ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ปิดพรีฯ] Badboy Lover ฉีกกฎรักนายจอมโหด

    ลำดับตอนที่ #54 : REDD : SAID9 {100 %}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.03K
      10
      14 ก.ค. 60

    นิยายมีการอัพเดทซ้ำ เพื่อประชาสัมพันธ์
    ********************************

     

     
     

    51

     

    REDD : SAID9

     

         “หมอผมเป็นไรวะ?”

         ผมถามหมอที่ดูหน้าตาซีเรียสยิ่งกว่าผมซะอีก หลายวันมานี่ตั้งแต่ที่เลเน่ออกไปอยู่กับเอมม่า ผมแม่งก็ปวดหัวมาตลอด ปวดถึงขั้นภาพทุกอย่างเบลอไปหมด

         เลเน่ไปอยู่กับเอมม่าได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว และผมก็ไม่ได้ติดต่อเธอกลับไป เพราะตั้งแต่ที่เธอไป อาการปวดหัวของผมก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น จนทนไม่ไหวต้องมาหาหมอนี่แหละ

         เวลาที่คิดถึงภาพเธอ ผมก็มักจะปวดหัวแรงๆทุกที และภาพใบหน้าของเธอก็เหมือนกับจะเลือนหายไป เหมือนกับว่ามันไม่ต้องการให้ผมจดจำ

         “คุณป่วยด้วยโรคชนิดหนึ่งครับ” หมอที่เงียบไปนานก็โพล่งขึ้นมา น้ำเสียงของหมอดูหนักแน่น เหมือนต้องการจะบอกว่านี่คือความจริง ไม่ใช่เรื่องโกหก

         “...”

         “โรคนี้เป็นโรคที่หายากมาก หนึ่งในล้านเท่านั้นที่จะเป็น”

         ชิบหายเลยว่ะกู!

        ทำไมต้องมาเกิดขึ้นกับผมด้วยวะ ถ้าบอกว่าป่วย อาการของผมก็ไม่ได้ถึงกับเข้าขั้นต้องนอนโรงพยาบาลเลยนะ

         เพียงแค่ปวดหัวมากเท่านั้นเวลาที่นึกถึงเลเน่ แม่งเรียกว่าป่วยได้ไง ผมนี่มันเกิดมาโชคร้ายหรือเปล่าวะ ไม่ว่าจะรักใครแม่งก็ผิดหวังไปหมด ไหนจะมาเรื่องโรคบ้าบออะไรนี่อีก

         เชี่ยแล้ว!

         “เรียกว่าโรค remember ill*                                 

         “...”

         “มันเป็นโรคที่รักษาไม่หาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีรักษา”

         หมอเริ่มอธิบายโรคที่ผมเป็นอย่างช้าๆ เพื่อที่จะให้ผมเข้าใจและเริ่มลงมือปฏิบัติให้ถูกต้อง

         “อาการของโรคมันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีของมันก็คือ สมองของคุณจะปิดรับความทรงจำที่คุณไม่ต้องการที่จะจำ และเมื่อไหร่ที่คุณพร้อมที่จะยอมรับมันมันจะเปิดผนึกออกมาเอง ข้อเสียของมันคือการที่คุณจะจำคนคนหนึ่งไม่ได้”

         “...”

         “คนที่ทำให้คุณเจ็บปวด สมองจะสั่งการปิดรับภาพบุคคลนั้น และลบทิ้งให้อัตโนมัติ คุณจะไม่สามารถจดจำเค้าได้เลย”

         “แสดงว่าผมจะจำคนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ไม่ได้?”

         ผมถามหมอด้วยหัวใจที่เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง แม่งโรคเชี่ยไรวะ ไม่ต้องการเว้ย มีแต่ข้อเสียทั้งนั้น ข้อดียังหาไม่เห็นเจอเลยว่ะ

         “ครับ”

         “แม่งเอ้ย!” ผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินออกจากห้องตรวจมาทันที ผมจะจำเลเน่ไม่ได้งั้นเหรอ ตลกชิบหาย ทีอยากลืมแม่งเสือกจำ ทีอย่างจะจดจำแม่งเสือกให้กูลืม

         ชีวิตบัดซบสิ้นดี

         จะมีใครเป็นเหมือนผมป่ะวะ ผมไม่ต้องการแบบนี้ ผมต้องการที่จะจดจำภาพเธอเอาไว้ เพื่อเป็นความทรงจำที่ดี

         แต่จะมาให้ผมลืมเธอแม่งไม่ง่ายไปหน่อยเหรอวะ ซวยชิบหาย ผมจัดการขับรถไปหาเลเน่ที่บ้านเอมม่าอย่างรีบร้อนเพื่อที่จะบอกเรื่องนี้กับใครคนหนึ่งให้เธอได้ช่วยผม

