่สลับกับธง เขาไม่รู้ว่าควรจะรับมันมาดีมั้ย ถ้าเขารับมันมาจะเป็นการเห็นแก่ตัวหรือเปล่า แต่ถ้าธงผืนนี้จะทำให้เขาชนะเกมส์ เขาก็จะไม่ปฏิเสธมัน แบคฮยอนยื่นมือไปหยิบธงจากมือของอีกคนก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้
“ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไร” ชานยอลส่งยิ้มกลับไป เขายอมได้ทุกอย่างถ้าจะได้เห็นคนตัวเล็กมีความสุขแม้ว่าตัวเขาจะต้องเสียอะไรก็ตาม
หลังจากที่เกมส์จบลงทุกคนก็มารวมตัวกันเพื่อสรุปผลและมอบรางวัลให้กับคู่ที่ชนะ ยองแจยังคงอารมณ์เสียอยู่ไม่น้อยที่พี่ชานยอลเอาธงไปให้คนอื่น เขาเองก็อยากได้รางวัลเหมือนกัน เขาไม่พอใจพี่ชานยอลเอามากๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“ถึงเวลาประกาศผู้ชนะแล้วนะครับ แต่ก่อนที่เราจะประกาศผู้ชนะเราจะบอกรางวัลที่ผู้ชนะจะได้รับกันก่อนครับ” แทมินพูดด้วยน้ำเสียงน่าตื่นเต้น
“ผู้ชนะจะได้บัตรรับประทานบุฟเฟ่ร้านปิ้งย่างและตั๋วหนังที่นั่งวีไอพีคร้าบบ!!!” ทุกคนต่างส่งเสียงตื่นเต้นและปรบมือให้กับรางวัลผู้ชนะ มันเป็นรางวัลที่ทุกคนอยากจะได้ แต่จะมีเพียงแค่คู่เดียวเท่านั้นที่ได้รางวัลนี้ไป “และผู้ชนะที่จะได้รับรางวัลนี้ไปคือ!!”
“….”
“พี่แบคฮยอนกับเซฮุนครับ!!” ทุกคนต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความอิจฉา แบคฮยอนได้ยินชื่อตัวเองก็ปรบมือเสียงดังก่อนจะหันไปยิ้มกว้างใส่น้องรหัสพร้อมกับจับมืออีกคนชูขึ้นแล้วเขย่าด้วยความดีใจ
“เย้!! เราชนะแล้วนะ!!” แบคฮยอนยิ้มกว้างจนตาหยีก่อนจะหันไปอวดจงแดกับคยองซู เขาไม่รู้เลยซักนิดว่ารอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของน้องรหัสไม่ได้มาจากความดีใจที่ได้รางวัล แต่มาจากการที่ได้เห็นรอยยิ้มน่ารักของใครบางคนต่างหาก เช่นเดียวกับชานยอลที่นั่งมองคนตัวเล็กจากอีกที่หนึ่ง การที่เขาต้องเสียธงถึงแม้ว่าเขาจะต้องแพ้เกมส์ แต่ถ้าแลกกับการได้เห็นความสุขของคนตัวเล็ก สำหรับเขาก็ถือว่าคุ้มแล้ว
คืนนี้ริมชายหาดถูกประดับไปด้วยดวงไฟสว่างไสว เสียงกีต้าร์ จังหวะกลองที่สนุกสนานและเสียงหัวเราะที่ดังครึกครื้นไปทั่วชายหาดเป็นกิจกรรมนันทนาการที่ดีหลังจากจบอาหารเย็นริมทะเลมื้อใหญ่ แต่ท่ามกลางความสนุกสนานพวกนั้นเซฮุนกลับมานั่งเงียบๆอยู่ห่างๆ เขาทอดมองไปยังทะเลกว้างใหญ่ หลับตาลงซึมซับสายลมและอากาศบริสุทธิ์ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเพราะเสียงข้อความเข้า มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะเปิดดูข้อความเมื่อครู่
Seolhyun
[ว่างมั้ย? คุยได้หรือเปล่า?] 20.37
OhSehun
[ว่างอยู่ คุยได้] 20.37
Seolhyun
[เห็นว่าไปเที่ยวทะเลเหรอ? สนุกมั้ย?] 20.37
OhSehun
[ก็สนุกดี] 20.38
Seolhyun
[เราอยากไปบ้างจัง วันหลังพาเราไปบ้างสิ] 20.38
เซฮุนนิ่งไปหลังจากอ่านข้อความล่าสุดของเด็กสาว เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรกลับไป หรือเขาจะไม่ตอบดีนะ ถ้าไม่ตอบจะดูเสียมารยาทหรือเปล่า?
