Chapter 01
“ที่นี่ที่ไหน!’’
ในคืนนี้ภายในอุโมงค์ใต้ดินมีรถหลายสิบคันขับตามกันมาอย่างเร่งรีบเพื่อพยายามจะไปจุดหมายเดียวกัน
ภายในรถทุกคันจะมีทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวคละกันไป แต่ละคนจะมาจากคนละประเทศโดยจะมีการขนส่งแบบนี้ทุกๆปี
ในขณะขนส่งคนขับจะไม่มีสิทธิในการพักหรือการขับนอกลู่นอกทาง
แต่ก็ไม่ทางที่จะขับนอกลู่นอกทางได้เพราะทางจะไปในทางเดียวกันเสมอ
และที่สำคัญในรถแต่ละคันจะมีการเฝ้าระวังโดยทหารที่มาพร้อมด้วยอาวุธสังหารครบมือ และพวกเขาก็จะมีการใช้กุญแจมือล็อคมือคนขับไว้เพื่อป้องกันการกระทำที่เป็นภัย
พร้อมกับจะฉีดยากระตุ้นประสาทชนิดเบาๆเมื่อคนขับเกิดท่าทีอยากพักผ่อนมันจึงถือว่าเป็นการควบคุมที่ใช้วิธีขั้นรุนแรงในการจัดการ
ในขณะที่รถขับไปด้วยความเร่งรีบในทางที่เขากำลังขับมีทั้งทางลาดชัน โค้งหักศอก
และถนนขรุขระ จึงทำให้มันเป็นเรื่องยากที่รถจะไม่สั่นสะเทือน
แรงสั่นสะเทือนปลุกชายคนนึงให้ตื่น เขาตื่นมาด้วยความสงสัยพร้อมกับความคลื่นใส้ที่เกิดจากแ
“ที่นี่ที่ไหน’’เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่า เขาลุกขั้นมานั่งและมองไปรอบๆเพื่อสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว
เขามองเห็นทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวนอนเรียงกันเป็นระเบียบ ทุกคนนอนกันบนเตียงของตัวเองและหลับกันอยู่ เขาพยายามจะปลุกชายคนนึงซึ่งนอนหลับข้างๆเขา
“นี่!เพื่อนตื่นหน่อยเร็ว’’เขาพูดด้วยเสียงเบาๆและแหบพร่าพร้อมกับเขย่าตัวชายข้างๆเบาๆพร้อมกับพูดซ้ำอีกครั้งเพื่อพยายามจะปลุกเขา
“หลับเป็นตายเลยแฮะ”เขาพูดคนเดียวด้วยเสียงแหบๆที่เริ่มจะกลับมาชัดอีกครั้ง
ในขณะที่เขาพยายามจะปลุกคนอื่นเขาก็ได้ยินเสียงชายคนนึงพูดขึ้นมาจากห้องทางหน้ารถดูเหมือนเขากำลังพูดกับใครบางคน“ครับ!เราจะรีบไปให้ถึงโดยเร็วที่สุด”เขาพูดด้วยเสียงเคร่งเครียด
ในขณะที่เขากำลังตั้งใจฟัง ก็มีเสียงชายคนนึงเรียก เขาหันหน้าไปมองหน้าชายคนนั้น
“เฮ้!เพื่อนนอนลงเร็ว อีกแปปเดียวไอ้หมอนั่นก็จะเดินออกมาแล้วนะ”เขาพูดด้วยเสียงเบาๆเพื่อไม่ให้ใครได้ยิน เขาพยักหน้าให้ชายคนนั้นก่อนจะล้มตัวนอนและปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่ห้วงภวังค์พร้อมกับสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแต่เขาพยายามจะไม่คิดมาก
