ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ◑ †нє ∂ιмεитισи ◐

    ลำดับตอนที่ #3 : 3rd ❀ New Life.

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 54


    Supercell
     3rd

    New Life

     

    ตึก ตึก ตึก ตึก

    เสียงฝีเท้าก้าวย่ำอย่างสม่ำเสมอบดขยี้ลงบนหินก้อนกรวดชิ้นเล็กชิ้นน้อยตามพื้นถนน

    แสงแดดสาดส่องให้ความอบอุ่นแก่ทุกสรรพสิ่งบนผืนดิน แต่อากาศกลับเย็นสบายมีลมพัดอย่างพอเหมาะ หากมีใครบอกพวกเขาว่านี่เป็นสวรรค์ พวกเขาจะเชื่อหมดใจเลยทีเดียว

                ทุกอย่างช่างดูสมบูรณ์แบบอย่างที่เฟท เฟรนเชียร์คนนั้นกล่าวไว้จริงๆ ที่นี่เหมาะแก่การเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทั้งอากาศดี ผู้คนเป็นมิตร ไม่มีการแบ่งแยก ไม่มีการแบ่งชนชั้น ไม่มีอาชญากรรม ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ที่นี่มันยิ่งกว่าสวรรค์ดีๆนี่เอง

                ร่างทั้งสี่เคลื่อนตัวตามทางที่ได้ระบุในแผนที่มาจนถึงที่หมาย..

                ..บ้านสีขาวหลังค่อนข้างใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า รอบๆบ้านมีต้นไม้ประปรายพอดูร่มรื่นและดูไม่รกหูรกตามากเกินไปนัก รั้วสีขาวเรียงยาวอยู่หน้าบ้าน ก่อนจะสิ้นสุดลงทางด้านขวาที่ซุ้มโค้งสำหรับเป็นทางเข้าหน้าบ้าน

    ส่วนริมด้านซ้ายนั้นเป็นซุ้มโค้งที่มีมีประตูบ้านระดับเตี้ยประมาณประมาณเลยเอวเล็กน้อยสีขาวสะอาด เปิดแง้มนิดๆราวกับรอต้อนรับพวกเขา พวกเขาทั้งสี่เดินเข้าไปพลางมองซ้ายขวาอย่างตื่นเต้น

                มันนำไปสู่สนามหญ้าสีเขียวสดใสข้างบ้าน แผ่นหินทอดเป็นทางยาวจากประตูเข้าไปสู่ด้านข้างของตัวบ้าน

                ประตูกระจกด้านข้างบ้านถูกเลื่อนเปิดออก...

    หากว่าข้างนอกยังดูอลังการงานจนทำให้พวกเขาตื่นตาตื่นใจขนาดนี้แล้วล่ะก็ ข้างในบ้านนั้นยิ่งทำให้พวกเขาตื่นเต้นกับบ้านใหม่และชักรักการเริ่มชีวิตใหม่เข้าไปมากขึ้นทุกที

                พวกเขาเดินเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่โต ลูน่าและเรนนี่ทุ่มตัวลงบนโซฟาทันที ใบหน้าบ่งบอกถึงความสุขใจอย่างเต็มปรี่

                “วะฮู้ว! ถ้าให้ตายตอนนี้ล่ะผมก็ยอมน้า..~

                “ถูกต้องเลยเรนนี่!” ลูน่ารับ พร้อมทั้งแปะมือกับเรนนี่อย่างถูกใจ ก่อนจะคว้ารีโมทขึ้นมาและกดปุ่มเปิดทีวีที่ติดอยู่ผนังดูอย่างมีความสุข

                ส่วนทางด้านรูนเน่และเอลน่านั่นยังคงสำรวจบ้านกันต่อไป เดินไปสักพักพวกเขาก็เจอกับห้องครัวหน้าตาสวยหรู ประกอบด้วยเครื่องครัวครบครัน มีโต๊ะกินข้าวตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง

