คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Sherlock 13 : A family
หลายวันมานี้ไม่มีข่าวการฆาตกรรมปริศนา ไม่มีคดีสะเทือนขวัญ และไร้ซึ่งการก่ออาชญากรรมรุนแรงใดๆ ทั่วลอนดอนคล้ายจะสงบสุข กลุ่มเมฆฝนและมรสุมเคลื่นตัวผ่านไปเข้าสู่หน้าร้อนอย่างเต็มรูปแบบ
" มาแล้วหรือคะ " คริสตินกล่าวทักทายจอห์นที่นอนหลับอยู่บนโซฟาที่ประจำของเขา
" อ้อ --- อรุณสวัสดิ์ครับคริสติน " จอห์นกล่าวทักทายพร้อมลุกขึ้นจากการนอนเอนหลังของเขา
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ "
" อรุณสวัสดิ์ครับจอห์น " เอ็มมิทกล่าวเดินงัวเงียออกมาจากห้องนอนของจอห์น ที่ยามนี้กลายเป็นของคริสตินไปเสียแล้ว เจ้าหนูขยี้ตาและที่ตัวยังคงมีผ้าห่มคลุมปิดชิดราวกับว่าเป็นผ้าคลุมไหล่
" ไงเจ้าหนู "
" เอ็มมิท อย่าเอาผ้าห่มมาลากสิ " คริสตินบ่นพลางเดินไปดึงเอาผ้าห่มออกจากตัวเจ้าหนูเอ็มมิทที่ยังคงเดินสะโหลสะเหลตื่นไม่เต็มตา ครู่หนึ่งเจ้าหนูก็เดินเตาะแตะเข้าห้องน้ำไปขณะที่คริสตินจัดการพับผ้าห่มเข้าที่เข้าทางและนำกลับไปไว้ในห้องนอนตามเดิม
....
............
คล้อยเข้าช่วงสายแดดอ่อนๆ เริ่มส่องผ่านบานหน้าต่าง อาหารเจ้าถูกจัดเตรียมบนโต๊ะอาหารภายในครัว ทว่าเชอร์ล็อกก็ยังไม่ลุกจากเตียง
" ฉันจะไปปลุกเชอร์ล็อกก่อนนะคะ " คริสตินกล่าวและเดินออกจากประตูห้องครัว
ทว่าเมื่อจอห์นได้ยินดังนั้นเขาวางช้อนลงบนโต๊ะอาหารอย่างรีบร้อน มิหนำซ้ำยังแทบจะกระเดือกเอาอาหารในปากลงคอทั้งที่ยังเคี้ยวไม่ละเอียดเสียด้วยซ้ำไป
" เดี๋ยวๆ คริสติน ! " เสียงจอห์นดังไล่หลัง
ทว่าเมื่อจอห์นตามไปจนถึงหน้าประตูห้องนอนของเชอร์ล็อก คริสตินก็ปิดประตูห้องโครมและหันหลังให้กับบานประตู หน้าเธอขึ้นสีแดงเรื่อและดูตื่นตกใจอยู่ไม่น้อย
" เอ่อ --- ผมก็กำลังจะบอกอยู่พอดี " จอห์นกล่าว มองเธอจากประตูห้องครัว
คริสตินเงียบใบ้ ใบหน้ายังคงไม่คลายความตระหนก คล้ายว่าเธอเพิ่งเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้าให้ ครู่หนึ่งบานประตูห้องนอนของเชอร์ล็อกโฮลมส์ก็ถูกผลักออก คริสตินจึงถูกดันพ้นจากประตู เจ้าหนุ่มอุจฉริยะเดินงัวเงียหัวฟูยุ่งออกจากห้อง ที่ตัวมีผ้าห่มพันแน่น ทว่ามองดูแล้วเจ้าตัวราวจะไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้น
" อรุณสวัสดิ์เชอร์ล็อก " จอห์นกล่าว ขมวดคิ้วมองคู่หูของเขาด้วยความเอือมระอา
