เด็กมั่นหน้า ลุงมาดนิ่ง
ความรักต่างวัยระหว่างทิวไผ่และวันจันทร์เกิดขึ้นใน'คุก' ทั้งสองคนต้องอดทนชดใช้ความผิดกว่าจะได้ออกมาร่วมใช้ชีวิตในโลกกว้างที่สวยงาม
ผู้เข้าชมรวม
226
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
การต้องเผชิญกับโลกกว้างของ วันจันทร์ เป็นอะไรที่ทำให้เจ้าตัวต้องถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ใช่ไม่ดีใจ ไม่ใช่ไม่ยินดีที่ได้รับอิสรภาพคืนมา แต่มันทำตัวไม่ถูกเมื่อนึกถึงท้องฟ้ากว้างใหญ่ไร้กำแพงสูงขวางกั้น
ใจหวิวโหวงอย่างน่าใจหายกับภาพเบื้องหลัง...
6ปีที่เข้าไป 6ปีที่ตัดขาดจากโลกภายนอก...
แปรเปลี่ยนจากไอ้วันจันทร์ที่ยังเป็นเด็กวัยรุ่น กลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
ความทรงจำมากมายเกี่ยวกับที่นี่ มีทั้งความรัก มิตรภาพความเป็นเพื่อนและเรื่องกลโกงหลากหลาย ความโหดร้ายและทารุนทั้งหลายที่มันได้เรียนรู้จากที่นี่
...ไม่มีวันลืม...
"ขอให้โชคดีนะ.."
ผู้คุมอวยพรพร้อมกับยื่นเอกสารเป็นการรับรองว่าวันจันทร์ได้ชดใช้ความผิดจนหมดแล้ว
"ขอบคุณครับ"มันยกมือไหว้ขอบคุณ พร้อมม้วนเอกสารไว้เพื่อจะได้ถือง่ายๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
วันจันทร์อยู่ในชุดบอลสีเขียวอ่อน สวมรองเท้าแตะหูหนีบสีตุ่นคู่เก่า ของเครื่องใช้ในคุกไม่มีอะไรเลยเพราะมันไม่มีเงินซื้อ อาศัยรอกินข้าวหลวงไปวันๆ ขนาดชุดที่ใส่ รองเท้าที่รองตีนยังได้มาจากเพื่อนที่อยู่ข้างในนั้น เพราะเวทนาคนไร้ญาติจนต้องเจียดเสื้อผ้าที่มีให้ได้คลุมห่มแทนชุดนักโทษออกมา
วันจันทร์ไม่ใช่คนไร้ญาติ พ่อแม่พี่น้องมีครบยังไม่มีใครตาย สาเหตุที่ไร้เงาคนเหล่านั้นเพราะพวกเขาได้ตัดหางปล่อยคุกตั้งแต่มันก้าวขาเข้ามาอยู่ในนี้แล้ว!
ทว่าตั้งแต่ที่มันอยู่ข้างนอก พวกนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรคนอย่างมันนักหรอก มันเหมือนส่วนเกินของครอบครัว ทุกคนมองมันเหมือนธาตุอากาศ เป็นคนไร้ตัวตนมานานแล้ว แต่คนอย่างวันจันทร์ไม่ได้เอามาใส่ใจนักหรอกกับการถูกเมินจากครอบครัว
มันชินชาไปเสียแล้ว...
เสียงจอแจดังทั่วบริเวณ ภาพเบื้องหน้าปรากฎผู้คนมากมายหลากหลายช่วงอายุ คงเป็นครอบครัว คนรัก ลูกหลาน เพื่อนฝูงที่มาเฝ้ารอต้อนรับการกลับบ้านของคนที่เพิ่งชดใช้ความผิดจนหมด
"ยินดีต้อนรับกลับบ้าน"
เสียงแว่วผ่านเข้าหูทำหัวใจวันจันทร์กระตุก ก่อนจะบีบรัดอัดแน่นเมื่อคำพูดยินดีนั้นไม่ใช่ของตนเอง
คำยินดีนั้น คนอย่างเขาคงไม่มีวันได้รับ
"หึ!" มันยืนนิ่ง มือกำเอกสารสำคัญที่มี แหงนเงยหน้าขึ้นสู้สบท้องฟ้าสีครามสดใส ส่งรอยยิ้มเศร้าหม่นให้เป็นการทักทายกับอิสรภาพบนโลกกว้าง
ภาพรอยยิ้ม แววตาแสนคิดถึงและยินดีกับการเฝ้าคอย คำพูดที่มีแต่คำให้อภัย ไม่เป็นไร เริ่มใหม่ การโอบกอดต้อนรับ พูดคุยไถ่ถามทุกข์สุข ถูกห้อมล้อมด้วยรอยยิ้ม
ทำคนที่ไร้สิ่งเหล่านั้นเบือนหน้าหนี พร้อมก้าวขาเดินสู่โลกกว้างเพียงลำพัง
ปริ้นนน!!
บรึ้นนน!!
ปริ้นนน!!
เสียงบีบแตร ภาพรถราขับสวนไปมาวุ่นวาย ทำให้คนที่ไม่คุ้นชินกับโลกภายนอกสะดุ้งผวะตกใจอยู่บ่อยครั้ง จนต้องคอยหลบรถตามซอกถนน ระวังไม่ให้ตัวเองเดินชนรถคนอื่นให้เกิดความเสียหายวุ่นวายตามมา
09.55น. สู่โลกภายนอก คนที่อยู่ห้องขังมาหลายปียืนงงท่ามกลางความวุ่นวายอึกทึก ความแปลกเปลี่ยนที่กำลังเผชิญ ไม่ง่ายเลยกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไร้หลักยึด
สรรพสิ่งที่ปรากฎตรงหน้าแปรเปลี่ยนไปมากจนวันจันทร์ปรับตัวไม่ทันทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะก้าวขาเดินไปจุดไหน
หมุนซ้ายมองขวาอย่างคนหลงทาง
"เฮ้อออ " เสียงถอนหายใจแรงๆ อย่างคนที่ไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อน
มันยกหลังมือข้างที่ว่างปาดเหงื่อออกเมื่อหยาดเหงื่อไหลซึมลงมา
"เอาไงดีวะกู เงินก็ไม่มีสักบาท" สบทบ่นพึมพำเมื่อถึงทางตัน คนไร้ที่พึ่งอย่างมันจึงยืนเคว้งท่ามกลางแสงแดดจ้า
วันจันทร์ ณ ตอนนี้เหมือนตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว ไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติ ไม่มีใคร.. ทำให้คนที่เพิ่งได้รับอิสระภาพรู้สึกเคว้งคว้างเดียวดาย เส้นทางข้างหน้าดับมืดน่ากลัวจนไม่กล้าก้าวขา มันพยายามรวบรวมสติ ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ สูดหายใจเข้าช้าๆ ผ่อนลมหายใจออกยาวๆ ทำอย่างนั้นเพื่อลดอาการประหม่าตื่นกลัว
ทว่า.. กลับไม่ช่วยให้คลายอาการเหล่านั้นสักนิด
สุดท้ายคนที่ไร้จุดหมายปลายทาง จึงนั่งจมจ่อมอย่างเดียวดายใต้ร่มไม้ มันก้มหน้าพึมพำพูดคนเดียวราวคนบ้าเสียสติ คลี่เอกสารยับย่นในมือเปิดอ่านเลื่อนลอย ก่อนจะม้วนกลับกำไว้แน่น
การได้รับอิสระ แต่ต้องเผชิญกับความเดียวดายและอ้างว้างเพียงลำพัง วันจันทร์นึกอยากกลับเข้าไปอยู่ในนั้นอีกครั้ง
เพียงความคิดนั้นแวบผ่านเข้ามา คนที่ตั้งใจทำความดีเพื่อชดใช้ความผิดจนหมด ได้แต่กำมือจิกปลายเล็บกับฝ่ามือ
ความกลัวเริ่มกัดกินหัวใจจนเจ็บหนึบ...
ความคิดตีรวนให้ยุ่งจนเกิดความสับสนปนหวาดกลัว มันยินดีที่ได้รับอิสระภาพ ทว่าความยินดีนั้นเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะจางหายเมื่อมานึกขึ้นได้ว่า ปลายทางนั้นว่างเปล่า ไร้คนเฝ้าคอยการกลับไปของมัน..
มันไม่ได้วางแผนสำหรับการก้าวออกไปสู่โลกกว้าง เพียงแค่รู้ว่าตนเองได้รับการชดใช้ความผิดจนหมด มันก็ดีใจ ยินดีกับข่าวดีที่มันเฝ้ารอจะได้ออกไป จนลืมนึกถึงว่าตนเองไม่มีใครคอยอยู่
คำนี้..เจ็บหน่วงหัวใจจนต้องกลั้นหายใจ
โลกใบกว้างมันช่างอ้างว้างเหลือเกินสำหรับวันจันทร์...
วันจันทร์เริ่มกลัวกับสิ่งที่กำลังเผชิญ ความกลัวกัดกินหัวใจ ชายหนุ่มไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน จึงทำเพียงนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ข้างถนน วางหน้าลงกับเข่า หลับตาลงจมกับความคิดที่แสนเจ็บปวด
* * *
'ลุง'
'หืม? '
'จะลืมกันเปล่าวะถ้าออกไปอยู่ข้างนอกแล้ว'
'ไม่ได้ความจำเสื่อมที่จะลืมอะไรง่ายๆ '
'ผมต้องคิดถึงลุงมากๆ แน่ๆ อ่ะ'
'อยู่ในนี้ดูแลตัวเองดีๆ อย่ากวนตีนคนอื่นให้มาก'
'รู้แล้วเถอะพูดมากว่ะ'
'เพราะห่วง'
'.....'
.
.
.
'ลุง'
'ดูแลตัวเองด้วย อะไรลงตัวแล้วจะมาหา'
'อึก! ฮึก! ฮืออ'
'งอแงทำไม เดี๋ยวนายก็ได้ออกไปแล้ว อดทนอีกหน่อย'
'ไม่ต้องมาหาผม ไม่ต้องมา'
'ทำไม? '
'กลัวใจตัวเอง กลัวคิดถึงลุง กลัวจะคิดทำอะไรโง่ๆ '
'ไร้สาระ..'
'จริงๆ ... ไม่ต้องมา ลืมกันไปเลยก็ได้ ฮึก! '
'จะเอาอย่างนั้น? '
'... 'พยักหน้าเพื่อยืนยันความต้องการ
'ตกลง... แต่ถ้าวันไหนได้ออกไป นายไม่มีที่ไป อย่าลืมว่ายังมีฉัน'
'ขอให้พี่ทิวโชคดีนะ '
'นายด้วยวันจันทร์ ขอให้โชคดี'
.
.
.
"ลุง..." รอยยิ้มดีใจเปื้อนเกลื่อนเต็มใบหน้า เมื่อนึกถึงใครบางคนที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจ
..ทิวไผ่..