                จนมาถึงห้องกินข้าวแบบเป็นทางการอีกห้อง มีโต๊ะยาวๆที่เรียงล้อมด้วยเก้าอี้มากมายตั้งอยู่กลางห้อง เชิงเทียนสวยหรูตั้งอยู่กลางโต๊ะ รอบๆห้องตกแต่งอย่างสวยงาม

                ใกล้ๆกันกับห้องครัวนั้น ผนังด้านหนึ่งเต็มไปด้วยชั้นที่วางหนังสือมากมาย เว้นตรงกลางไว้สำหรับวางโต๊ะที่มีโคมไฟตั้งอยู่ มันคือส่วนของห้องทำงานนั้นเอง

                จนมาถึงห้องโปรดของเด็กสาวนามรูนเน่ กราเซียส โกโคลาดา ผนังทั้งสองด้านล้วนเป็นชั้นที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือมากมายจนรูนเน่อดอ้าปากค้างออกมาไม่ได้ มีโต๊ะตัวใหญ่กับเก้าอี้วางอยู่ตรงกลางห้อง และเก้าอี้อีกสองสามตัวระเกะระกะอยู่แถวนั้น ผนังด้านหนึ่งเป็นผนังเปล่าๆที่มีภาพวาดติดอยู่สองสามภาพ และผนังอีกด้านหนึ่งที่เหลืออยู่นั้นเป็นหน้าต่างที่แสงแดดสามารถส่องแสงเข้ามาให้ความสว่างแก่คนที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ได้อย่างเต็มที่

                “เดี๋ยวรูนขอดูที่นี่ก่อนนะคะ.. พี่เอลน่าเดินดูไปก่อนเลย”

                รูนเน่พูดแบบเหม่อลอยเล็กน้อย สายตาไม่แม้แต่จะหันมามองพี่สาวของตนขณะพูดด้วยซ้ำ เพราะดวงตาและความสนใจของเธอถูกจำนวนหนังสือมหาศาลบนผนังขโมยไปจนหมดเรียบร้อยแล้ว นิ้วเรียวเล็กไล้ตามสันหนังสือเดินไล่ดูเรื่อยๆอย่างสนใจ เอลน่าพยักหน้าเล็กหน้าเป็นเชิงรับรู้ แม้จะรู้ว่าคนพูดไม่ได้ใส่ใจในคำตอบของเธอเลยก็ตาม

                พี่สาวคนโตสุดยังคงเดินสำรวจบ้านต่อไปอย่างสนอกสนใจ เธอเดินขึ้นชั้นสองของบ้านและพบห้องนอนสี่ห้อง มีลักษณะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงอย่างประหลาด ที่ยิ่งกว่านั้นคือ แต่ละห้องตกแต่งได้ถูกต้องตามรูปแบบและความชอบของแต่ละคนสี่พี่น้องราวกับรู้ล่วงหน้าว่าพวกเขาจะมาอยู่ที่นี่

                ในแต่ละห้องนอนมีห้องน้ำในตัว และนอกเหนือจากห้องน้ำที่ว่าสุดยอดแล้ว ยังมีห้องแต่งตัวอีก เป็นทางเดินกว้างลึกเข้าไปในซอกหนึ่งของห้องนอน ด้านซ้ายขวามีตู้ที่มีเสื้อผ้าเรียงเป็นแนวยาว รองเท้า และอื่นๆอีกมากมาย เอลน่าถึงกับอึ้ง เกินมาเธอยังไม่เคยเจออะไรหรูขนาดนี้มาก่อน ยิ่งมันมาเป็น ของเธอแล้วด้วยล่ะก็ เธอยิ่งแทบไม่เชื่อสายตา

                เดินออกมานอกห้องนอนนั้นเป็นระเบียงที่เชื่อมติดกันหมดทั้งสี่ห้องนอน และเมื่อมองลงมาข้างล่าง ซึ่งเป็นส่วนของด้านข้างบ้านอีกข้างหนึ่งนั้นเป็นเหมือนลานเล็กๆ เหมือนลานสำหรับจัดพบปะสังสรรค์จัดงานรื่นเริง

