ตอนที่ 36 : EP.34 กำเนิดเกาะโศกศัลย์
Game of Creation ภาค ประกาศิตเทพมารแสวงพ่าย
EP.34 กำเนิดเกาะโศกศัลย์
ทันทีที่รุ่งอรุณมาถึงประตูเมืองฮูโต๋ก็ถูกเปิดออก บรรดาพ่อค้าวาณิชย์ตลอดจนชาวไร่ชาวนา ต่างพากันหลั่งไหลเข้าออกอย่างคึกคัก ร้านรวงของกลุ่มค้าขายหรือก็มากมาย สิ่งก่อสร้างก็ล้วนแต่สวยสดงดงามตระการตา ยิ่งชวนให้เกิดความรู้สึกอยากเที่ยวเล่นชมความสวยงาม ห่างจากตัวเมืองออกไปเกือบ 40 ลี้ทางทิศตะวันออก มีกลุ่มบุคคลลึกลับในชุดคลุมยาวสีดำกำลังยืนสนทนากันอยู่ บริเวณดังกล่าวแม้จะมีเนินสูงบ้างที่ราบลุ่มบ้างแต่ก็นับได้ว่ากว้างใหญ่ เพียงพอที่สร้างเมืองหลวงทั้งเมืองได้เลยทีเดียว
“เรียนท่านพ่อ นอกจากเทพธิดาหมื่นผกากับเทพบุตรเขี้ยวรัตติกาล ทุกคนล้วนพร้อมกันอยู่ที่นี่หมดแล้วครับ” เสียงอ่อนเยาว์ของซันไจ่ไจ๋กล่าวขึ้น
“เข้าใจแล้ว”ชายหนุ่มผู้มาจากอนาคตเอ่ยตอบ “ไว้พวกคุณช่วยส่งจมหมายบอกพวกเขาทีหลังด้วยล่ะกัน เพราะผมคงจะหลับยาวหลายเดือนทีเดียว”
“ทำไมล่ะครับ/คะ” ทุกคนล้วนปรากฏความสงสัย
“ที่เรียกประชุมวันนี้เพราะผมจะแจ้งเรื่องพวกนี้ให้ทราบ”ซันซั่งเทียนเริ่มเปิดประเด็นบทสนทนา “ผมจะสร้างฐานบัญชาการหลักที่นี่ ไม่สิเรียกว่าเนรมิตมากกว่า คงสูญเสียพลังมากมายจนไม่อาจประมาณได้ จารึกแห่งแกนกลางคงจะบังคับให้ร่างอยู่ในสภาวะจำศีลเพื่อฟื้นฟูพลัง”
“เพราะฝืนใช้ชิ้นส่วนจารึกแรกกำเนิดส่วนหลักหลายชิ้นติดต่อกันสินะครับ” ซันเสินหนงหรี่ตาลง เพราะนอกจากพลังของจารึกแห่งแกนกลางแล้ว เฒ่าชราผู้นี้ไม่เคยเห็นพลังระดับสูงอย่างอื่นเลย
“ก็ประมาณนั้นล่ะ ระหว่างที่ผมกำลังหลับอยู่ ไจ่ไจ๋กับเสินหนงทั้งสองคนให้ไปช่วยปลุกเทพบุตรเขี้ยวรัตติกาลให้ลืมตาตื่นขึ้นมาสักที ส่วนคนอื่นๆอยู่คุ้มกันรอบๆบริเวณ ทันทีที่การก่อสร้างแล้วเสร็จ ให้ตรวจหาพลังของผมแล้วเดินทางมารับคำสั่ง ผมจะเตรียมไว้ให้ในรูปแบบเอกสารข้อมูล”
“รับทราบ!” สิ้นคำขานรับ พวกเขาก็พากันแยกย้ายไปทำตามหน้าที่
จากนั้นซันซั่งเทียนก็เดินออกมายังจุดศูนย์กลางของพื้นที่อันกว้างใหญ่ ระหว่างที่ทุกคนกำลังปฏิบัติตามหน้าที่ซึ่งเขาได้มอบหมายให้ บริเวณดังกล่าวก็เหลือเพียงเขากับความเงียบสงัด ชายหนุ่มใช้มือปลดผ้าคลุมที่สวมอยู่โยนทิ้งไป ก่อนจะเปิดระบบไกอาให้ใช้ระบบสมองกลจำลองภาพภูมิศาสตร์ที่คิดเอาไว้ ก่อนจะใช้ดาวเทียมกำหนดแผนที่คร่าวๆ
ลมปราณสยบทศทิศ!