“เราอยากไปบ้างจัง วันหลังพาเราไปบ้างสิ”
เสียงเล็กที่คุ้นเคยดังขึ้นก่อนที่เซฮุนจะหันไปมองเจ้าของเสียงที่ยื่นหน้าเข้ามาดูหน้าจอโทรศัพท์ของเขา คนตัวสูงกดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะรีบเก็บใส่กระเป๋ากางเกง
“นึกว่าหายไปไหน ที่แท้ก็มานั่งแชทกับสาวนี่เอง” แบคฮยอนนั่งลงข้างๆน้องรหัสก่อนหันไปมองใบหน้าหล่อ
“เปล่าซะหน่อย” เซฮุนทำเป็นเสมองไปทางอื่น
“นี่ อาทิตย์หน้าว่างมั้ย ไปใช้บัตรฟรีกัน”
“พี่ไปกับเพื่อนเถอะครับ ผมให้”
“ได้ไงอ่ะ มันเป็นรางวัลของนายด้วยนะ นายไม่ไปไม่ได้เด็ดขาด” แบคฮยอนจ้องหน้าน้องรหัส ไม่ว่ายังไงเขาก็จะบังคับให้อีกคนไปให้ได้
“พี่ไปกับเพื่อนจะสนุกกว่าไปกับผมนะ”
“ไปกับนายก็สนุกได้เหมือนกันแหละ” แบคฮยอนยู่หน้าใส่อีกคนที่เอะอะก็จะให้เขาไปกับเพื่อนทั้งที่ก็ได้รางวัลนี้มาด้วยกัน
“หรือว่านายไม่อยากไปกับพี่”
“….”
“ใช่สิ ไปกับพี่มันคงน่าเบื่อ” ถ้าชวนกันดีๆแล้วไม่ได้ก็คงต้องใช้ลูกไม้นี้
“ไม่ใช่นะครับ” เซฮุนรีบปฏิเสธสิ่งที่อีกคนคิด เขาไม่ได้คิดแบบนั้นเลยซักนิด คนตัวเล็กต่างหากที่คิดเองเออเองไปหมด
“ถ้างั้นก็ต้องไปด้วยกัน ตกลงมั้ย?” เซฮุนไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะต้องมาแพ้ให้กับลูกไม้ตัดพ้อตื้นๆอะไรแบบนี้ เขาจ้องใบหน้าน่ารักที่กำลังรอฟังคำตอบตกลงจากเขาก่อนจะพยักหน้าเบาๆ แบคฮยอนยิ้มกว้างใส่อีกคนก่อนจะหยิกแก้มน้องรหัส โอเซฮุนอาจจะไม่ได้น่ารักสำหรับใครๆแต่สำหรับเขามันก็น่ารักดีนะ
“สัญญากันแล้วนะ เกี่ยวก้อยก่อน” คนตัวเล็กยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าน้องรหัส
“ผมสัญญา แต่จะไม่เกี่ยวก้อยแล้ว”
“ทำไมอ่ะ!!” แบคฮยอนทำจมูกย่นใส่อีกคน
“ก็คราวที่แล้วมัน...”
“หื้ม?”
“มัน...”
มันช็อต...
“เอาเป็นว่าผมสัญญาครับ”
“ดีมากก คิคิ” แบคฮยอนยื่นมือไปยีหัวน้องรหัสให้ยุ่งๆด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปยังกลุ่มเพื่อน เซฮุนมองพี่รหัสเดินไปจนลับตาก่อนหันกลับมามองทะเลตรงหน้า
“ตื่นมาอยากเห็นหน้าเขาเป็นคนแรก ก่อนนอนก็คิดถึงแต่เขาเป็นคนสุดท้าย”
“มีอะไรที่เกี่ยวกับเขาก็จะนึกถึงเขาเสมอ พอนึกถึงเขาก็จะยิ้มออกมาทุกที”
“เวลามองเขาจะรู้สึกว่าเขาน่ามองทุกการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะขยับไปไหนทำอะไรก็น่ารักไปหมดจนละสายตาไปไหนไม่ได้”
“เวลาเจอหรือคุยกันจะรู้สึกประหม่า หายใจไม่ค่อยออก ไม่กล้าสบตา หัวใจก็จะเต้นเร็ว ความรู้สึกมันแน่นที่ตรงนี้ไปหมด”
“ความรักงั้นเหรอ?...”
คำพูดของเพื่อนสนิทกลับเข้ามาวนเวียนในหัวเขาอีกครั้ง เขาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะอมยิ้มบางๆกับตัวเอง
“ก็คงจะใช่ละมั้ง”
Talk: มาแย้วววววๆๆๆๆ ขอโทษที่หายไปนานนะคะ มีทั้งงาน การบ้าน สอบ พรีเซน แลป บลาๆๆ กว่าจะเคลียร์ตัวเองเสร็จชีวิตวุ่นวายไปหมด แต่เค้าก็มาต่อให้แล้วนะคะ หวังว่าทุกคนจะชอบน้าาาา รักเค้าเม้นให้เค้าเยอะๆนะคะ รักทุกคน ชุ้บๆๆ ^3^
@Auaum_CB
ความคิดเห็น