คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ ๖
ฮันบินตื่นขึ้นในยามเช้าด้วยความรู้สึกที่ไม่สดชื่นเท่าไร
ผิวขาวจัดซีดลงกว่าที่เคยเหตุเพราะเมื่อคืนฮันบินแทบไม่ได้นอน
ในหัวครุ่นคิดวิตกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และสิ่งที่จะตามมา
ในตอนนี้ด้วยสถานะของตัวเองซึ่งมาติดอยู่ที่นี่ตนควรจะทำสิ่งใด
ฮันบินค่อนข้างแน่ใจว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของจีวอน
จากที่เคยคิดว่าเหตุการณ์ลอบทำร้ายตน
กลุ่มคนที่น่าสงสัยคือจีวอนกับมินโฮ
ต้องเป็นใครสักคนเตรียมการณ์ไว้เพื่อจะได้ใส่ร้ายอีกฝ่าย
หากเป็นมินโฮทำ
การตายของเขาจะตกอยู่ในความรับผิดชอบของพวกฝั่งตะวันตก
โดยที่อีกฝ่ายเพียงรับหน้าที่เป็นทายาทที่เหลือเพียงคนเดียวและได้ปกครองแคว้นต่อไป
แต่ถึงอย่างนั้นฮันบินก็ไม่ตาย
หากไม่ใช่เพราะโชคดีก็คงเป็นเพราะความจงใจของใครให้เขายังมีชีวิตอยู่
ซึ่งในเช้าวันต่อมาฮันบินมั่นใจว่าเป็นอย่างหลัง เมื่อตนไม่ได้พบกับฮงซอกอีก
และฮันบินแน่ใจว่าชายหนุ่มที่เขาเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือตอนนั้นได้จากโลกนี้ไปแล้ว
โดยคนที่ทำการปิดปากอีกฝ่ายสร้างเรื่องหลอกเด็กบอกเล่าเรื่องการพาตัวฮงซอกไปรักษา
ฮันบินที่หายใจอยู่มีค่าแค่ให้เรื่องการเกือบโดนลอบสังหารไปถึงฝั่งตะวันออก
ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าคนที่จะโดนสงสัยว่าลอบทำร้ายฮันบินนอกจากพวกตะวันตกแล้ว
อีกหนึ่งก็คือมินโฮ ความขัดแย้งภายในคงได้เกิดขึ้น
คิ้วเรียวขมวดด้วยความสงสัย หากผู้วางแผนการร้ายคือมินโฮ
ฮันบินไม่ควรมีลมหายใจอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น
หากเรื่องเป็นเพราะจีวอนที่ฮันบินยังมีลมหายอยู่นี้เพื่ออะไร
หรือไม่ต้องการให้ฮันบินตายภายใต้การดูแลของตนเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามที่อาจตามมา
ร่างโปร่งผอมขยับตัวลุกจากเตียงนอน
ทำสิ่งที่ตนทำได้ก่อนที่ความขัดแย้งภายในจะเกิดขึ้น
ท่านพ่อข้าถึงฝั่งตะวันตกแล้วและปลอดภัยดี
โปรดอย่าหลงเชื่อคำลวงจนคิดว่ามินโฮเป็นผู้ทำร้ายข้า
มันไม่เป็นความจริง
ข้อความของฮันบินบีบอัดลงในกระดาษ
ก่อนจะฉีกให้เหลือเพียงแผ่นเล็กและพับมันเข้าหากัน
ถึงจะสั่งบรรดาองครักษ์และบ่าวไพร่ห้ามรายงานเรื่องตนถูกลอบทำร้ายให้ฝั่งโน้นรู้
แต่ฮันบินก็ไม่ไว้ใจจีวอนมากพอ
ว่าจะไม่ปลอมแปลงส่งข้อความบอกเล่าเรื่องการที่เขาถูกลอบทำร้ายไปทางตะวันออกเสียเอง
ฮันบินสูดลมหายใจเข้าหาตัว
หลังจากนี้เขาต้องลงไปเผชิญหน้ากับคนที่นี่
โดยต้องแสดงเป็นคุณชายฝั่งตะวันออกที่ยังไม่รู้อะไรเลย
✥✥✥
