สุมินตรานาคี - นิยาย สุมินตรานาคี : Dek-D.com - Writer
×

    สุมินตรานาคี

    โดย Snowdrop_p

    ข้าเชื่อว่าท่านหาใช่คนผิด แม้ว่าท่านจะเวียนว่ายตายเกิดกี่ภพชาติ ข้าจักคอยช่วยเหลือ และรอคอยให้เรากลับมาคู่กันเช่นเดิม

    ผู้เข้าชมรวม

    248

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    248

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 มิ.ย. 66 / 16:52 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

             " บทลงทัณฑ์ของผู้ที่บังอาจขโมยลูกแก้วนาคา (มณีนาคราช) แห่งวังบาดาล คือต้องถูกหอกเพชรนาคราชทิ่มแทงหัวใจจนตาย เจ้าจักยอมรับความผิดหรือไม่ อินทรจักร! " ท่านอินทรชิต หนึ่งในผู้คุมกฎทั้ง 5 ของวังบาดาล มองบุตรชายหัวแก้วหัวแหวน ด้วยสายตาเรียบนิ่ง แม้ภายในใจจะสั่นไหวและเจ็บปวดเพียงใด ก็ได้แต่เพียงทำใจยอมรับ ในเมื่อกระทำผิดไปแล้ว ย่อมรอรับผลกรรมที่ตามมา

                " ข้าหาได้ขโมยไม่ท่านพ่อ ข้ายอมรับว่าข้าเข้ามาที่ถ้ำแก้วนาคาจริง แต่หาใช่ผู้ขโมยลูกแก้วนาคา " อินทรจักรมองผู้เป็นบิดาด้วยสายตาจริงจังมิได้เสแสร้งหรือแกล้งทำ สิ่งที่เขาพูดคือเรื่องจริงทั้งหมด

                " แล้วลูกแก้วนาคา มันไปอยู่บนตัวเจ้าได้เช่นไร " ผู้ที่จักได้ครอบครองลูกแก้วนาคาคือผู้มีบุญญาธิการสูงส่งที่เกิดจากเจ้าครองนครแห่งวังบาดาลเท่านั้น 

                เมื่อเจ้าผู้ครองนครแห่งวังบาดาลสละราชสมบัติ ลูกแก้วนาคาจะเลือกพระราชโอรสองค์ที่มีบุญญาธิการสูงสุดมาเป็นเจ้าผู้ครองนครแห่งวังบาดาล 

                 แต่อินทรจักรเป็นใคร?...ก็แค่ลูกชายองครักษ์ ที่เป็นเพียงหนึ่งใน 5 ของผู้คุมกฎแห่งวังบาดาล อินทรจักรถือความพิเศษอันใด ถึงได้ครอบครองลูกแก้วนาคา

                  " ข้าไม่รู้ ข้าแค่จักมาสักการะ ลูกแก้วนาคาตรงแท่นสักการะหน้าถ้ำ อยู่ดีๆสายฟ้าจากสวรรค์ ก็ฟาดลงมาบนตัวข้า แต่ข้าหาได้เจ็บปวดอันใดไม่ แล้วตัวข้าก็มีลูกแก้วนาคาสีดำปรากฏออกมา แล้วมันก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว ก่อนจะส่องแสงประกายสีเขียวบนฝ่ามือของข้า" เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากอินทรจักร เหล่าบรรดาโหรหลวงที่ยืนอยู่ 5 ตน ถึงกับดวงจิตสั่นไหว แล้วจ้องมองไปยังบัลลังก์นาคราช ที่มีผู้ครองนครบาดาลประทับอยู่บนนั้น 

               สายตาเยียบเย็นทอดพระเนตรมายังอินทรจักร ไม่มีใครรู้ว่าพระองค์จะจัดการยังไงกับอินทรจักร แต่ดูจากสายตาแล้วอินทรจักรคงไม่รอด 

             " ลูกแก้วนาคาสีดำ? " อินทรชิตทวนคำตามบุตรชายบอกเบาๆ ลูกแก้วนาคาในถ้ำนาคราชมักจะเปล่งประกายแสงสีเขียวสว่างไสวไปทั้งเมืองบาดาล ในทุกวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เพื่อแสดงถึงบุญบารมีของผู้ครองนครแห่งวังบาดาล แล้วมันจักกลายเป็นสีดำไปได้เช่นไร...


