การตื่นรู้ ทางจิตวิญญาณ

การตื่นรู้ ทางจิตวิญญาณ

ตอนที่ 1   เราคือใครและมาทำอะไรบนโลก 

  ก่อนอื่นคุณต้องเปิดใจและวางศาสนากับความเชื่อต่างๆ ลงไว้ก่อนที่จะอ่านบทความนี้

…… คุณเคยสงสัยไหมว่าเราเกิดมาทำไมบนโลกและมายังโลกใบนี้เพื่อจุดประสงค์อะไร                                 

เราทุกคนคือจิตวิญญาณเป็นพลังงานที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าที่มีแต่ความรักและแสงสว่างเพียงเท่านั้น เราแตกตัวออกมาจากพระผู้สร้างหรือซอร์ส ( Source ) พระผู้สร้างก็ต้องการเรียนรู้ประสบการณ์เช่นเดียวกัน ด้วยจิตที่อิสระ

เราคือบีอิ้งผู้ร่วมสร้าง ( Co - creator ) จึงได้ร่วมกันสร้างมิติที่ต่ำกว่าในรูปแบบดวงดาวหรือโลกทางกายภาพที่สามารถจับต้องหรือสัมผัสได้ มีรูปกายเนื้อไว้ให้จิตวิญญาณได้มาอาศัยอยู่ เพื่อให้ทุกคนได้ลงมาเรียนรู้ หาประสบการณ์ในรูปแบบต่าง ๆ

โดยให้มีหยิน - หยาง, ดำ - ขาว, มืด - สว่าง, หรือสร้างไทแร้นท์กับแสงรวมปะปนกันอยู่ เพื่อการทดลองว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ผลปรากฎว่ามีแต่ความวุ่นวายไปทั่วทั้งโลกเราและโลกอื่นด้วย

แม้ทำลายจักรวาลมาหลายครั้งก็ไม่เกิดประโยชน์เพราะจิตสำนึกของคนไม่เปลี่ยนกลับมาทำร้ายกันเหมือนเดิม พระผู้สร้างจึงให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ไม่ให้มีมืดเหลืออีก

ให้ทุกคนปรับเลื่อนมิติให้สูงขึ้นโดยการปรับจิตสำนึกให้สูงขึ้นแบบที่เราเคยอยู่ในมิติที่สูงนั่นแหละ คือเป็นจิตเดิมแท้หรือจิตวิญญาณที่สูงส่งมีความเป็นพระเจ้า มีความเมตตา ให้มีแต่ความรักและแสงสว่างเพียงเท่านั้น เห็นทุกคนและทุกสรรพสิ่งมีความเท่าเทียมกัน

เวลาที่เรามองคนอื่นก็เหมือนเรามองดูตัวของเราเองในกระจก ฉันคือเธอ เธอคือฉัน เพราะเรามีที่มาที่มาจากแหล่งต้นกำเนิดเดียวกัน ถ้าเราเข้าใจตนเอง เราก็จะสามารถเข้าใจคนอื่นได้ดี ไม่ตัดสินคนอื่น ถ้าเราเข้าใจคนอื่น ก็จะเกิดความรักที่ไร้เงื่อนไขได้ง่ายนั่นเอง ( ความรักที่ไร้เงื่อนไขคือรักคนอื่นให้เหมือนกับเรารักตัวเอง )