พิราบสื่อสารที่มีจดหมายข้อความของฮันบินผูกอยู่ที่ขา
โบยบินบนท้องฟ้าพ้นออกนอกบริเวณปราสาทได้เพียงนิด ก็โดนปลายศรคมปักทะลุตัวร่วงลงมาสู่พื้น
จากร่างสูงที่ถือคันธนูเล็งรอไว้อยู่ที่ชายป่า
กำจัดพิราบสื่อสารทุกตัวที่บินออกจากปราสาท
เป็นคำสั่งของจีวอนผู้เป็นนาย
จุนฮเวก็ทำตามหลังจากนั่งรออยู่ชายป่าตั้งแต่เมื่อคืน
เป็นงานที่น่าเบื่ออยู่สักหน่อยสำหรับชายหนุ่ม
กับการต้องมาเฝ้ามองนกทุกตัวที่บินออกทางปราสาท
แต่ก็คิดว่ามันคงดีกว่างานที่แล้วอยู่สักหน่อย
ซึ่งผลงานที่เขาทำดูจะไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจของคนเป็นนาย
สั่งให้เขาหาโอกาสลอบทำร้ายนายน้อยฝั่งตะวันออก
ห้ามถึงตายเอาเพียงแค่สลบไป
ซึ่งโอกาสที่ว่าจุนฮเวก็ไปตอนที่เด็กหนุ่มชำระร่างกายอยู่โดยลำพังในค่ำคืนนั้นและจับเด็กหนุ่มกดน้ำจนสลบไป
เป็นไปตามคำสั่งทุกอย่างแต่พอจีวอนมาเจอเขาอุ้มร่างที่เคยเปลือยเปล่าแต่เขาห่อหุ้มตัวเด็กหนุ่มไว้ด้วยชุดคลุมตัวบาง
กำลังตั้งใจจะส่งเด็กหนุ่มตัวบางให้ลูกน้องคนสนิทที่เชื่อใจได้อุ้มฮันบินไปกระโจมอีกฝ่ายและกำชับให้ตอบคำถามผู้คนหากมีใครสงสัย
ว่าพบคุณชายน้อยสลบที่ลำธารเลยช่วยไว้
แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างนั้น ก็พบจีวอนอยู่กับคนสนิทเขา
จากสีหน้าถึงไม่พูดอะไรออกมาแต่จุนฮเวรู้ว่าอีกฝ่ายดูจะไม่พอใจเท่าไร มือหนานั้นจับเสื้อคลุมของร่างในอ้อมแขนจุนฮเวให้มิดชิดเรียบร้อยกว่าเดิม
ก่อนจะยอมให้คนสนิทจุนฮเวรับช่วงต่อ อุ้มฮันบินไปยังกระโจมเด็กหนุ่ม
จุนฮเวมองซากพิราบซึ่งลมหายใจกำลังหมดลง
มือหนาหยิบกระดาษที่ผูกขามันออกมาดู เพื่ออ่านข้อความข้างใน
'หากในจดหมายคุณชายน้อยเพียงบอกเรื่องราวการถูกลอบทำร้ายให้ส่งจดหมายนั้นไปต่อ
แต่หากไม่ใช่ เจ้าจงส่งจดหมายไม่ระบุนามไป ให้เขาเข้าใจว่าเป็นบ่าวไพร่สักคน
บอกเล่าเรื่องราวการถูกลอบทำร้ายของฮันบินให้เขารู้'
ความจริงพวกเขาอยากได้ลายมือฮันบินที่ส่งไปมากกว่า
แต่คุณชายน้อยผู้นี้ก็ฉลาดเกินไป ไหวตัวทัน
จุนฮเวจึงต้องเป็นผู้ลงมือส่งจดหมายบอกเล่าเหตุการณ์นี้เอง
✥✥✥
บนโต๊ะอาหารในเช้านี้ผู้ซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะคือบยอลฮุนอันจะหมดหน้าที่ผู้ครองแคว้นในอีกแปดวัน
ซ้ายมือของเขาคือเยวอนผู้เป็นภรรยาและถัดจากเธอคือชานอูบุตรชายคนเล็กซึ่งจ้องหน้าฮันบินอยู่บ่อยครั้งจนฮันบินเห็นเยวอนต้องปรามเด็กหนุ่ม
ทางขวามือของบยอลฮุนคือจีวอนบุตรชายคนโต
และที่นั่งติดกับจีวอนคือฮันบินเอง การพูดคุยส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยการพูดต้อนรับ
และการบอกเล่าถึงพิธีที่จะมีขึ้นมากกว่า
คนที่นี่หากไม่นับชานอูทุกการกระทำจะเต็มไปด้วยมารยาทและพิธีรีตองจนชวนอึดอัด