เชอร์ล็อกหาววอดใหญ่และไม่ได้ขานรับการทักทายจากจอห์น เขาเดินสะโหลสะเหลไปห้องน้ำทั้งที่ยังลากผ้าห่มคลุมตัวไปด้วย ยังไม่ทันที่เขาจะถึงประตูห้องน้ำเจ้าหนูเอ็มมิทก็ผลักประตูห้องน้ำออกมาพอดี
" อรุณสวัสดิ์เชอร์ล็อก --- อย่าเอาผ้าห่มมาลากสิ " เอ็มมิทกล่าวด้วยเสียงงัวเงีย
" ใสหัวไปเลย " เชอร์ล็อกว่า เพราะเอ็มมิทยืนขวางประตูห้องน้ำอยู่
เอ็มมิทขยับตัวหลบออกจากทางเดิน เชอร์ล็อกจึงหายเข้าไปในห้องน้ำ
" ทำไมถึงมีแต่ผมที่โดนดุล่ะ " เอ็มมิทเอ่ยถามเดินหาววอดใหญ่ไปที่โต๊ะอาหาร เพราะเชอร์ล็อกก็ลากผ้าห่มเดินไปมาเหมือนกัน แต่กลับไม่ถูกแย่งผ้าหรือโดนดุสักคำ
" เอ่อ --- " จอห์นยืนอ้ำอึ้งมองเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ที่ประตูห้องครัว เขาหันกลับไปมองยังคริสติน และเธอยังคงยืนนิ่งไม่พูดจา สีหน้าไม่คลายความตระหนกลงเลย หรืออันที่จริงเธอดูช็อกเสียมากกว่า
" เขาใส่กางเกงในไหม " จอห์นถามในที่สุด
และคริสตินเงียบ ริมฝีปากปิดแน่น เธอส่ายหน้าเป็นคำตอบโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองสิ่งใดเลย เมื่อเห็นดังนั้นจอห์นจึงถอนหายใจออกมายกใหญ่
......
....................
หลังมื้อเช้าอันแสนวุ่นวายจบลง เชอร์ล็อกนอนเอนหลังพิงพนักโซฟาที่ประจำ ทว่ายกเท้าพาดบนโต๊ะกาแฟ มิหนำซ้าหนังสือของซาลีน่าโจนส์เปิดหราอยู่ที่ปลายเท้าของเขา ในขณะที่เวลากำลังเดินไปเสียงติ๊กตอกดูจะกวนใจพวกเขาอยู่ไม่น้อย
" คุณเล่นไวโอลินเก่งไหมครับ " เอ็มมิทพูดขึ้นในที่สุด
" ยังไม่ถึงห้านาทีเลย " เชอร์ล็อกบอก
จากนั้นเอ็มมิทก็เงียบ คริสตินเกือบหลุดหัวเราะออกมาวูบหนึ่ง --- ตั้งแต่ที่เอ็มมิทย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพักของเชอร์ล็อก บ้านก็ไม่เคยเงียบสงบอีกเลย เอ็มมิทมักจะพูดจ้อและก่อเรื่องสารพัดอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเชอร์ล็อกต้องตั้งกดเงียบ 5 นาทีขึ้นมา โดยทุกๆ 1 ชั่วโมง เอ็มมิทจะต้องนั่งเงียบๆ 5 นาที เพื่อเป็นการพักประสาทหูของคนในบ้าน และมันก็ดูเป็นช่วงเวลาอันน่าอึดอัดของเอ็มมิทเสียเหลือเกิน
" ห้านาทีแล้ว ! " เจ้าหนูกล่าวออกท่าทางดีใจจนนอกหน้า
" ได้ไง นายพูดออกมาก่อนต้องนับใหม่ตั้งแต่ตอนนั้น แล้วก็เริ่มใหม่ตั้งแต่ตอนนี้เลย " เชอร์ล็อกว่า
" ไม่เกี่ยวสิ่ครับ ! " เอ็มมิทตะโกน
" เงียบอีก 5 นาที ! " เชอร์ล็อกเถียงกลับ
" แบบนี้มันเอาเปรียบกันนี่ครับ ใช่ไหมคริสติน ! " คราวนี้เจ้าหนูคล้ายจะหาแนวร่วม
เชอร์ล็อกเบือนสายตาไปยังคริสตินแทบจะทันที ราวจะกดดันในคำตอบของเธอ