                เอลน่าเดินลงมาสำรวจมันอย่างชัดเจน ในหัววาดแผนจัดงานปาร์ตี้ขึ้นมาทันที

                เดินเลียบจากด้านข้างบ้านไปยังด้านหลังบ้าน  เสาทุกต้นรวมไปจนถึงข้างบนหัวเธอนั้นมีแต่เถาวัลย์ต้นไม้เลื้อยปกคลุมไปหมด ต้นไม้ตั้งแต่ใหญ่จนถึงเล็กวางเรียงตั้งแต่ริมซ้ายจนถึงริมขวาเหมือนเรือนตนไม้ย่อมๆยังไงยังงั้น เอลน่ายิ้มแย้มมีความสุขแล้วเอื้อมมือไปแตะดอกไม้ดอกนึงเบาๆ

                “เจ้าดอกไม้.. ต่อไปนี้ฉัน.. เอ้ย .. ข้าจะมา.. อยู่กับเจ้าแล้วนะ” ลมพัดวืบนึง.. ดอกไม้ผงกหัวเหมือนรับคำพูดนั้น ยิ่งทำให้เอลน่ายิ้มแย้มเข้าไปใหญ่ ก่อนจะมองไปรอบๆ ยิ้มกว้าง ได้เวลาเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว..

                “ฉันจะมาอยู่ที่นี่แล้วนะ.. ฝากตัวด้วยล่ะ.. บ้านหลังใหม่ของฉัน”

     

                .

                .

                .

                .

                .

                “พี่เรนนี่ พี่ลูน่า พี่เอลน่า กินข้าวค่า”

                รูนเน่ร้องเรียกมาจากในห้องครัวพร้อมเคาะช้อนเร็วน้อยเป็นเชิงเรียกความสนใจ ลูน่า เรนนี่ และเอลน่าละสายตาออกมาจากทีวี แล้วผละตัวออกจากโซฟาอย่างขี้เกียจ

                อาหารมื้อแรกเริ่มด้วยสเต็กเนื้อกับมันฝรั่งอบและสลัด เรนนี่กับลูน่าซัดอาหารทั้งหมดหายไปไหนพริบตาราวกับไม่เคยกินอาหารมาก่อน ทิ้งให้เอลน่าและรูนเน่มองตามและอ้าปากค้างด้วยความทึ่งจัด ถึงแม้จะรู้ว่าพี่น้องสองคู่นี้ตะกละกันอย่างกับอะไรดี แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะน่ากลัวขนาดนี้ และเมื่อรู้สึกว่ามีสายตาของใครบางคนจับจ้องมาที่พวกเขา ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมา แล้วมองไปที่จานที่ยังมีอาหารอยู่เต็มจานของทั้งสองคน ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาพร้อมๆกันทั้งอาหารเต็มปากว่า

                “ไอ่อินอ่อ ? เอ้าอ๋ออะ!”

                “ห..หา?”

                เรนนี่กลืนอาหารลงคอไปหมดในพริบตาเดียว ตามด้วยลูน่า

                “ไม่กินหรอ?” เรนนี่พูด “เค้าขอนะ!” ลูน่าต่อ

                ทั้งสองเอื้อมมือมาหมายจะหยิบจานของทั้งสองจริงดั่งที่พูด

                รูนเน่และเอลน่ารีบปกป้องอาหารมื้อแรกของตัวเองทันที เอลน่าดึงจานกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งรูนเน่ที่ตีมือเรนนี่เบาๆ

                “มากไปแล้วค่ะ แต่ถ้าอยากกินอีกก็ไปเอาตรงนั้นสิคะ ยังมีอีกเยอะ” รูนเน่ว่าพลางชี้ไปทางส่วนทำอาหารที่มีอาหารวางอยู่

                “สวรรค์!” เรนนี่ตะโกนแล้วปรี่เข้าไปตักมาใส่จานทันที ลูน่าก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน

                พี่สาวคนโตและน้องสาวคนสุดท้องต่างมองพี่และน้องคนรองอย่างอึ้งๆปนเอือมๆ

                “เออไอ๋”

                “กลืนก่อนค่ะพี่เรน”

                เรนนี่กลืนอาหารเข้าไปเอื้อกใหญ่ แล้วพูดใหม่

                “เออใช่ ว่าแต่รูน.. ทำอาหารเป็นด้วยเรอะ?”