พลังวัตรและพลังชีวิตนับหมื่นปีพลันเอ่อล้นออกจากร่าง ก่อนจะไหลทะลักกระจายออกรอบบริเวณ อานุภาพค้ำฟ้าดินปกคลุมทุกสรรพสิ่ง ดวงตาสีมรกตเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงดาวบนท้องฟ้า ร่างสูงโปร่งทะยานตัวพลิ้วกายขึ้นสู่เบื้องบน ก่อนจะลอยอยู่กลางอากาศด้วยพลังจารึกแห่งแรงโน้มถ่วง ภาพจำลองภูมิศาสตร์จากดาวเทียว ถูกส่งลงมาสู่อุปกรณ์คล้ายกำไลซึ่งสวมอยู่ข้อมือของเขา เมื่อเห็นทุกสิ่งผ่านโฮโลแกรมชายหนุ่มจึงเริ่มลงมือทำงาน
เรียกใช้จารึกแห่งผืนแผ่นดิน!
สิ้นคำกล่าวซันซั่งเทียนก็โบกสะบัดฝ่ามือลงเบื้องหน้าอย่างแรง ฉับพลันเสียงดังครืนกึกก้องคำรามไปทั่ว แผ่นดินสั่นสะเทือนครั้งใหญ่จนเกิดการปริแตก รอยร้าวกระจายเป็นวงกว้างตามมาด้วยเสียงโครมคราม ผู้คนในรัศมี 100 ลี้ ล้วนสัมผัสได้ถึงความสั่นไหวของผืนแผ่นดิน วงน้ำกระเพื่อมบังเกิดแก่แม่น้ำลำธารทุกแห่ง เสมือนหนึ่งแผ่นดินไหวขนาดราวๆ 7 ริกเตอร์เพียงแต่ความเสียหายเบาบางกว่ามาก เพราะไม่ได้เกิดจากรอยแยกของแผ่นเปลือกโลกตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการเคลื่อนไหวของผิวดินด้านบนที่ค้ำยันด้วยพลังพิเศษ
ฝูงชนทั่วเมืองฮูโต๋และเมืองอื่นๆในรัศมี 100 ลี้ ต่างแตกตื่นพากันวิ่งหนีเภทภัยครานี้ด้วยความหวาดผวา บ้างหนีเข้าวัดวาอารามและสำนักพรตต่างๆ เพื่อหวังให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเหล่าเทพเซียนกับพระโพธิสัตว์ตามคติความเชื่อช่วยคุ้มภัย ซันซั่งเทียนสะบัดมืออีกครั้งแผ่นดินก็ไหวโครมใหญ่ ก้อนหินมากมายถูกยกขึ้นด้วยสนามพลังควบคุมวัตถุต่างๆ เพื่อนำไปวางอยู่ในจุดที่กำหนดเอาไว้ในภาพโฮโลแกรม จนกลายขุนเขาสูงใหญ่และเตี้ยสลับกันทอดตัวยาวหลายจุด การกำเนิดเหล่านี้ถือเป็นการสร้างแบบลวกๆไว้ก่อน นอกจากนี้ยังขุดคลองกว้างทำคลองชลประทาน มีขนาดความกว่างประมาณ 8-10 เมตร นับรวมทั้งหมดแล้วเจ็ดคลองทอดยาวไปตามทิศทางต่างๆ ด้านทิศเหนือมีอยู่หนึ่งคลองระยะทางยาวประมาณ 10 ลี้ ด้านตะวันออกมีอยู่สองคลองระยะทางยาวรวม 18 ลี้ กับ 20 ลี้ ทิศตะวันตกสองคลองมีระยะทางยาวรวม 10 ลี้ กับ 12 ลี้ ทิศใต้มีอยู่สองคลองระยะทางยาว 20 ลี้ กับ 22 ลี้ นอกจากมียังมีคลองย่อยๆอีกนับร้อยแตกแขนงออกจากคลองหลักทั้งเจ็ด มีความกว้างประมาณ 1-2 เมตรต่อคลอง
