ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    【Inazuma Eleven all series x OC】月の花嫁 Tsuki no Hanayome

    ลำดับตอนที่ #9 : 09 Are you sure you is a man?

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 66


     

    Warning

    • มี Disty talk นิดหน่อย

    • มีฉากใช้อาวุธรุนแรงนิดหน่อย เช่น ปืน

    • กล่าวถึงการใช้มนุษย์เป็นอาหาร

    • กล่าวถึงเหตุการณ์ตายของตัวประกอบเล็กน้อย

     

     

     

    “นายกำลังทำอะไรน่ะ? ฟุบุกิ”

    เสียงปริศนาดังขึ้นจนสองร่างที่กำลังทำตัวชวนน่าสงสัยต้องหันไปมอง

    บุคคลผู้มาใหม่มีผมสีน้ำเงินเข้ม ดวงตาสีทีล ตัวน่าจะเล็กพอ ๆ กับฟุบุกิ ชิโร่

    แต่ตอนนี้เจ้าคนปริศนากำลังทำหน้าดุมาก!

    “..ยูกิมูระคุง?”

    ใครล่ะเนี่ย.. แต่ช่วยเอาชิโร่ออกไปที!

    ความคิดในใจที่กรีดร้องออกมาอย่างทรมาน แต่คงไม่มีใครได้ยินหรอก

    “ฉันถามว่านายกำลังทำอะไร? แล้วหมอนี่ใคร? เหยื่อใหม่? หนูทดลองใหม่? หรือ นักวิจัยข้างทางที่หยิบมาได้” ยูกิมูระที่มีคำถามมากมายได้พรั้งปากพูดออกไป

    “อ่า.. ผะ ผมติดสัด เพราะผลข้างเคียงของพลัง..”

    ชิโร่ขยับร่างของหนุ่มผมขาวให้เข้ามาใกล้ตนแล้วกระชับกอดเบา ๆ จมูกหนาฝังเข้าที่ลำคอขาวจนมิสึกิสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ชวนให้รู้สึกจั๊กจี้บริเวณคอ

    “แต่นายก็ไม่ควรเอาใครมาผสมพันธุ์มั่วแบบนี้นะ ฟุบุกิ!”

    ยูกิมูระเหลืออดจนต้องเดินไปกระชากร่างของฟุบุกิออกมาจนร่างของฟุบุกิกระเด็นลิ่วไปตามแรง

    เจ้าของดวงตาสองสีที่กลายเป็นเหยื่อยกมือขึ้นมาลูบแก้มสองข้างเบา ๆ เดิมทีไม่ถูกกับสุนัขอยู่แล้ว ยิ่งใกล้ชิดกับอาบีสที่มีรูปลักษณ์เหมือนสุนัขนี่ยิ่งเหมือนได้ประสบการณ์ใหม่...

    แค่คิดก็ขนลุกแล้ว!

    “นาย”

    มิสึกิหันไปมองตามเสียง ซึ่งเป็นจังหวะที่ยูกิมูระมองหน้าเขาพอดี

    “มีอะไร?”

    “ขอโทษแทนเจ้านั่นด้วย ปกติฟุบุกิเวลาติดสัดจะไม่ทำแบบนี้กับใคร แต่มีนายคนแรกที่เขาทำตัวแบบนั้น แปลกชะมัด” ยูกิมูระกอดอกด้วยความหัวเสีย

    “แล้วนายชื่ออะไร?” คราวนี้ยูกิมูระถาม

    “อากิระ, มิสึกิ อากิระ พนักงานใหม่ของแล็ปเอย์เซย์...”

    พูดไปพลางมือบางจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่จนรู้สึกว่ามันเรียบร้อยแล้ว

    “อ่อ นายนี่เองที่เขาลือกัน ฉันยูกิมูระ เฮียวกะ โค้ด 65 ยินดีที่ได้รู้จัก” อีกฝ่ายแนะนำตัว

    “โอ้.. นายเองสินะที่ฉันต้องมาตรวจสอบน่ะ? ยินดีที่ได้รู้จักนะ เฮียวกะ” มิสึกิยื่นมือไปทางยูกิมูระ เพื่อที่จะจับมือกระชับมิตร

    เจ้าของดวงตาสีทีลชะงักพร้อมโบกมือปฎิเสธ

    “ถ้าจับมือฉันจะโดนเล็บข่วนเอานะ”