                รูนเน่สะอึกนิดนึง ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “แฮะๆ.. ใครว่ารูนทำล่ะคะ รูนเจอมันทำสำเร็จรูปแล้วอยู่ในตู้เย็นอ่ะคะ.. เลยเอามาอุ่น .. แฮะๆ”

                ลูน่าสำลักอาหารออกมาทันที ก่อนจะคว้าน้ำมาดื่มอึกใหญ่แล้วตบอกนิดๆก่อนจะกินต่อ

                “ยังไงก็อร่อยแบบขึ้นสวรรค์อยู่ดีล่ะว้ะ แถมสดยังกะของใหม่อีกต่างหาก”

                “จริงๆพี่ลูน่า เพราะงั้น .. ถ้าพี่เอลน่ากับรูนเน่ไม่คิดจะกินจริงๆ ผมขอนะ!” พูดพลางทำตาเป็นประกายจนคนมองต้องอดหลุดขำออกมาไม่ได้

                “เรื่องสิ่! เนาะรูนเน่

                “ใช่ค่ะ เพราะรูนก็หิวเหมือนกัน ขอโทษด้วยนะค๊าพี่เรน~” ลากเสียงยียวนจนเรนนี่ต้องอดยู่หน้าใส่น้องสาวเล็กๆไม่ได้ แล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ

                คราวนี้เป็นทีของลูน่าที่เงยหน้าจากอาหารขึ้นมาพูดคุยบ้าง

                “ว่าแต่.. ที่นี้สุดยอดไปเลยนะ เจ๋งสุดๆอ่ะ!”

                “นั่นสิ่.. ตอนแรกที่เข้ามาเห็นดูเป็นเมืองชนบทๆ.. คันทรี่ๆ ไม่นึกว่าบ้านจะออกมาสวยหรูขนาดนี้”

                “ใช่มะ อยากรู้จังว่าบ้านคนอื่นเค้าเป็นยังไงกันบ้าง” เรนนี่เงยหน้าจากอาหารขึ้นมาเสริมเล็กน้อย

                “รู้สึกเหมือนที่เราเข้ามาจะเป็นตัวเมืองนะคะ ส่วนนี่เป็นส่วนของบ้านพักของพวกคนที่มาจากโลกคู่ขนานน่ะค่ะ.. จะห่างออกมาจากตัวเมืองหน่อยนึง แต่ละบ้านจะห่างกันเป็นระยะๆ ประมาณว่ามีพื้นที่ของบ้านตัวเองที่จะไม่ไปล่วงเลยส่วนของคนอื่นน่ะค่ะ..”

                ทุกคนหันขวับไปมองรูนเน่อย่างทึ่งๆทันที

                “พูดยังกะอยู่มาเป็นปี”

                รูนเน่ขยิบตาเล็กๆให้ลูน่า “การใช้เวลาหลายชั่วโมงอยู่ในห้องหนังสือก็ทำให้ได้อะไรมาเยอะนะคะ”

                ทุกคนหัวเราะแหยๆออกมา .. พลางนึกถึงจำนวนหนังสือในห้องนั้นแล้วมองหน้าน้องสาวตัวเอง..

                น้องสาวพวกเขานี่คนหรือเปล่าเนี่ย?!’

                “ว่าแต่ ..พวกเราต้องใช้สรรพนามโบราณๆด้วยนี่ค่ะ เรามาลองดูกันมั้ยคะ จะได้ชินๆ”

                เรนนี่ ลูน่า เอลน่าพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย แล้วเรนนี่จึงกระแอมเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า

                “ข้า.. อยากกินของหวานชะมัดเลยย~

                ทุกคนยกเว้นลูน่ามองหน้าเรนนี่อย่างทึ่งปนเอือม.. เมื่อกี้อาหารที่เขาสวาปามไปตั้งเยอะนั่นยังไม่พออีกรึไง?!