สิ่งเหล่านี้เกิดจากการมองการณ์ไกล ป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับใช้ทางการเกษตรและอุปโภคบริโภค ทั้งนี้มันการจัดบันทึกคำสั่งให้ตรวจตราอยู่เสมอ ห้ามให้ใครทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือของเสียจากกิจกรรมประจำวันลงสู่สายน้ำเด็ดขาด คลองเหล่านี้มีระบบเปิดปิดหลายช่วงโดยใช้หุ่นยนต์ทำการติดตั้งระบบที่ทันสมัย ซ่อนกลไกและวิทยาการไว้ในเนื้อไม้เพื่อหลอกตาผู้คน ซึ่งยามนี้ไม่มีน้ำอยู่เลยแม้แต่หยดเดียว
สำหรับบริเวณซึ่งถูกขุดดินออกกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่โล่ง ๆ อันด้วยพลังชิ้นส่วนจารึกแห่งแผ่นดินไหวที่เขาช่วงชิงมาจากหนึ่งใน 24 พลเอกของรัฐบาลโลก ชายหนุ่มนำอาคารตึกแฝดฐานลับของเขาออกมาพร้อมกับโยนขึ้นฟ้า หลังจากใช้พลังแรงโน้มถ่วงให้มันลอยกลางอากาศแล้วนั้น ซันซั่งเทียนก็สั่งการให้ไกอาจัดการเชื่อมต่อตนเองเข้ากับระบบสมองกลประจำตึกแฝด เพื่อทำการขนส่งเส้นเหล็กลำเลียงออกมาด้านนอก หุ่นยนต์บางส่วนก็เตรียมผสมปูนคอนกรีตจนพร้อมสรรพ ไม่นานการฉาบเคลือบพื้นผิวทั้งส่วนพื้นต่ำและขอบทะเลสาบก็เสร็จสิ้น
จากนั้นจึงเคลื่อนย้ายดินมาโปรยถมลงเพื่อให้มีสภาพเหมาะแก่สัตว์น้ำ แล้วจึงเรียกใช้พลังจารึกแห่งสายน้ำ กระแสชลหลากก็พลันทะลักลงท่วมจนเต็มหลุมกว้างใหญ่ สายน้ำที่เนืองนองท่วมทั้งหลุมพลันกลายสภาพเป็นทะเลสาบขนาดกลางในพริบตา พื้นดินส่วนที่ไม่ได้โดนขุดตักนำดินออก ก็กลายเป็นเกาะขนาดใหญ่กลางน้ำ มีเนื้อที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับสร้างอาณาจักรในยุคโบราณ การทำพื้นและขอบด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กหนา ช่วยให้มีรากฐานที่มั่นคงแข็งแรงไม่มีการกัดเซาะพังทลาย ทั้งยังเสริมพลังให้แก่ชั้นหินด้วยจารึกแห่งแผ่นดิน ทำให้ฐานของเกาะและฝั่งทะเลสาบ มันจึงแข็งแกร่งคงทนยิ่งกว่าเขื่อนใดๆในโลก
“ขั้นต่อไปก็..”
