"อึก...อืออ"
สัมผัสนุ่มๆที่ปากคืออะไรกันแล้วเม็ดกลมๆที่พยายามดันให้เข้าปากนั้นคืออะไร..?คงจะเป็นยาหรือของกินอะไรสักอย่างที่มีลักษณะกลม
.
.
.
ชินโซมองคามินาริที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงในห้องพยาบาลด้วยความรู้สึกหลากหลาย
"นายทำให้ฉันเสียเวลา"
ชินโซก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของหมอนี้นักหรอกเพียงแต่ตอนเห็นหมอนนี้โดนรุมแล้วแค่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมจึงเข้าไปช่วยแต่สุดท้ายพวกนักเลงนั้นก็หนีพอเริ่มเห็นว่าสู้ไปก็แพ้เปล่าๆพอพวกนักเลงหนีไปหมดหมอนี้ก็ล้มหมดสติไปพอดีทำให้ชินโซตกใจก่อนจะแบกร่างคามินาริมาโรงพยาบาลทันที
"หมดหน้าที่ฉันแล้ว...จำไว้นะนายติดหนี้ฉัน"
ชินโซรู้สึกตลกตัวเองที่พูดกับคนนอนอยู่หมอนี่คงจะรู้เรื่องหรอกนอนเป็นผักต้มแบบนี้ขณะที่ชินโซจะออกไป
แกร๊กก
"คามินาริ!!!เป็นไงบ้าง!?"
เพื่อนแก๊งในคามินาริก็โผล่มาทั้ง บาคุโก คิริชิม่า และเซโร่ ก็ตะโกนถามถึงเพื่อนตัวเองทันที
"ทำไมคามินาริเป็นแบบนี้!?"
"โดนรุม"
"ห้ะ!!?"
ทั้งคิริชิม่ากับเซโร่ถึงกับอ้าปากค้างเพราะเพื่อนของเขาโดนรุม....กี่คนกันเนี่ยแล้วช่องทางด้า---
โป๊กก!
"หยุดคิดอะไรสัปดลเดี๋ยวนี้พวกแก"
บาคุโกเขกหัวทั้งสองคนโดยเฉพาะคิริชิม่าที่โดนแรงที่สุด
"ง่าาา...ฉันเจ็บนนะคัตสึกิ"
"ก็ทำให้เจ็บน่ะสิจะได้เลิกคิดบ้าๆ"
คิริชิม่าบ่นนิดๆหน่อยๆที่บาคุโกเล่นเขกหัวแบบไม่ออมแรงเลยสักนิดส่วนเซโร่ก็ได้แต่ลูบหัวปอยๆ
"จำหน้าพวกนั้นได้ไหม"
บาคุโกถามขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์เล่นพวกกันนี้หว่ากล้าดียังไงมารุมเพื่อนของเขากัน!!
"ไม่ได้"
"แล้วทำไมนายถึงมาอยู่คามินาริได้"
เซโร่ที่เงียบมานานก็พึ่งเอะใจ..นั้นสิชินโซมาอยู่กับคามินาริได้ไงทั้งๆที่ปกติไม่มีทางได้เจอกันแน่ๆ
"ฉันไปช่วยหมอนี่พ--"
แกร๊กก
"ขออนุญาตนะคะเมื่อสักครู่ได้ให้ผู้ป่วยทานยาแล้วใช่ไหมคะ"
พยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับชินโซเพราะเธอจำได้ว่าผู้ชายผมม่วงอยู่กับผู้ป่วยตั้งแต่แรก
"เรียบร้อยครับ"
ชินโซพยักหน้าให้กับพยาบาลแต่พยาบาลก็ยังไม่ออกจากห้องจนทั้งสี่คนที่อยู่ในห้องมองหน้าพยาบาลคนนั้น
"มีอะไรหรือเปล่าครับ"
คิริชิม่าเป็นฝ่ายถามก่อนที่พยาบาลสาวจะอึกอักก่นจะตอบออกมาว่า
"เนื่องจากมีการได้รับสารบางอย่าง...อาจจะส่งผลต่อความคิด นิสัยหรือความทรงจำค่ะแต่.."