วันจันทร์ลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยหัวใจขยายกว้างพองโต หัวใจเต้นระรัวเมื่อใบหน้าของใครบางคนชัดเจนในความทรงจำ
มันไม่ได้ลืม..
ไม่เคยลืม...
มันไม่เคยลืมคนคนนี้ ทว่าจำต้องเก็บกดให้ลึกลงสุดหัวใจ ทำให้เหมือนลืมเพื่อมันจะได้ลดความทรมานภายในหัวใจ
หัวใจมันรักคนคนนี้สุดหัวใจ เพราะชีวิตมันไม่เป็นที่ต้องการของใคร มีแค่คนคนนี้คอยสั่งสอน คอยดูแล คอยปกป้อง และหวังดี...
"นายครับสวัสดีครับ"วันจันทร์กลับเข้ามาภายในบริเวณที่แห่งนี้อีกครั้ง ที่พึ่งสุดท้ายที่มันจำต้องแบกหน้ากลับเข้ามาใหม่เพื่อขอความช่วยเหลือ
"ผมไม่มีเงินติดตัวสักบาท จะโทรหาใครก็ไม่มีปัญญา รบกวนนายสงสารมันด้วยนะครับ ขอใช้โทรศัพท์หรือขอเศษเหรียญสักสิบบาทก็ยังดี"
เจ้าหน้าที่ในเรือนจำมองไอ้หนุ่มหัวเกรียนชุดเขียว ส่งรอยยิ้มแหย วางมือประสานกันท่าทางนอบน้อม ชายที่มันเรียกว่านายพิศมองเด็กหนุ่มด้วยสายตานิ่งดุ ทั้งที่จริงแล้วอีกฝ่ายเป็นคนใจดีเมตตา
"ขอบคุณครับ"โค้งตัวลงต่ำพนมมือขึ้นไหว้ด้วยความดีใจสุดชีวิต เมื่อคนที่มันเรียกว่านายส่งเครื่องมือสื่อสารให้
มือสั่นๆ ของมันค่อยๆ ยื่นมือออกไปรับเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ทันสมัยเครื่องจิ๋ว
"หือ? "เพ่งสายตามองหน้าจอสมาร์ทโฟน มองหาปุ่มตัวเลขเพื่อกดหมายเลข ทว่ากลับว่างเปล่ามีแค่หน้าจอใหญ่กับรูปภาพดอกไม้สีขาวปรากฎให้เห็น
วันจันทร์พลิกเครื่องมือสื่อสารในมือซ้ายขวา มองด้านหลังเผื่อจะเจอทว่ากลับไม่มี เพียงแค่หกปีที่ตนเองถูกจำกัดอิสระ นึกไม่ถึงว่าโลกมันพัฒนาไปไกลถึงขนาดประดิษฐ์โทรศัพท์ไร้ปุ่มกดเลยหรือ
"นาย แหะ แหะ" ส่งโทรศัพท์มือถือคืนแก่เจ้าของเครื่องก่อนจะยิ้มแหยๆ ยกมือขึ้นเกาหัวสั้นเกรียนแก้อาการเขินอาย
"เบอร์อะไร? " เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ของตัวเองกลับมา พลางทำหน้าระอาใส่แต่ก็ให้ความช่วยเหลือ
"089-0836xxx ครับนาย"
วันจันทร์บอกหมายเลขที่จำขึ้นใจกับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่แสนใจดี เบอร์นี้พี่ทิวฝากกับพี่เขื่อนเพื่อนในคุกมาให้ เขาท่องจนจำขึ้นใจไม่มีวันลืมเด็ดขาด
เรียวนิ้วสากกดหมายเลขจนครบจึงกดโทรออก ส่งเครื่องมือสื่อสารให้อดีตนักโทษที่ต้องการติดต่อหาญาติ
ตู้ด... ตู้ด... ตู้ดดดดด
แนบโทรศัพท์กับใบหูยืนนิ่งฟังเสียงสัญญาณ รอด้วยใจลุ้นระทึก ภาวนาขอให้พี่ทิวรับสายทีเถอะ
ระหว่างรอสายหัวใจคนที่เฝ้ารอเต้นระส่ำ มือเท้าเย็นเฉียบ ใบหน้า แผ่นหลังมีเหงื่อไหลซึม อาการตื่นเต้น ประหม่า สั่นกลัว ทุกความรู้สึกปนเปสับสนและกังวล จนแสดงออกมาด้วยการมุ่นหัวคิ้วจนยุ่ง กัดเล็บมือ ส้นเท้าข้างหนึ่งวางกดทับปลายนิ้วเท้าอีกข้างไว้
/ฮัลโหล/ เสียงทุ้มที่ไม่ได้ยินมาสองปีลอดผ่านเข้ามาในเครื่องมือสื่อสาร
จู่ๆ กระบอกตาก็ร้อนผ่าว น้ำในตาเอ่อคลอเบ้า วันจันทร์แหงนหน้าขึ้นกลั้นหายใจพยายามกดกลั้นความอ่อนแอ
/ฮัลโหลสวัสดีครับ ... ฮัลโหล/ คนในสายพูดทักอีกครั้งเมื่อไม่มีเสียงตอบรับกลับไป
"ล ลุง ... พ พี่ ทิว" วันจันทร์พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น ทว่ามันยากเหลือเกิน ตอนนี้มันกำลังต่อสู้กับความรู้สึกที่จะเผยควาอ่อนแอ
/นั่นใคร? /
"วันจันทร์.. "
/...... / นิ่งเงียบไร้เสียงตอบกลับ ชวนให้มันใจเสียกับความเงียบนิ่ง
น้ำตาเริ่มเอ่อขังขอบตา เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายคงลืมกันแล้วจริงๆ
วันจันทร์สูดลมหายใจเข้าลึก กดความรู้สึกเจ็บหน่วงในอกลงให้ลึก
แสงสว่างดวงสุดท้ายในชีวิตที่เหลือของมัน ตอนนี้...คงไม่มีอีกแล้ว
/จันทร์ นายอยู่ไหน? / เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อเงียบหายไปเกือบนาที
"ผมเพิ่งได้ออกมา ตอนนี้ไม่มีที่ไป ไม่มีเงิน ไม่มีเหี้ยอะไรเลย อึก!! ลุง..."จบคำสุดท้ายเสียงที่จะเปร่งออกมามันยากเหลือเกิน ในอกมันตีบตัน จะหายใจยังยากเลยตอนนี้
/ใจเย็นๆ จันทร์ ใจเย็นๆ /น้ำเสียงนุ่มเอ่ยออกมาเนิบช้าให้ความรู้สึกยุ่งเหยิงทุเลาลง
เพียงแค่ได้ยินเสียงอาทรห่วงใยจากอีกฝ่าย หัวใจของมันก็เหมือนมีน้ำมาหล่อเลี้ยงชุบชีวิตที่แห้งแล้งให้กลับมามีพลังอีกครั้ง
"ลุง "วันจันทร์เรียกคนในสายเพื่อยืนยันว่าคือความจริง
โคตรคิดถึง โคตรโหยหา อยากกอด อยากเจอ แม่งความรู้สึกโหยหาคนคนนี้จนจะขาดใจตาย
/นายเอาโทรศัพท์ใครโทรมา? /
"ยืมของนายที่นี่อ่ะ "
/รออยู่ที่นั่นนะ เดี๋ยวฉันโทรกลับไป อย่าไปไหน!/
"เร็วๆ นะ ...รออยู่..."
ฝ่ายทางนั้นกดวางสายไปแล้ว แต่วันจันทร์ก็ยังแนบโทรศัพท์ไว้กับใบหูเพื่อรอให้อีกฝ่ายโทรกลับมา
ส่วนคนที่มันเรียกว่านาย กำลังจับตามองมันด้วยสายตานิ่งดุ ไม่ไว้ใจ กลัวคนที่เพิ่งพ้นโทษอย่างเขาจะฉกชิงโทรศัพท์ไป
อย่างว่าล่ะคนมันมีประวัติไม่ดีใครมันจะไปวางใจไว้ใจกับอดีตนักโทษ ก็พอเข้าใจ ไม่โกรธหรอกเพราะถ้าไม่ได้นายใจดีคนนี้ก็ไม่รู้จะติดต่อพี่ทิวยังไง ต้องขอบพระคุณถึงจะถูก
กริ้ง~~
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นมา วันจันทร์ผละหน้าจอออกจากแก้มตัวเอง มองเบอร์โทรที่ปรากฎจดจำขึ้นใจ ก่อนจะหันไปบอกเจ้าของโทรศัพท์ที่อยู่ไม่ไกล เมื่อได้รับอนุญาต วันจันทร์จึงถือวิสาสะด้วยการกดรับสายเอง
แต่เวรกรรม!! วันจันทร์กดรับไม่เป็น!
โชคดีที่นายใจดีเดินมาไถนิ้วปื้ดเดียวจึงได้ยินเสียงปลายสายลอดออกมา วันจันทร์แนบเครื่องมือสื่อสารกับใบหูอีกครั้ง ทว่าเสียงที่ดังเกินจนหูแทบแตก ตกใจผละเครื่องมือสื่อสารออกแทบไม่ทัน ดีไม่เผลอปล่อยมันล่วงหล่นเสียหาย
มันพรูลมหายใจออกช้าๆ ยกมือลูบอกตัวเองเพื่อเรียกขวัญกลับมา
เจ้าของอิเล็กทรอนิกส์เครื่องหรูหัวเราะขบขันท่าทางตลกโง่ๆ ของมัน ก่อนจะบอกว่าตนเองเปิดสปี๊กเกอร์โฟนไว้ ไม่ต้องแนบกับใบหูก็ได้ยิน มันจึงทำตาม ตะเบ็งเสียงออกไปคุยกับคนในสายแทน
ได้ความว่าจะมีคนมารับเขาที่นี่ ..ชื่อต้นกล้า.. ให้เขาเขียนชื่อตัวเองตัวใหญ่ๆ เด่นๆ ใส่กระดาษจะแปะที่ตัวหรือจะโชว์ยังไงก็ได้ให้คนที่ไปรับรู้ว่ามารับถูกคน
วันจันทร์ใจชื้นขึ้นมาเมื่อได้คุยกับพี่ทิว อย่างน้อยวันแรกที่ต้องเผชิญกับโลกไร้กำแพงที่ตนเองไม่คุ้นชิน ก็ยังมีแสงสว่างมาคอยนำทาง แม้ลึกๆ ใจมันต้องการอีกคนมากกว่าก็ตาม
แต่พี่ทิวรับปากไว้แล้วว่าจะรีบมาหา เท่านั้นวันจันทร์ก็มีแรงหายใจต่อไปอย่างมีความหวัง
...ขอบคุณนะลุงที่ไม่ลืมกัน...