ซันซั่งเทียนพลันเหินกายทะยานตัวลอยขึ้นสู่อากาศ สะบัดนิ้วชี้โบกไปมาบรรดาภูเขาดินที่สร้างแบบลวกๆก็เริ่มถูกปรับปรุงด้วยจารึกแห่งแผ่นดิน จนมีทั้งโขดหินดินร่วนดินทรายกลายสภาพเป็นภูเขาจริงๆ มีทั้งเขาลูกเดี่ยวและทิวเขาสูงใหญ่ ตามแต่ที่เขาจะจินตนาการออกมาเป็นรูปร่างได้ เพียงชั่วยามเดียวเท่านั้นจากที่นากว้างใหญ่ธรรมดา ก็กลายสภาพเป็นเกาะกลางทะเลสาบที่แสนจะสวยงามด้วยรูปลักษณ์ทางภูมิศาสตร์
เมล็ดพันธุ์จำนวนมากที่เตรียมมา ถูกรั้งให้ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับการสะบัดนิ้วอีกครั้ง ก็พลันเกิดหลุมสี่หมื่นหลุมสำหรับเพาะปลูกในหลายพื้นที่ ยกเว้นฝั่งตะวันออกซึ่งเตรียมไว้ทำแหล่งเพราะปลูกการเกษตร พลังแห่งจารึกพฤกษาเองก็ถูกใช้ในการดัดแปลงพันธุกรรม จนเกิดเป็นพืชพรรณแปลกตา ทั้งส่วนที่คัดพันธุ์ไม้ให้ผลไม้นานาชนิด กับไม้ดอกไม้ประดับนับร้อยนับพัน ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ก็พลันบังเกิดขึ้นจากความว่างเปล่า
“น้ำในทะเลสาบเองก็ควรจะใสสะอาด มีสีมรกตส่วนในสีครามรอบนอก” เขากล่าวขึ้น จากนั้นซันซั่งเทียนก็ใช้พลังจารึกแห่งสายน้ำ เพื่อควบคุมจัดการน้ำที่ขุ่นมัวจำนวนมาก สร้างสีสันฟอกอากาศให้มวลน้ำกลับมาใสสะอาดบริสุทธิ์ เหมือนทะเลสาบบนสรวงสวรรค์ที่ดำรงความสวยงามนับพันนับหมื่นปี
“ได้เวลาเติบโตแล้วเด็กๆ”
ซันซั่งเทียนวาดมือกลางอากาศ บรรดาต้นไม้ทั้งหมดที่ปลูกก็พลันเติบโตขึ้นจนกลายเป็นป่าไผ่และป่าไม้ยืนต้นจำนวนมาก โดยเว้นพื้นที่ว่างเป็นช่วงสำหรับก่อสร้างอาคารสถานที่ตามแผนผังที่คิดเอาไว้ ชั่วพริบตาสภาพแวดล้อมก็สวยสดงดงามราวกับแดนสวรรค์บนพื้นโลก จากนั้นเขาก็ทะยานตัวเข้าไปยังพื้นที่หนึ่งของเกาะ พร้อมกับลงมือสร้างตำหนักที่เขาจะใช้พักอาศัยด้วยไม้กระเบื้องและหินอ่อน ใช้พลังจารึกแห่งเหล็กกล้าทำโครงสร้างใช้พลังแห่งดินสร้างหินอ่อนและดินเหนียวดินขาวบริสุทธิ์ ปูนส่วนหลักกับคอนกรีตก็นำออกจากมาฐานลับ ผสมผสานสร้างขึ้นมาจนกลายเป็นรูปเป็นร่าง แต่นั่นก็ทำให้เขาใช้พลังชีวิตที่ดูดกลืนจากผู้คนมานับหมื่นปีจนหมดสิ้น
ชั่วพริบตาปราสาทหลังใหญ่กลางป่าไผ่และต้นไม้ดอกก็สำเร็จออกมาในที่สุด ชายหนุ่มรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก แต่ก็นับได้ว่าเขาได้สร้างรากฐานอันยิ่งใหญ่ให้กับค่ายทัพของตนสำเร็จเสร็จสิ้น จากนั้นเขาก็ร่อนลงมาสู่พื้นเขียนคำสั่งมอบอำนาจให้กับสิบศักดิ์สิทธิ์ เพื่อดำเนินการสร้างอาคารส่วนอื่นๆของเกาะต่อไป เพื่อการนั้นเขาจึงได้เปลี่ยนหินยักษ์น้ำหนักกว่าหมื่นชั่งให้กลายเป็นทองคำ สำหรับใช้เป็นทุนรอนในการกระทำเรื่องต่างๆที่เขาเขียนกำกับเอาไว้