ความรักและแสงสว่างคือกุญแจสำคัญ

จิตวิญญาณของคุณคือพระเจ้าเท่าเทียมกันหมดไม่มีใครยิ่งใหญ่ไปกว่าใคร เข้าหาตัวเองถามตัวเอง คุรุข้างในส่งฮิว ( HU ) ฝึกจิตเชื่อมต่อ เข้าบันทึกอาคาชิกของคุณ ฝึกการ จินตนาการเข้าไปถามดู  แต่มันอาจจะยากสำหรับคนที่ยังไม่ได้เปิดตอมไพเนียล และคนที่มีความถี่ต่ำ อย่างเเรกคุณต้องรักษาระดับความถี่พลังงานบวกให้อยู่ในระดับที่สูงและส่งฮิว หรือ วิธีการต่างๆที่สามารถเปิดใช้งานต่อมไพเนียลได้     ต่อมไพเนียลคืออะไร ต่อมไพเนียลหรือต่อมเหนือสมอง (Pineal gland)เป็นต่อมเล็ก ๆ ช่วยสร้างฮอร์โมนเมลาโต นิน (Malatonin) ทําหน้าที ยับยังการเจริญเติบโตของต่อมเพศในช่วงระยะก่อนหนุ่มสาวในทางกายภาพและทางจิตวิญญาณต่อมไพเนียลคือตาที่3ของเรา ที่สามารถทำให้เรารู้จักตัวตนของเราและไปยังมิติต่างๆ ติดต่อกับ Hs ของเราได้คุณและคุณจะเข้าใจสิ่งต่างๆได้ด้วยตัวเอง เราทุกคนมีคำสอนและประสบการณ์ หลายๆพบชาติที่เราเกิดบทเรียนต่างๆอยู่ในตัวเราทุกคน เราโดนปิดต่อมไพเนียลโดยฝ่ายมืด และใช้เราเป็นทาสในโลกมิติที่3  เพื่อกินพลังงานด้านลบของเรา พวกเขาอยู่ในมิติที่ 4 และอยากไปมิติที่5แต่ไปไม่ได้ เราทุกคนที่อยู่ในโลกเคยตายและเกิดมาหลายพบชาติเพราะเรายังยึดติดและห่วงสิ่งต่างในโลก3D และโดนฝ่ายมืดปลูกฝังความเชื่อเรื่องนรก สวรรค์จึงทำให้ จิตใต้สำนึกเราไม่รู้จะไปไหนเมื่อตาย แต่จริงๆ ความตายไม่มีอยู่จริง เราทุกคนคือพลังงานของจักวาล 

คุณอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะเกิดคำถามมากมายในหัว ถ้าอยากได้คำตอบคุณสามารถหาได้ด้วยตัวเอง อยากค้นพบ ส่ง Hu และรักษาระดับความถี่พลังงานบวกให้สูงๆเข้าไว้ และเมื่อใดที่คุณเลื่อนระดับจิตใต้สำนึกตัวเองได้คุณจะค้นพบสิ่งต่างๆและคนถามในหัวคุณจะหมดไป และคุณจะเข้าใจสิ่งต่างๆมากขึ้น และจะได้รับพลังงานของ ความรักโดยไม่มีเงื่อนไข ฝ่ายแสงเฝ้ามองเราทุกคนและคอยช่วยเหลือเราเสมอมา โลกกำลังเข้าสู่ยุคทองใหม่ เพราะคนทั่วโลกเริ่มตื่นรู้กันมากขึ้น ฝ่ายแสงกำลังจะลงจะมาเปิดตัวบนโลก รอ EBS การการรีเซ็ตโลกฉบับเต็ม

วิธีการส่งฮิว 

วิธีการส่งฮิว ( HU ) เพื่อให้เจอประสบการณ์ได้ง่ายขึ้น

    ฮิว ( HU ) หรือ ฝึกสมาธิแบบ HU ยกระดับจิตวิญญาณ เป็นพลังงานอัจฉริยะ ไม่ต้องบอกอะไรมาก         ฮิว ( HU ) ก็รู้ว่าจะแก้ไขสถานการณ์นั้นอย่างไร ต้องใจเย็น ๆ และใช้เวลา จะช้า - เร็วก็ไปถึงเหมือนกัน ขอให้ส่งในอารมณ์ที่ดีและเป็นบวก

ซึ่งเป็นวิธีการทำสมาธิแบบง่ายและสะดวกมากไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ประสบการณ์ในการส่งฮิว ( HU ) จะเกิดขึ้นง่าย สำหรับคนที่เคยมีพื้นฐานมาจากการทำสมาธิมาก่อน เพราะเป็นการใช้จิตจดจ่อมุ่งไปในสิ่งที่เราต้องการ หรือการออกเจอร์นี่เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ทาง youtube ก็มี )

เราต้องมีความตั้งใจ จริงจังกับเรื่องการปฏิบัติ ตอนส่งฮิว ( HU ) ยิ่งทานมังสวิรัติได้จะดีมาก เพราะช่วยทำให้เกิดการตื่นรู้ได้ง่ายขึ้น พยายามปรับฝึกจิตสำนึกใหม่ให้ดี ระวังทั้งการคิด พูดและการกระทำ เมื่อมีความเครียดให้เข้าหาธรรมชาติ หลีกเลี่ยงหรืองดการติดต่อกับสังคมข้างนอก อยู่กับตัวเองให้ได้มากที่สุด