" เอ่อ ... "
" ระเบียบวินัยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเด็กๆ ใช่ไหมคริสติน " เชอร์ล็อกชิงพูดเสียก่อนที่เธอจะตอบ
" อีก 5 นาทีนะเอ็มมิท " เธอตอบในที่สุด
" โหยยย คริสติน ทำไมไม่เข้าข้างผมบ้างล่ะครับ ! " เจ้าหนูออกอาการงอแงเสียยกใหญ่
คริสตินได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ ในขณะที่จอห์นหัวเราะออกมาหลังจากที่เขานั่งมองเหตุกาณ์มาตั้งนานสองนาน สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่บรรยากาสที่คุ้นเคยเท่าไรนักสำหรับเขา ทว่ามันก็ค่อยๆ กลายเป็นสิ่งที่หลอมรวมเข้ากับชีวิตประจำวันจนกลายเป็นความอบอุ่นขนาดย่อมๆ ที่ไม่รู้เลยว่ามันจะไปสิ้นสุดเมื่อไร
II
“ เข้าหน้าร้อนจริงจังแล้วนะ ” จอห์นกล่าว
“ วันนี้ไม่มีคดีเข้ามาเลยเหรอ ” เชอร์ล็อกบ่นอุบอิบจากโซฟาที่ประจำของเขา
" โรซ่าบ่นว่าอยากไปเที่ยวสวนสนุกด้วยสิ " จอห์นกล่าว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคำถามใดๆของเชอร์ล็อก ทว่าหลังคำพูดของเขานั้นราวจะไปสะกิดต่อมอะไรบางอบ่างของเจ้าหนูเอ็มมิทเข้าให้
" สวนสนุกเหรอฮะ ! ผมเคยได้ยินมาว่าสวนสนุกโทรปจะเปิดแค่ช่วงหน้าร้อนเท่านั้น มันต้องสุดยอดมากแน่ๆ พวกคุณจะไปกันใช่ไหมฮะ ! " เสียงเจ้าหนูดังแทรก ฟังดูคึกครื้นผิดกับบรรยกาศอันน่าอับเฉาของเหล่าผู้ใหญนัก
" นายจะรับผิดชอบเรื่องนี้ยังไง จอห์น " เชอร์ล็อกพูดเหมือนจะแหวใส่
" ผมนะ ยังไม่เคยได้ไปสวนสนุกเลยสักครั้ง ตอนที่โรงเรียนจัดให้พาไปครั้งแรกผมยังเด็กเกินไป ก็เลยถูกคัดชื่ออก และหลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่จัดให้เราไปอีกเลย ผมอยากไปมากๆ อยากไปมากจริงๆ นะครับ ! " เจ้าหนูเอ็มมิทจ้อไม่ยอมหยุด เขาวิ่งโล่ไปเขย่าแขนของคริสตินทีหนึ่ง ก็วิ่งไปหาจอห์อนอีกทีหนึ่ง และสุดท้ายก็จบลงด้วยการไปกระเซาะกระแซะใส่เชอร์ล็อกที่พยายามจะมุดหัวหนีลงใต้หมอนเสียให้ได้
" ผมอยากไปจริงๆ นะเนี่ย เราจะไปกันใช่ไหมครับ นะครับ "
คริสตินและจอห์นต่างส่งเสียงหัวเราะออกมากับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นภาพแปลกใหม่ที่พวกเขาไม่คุ้นชิน เชอร์ล็อกมักมีความผูกพันธ์แบบประหลาดกับเด็กๆ แม้แต่กับโรซามุนด์ ทว่าหนูน้อยโรซามุนด์ไม่ได้ช่างจ้อและตามเขาแจขนาดนี้ น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เอ็มมิทดูจะชอบอกชอบใจในตัวของเชอร์ล็อกเป็นพิเศษ ทว่าสิ่งที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือ เชอร์ล็อกสามารถรับมือกับการจ้อไม่หยุดของเจ้าหนูเอ็มมิทได้อย่างเหลือเชื่อ