พยาบาลสาวเว้นไว้นานจนใจหาย
"แต่อะไรพูดมาเร็วสิๆ!"
บาคุโกพูดเร่งอีกฝ่ายให้พูดเร็วๆจะมาอ่ำๆอึ่งๆทำไม
"ตะ.ตะ.แต่...เป็นแค่ชั่วคราวค่ะสารส่งผลประมาณ7วันคะ.ค่ะ"
ทุกคนเมื่อได้ยินตอนนั้นก็โล่งอกทันทีอย่างน้อยก็มีโอกาสหายและเหมือนโชคจะเข้าข้างเพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาปิดเทอมฤดูร้อนระยะสั้นพอดี
เช้าวันถัดมา
"ใครอ่าา?"
คามินาริตอนนี้ลืมทุกคนไปหมดสิ้นยกเว้นครอบครัวเและเรื่องของตัวเอง
"พวกเราเป็นเพื่อนกันอยู่กลุ่มเดียวกัน"
ทั้งเซโร่และคิริชิม่าพยายามช่วยกันอธิบายแต่ผิดกับบาคุโกที่ทำหน้าเหมือนจะต่อยตลอดเวลา
"บาคุโกนายจะไม่เล่าเรื่องอะไรสักหน่อยเหรอ"
"เออๆ....ตอนนี้ในหัวนายมีอะไรบ้าง"
บาคุโกถามคามินาริ...ถ้าในหัวมีแต่สิ่งนั้นแสดงว่าจิตใต้สำนึกของคามินาริต้องคิดถึงอยู่บ่อยๆแล้วก็ค่อยใช้สิ่งนั้นมาช่วยเพื่อให้เพื่อนของเขากลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น
"ฮีโร่!!"
คามินาริตอบเสียงใสออกมาอ่า...ลืมบอกไปสารนั่นทำให้ความคิดและนิสัยของคามินาริกลายเป็นเด็ก
"......"
ตอนนี้ทั้งสามคนมองหน้ากันตาปริบๆว่าจะทำยังไงดีตอนนี้ครอบครัวคามินาริก็เปลี่ยนเวรกันมาดูแลแต่ก็ไม่สามารถดูแลตลอด24ชั่วโมงได้เพราะช่วงกลางวันก็ยังต้องไปทำงานอยู่ดีและทำให้ช่วงกลางวันส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อนมากกว่า
.
.
.
"วันนี้ฉันไม่ว่างพวกนายก็ดูแลไปนะ"
เซโร่บอกกับทุกคนอย่างขอโทษเพราะวันนี้มันเหตุสุดวิสัยจริงๆ
"แต่ฉันก็ว่างแค่ถึง10โมงเองนะ!!"
คิริชิม่าว่ากลับก็แน่นอนสิตัวเขาอุตส่าไปจองตั๋วหนังรอบเที่ยงแล้วก็ว่าจะชวนคัตสึกิไปต่อกันที่ร้านอาหารด้วย!!...ถามว่าทำไมต้องไปวันนี้ก็วันนี้มันเป็นวันครบรอบ1ปีระหว่างเขากับคัตสึกิที่คบกันมาหนิก็เลยอยากจะใช่เวลาทั้งวันแบบสองต่อสอง
"แต่วันนี้ฉันก็ไมว่างสะด้วยสิ"
"ฉันต้องยกเลิกเดทในวันครบรอบเหรอ...ไม่เอาอ่ะ!"