         “เอมม่า”

         ใช่ คนที่จะช่วยผมได้คือเอมม่าเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะเลเน่รักและเคารพเธอมาก

         เรื่องที่ผ่านมาทุกอย่างผมก็ได้เธอคนนี้ช่วยด้วย เพราะถ้าไม่ได้เธอป่านนี้เลเน่คงหนีเตลิดเปิดเปิงไปไหนแล้วไม่รู้ ร่างบางช้อนตามองผมนิดหน่อยก่อนจะวางหนังสือพิมพ์ที่ตัวเองอ่านไว้บนโต๊ะ

         “มีอะไรคะ”

         “มีเรื่องอยากให้ช่วย”

         ผมเริ่มอธิบายสิ่งที่ตัวเองเป็นให้กับเอมมาฟัง เธอดูตกใจมากเมื่อได้ฟังเรื่องทั้งหมดจนจบ ไม่นานน้ำตาของเธอก็ไหลลงมาอาบสองแก้ม

         “ปะ...เป็นเรื่องจริงเหรอ?”

         “ผมคงไม่เอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่น”

         ผมแม่งโคตรซีเรียสเลยว่ะ เพราะถ้าเอมม่าไม่ยอมช่วยผม ผมก็จะไม่มีทางได้เจอกับเลเน่แน่

         “ผมอยากเจอกับเลเน่ ช่วยได้ไหม”

         “แต่ว่า...” เอมม่าดูมีท่าทางลำบากใจมาก เพราะเธอก็คงไม่อยากเห็นเลเน่ต้องเสียใจเพราะผมอีก

         “ผมรักเลเน่ ผมไม่ต้องการที่จะเสียเธอไป คุณช่วยผมมาขนาดนี้แล้ว ช่วยอีกหน่อยไม่ได้ไง?”

         ผมไม่เคยต้องมานั่งขอร้องใครแบบนี้เลยนะ แต่ถ้าเป็นเรื่องของเลเน่ต่อให้ผมต้องคุกเข่าผมก็ยอม ผมไม่สามารถสูญเสียผู้หญิงคนนี้ได้ ผมต้องการแค่เธอคนเดียวเท่านั้น

         “ขอร้อง”

         “ตกลงค่ะ ฉันเองก็ไม่อยากเห็นเลเน่ต้องร้องไห้ทุกคืนเหมือนกัน” เอมม่ายิ้มบางให้ “น้องสาวฉันก็มีสภาพไม่ต่างจากคุณ เธอต้องนอนร้องไห้ทุกคืน ฝืนยิ้มแสดงความเข้มแข็งทั้งที่ในใจกลับยิ้มไม่ออก เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้”

         ผมรู้ว่าเลเน่รักผม เพราะถ้าเธอไม่รักผมเธอคงไม่ยอมให้อภัยในสิ่งที่ผมทำกับเธอหรอก

         เธอเป็นคนที่มีจิตใจดี

         เธอเป็นอ่อนโยน

         เธอเป็นเหมือนสายน้ำที่หล่อเลี้ยงจิตใจผม ผมจะต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เธอคืนกลับมา แม้ว่าต้องยากเย็นแค่ไหนผมก็จะทำ

         อย่างที่บอกเลเน่คือสิ่งที่ผมสูญเสียไปไม่ได้

     

          หลังจากวันนั้นผมก็ได้มาอยู่กับเธอในวันนี้ เลเน่ยอมทำตามที่ผมบอกทุกอย่าง เธอยอมแม้กระทั่งเสียตัวให้กับผมอีกรอบ

         ผมไปส่งเธอที่บ้านก่อนจะตรงดิ่งไปที่ผับของไอ้เวิรด์ ก็เห็นว่ามีเวลล์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว มันนี่ไวกว่าผมอีกว่ะ

         “มาได้สักทีนะเว้ย” เวิรด์เริ่มออกปากบ่นทันทีเมื่อเห็นว่าผมทรุดนั่งลงข้างมัน “แม่งกินจนเห็นแกมีสามหัว”

         “เรื่องเลเน่เป็นไงบ้างวะ” ไอ้เวลล์ถามขึ้นมาทันที มันไม่สนใจไอ้เวิรด์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้แม่งจะเมาเละแค่ไหน “เธอเชื่อแกป่ะ?”