" ให้ตายสิ่ ฉันเอาเงินไปซื้อช็อกโกแล๊ตให้นายหมดแล้วนะ ! " เชอร์ล็อกบ่น โดยที่ยังไม่ยอมโผล่หัวออกมา
" นั่นมันไม่ได้แพงเลยนะครับ ! ผมอยากไปสวนสนุก เราไปกันเถอะนะ ! "
" แล้วของเล่นกับตำราเรียนเล่า ! เธอจะเอาเงินฉันไปใช้หน้าตาเฉยไม่ได้นะ ! " เขายังไม่ยอมโผล่หัวออกมา
" อันนั้นไม่นับนะครับ แล้วของเล่น คริสตินก็เป็นคนซื้อให้ด้วย ไม่เกี่ยวกับคุณสักหน่อย ! " เจ้าหนูเอ็มมิทพยายามยื้อหมอนออกจากหัวของเชอร์ล็อกให้ได้ ครู่หนึ่งเจ้าหนูก็โดดขึ้นคร่อมทับร่างที่นอนคุดคู้อยู่บนโซฟาของเชอร์ล็อก และเริ่มฉุดกระชากหมอนอย่างจริงจัง
" งั้นก็ไปกับคริสตินสิ่ โถ่ ! " เขาโวยวาย และยังไม่ยอมปล่อยหมอนออกจากหัวตัวเองง่ายๆ
" ไม่เอาครับ ถ้าคุณไม่ไปด้วยผมจะไม่ยอมไปไหนเด็ดขาดเลย ! "
เสียงถกเถียงกันของทั้งสองคนดังอยู่นาน ทั้งคริสตินและจอห์นก็ได้แต่นั่งหัวเราะ และสุดท้ายเชอร์ล็อกก็ยอมตกลงไปด้วยอย่างไม่เต็มใจนัก พวกเขานัดวันเวลาและจอห์นเป็นคนรับผิดชอบในการดูราคาตั๋ว คริสตินทำอาหารกล่องสำหรับไปปิกนิก และดูเหมือนว่าการตกลงไปเที่ยวครั้งนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เมื่อจอห์นและคริสตินตัดสินใจเอ่ยปากชวน เกร็ก คุณนายฮัดสัน และ มอลลี่ ไปด้วย
" แล้วจะขนกันไปยังไงหมดล่ะ ตั้งเยอะแยะ " เชอร์ล็อกบ่นอุบอิบอย่างคนไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก
" คุณนายฮัดสัน กับเกร็กจะเอารถมารับเราที่นี่ค่ะ " คริสตินตอบ
" คริสติน ผมอ่านจบแล้วครับ " เสียงเอ็มมิทดังมาจากห้องนอนของเธอ ครู่หนึ่งเจ้าหนูก็หอบหนังสือคณิตศาสตร์เล่มโตออกมาวางบนโต๊ะทำงานของเชอร์ล็อก คริสตินวางมือจากถ้วยชาที่กำลังรินเติมให้กับเชอร์ล็อกก่อนจะเท้าเอวมองไปที่เอ็มมิท
" แน่ใจเหรอ " เธอถาม เลิกคิ้วมองที่เจ้าหนู
" ครับ " เจ้าหนูบอก มิหนำซ้ำยังเปิดหน้าหนังสืออกให้ดู ในหน้าเหล่านั้นมีรอยขีดเขียนเกี่ยวกับตัวเลขเป็นจำนวนมาก เธอรับหนังสือในมือของเอ็มมิทและเปิดดูเพื่อตรวจให้แน่ใจ จากนั้นเธอหัวเราะแผ่วลมออกมา
" นี่มันตำราของเฟอร์แมทนะ พระเจ้าช่วย เธออ่านมันแค่วันเดียวเหรอ " คริสตินถามซ้ำ
" โถ่คริสติน ผมอ่านมันทั้งหมดแล้วจริงๆ คุณเช็กคำตอบดูก็ได้นะฮะ "
" ฉันจะพูดอย่างไม่อายเลยนะ ว่าฉันคงตรวจมันไม่ได้หรอก " เธอส่ายหน้าพลางปิดหนังสือส่งคืนให้กับเอ็มมิท เขาจึงรับมันไว้และเงยหน้าขึ้นมองที่เธอ