คิริชิม่าที่เริ่มโวยวายออกมาเพราะยิ่งวันนี้ครบรอบ1ปียิ่งไม่อยากยกเลิก
"งั้นหาเพื่อนสักคนที่ว่างๆแล้วพวกเราก็ไว้ใจได้"
"ใครล่ะ?ไม่มีใครรู้เรื่องคามนาริเลยนะ"
คิริชิม่าครุ่นคิดถึงเพื่อนคนที่ไว้ใจได้แต่ก็ต้องรับรู้เรื่องของคามินาริด้วย...
"โอ๊ะ...ชินโซ/ชินโซไง!"
บ้านชินโซ
"อะไรของพวกนาย?"
ชินโซรู้สึกหงุดหงิดสุดๆที่ต้องตื่นมาทั้งๆที่ควรจะเป็นเวลานอนนี้มันยังไม่7โมงเลยด้วยซ้ำ!!
"เพราะนายเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องของคามินาริ"
คิริชิม่าพูดขึ้น
"อ่าห้ะ?"
"และพวกเราไว้ใจนายจึงจะขอฝากคามินาริไว้กับนาย"
เซโร่พูดก่อนจะดันคามินาริใส่ชินโซทำให้เกือบหงายหลังดีที่ตั้งตัวทันไม่งั้นหัวกระแทกพื้นแน่
"เฮ้ย!?"
"งืออออออ"
ชินโซรีบประคองคนที่ตัวเล็กกว่าเพราะอีกฝ่ายเหมือนยังไม่ตื่นดีก่อนจะหันไปมองหน้าอีกสองคนที่โบกมือให้
"ฝากด้วยนะ!!แค่วันเดียวขอร้องล่ะ"
ทั้งคิริชิม่าและเซโร่ตะโกนบอกก่อนจะวิ่งสปีดแปดคูณร้อยออกไป..แบบนี้ไม่เรียกว่าขอร้องแล้วเรียกว่ายัดเยียด!
"งืมมมม..หนาวง่าา"
คามินาริที่รู้สึกหนาวๆก็กอดอีกคนแน่นขึ้นอีกก่อนจะทิ้งตัวลงทำให้ชินโซรีบคว้าเอวเอาไว้ก่อนที่อีกคนจะลงไปนอนบนพื้นจริงๆ
"ให้ตายสิ...ชิ"
ชินโซตัดสินใจพยุงคนตรงหน้าแต่คามินาริก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเลยแถมยังงอแงจะให้อุ้มอย่างเดียว
"นายไม่ใช่เด็กๆนะ"
"ดูตรงไหนว่าไม่เด็กอ่าา..นะๆอุ้มหน่อยย"
"......"
ชินโซอยากจะเอาหัวโขกกำแพงให้รู้แล้วรู้รอดไป..ตื่นเช้าแล้วยังต้องมาเสียเวลาลากคนตรงหน้าอีก
"เออๆ..ขึ้นมา"
แต่ชินโซก็ยังไม่ยอมอุ้มแต่เปลี่ยนเป็นให้ขี่หลังแทน....ถ้าให้ตัวเขาอุ้มก็คิดว่าคงไม่ดีเท่าไรนะที่ผู้จะมาอุ้มผู้ชายถึงอีกฝ่ายจะตัวเล็กกว่าก็เถอะ
" ฮึก ไม่อยากอะ.อุ้ม ฮึก ผมเหรอ"
ชิบ..อยู่กับเขาไม่ถึง5นาทีก็ทำให้ร้องไห้สะแล้ว
ฮึ่บ
"อุ้มแล้วทีนี้หยุดร้องได้หรือยัง?"
"ฮึก..อื้อ"
ตอนนี้ชินโซอุ้มอีกคนเหมือนหมีโคอาล่าที่เวลามีลูกจะให้ลูกเกาะแม่ไว้และตอนนี้คามินาริก็กอดคอและเอาขาไปเกี่ยวเอวชินโซไว้อย่างแน่นทำให้ชินโซรู้สึกว่าคามินาริตัวเล็กกว่าที่คิดไว้อีกแฮะ
"เด็กชะมัด"
ชินโซไม่รอช้ารีบเดินไปที่ห้องนอนทันทีก่อนจะวางอีกฝ่ายลงแต่ติดตรงที่...