               เสียงฝีเท้าบางเบาและกลิ่นกายหอมหวานที่เป็นเอกลักษณ์ โชยออกมาจากภายในถ้ำ ก่อนที่แสงสีขาวจะปกคลุมหน้าถ้ำ แล้วสลายหายไป ปรากฏร่างองค์หญิงสุมินตรา พระธิดาองค์เล็กแห่งวังบาดาล 

                ทหารเฝ้ายามหน้าถ้ำต่างทำความเคารพ ทับทิมและมาลัย นางกำนัลของสุมินตราต่างเข้ามาทำความเคารพอย่างรีบร้อน 

                " พระธิดาเพคะ ท่านอินทรจักรแย่แล้วเพคะ! " 

                " มีเรื่องอันใด ใยเจ้าดูร้อนรนนัก " น้ำเสียงหวานล้ำดูกังวล เมื่อได้ยินชื่อของอินทรจักร 

                  " ท่านอินทรจักร ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ขโมยลูกแก้วนาคาแห่งถ้ำนาคาเพคะ! "

                 " เป็นไปได้เช่นไร ข้าอยู่ภายในถ้ำนาคาชั้นนอกตลอดเพลา หามีผู้ใดเข้าไปไม่ นอกจากเสด็จพ่อแล้ว ไม่เคยมีผู้ใดสามารถเปิดประตูเข้าถ้ำนาคาชั้นในได้...ข้าจักรีบไปดูอินทรจักร! " สุมินตรารีบร้อนไปยังลานตัดสินโทษแห่งวังบาดาล แต่ไม่ทันเสียแล้ว

              " อินทรจักร! " สุมินตราวิ่งเข้าหาอินทรจักรที่มีเลือดท่วมตัว จากการถูกหอกเพชรนาคราชพุ่งจากแท่นหินบนบัลลังก์แทงทะลุหัวใจ 

              " สุมินตรา...ข้ารักท่าน " พูดได้แค่นั้นอินทรจักรก็หลับไปอย่างสงบ สุมินตราจับมืออินทรจักรมากุมตรงพระหฤทัย ก่อนจะพระกรรแสงออกมา สร้างความสะเทือนใจแก่นาคทุกตนที่อยู่บนลานตัดสินโทษ 

              " เสด็จพ่อ! ใยท่านทำเช่นนี้ อินทรจักรไม่ได้ขโมยลูกแก้วนาคา ท่านก็รู้ว่าไม่มีใครสามารถเข้าถ้ำนาคาชั้นในเพื่อไปเอาลูกแก้วนาคาได้...นอกจาก...นอกจาก..." สุมิตราสะอื้นและกรรแสงอีกครั้ง " นอกจากจะเป็นนาคผู้ครอบครองนครบาดาลตนต่อไป! " 

                 " สุมินตรา! " ผู้ครองนครบาดาลเรียกชื่อพระธิดาองค์เล็กของพระองค์ ด้วยพระสุรเสียงเกรี้ยวกราด " จับนางไปกักบริเวณ 1 ปี! "

                  " ไม่นะเสด็จพ่อ ข้าจะอยู่กับอินทรจักร คนรักของข้า " 

                  " บังอาจ! กักบริเวณเพิ่มเป็น 100 ปี! " 

                  " ไม่นะ!!..." สุมินตรามองร่างไร้วิญญาณของอินทรจักร ดั่งพระหฤทัยที่สลายหายไป นางกำมือข้างหนึ่งไว้ตรงพระหฤทัยตลอดเวลา สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก ก่อนที่จะถูกนางกำนัลทั้งสองพยุงตัวออกไป 

               อินทรชิตมองไปยังร่างของบุตรชายก่อนจะอุ้มร่างของบุตรชายขึ้นมา แล้วเดินออกจากลานตัดสินโทษ อย่างเงียบเชียบ ไม่มีนาคตนใดห้ามปรามแม้แต่ตนเดียว แม้แต่เจ้าผู้ครองนครยังประทับนิ่งอยู่บนบัลลังก์ โดยไม่ได้รับสั่งอันใด

              นาคตนอื่นก็รู้ดีว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ เพราะนาคทุกตนในเมืองบาดาล เมื่อถึงแก่ชีวิต ร่างกายก็จะสลายหายไปเองภายใน 3 วัน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ครอบครองนคร

                เมื่อทุกอย่างจบลง โหรหลวงทั้ง 5 ต่างถอนหายใจออกมา ก่อนจะก้มหน้ารอรับพระราชโองการจากเจ้าผู้ครองนครแห่งวังบาดาล 

              " ความลับย่อมเป็นความลับต่อไป " เจ้าผู้ครองนครตรัสก่อนจะสลายร่างหายไปจากแท่นประทับบนบัลลังก์

             โหรหลวงแห่งวังบาดาล ทั้ง 5 ตน มองหน้ากัน ก่อนจะแยกย้ายไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและกังวล เรื่องราวเช่นนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น ในอดีตมันเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว แต่โหรหลวงอาวุโสอายุหมื่นปีอย่างพวกตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่ภาวนาอย่าให้เกิดอาเพศขึ้นในวังบาดาลตามคำทำนายเลย...