" ผมสอนให้ก็ได้นะ แลกกับสอนผมวาดภาพดีไหม " เอ็มมิทถาม ในขณะเดียวกันคริสตินเลิกคิ้วมอง
" ผมรู้ครับ ส่วนใหญ่ครูที่โรงเรียนจะตรวจคำตอบให้ผมไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก " เจ้าหนูตอบ
คริสตินเผยรอยยิ้มเหมือนจะละอายใจอยู่เล็กๆ ก่อนจะยีผมของเจ้าหนูเอ็มมิท และไล่ให้เขาเอาหนังสือทั้งหมดที่มีไปเก็บใส่กล่องเพื่อจะนำไปขายต่อเป็นหนังสือมือสอง หลังจากเอ็มมิทรับคำและวิ่งหายเข้าไปในห้องแล้ว เธอหันกลับมามองยังเชอร์ล็อกที่ยามนี้นั่งนิ่งงันบนโซฟา ด้วยท่าทีเดิมๆ ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังผนังห้องเหมือนกำลังใช้ความคิดกับเรื่องบางอย่าง และดูจะเป็นเรื่องจริงจังเสียด้วย
" ฉันสอนหนังสือเขาไม่ได้นะ เขาฉลาดเกินไป " ตริสตินกล่าว
" เหรอ " เสียงตอบของเชอร์ล็อกดูจะไม่ใยดีกับคำพูดของเธอนัก
" พูดจริงนะเชอร์ล็อก เอ็มมิทไม่ใช่เด็กธรรมดา และฉันเคยเรียนหนังสือในโรงเรียน ไม่มีครูคนประถมหรือมัทธยมคนไหนสอนเขาได้หรอก หรือจะครูมหาวิทยาลัยก็เถอะ " เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น
" ยินดีด้วยนะ " เขาขานตอบ ตายังคงจ้องมองยังผนังห้อง สองมือยกขึ้นพนมแตะริมฝีปาก
คริสตินมองท่าทีสงบผิดวิสัยของเขาอยู่ครู่หนึ่งก็หันมองตามไปยังผนัง เธอสงสัยว่าเขกำลังมองหาอะไรอยู่ ทั้งที่เธอกำลังยืนพูดอยู่ตรงนี้ เขากลับไม่แม้แต่จะปลายสายตามองด้วยซ้ำ
" นี่ --- ตั้งใจฟังที่ฉันพูดหน่อยได้ไหม " เธอถามอย่างอดไม่ได้
เชอร์ล็อกเหลือบสายตามองที่เธอ ทว่าสีหน้าของเขาชวนให้รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ
" จะให้ฉันฟังอะไร แล้วเธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร คุณแม่ดีเด่นเหรอ " เขาถามและมองเธอด้วยสายตานิ่งเฉย
ทว่าคำถามนั้นคล้ายจะแทงทะลุตัวเธอไป คุณแม่ดีเด่นคงเป็นบทบาทที่ห่างไกลจากตัวของเธอมากนัก ริมฝีปากเธอปิดสนิท ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ หากใครก็ตามที่เห็นหน้าเธอตอนนี้คงรับรู้ได้ทันทีว่าเธอไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะพูดจา คริสตินก้มลงเก็บถ้วยชาบนโต๊ะโดยไม่ปริปาก
" เด็กนั่นน่ะ " เสียงเชอร์ล็อกพูดก่อนที่เธอจะผละออกไปจากโต๊ะของเขา