"ปล่อย"
คามินาริไม่ยอมปล่อยแถมกอดแน่นขึ้นอีกต่างหาก
"มะ.ไม่เอา"
"นายนอนบนเตียงแล้วฉันจะอยู่ข้างๆไง"
"ไม่เอา!!"
"แล้วจะเอายังไง"
ชินโซที่เริ่มหงุดหงิดเพราะความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย
"นอนด้วยกันเหมือนนอนกับแม่"
"ฉันไม่ใช่แม่สักหน่อย"
"....."
"ก็ได้ๆเขยิบไปสิ"
ดาเมจเมื่อกี้คืออะไร...แค่ตอนนี้อีกคนไม่รู้ตัวเลยเผลอทำหน้ายู่ๆก่อนจะทำหน้าอ้อนๆแล้วกระพริบตาปริบๆใส่จนตัวเขาใจอ่อน
"เย้!!!"
ฟอดดด
คามินาริดีใจลุกขึ้นมาหอมแก้มชินโซก่อนจะเขยิบให้เจ้าของเตียงตัวจริงมานอนด้วยได้
"ทำอะไร!!!?"
"ก็เวลาพ่อแม่ตามใจผมก็หอมแก้มกลับไง"
"เวลาเพื่อนนายตามใจนายหอมแก้มไหมเนี่ย?"
"ไม่นะ ไม่ค่อยมีคนตามใจผมนอกจาก...เอ่อ.."
"อะไร?"
ชินโซถามขึ้นเพราะเห็นอีกฝ่ายเงียบไป
"ผมต้องเรียกว่าอะไรอ่าา..พี่?หรือชื่อ?"
เวรกรรม...มาอยู่บ้านเขาแต่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเขาเนี่ยนะไอ้สองคนนั้นได้บอกอะไรเกี่ยวกับเขาให้คนตรงหน้าฟังบ้างไหมเนี่ย
"ขินโซ...เรียกฉันว่า ชินโซ"
"อืมม...ชิน..โซ.ห่าวว..พี่ชิน"
"ถ้าง่วงก็นอนสะ"
ชินโซบอกเด็กน้อย(ที่ตัวไม่น้อย)ให้นอนก่อนยิ้มมุมปากเบาๆจะเรียกชื่อเขาปกติก็ได้แต่ว่าดันเรียกเขาว่า พี่ชินโซ เหรอ...ถ้านายหายเป็นปกตินายอาจจะไม่ทำแบบนี้ก็ได้
.
.
.
"อืมมมมม"
คามินาริที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกสดชื่นแต่หมอนที่หนุนอยู่มันแปลกๆไปนะแล้วหมอนข้างก็ดูแข็งๆไม่นุ่มเลยสักนิดแต่ถึงจะแข็งอะไรก็ช่าง...เพราะตอนนี้ก็นอนสบายเหมือนกันแค่งงว่าทำไมหมอนถึงไม่นุ่มก่อนจะกอดหมอนข้างแน่นขึ้น
"ตื่นหรือยัง?"
เอ๊ะ?...เขาอยู่ห้องคนเดียวนิหรือว่าพ่อมาเรียกแต่ไม่ใช่หรอกนั้นไม่ใช่เสียงของพ่อ
พรึ่บ
ชัด..ชัดเลยทำไมชินโซมาอยู่ในห้องของเขาเนี่ยย!!?
"นายมาอยู่ที่นี้ได้ไง!?"
คามินาริถามพลางสำรวจตัวเองไปด้วย
"ฉันเหรอ...?"
อาการแบบนี้แสดงว่าสารหมดฤทธิ์แล้วสินะ
"ก็เออสิ!!ถามหมามั้ง?!"
"ปากดี"
"ตอบสิ!คำถามมีไว้ตอบนะเว้ย!"