ศึกษาแต่เรื่องราวของจักรวาลและอ่านบทความที่ทำให้จิตใจฟูและเป็นพลังงานบวก ทำจิตให้สดชื่น สดใส คิดถึงสิ่งที่ตนเองรักและนึกถึงความสวยงามของธรรมชาติต่าง ๆ มีความฮึกเหิมในการตื่นรู้ในทุกวัน ใช้เวลาอยู่กับการส่งฮิว ( HU ) ตลอด เช้า กลางวัน เย็นกลางคืน ทุกวัน สามารถส่งได้ตลอดเวลา อยากตื่นรู้มากๆก็ให้ขยันส่งถ้าช่วงที่เกิดความกลัวสุดๆ ให้ยิ้มสู้และนึกในใจซาตานไม่มีแล้วมีแต่อิมแพล้นทำให้เรากลัว และส่งไปต่อแบบลื่นไหล

อาจมีการทานอาหารที่เปลี่ยนไปในบางช่วง คือทานไม่คอยได้ หรือไม่ค่อยหิว คือเรื่องปกติของจิต

บางคนพอตนเองปฎิบัติไปไม่เจอประสบการณ์อะไรก็หยุดไม่ทำต่อ เหมือนแค่ลองของอะไรแบบนี้ มันก็เหมือนเราไม่ได้ตั้งใจ 100 % ของแบบนี้มันต้องใช้เวลาช้าเร็วต่างกัน เพราะอิมแพล้นท์ของคนเราต่างหนาบางไม่เท่ากันก็ด้วย

   แต่ก็มีหลายคนมากที่ส่งฮิว ( HU ) เจอประสบการณ์ไวกันมากก็มีค่ะ มาเล่าให้เราฟังหลังไมล์ทุกวัน ได้เข้ามิติต่าง ๆ เจอ บีอิ้ง มนุษย์ต่างดาว ได้นั่งยาน ufo. ได้ขับยาน และเห็นแสงพลังงานต่าง ๆ เจอคุรุมาสอนก็มี รู้จักตัวตนของตัวเองและภาพอดีตชาติ ความเป็นมามากมาย

  สำหรับคนที่ไม่ตั้งใจ บีอิ้งค์เขาก็ไม่ตั้งใจช่วย ถ้าเราตั้งใจบีอิ้งเขาก็ตั้งใจช่วยเราแน่นอนอยู่แล้ว เขารอช่วยเราอยู่ตลอดเวลา มันต้องใช้ใจที่ฮึกเหิม เป็นบวก มีความรู้สึกเชื่อมั่น 100 % ด้วย 

ประสบการณ์ของแต่ละคนต่างก็ไม่เหมือนกัน บางคนก็เจอแบบนั้นแบบนี้ คนละประสบการณ์มาจากคนละดวงดาวกันและการมาเกิดก็มาจากหลายสาเหตุ มันก็ย่อมเจอประสบการณ์คนละอย่างต่างกัน แต่บางคนก็คล้ายกันก็มี

 ตอนก่อนนอนให้เราส่งฮิว ( HU ) แล้วบอกให้บีอิ้ง มาเอาอิมแพล้นท์ออกให้ ให้บีอิ้งช่วยปิดอิมแพล้นท์ในทุกคืน ให้บีอิ้งพาเข้ามิติต่าง ๆ อย่างปลอดภัย และบอกกับตัวเองว่าฉันจะฝันได้ชัดเจน เราก็จะฝันได้ชัดเจนแทบทุกคืน ตื่นนอนอย่าพึ่งลืมตา ทบทวนความฝันให้จำให้ได้ก่อนแล้วค่อยลืมตา จดความฝันใส่สมุดไว้ก็ได้จะได้ไม่ลืม ทุกคนต้องเจอประสบการณ์ด้วยตัวของตัวเอง บางคนเขาก็กังวลท้อใจ ไม่ไปต่อก็มีเพราะพึ่งเริ่มต้นก็ไม่ไปต่อ

ของแบบนี้มันต้องใช้ความตั้งใจและจิตสำนึกต้องสมดุลตามแนวเดียวกับจิตวิญญาณที่สูงส่งในตัวของเรา คือจิตวิญญาณของพระเจ้า เพราะตัวตนที่แท้จริงของเราคือพระเจ้า คือพระผู้สร้าง