" และเธอด้วย --- ฉันแค่เก็บเอาไว้เพราะมันจำเป็นกับรูปคดี และเมื่อไหร่ที่ฉันไขมันออก ซึ่งฉันไขมันออกแน่ พวกเธอก็ต้องต่างคนต่างไป เพราะงั้นอย่ามาเล่นบทครอบครัวสุขสัน ฉันไม่อิน " หลังเขาพูดจบ เธอหันหลังให้กับโต๊ะทำงานของเขา ทว่าเมื่อเธอก้าวเท้าเดิน ราวกับคนย้ำคิดย้ำทำ เธอหันกลับมามองหน้าเขาอีกครั้ง
" รู้อะไรไหมคะ " เธอเอ่ยถามด้วยแววตาผิดหวังถึงที่สุด " คุณพูดถูก --- " หลังคำพูดของเธอ เธอก็เดินหายลับเข้าไปในครัว ทิ้งให้เชอร์ล็อกแบกรับความรู้สึกบางอย่างที่เธอทิ้งเอาไว้ ทว่าเขาจะเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้นหรือไม่คงไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้เลย
III
" อุ้มหนูหน่อยสิคะ " หนูน้อยโรซามุนด์กล่าวพลางจับชายเสื้อโค้ทของเชอร์ล็อกกระตุก เขาจึงก้มลงอุ้มเธอเอาไว้ในอ้อมแขน จอนห์และคุณนายฮัดสันช่วยกันขนตะกล้าอาหารและผ้าปูรองนั่งออกจากท้ายรถ ในขณะเดียวกัน เลสเตรดเดินลงจากรถของเขามาพร้อมกับมอลลี่ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้
" แล้วเอ็มมิทไปไหนคะ " โรซามุนด์เอ่ยถาม
" อยู่นั่นไง " เชอร์ล็อกบอกพลางชี้มือไปยังจุดขายตั๋ว
ทั้งเอ็มมิทและคริสตินอาสาเป็นคนไปเข้าแถวซื้อบัตรผ่านประตู เพื่อที่ทุกคนจะได้จัดเตรียมข้าวของอื่นๆ จนกระทั่งทุกอย่างเสร็จสรรพแล้ว คริสตินจัดแจงแจกตั๋วให้กับทุกคนเพื่อใช้ผ่านประตูสวนสนุก พวกเขาตกลงกันว่าจะหาที่นั่งดีๆ เพื่อปักหลัก จากนั้นค่อยออกเดินไปตามจุดต่างๆ เพื่อพาเด็กๆ ไปเล่นเครื่องเล่น
" ฉันนะแก่มากแล้ว คงพาเด็กหนุ่มๆ สาวๆ ไปเล่นอะไรโลดโผนไม่ได้หรอก " คุณนายฮัดสันกล่าวในขณะสะบัดผ้าปูรองนั่งให้กางระนาบกับพื้น เอ็มมิทช่วยเธอจับชายผ้าปูเพื่อไม่ให้ลมพัดมันปลิวไป และมอลลี่จัดแจงวางตะกล้าของว่างลงบนผ้า หลังจากนั้นทุกคนก็ทยอยจับจองหาที่นั่งใกล้ๆ เพื่อจับกลุ่มปิกนิกกันเหมือนกับครอบครัวอื่นๆ ในบริเวณนั้น
ที่เบื้องหน้าของพวกเขาเป็นบ่อน้ำขนาดเล็ก และฝั่งตรงข้ามเต็มไปด้วยดอกเซเลียสีบานเย็นสะพรั่ง พื้นหญ้าแห้งและระอุไออุ่นๆ จากแสงแดดของหน้าร้อน บรรยากาศรอบกายช่างชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ทว่า
" ทำไมเอ็มมิทถึงไม่คุยกับคุณล่ะคะ " โรซามุนด์เอ่ยถามในขณะที่เธอนั่งอยู่บนตักของเชอร์ล็อก
และดูเหมือนว่าเขาจะคิดหาคำอธิบายดีให้กับหนูน้อยไม่ได้ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา หลังจากการเถียงกันของเขาและคริสติน ดูเหมือนบรรยากาศภายในบ้านก็อึดอัดขึ้นทันตา พวกเขายังคงพูดคุยกันอยู่บ้าง ทว่าเป็นการพูดคุยด้วยเรื่องจำเป็นเท่านั้น เสียงจ้อของเอ็มมิทที่เคยสร้างความรำคาญ ก็เหมือนจะลดลงจะทำให้รู้สึกเหงาหูในบางเวลา