***
"นั่งตรงนี้นะเดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้ "พี่ต้นกล้าคนที่พี่ทิวให้ไปรับวันจันทร์ที่กรมราชทัณฑ์บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม
น้ำเสียงและรอยยิ้มของอีกฝ่ายไม่เสแสร้งหรือแสดงความไม่ไว้ใจออกมาให้เห็น คนที่เพิ่งชดใชความผิดจนพ้นสถานะนักโทษออกมาจึงรู้สึกขอบคุณจากหัวใจ
"ขอบคุณครับ"วันจันทร์ยกมือขึ้นไหว้คนที่อายุมากกว่าแถมยังใจดีอ่อนโยนสุดๆ ด้วยความนอบน้อมอย่างที่ไม่เคยเป็นกับใคร เพราะอีกฝ่ายให้ความรู้สึกน่าเคารพและเกรงใจ
"ตามสบายไม่ต้องเกร็ง"ต้นกล้าอมยิ้มเอ็นดูกับอาการประหม่านั้น
ภาพชายหนุ่มหัวเกรียนสวมชุดกีฬาสีเขียวแสบตานั่งห่อไหล่ หลังงองุ้ม เก็บขาเก็บแขนไม่ให้กินพื้นที่บนโซฟาที่นั่ง ดูแล้วช่างน่าสงสารปนเอ็นดูในคราเดียว
ตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากพี่ทิวให้ไปรับคนที่กรมราชทัณฑ์ ต้นกล้าตกใจไม่น้อยแต่ก็รับปากว่าจะจัดการเป็นธุระให้ เพราะคนที่อยู่ไกลถึงภาคใต้ไม่สามารถมาได้ทันเวลาจริงๆ
เขาจึงยกเลิกคลาสสอนเด็กช่วงบ่ายเพื่อมาทำธุระให้กับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่พอได้เห็นหน้าและการแต่งตัวของคนที่เพิ่งชดใช้ความผิดจนหมด ทำต้นกล้าถึงกับกลั้นหัวเราะจนไหล่สั่น ไม่กล้าแม้แต่จะมองเต็มสายตา กลัวเผลอหัวเราะอีกฝ่ายจนเข้าใจผิด
ชายหนุ่มร่างบางผิวขาวผมสั้นเกรียน สวมชุดบอลสีเขียวอ่อนแสบตายืนชูกระดาษเอสี่จนสุดแขน ข้อความในนั้นเขียนว่า ..วันจันทร์.. ตัวใหญ่สะดุดตาทำให้ต้นกล้าเดินเข้าไปทักโดยไม่ต้องสอบถามหรือกลัวจะมารับผิดคน
"อยากอาบน้ำมั้ย? หิวหรือเปล่า"ต้นกล้าถามอย่างอาทร
คนถูกถามส่ายหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ ไม่ใช่ไม่อยากอาบน้ำแต่ที่ต้องบอกปฏิเสธไปเพราะตนเองไม่มีเสื้อผ้าตัวใหม่สำหรับผลัดเปลี่ยน จะใส่ชุดเดิมก็เหม็นเหงื่อเหม็นกลิ่นตัวตัวเองแล้ว ที่นั่งนิ่งไม่กล้าขยับตัวเพราะเกรงใจเจ้าของห้องจะได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ กลัวอีกฝ่ายรังเกียจ
"พี่มีเสื้อผ้าให้วันจันทร์เปลี่ยนนะ อยากอาบน้ำมั้ย? "ต้นกล้าเหมือนจะเดาความคิดอีกฝ่ายได้จึงเสนอน้ำใจให้ เขาไม่เห็นข้าวของอะไรติดตัววันจันทร์สักอย่างนอกจากกระดาษยับๆ ที่เจ้าตัวม้วนติดมือมาด้วย
ต้นกล้าอยากถาม อยากรู้เรื่องส่วนตัวอีกฝ่ายเหมือนกันแต่ก็เลือกจะไม่ละลาบละล้วงเพราะไม่ใช่เรื่องของตน
ไม่ต้องรอคำปฏิเสธของอีกฝ่าย ต้นกล้าลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอนเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดที่คิดว่าวันจันทร์จะใส่ได้
"วันจันทร์ไปอาบน้ำห้องโน้นนะ เสื้อผ้านี่ของลูกชายพี่เอง"ต้นกล้าส่งเสื้อยืดสีดำลวดลายเท่ห์ๆ กับกางเกงผ้าขาสั้นสีน้ำตาลให้อีกฝ่าย เป็นเสื้อผ้าของทะเลตอนวัยรุ่นพับเก็บไว้เพราะไม่รู้จะให้ใคร มันยังใหม่จนไม่กล้าทิ้ง
วันจันทร์มองเสื้อผ้าในมือพี่ต้นกล้า ก่อนจะช้อนสายตาสบมองอีกฝ่าย รอยยิ้มใจดีและจริงใจนั้นมันอุ่นวาบอยู่ในอกเมื่อได้รับการปฏิบัติที่ดีด้วย
"ขอบคุณคัรบ"นิสัยวันจันทร์ไม่ใช่คนที่นอบน้อมก้มหัวให้ใคร แต่เพราะได้รับน้ำใจและถูกปฏิบัติอย่างดีจากต้นกล้า จึงทำให้คนที่แวดล้อมด้วยสังคมเห็นแก่ตัวถูกเอาเปรียบจนคนที่คุ้นเคยกับสถาพแววล้อมนั้นรู้สึกดีและมีพลังบวกเพิ่มขึ้น
ทางฝั่งของทิวไผ่เมื่อได้รับสายทางไกลจากคนที่ตนเองเคยดูแล ชายหนุ่มจึงเร่งรีบจัดการสั่งงานคนงานในสวนเพื่อรีบไปรับมัน ตอนได้ยินเสียงของมันลอดผ่านเข้ามาในสมาร์ทโฟน เขาจำเสียงของมันได้ทั้งที่เป็นครั้งแรกที่เราคุยกันผ่านเครื่องมือสื่อสารทันสมัย น่าแปลกที่ทิวไผ่จดจำน้ำเสียงนั้นได้
สองปีที่ไม่ได้เห็นหน้า สองปีที่ไม่ได้ยินเสียง ไม่เคยได้ไปเยี่ยม แต่เขาก็ถามข่าวมันกับเพื่อนที่อยู่ในนั้น ได้ฝากเบอร์โทรไว้เผื่อมันออกมาแล้วนึกถึงว่ายังมีเขาที่เป็นห่วงไม่คิดทอดทิ้งมัน
วันจันทร์เป็นเด็กน่าสงสาร ครอบครัวมันทิ้งไม่มาเยี่ยม ไม่มาเหลียวแล ตอนที่มันเข้าไปใหม่ๆ โดนนักโทษข้างในคอยหาเรื่องประจำ ด้วยภาพลักษณ์กวนๆ หน้าตาชวนหาเรื่อง คำพูดจาไร้สัมมาคารวะ ไม่รู้จักรุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ทำให้มันโดนกลั่นแกล้งจากกลุ่มที่ตั้งตัวเองให้เป็นนักเลงขาใหญ่ในนั้น แต่มันก็ไม่เคยยอมก้มหัวให้ใคร สู้จนขาดใจแทบเอาตัวไม่รอดทั้งที่จะตายอยู่รอมมะร่อ
สุดท้ายทิวไผ่ทนดูหมาเด็กตัวหนึ่งโดนรังแกไม่ไหวจึงเอาตัวเองที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครคอยปกป้องคุ้มครองมัน
แรกๆ มันไม่ไว้ใจเขา ระแวงระวังกลัวว่าเขาหลอกทำดีด้วย คอยระวังตัวเองเพื่อไม่ให้ใครทำร้ายเอาเปรียบ ทิวไผ่ไม่ได้สนใจกับพฤติกรรมระแวดระวังนั้น ปล่อยให้มันสร้างเกาะของตัวมันไป ส่วนเขาก็แค่ปกป้องคุ้มกะลาหัวมันให้รอดปลอดภัยจากพวกคนอันธพานที่อยากสร้างตัวเองเป็นใหญ่ข้างในนั้น
ขึ้นชื่อว่า คุก! มันก็คือสถานที่ไว้ขังพวกที่กระทำผิด ข้างในนั้นป่าเถื่อนและโหดร้ายแต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่คนเลวชั่วจนติดสันดานแก้ไม่หาย
คนดีๆ กลับตัวกลับใจก็เยอะแยะ แต่ในข้างในนั้นไว้ใจใครไม่ค่อยได้ เล่ห์เหลี่ยมกลโกงและการหักหลังเกิดขึ้นได้ตลอด เขาไม่อยากให้วันจันทร์ถูกพวกคนกลุ่มนั้นดึงมันเข้าไปอยู่ในวงจรผิดๆ แบบเดิมๆ ทั้งที่มันควรจะได้ชดใช้ความผิด สำนึกกับสิ่งที่ทำให้ตัวเองต้องเข้าอยู่ในนั้น กลับทำผิดซ้ำซากไม่จบสิ้น
เกือบปีที่มันเริ่มเห็นว่าทิวไผ่ไม่ได้มีเจตนาร้ายหรือทำเพื่อหวังผล มันจึงเดินเข้ามาหาพร้อมกับเรียกเขา 'ลุง' นั่นเป็นจุดเริ่มต้นระหว่างเขากับมัน...
* * *
"ล ลุง "
ในที่สุดก็ได้พบกันอีกครั้ง...
"พ พี่ .. ทิว.. "
คนที่โคตรคิดถึง คนที่มันโหยหาปรากฎตรงหน้า ไม่ใช่ภาพความฝัน มันไม่ได้ฝัน
ใช่.. มันไม่ได้ฝัน
วันจันทร์ได้พบกับคนที่รอคอย เป็นการพบกันครั้งแรกนอกกำแพงสูง
ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเมื่อหยาดน้ำในตาเอ่อคลอ วันจันทร์ตัวเย็นปากสั่น หัวใจเต้นแรง ขาไม่ขยับเขยื้อนทั้งที่ใจนั้นอยากวิ่งเข้าไปหาไออุ่น
ทิวไผ่เป็นฝ่ายก้าวขาเดินเข้าไปหาวันจันทร์เสียเองเมื่อเห็นอาการตัวเกร็งไหล่สั่น ดวงตาวาวฉ่ำด้วยหยาดน้ำใส
มันยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ ยิ่งได้เห็นมันในชุดที่แปลกไปจากชุดนักโทษในเรือนจำ วันจันทร์ยิ่งดูดีน่ามอง
"ล ลุง อึก!! ฮึก!"วันจันทร์พูดอะไรไม่ออก คำพูดทั้งหมดอัดแน่นเต็มอก
อยากพูดอะไรมากมายกับคนคนนี้แต่คำพูดมันตื้อตันจุกจ่อตรงลำคอ ยากเหลือเกินที่จะเปร่งเสียงออกมา ทำได้แค่ยืนนิ่งจ้องมองคนตรงหน้าผ่านม่านน้ำตาที่ขังขอบตา ไม่กล้าแม้แต่กระพริบตา มันกลัวเผลอแล้วอีกฝ่ายจะหายไป
มือใหญ่วางบนหัวสั้นเกรียน แววตาที่ทอดมองช่างอบอุ่นและอ่อนโยนเหลือเกิน
"ยินดีต้อนรับกลับบ้าน"
คำพูดสั้นๆ แต่มันช่างมีอานุภาพและมีความหมายสำหรับคนฟังจนเก็บกลั้นต่อไปไม่ไหว มันจึงปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร
ฮืออออออออ!!!!