         “ไม่ได้บอก”

         ผมพูดแค่นั้นก่อนจะยกเหล้าเพียวๆกระดกเข้าปากทันที ตอนนี้มันไม่ได้รู้สึกว่าเหล้าแม่งขมเลย ต่อให้กินห่าไรก็ไม่รู้สึกทั้งนั้น

         เพราะว่าตอนนี้ผมคิดมากแต่กับเรื่องของเลเน่เท่านั้น และยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ผมแม่งก็ยิ่งปวดหัวมากขึ้นเท่านั้น

         และภาพของเลเน่ก็เลือนรางลงไปทุกที

         “ทำไมไม่บอก จะปล่อยให้คาราคาซังแบบนี้ไงวะ” ผมรู้ว่าไอ้เวลล์มันเป็นห่วงผม ไม่มีครั้งไหนเลยที่มันไม่ช่วยผมสักครั้ง

         เรื่องทุกอย่างที่เลเน่รู้ความจริงทั้งหมด คนที่อยู่เบื้องหลังก็เป็นผมเอง ผมบอกให้ไอ้เวลล์มันตามติดดูว่าเธอไปไหนมาไหน

         เพราะผมกลัวว่าเธออาจคิดสั้นฆ่าตัวตายอีกก็ได้ จนได้มารู้ว่าเธอติดต่อกับเอมม่า อีกอย่างเรื่องที่เธอรู้ว่าตัวเองเป็นน้องสาวของเอมม่า ผมก็เป็นคนบอกให้ไอ้เวลล์เป็นคนบอกเธอเอง

         และเรื่องที่เอมม่ายอมสารภาพความจริงกับเธอ ผมแม่งก็อยู่เบื้องหลังเหมือนกัน ผมบอกให้เอมม่าบอกความจริงกับเธอทุกอย่าง ผมรู้แผนของเธอตั้งแต่ตอนที่เธอเข้าโรงพยาบาลแล้ว และนี่ก็เป็นการซ้อนแผนของผมเอง

         ผมรู้ตั้งนานแล้วว่าเลเน่ไม่ใช่เรลานี เพราะผมเห็นบัตรประชาชนของเธอที่ซ่อนเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้า

         เธอชื่อเรลินีน้องสาวฝาแฝดของเรลานีนั่นเอง

         แต่เข้าใจป่ะว่าเวลาเห็นหน้าเธอผมแม่งก็นึกถึงแต่เรลานีขึ้นมา ผมไม่ได้ตั้งใจจะแก้แค้นเธอหรอกนะ

         ผมรู้จักเลเน่มาตั้งนานแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะจำผมไม่ได้ก็ตาม แต่ดวงตาสดใสของเธอยังตราตรึงอยู่ในใจของผมเสมอ

         เธอเป็นผู้หญิงของผม

         “ไม่อยากเห็นแก่ตัวว่ะ”

         เรื่องของเรื่องที่ผมไม่ได้บอกเลเน่ก็เพราะว่าผมไม่อยากให้เธอต้องคิดมาก ทีแรกก็กะว่าจะบอก แต่พอบอกว่าผมป่วยเธอก็ดูเหมือนตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

         ผมก็เลยเลือกที่จะไม่บอกดีกว่า กลัวว่าเธอจะรับไม่ได้ขึ้นมา ไม่อยากเห็นเธอเสียใจอีกแล้ว

         แต่ผมรู้ว่ายังไงเอมม่าก็ต้องบอกเรื่องนี้กับเธออยู่ดี

         “แม่ง!สิ่งที่แกทำอยู่เขาเรียกว่าเห็นแกตัวรู้ป่ะ” ไอ้เวลล์มันลุกขึ้นมาคว้าคอเสื้อผม “ไม่คิดบ้างไงว่าเลเน่จะเจ็บปวดมากแค่ไหนถ้ารู้ว่าแกจำเธอไม่ได้ คิดอะไรเป็นเด็กไปได้ว่ะเรดด์ อย่างน้อยให้เธอได้รับรู้ยังดีกว่าที่เธอไม่รู้ห่าไรเลยนะเว้ย”

         “เออเห็นด้วยกับไอ้เวลล์” ไอ้เวิรด์ที่เงียบฟังอยู่นานก็โพล่งขึ้นมา “หมอบอกเองไม่ใช่ไงว่าวิธีรักษามันมีแต่ต้องใช้ระยะเวลานาน แกลองขอร้องเลเน่ให้ช่วยแกดิวะ”

         “ช่วยไร?”

         “ถ้าเกิดว่าเลเน่กลับมาอยู่กับแกที่คอนโด บางทีอาการของแกอาจทุเลาลงก็ได้นะเว้ย ภาพของเธออาจจะหวนกลับมาอีกครั้ง”

         “คิดงั้น?”