                ตรงกันข้ามกันกับลูน่า ที่พยักหน้ารัวๆอย่างเห็นด้วยจัด “นั่นสิ ว่าแต่ในตู้เย็นจะมีของหวานมั้ยนะ?”

                สองพี่น้องลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินตรงไปที่ตู้เย็นทันที่ ก่อนจะส่งเสียงร้องกันอย่างตื่นเต้นเมื่อพบว่าในตู้เย็นต่างอัดแน่นไปด้วยอาหารและของหวาน

                สักพักนึง ทั้งสองเดินกลับมาพร้อมจานขนมหวานมากมาย

                เอลน่าตัดสินใจเมินน้องสุดตะกละทั้งสองแล้วหันไปหารูนเน่ “ว่าแต่ไอ้พวกคำว่าพี่ น้องอะไรอย่างงี้ใช้เหมือนเดิมมั้ย รูนเน่?”

                เด็กสาวผู้เป็นดั่งสมองของตระกูลส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วตอบว่า

                “ไม่ค่ะ สำหรับพี่สาวเราจะเรียกว่าพี่หญิง ส่วนน้องสาวเรียกว่าน้องหญิง พี่ชายเรียกท่านพี่ ..ส่วนถ้าเป็นน้องชายนี่น่าจะเรียกชื่อห้วนๆได้เลยมั้งค่ะ”

                “อืมม.. งั้นก็เป็น พี่หญิงเอลน่า.. พี่หญิงลูน่า แล้วก็ท่านพี่เรนนี่สินะ ?” เอลน่าทวนสรรพนามของรูนเน่ให้ฟัง เด็กสาวพยักหน้ารับ

                ลูน่าสำลักขนมพรวด ก่อนจะส่ายหน้าแล้วโบกมือไปมา

                “เรียกพี่หญิงลูน่าแล้วรู้สึกแปร่งๆ เรียกเค้า เอ้ย! ข้าว่าท่านพี่ลูน่าได้มะ?” ลูน่าเปลี่ยนสรรพนามฉับพลันเมื่อเอลน่าส่งสายตาคมปราดมาหา

                “อย่างงั้นก็ได้ค่ะ” รูนเน่แย้มยิ้มนิดๆ ดูเหมือนเธอจะดูเป็นคนที่ปรับตัวกับภาษาใหม่ได้เร็วที่สุด

                “ไว้ค่อยฝึกต่อพรุ่งนี้ล่ะกัน .. ผมชักง่วงแล้ว.. ไปนอนก่อนน้า.. ห๊าวว...”

                เด็กชายว่าพลางยกจานทั้งหมดไปไว้ที่อ่างล้างจาน ก่อนจะเดินขึ้นห้องนอนหายไป

                “งั้น.. ถ้าใครอยากจะหารูน อยู่ที่ห้องสมุดนะคะ”

                รูนเน่ว่าแล้วเดินหายไปอีกคน

                “ถ้างั้น..” เอลน่าพูดก่อนจะสะดุดประโยคไว้แค่นั้น เมื่อเห็นสายตาอ้อนวอนจากน้องสาวคนรองที่ส่งสายตาประมาณว่า.. อย่าทิ้งกันไปอีกคนเลย.. แล้วจึงเมินหน้าหลบสายตานั้น กระแอมเล็กๆแล้วพูดว่า

                “ข้าจะไปดูต้นไม้ข้างหลังซะหน่อย ไปล่ะ บาย”

                ความหลังสุดท้ายลอยหายไป.. ลูน่าคิดทั้งน้ำตาที่ไหลนองอยู่ในความคิดของเธอ ก่อนจะตัดสินใจ..

                “เซ็งชะมัดด ออกไปเดินเล่นในเมืองดีกว่า! เผื่อจะมีอะไรสนุกๆ~

     

                .          

                .

                .

                .

                .