คามินาริเริ่มตื่นตระหนกเข้าไปอีกเมื่อมองรอบๆห้องก็ถึงรู้ว่าเป็นสถานที่ที่ไม่รู้จัก...ของนอนของชินโซ?
"เพื่อนนายฝากนายไว้กับฉัน"
"แล้วทะ.ทำไมถึงตื่นมาในสภาพนี้เล่า"
ทำไมคามินาริถึงได้ตกใจขนาดนี้ก็เพราะอีกฝ่ายใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวแล้วตัวเขาก็ใส่ชุดลำลองปกติเสื้อยืดกางเกงเจเจ
"บ้านฉัน"
"ละ.แล้--"
"เก็บไว้ถามหลังจากฉันตื่น..ตอนนี้จะนอน"
ชินโซล้มตัวนอนแต่คามินาริก็ยังเขย่าตัวเขาไปมาเพื่อให้ตื่นขค้นมาตอบคำถามให้จบก่อน
พรึ่บ
"เฮ้ยย!?"
ชินโซที่รำคาญจึงดึงตัวอีกคนลงมาก่อนจะเอามือปิดปากไว้แต่เพราะตอนนี้นอนอยู่ทำให้หน้าทั้งคู่นั้นใกล้กันมากจนสามารถเห็นห้าแดงๆของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนและตอนนี้หัวใจชินโซก็ดูจะทำงานผิดปกติ
ตึกตัก ตึกตัก
"ไออวนแอ้วอะออนอ่อออน"
"อะไรนะ"
"บอกว่าไม่กวนแล้วจะนอนก็นอนไป"
คามินาริว่าก่อนจะพลิกตัวเข้าหากำแพงส่วนชินโซที่ได้ยินอย่างนั้นก็นอนหงายตรงๆก่อนเลือบตามองคนข้างๆเป็นระยะๆจนกระทั่งเผลอหลับไปในที่สุด
ตอนเที่ยง
"นี่ๆชินโซวววว"
"อะไรของนายอีก"
"ฉันหิว"
"ห้องครัวอยู่ทางนู้นเชิญ"
ชินโซชี้ไปอีกทางซึ่งคามินาริก็หน้ามุ่ยอย่างขัดใจแต่ขาก็ไม่รอช้าเดินเข้สห้องครัวทันทีเพราะตอนนี้ท้องเริ่มที่จะร้องประท้วงออกมาแล้ว
"ชินโซววว..ไม่มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเลยเหรอ?!"
คามินาริตะโกนถามข้ามห้องซึ่งทำให้คิ้วชินโซกระตุกเบาๆอย่าบอกนะว่า...
"ทำอาหารไม่เป็น?"
ชินโซเดินมาถามคามินาริที่เอาแต่รื้อของในตู้เย็น
"กะ.ก็ใช่"
เฮ้ออออ....ถึงความติดกับนิสัยจะกลับมาเป็นปกติแล้วก็ดูไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไรเลยชินโซคิดอยู่ใจ
"ฉันจะทำให้กินก็ได้"
"จริงอ่ะ!?"
"อืม"
"จะไม่ใส่ยาพิษลงไปใช่ไหม"
"ถ้ากลัว..ก็ดูฉันทำแล้วกัน"
คนอย่าง ชินโซ ฮิโตริ ถ้าไม่ชอบหน้าคงไม่ยอมให้มานอนเล่นอยู่แบบนี้หรอกแล้วมาคิดว่าตัวเขาจะใส่ยาพิษเฮอะๆถ้ากลัวก็ยืนดูไปนั้นแหละ
.
.
.
"ฉันอยากทำบ้างอ่ะ!!"
คามินาริเซ้าซี้ตั้งแต่ตอนเริ่มทำอาหารไม่รู้ยังไงอยู่ๆก็เดินมาบอกจะช่วยทำอาหารจนซินโซคิดในใจ...จะได้กินข้าวไหม?