         ผมเริ่มคล้อยตามคำพูดของไอ้เวิรด์ ฟังดูก็มีเหตุผลเหมือนกัน เพราะตั้งแต่ที่เธอจากไปผมแม่งก็ปวดหัวตลอดเวลาที่นึกถึงเธอ

         เพราะงั้นวิธีนี้มันอาจได้ผลก็ได้...

         ลองดูหน่อยก็ไม่เสียหายว่ะ 

     

         “เออดิ! เลเน่คงไม่ใจร้ายพอที่จะไม่ช่วยแกหรอกว่ะ”

         ไอ้เวิรด์เดินมาตบบ่าผมสองสามทีก่อนจะเดินออกไปจากห้องเพื่อไปดูลูกน้องข้างนอก

         “ไม่ไปหาเมียแกไง?”

         ผมหันไปถามไอ้เวลล์ที่นั่งกระดกเหล้าเข้าปากไม่พูดอะไร มันตวัดหางตามองผมเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ การกระทำของมันแบบนี้ไม่บอกก็รู้ว่าทะเลาะกันมาชัวร์

         “เลิกแล้วดิ?”

         “เลิกเชี่ยไรวะ” มันสวนกลับมาทันทีอย่างไม่พอใจ “แม่งเล่นแช่งกันเลย”

         ผมก็แค่ยักไหล่กลับไป เอาเข้าจริงแล้วพวกเราสามคนก็เหมือนว่ามีจุดอ่อนกันคนล่ะอย่าง

         แต่ที่เหมือนกันก็คงจะเป็นผู้หญิง

         ไอ้เวลล์มันไม่ใช่คนที่จะมานั่งหงอยแบบนี้หรอกนะ โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง มันหล่อจนผู้หญิงในเมืองนี้อยากได้มันหมดนั่นล่ะ

         ส่วนไอ้เวิรด์ผมไม่เคยเห็นมันไปตามตื๊อผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย มันเป็นพวกไม่ค่อยสนใจเพศตรงข้าม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันชอบเพศเดียวกัน มันเป็นคนค่อนข้างหัวร้อนเหมือนผม แต่รุนแรงกว่า

         ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้แม่งก็ไล่ตะเพิดไปหมด มันบอกว่าถ้าไม่เข้าสเป็คจริงๆแม่งก็ไม่เอาเป็นแม่ของลูก ผมก็คิดเหมือนมันนั่นแหละ

         “ยัยนั่นแม่งมาขอเลิกฉันว่ะ”

         ไอ้เวลล์เริ่มพูดระบายเรื่องตัวเองให้ผมฟัง ปกติแล้วมันจะเป็นคนที่เก็บอารมณ์เก่งที่สุดในกลุ่มแล้วนะ

         “เออสมควร” ผมตอกกลับไป มันมีแต่ทิ้งคนเดียวลองถูกทิ้งดูบ้างจะได้รู้สึก

         “ไม่ตลกว่ะเรดด์ มาขอเลิกด้วยเหตุผลงี่เง่าแม่งโคตรไม่เอาไหนเลย”

         “แคร์ทำไมวะแค่ผู้หญิงป่ะ แกก็ไปหาเอาใหม่ดิ”

         “เธอแม่งมีคนเดียวในโลกนี้เว้ย”

         ก็จริงของมัน เพราะถ้าไม่ใช่เลเน่ผมแม่งก็ไม่เอาใครทั้งนั้น มันก็คงคิดเหมือนผมว่าถ้าไม่ใช่เธอคนนั้นแม่งก็ไม่เอา

         ไม่คิดด้วยซ้ำว่าผมจะมานั่งเล่าเรื่องตัวเองให้คนอื่นฟัง แต่ก่อนมีแต่ไอ้เวิรด์เท่านั้นที่มานั่งระบายอารมณ์ใส่พวกผม

         เพราะมันโดนเมียตัวเองบอกเลิกและหนีไปอยู่กับคนใหม่ กว่าจะทำใจได้ และเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาขนาดนี้ก็ใช้เวลาหลายปีเหมือนกัน

     

         ผมกลับเข้ามาในห้องเกือบเช้าก่อนจะทิ้งตัวลงนอนที่เตียงอย่างหมดแรง ตั้งแต่ที่เลเน่ไม่อยู่ผมก็นอนเกือบเช้าทุกวัน

         เพราะต่อให้นอนเร็วแม่งก็นอนไม่หลับอยู่ดี ผมไม่ชินกลับการที่ไม่มีเธออยู่ข้างๆแบบนี้ เตียงแม่งก็กว้างห่าไรไม่รู้ ผมบ่นอยู่ในใจได้ไม่นานก็ผล็อยหลับไป

         มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เหมือนมีอะไรบางอย่างมากระทบเข้าที่หน้าเบาๆ พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่ามีใครคนหนึ่งมานอนอยู่ใกล้ๆผม

         เธอกอดผมเอาไว้หลวมๆแล้วนอนหลับตาพริ้ม สิ่งที่มันกระทบเข้าหน้าผมก็คือลมหายใจอุ่นร้อนของเธอน่ะเอง

         “เลเน่?”