คำพูดชื่นชมแคว้นตะวันออกเต็มไปด้วยความไม่จริงใจ
สิ่งที่ฮันบินต้องทำคือการตอบรับด้วยวิธีไม่ต่างกันนัก
ซักถาม ชื่นชมเมื่อมีโอกาส
เพราะที่เขาทำได้ตอนนี้คือการเป็นฮันบินคนที่ไม่รู้อะไรเลย
ว่ามีหอกแหลมอีกฝ่ายคอยทิ่มแทงอยู่
ฮันบินรู้สึกว่าจีวอนมองและยิ้มให้เขาอยู่บ่อยครั้ง
ทั้งยังช่วยพูดเสริมในสิ่งที่ฮันบินกำลังพูดอยู่
จนกระทั่งการสวมหน้ากากขณะรับประทานอาหารจบลง
ฮันบินจึงรู้สึกว่าตัวเองหายใจสะดวกขึ้น
"ดูพี่ชายข้าสิ
ทำอย่างกับพาสะใภ้มาแนะนำเจ้าว่าอย่างนั้นไหม"
เป็นชานอูที่พูดขึ้นมาขณะที่ทุกคนแยกย้ายออกจากโถงอาหารแล้ว
ฮันบินเพียงแต่มองเด็กหนุ่มด้วยใบหน้าปกติ
"แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่ข้าเห็นอะไรอย่างนี้"
พูดจบเด็กหนุ่มก็ผละออกไป เพื่อจะกลับห้อง
"คุณชายต้องการจะบอกอะไร"
เมื่อฮันบินถามต่อชานอูก็หยุดลง กลับมาหาร่างผอมตรงหน้า เจ้าของดวงตาคมเดินเข้ามาใกล้จนใบหน้าเกือบชิด
สายตานั้นพิจารณาคนตัวเล็กกว่าไปด้วย
"ตั้งแต่ข้าเห็นเจ้าเมื่อคืนข้าก็รู้เลยว่าเจ้าน่ะ
เป็นแบบที่พี่ข้าชอบ" ชานอูบอกเจ้าของใบหน้าที่คล้ายสงสัย
"งดงาม แล้วก็มีประโยชน์กับเขา"
"ข้าไม่เข้าใจ คุณชายช่วยอธิบาย"
ฮันบินถามต่อ
ไม่รู้ว่าทำไมทั้งๆที่อยู่ในดงจิ้งจอก
แต่หากคำพูดออกมาจากปากคนผู้นี้ ฮันบินคิดว่ามันพอจะเชื่อได้
แต่ชานอูก็ไม่ได้อธิบายส่วนที่สงสัยมากนัก
"มันยิ่งกว่าที่ข้าคิด
ตอนที่ข้าเห็นสายตาการกระทำของพี่ข้าที่มีต่อเจ้าเมื่อครู่นี้ . . . เหมือนเขาเจอดอกไม้หายากที่ไม่เคยเห็นมาก่อน"
บอกพลางมือหนาก็จับเส้นผมฮันบินมาพิจารณาดูมัน
"แต่เจ้าเข้าใจใช่ไหม
ต่อให้เป็นดอกไม้หายาก คนก็เพียงหลงใหลปารถนา แต่ไม่ได้รักมัน . . .
ไม่มีใครตายเพราะขาดดอกไม้ไปหรอก"
ยังไม่แน่ชัดในสิ่งที่เด็กหนุ่มต้องการจะบอก ไม่ฟังคำคัดค้านอะไรจากฮันบินอีกชานอูก็เดินกลับห้องตัวเองไป
ในค่ำคืนนั้น แม้จะส่งจดหมายไปแจ้งแล้วก็ตาม
แต่ฮันบินก็ยังไม่มั่นใจว่าจดหมายจะไปถึงรึไม่ ฮันบินจึงเขียนจดหมายอีกแผ่นขึ้นมา
แล้วสั่งองครักษ์ของตนให้ลอบออกจากปราสาทไปส่งทางตะวันออก
"อย่าลืมกำชับกับพ่อข้า
ห้ามยุ่งกับมินโฮ" ฮันบินบอก
เมื่อองครักษ์ลักลอบออกจากปราสาทได้
เพียงแค่เข้าไปในเขตป่า ก็ถูกลูกศรไม่ทราบทิศทางพุ่งทะลุร่างของตัวเอง
ไม่ต่างจากนกตัวหนึ่ง
"คุณชายฮันบินไม่ยอมล้มเลิกเสียที
นี่ไม่คิดจะไว้ใจทางนี้เลยสินะ"
จุนฮเวพูดขึ้น ขณะดึงลูกศรออกจากร่างไร้วิญญาณ
✥✥✥
สี่วันแล้วกับการมาอยู่ฝั่งตะวันตก
ใจของฮันบินไม่ได้สงบเลยสักนิด
การมาอยู่นี่ฮันบินต้องเข้าเยี่ยมชมภายในเมืองว่าเป็นอย่างไร
