[END] [Fic Monsta X] Summer in December
"ถ้าหากผมสามารถกลับไปหารักครั้งแรกเมื่อสิบสี่ปีก่อนได้ . . ."
ผู้เข้าชมรวม
4,879
ผู้เข้าชมเดือนนี้
30
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่องราวทั้งหมดนี่มันเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนไหน ...
แล้วทำไมผมถึงเอาแต่คิดถึงความรู้สึกในตอนนั้นเท่านั้น
หลอดไฟที่ห้อยต่องแต่งกำลังส่องแสงสลัวอยู่บนเสาไฟฟ้าข้างทาง ผมพบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ภายใต้ร่มสีเหลืองคันเก่งของตัวเองท่ามกลางกระแสลมและเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างหนัก ความเย็นชื้นจากสายฝนที่ตกลงพื้นคอนกรีตกระเด็นมาใส่โดนตัวทำให้รู้สึกถึงความหนาวเย็น ผมก้มมองฝ่าเท้าและพบว่าภายใต้รองเท้าผ้าใบสีดำคู่ใหม่ของตัวเองกำลังย่ำเท้าไปตามทางพื้นถนนที่ชื้นแฉะ เมื่อเหลือบขึ้นมองไปยังถนนข้างหน้าท่ามกลางสภาพอากาศมืดครึ้ม ความมืดก็กำลังจะคืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และนั่นทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังรีบเร่งเพื่อไปทำอะไรบางอย่าง
อะไรบางอย่างที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจ ว่ามันคืออะไรกันแน่
ระหว่างที่สอดส่ายสายตาหาใครบางคนบนเส้นทางที่เงียบเชียบนี้ด้วยความกังวลใจ แผ่นหลังของใครบางคนที่กำลังเดินอยู่ท่ามกลางสายฝนก็ปรากฎขึ้นอย่างเลือนรางท่ามกลางม่านฝนที่บดบังการมองเห็น ผมพยายามเพ่งสายตามองแผ่นหลังกว้างนั้นอยู่นาน แต่กลับไม่คิดว่าผมเคยรู้จักอีกฝ่ายมาก่อน
แต่มีอย่างหนึ่งที่น่าแปลกใจ...เพราะถึงแม่ว่าผมจะไม่รู้จักคนคนนั้น แต่ความรู้สึกกลับที่เด่นชัดขึ้นมาในความคิดของผมตอนนี้ก็คือ...ผมอยากเห็นใบหน้าของคนคนนั้นเหลือเกิน
'ไม่นะ ไม่ อย่าเพิ่งไป อย่าเดินจากไปแบบนี้'
ผมได้ยินตัวเองพึมพำคำพูดนั้นกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วง ทำเอาภาพข้างหน้ากลายเป็นสีขาวโพลนไปหมด พร้อมกับแผ่นหลังของใครคนนั้นกำลังห่างออกไปเรื่อยๆ
เพราะความอยากรู้อยากเห็นที่ติดเป็นนิสัยประจำตัวเป็นทุนเดิม ผมจึงไม่ลังเลที่จะทิ้งร่มสีเหลืองในมือลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี สองขาก้าวไปข้างหน้าแบบยาวๆเพื่อหมายตามร่างสูงใหญ่ที่หายลับไปตรงทางแยกของทางเดินอย่างเร่งรีบ
แต่เมื่อผมไปถึงตรงจุดที่คนคนนั้นเคยยืนก่อนหน้านี้ก็กลับพบว่ามันกลายเป็นทางแยก และเจ้าของแผ่นหลังลึกลับนั่นได้เดินหนีหายไปเสียแล้ว ผมจึงทำได้ได้แต่ยืนหมุนคว้างหันรีหันขวางอยู่ระหว่างทางซ้ายและทางขวาอย่างลังเล ตัวของผมเปียกโชกไปทั้งตัวจนรู้สึกว่าเส้นผมลู่ไปกับกรอบใบหน้า สายฝนที่โปรยปรายลงมาฟากฟ้านั้นเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆทำให้ผมลืมตาแทบไม่ขึ้น เพราะการมองเห็นที่ไม่เป็นไปตามที่ใจต้องการ ทำให้ยิ่งรู้สึกร้อนรนมากขึ้นทุกขณะ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่รู้ถึงสาเหตุถึงความรู้สึกพวกนี้เหมือนกันว่าเพราะอะไร