    มิสึกิเอียงหัวอย่างสงสัย ดวงตาสองสีมองที่นิ้วมือของยูกิมูระ แต่ก็ดูไร้พิษภัย เขาเลือกที่จะชักมือกลับแล้วหยิบเอกสารแต่ละใบขึ้นมาอ่าน

    โค้ด 63 ฟุบุกิ ชิโร่

    โค้ด 89 สึซึโนะ ฟูสึเกะ

    โค้ด 88 นากุโมะ ฮารุยะ

    โค้ด 65 ยูกิมูระ เฮียวกะ

    โอ๊ะ เจอแล้ว

    โค้ด 65 ยูกิมูระ เฮียวกะ อายุ 13 ปี เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงิน เป็นญาติห่าง ๆ ของโค้ด 63 และโค้ด 64 เกิดที่ประเทศอาร์เทมิส ได้รับพรแห่งแพนโดร่าจากการอยู่ในพื้นที่ชั้นพื้นผิวของแพนโดร่า

    พรแห่งแพนโดร่าของโค้ด 65 คือ เสือดาวหิมะ

    เหมือนฟุบุกิ ชิโร่ที่สามารถแปลงร่างตัวเองให้กลายเป็นสัตว์ได้

    เฮียวกะในรูปดูสดใสจัง.. ทำไมหมอนี้ที่อยู่ตรงหน้าฉันถึงทำหน้าดุอย่างกับคนละคน

    “อ่า.. แล้วชิโร่....?”

    มิสึกิที่พึ่งนึกได้ว่าชิโร่พึ่งถูกกระชากออกไปไกลก็เลยหันไปถามคนกระทำที่ตอนนี้ทำหน้าไม่ค่อยสนใจมากนัก

    “ฉันเขวี้ยงหมอนั่นออก เพื่อให้ฟุบุกิไปหาจังหวะชักว่าวให้หายติดสัด สักพักหมอนั่นก็คงหายติดสัดเองนั่นแหละ”

    มิสึกิที่นั่งฟังอยู่ก็แอบกลัวขึ้นมาเบา ๆ ทำไมตัวทดลองที่นี่ดูป่าเถื่อนจนเริ่มอยากลาออกซะแล้วสิ

     

     

    อีกด้านหนึ่งของชั้นบนสุดของอาคารฝั่งซ้าย

    ผู้คนในเสื้อกาวน์สีขาวมากมายยืนอยู่ด้านนอกกระจกใส โดยมีบางส่วนที่ใส่ชุดครบเครื่องทางการทหารยืนรายล้อมรอบห้องทดลอง

    ภายในห้องทดลองมีร่างของเด็กชายผมสีขาวฟ้าในชุดสีขาวสะอาดสะอ้าน เขากำลังหยิบขนมเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับยกแก้วชาขึ้นมาดื่มไปพลาง เพื่อดับกระหาย

    “โค้ด 66 ฮาคุริว”

    เสียงปลายสายที่เล็ดลอดออกมาจากลำโพงดังพอที่คนในห้องนั้นต้องได้ยิน

    เด็กหนุ่มไม่พูด แต่ดวงตาสีแดงสดเหลือบไปมองบานกระจกอีกด้านที่มีนักวิทยาศาสตร์ยืนรายอยู่แถวนั้น

    ฮาคุริวจำพวกเขาได้ขึ้นใจ

    ภาพในอดีตไหลเวียนเข้ามาในหัว และหากเปรียบตัวตนของฮาคุริว คือ เครื่องเล่นม้วนฟิล์ม ม้วนฟิล์มก็คงเป็นเรื่องราวที่กำลังถูกฉายเรื่องราวออกมาผ่านเครื่องเล่นอย่างเขา

    สามปีแห่งการรอคอย..

    สามปีที่เขาต้องทนอยู่ที่นี่ เพื่อแม่

    “วันนี้ไม่มีการทดลองเกี่ยวกับแก แต่ฉันขอถามอะไรสักอย่าง”

    เสียงนั้นดังขึ้นจนเรียกสติของฮาคุริวกลับมา

    “โห แค่มาถามถึงขนาดที่ต้องพาพวกทหารมาเยอะแยะขนาดนี้เลยหรอ?”