วันจันทร์เก็บกลั้นความรู้สึกต่อไปไม่ไหว มันอ้าแขนโถมตัวเข้าหาคนที่เป็นทั้งชีวิตของมันตอนนี้
ยินดีต้อนรับกลับบ้าน คำนี้อาจจะธรรมดาสำหรับคนทั่วไป ทว่า คนอย่างมันไม่เคยได้รับจากคนในครอบครัวสักครั้ง มันจึงมีค่ามีความหมายสำหรับมัน
แม้คนพูดจะไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่พี่น้อง ไม่ใช่คนในครอบครัว แต่วันจันทร์กลับรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นมากกว่าอยู่กับครอบครัว
อ้อมแขนวงนี้ที่เคยเป็นเกราะปกป้องมันจากภัยรอบด้าน ฝ่ามืออุ่นที่คอยลูบหัวลูบหลังปลอบเวลามันเศร้าไม่สบาย สายตานิ่งดุมองมันเวลามันดื้อด้านไม่ฟังความ วาจาร้ายกาจดุด่ามันเวลามันก้าวร้าวทำตัวไม่น่ารัก ทุกอย่างที่คนคนนี้ทำคือความหวังดี...
ในที่สุดมันก็ได้กลับคืนสู่อ้อมอกอุ่น...
ต้นกล้ากับทะเลและคนอื่นๆ ภายในบริเวณสนามบินต่างมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลายยากอธิบาย
คนอายุมากกว่าโอบกอดร่างชายหนุ่มสูงโปร่ง ฝ่ามือใหญ่ลูบแผ่นหลังงองุ้มสั่นไหว เสียงสะอื้นไห้ คำพูดไม่ได้ศัพท์ที่พร่ำบอกว่าคิดถึง ดีใจ อย่าทิ้ง ซ้ำไปวนมาอย่างนั้นนานหลายนาที
ช่างเป็นภาพที่หดหู่และน่าประทับใจในคราเดียว
"ขอบคุณนะกล้า รบกวนกล้าอยู่เรื่อยเกรงใจเหลือเกิน"ทิวไผ่บอกด้วยความเกรงใจเมื่อปลอบเด็กข้างๆ จนคลายอาการสะอื้นไห้
ต้นกล้าใจดีอย่างนี้เสมอทั้งที่เขาเคยทำกับอีกฝ่ายเจ็บช้ำน้ำใจ แม้ช่วงแรกจะโกรธจนตัดขาดกัน ทว่าเวลาผ่านไปอีกฝ่ายกลับให้อภัยและยอมให้พบเจอได้ น่านับถือน้ำใจเด็กคนนี้เหลือเกิน
"ไม่เป็นไรพี่ทิว"ต้นกล้าส่ายหน้าไม่คิดมาก ส่งรอยยิ้มอ่อนเป็นการยืนยันว่าตัวเองเต็มใจช่วยเหลือ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่จะช่วยไม่ได้ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าขอให้ตนช่วย
ยิ่งได้มาเห็นภาพที่ทั้งคู่ปลอบโยน ภาพความอ่อนโยนของพี่ทิว น้ำเสียงนุ่มทุ้มคอยพูดปลอบ คำพูดถามไถ่ถึงความทุกข์สุขทั้งคนที่อยู่ในเรือนจำและคนอยู่บนโลกกว้างมันทำให้รู้สึกว่า การถูกจำกัดอิสรภาพ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก มีกำแพงสูงขวางกั้นระหว่างกัน มีกฎระเบียบข้อจำกัดมากมายกว่าจะได้พบเจอ มันทำให้ต้นกล้าตระหนักว่าควรต้องระมัดระวังในการชีวิตยิ่งขึ้น
"ทะเล"ดวงตาคมหันไปทางเด็กหนุ่มตัวสูงที่ยืนเคียงข้างของอดีตคนรัก
ทะเลเป็นลูกชายของเขากับภรรยาที่เขาเป็นคนลงมือพรากลมหายใจอีกฝ่ายกับมือ ภาพภรรยานอนจมกองเลือดนั้นยังชัดเจนไม่เลือนหายแม้จะผ่านมาเกือบยี่สิบปี ทว่าให้ย้อนกลับไปแก้ไข เขาคงไม่ดิ้นรนวาดฝันอยากสร้างครอบครัวสมบูรณ์ เขาคงเลือกมีความสุขกับคนที่รักอย่างต้นกล้า แต่มันคงไม่มีวันนั้น
ถามว่าเสียใจไหมกับสิ่งที่ตนเลือกกระทำ ไม่เลย.. อย่างน้อยก็ยังมีทะเล ทะเลเป็นดั่งตัวเชื่อมสัมพันธ์ที่ดี แม้จะไม่ได้อยู่ในสถานะคนรัก ทว่าเขายังมีตัวแทนที่ดีนั่นคือลูกชายจอมขี้หวง
คาดไม่ถึงกับสถานะยุ่งยากใจระหว่างต้นกล้ากับทะเล แต่เรื่องนั้นเขาจะไม่ยุ่ง ปล่อยให้พ่อกับลูกตกลงกันเอง
"สวัสดีครับ"ทะเลยกมือขึ้นไหว้ เอ่ยทักทายผู้ให้กำเนิดทั้งที่ใจนึกขุ่นเคืองพ่อผู้ให้กำเนิดที่เคยพูดจากวนโทสะ ขุดเรื่องราวในอดีตที่เคยคบหารักใคร่กับพ่อต้นกล้าของเขามาเกทับ ถึงแม้จะเป็นแค่อดีตตั้งแต่เขายังเป็นสายลมเป็นธาตุอากาศ ทว่าก็ไม่นึกยินดีกับมันเท่าไร
คนมันหวง คงไม่มีเหตุผลอะไรมาลบล้างได้
"เรียบร้อยแล้วเรากลับกันเถอะพ่อพรุ่งนี้เลมีเรียนเช้า"ทำหน้าที่ตัวเองเสร็จ ทะเลเลิกสนใจผู้ชายผิวเข้มที่มีทุกอย่างคล้ายคลึงกับตัวเองเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา แววตา รอยยิ้ม คล้ายจนไม่ชอบใจที่ตนเองถอดแบบจากผู้ให้กำเนิดเกือบร้อยเปอร์เซ็น
"อย่าเสียมารยาททะเล "ต้นกล้าดุลูกชายที่ตนเองเลี้ยงดูสั่งสอนมากับมือ ถึงแม้ทิวไผ่จะไม่ได้เลี้ยงดู แต่อีกฝ่ายก็มีบุญคุณทำให้มีทะเล ได้สร้างชีวิตและลมหายใจเป็นมนุษย์ครบสมบูรณ์
"ไม่เป็นไรกล้า"ทิวไผ่ไม่ถือสากับอากัปกิริยาไม่พอใจลูกชาย ในเมื่อตนเองกับลูกชายไม่มีความผูกพันต่อกัน ไม่แปลกที่ทะเลจะไม่ยอมรับหรือทำท่าทางเหินห่างเพราะการพบกันครั้งแรกมันไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไร
"งั้นพี่ไม่รบกวนแล้ว ขอบใจมากที่เป็นธุระให้"ตัดบทเมื่อเห็นว่ารบกวนอีกฝ่ายนาน
"ไว้เจอกันวันรับปริญญานะทะเล "ทิวไผ่บอกกับลูกชาย คนเป็นพ่อมองใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์หรืออยากพูดคุยด้วยนักด้วยความปราบปลื้ม ยิ่งโตยิ่งเหมือนตนเอง ภูมิใจที่ได้เห็นอีกฝ่ายเติบโตเป็นคนดี มีชีวิตที่ดี
แม้จะไม่เคยได้ยินคำเรียก..พ่อ..จากปากลูกชาย ทว่าทิวไผ่ก็ไม่นึกเสียใจเพราะตนเองก็ไม่สมควรถูกเรียกด้วยคำนั้นอยู่แล้ว
"ครับ "
บอกลากันเรียบร้อย ทิวไผ่พาวันจันทร์แยกตัวออกไปอีกทาง เพื่อหาที่พักสำหรับคืนนี้ ค่อยกลับพรุ่งนี้เช้าในเที่ยวบินแรก อีกคนที่ยังดึงสติกลับมาไม่ได้จึงได้แต่เดินตามแรงจับจูงของคนตัวโตโดยไม่ทันได้ร่ำลาหรือขอบคุณคนที่ไปรับจากเรือนจำ แถมยังใจดีคอยอยู่เป็นเพื่อนดูแลหาอาหารให้กินและใจดียกเสื้อผ้าให้อีกตั้งหลายชุด
"ไปโรงแรมที่ไหนก็ได้ไม่ไกลสนามบินครับ "ทิวไผ่บอกคนขับแท็กซี่ที่เลือกใช้บริการ ก่อนจะดันหลังวันจันทร์เข้าไปนั่งก่อนแล้วตนเองจึงตามเข้าไปนั่ง ปิดประตูเรียบร้อยแท็กซี่จึงขับพาไปยังโรงแรมที่ทิวไผ่ต้องการ ไม่ไกลจริงๆ ระยะทางไม่ถึงกิโลเมตรด้วยซ้ำ คนขับแท็กซี่บอกว่าที่นี่มีบริการรถตู้รับส่งไปสนามบินเป็นช่วงเวลา ให้สอบถามรีเซฟชั่นอีกทีเผื่อจะเดินทางกลับมาที่สนามบิน
"หิวมั้ย นายอยากได้อะไรเพิ่มหรือเปล่า? "จัดการเรื่องห้องพักเสร็จทิวไผ่จึงหันมาถามเด็กที่ยืนข้างๆ ที่ยืนเซื่องซึม
เด็กปากดีบุคลิคก้าวร้าว คนที่แสดงให้เห็นตลอดว่าเข้มแข็งและเก่งกาจ วันนี้ช่างดูอ่อนแอบอบบางไม่เหมือนไอ้วันจันทร์ที่เขาเคยรู้จักสักนิด
คนถูกถามเงยหน้ามองหน้าคนอายุมากกว่าก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ ตอนนี้สมองมันมึนตื้อคิดอะไรไม่ออก รู้แค่ว่ามันต้องการแค่ลุง คนเดียว อยากอยู่ใกล้ๆ ไม่อยากห่างไปไหนแล้ว
ทิวไผ่มองเด็กหัวเกรียนพลางส่ายหน้าระอากับอาการเลื่อนลอย ไม่น่าถามให้เสียเวลาเลย ทิวไผ่จึงจัดการพามันเดินไปซื้อของใช้ส่วนตัวและของกินติดไว้นิดหน่อยเผื่อหิว ได้ของเรียบร้อยก็กลับเข้าไปในโรงแรม
"อาบน้ำก่อนไป"ทิวไผ่บอกกับวันจันทร์เมื่อวางของที่ซื้อมาไว้บนโต๊ะ จากนั้นตัวเองจึงออกไปที่ระเบียงด้านนอกจุดบุหรี่สูบ
วันจันทร์ก็ว่าง่ายเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำอย่างที่พี่ทิวบอก ทั้งที่ตนเองเพิ่งอาบน้ำก่อนจะมาสนามบินเอง แต่ก็อยากทำตัวว่าง่ายๆ ให้คนอายุมากกว่าเอ็นดู
วันจันทร์ถอดเสื้อผ้าออกพาดราวเหล็กเพื่ออาบน้ำ ทว่าพอมันหมุนก๊อกเปิดน้ำ ความร้อนจากฝักบัวทำคนที่ไม่เคยใช้บริการโรงแรมกระโดดถอยห่างด้วยความเร็ว ร้อนลวกผิวจนรู้สึกแสบ
ห่าเอ้ย!