ใจของเราต้องใหญ่มากพอ ช้าเร็วไม่เหมือนกัน บางคนฝึกมานานปี 2 ปีหรือนานกว่านั้นก็ยังไม่รู้ไม่เห็นเจอประสบการณ์เลยก็มี บางคนฝึกวันแรก อาทิตย์แรก เดือนแรกก็เจอประสบการณ์กันแล้ว แล้วแต่แอทม่าหรือจิตวิญญาณ วิธีการและความมุ่งมั่น ตั้งใจของแต่ละคนด้วย

เราต้องดูด้วยว่าเราขาดอะไรมั๊ย จิตสำนึกของเราสมดุลตามแนวเดียวกับพระเจ้าหรือจักรวาลด้วยหรือเปล่า

และที่สำคัญคือ ต้องออกจากความเชื่อของบรรพบุรุษให้ได้ก่อน หรือวางเอาไว้ก่อน ไม่ยืดติดสิ่งใด ปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระ เบา สบาย ถึงจะเจอประสบการณ์ที่เป็นจริงที่ไม่ใช่โฮโลแกรม การออกจากความเชื่อที่โดนปลูกฝังและครอบงำ คือการออกจากเมทริกซ์ทาสได้นั่นเอง

เสียงฮิว ( HU ) คือพลังงานอัจฉริยะ เขาจัดการให้เราทุกอย่าง เป็นการเชื่อมต่อจักรวาลโดยตรง แม้ร่างกายจะไม่ได้รับข้อมูลแต่แอทม่าหรือจิตวิญญาณทำงานล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ต้องให้เวลากับร่างกายของเราให้ปรับสภาพให้สมดุลกันให้ได้ก่อนด้วย ต้องใจเย็น ๆ

แม้ช่วงแรกจะไม่รู้เห็นอะไรก็ไม่เป็นไร เมื่อถึงเวลาทุกอย่างจะมาให้รู้ให้เห็นเอง แต่หลังจากส่งฮิว ( HU ) จะรู้สึกได้เลยว่า ใจเบาขึ้น นิสัยดีขึ้น มีความสุข สมองฉลาดเพิ่มขึ้น คิดแก้ไขอะไรได้ไว มีสติเป็นตัวของตัวเอง มีความมั่นใจ มุ่งมั่น มีความชัดเจน พูด คิด ทำสิ่งต่าง ๆ มีหลักการและลื่นไหลขึ้น

การฝึกต้องใช้จินตนาการที่เป็นบวกเท่านั้น ถ้าคิดลบหรือหงุดหงิดอยู่ให้สะบัดออกให้ไวที่สุดแล้วยิ้มออกมา ทำใจให้สดชื่นแล้วค่อยส่งฮิว ( HU ) ไป ต้องไม่กลัวและไม่ฟุ้งซ่าน ออกจากเมทริกซ์ฝึกในการเข้าหาตัวตน ส่งฮิว ( Hu ) ออกไปเพื่อเชื่อมต่อกับพลังงานของพระผู้สร้าง เพื่อช่วยให้เราจดจำตัวของตนเองได้

การส่งฮิว ( HU ) อาจดูง่ายเกินไป เลยทำให้หลายคนไม่ค่อยเชื่อว่าจะเกิดประสบการณ์การตื่นรู้ได้จริงและใช้เวลาในการตื่นรู้ที่ยาวนาน แต่นั่นมันขึ้นอยู่กับวินัยของตนเอง ให้ดูวีดีโอของคุณแพรี่เรื่องการตื่นรู้ พิมพ์ไปว่า Pari กำเนิดโลก กำเนิดเรา 

ที่การตื่นรู้ของพวกเราอาจค่อยเป็นค่อยไปเนื่องด้วยมีระบบอิมแพล้นท์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งมีผลต่อร่างกายและระบบประสาทของพวกเรา เพราะต่อมไพเนียลแกรนด์ที่อยู่ตรงระบบประสาทหรือสมองของเราของเราที่เรียกว่าตาที่ 3 เพราะต่อมไพเนียลใช้ควบคุมระบบพลังงาน ระบบประสาทและร่างกายของเรา เมื่อเรามีความกลัวที่สะสมอยู่ตรงแอทม่าหรือตัวตนของเรา

มันจะทำงานส่งมาที่ต่อมไพเนียลเพราะมันมีความกลัวที่เยอะมาก จากการที่เราเคยสร้างสิ่งเลวร้ายมาหรือเคยโดนกระทำที่โหดร้ายสะสมมามากมายหลายพันล้านปี