และหลับไปในที่สุด ในขณะเขาหลับเขาฝันเห็นตัวเองโดนชายแปลกหน้าจับกดลงกับเตียง หนึ่งในนั้นเป็นทหารที่พกปืนไว้ซึ่งเขาสะพายปืนไว้ข้างหลังและนักวิทยาศาสตร์อีก
2 คน คนนึงเป็นผู้หญิงอีกคนเป็นผู้ชาย เขาในตอนนั้นไม่ต่างอะไรกับสัตว์ป่าพยายามจะหนีด้วยการผลัก
หรือทำทุกๆอย่างเท่าที่จะทำได้และเขาก็ตะโกนออกมาอย่างน่ากลัวอยู่คำเดียว“พวกแกทำได้ยังไงส่งเพื่อนฉันไปตายได้ยังไง’’ซ้ำไปซ้ำมาอยู่เรื่อยๆ เขาในตอนนี้ก็นึกกลัวตัวเองอยู่ไม่น้อยแต่เขาก็สงสัยว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น“ฉีดยาเขาซิเร็ว!”ทหารคนนึงตะคอกกับชายและหญิงคู่นั้น หญิงคนนั้นรีบวิ่งไปหยิบเข็มฉีดยามาในหลอดยานั้นมียาสีฟ้าอยู่ในนั้นเธอบอกให้ชายที่เป็นทหารจับเขาไว้ให้แน่นๆก่อนที่จะฉีดยาลงตรงข้อมือเขา
ทันทีที่ยาหมดหลอดเธอก็พูดออกมาด้วยเสียงเบาๆพลางจับมือเขาไว้แน่น“ฉันขอโทษนะแซม!ขอให้เธอปลอดภัยนะ”ก่อนที่เขาจะค่อยๆหลับลงไป ปัง!
ปัง! เสียงเคาะประตูเหล็กดังขึ้นมา ซึ่งมันขัดขวางการนอนของเขาที่ถึงฝันมันอาจจะจบลงแล้วแต่เขาอยากใช้เวลาคิดอีกซักหน่อย“นี่ไอ้หนู!แกจะหลับเป็นตายรึไงวะฮะ”เขาพูดเสียงเคร่งเครียด
ชายหนุ่มคนนี้ค่อยๆลืมตาและรู้แล้วว่าตัวเองอาจจะชื่อ ‘แซม’
เขารีบยกตัวเองตัวเองขึ้นและเดินไปที่ประตูเหล็ก เขามองไปทั่วประตูเพื่อหาที่เปิด
และสิ่งเดียวที่เขาพบและคิดว่ามันน่าจะเปิดไอ้ประตูเหล็กนี่ได้คือท่อเหล็กสั้นที่มีกรอบเป็นวงกลม
มันมีคำเขียนว่า ‘บิดไปทางซ้ายเพื่อเปิด’ เขาก็บิดมันไปทางซ้ายเมื่อบิดไปสุด มันก็ส่งเสียงออกมาเสียงดัง แก๊ก! และตามด้วยเสียง ฟู่! หลังจากนั้นประตูก็เปิดเข้ามาด้านในอัตโนมัติ“หัวไวมากไอหนูใช้เป็นเร็วดีนี่เราหน่ะ”ชายข้างหน้าเขาพูดด้วยเสียงที่สบายขึ้นนิดหน่อย หน้าตาของเขาดูสะอาดสะอ้านดีและตรงคางของเขามีรอยหนวดที่พึ่งโดนโกนไปบนริมฝีปากก็เช่นกัน
“เอาหล่ะเข้าเรื่องเลยนะ”เสียงเขาเริ่มเคร่งเครียดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับก้มหัวลงไปมองกระดาษที่โดนหนีบอยู่กับที่รอง
ข้างล่างกระดาษที่อยู่บนสุดยังมีกระดาษแบบเดียวกันอีก 5-10 แผ่น ชายข้างหน้าเขาเริ่มพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมา“
“ เริ่มด้วยคำถามง่ายๆเลย
เธอชื่ออะไร? ’’
คำถามนี้เป็นคำถามที่เขาอยากรู้เช่นกันเขาจึงตอบไปตามความเป็นจริง ““ ไม่รู้ครับ ’’ ชายคนนั้นมีรอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นมา
แล้วก้มหัวลงอีกครั้งพร้อมกับหยิบปากกาจากกระเป๋าเสื้อตนเองขึ้นมาแล้วขีดเป็นรูปถูกลงไปในช่องเล็กๆ