     

         เธอจริงๆด้วยว่ะ เธอมานอนอยู่กับผม ผมแม่งไม่ได้ฝันไปใช่ป่ะ หรือว่านี่อาจจะเป็นภาพครั้งสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกัน

         ช่างแม่งเหอะ!

         ตอนนี้เธออยู่กับผมก็ดีแล้ว ต่อให้มันจะเป็นแค่ความฝันก็ตาม ผมก็มีความสุขกับมัน

         เพราะถ้าเป็นความฝันที่ทำให้ผมมีความสุขได้ผมก็ไม่อยากตื่นมาจากความฝันมาพบกับความเป็นจริง ที่ว่าผมจะจำเธอไม่ได้อีก

         ผมเกลี่ยแก้มเธอเล่นเบาๆ ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากของเธอ คนตัวเล็กค่อยๆลืมตาขึ้นมามองผม

         เธอส่งยิ้มบางมาให้พร้อมกับกระพริบปริบๆ เห็นแล้วก็อดที่จะหอมแก้มเธอไม่ได้ เลเน่เป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มผมก่อน

         การกระทำของเธอทำให้ผมตัวแข็งทื่อ เพราะไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้กับผม

         เออก็มันเป็นความฝันป่ะวะ

         “ไม่โกรธใช่ไหม?” เลเน่เอ่ยถามผม ใบหน้าของเธอยังคงรอยยิ้มหวานเอาไว้ให้ได้เห็น “ฉันใช้กุญแจสำรองไขเข้ามา”

         ทันทีที่คนตัวเล็กพูดจบผมก็ลุกขึ้นนั่งทันที มันเป็นความฝันหรือความจริงวะ แม่งเหมือนความจริงชิบหาย

         เลเน่ลุกขึ้นนั่งตามผมเธอเอียงหน้ามองผมเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมากับท่าทางที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้

         “หัวเราะไร?”

         ผมดึงเธอเข้ามากอดเอาไว้แนบอก ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือความฝัน ตอนนี้ผมมีความสุขกับมันก็พอแล้ว

         “นายไม่ได้ฝัน ฉันกลับมาอยู่กับนาย” เลเน่ลูบแก้มผมเบาๆ “นายจะลืมฉันไม่ได้นะเรดด์”

         “...”

         “อย่าทิ้งฉันไปเหมือนอย่างที่เคยทำนะ...ฮึก” เลเน่ร้องไห้ออกมา

         เธอซบอยู่กับหน้าอกของผมตัวเธอสั่นสะท้านไปหมด ทำให้ผมต้องกอดเธอเอาไว้แน่นเพื่อที่จะยืนยันว่าผมจะไม่ทิ้งเธอไปไหนเด็ดขาด

         “ไม่ทิ้ง” ผมลูบผมเธอเพื่อปลอบโยน เวลาที่เห็นเธอเศร้าผมแม่งก็เศร้าไปด้วย “ไม่เคยคิดจะลืม”

         “...ฮึก”

         “นั่นมันเป็นแค่โรค ถ้าฉันไม่คิดที่จะลืมเธอซะอย่างแม่งก็ไม่ลืม”

         “จะ...จริงนะ” เลเน่เงยหน้าขึ้นมามองผม ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ผมใช้นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาเธอออกให้อย่างเบามือ “อย่าลืมนะ นะ...นายต้องจำฉันให้ได้นะ”

         “ครับ”

         เลเน่ยื่นหน้าเข้ามาจูบปากผม เธอค้างเอาไว้อยู่นานก่อนจะผละออก มันก็เป็นแค่การแตะธรรมดาเท่านั้นเหมือนอย่างที่เธอเคยทำ

         เลเน่ขี้อายจะตายไป ถ้าเธอไม่รักผมเธอไม่ยอมทำแบบนี้แน่ บางทีเธออาจไม่กลับมาหาผมอีกเลยก็ได้

         แต่การที่เธอกลับมานั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเธอยังรักผมอยู่ เธอไม่ต้องการให้ผมลืมเธอเหมือนอย่างที่เธอเคยพูดเอาไว้จริงๆ