รวมทั้งเทคโนโลยีอิมแพล้นท์ หรือเอไอ ( Ai ) ที่มืดฝังลงไปในตัวของเราก็ด้วย ความกลัวตรงนี้จึงมีผลต่อกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ถ้าเราตื่นรู้และจำทุกอย่างได้ทั้งหมดพรึบทีเดียวเลย ร่างกายของเราก็จะช๊อตหรือเผาใหม่ทันที ไม่สามารถมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เพราะพลังงานของการตื่นรู้นั้นแรงและพลังงานสูงมาก

  การฝึกสมาธิส่งฮิว ( HU ) จึงต้องค่อย ๆ เป็นค่อยๆไปและใช้เวลา ไม่ต้องเอาคนอื่นมาเปรียบเทียบกับเราเพราะมันขึ้นอยู่กับการปรับความสมดุลให้เข้ากับจิตวิญญาณที่แท้จริงของแต่ละบุคคลด้วยถ้าร่างกายไหวจิตใจพร้อมยังไงก็ตื่นรู้ได้ทุกคน

วิธีการส่งฮิว ( HU )

ก่อนส่งฮิวพูดตามบทที่ให้ไว้นี้ ทำจิตให้สดชื่นแจ่มใส มีความสุข สร้างพลังงานความถี่ที่เป็นบวกก่อนส่ง ถ้าอารมณ์เหวี่ยงไม่ดี อย่าพึ่งส่งเพราะจะได้พลังงานที่เป็นลบ ให้ปรับอารมณ์ใหม่ให้สดชื่นแจ่มใสก่อน

โดยทิ้งปัญหาความกลัวหรือกังวลต่าง ๆ เอาทุกอย่างวางเอาไว้ ไม่ว่าเรื่องการงาน การเงินหรือความรัก สุขภาพ แล้วปรับอารมณ์ให้เป็นกลาง ยิ้มอย่างมีความสุขสดชื่นแจ่มใส ให้ใจฟูและเป็นบวกก่อนแล้วค่อยส่ง

ก่อนส่งให้หายใจเข้า - ออก ลึก ๆ 3 ครั้งเพื่อวอมก่อนส่งฮิว ( HU ) แล้วให้จินตนาการถึงสิ่งที่ตนเองรัก ครอบครัว คนรัก สุนัข แมว วิวทิวทัศน์ ต้นไม้ หรือสิ่งที่สวยงามหรือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข

แล้วทุกคืนพอส่งฮิว ( HU ) เสร็จให้ขอบคุณบีอิ้งที่มาช่วยดูแลเรา พร้อมขอให้บีอิ้งต่าง ๆ ช่วยปิดอมแพล้นท์หรือเอาซิงเกิ้ลเนอรี่อิมแพล้นท์ออกให้ด้วยตอนเรานอนหลับ และให้เรารู้ว่าก่อนที่เราจะมายังโลกใบนี้ เราเป็นใคร มาจากไหนและมาทำอะไรที่นี่ จะได้กลับบ้านถูกแต่การพูดกับบีอิ้งนั้นต้องพูดแบบเพื่อนหรือมิตร ให้ความเคารพแบบให้เกียรติซึ่งกันและกันแต่ไม่ต้องเรียกท่านหรือก้มกราบไหว้บูชาเพราะเป็นการแบ่งชั้น เพราะต่างดาวหรือกฎจักรวาลสากล พวกเขาเห็นทุกคนเท่าเทียมกันหมดฮิว ( Hu ) คือเสียงครึ่งหนึ่งของคำว่าฮิวแมนส์ ( Humans ) ที่ปลดล็อคให้มนุษย์ เป็นพลังงานจากต้นกำเนิดจากพระผู้สร้างเสียงแรกที่ก่อกำเนิดคือเสียงของฮิว ( HU ) ช่วยให้คนสามารถที่จะติดต่อสื่อสารกับพระผู้สร้างได้นั่นเอง ซึ่งมีโลกหลากหลายมิติมาก ฮิว ( HU ) สามารถจะนำคนไปสู่ต้นกำเนิดของตนเองได้เพื่อช่วยให้เรากลับสู่ที่มาของเราได้บทส่งฮิว ( HU ) เพื่อสื่อสารถึงพระผู้สร้างและบีอิ้งชาวแสง เพื่อยกระดับจิตเข้าสู่มิติใหม่ 5 D ( ยุคทอง ) และได้รู้ที่มาของตนเอง รวมทั้งตัวตนที่แท้จริงของตัวเราเองด้วย