" นั่นสินะ " เชอร์ล็อกกล่าวอย่างคนจนหนทาง
" ทะเลาะกันเหรอคะ " โรซามุนด์ถาม และเชอร์ล็อกส่ายหน้าเป็นคำตอบ
" แล้วคริสตินล่ะ " เขายังคงส่ายหน้าเป็นคำตอบ
" คุณไม่ชอบเธอเหรอคะ " คราวนี้เชอร์ล็อกนิ่งเงียบ ไม่ส่ายหัวหรือแม้แต่พยักหน้า โรซามุนด์จึงเอื้อมมือขึ้นดึงแก้มของเขาคล้ายจะทำให้เขายอมพูดหรือตอบคำถามของเธอ เชอร์ล็อกขยับเงยหน้าหนีและก้มลงฟัดแก้มของเธอเสียแทนที่จะตอบคำถาม
เสียงหัวเราะของโรซามุนด์ฟังแล้วชวนให้รู้สึกสดใสขึ้นทันใด
" โรซ่า เราไปเล่นม้าหมุนกันเถอะ ! " เอ็มมิทตะโกนเรียก ท่าทางเขาดูจะอดใจไม่ไหวแล้ว
สาวน้อยพยักหน้าและตะเกียดตะกายออกจากอ้อมกอดของเชอร์ล็อก เธอวิ่งตรงไปหาเอ็มมิท ทั้งสองเดินจูงมือกันไปบททางเท้า ในขณะเดียวกันจอห์นก็ดันตัวลุกตามลูกสาวของเขาทันใด
" ไม่เป็นไรค่ะจอห์น เดี๋ยวฉันจะดูแลให้เอง " คริสตินชิงพูดก่อน จากนั้นเธอดันตัวลุกขึ้น
" มันจะดีเหรอ " จอห์นถาม
" ไม่ต้องห่วงไป แค่นี้สบายมาก " เธอตอบพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า ไม่ทันไรเธอก็เริ่มออกเดินกึ่งวิ่งเพื่อตามหลังเด็กๆ และทั้งสามคนก็หายลับไปกับกลุ่มนักท่องเที่ยวมากมาย
เชอร์ล็อกเอนตัวลงนอนบนพื้นหญ้า เปลือกตาปลือลงครึ่งหนึ่งเพื่อเลี่ยงแสงจ้าจากแดดหน้าร้อน รอบกายของเขาเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของเพื่อนฝูงและคนไม่รู้จัก เสียฝีเท้าของเด็กๆ ที่วิ่งไปมา ทุกอย่างฟังดูวุ่นวาย ทว่าบนท้องฟ้านั้นกลับว่าเปล่า กลุ่มเมฆคล้อยผ่านไปตามแรงลม ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเข้ม ทว่าให้ความรู้สึกเสรีอย่างลึกลับ
" ถามจริงๆ นะ นายไปทำอะไรให้เธอโกรธ " จอห์นเอ่ยถาม
เขาหลับตาลงหลังจากได้ยิน และไร้ซึ่งคำตอบจากเขา
" คิดให้ดีๆ นะเชอร์ล็อก ไม่มีผู้หญิงที่ไหนจะทนนายได้อีกแล้ว ถึงฉันจะคิดว่าเธอออกจะเด็กเกินไปหน่อยสำหรับนาย แต่ --- "
" งี่เง่า " เชอร์ล็อกพูดแทรก
" ว่าไงนะ "
" งี่ เง่า " คราวนี้เขาตอบแบบชัดถ้อยชัดคำ ดวงตาสีฟ้าซีดปลือลืมขึ้นมองผืนฟ้าอีกครั้ง
" เห็นแก่พระเจ้าเถอะ นายเคยเข้าใจอะไรบ้างไหมเนี่ย... "
" มีคนกำจ้องลังจะฆ่าเด็ก และผู้หญิง จอห์น --- ฉันไม่สนใจเรื่องหยุมหยิมพรรนั้น พวกนายกำลังเล่นเกมครอบครัวสุขสันกันอยู่ เล่นพ่อแม่ลูก ไร้สาระ แต่นั่นมันไม่เปลี่ยน เพราะความจริงก็คือ มีคนกำลังจะฆ่าเด็กนั่น และผู้หญิงคนนั้น " เชอร์ล็อกบอก