อย่าว่าแต่โรงแรมเลยแม้แต่ที่บ้านยังไม่เคยมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ใช้ แล้วอย่างนี้คนที่เพิ่งอาบน้ำร้อนต้องทำยังไงละถึงจะได้อาบน้ำเย็น ขืนฝืนอาบทั้งร้อนๆ มีหวังไข่ได้สุกพอดี
วันจันทร์เมียงมองตรงก็อกน้ำเพื่อสังเกตุ ปุ่มอะไรก็ไม่เห็นมี จนปัญญาคนอย่างมันจริงๆ สุดท้ายคงต้องเรียกพี่ทิวมาช่วยดูให้แล้วล่ะ แต่พอจะเปิดประตูห้องน้ำสายตาดันเหลือบต่ำเห็นความล่อนจ้อนเปลือยเปล่าของตัวเอง
"อ่าว..แต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ก็เคยเห็นกันมาหมดแล้ว ลุงคงไม่ถือ"คิดอย่างนั้นวันจันทร์จึงเปิดประตูห้องน้ำออก ก้าวขาเดินโทงๆ ออกไปนอกระเบียงไม่อายผีอายใครด้วยความมาดมั่น
"ลุงน้ำมันร้อนว่ะ อยากได้น้ำเย็น"บอกคนที่กำลังยืนหันหลังอัดสารนิโคลตินเข้าปอดก่อนจะปล่อยควันสีเทาให้ล่อยลอยไปกลางอากาศด้วยท่าทางสบายอารามณ์
ทิวไผ่ได้ยินแบบนั้นจึงหัวเราะขำผ่านลำคอก่อนจะหันกลับมา
!!!!
"ทำบ้าอะไรของนายวะจันทร์! " ทิวไผ่ตะคอกถามคนที่กล้าเดินเปลือยกายออกมาด้านนอกอย่างหน้าไม่อาย
หุ่นบอบบาง ผิวเนื้อขาวผ่อง ทำลมหายใจคนอย่างเขาลืมจังหวะหายใจ
"ก็ถอดแล้วอ่ะ ผ้าเช็ดตัวก็ไม่มี จะให้ใส่กลับเข้าไปใหม่ก็เสียเวลาปะ.."วันจันทร์พูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแสต่อสายตาที่จับจ้อง ไม่เห็นน่าอายตรงไหนก็เคยเห็นกันมานับครั้งไม่ถ้วน
คนอายุมากกว่าหมดคำจะพูดกับคนไม่รู้จักอาย ทำได้แค่กรอกตามองบนเพื่อหลบเลี่ยงไม่มองสบเรือนร่างเปลือยของเด็กที่ไร้ยางอาย
"ไปดูให้หน่อยน้ำมันร้อน"
เมื่อทนกับความขาวสว่างตาของเด็กบ้านี่ไม่ไหว ทิวไผ่จึงผลักหัวเกรียนของเด็กไร้ยางอายให้พ้นทางแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการปรับน้ำและแนะนำวิธีใช้งาน ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัววางให้มันด้วย
ได้ยินเสียงหัวเราะของมันหัวเราะเยาะก็อยากฟาดแม่งให้ตัวลายสักที เดี๋ยวจะโดนไม่น้อย!
เดี๋ยวเถอะวันจันทร์!
วันจันทร์อาบน้ำแต่งชุดด้วยเสื้อผ้าที่พี่ต้นกล้าให้มา ส่วนพี่ทิวออกมาด้วยชุดคลุมสีขาวของโรงแรมเพราะไม่มีเสื้อผ้ามาด้วย
"ลุง..."วันจันทร์ลืมตามองเพดาน ความไม่คุ้นชินกับห้องหรูที่ดูแปลกตาสำหรับคนที่เคยนอนในลูกกรงเหล็กหนาเป็นผนัง มีฟูกนอนเป็นผ้าผืนบางรองนอน
ความแปลกเปลี่ยนทำให้วันจันทร์ไม่ชิน
"ว่าไง? "ทิวไผ่หันมองเด็กข้างตัวที่นอนนิ่งลืมตาโพรงมองเพดานห้อง เขาเข้าใจที่มันจะไม่คุ้นชินกับสถานที่แปลกเปลี่ยน คนเคยนอนในห้องแคบ มีเหล็กเส้นหนาแข็งแรงตีกั้นเป็นผนังล้อมรอบ สมาชิกกว่าสี่สิบชีวิตนอนเบียดรวมกัน ฟูกผืนบาง ผ้าห่มผืนเล็ก ชีวิตในนั้นเป็นอย่างไรเขารู้ดี เพราะเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว เขาถึงได้เลือกโรงแรมดีๆ ที่นอนหนานุ่ม สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อต้อนรับมัน ให้รางวัลคนที่อดทนชดใช้ความผิดจนหมด
"นอนไม่หลับอ่ะ"บอกเสียงเบาเหมือนกลัวใครได้ยินทั้งที่เรามีกันแค่สองคน
"เดี๋ยวก็ชิน" ทิวไผ่ขยับตัวนอนตะแคงหันไปทางเด็กหนุ่ม ก่อนจะวางมือบนผิวแก้มนุ่มของวันจันทร์ ไล้ปลายนิ้วสัมผัสความนุ่มลื่นของผิวเนื้อ
"ลุง..อยากกอด"เอ่ยปากขอทั้งที่ไม่จำเป็นเลย ปกติวันจันทร์อยากทำอะไรก็ทำตามใจทุกอย่าง แต่ครั้งนี้มันพิเศษกว่า
เป็นครั้งแรกที่วันจันทร์กับทิวไผ่ได้นอนข้างกันในห้องพื้นที่ส่วนตัว
ในเรือนจำพวกเขาไม่ได้อยู่ในเรือนนอนเดียวกัน เมื่อถึงเวลาเข้านอนเราต่างแยกย้ายเข้าห้องใครห้องมัน ไม่มีสิทธิ์ร้องขอใดๆ ทั้งสิ้น เพราะกฎระเบียบที่เคร่งครัดมีผู้คุมคอยตรวจคอยเช็คชื่อทุกวัน ดังนั้นเวลาที่ทั้งคู่จะได้ใช้ร่วมกันจึงเป็นวันหยุดที่เรือนจำมีให้สัปดาห์ละหนึ่งวัน
วันนี้จึงเป็นวันแรกที่ทั้งสองคนได้มีโอกาสนอนเคียงกันโดยไม่มีเงื่อนไข
แขนแกร่งของคนที่ถูกเรียกลุงเปิดรับเด็กที่เอ่ยปากอยากกอด หัวเกรียนวางบนแขนแกร่ง วาดแขนโอบรัดร่างใหญ่แนบชิด
ฟอด!
สูดกลิ่นกายหอมฟุ้งจากสบู่อาบน้ำไม่คุ้นจมูก ถึงแม้กลิ่นที่เคยคุ้นจะเป็นกลิ่นสบู่ก้อนธรรมดา ทว่าวันจันทร์ไม่ได้ใส่ใจนัก ขอแค่คนที่ตนกกกอดดอมดมอยู่นั้นเป็นพี่ทิว ไม่ว่าจะกลิ่นแบบไหนวันจันทร์ก็ชื่นใจทั้งนั้น
ปากและจมูกนุ่มหยุ่น กดจูบ ซุกไซ้ สูดดม ตักตวงให้เต็มปอดจนเต็มอิ่มเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่เคยเหินห่างกัน
กระชับกอดแนบแน่น หลับตาลงซึมซับไออุ่น
"ลุง..."
ฟอด!!!
"ครั้งแรกเลยนะเนี่ย"ช้อนสายตาขึ้นมอง อดไม่ได้ที่จะไม่พูดคำนี้ รู้สึกพิเศษและมีความหมายมากสำหรับวันจันทร์ โอกาสที่จะได้ทำแบบนี้กับคนที่ตนเองรักมีแค่ที่นี่เท่านั้น บนโลกกว้างที่ไม่ใช่กำแพงสูงที่มีกฎระเบียบเคร่งคัด
อิสระภาพมันดีอย่างนี้นี่เอง..
"คิดถึง..." กระชับอ้อมแขนกอดเพื่อยืนยันคำพูด
คนที่ถูกกอด ถูกหอม ถูกลวนลาม ทำเพียงก้มมองหัวเกรียนของมัน ส่ายหน้าอมยิ้มระอาปนเอ็นดูกับความซื่อตรงในความรู้สึก คิดอย่างไรก็บอกอย่างนั้น
เขาก็คิดถึงมัน อาจจะไม่มากเท่าเพราะไม่เคยคาดหวังจะได้กลับมาพบกันอีกด้วยซ้ำ
* * *
อืมม!!
อ่าา!!
อ๊ะ!!
จ๊วบ!!
จุ๊บ!!!
เสียงครวญครางหยาบโลนอบอวลภายในห้องนอนบนเตียงกว้าง ชายสองคนรูปร่างและสีผิวต่างกันอย่างชัดเจนกำลังกอดรัดฟัดจูบอย่างไม่มีใครยอมใคร
คนเด็กกว่าตวัดเรียวขาโอบรัดสะโพกสอบคนร่างใหญ่กำยำผิวสีแทน ยันกายขึ้นคร่อมโน้มตัวลงกดจูบซุกไซ้ท่วนทั่ว มือหยาบใหญ่บีบขยำเค้นคลึงก้อนเนื้อกลมกลึงเต็มแรง
เพี๊ยะ!