      ให้เรากล่าวว่า... " ขอให้ความลับของจักรวาลในมิติต่าง ๆ ทุกมิติที่ถูกปิดบังเอาไว้ได้เปิดเผยให้เราได้เรียนรู้และได้รู้ถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของจักรวาล ที่อยู่ในทุก ๆ สิ่งให้เราได้รับการปกป้องให้เราได้เรียนรู้อย่างปลอดภัย  

   "แล้วหลับตา พร้อมส่งฮิว ( HU ) ออกไป 5 ครั้ง ในแต่ละครั้งที่ส่งออกไปให้หยุดในแต่ละครั้งรอให้มีประสบการณ์สิ่งต่าง ๆ ก่อน ถ้าไม่เห็นให้ส่งฮิว ( HU ) ต่อไป 5 ครั้ง

    กล่าวต่อไปว่า... " ขอให้เปิดเผยต้นกำเนิดที่แท้จริงของฉันในระบบโลกอื่น และมิติที่สูงกว่าทุกมิติในเวลากลางคืน ตอนที่ร่างกายของฉันกำลังหลับ ในขณะที่ตัวตนที่แท้จริงของฉันออกสำรวดจักรวาลอันยิ่งใหญ่หลากหลายมิติอย่างปลอดภัย ช่วยให้ฉันได้รู้จักตัวตนที่สูงกว่าที่แท้จริงของฉันว่าฉันเป็นใคร พร้อมกับความทรงจำที่ถูกปิดเอาไว้จากร่างกายมนุษย์ของโลกทางกายภาพนี้อย่างฉลาดและเข้าใจ ก่อนที่ฉันจะมายังโลกใบนี้พร้อมกับความทรงจำที่หายไป เปิดเผยอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นในความฝันของฉัน ถึงประสบการณ์ของฉันที่มีอยู่ในจักรวาลหลากหลายมิติ "

    แล้วหลับตา พร้อมส่งฮิว ( HU ) ต่ออีก 9 ครั้ง ในแต่ละครั้งที่ส่งไป ใน 1 ครั้งให้หยุดรอดูว่ามีสิ่งต่าง ๆ หรือประสบการณ์เกิดขึ้นกับเราหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ส่งฮิว ( HU ) ต่อไป ถ้ามีประสบการณ์ก็ให้เรียนรู้ประสบการณ์ไป พูดจนจบให้ครบ 9 ครั้ง

     แล้วกล่าวต่อว่า " ฉันพร้อมที่จะเดินทางอย่างตื่นรู้เพื่อไปหาพระผู้สร้าง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังและคอยช่วยเหลือทุกสรรพสิ่งในจักรวาลอันนี้อันกว้างใหญ่หลากหลายมิติ ฉันรู้ว่าฉันสามารถที่จะจดจำประสบการณ์ตัวตนที่แท้จริงของฉัน ว่าฉันเป็นใครและรู้ว่าฉันจะร่วมสร้างสรรค์ได้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปอย่างไรกับพระผู้สร้างผู้เมตตา ที่ผู้คนบนโลกเรียกว่าสิ่งมีชีวิตอันสูงสุด และฉันพร้อมที่จะออกจากกายเนื้อของฉันเป็นการชั่วคราว เพื่อเดินทางกลับบ้านและกลับมายังกายเนื้อของฉันอีกครั้งอย่างบีอิ้งที่เป็นอิสระ เพื่อช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ยกระดับพลังงานดาวเคราะห์โลก ผู้คนและมิติที่ต่ำกว่าทั้งหมดของจักรวาลหลากหลายมิติที่ยิ่งใหญ่ให้สูงขึ้น " จบ

#นี่คือบทพูดทั้งหมด แล้วส่งฮิวทำสมาธิสัก 15-30 นาที จะส่งได้ทั้งเวลาตื่นนอนหรือเข้านอนตามปกติ ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนก็ส่งฮิว ( HU ) ได้ตลอดเวลา จะนั่งหรือนอนราบส่งได้หมด ขอให้เป็นท่าที่สบาย ๆ

ขยันทำต่อเนื่อง อย่างน้อยสัก 1 เดือน ดูว่าเราจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือเรียนรู้และได้รับประสบการณ์อะไรบ้าง จะช้า - เร็วนั้น แล้วแต่บุคคล ต่างก็ไม่เหมือนกัน

   ตอนต่อไป EBS คืออะไร….