ประชุมพูดคุยความเป็นไปของแนวทางฝั่งตะวันตกต่อจากนี้
ส่งคำชมไปให้ตามธรรมเนียมกับขั้นตอนการเตรียมงานสถาปนาที่กำลังจะเกิดในอีกหนึ่งอาทิตย์
มันไม่ใช่เวลาที่เขาควรทำอย่างนี้เลยสักนิด
แต่เด็กหนุ่มก็ทำตัวได้เพียงเป็นแขกเมืองที่มาเยี่ยมชม
เขาดีใจที่จีวอนไม่ได้มายุ่งอะไรกับเขามากนัก
เพราะตัวเองก็ยุ่งกับการประชุมและการเตรียมงานอยู่
รวมไปถึงชานอูก็ไม่ได้มาพูดอะไรที่ชวนให้สงสัยกับเขาอีก
ฮันบินจึงมีเวลาที่จะคิดเรื่องต่างๆได้
หากจีวอนจะส่งใครสักคนมาทำร้ายเขา
คนคนนั้นคงเป็นคนสนิทกับอีกฝ่ายมากพอ รวมไปถึงมีเรี่ยวแรงมหาศาลอย่างคนที่ฝึกมาดี
ท่ามกลางการจัดเตรียมงานที่กำลังยุ่งกันอยู่
ฮันบินมองเห็นองครักษ์หนุ่มของจีวอน
และแน่นอนคนที่อยู่ข้างตัวจีวอน ถูกฝึกมาอย่างดี
รวมไปถึงคนที่พูดโกหกเขาเรื่องการไปรักษาตัวของฮงซอกก็คือจุนฮเว . . .
ฮันบินมองร่างสูงของอีกฝ่ายก่อนจะเดินเข้าไปหา
"หากข้าต้องการม้าสักตัวไว้ขี่เล่นตรงชายป่าท่านพอจะหาให้ได้รึไม่"
ถามจุนฮเวที่รีบก้มหัวรับกลับมาให้ฮันบิน
"หากคุณชายน้อยต้องการ
แต่ข้าคงต้องถามท่านจีวอนก่อนเพื่อพิจารณาความปลอดภัยของคุณชาย"
ร่างสูงบอกทำท่าจะไปหาจีวอนซึ่งยุ่งอยู่กับการคุยกับขุนนางคนหนึ่งอยู่
แต่ฮันบินคว้ามืออีกฝ่ายไว้ไม่ให้ไป
มันไม่ใช่นิสัยฮันบินแน่ที่จะคว้ามือใครมาจับเพื่อรั้งไว้อย่างนี้
แต่เด็กหนุ่มจงใจ
มือขาวจับมือหนาของอีกฝ่ายไว้ลอบพิจารณาพลางคิดในใจ . . .
นี่สินะ มือที่กดหัวฮันบินลงไปใต้น้ำ
ดวงตาสวยมองฝ่ามืออีกฝ่าย ถึงสิ่งที่ตนเองสงสัยอยู่
รอยบาดแนวยาวเส้นเล็กอยู่บนมืออีกฝ่าย มันคือรอยที่เกิดจากการยิงธนูฮันบินรู้
และพะวงในใจถึงสิ่งที่ร่างสูงยิงไป
"คุณชาย"
จุนฮเวเรียกเด็กหนุ่ม
ที่ตอนนี้กำลังล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาเพื่อพันไว้บนมือเขา
ฮันบินเพียงประวิงเวลาเพื่อพิจารณามืออีกฝ่ายว่าใช่รอยจากการยิงธนูจริงรึไม่ แต่สำหรับจุนฮเว
เขากระอักกระอ่วนและไม่นึกอยากให้ผู้เป็นนายมาเห็นอะไรอย่างนี้
"คงเป็นรอยตอนท่านซ้อมดาบ"
ฮันบินบอกขณะพันแผลให้อีกฝ่าย
จุนฮเวไม่ได้ใส่ใจตอบคำถามนัก เพราะสายตาเขามองเห็นจีวอนมองมา
และกำลังเดินมาทางนี้
"เป็นอะไร"
จีวอนถามองครักษ์หนุ่ม
ซึ่งส่ายหน้าปฏิเสธไป ก่อนจะพยายามพูดเรื่องงาน
"คุณชายน้อยต้องการให้ข้าหาม้าเพื่อขี่เล่นในป่า"
จุนฮเวรายงานออกไปทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังไม่พอใจอยู่ ดวงตาภายใต้กรอบแว่นของจีวอนหันมามองฮันบินแทน
"ในป่ามันอันตราย
แต่หากคุณชายน้อยต้องการข้าจะไปเป็นเพื่อน"
"ทางท่านเองก็ยุ่งอยู่ ข้าไปกับองครักษ์ข้า
หรือให้จุนฮเวไปด้วยก็ได้"
จีวอนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ยังแสดงท่าทีปกติ
"อย่าห่วงไป ข้าไปได้
จุนฮเวเขามีงานอื่นที่ต้องทำ"
ฮันบินส่ายหน้าปฏิเสธหากต้องไปกับจีวอน
อีกอย่างเรื่องม้านั่นมันก็เพียงแค่ข้ออ้างที่จะพูดคุยกับองครักษ์เท่านั้น
"ดูข้าสิ เสียมารยาทจริง
เอาแต่คิดเรื่องเที่ยวเล่นเป็นเด็กๆ ทั้งที่พวกท่านเองก็ยุ่งอยู่"
"ข้าไปได้จริงๆ"
จีวอนยืนยันแต่ฮันบินยืนกราน
"อย่าเลยงานท่านยุ่งถึงเพียงนี้
ข้าขอตัวเดินเล่นรอบปราสาทนี้ดีกว่า" ฮันบินบอกแล้วก้มหัวลาอีกฝ่าย
หากลำพังไปกับจุนฮเวคนที่กดหัวเขาจมน้ำฮันบินยังกล้าพอที่จะออกไป
แต่ให้ไปกับจีวอนเขาขอเลี่ยงอยู่ในปราสาทดีกว่า
เมื่อฮันบินเดินออกไปแล้ว
ดวงตาคมของจีวอนก็ปรายตามององครักษ์ของตัวเอง
"อย่าให้ข้าเห็นว่าผ้าเช็ดหน้านั่นยังอยู่ในมือเจ้าอีก"
✥✥✥
ท่ามกลางค่ำคืนที่มืดสนิทมีดวงดาวอยู่น้อยดวง
ฮันบินลอบออกมาจากห้องตัวเอง ภายใต้ท่าทีทำเหมือนเดินเล่นเมื่อเจอทหารเวรยาม
เด็กหนุ่มกลับเดินลัดเลาะไปตามสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ซึ่งอยู่เต็มรอบปราสาท
ก่อนจะเดินตรงไปจนถึงกำแพงซึ่งก่อไว้โดยรอบเพื่อป้องกันอันตรายจากภายนอกไม่ให้เข้ามา
แต่สำหรับฮันบินในตอนนี้เขาคิดว่ามันมีไว้ป้องกันคนภายในไม่ให้ออกไปได้มากกว่า
ฮันบินไม่อาจอยู่เฉยรอฟังข่าวจากทางนั้นที่จะส่งตอบกลับมาได้
แม้รู้ดีว่าระยะทางที่ไกล องครักษ์ของตนคงยังไม่ไปถึง
แต่ถึงอย่างนั้นฮันบินก็ยังใจคอไม่ดี
เมื่อนึกถึงรอยบนมือจุนฮเวที่อาจเกิดขึ้นจากการยิงธนู
ฮันบินไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายจะใช้ยิงอะไรบ้าง ฮันบินจึงต้องมองในแง่ร้ายที่อาจเกิดขึ้นไว้ก่อน
หากสิ่งที่จุนฮเวยิงเป็นนกหรือคนของฮันบินจริง
มันจึงไม่ใช่เวลาที่เด็กหนุ่มนิ่งนอนใจรอฟังข่าวจากทางนั้น
ในกรณีที่ย่ำแย่ที่สุดที่ฮันบินอาจคิดไม่ถึง
เด็กหนุ่มอาจต้องหาทางหนีออกจากปราสาทด้วยตัวเอง
ร่างโปร่งบางเดินลัดเลาะอยู่ข้างกำแพงอิฐทรงสูงเท่าชายสี่คนยืนต่อตัวกัน
หากมีวันที่เลวร้ายมาถึงแล้วฮันบินรอดจากเหล่าทหารเวรยามมาได้
ทางเดียวที่มีฮันบินคงต้องปีนกำแพงออกไป
ฮันบินพิจารณากำแพงสูงตรงหน้า
ไม่รู้หรอกทุกอย่างมันจะเลวร้ายลงถึงขั้นต้องหนีออกมาไหม
มือขาวลูบหารอยขรุขระบนเนื้อกำแพง ว่าตำแหน่งไหนที่ตนพอจะปีนออกไปได้บ้าง
ไม่ใช่วันนี้ แต่ก็ต้องคิดหาทางหนีทีไล่เผื่อไว้
เดินลัดเลาะมาเรื่อยจนมาหยุดยังส่วนที่ขรุขระที่สุดของกำแพง
มีเถาไม้เลื้อยขึ้นอยู่บนกำแพงอาจจะพอช่วยฮันบินให้ปีนขึ้นได้ง่าย
เจ้าของร่างโปร่งผอมจึงทดลองปีนบนกำแพงดู หวังว่าพวกเวรยามจะไม่มาเห็นฮันบินอยู่ในท่านี้
เด็กหนุ่มตั้งใจลองเพียงนิด