เจ้าก้อนเนื้อนุ่มเด้งมันสู้มือพาลให้คนที่ได้สัมผัสมันเขี้ยว ฟาดฝ่ามือลงบนผิวเนื้อแน่น
"อ๊ะ! อืมม ซาดิสเหรอ " คนถูกตีก้นเอาคืนด้วยการกัดหน้าอกแข็งแน่น รอยฟันเป็นหลักฐานได้ว่ากำลังเอาคืน
ลิ้นเล็กตวัดเลียรอยฟันที่ตัวเองเป็นคนสร้าง ช้อนตามองคนใต้ร่างที่แสดงสีหน้าซ่านเสียว บดเบียดสะโพกถูไถกลางกายนูนแข็ง
"อืมม ซี๊ดดด " สูดปากครางเมื่อถูร่องก้นกับแท่งเนื้อร้อนขึ้นรูป เสียววูบตรงช่องท้องจนอยากจะได้มากกว่านั้น
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือใหญ่ฟาดลงก้อนเนื้อแน่นซ้ำรอยเดิม พ่นวาจาร้ายกาจใส่เด็กที่กำลังก่อกวนปีศาจในตัว
"ร่าน"
วันจันทร์วันนี้ดูเก่งกาจช่ำชองผิดกับตอนนั้นที่มีเขาอยู่
"......" มองหน้าเด็กที่กำลังนั่งทับกลางกายตนเอง สมองประมวลความคิดด้านลบต่ออีกฝ่ายอย่างห้ามไม่ได้
ข้างในนั้นมันมั่วโสมมแค่ไหนเขารู้ดี มันจะไปมีอะไรกับใครหรือไม่หลังจากที่ตนเองพ้นโทษออกมาแล้วมันก็เป็นสิทธิ์ของมัน ในเมื่อสถานะระหว่างเขากับมันไม่เคยชัดเจน มันเป็นแค่เด็กในความดูแลของเขา
ทว่า หงุดหงิดขึ้นมาเมื่อนึกว่ามันไปทำตัวร่านแรดแบบนี้กับใครคนอื่น
"ทำหน้างั้นหมายความว่าไง?"เอ่ยปากถามเมื่อถูกสายตาจ้องจับผิดแถมยังโดนว่าร่าน พาลให้ในใจครุกรุ่นชวนหมดอารมณ์
"หึ..." คนใต้ร่างไม่ตอบอะไรกลับไปให้เสียบรรยากาศ ฝ่ามือหยาบใหญ่บีบขยำก้อนก้นทั้งสองของวันจันทร์แรงๆ เป็นการระบายความหงุดหงิดแทน
"เอาให้เคลียร์ดิลุง " มันปัดมือใหญ่ออกจากก้อนเนื้อทั้งสองของตนเองไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้ทำตามใจ ทว่าตัวเองกลับไม่ยอมย้ายตำแหน่งที่นั่ง มันยังนั่งทาบทับจุดอ่อนไหวนั้นอย่างลืมตัว
"ดูร่านขึ้น เก่งขึ้น "อีกฝ่ายว่าด้วยน้ำเสียงเนิบช้าเหมือนไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดตนเอง แต่ทว่าในใจก็อยากรู้เหมือนกันว่าวันจันทร์มีใครไหมที่อยู่ในนั้น
"นายไม่เหมือนวันจันทร์ที่ฉันเคยรู้จักตอนนั้น"จ้องมองสบตาคนที่นั่งทับกลางกายตนเอง วางฝ่ามือรอบรัดเอวบางพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น
"จะพูดอะไรก็พูดมาอย่าอ้อมโลก ก็รู้ว่าไม่ฉลาด"เริ่มโมโหอารมณ์ติดลบเมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาจับผิดเหมือนเป็นนักโทษ
"ตรวจโรคครั้งสุดท้ายเมื่อไร? "ฟังดูเหมือนดูถูกอีกฝ่าย ทว่าเขาคำนึงถึงความปลอดภัยก่อนอันดับแรก ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ แต่เพื่อความสบายใจเขาอยากได้ยินจากปากของมัน
"ไม่ไว้ใจกันแล้วเหรอวะ? .... "สายตาผิดหวังนั้นมองมาให้คนที่ทำลายบรรยากาศรู้สึกผิด
"แต่ไม่เป็นไรเพื่อความสบายใจของพี่..."วันจันทร์ก้มลงมองจ้องสบตา รอยยิ้มฝืดฝืนนั้นพาลให้ใจคนมองโหวงหวิว
"สุขภาพร่างกายผมแข็งแรงปกติดีทุกอย่าง ไม่มีโรคติดต่อพี่สบายใจได้"
"ข้างในนั้นมั่ว... นายรู้ดี ไม่ใช่ฉันรังเกียจนาย แต่เพื่อความสบายใจฉันควรต้องรู้"
เรือนจำเป็นพื้นที่สำหรับให้คนทำผิดคิดทบทวนและปรับตัว แน่นอนว่าไม่สามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้เพราะโดนจำกัดพื้นที่และเสรีภาพ ไม่ว่าจะเดินไปไหนหรือทำอะไรมีแต่เพศเดียวกัน ไม่มีทางที่จะได้เห็นหญิงสาวในนั้น แม้กระทั่งผู้คุมยังต้องเป็นผู้ชาย การปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศมันจึงเกิดขึ้นในหมู่นักโทษชายด้วยกัน มีทั้งเต็มใจขายบริการ โดนบังคับข่มขืน ฟรีเซ็กส์หรือแม้กระทั่งเป็นความสัมพันธ์แบบคนรัก
"พูดความจริงเลยนะ ตั้งแต่ได้พี่ผมก็ไม่เคยยุ่งกับใคร จะเชื่อใจกันหรือเปล่าอันนี้ก็สุดแล้วแต่พี่เลย"
"..."มองหน้าเด็กนั่นพูดด้วยความมั่นใจในตัวเอง อดหวนนึกถึงอดีตความรักที่เคยเจ็บปวดจนไม่กล้าคิดคาดหวังหรือไว้ใจใคร
"โอเค ยอม!"หมดอารมณ์ที่จะไปต่อ โมโหความโง่เง่าฝังใจเจ็บของคนแก่ไม่รู้จักแยกแยะ
ถ้าไม่เอ่ยปากขอโทษที่ดูถูกกันนะ บอกเลยว่ามันไม่ยอม
โมโห!
โกรธ!
น้อยใจ!!
เสียใจ!!
ผิดหวังที่ไม่ไว้ใจกัน!!!
ถ้ามีน้ำยาล้างสมองมาเสนอขายตอนนี้ สาบานเลยว่าจะเก็บเงินซื้อมาให้ไอ้คนจำฝังใจกับความรักแสนเจ็บปวดแถมยังไม่รู้จักแยกแยะอีก จะซื้อมากรอกปากให้ลืมโลกไปเลยแม่ง
"....."
"พูดกันอย่างเปิดอกเลยนะพี่ทิว" เปลี่ยนสรรพนามเรียกทันทีเมื่อรู้สึกไม่สบอารมณ์กับคนแก่ตรงหน้า
วันจันทร์วางมือซ้ายกับอกแกร่ง ขยุ้มขยำกำก้อนเนื้อแน่นด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ส่วนอีกข้างชูนิ้วเคาะหน้าคนที่มีอายุมากกว่าไม่มีความเคารพยำเกรง สายตาสบจ้องจริงจังขึงขังก่อนจะพูดออกมาชัดถ้อยชัดคำให้รู้ว่าตนเองจริงจังแค่ไหน
"ผมไม่ได้เป็นคนมักง่ายจนยอมอ้าขาให้ใครมาเอาง่ายๆ หรอกนะ ไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ได้ชอบตัวผู้ทุกตัว! มันน่าขยะแขยง!! แต่ที่ยอมพี่ก็เพราะมันรักไง! แม่งรักไงถึงยอม!!!"
เสียใจ เสียความรู้สึกกับความคิดลุงแม่ง! อุตส่าห์รักเทิดทูนบูชาไว้ใจแค่มันคนเดียว ทว่าสิ่งที่ได้ตอบแทนคืออะไร? ส้นตีนเถอะ!
วันจันทร์ไม่เคยมีใคร ไม่ยุ่งกับใคร อยากก็ช่วยตัวเองได้ไม่เดือดร้อน ทั้งที่มีหลายคนในนั้นขอดูแลมันต่อจากพี่ทิว แต่มันไม่เอาไม่ต้องการจนโดนข่มขู่ ถูกด่าทอเสียดสี หนักหน่อยก็โดนกระทืบ มันพยายามเลี่ยงหลบอดทนแม้จะเจ็บตัวอยู่บ่อยครั้งที่พวกมีอิทธิพลในนั้นอยากได้เขาไว้เล่นแก้เบื่อ
คนที่เผลอทำลายใจอีกฝ่ายให้เสียความรู้สึก รู้สึกตัวสำนึกได้ ไม่รู้จักแยกแยะไม่พอยังไปดูถูกใจของมันอีก วันจันทร์ไม่เคยเรียกร้องหรือร้องขอให้เขารักมันกลับ มันขอแค่ความเอ็นดูเมตตาให้มัน อย่าไล่ให้มันไปไหน เท่านั้น
เขามันโง่เง่านัก!
เขาไม่ได้รักวันจันทร์ เขาไม่ได้รักใคร หัวใจดวงนี้ไม่กล้ารักใครอีก บทเรียนในอดีตมันตอกย้ำให้ใจเจ็บแล้วจำ ไม่กล้าฝากหัวใจ ไม่กล้าฝากชีวิต ไม่กล้าตั้งความหวัง ไม่อยากคาดหวัง เพราะไม่อยากผิดหวัง ไม่อยากเจ็บปวดกับความรัก กลัวใจตัวเอง กลัวพลาดพลั้งเผลอทำแบบเดิม ไม่อยากกลับเข้าไปในวงจรแบบเดิมๆ
ทิวไผ่ตอนนี้ก็เหมือนคนขี้ขลาด ไม่กล้าเริ่มต้นเพราะกลัวผิดหวัง...
แต่ที่เขาไม่คิดทิ้งวันจันทร์ ทำเหมือนมีใจรักมัน ให้ความหวังไม่ใช่เพราะรัก เพียงแต่นึกสงสารเด็กคนหนึ่งที่ไม่มีใครเอา
เขาอยากดูแล อยากปกป้องคนไร้ที่พึ่งพิง อยากเป็นบ้านให้มันได้พักพิง อยากให้มันได้ออกมาใช้ชีวิตบนโลกใบนี้อย่างมีความสุขและไม่กลับไปอยู่ในวงจรแบบเดิม
"ขอโทษ... "คนอายุมากกว่ารู้ตัวว่าผิดไม่รู้จักแยกแยะแถมยังไปดูถูกใจอีกฝ่ายอีก จึงเอ่ยปากขอโทษ
วันจันทร์ได้ฟังคำขอโทษจากปากคนที่มันบูชาให้เป็นทุกอย่างในชีวิต ใจดวงน้อยก็อ่อนยวบง่ายดาย
"เฮ้อออ แม่ง! "วันจันทร์หมดอารมณ์จะไปต่อจึงขยับตัวลงนอนแผ่บนเตียงนอนข้างอีกฝ่าย
หลับตาลงหายใจเข้าลึกพยายามไล่ความร้อนในหัว ปัดความหงุดหงิดออกไปจากใจไม่อยากเก็บมันไว้ให้รก ไม่ชอบคิดอะไรซับซ้อนเหนื่อยเปล่า แต่พอมาได้ยินไอ้ลุงพูดดูถูกใจกันแม่งหงุดหงิดฉิบหาย
แก่แล้วยังไม่รู้จักแยกแยะ!