"ให้ฉันช่วยทำนะๆ"
"จะเสร็จแล้ว"
"ยัง..นายยังไม่ได้เอาลงกระทะจะเสร็จได้ยังไง"
คามินาริเถียงก็ชินโซตอนทำอาหารถึงหน้าจะดูง่วงๆแต่พอดูรวมๆผู้ชายทำอาหารเป็นน่ะเท่สุดๆไปเลยทำให้มีความคิดที่ว่าอยากจะทำอาหารได้บ้างเลยจะช่วยแต่ชินโซก็ไม่ยอมให้ช่วยเลยสักนิด...ชิชะ
"ก็เหลือแค่เอาลงไปทอดไง"
"ก็อยากทำอ่ะๆอยากทำๆ"
"เออ...เอาตะหลิวไป"
จะยอมไปก่อนก็ได้...พอชินโซพูดจบคามินาริตาก็เปล่งประกายก่อนตรงเข้ามาหาทันทีพร้อมกับคิดว่าคงจะไม่ไหม้หรอก(มั้ง?)ให้ตายสิ..นายนี้ดูเหมือนเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่ยังไงยังงั้น
.
.
.
"ชินโซววววว!!น้ำมันมันกระเด็นอ่าา!!!"
ชินโซเดินมาดูทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกตนเอง
"แล้วจะเปิดไฟแรงขนาดนี้ทำไม"
"ไม่รู้นี่"
แกร๊กก
ชินโซเดินไปเบาเตาแก๊สลงก่อนจะหันไปมองหน้าพ่อครัวมือใหม่ก่อนจะเกิดศึกแย่งตะหลิวกัน
"ฉันอยากทำเอง!"
"แต่ไหม้ไป2ชิ้นแล้ว"
"ก็ช่วยดูสิเมื่อกี้นายทิ้งให้ฉันจัดการคนเดียวหนิ"
"......"
โอเค..มันคือความผิดของเขาที่ทิ้งอีกฝ่ายไว้ในห้องครัวคนเดียวสินะ
"ทำอย่างนี้"
ชินโซที่ไม่รู้จะทำยังไงจึงไปยืนซ้อนหลังของคามินาริก่อนจะจับด้ามตะหลิวที่อีกคนถือเอาไว้ด้วยให้ขยับตามที่เขาทำ
"อ่อออ..ดูน่ากินกว่าฉันทำตั้งเยอะแหนะ!"
ชินโซไม่ได้พูดอะไรตอบมีเพียงเสียงจากคามินาริคนเดียวที่ดังออกมาไม่สิ...เสียงจากหัวใจเขาก็ดังอยู่นะแต่อีกคนคงไม่ได้ยินหรอกจนกระทั่งทำเสร็จ
.
.
.
"ถ้าใครได้นายเป็นแฟนต้องโชคดีมากแน่ๆเลย"
"ทำไม?"
"ก็ทำอาหารก็เป็นแถมบางทียังแอบตามใจด้วย"
ตามใจ..พอพูดถึงเรื่องตามใจก็อดคิดถึงเมื่อเช้าไม่ได้เลยแหะ
"แบบนี้...ฉันก็ต้องได้ของตอบแทนสิ"
ฟอดด
และสุดท้ายชินโซก็อดใจไม่ไว้ก้มหน้าลงไปหอมแก้มคามินาริจนคนที่ถูกกระทำถึงกับตัวแข็งทื่อก่อนที่หน้าจะแดงและลามไปถึงใบหูจนเหมือนมีกระแสไฟฟ้าออกมาแว๊บๆ
"รอบหน้าจะมาอีกก็ได้นะ"
สิ้นเสียงชินโซคามินาริก็พยักหน้าเพื่อสื่อว่ามันต้องมีรอบต่อไปแน่นอน
"อื้ม"
E
N
D
♡
จบแล้วค่าาจบแบบงงๆ555
15/10/63
Annko