" ผู้หญิงคนนั้นเหรอ ให้ตายสิ่เชอร์ล็อก เธอชื่อคริสติน ! "
" ฉันไม่สนใจเรื่องผู้หญิงหรอกน่า และถ้าเธอไม่ตายก็ต้องเจ็บ และเห็นๆ ว่าเธอเจ็บแน่ "
" นายกำลังพูดเรื่องอะไรเนี่ย "
" เธอไม่สวมแหวนแล้วจอห์น ไม่มีรอยใหม่เลย แปลว่าเธอตัดขาดจากมันไปแล้ว และเธอทำตัวเหมือนคุณแม่ดีเด่นเข้าไปทุกที นายคิดว่ามันหมายความว่าไง "
หลังคำถามของเชอร์ล็อก จอห์นก็ไร้ซึ่งคำพูดใด
ยามเมื่อลมพัด กลุ่มเมฆก็คล้อยตัวผ่านสายตาของเขา เมื่อนิ่งงันและจ้องมองผืนฟ้านานเข้าดวงตาก็เริ่มชินชา ม่านตาของเขาหดตัวเพื่อป้องการแสงส่วนเกิน เป็นดั่งปฏิกริยาของร่างกายที่จะทำเช่นนั้นโดยไม่ต้องได้รับคำสั่งจากสมองแต่อย่างใด
" นายจำตอนที่โรซามุนด์ยังแบเบาะได้ไหม " ในที่สุดจอห์นก็พูดขึ้น
" ตอนที่เธอยังต้องนั่งอยู่บนรถหัดเดิน และเธอมักจะขว้างปาข้าวของให้นายต้องตามเก็บจ้าละหวั่น ฉันเหนื่อยเลยล่ะ ตอนที่นายไม่อยู่ แถมตอนที่แมรี่จากเราไปช่วงแรกๆ เป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆ --- แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากจะบอกนายหรอก สิ่งที่ฉันอยากบอกก็คือ ครั้งนึงนายเก็บกระดิ่งของเล่นคืนให้กับโรซามุนด์ และนายบอกกับเธอว่าอะไร จำได้ไหม " หลังคำถามของจอห์น เขาทั้งคู่ต่างก็เงียบไป
ไม่มีทางที่เชอร์ล็อกจะจำไม่ได้ เพียงแต่คำตอบนั้นเหมือกำลังเล่นงานเขาด้วยหนทางที่หนึ่งไม่อาจเข้าใจ
" ถ้าอยากเก็บกระดิ่งไว้ ก็อย่าเขวี้ยงกระดิ่ง ... " เชอร์ล็อกตอบในที่สุด
" ฉันก็ว่าอย่างนั้น --- นายพูดถูกนะเชอร์ล็อก " จอห์นกล่าว ตบที่ไหล่ของเชอร์ล็อกเบาๆ สองสามที
ในขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังแจ้งเตือนว่ามีข้อความใหม่เข้า เชอร์ล็อกใช้เวลามองท้องฟ้าอย่างอ้อยอิ่งอยู่อีกครู่ใหญ่กว่าเขาจะล้วงมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู
To.SH
*231 ได้ทำการส่งข้อความรูปภาพ*
มาเล่นกันไหม ?
- 231
ทันทีที่เขาอ่านข้อความ เขาดันตัวลุกขึ้นจากการนอนเอนหลังอย่างรีบร้อน มือของเขากำโทรศัพท์เอาไว้แน่น ดวงตาเบิกโพรง จ้องมองทั้งรูปภาพและข้อความราวกับว่าไม่เชื่อในสายตาตัวเอง
" บ้าชิบ ! "
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
" if you want to keep the rattle, do not throw the rattle "
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ความคิดเห็น