         “เรียกพี่เรดด์ดิ” ผมดันตัวเลเน่ให้ขึ้นนั่งบนตักผม ซึ่งเธอก็ยอมอย่างว่าง่าย เธอไม่ได้อิดอ่อนอะไรเลย นั่นมันยิ่งทำให้ผมหลงเธอมากกว่าเดิมซะอีก

         “พะ...พี่เรดด์”

     

         คนตัวเล็กก้มหน้ามองพื้น ผมเห็นว่าหน้าเธอแดงจัดลามไปถึงต้นคอ เออก็ต้องเขินเป็นธรรมดาป่ะคนไม่เคยเรียก ตอนที่ผมเรียกเธอว่าเน่เฉยๆแม่งยังอายเลยว่ะ

         “รักพี่เรดด์ป่ะ?”

         ผมก้มกระซิบถามเธอที่ข้างหู พร้อมกับขบเม้มเบาๆที่ใบหูของเธอ ทำให้เธอสะดุ้งนิดหน่อยแต่ก็ยอมตอบกลับมาเหมือนอยากเอาใจผม

         “รัก”

         ครั้งนี้เลเน่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตากับผม เธอไม่ได้หลบตาไปไหน เหมือนต้องการที่จะให้ผมอ่านเธอออกจากใบหน้า ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าเธอรักผม ผมไม่จำเป็นต้องอ่านมันก็ได้

         “เลเน่รักเรดด์นะ”

         เชี่ย!แม่งเล่นอ่อยอีกแล้วว่ะ

         เลเน่หันกลับมาโอบท้ายทอยผมเอาไว้ จะก่อนเอาหน้าผากตัวเองมาชนกับหน้าผากผม ทำให้ผมมองเห็นเงาตัวเองอยู่นัยน์ตาของเธออย่างชัดเจน

         ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เลเน่คิดอะไรอยู่ บอกเลยว่าผมไม่สามารถอ่านเธอออกได้เหมือนอย่างเดิมแล้ว อาจจะเป็นผลมาจากโรคที่เป็นตอนนี้ก็ได้ล่ะมั้ง

         ภาพบางเหตุการณ์ที่เราสองคนเคยทำร่วมกันผมก็จำไม่ค่อยจะได้แล้ว จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยพาเธอไปที่ไหนบ้าง นอกจากจะมีคนมาพูดแล้วจะจำได้ได้เองโดยอัตโนมัติ

         “เรดด์อย่าทิ้งเลเน่นะ”

         เลเน่พูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา ไม่คิดเลยว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้ เธอคงไม่อยากให้ผมลืมเธอจริงๆสินะ ผมโอบเอวเธอกลับทำให้ตัวของเราแนบชิดกันมากกว่าเดิม

         “ที่ผ่านเคยทิ้งป่ะ?”

         “หลายครั้งเลยด้วย” คนตัวเล็กผละออกจากผมก่อนจะย่นจมูกใส่ อย่างที่บอก ว่าบางเหตุการณ์ผมก็จำไม่ได้ว่าเคยทำอะไรกับเธอเอาไว้บ้าง

         “ครั้งนี้ไม่ทิ้ง”

         ผมไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไงให้เธอสบายใจขึ้นนอกจากคำนี้ ผมไม่สามารถห้ามตัวเองได้หรอกนะว่าวันไหนจะลืมเธอ

         แต่ตอนนี้ผมยังจำเธอได้ ผมจะใช้ช่วงเวลาสุดท้ายอยู่กับเธอให้นานที่สุด บางทีการได้อยู่กับคนที่เรารักอาจทำให้โรคที่เป็นอยู่ทุเลาลงบ้างก็ได้

         “เน่”

         “ทะ...ทำไมต้องเรียกเน่ด้วย ไม่เห็นน่ารักเลย”

         “ไม่อยากเรียกซ้ำเหมือนคนอื่นว่ะ” ผมหอมแก้มเธอหนักๆ “พรุ่งนี้ไปเที่ยวทะเลกัน”

         “นายจำได้ด้วยเหรอ?”

         เหมือนเลเน่จะตกใจมากที่รู้ว่าผมยังจำเรื่องนี้ได้ ที่จริงแล้วผมก็แทบจะจำได้หมดทุกเรื่องนั่นแหละ

         เพียงแต่บางเรื่องจะต้องมีคนมากระตุ้นมันก็เท่านั้น

         “ก็บอกแล้วไงว่าเรื่องของเธอฉันไม่ทิ้ง”

         ผมโกหก

         เรื่องของเธอเป็นเรื่องที่มันกำลังจะจางหายไปจากความทรงจำของผม

         รู้ป่ะ?