เพราะรู้ว่าอีกเดี๋ยว พวกเฝ้าเวรคงได้เดินมาทางนี้
เท้าของฮันบินจึงจิกลงไปบนกำแพงส่วนที่เป็นรอยขรุขระ
มือก็เอื้อมไปจับเถาไม้ช่วยพยุงตัวและส่งแรงดึงต่อ
ฮันบินหันไปมองรอบตัว
เมื่อทหารเฝ้าเวรยังไม่มาทางนี้ เด็กหนุ่มก็ใช้ขาอีกข้างพยายามเกี่ยวปีนขึ้นไปอีก
มันยากกว่าที่คิด
หากเหตุการณ์ที่เขาต้องหนีเกิดประชิดตัวขึ้นมาฮันบินไม่คิดว่าตนจะหนีทัน
ร่างผอมยังพยายามปีนป่ายบนกำแพงไปเรื่อย ขาที่เกาะกำแพงไว้
พยายามก้าวเกี่ยวกับเถาไม้ มันช่วยให้ฮันบินปีนขึ้นง่ายมานิดหน่อย
แต่ยังไม่ทันที่ฮันบินจะทรงตัวดี เพื่อจะใช้ขาอีกข้างไต่ขึ้นไป
ขาข้างที่เกาะเถาไม้ไว้ก็ถูกมือหนาจับเอาไว้ดึงตัวฮันบินให้ร่วงลงมา
เด็กหนุ่มรู้สึกว่าขาตัวเองกำลังเจ็บอยู่จากการล้มลงกับพื้น
แต่ก็ไม่เท่าอาการตกใจ คิดว่าทหารเวรยามสักคนคงจับได้ แต่ว่ามันเป็นยิ่งกว่านั้น
ร่างสูงเจ้าของดวงตาเรียวดุที่ยืนอยู่เหนือร่างฮันบินกำลังมองเด็กหนุ่มด้วยความไม่พอใจ
เป็นครั้งแรกที่ฮันบินเห็นอีกฝ่ายแสดงสีหน้าอย่างตรงไปตรงมาอย่างนี้
ฮันบินพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่ขาที่เจ็บอยู่ทำให้ฮันบินต้องย่อตัวกลับมานั่งอีกครั้ง
"ทำอะไร"
เสียงจีวอนนั้นเย็นเยียบตอนถามเด็กหนุ่ม
"ข้าเคยบอกกับท่านแล้ว
ว่าข้าอยากออกไปเที่ยวเล่น" ฮันบินพูดปด รู้ว่ามันเป็นคำโกหกที่ไม่เอาไหน
"หากท่านไม่สะดวกใจที่ข้าเป็นแขกที่ไร้มารยาทอย่างนี้
ข้าต้องขออภัย และขอตัวกลับห้องก่อน"
เด็กหนุ่มพยายามแสร้งทำตัวอย่างมีมารยาท
แต่คงลืมไปว่าตอนนี้จีวอนทิ้งคำว่ามารยาทไปตั้งแต่แสดงสีหน้าไม่พอใจให้เด็กหนุ่มเห็นแล้ว
"งั้นรึ"
จีวอนบอกพร้อมคว้าเด็กหนุ่มที่นั่งกับพื้นขึ้นมาอุ้มชิดอก
ฮันบินฝืนตัวออกมา
เขาเริ่มคิดว่าจีวอนที่มากไปด้วยมารยาทอย่างทุกทีหายไปไหน ปกติแล้วหากอีกฝ่ายมาดึงจนฮันบินล้มลงมาจนเจ็บตัวอย่างนี้
ฮันบินคิดว่าต้องได้ยินคำขอโทษที่มากพิธีตามมา แต่นี่กลับไม่มี
"ข้าไม่ได้เจ็บขนาดนั้น
ท่านปล่อยเหอะ"
ฮันบินพยายามเอาตัวให้หลุดจากอ้อมแขนแกร่งของอีกฝ่าย
แต่จีวอนดูจะไม่ใส่ใจนัก อุ้มฮันบินเดินกลับเข้าไปในตัวปราสาท
คงดูไม่เข้าท่าแน่หากฮันบินจะร้องห้ามส่งเสียงดัง
ให้พวกเวรยามมอง
เด็กหนุ่มจึงจำต้องอยู่เงียบๆอยู่ในสภาพที่คิดว่าน่าอายที่สุดเมื่ออีกฝ่ายไม่คิดฟัง
เมื่อมาถึงหน้าห้องของตนฮันบินพยายามจะลงจากอ้อมแขนอีกฝ่าย
แต่จีวอนยังคงกระชับแน่นไม่ยอมปล่อย
"ให้ข้าลงตรงนี้เหอะ
ขอบคุณท่านที่มาส่ง" ฮันบินบอกและหวังว่าเขาจะปล่อยฮันบินลงเสียที
แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้นเด็กหนุ่มจึงพยายามดิ้นออกมา
แขนแกร่งนั้นจึงกอดฮันบินแน่นกว่าเดิม แล้วเดินเข้าไปในห้องฮันบินพร้อมปิดประตู