รู้แหละว่าลุงมันคนไร้หัวใจ ไม่เปิดใจรับใคร ลุงมันก็เคยบอกอยู่ไม่ได้ความจำเสื่อม
"เห้ย! นอนนิ่งทำซากอะไรวะลุง รีบมาทำให้หายโกรธดิ๊! "เมื่อใจสงบลงวันจันทร์จึงลืมตาหันไปมองคนแก่ข้างกายที่นอนมองตนเองอยู่ แก่แล้วสมองช้าอีกหื้ย! ขัดใจ
"หึหึจะไม่เล่นตัวสักหน่อยเหรอ? "
"หึเพื่ออะไร? ไม่เอาหรอกเสียเวลา"
จบคำพูดของตัวเองวันจันทร์ขยับตัวลุงขึ้นคร่อมร่างคนชักช้าไม่ได้ดั่งใจ จับมือใหญ่ทั้งสองข้างล็อกแน่นหนาราวกับกลัวอีกฝ่ายจะขัดขืน ประสานนิ้วสอดแทรกเข้าหากันยกขึ้นไว้เหนือศีรษะ
จับปล้ำแม่ง!
โน้มตัวแนบริมฝีปากเข้าหาปากอุ่นร้อน ซุกไซ้จูบไปตามแก้มสากและลำคอ กลิ่นหอมจากกายกำยำเย้ายวนชวนให้ใจสั่น
กลิ่นที่โหยหาเรียกร้องให้เข้าหา ไอร้อนแผทั่วอณูขุมขน ลุ่มหลง สูดดมกลิ่นหอมเย้ายวน กดจมูกฝังลึกแนบแน่น คนแก่ใต้ร่างสั่นสะท้านสะดุ้งเมื่อถูกปลุกเร้า
ส่งสายตาลึกซึ้งมีความหมายถึงคนใต้ร่าง...
วันจันทร์มีความสุขเหลือเกินที่ไม่ต้องหลบซ่อนแอบทำเหมือนครั้งที่เราอยู่ในนั้น อิสระมันช่างหอมหวานทำให้หัวใจคนที่เพิ่งได้รับกระดี๊กระด๊าร่าเริงเสียจริง
จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ...
ไล่จูบไปทั่วร่างกายใหญ่ ไม่มีส่วนไหนที่เรียวปากวันจันทร์จะไม่สัมผัสโดน สายตาจ้องมองร่างเปือยเปล่าเหมือนคนโรคจิต คลั่งไคล้หลงไหลคนตรงหน้าแทบจะกลืนกินลงท้องไม่ให้หลงเหลือ
"อ๊า อืมมม " เสียงครางกระเส่าของลุงสร้างความพอใจแก่วันจันทร์ไม่น้อย จึงให้รางวัลด้วยการตวัดลิ้นรัวให้อีกฝ่ายสะท้านหวาม
วันจันทร์รู้สึกสนุกกับการเสียอาการของทิวไผ่ ไม่เคยเลยที่จะได้เห็นภาพแบบนี้ ช่างเป็นบุญตาของเขานัก! เป็นครั้งแรกที่คนอย่างวันจันทร์ได้เป็นฝ่ายเริ่มปลุกเร้าโรมรัน ด้วยสถานที่มีจำกัดทำให้เราสองคนรีบเร่งทำเวลา แต่ก็มีความสุขได้เมื่อคนที่ร่วมรักเป็นคนที่รัก...
ชายหนุ่มร่างเล็กฮึกเหิมเมื่อคนที่เป็นผู้นำตลอดนอนระทวยใต้ร่างของตน อารมณ์พายุทำให้เจ้าตัวกล้าที่จะสร้างรอยรักฝากฝังกับอีกฝ่าย เดี๋ยวดูด เดี๋ยวกัด เดี๋ยวเลีย ตระกลุมตระกลามอย่างคนหิวโหยมานาน
ปากร้อนไล้เล็มชิมไม่เร่งรีบ ความหอมหวานที่ได้ลิ้มรสพาลหัวใจกระอักอิ่มล้นออกมา
"อืมมม "
ทั้งที่เป็นฝ่ายเริ่มแต่กลับรู้สึกซาบซ่านวาบหวามยิ่งกว่าถูกกระทำเสียเอง
หัวใจกระหน่ำระรัวเร็วด้วยความประหม่าและตื่นเต้น เลือดในกายสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง ทุกส่วนร้อนรุ่มจนต้องขยับเบียดเสียดแนบชิด
บดเบียดสะโพกโยกส่ายไปมาบนหน้าท้องแกร่ง ทิวไผ่นอนเกร็งร่างจนแข็งทื่อเมื่อความรู้สึกก่อตัวเต็มที่ มือใหญ่สองข้างบีบรัดมือเล็กจนเห็นสีหน้าอีกฝ่ายขมวดยุ่ง วันจันทร์เอาคืนด้วยการกัดริมฝีปากล่างทว่าคนตัวโตไม่ยอมเจ็บฝ่ายเดียวเอาคืนโดยกัดปากบนจนได้ยินเสียงอึกอักซี๊ดซ้าดเสียวซ่าน แต่ไม่วายถูกเอาคืนโดยการกัดริมฝีปากบน ลิ้นร้อนลากไล้กวาดต้อนเข้ามาในโพรงปาก ตวัดรัวไปมารวดเร็วจนสะท้านไหวเฮือก จนเผลอคลายมือออกจากการเกาะกุม
ผลัดกันนัวผลัดกันเนียจนทุกส่วนร้อนพร่านพร้อมสาดใส่กัน
ฝ่ามือหยาบร้อนล้วงเข้ามาใต้เสื้อ ลูบไล้แผ่นหลังเบาสลับบีบเค้นคลึงให้เด็กร่างเล็กรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เหมือนจะเป็นไข้ เผลอสะดุ้งทุกครั้งเมื่อถูกฝ่ามือร้อนบีบเค้นตามผิวเนื้อ เบียดสะโพกกดย้ำเข้าหาร่างแกร่งอย่างไม่รู้ตัว เพื่อบรรเทาความรู้สึกหวามไหว ความแนบแน่นใกล้ชิดของคนสองคนแทบจะหลอมละลายรวมกัน ยิ่งตอนที่ถูกหน้าหล่อของลุงซุกไซ้ลำคอ ตอหนวดแข็งๆ ถูไถไปมา วันจันทร์ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยขึ้นที่สูงจนแทบจะแตะขอบฟ้า...
รู้สึกดีจังวุ้ย...
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก....
"หึ หึ..."เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังข้างหู แต่วันจันทร์เหนื่อยหอบจนแทบไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไร ได้แต่นอนซุกซบอยู่บนตัว ของลุงที่ไม่แสดงอาการอะไร
...แค่จูบ... ยังหมดพลังไปเกินครึ่ง ถ้าถึงช่วงที่ต้องใช้แรงหนักหน่วง วันจันทร์เอ๊ย! ไม่ตายคาอกลุงหรือวะ!
"เก่งได้เท่านี้? "น้ำเสียงทุ้มนุ่มถามหยอกเย้า นัยน์ตาประกายแวววาวกระแทกหัวใจมันเต็มๆ ถ้าลุงจะมีแรงดึงดูดมันขนาดนี้ ช่วยดูดมันลงท้องไปเลยดีมั้ย ฮือออ ใจบางเหลือเกินแม่เอ้ย
จมูกที่ยังฝังอยู่ซอกคอของลุงได้แต่สูดดมกลิ่นกายลึกซึ้งบ่งบอกถึงตัวตนคนที่มันกอด กลิ่นหอมสะอาดนั้นทำให้ร่างกายวันจันทร์ร้อนแทบมอดไหม้ แค่กลิ่นกายของลุงแก่ๆ ยังทำลายล้างหัวใจมันแทบกระอัก
อานุภาพของความรักช่างน่ากลัวนัก! กลัวใจตัวเองลุ่มหลงคนคนนี้จนหาทางออกไม่เจอจริงๆ แต่ก็เต็มใจอ่ะนะ
เพราะรัก..
ฟอด!
จมูกโด่งของทิวไผ่กดลงที่หัวเกรียนของวันจันทร์ ก่อนจะสูดกลิ่นนั้นเข้าปอดเสียงดังฟอดใหญ่ มันไม่รู้หรอกว่าคนที่เพิ่งสูดกลิ่นหัวเหม็นเน่าของมันทำสีหน้ายังไง ทว่าที่คนถูกกระทำรู้สึกดีจนต้องกระชับกอดคนตัวโตกว่าแน่นๆ เปิดปากถามเสียงออดอ้อน
"ลุง"
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือร้อนฟาดลงที่ก้นของวันจันทร์ไม่แรงนัก แต่กระตุ้นให้อีกฝ่ายยิ่งตื่นตัว ข้างในรุ่มร้อนจนทรมาน กดตัวต่ำบดเบียดสะโพกตรงกลางกายที่เครียดแข็ง ช้อนสายตามอง ยั่วยวน ชวนเชิญ...
เอาสิ มาสิ เข้ามา!
อยากมีผัวจนตัวสั่น!
"อืมมม ซี๊ด..." วันจันทร์แกล้งเปร่งเสียงครวญครางออกมา แหงนหน้าขึ้น หลับตาลง เผยอปากอ้าออกนิดด้วยท่าทางเซ็กซี่เรียกร้อง กดเบียดสะโพกลงตรงกลางกายแข็งแกร่ง โยกไปมาเชื่องช้าเพื่ออุ่นอารมณ์ให้คนใต้ร่าง กดเน้น แอบอิง แนบคลึงตรงส่วนนั้นไปมา
เอาสิ!
รออะไรวะครับ!
วันจันทร์ร่ำร้องอยู่ภายในใจ
อ่อยจนรู้สึกอายแล้ว~
"ลุง อ่าา ~"
"พี่ทิว อื้ออ ~"ครางเรียกชื่อคนใต้ร่างเสียงกระเส่า ก้มลงมองคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ยอดเยี่ยม แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ทิวไผ่หลับตาลง สูดลมหายใจกดลึก พยายามอดกลั้นสุดความสามารถนึกอยากแกล้งไอ้เด็กนี่ อยากเห็นมันคลั่งกระอัก
"ลุง~"
"หึหึ... "มืออุ่นร้อนของทิวไผ่ยกขึ้นโยกที่หัวมันอย่างเอ็นดู ก่อนจะกดปากร้อนชื้นลงทาบทับบดขยี้ปากที่เผยอรออยู่ก่อนแล้ว
สักทีเถอะอ้อยอิ่งอยู่ได้!
ทิวไผ่และวันจันทร์ต่างมอบจูบให้กันอีกครั้ง ลิ้นร้อนของทั้งสองคนตวัดพันเกี่ยวกันยุ่งวุ่นวาย ผลัดกันดึง ผลัดกันคลึง ฝ่ามือปัดป่ายมั่วไปหมด ร่างกายสะท้านวาบราวมีกระแสไฟวิ่งพล่าน กลางกายหวิววูบเมื่อมือใหญ่ลูบไล้บีบเค้นสะโพกหนักหน่วง ก่อนจะเอื้อมมือถอดเสื้อยืดตัวบางของคนที่ยังมีเสื้อผ้าอยู่ครบ ขณะที่ปากและลิ้นของทั้งคู่ยังประกบจูบเกี่ยวพันกันเร่าร้อน...