ซึ่งมีทั้งการแจกจ่ายเงินทองในกิจการการค้าของสมาพันธ์ โดยให้ตงโยว่ผู้นำส่วนนี้เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนหนึ่งเป็นเงินทุนให้กุยแกใช้ในการวางแผนการทั้งหลายตามที่เคยตกลงกันไวตั้งแต่ต้น อีกส่วนให้สิบโศกศัลย์ช่วยกันสร้างอาณาจักรขนาดย่อมและซื้อหาสิ่งจำเป็น และอีกส่วนสำหรับการแบ่งปันแจกจ่ายให้กับเหล่าขุนพล ที่ตกลงว่าจะทำการสนับสนุนพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นโจโฉซึ่งกุยแกไปมาหาสู่อยู่เป็นประจำ หรือซุนเกี๋ยนผู้ที่จะกลายเป็นชนวนเหตุสำคัญในวันข้างหน้า และบรรดาขุนพลมีชื่อน่าสนใจทั้งหลายแหล่
เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพซันซั่งเทียนก็เก็บตึกแฝดกลับคืน จากนั้นพาไกอาเข้าไปในตำหนักใหญ่ ก่อนจะทำการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง ทั้งยังเชื่อมต่อสมองของตนเข้ากับสัญญาณ หากมีคนคิดล่วงล้ำระบบจะบังคับตื่นในทันที ซึ่งนั้นจะทำให้พลังจารึกแห่งแกนกลางเกิดความเกรี้ยวกราด และจะนำมาซึ่งความตายของผู้บุกรุก
“ไกอา ช่วยเอาเอกสารที่ผมเขียนทั้งหมด ไปแปะบนกระดานด้านนอกตำหนักกลางให้ด้วย อย่าลืมรอกำชับพวกสิบศักดิ์สิทธิ์ก่อนกลับเข้ามาด้วยล่ะ”
--“ได้ ฉันจะจัดการให้”--
“ถ้าคิดจะถ่วงดุลทุกขุมกำลังก็ต้องลงทุนสร้างฐานอำนาจให้ยิ่งใหญ่เสียหน่อย และถ้าคิดจะผูกเหยื่อล่อเหล่ามิวแทนท์จากโลกอนาคต ก็ต้องใช้ความวุ่นวายจุดชนวนเหตุสร้างเรื่อง เมื่อประวัติศาสตร์เริ่มบิดเบือนพวกมันย่อมไม่อาจทนหลบอยู่ได้อีก เพราะกลัวว่าจะกระทบถึงบรรพบุรุษจนตัวตนถูกลบหายไป ทีนี้เราก็เฝ้ารอช่วงเวลาแห่งการความสนุกและการล่าเหยื่อ!”
คิดดังนั้นชายหนุ่มก็นอนลงบนเตียงภายในตำหนักกลาง พร้อมกับหลับตาลงกำหนดจิต ให้จารึกแห่งแกนกลางเข้าสู่ห้วงนิราที่กินเวลายาวนานหลายเดือน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl
Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl
Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl Flghtlngl
แล้วก็หวังว่าคงได้อ่านเรื่องนี้จนจบนะครับ
(ขอมากไปเปล่าเนี่ย)
ปล.โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับ 607 ครับ
ปล.สุดท้ายแล้วแต่ผู้แต่งนะครับ
ส่วนเรื่องใหม่รบกวนลงให้อ่านด้วยครับจะได้ช่วยๆกันดู อิอิอิอิ