✥✥✥
เมื่อวางฮันบินลงฮันบินรู้สึกใจคอไม่ดีแล้วคิดถึงสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะทำ
ร่างผอมพยายามจะลุกหนีทันทีเมื่อถึงเตียงแต่จีวอนก็คร่อมตัวเด็กหนุ่มเอาไว้
"หมดเวลาใส่หน้ากากแล้ว" จีวอนพูด
วันนี้เด็กหนุ่มทำให้เขาโมโหหลายอย่าง
ทั้งเรื่องจุนฮเวและอะไรอย่างอื่นอีก พยายามส่งจดหมายติดต่อพวกตะวันออกไม่พอ
ยังพยายามส่งองครักษ์ของตัวเองออกไปอีก
แล้วตอนนี้การที่เขาเห็นเด็กหนุ่มพยายามปีนกำแพงหนีออกไปเอง
มันทำให้เขาโมโหและคิดว่าพอกันทีกับการมาสวมหน้ากากใส่กัน
"รู้อะไรถึงไหนแล้ว"
ถามฮันบินที่เจ้าของแขนขาวเอาแต่พยายามขัดขืนให้พ้นจากมือเขา
เจ้าของจมูกโด่งก้มลงมาจนปลายจมูกชนกับจมูกของฮันบิน
มองเข้าไปในตาเด็กหนุ่มที่มีแต่ท่าทางขัดขืน
"ไม่เข้าใจท่านจะให้ข้ารู้ ร อื้ออ"
คำแย้งของฮันบินยังออกมาไม่จบ
ปากของจีวอนก็กดลงไปบนปากอิ่มของเด็กหนุ่มที่บอกปฏิเสธ
ร่างสูงจูบย้ำตรงกลางปากสีระเรื่อ ไล่ขึ้นมาดูดกลีบปากบางด้านบน ดูดดุนอยู่อย่างนั้นอย่างพอใจ
แต่สำหรับฮันบินเขาไม่ต้องการ เด็กหนุ่มพยายามหันหน้านี้
แต่จีวอนยังคงกดเน้นความนุ่มนั้นอยู่หลายหน จึงค่อยละออกมา
"บอกได้รึยัง"
จีวอนถามตอนนี้เขาพอจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างจากสิ่งที่เพิ่งทำไป
ฮันบินยิ่งดิ้นขึ้นกว่าเดิมพยายามให้หลุดออกไป ใบหน้าขาวจีวอนเห็นมันกำลังเปลี่ยนสี
"ข้าไม่เข้าใจ"
เด็กหนุ่มพยายามขัดขืนให้หลุดจากอีกฝ่าย
ไม่คิดว่าผู้ที่กำลังจะครองแคว้นตะวันตกจะกล้าทำสิ่งนี้
"ไม่พูดมาตามตรงข้าจะทำอย่างเมื่อครู่อีก
แต่เอาเหอะใช่ว่าข้าจะไม่พอใจที่จะทำอย่างนั้น"
จีวอนเย้าอารมณ์เด็กหนุ่มร่างผอมใต้ร่าง
ทั้งที่เมื่อครู่เขาโมโหฮันบินแทบตายแต่ตอนนี้เขากลับอารมณ์ดีขึ้นแล้ว
ฮันบินหลับตาลงพยายามเรียกสติตัวเองคืนมา
เอาแต่ขัดขืนด้วยกำลังไปคงไม่มีประโยชน์ สิ่งควรทำในตอนนี้คงเป็นตามที่อีกฝ่ายบอก
ไหนๆอีกฝ่ายก็รู้อยู่คงต้องเลิกเสแสร้งไป
"ข้ารู้ว่าฮงซอกไม่ได้ทำร้ายข้า "
ฮันบินเลือกพูดเรื่องที่ดูห่างไกลที่สุดก่อน จีวอนพยักหน้ารับ
"แล้วอย่างไรอีก"
ฮันบินอยากจะบอกว่าแค่นั้น แต่คงไม่ดีแน่
เพราะไม่รู้ว่าร่างหนานี่จะทำอะไรฮันบินอีก
"ข้าอยากจะนั่งคุยกันให้สบายกว่านี้"
ยื่นข้อเสนอไปแค่นั้น
แต่จีวอนกลับกดมาที่ปากฮันบินอย่างแผ่วเบาพร้อมส่งปลายลิ้นของตนสัมผัสเข้าไปในกลีบปากฮันบิน
"คุยกันให้ตรงประเด็นเหอะ"
ฮันบินซึ่งหันหน้าหนีหันกลับมามอง
ดวงตากลมของเด็กหนุ่มมองร่างที่ทับตนอยู่อย่างโกรธเคือง
อีกฝ่ายทำเหมือนฮันบินเป็นของเล่นและกำลังนึกสนุก
"ท่านก็รู้อยู่แล้ว . . . ข้า . . .