" ....อืมมมม" เปร่งเสียงครางออกมา เมื่อลุงซุกไซ้ซอกคอ คมฟันครูดเบาๆ เสียวจนเกร็งตัว มืออีกข้างบีบเค้นคลึงหน้าอกมัน เสียวซ่านจนต้องเปร่งเสียงออกมาเพื่อระบายความรู้สึก แต่กลับยิ่งรุนแรงมากขึ้น เมื่อลิ้นร้อนชื้นอ้างับเข้าไปในโพรงปาก ดูดดึง ขบเม้มมันเหมือนหิวกระหายมานาน
คนตัวโตจับคนร่างเล็กกว่าพลิกลงนอนแทนที่ จับเรียวขาทั้งสองข้างอ้าออกก่อนจะเข้ามาแทรกระหว่างกลาง บดเบียดส่วนร้อนเข้ามาแนบชิด โน้มตัวลงทาบทับแนบแน่น กดปากร้อนไล้ไปตามผิวเนื้อขาว
"อื้ออ อ่าส์"แอ่นอกขึ้นรับปากร้อนชื้นที่กำลังลากไล้สัมผัส เสียวซ่านจนต้องยกมือขึ้นกำขยุ้มเส้นผมของคนที่ก้มหน้าอยู่ตรงหน้าอกเพื่อหาหลักยึดเอาไว้ เกร็งหน้าท้องแน่นเมื่อปากร้อนขบเม้มลงมา ปลายเท้าหงิกงอเกร็งจนเจ็บ
"ล ลุง...." ทิวไผ่เงยหน้าขึ้นมอง ยกยิ้มมุมปาก สายตาหยาดเยิ้มเร่าร้อน ส่งผลให้ส่วนนั้นของวันจันทร์ร้อนยิ่งกว่า
"ผม...."
"อะไร? ... ไม่เอา? " ทิวไผ่ถามแต่ปากงับที่ยอดอกคนใต้ร่างพร้อมดูดดุนเลียวนจนอีกฝ่ายต้องแอ่นอกขึ้นเพราะความเสียวซ่านจนแทบปริแตก
ความรู้สึกวาบหวิวที่เกิดจากปลายลิ้นตวัดเลียยอดอกทำให้วันจันทร์เก็บกลั้นไม่ไหว สมองตื้อตัน รับรู้แต่สัมผัสจากปลายลิ้นและมือของลุงที่เคล้นคลึงหนักหน่วง
"อ่าส์... "
"ล ลุง พ พี่ ทิว..." เมื่อไม่รู้จะเรียก จะพูดอะไรออกมา จึงทำได้แต่ครางเรียกชื่อของอีกฝ่ายไปมาซ้ำๆ อย่างนั้น เหมือนอีกคนจะชอบที่มันครางเรียกชื่อ ปากร้อนชื้นถึงได้ขบเม้ม ลากไล้ กลืนกินผิวเนื้อจนเปียกชุ่ม ยิ่งฟันคมขบกัดเบาๆ ในส่วนที่อ่อนไหว วันจันทร์ก็แทบจะระเบิดตัวออกมาตอนนั้น
ทนไม่ไหวจนต้องพลิกตัวขึ้นคร่อมทาบทับอีกฝ่ายแทน เพื่อเป็น...ผู้นำ.....
ค่อยๆ วางมือทั้งสองข้างลงตรงกล้ามเนื้ออกแข็ง สายตาจ้องมองคนตรงหน้าไม่ละหลบไปไหน ลงน้ำหนักบีบคลึงหนักแรงสลับเบาให้คนที่นอนอยู่อ้าปากหายใจหอบหนัก ตัวแข็งเกร็งเมื่อวันจันทร์โน้มตัวลงลากลิ้นเลียตุ่มไตแข็งทั้งสองข้าง ก่อนจะลากลิ้นลงต่ำไปตามรอนกล้ามท้องแกร่ง ไล้ต่ำลงเรื่อยจนถึงขอบชั้นใน อ้าปากงับรูดรั้งมันผ่านสะโพกแกร่ง
"อืมมม อ่าาา จันทร์"ร่างกายใหญ่โตของคนที่นอนอยู่เปลือยเปล่าล่อนจ้อน ส่วนกลางกายขยายใหญ่เต็มตัวดูน่ากลัว แต่วันจันทร์ไม่กลัว
"ลุง อยากได้แบบไหน " วันจันทร์ชูกล่องถุงยางอนามัยสามกล่องที่เลือกซื้อเตรียมเอาไว้สำหรับค่ำคืนที่เร่าร้อน
"ตามใจ"ได้รับคำตอบนั้น วันจันทร์จึงจัดการเลือกเองแกะกล่องหยิบมันออกมาฉีกซองสวมให้อีกฝ่ายเสร็จสรรพ เป็นการบริการโคตรน่าประทับใจ
ทิวไผ่เปลี่ยนให้วันจันทร์มานอนแทนที่ตนเอง ก่อนจะทาบทับร่างลงมาจับเนื้อร้อนที่สวมเครื่องป้องกันเรียบร้อยถูไปมาตรงร่องกลีบทางเข้า ค่อยๆ กดส่วนแข็งร้อนเข้าไป
"โอ๊ย! โอ๊ย! โอ๊ย!! ลุงใจเย็นก่อนมันเจ็บ"คนที่ห่างหายจากมันมานานถึงสองปีร้องลั่นด้วยความเจ็บ แค่ส่วนหัวที่ผลุบเข้ามามันเจ็บเหมือนวันที่พี่ทิวทำครั้งแรกเลยว่ะ
ช่องทางขมิบเต้นตุบๆ ประท้วงเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามา
"จันทร์อย่าเกร็งมันรัด" ทิวไผ่กัดกรามแน่น ทรมานเมื่อถูกวันจันทร์โอบรัดแน่น ข้างในมันอุ่นจนร้อนแรงตอดตุบๆ นั่นอีกทำคนที่นานๆ ได้ทำแทบจะแตกตอนนั้น
"ฮืออ ลุง เจ็บ"
"ห้าวดีนัก อยากได้เร็วๆ ไม่ใช่เหรอแล้วจะร้องทำไม"
"เจ็บว่ะ ซี้ดด อืมมม"
"หายใจเข้าลึกๆ "
"เอาออกก่อน "
"ไม่ "
จบคำของทิวไผ่เจ้าตัวก้มลงประกบปากจูบวันจันทร์ เกี่ยวพันลิ้นเล็กมาดูดดึงเพื่อเบี่ยงเบนความเจ็บ วันจันทร์เมื่อถูกลิ้นร้อนตวัดเกี่ยวพันดูดดึงคลึงบด ความเจ็บก็ค่อยๆ คลายลงจนเกิดความรู้สึกวาบหวามมาแทนที่ เมื่อเห็นอาการผ่อนคลายของไอ้เด็กใจร้อนทิวไผ่จึงเริ่มขยับเอวช้าๆ เพื่อเข้าออกเพื่อทำความคุ้มเคยให้มันและตนเอง
เสียงลมหายใจเฮือกๆ ของวันจันทร์เข้าออกหนักหน่วง ความเจ็บปนเสียวซ่านทำมันสะท้านสะเทือนไหวปนเปไปหมด
เจ็บแต่แม่งโคตรรู้สึกดี...
"อ่าา ลุง ซี้ดด "ครางเสียงต่ำเมื่อลุงกดย้ำตรงจุด
ทิวไผ่เห็นสีหน้าสุขสมของวันจันทร์เจ้าตัวจึงกดสะโพกลงตรงนั้นเน้นๆ หนักๆ ตอกเข้าให้ลึกสุดจนวันจันทร์ครางฮือออกมาดังลั่น มือเกร็งจิกกับแขนแกร่ง ปลายเท้าหงิกงอ แหงนหน้าหลับตาสูดปาก ร่างกายโยกไหวไปตามแรงกระแทกแรงอัดตอกของคนตัวโต
หยาดเหงื่อไหลโทรมกายหยดติ๋งๆ เนื้อตัวมันเลื่อมของทั้งคู่ทว่าก็ไม่ได้มีใครใส่ใจจะเช็ดหรือสนใจ
กว่าพายุอารมณ์จะสงบลงก็เล่นเอาเด็กปากดีที่ตอนแรกเรียกร้องต้องการออกนอกหน้าสลบคาอกคนที่มันเรียกว่าลุง เดือดร้อนให้ต้องคอยดูแลเช็ดเนื้อตัวให้อีก
เวรจริงๆ!
คนที่นานๆ ครั้งจะได้ปลดปล่อยคนสุขสม คนที่มีภาพลักษณ์นิ่งขลึมได้แสดงความเป็นตัวเองที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็น ณ วันนี้กลับรู้สึกถึงความเบิกบานข้างใน ถึงใจทิวไผ่จะบอกว่าไม่รักวันจันทร์ ไม่ต้องการให้ใครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทว่าคนที่อีกฝ่ายบอกไม่รักกลับทำให้รู้สึกดีอย่างน่าประหลาด
กดจูบหัวไหล่เนียนของมันไปทีหนึ่ง ก่อนจะขยับตัวลงนอนข้างๆ ด้วยความเหนื่อยล้าทางร่างกาย แต่ใจนั้นมีพลังอย่างล้นเหลือ..
"อยู่กันแบบนี้ตลอดไปนะจันทร์ "
ฟอด!!
"อือ" เสียงครางอืออาพยักหน้าหงึกหงักตอบรับคำพูดนี่คือ?
"นึกว่าสลบไปแล้วเสียอีก หึหึ"
"เพิ่งรู้สึกตัวเถอะ"เสียงแหบเบาแต่ทิวไผ่ได้ยินชัดเจน
"ฉันอาจจะเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่ฉันก็อยากมีจันทร์อย่างนี้ตลอดไป..."
"อยู่กับฉัน อย่าไปไหน ได้มั้ย.."
วันจันทร์ช้อนสายตาปรือขึ้นมองคนที่ตนเองเรียกว่าลุง จิ้มนิ้วชี้ลงบนอกข้างซ้ายคนที่มันฝากหัวใจไว้
"ถึงพี่จะไม่ขอให้อยู่ ผมก็ไม่คิดจะไปไหนอยู่แล้ว เพราะหัวใจผมอยู่ตรงนี้... ไม่รักไม่ว่า แต่อย่ามีใครก็พอ ขอแค่ใจดี เอ็นดูแค่มันคนเดียว เท่านี้คนอย่างวันจันทร์ก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว..."
"....."
"หัวใจของลุงแดกไม่ได้ ไม่คิดอยากได้หรอก... เก็บไว้เถอะ "
"หึหึ เด็กเวร"
อะไรที่ทำแล้ว “มีความสุข” ไม่เดือดร้อนตัวเอง และผู้อื่นก็ทำไปเถอะ วันจันทร์กล่าว...
..จบ..
ขอฝากกดหัวใจ กดติดตาม คอมเม้นต์ด้วยนะคะ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Asher2398 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Asher2398
ความคิดเห็น