         ผมแม่งกลัวการนอนมาก กลัวว่าถ้านอนหลับไปแล้วตื่นขึ้นมาจะจำผู้หญิงที่ผมรักไม่ได้

         มีบางทีเหมือนกันที่ตื่นขึ้นมาแล้วเรื่องราวของเลเน่หายไปหมด เหมือนว่าเธอไม่ได้มาอยู่กับผมที่ห้อง แต่พอสักพักมันก็กลับเข้ามาในหัวเหมือนเดิม

         แม่งเป็นโรคที่วิปริตมากว่ะ โรคเชี่ยไรมาเป็นแบบนี้

         เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน

     

         “ถามไรหน่อยดิ” ผมอยากรู้คำตอบจากเธอเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น “ถ้าวันนึงฉันจำไม่ได้ว่าเธอเป็นใคร เธอจะทำยังไง”

         “...” เลเน่เงียบ

         เธอมองหน้าผมอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันไปทางอื่น เหมือนว่าไม่ต้องการให้ผมเห็นสีหน้าของเธอตอนนี้ว่ามันจะออกมาเจ็บปวดมากแค่ไหน

         ผมรู้ว่าคนที่จำได้จะต้องเจ็บปวด...โดยเฉพาะเธอ

         “ไม่ต้องตอบก็ได้ ไม่อยากทำให้ไม่สบายใจ”

         “ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายจำฉันให้ได้” เลเน่หันกลับมาพูดกับผม น้ำเสียงของเธอหนักแน่นทุกพยางค์ “และถ้าวันนั้นนายจำฉันได้ ฉันก็จะบอกเรื่องสำคัญให้นายรู้”

         “เรื่อง?”

         “ถ้าอยากรู้ก็อยากลืมฉัน”

         เธอเอื้อมมือมาลูบแก้มผมเบาๆ ก่อนจะโอบกอดผมเอาไว้แน่น ผมจะไม่คาดคั้นเธอหรอกนะว่ามันเป็นเรื่องอะไร

         เพราะผมเชื่อว่ายังไงวันหนึ่งผมก็ต้องรู้อยู่ดี

         “เอาอีกป่ะ?”

         ผมเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากให้บรรยากาศมันเครียดไปมากกว่านี้ ผมอยากทำให้เธอมีความสุขที่สุดเวลาที่อยู่กับผม

         “อะไร”

         “เหมือนเมื่อวานไง” ผมกระตุกยิ้มที่มุมปาก ทำเอาคนตัวเล็กหน้าถอดสีไปเลย “เดี๋ยวถอดให้” 

         “มะ...ไม่เอา”

         เลเน่ส่ายหน้าปฏิเสธท่าเดียว เธอพยายามจะลงจากตักผม แต่ผมก็ยังคงรั้งเธอเอาไว้อย่างนั้น

         ผมไม่ได้คิดที่จะทำเธอจริงๆหรอกนะ ก็แค่แกล้งเธอเล่นเท่านั้นเอง เวลาเห็นเธอทำหน้าตื่นกลัวออกมาแล้วตลกดี

         “ไม่เอาอะไร”

         “มะ...ไม่ทำไง”

         “ไม่ทำอะไร”

         ผมยังคงแกล้งเธอต่อ พอถูกถามไปแบบนี้เลเน่ก็หน้าแดงจัดขึ้นมาทันที ใครบอกว่าเธออ่อนต่อโลกวะ พูดแค่นี้เธอก็จินตนาการไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

         “เรดด์” เลเน่เรียกชื่อผมเสียงดังฟังชัดเลยว่ะ “นิสัยไม่ดี ทำไมต้องแกล้งกันด้วย” เลเน่ก็ไม่ได้โง่จนถึงขึ้นไม่รู้ว่าโดนผมแกล้ง

         “บอกว่าไง?” ผมดุเธอพร้อมกับกดเสียงต่ำเป็นเชิงข่มขู่ “ให้เรียกพี่เรดด์”

         “ไม่เรียก”

         เลเน่ยืนยันหนักแน่นมาก ว่าเธอจะไม่ยอมเรียก ผมก็เลยดันตัวเธอให้ลุกออกจากตักผม แล้วเดินหนีทันที

         อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะทำยังไงเมื่อเห็นว่าผมเดินหนีแบบนี้

         ผมเดินออกมานั่งที่ขอบสระว่ายน้ำ และเป็นไปตามคาดเลเน่วิ่งออกมาหาผมทันที เธอยืนมองผมอย่างชั่งใจก่อนจะเดินเข้ามานั่งลงข้างผมช้าๆ