                 ในอดีตอันไกลโพ้นได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่จะครอบครองนครบาดาล จักต้องเป็นผู้ที่มีบุญญาบารมีสูงส่งและมีดวงแก้วประจำกาย 

                การปรากฏของดวงแก้วประจำกาย มิได้เกิดจากการจุติแบบโอปปาติกะของพญานาค แต่จะบังเกิดขึ้นในวัยอันสมควร เมื่อเติบโตเต็มที่ ก็จะต้องจำศีลเข้าฌานสมาบัติ เพื่อชำระกายใจให้บริสุทธิ์ รอรับการปรากฏของดวงแก้วประกายแห่งตน 

               ครั้นถึงคืนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ผลบุญที่สั่งสมมาในอดีต จะดลบันดาลให้ดวงแก้วนาคา ปรากฏตัวขึ้น ดวงแก้วจะสว่างไสวไปทั่วทั้งภพบาดาล ไม่ใช่แค่เมืองใดเมืองหนึ่ง แต่ทั่วทั้งภพบาดาลจะรับรู้ถึงแสงสว่างนี้ 

              และจะบังเกิดทิพยสมบัติต่างๆตามกำลังบุญของพญานาค ยิ่งบุญบารมีมาก สมบัติก็ยิ่งมาก พญานาคผู้ครองนครองค์เดิม จะต้องสละราชสมบัติให้ท่านที่มีบุญญาธิการสูงกว่า เพื่อครอบครองนครบาดาลสืบไป

              แต่น่าเสียดาย หนุ่มน้อยอย่างอินทรจักร ที่มีดวงแก้วนาคาประจำกาย ยังไม่ทันได้เข้าณานสมาบัติเพื่อหลอมรวมดวงแก้วนาคากับกายา ต้องมาตกตายเสียก่อน มิเช่นนั้นโหรหลวงทั้ง 5 คงได้รับรู้แล้วว่า อิทธิฤทธิ์ของอินทรจักรจะอยู่เหนือดวงแก้วนาคาดวงเก่ามากขนาดไหน 

            "เมื่อร่างกายดับสูญโดยยังไม่ทันมอบดวงแก้วนาคาให้ใคร  " อิทธิฤทธิ์ของดวงแก้วก็จะดับสูญไปด้วย น่าเสียดายจริงๆ ถ้ามีนาคตนใดมีบุญบารมีมาก จนสามารถครอบครองดวงแก้วดวงนี้ นาคตนนั้นก็จะมีอิทธิฤทธิ์เทียบเท่าเจ้าของดวงแก้วตัวจริง ถ้านาคตนนั้นสามารถหลอมรวมดวงแก้วนาคาเข้ากับกายาของตนได้สำเร็จ...แต่ความลับนี้ ย่อมเป็นความลับตลอดไป


          ปัจจุบัน

           " กรุงเทพมหานครปี 2566 หนุ่มน้อยนามว่า อินทรจักร หรืออินทรก็มาเกิดเป็นลูกแม่ค้าขายข้าวแกงอย่างป้าอร จะว่าจนก็จน จะว่ารวย ก็ไม่ใช่ เอาเป็นว่าพออยู่พอกินดีกว่าเนอะ นิทานจบแล้ว นอนได้แล้วหนุ่มน้อยของแม่ โตจนป่านนี้ยังชอบฟังนิทานอีก " อินทรจักรวัย 18 ปี ยิ้มให้แม่อย่างน่ารัก ก่อนจะหอมแก้มแม่ทั้งซ้ายทั้งขวา 

              " รักแม่ที่สุดเลยครับ! " เขามีเพียงแม่คนเดียวเท่านั้น หลังจากที่พ่อตายไป ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม ครอบครัวโดนกล่าวหาว่าลักลอบขายวัตถุโบราณ สมบัติทุกอย่างที่เป็นของพ่อโดนทางราชการยึดจนหมด จนไม่เหลือแม้สักชิ้น ชื่อเสียงของนักโบราณคดีชื่อดังต้องดับชั่วข้ามคืน แม่ของเขาต้องขายบ้านที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้าย ก่อนจะพาเขาที่อายุในตอนนั้นเพียง 5 ขวบย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ เปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่ เพื่อหลบหนีจากพวกนักข่าวและเรื่องวุ่นวาย

               " ไปนอนได้แล้วครับเด็กน้อย " แม่ของเขาบอกอีกครั้ง เขาจึงลุกจากเตียงนอนของแม่ แล้วแยกไปนอนห้องนอนของตนเอง แม่บอกเขาว่า โตแล้ว ต้องหัดนอนคนเดียวให้ได้

                แต่เขาไม่เคยบอกแม่ว่า เขามักฝันเห็นพี่สาวคนสวยคนหนึ่ง ที่เคยช่วยเขาตอนเขาผลัดตกน้ำตอนอายุ 5 ขวบ เพราะที่น่าแปลกใจก็คือพอขึ้นจากน้ำ พี่สาวคนสวยกับมีหน้าตาไม่เหมือนตอนอยู่ใต้น้ำ มีเพียงกลิ่นกายหอมหวานที่ยังคงเหมือนเดิม 

               กลิ่นกายหอมหวานนั้น เขายังจำไม่เคยลืมเลือน 

                " หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะพี่สาว " อินทรพึมพำเบาๆก่อนจะขึ้นไปนอนบนเตียงและหลับไปอย่างง่ายดาย......

     


                   ....................



    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น