" ลีมินฮยอก "
มีใครบางคนเรียกชื่อผมจากทางด้านหลัง นั่นทำให้ผมต้องขมวดคิ้วและหันกลับมาหาเสียงเรียกนั่นอย่างสงสัย ผมรู้สึกว่าตัวเองตกใจเล็กน้อยกับเสียงเรียกที่ฟังดูคุ้นเคยนั้น ก่อนที่ความรู้สึกตกใจจะแปรเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาที เมื่อเห็นร่างของใครบางคนที่ผมคิดว่าเคยรู้จักเขามาก่อน กำลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆพร้อมกับความรู้สึกราวกับตัวเองกำลังได้รับการปกป้อง
ความรู้สึกนั้นเริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อร่มสีดำคันใหญ่ถูกเลื่อนมาหยุดอยู่เหนือศีรษะของผมที่ตัวเปียกโชกด้วยมือหนาของเจ้าของร่างสูงนั้น และทันทีที่ร่มนั้นลอยเด่นอยู่เหนือศีรษะของผม สายฝนที่เคยตกลงมาใส่หน้าใส่ตาจนแทบมองอะไรไม่เห็นก็หยุดลงไปพร้อมกับใบหน้าของเจ้าของร่มสีดำคันใหญ่ที่ปรากฎเด่นชัดขึ้น
"มาทำอะไรที่นี่"
เสียงทุ้มละมุนของคนที่เพิ่งปรากฎตรงหน้าทำให้ผมต้องช้อนสายตาขึ้นมองหน้าอีกฝ่ายชัดๆ
เจ้าของร่มสีดำคันใหญ่ เป็นเด็กผู้ชายที่อยู่ในชุดนักเรียนชั้นมัธยมปลายโรงเรียนเดียวกับที่ผมเคยเรียนเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขาคนนั้นมีรูปร่างสูงสง่าผ่าเผยถึงแม้ว่าเขายังเป็นแค่เด็กมัธยมแต่กล้ามเนื้อที่โผล่พ้นออกมาจากชุดนักเรียนนั่น ทำให้ผมรู้ว่าอีกฝ่ายคงจะเล่นกีฬาอยู่บ่อยๆ ผิวขาวที่เนียนละเอียด ผมสีดำสนิทรับกับใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับนายแบบที่เคยเห็นตามนิตยสาร และรอยยิ้มกว้างของเจ้าตัวที่กำลังส่งมาให้ผมนั้น ทำให้อดนึกไม่ได้ว่า รอยยิ้มโปรยเสน่ห์แบบนั้นคงจะทำให้สาวๆในโรงเรียนพากันคลั่งไคล้เขาอยู่ไม่น้อย
" ฉันถามว่านายมายืนตากฝนอยู่ทำไม ลีมินฮยอก "
ผมได้แต่ยืนกระพริบตาถี่ๆมองใบหน้าหล่อเหลาของ ชินโฮซอก ที่ยืนอยู่ตรงหน้าโดยที่ไม่ได้สนใจจะตอบคำถามของเขาเลยสักนิด นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นจับจ้องมาที่ผมที่เอาแต่ยืนนิ่งราวกับถูกอีกฝ่ายสะกดจิตด้วยแววตาหวานระยิบระยับราวกับมีหมู่ดาวอยู่ในนั้น มันทำให้ผมรู้สึกกำลังตกลงไปในห้วงอะไรสักอย่างที่โฮซอกเป็นคนขุดเอาไว้ ใบหน้าสมบูรณ์แบบที่ผมเห็นนั้นยังคงระบายรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ผมอยู่อย่างนั้น แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบคำถามของโฮซอก จู่ๆก็มีเสียงใครบางคนเรียกชื่อของผมดังขึ้น
ลีมินฮยอก ...
ผลงานอื่นๆ ของ I.M the BEST ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ I.M the BEST
ความคิดเห็น