         ผมทำเป็นไม่สนใจเธอก่อนจะหยิบกีตาร์ขึ้นมาปรับสาย เหมือนว่าไม่เห็นเธออยู่ในสายตา เลเน่ใช้นิ้วสะกิดไหล่ผมเบาๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมหันกลับไปมองเธอหรอกนะ ต้องดัดนิสัยกันบ้าง

         อ่อนข้อให้ทีไรเป็นแบบนี้ทุกที ถ้าเธอรู้ว่าผมไม่แคร์แบบนี้ เธอจะว่าง่ายขึ้นเยอะเลยล่ะ เหมือนไม่ใช่เลเน่คนเดิมที่เคยรู้จัก

         เธอยังคงนั่งสะกิดไหล่ผมอยู่อย่างนั้น โดยไม่พูดอะไรออกมา ผมก็เลยเลือกที่จะไม่หันกลับไปมองเธอ

         “พะ...พี่เรดด์” เลเน่พึมพำเสียงแผ่ว แต่นั่นก็ทำให้ผมได้ยินมันชัดเจน “พี่เรดด์หันกลับมาคุยกันสิ”

         “...”

         “เน่ขอโทษนะ”

         หมับ!

         เอาคว้าเอวเธอให้เข้ามาประชิดตัวผมก่อนจะจูบหน้าผากเธอหนักๆ เวลาที่เธอว่าง่ายแบบนี้

         เธอแม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ

         แล้วอย่างนี้ผมจะลืมเธอได้ยังไง เลเน่ยอมให้ผมกอดจูบอยู่อย่างนั้น โดยที่เธอไม่ได้ขัดขืนอะไร

         ผมไม่คิดว่าจะมีคนที่รักผมขนาดนี้

         ยอมทำทุกอย่างเพื่อผม เอาความสุขของตัวเองเข้าแลกเพื่อที่จะให้คนอื่นมีความสุขทั้งที่ตัวเองจะทุกข์มากแค่ไหนก็ตาม เธอไม่เคยทิ้งผมไปไหน เธอค่อยให้กำลังใจผมมาตลอด ให้อภัยผมเสมอไม่ว่าผมจะทำร้ายเธอมากแค่ไหนก็ตาม

         “ขอโทษ”

         ผมพูดกับคนตัวเล็กที่ซบหน้าอยู่ที่ไหล่ผม เธอเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันว่าผมจะขอโทษเธอทำไม

         “ขอโทษทุกอย่างที่ทำลงไป”

         “...”

         “ขอโทษที่ฉันมันเหี้ย แม่งทำให้เธอเสียใจตลอด” ผมอยากระบายออกมาให้หมด สิ่งที่มันอัดอั้นอยู่ข้างใน ผมอยากให้เธอรับรู้ว่าผมเองก็เจ็บปวดไม่แพ้เธอเลยสักนิด “เรดด์ขอโทษครับ”

         “มะ...ไม่โกรธ” เลเน่พูดด้วยเสียงที่สั่นเครือเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้ “เน่ไม่โกรธเรดด์ ให้อภัยทุกอย่าง แต่ขอแค่อย่างเดียวอย่าทิ้งเน่ไปนะ”

         “...”

         “อยู่กับเน่ก่อน”

         “ตลอดไปครับที่รัก” 

     

     

    * remember ill เป็นโรคที่สมมุติขึ้นมา ไม่มีอยู่จริงงับ

     

    -100 %-

    -ตอนนี้เรดด์ยังจำเลเน่ได้งับ-

    แต่ต่อไปอาจไม่แน่ เค้ามันเป็นพวกชอบแกล้งรีดเล่นๆ 55555555

    มีรีดคนไหนอยากให้พี่เรดด์ลืมน้องเน่บ้างป่าวขอเสียงหน่อยเร็ว

    หรือว่าอยากให้สองคนนี้สมหวังกันสักทีเรื่องจะได้จบๆไรงี้

    ขอมาได้นะ แต่จะทำให้หรือเปล่าอีกเรื่อง กร๊ากกกกกกกกก

    เม้นท์เท่าที่ใจรีดเดอร์มีต่อนายเรดด์กับหนูเลเน่เลยงับ 

    เม้นท์เยอะ กำลังใจแยะ เดี๋ยวรีบมาอัพต่อให้เยย  

     
     
     
     
     
     
     
    -LOVER SET- 

       

      REDD : คลิก https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1523796

    WELL : คลิก  https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1523796  

     

     

    -ฝากเพจอีกสักที-

    เพื่อการติดตามที่สะดวกและรวดเร็ว
    คลิกที่ลิงก์ข้างล่างเลยงับ \(^O^)/
    V
    V
    V

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×