                “ฮืมม..ฮื้มม..~”

                ร่างสูงเพรียวของเด็กสาวเดินกระโดดโลดเต้นไปตามทางเดิน ฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดี มองซ้ายมองขวาไปพลางหาอะไรน่าตื่นตาตื่นใจดู

                ผู้คนมากมายเดินสวนเธอไป และตอนนี้เธอก็กลมกลืนกับผู้คนทั่วไปด้วยชุดพื้นเมืองที่ใส่แล้วค่อนข้างสบายตัวทีเดียว

                เด็กสาวแวะข้างทางบ้าง ดูสินค้าต่างๆบ้าง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ         

                “ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยแฮะ..”

                ลูน่าคิดเซ็งๆ เดินเล่นต่อไปเรื่อยๆจนไปสะดุดตากับร้านแห่งหนึ่ง..

                ‘Sweet Mania’

                ทันใดนั้น .. ความคิดแรกที่แว้บเข้ามาในหัวของเธอคือ ..

                กินก่อนล่ะกัน อย่างอื่นค่อยว่ากัน

                คิดได้ดังนั้น เด็กสาวก็วิ่งร่าเข้าไปในร้านอย่างอารมณ์ดีในทันที..

     

                กริ้งกริ้ง

                เสียงกระดิ่งที่ประตูกระทบกันเมื่อมีคนเปิดประตูเข้ามา ในร้านว่างเปล่า แต่กลับดูไม่เงียบเหงา คลอด้วยเสียงเพลงนุ่มๆชวนให้สบายใจ..

                ร่างของชายหนุ่มวัยกลางคนนั่งอยู่ที่เค้าท์เตอร์ กำลังอ่านหนังสือบางอย่างอยู่อย่างใจจดใจจ่อ

                “อ๊ะ สวัสดีหนูน้อย รับอะไรดีจ้ะ” คุณลุงหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ ถามด้วยท่าทางใจดี ดวงตาสีเขียวมรกตด้านหลังแว่นกลมๆเล็กๆดูเป็นมิตร หัวกลมๆล้านๆมีผมโปะๆอยู่แค่ด้านข้างดูคลับคล้ายคลับคลากับใครบางคน

                เอ.. เหมือนคุณลุงอะไรซักอย่างที่โลกเรานะ.. ที่อยู่หน้าร้านเคเค.. เคไรว้ะ.. เออช่างมันเหอะ

                เด็กสาวตัดความคิดในหัวทิ้งไป หันมาสนใจกับขนมหวานน่าตาน่ากินที่คุณลุงนำมาให้

                “ลุงว่าหนูน่าจะชอบนะ.. ทานให้อร่อยล่ะ” คุณลุงยิ้มหวานให้

                ลูน่ามองขนมหวานด้วยตาเป็นประกาย กล่าวขอบคุณก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาตัก รสหวานปนจืดของวิปครีมแล่นผ่านลิ้นไปเป็นอย่างแรก ตามด้วยรสหวานหอมของกล้วย คาราเมล และโอริโอ้กรอบๆบดละเอียดที่อยู่ด้านล่างสุด เด็กสาวหลับตาพลางอิ่มเอมไปกับรสชาติแสนอร่อยของบานอฟฟี่พาย ก่อนจะลืมตาสดใสเป็นประกายแวววาวขึ้นมาสบกับคุณลุง

                “อร่อยมากๆเลยค่ะ! คุณลุงทำเองหรอคะ?”

                คุณลุงคนนั้นพยักหน้ายิ้มๆ

                “ว้าวววว.. สุดยอดเลย หนูก็อยากทำให้ได้มั่งจัง.. แต่หนูคง .. เก่งแค่กินอย่างเดียว แฮะๆ” พูดพลางเกาศรีษะแก้เขิน มืออีกข้างก็ถือช้อนอมไว้ไม่ยอมปล่อย

                คุณลุงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นอย่างชอบใจ ก่อนจะเอ่ยปากถาม

                “หนูนี่น่ารักจริงๆ ว่าแต่หนูชื่ออะไรจ้ะ?”