ข้ากำลังจะพูด . . .เป็นท่านที่ส่งคนมาทำร้ายข้า แต่ข้าไม่เข้าใจว่าทำไม . . .
นี่ข้าบอกท่านแล้วนะ"
ฮันบินร้องว่า เมื่ออีกฝ่ายจูบมาที่ซอกคอขาวของตน
"ก็คุณชายน้อยโกหก" จีวอนบอก
เหยียดยิ้มที่มุมปาก
"ส่งทั้งจดหมาย
ทั้งให้คนไปเตือนไม่ให้พ่อท่านยุ่งกับพี่ชาย
คุณชายน้อยรู้ว่าข้าต้องการให้พวกเขาผิดใจกัน"
พอเป็นจีวอนที่เฉลยออกมาฮันบินจึงเลิกที่จะขัดขืน
ดวงตากลมมองตาอีกฝ่าย เพื่อที่จะเป็นฝ่ายที่จะหาคำตอบจากร่างสูงบ้าง
"ต้องการอะไร" ฮันบินถาม
ไม่แม้จะสนใจขัดขืน
จีวอนเมื่อเห็นฮันบินเลิกดิ้นรน
แขนแกร่งจึงละจากข้อมือเด็กหนุ่ม ลูบเส้นผมสีดำซึ่งแผ่สยายของร่างที่นอนอยู่
และจูบคลอเคลียไปตามหน้าผาก
ฮันบินไม่ได้บ่ายเบี่ยงหนีแล้ว เพียงแต่ตั้งใจรอฟังคำตอบ
"เพื่อที่อะไรจะได้ง่ายขึ้น"
จีวอนตอบ
ขณะที่เพลิดเพลินไปกับร่างหอมใต้ร่าง รู้สึกว่าตัวเองกำลังมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำอยู่
ฮันบินยังคงไม่ขัดขืน
จีวอนจึงตักตวงจากเจ้าของกลิ่นหอมนี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นตรงแก้มอิ่ม หางคิ้ว
หรือว่าปลายจมูก
"อยากให้พวกเขาทะเลาะกันแล้วถือโอกาสนั้นยึดครองเขตทับซ้อนไปอย่างนั้นรึ"
"มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นเสียทีเดียว"
ร่างสูงตอบขณะที่มือกำลังลูบสัมผัสเอวของเด็กหนุ่ม
ปากหนาขบเม้มตรงใบหูเล็ก เมื่อเห็นฮันบินเกร็งตัวจีวอนก็พอใจ
ก่อนที่ร่างสูงจะชะงักตัวลง กลับมามองหน้าเด็กหนุ่ม
"เป็นคุณชายน้อยที่ร้ายจริงเชียว
คิดจะหลอกถามข้าอย่างนั้นรึ"
เขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่าที่ฮันบินเลิกขัดขืนเพราะรู้ว่าเมื่อเขาเพลิดเพลินกับร่างเด็กหนุ่มอยู่จะเผลอหลุดพูดอะไรออกมา
เขาเกือบไปแล้วเหมือนกัน
แต่เพราะอีกฝ่ายยังเป็นเด็กหนุ่มไม่ประสาจีวอนจึงมีสติพอที่จะไม่พูดอะไรให้มันมากไป
จีวอนขยับตัวลุกขึ้นออกจากร่างบาง
มุมปากยกขึ้นมองฮันบินอย่างพึงพอใจ
"เห็นแก่ที่วันนี้ เรา . . .
สนิทกันขึ้นกว่าเดิม"
จีวอนบอก
เขาคิดว่าภายใต้ท่าทีไม่สนใจความหมายที่เขาสื่ออยู่นั้น
ฮันบินกำลังฮึดฮัดและอายอยู่
"ข้าจะบอกอะไรบางอย่างให้"
จีวอนบอกคำพูดบางอย่างกับเด็กหนุ่มก่อนจะเดินออกไป
"ทั้งข้า พี่ชายของท่าน รวมไปถึงพ่อของท่านด้วย
เป็นคนดีน้อยกว่าที่ท่านคิดไว้เยอะ"
✥✥✥
ความคิดเห็น