บนกระดาษใบนั้น ก็จะออกเสียงออกมาเบาๆว่า “ ดี ’’“เขางงกับเสียงจากชายข้างหน้าว่าเขาลืมชื่อตัวเองแต่มันกับดีทั้งๆที่เขาคิดว่ามันหน้าอายจะตายแม้แต่ชื่อตัวเองเขาก็ยังจำไม่ได้เลย
“““แล้วเรื่องอื่นๆ
หล่ะ เช่น พ่อแม่ พี่น้อง บ้านเกิด หรือ คนรัก
อะไรประมาณนั้นหน่ะจำได้ไหม?” คำถามนี้ยิ่งทำให้เขาอายเพิ่มขึ้นแต่ก็เศร้าไปพร้อมๆกันที่ตัวเองจำเรื่องพวดนี้ไม่ได้แม้กระทั่งพ่อแม่ที่ให้กำเนิดเขา
เขาจึงตอบกลับไปเหมือนเดิม “ยังไม่รู้เหมือนเดิมครับ ’’ ด้วยน้ำเสียงที่เศร้าขึ้น
แต่ชายตรงหน้าดูจะอ่านใจเขาออกจึงพูดด้วยเสียงที่พยายามจะปลอบพร้อมกับตบไหล่เขา “ไม่เป็นไรหรอกไอ้หนูถ้าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันจบแล้วเราจะคืนเรื่องทั้งหมดให้นายเอง
” ทันทีที่ชายข้างหน้าพูดจบ เขาก็ทวนคำขึ้นมาด้วยความสงสัย
น้ำเสียงที่เศร้ากับถูกแทนที่ด้วยน้ำเสียงที่สงสัยแทน “ถ้าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันจบแล้วงั้นเหรอ?”
เขาเริ่มขมวดคิ้วแล้วจับจ้องไปที่ชายคนข้างหน้าเพื่อพยายามจะเค้นเรื่องที่เขาพูดเมื่อครู่
“
เอ่อ...ช่างไอ้เรื่องเมื่อกี่แล้วกัน ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องรู้คือ เธอชื่อ แซม
เทรเชอร์ อายุ 21 ปี ” เขาเลิกขมวดคิ้วและตาเขาก็เริ่มเบิกกว้างขึ้น
เขาตื่นเต้นและดีใจขึ้นมานิดนึงที่ได้รู้ชื่อตัวเองที่ตรงกับในฝันและอายุของเขา “ เราชื่อแซมจริงๆด้วย ” เขาคิดในใจ
“ นี่ไอ้หนูชั้นรู้ว่านายดีใจแต่ช่วยฟังต่อหน่อยนะ
คราวนี้ลองดูบนแขนนายสิ ”เขาเอามือชี้มาที่แขนของแซม
แซมยกมือตัวเองขึ้นมาเมื่อโดนชี้มาที่แขนเขา
“ เลขบ้า!อะไรวะเนี่ย“ เขาอุทานออกมาเบาๆด้วยความตกใจเล็กน้อยบนแขนเขามีลอยสักตัวเลขอยู่
8 ตัวมีเลข 26102009 และข้างบนตัวเลขที่ห่างออกไปนิดนึง
มีชื่อเขาเขียนอยู่ แล้วชายข้างหน้าก็เริ่มพูดด้วยเสียงเครียดอีกครั้ง
“ เจ้านี่คือ เลขประจำตัวนายมันสำคัญมากนะเลขนี่จะแสดงว่านายเป็นพวกเราและนายจะปลอดภัยถ้าอยู่กับเรา
” แซมเอามือลงแล้วพยักหน้าให้เขา
“ได้เวลาแล้วไปกันเถอะพวกเขารอนายอยู่เเซม ” เขาหันหลังแล้วเดินไป แซมเริ่มสงสัยกับคำว่า
‘ พวกเขา ’ ที่ชายคนนั้นพูด แต่ตอนนี้เขารู้ว่าตัวเองควรเดินตามเขาไปเพราะไม่แน่ที่ที่จะไปต้องมีคำตอบให้กับความสงสัยของเขาแน่ๆ
เขาปัดความสงสัยออกและออกตัวเดินไป
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น