                “หนูหรอ? หนูชื่อลูนาเรีย มิคาเอล ไซรอส โกโคลาดา ค่ะ ~ ยาวเนาะ แต่เรียกหนูสั้นๆว่าลูน่าก็พอค่ะ!” ว่าพลางยิ้มกว้าง “ว่าแต่คุณลุงล่ะ ชื่ออะไรคะ?”

                “ลุงชื่อท็อฟฟี่จ่ะ”

                “ว้าวว ชื่อน่ากิน เอ้ย! สุดยอดไปเลย ไม่น่าล่ะถึงทำขนมหวานอร่อยแบบนี้ งั้นวันหลังลูน่าจะมากินขนมร้านคุณลุงบ่อยๆนะคะ!”

                คุณลุงหัวเราะ ชักเริ่มรู้สึกถูกชะตากับเด็กสาวที่เพิ่งเคยเจอกันเพียงแค่ครั้งแรกคนนี้

    “ถ้าอย่างงั้น.. ลุงจะรอหนูลูน่าล่ะกันนะ ฮ่าๆๆ”

               

                .

                .

                .

                .

                .

                “เฮ้ออ อิ่มจังเลยย ~ อร่อย ~ มีความสุขสุดๆไปเล๊ยยย ~!”

                ลูน่าร้องตะโกนอย่างมีความสุขขณะกำลังเดินกระโดดโลดเต้นกลับบ้าน

                ดวงตะวันเริ่มคล้อย ใกล้จะตกดิน ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้ม..

                “ใกล้มืดแล้วแฮะ รีบกลับบ้านดีกว่า..”

                พูดพร้อมทั้งเริ่มสาวเท้าให้เร็วขึ้น “ฮืมม~ ฮื้มม~” พร้อมฮัมเพลงต่อไปอย่างอารมณ์ดี

     

                เมื่อเริ่มเข้าเขตที่พัก ร่างกายอันเหนื่อยล้ามาทั้งวันก็เริ่มเรียกร้องหาเตียงนอนและผ้าห่มนุ่มๆ ดวงตาคล้อยคลับคลาเหมือนจะปิด ..

                “เฮ่ยอย่าเหยียบนะ!!”

                เสียงบางอย่างดังขึ้นมาจนเด็กสาวสะดุ้ง ลูน่าหันไปหาต้นเสียง แต่ยังไม่ทันจะเจอ เธอก็ค้นพบว่าร่างของเธอกำลังเอนคว่ำลงไปข้างหน้า รู้สึกถึงสัมผัสอะไรบางอย่างที่ปลายเท้า อะไรบางอย่างที่เธอเผลอเดินไปสะดุด

                ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก

                เสียงหัวใจที่เต้นระรัวด้วยสัญชาติญาณความกลัว

                แต่ทำไม.. เสียงหัวใจมันถึงได้ดังขนาดนี้ล่ะ?

                ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก

                เสียงดังเข้ามาใกล้ทุกที..

                ไม่สิ่.. มันเป็นเสียงวิ่งนี่นา..

                “เฮ่ย!!”

     

                แล้วสติเธอก็หลุดลอยหายไป...

     

    เสร็จจจ!!
    แต่งเสร็จตอนประมาณเกือบตีห้า.. ตรวจทาน(แบบง่วงๆมึนๆ)อีกซักพัก..
    สรุปคือตอนนี้เบลอมาก - -''
    บ้านหรูเนาะ-.,-
    ตอนแรกว่าจะให้มันเป็นบ้านต้นไม้ธรรมดาล่ะ..
    แต่ตอนหาอิมเมจบ้าน ไปเจอบ้านของคนๆนึง แบบบ ถูกใจมากก ><
    โกโคของเราเลยได้อานิสงค์บ้านสวยหรูนี่ไป -.,-b
    คนอีกโลกนึงใจดีเนาะ ' ^ ')b ก๊ากกกกกกกกกก
    เกิดอะไรขึ้นกับลูน่าหว่าา .. ' . . ' )
    โปรดติดตามตอนต่อไป ! xD
    {ดูตัวอย่างตอนต่อไปได้ที่หน้าบทความนะเน้ ' ^ ')b}
    เจอกันตอนหน้าฮับ :3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×