    ฮาคุริวตอบ

    “แกมีความสัมพันธ์อะไรกับมิสึกิ อากิระ” นักวิทยาศาสตร์คนดังกล่าวเมินคำพูดของฮาคุริว

    มือที่กำลังหยิบขนมหน้าตาน่าทานจำต้องหยุดชะงัก

    “เมื่อวันที่มิสึกิหามาแกพร้อมกับหัวหน้าคิระ วันนั้นแกกระชากมิสึกิเข้าไปฆ่าในห้องเหมือนที่แกทำกับพวกนักวิจัยเป็นปกติ แต่แกกลับไม่ฆ่ามิสึกิ นั่นเพราะอะไรกัน? ฮาคุริว...” เสียงเข้มที่ถูกกดต่ำลงราวกับกำลังกดดันอีกฝ่ายกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

    ฮาคุริวไม่ตอบ เขาเลือกที่จะเมินคำถามนั้นแล้วหยิบขนมเข้าปากทันที

    “สงสัยคำถามคงน่าเบื่อ งั้นเปลี่ยนคำถาม”

    “มิสึกิ อากิระ คือ แม่ผู้ให้กำเนิดแกงั้นหรอ?”

    คราวนี้น้ำเสียงของชายนักวิจัยกดต่ำลงจนคนรอบข้างเริ่มมองหน้า

    ฮาคุริวช็อค หยาดเหงื่อใสไหลลงข้างแก้ม

    “ฉันได้ยินมา มิสึกิสำคัญกับแกขนาดที่ไม่ฆ่า และยังเรียกว่าแม่... มีความสัมพันธ์เชิงแม่ลูกงั้นหรอ?” ชายนักวิจัยควงด้ามปากกาเล่น ดวงตาแข็งกร้าวจ้องมองอากัปกิริยาของฮาคุริวอย่างไม่ลดละ

    “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวแก พวกมนุษย์!” นักทดลองในห้องตอบด้วยน้ำเสียงที่เดือดดาล แค่สีหน้าก็แสดงออกมาหมดแล้วว่าโมโหขนาดไหน

    “ทำไมจะไม่เกี่ยว? มันต้องเกี่ยวสิ! ในเมื่อมิสึกิ อากิระเป็นเพศชาย และผู้ชายไม่สามารถท้องได้”

    “แต่ถ้าหากมีทฤษฎีเรื่องผู้ชายท้องได้จริง เมื่อเทียบความห่างกันของอายุ ฮาคุริว แกอายุแค่ 15 ส่วนมิสึกิอายุ 18 ไม่มีทางที่มิสึกิจะท้องได้ตอน 3 ขวบหรอก แกคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย?”

    ฮาคุริวกำหมัดแน่น ในขณะที่หูกำลังฟังชายนักวิทยาศาสตร์คนนั้นพูด สมองของเขากลับสั่งการให้ระงับความโกรธ หรือ ใจเย็นลง

    “โค้ด 66 ไม่ตอบ จะเอายังไงดีครับ?” หนุ่มนักวิทยาศาสตร์ข้างกายถาม

    “ฉันยังถามมันไม่จบ”

    “ฮาคุริว”

    “เนื่องจากในเอกสารของมิสึกิระบุว่ามิสึกิเป็นเพศชาย แต่ถ้าหากตัวตนของมิสึกิ อากิระกลับไม่ใช่เพศชายอย่างที่เอกสารระบุไว้...”

    “แกคิดว่าฉันจะทำอะไรกับมิสึกิ อากิระล่ะ?”

    ปั—ง!

    มังกรหนุ่มใช้กำปั้นทุบโต๊ะอย่างแรงจนโต๊ะนั้นหักครึ่งจนกองไปนอนกับพื้น

    เหล่าทหารที่เห็นอากัปกิริยาดังกล่าวที่สื่อถึงความรุนแรง พวกเขาจึงชักอาวุธขึ้นชี้ไปทางตัวทดลองเพียงหนึ่งเดียวในห้อง เพื่อหมายจะยิงฮาคุริว

    “วางอาวุธลงซะ!”

    นักวิทยาศาสตร์คนนั้นกล่าวสั่งการ เหล่าพลทหารจำเป็นต้องเก็บอาวุธไว้ที่เดิมแล้วยืนในท่าระเบียบ

    “แกไม่ตอบฉัน ฉันก็ไม่ว่า และฉันจะไม่จุ้นจ้านกับแม่ของแก ฮาคุริว”

    “แต่ถ้าหากแม่ของแกดันทำตัวขัดหูขัดตาหัวหน้าคิระขึ้นมา คงรู้ใช่มั้ยว่าแม่แกจะกลายเป็นยังไง?”

    รู้สิ

    ทำไมจะไม่รู้ล่ะ

    แม่ก็จะตาย หรือไม่ก็

    กลายเป็นอาหารของพวกอาบีสในแล็ปนี้..

     

     

    “แล้วมีอะไรจะตรวจสอบฉันล่ะ?” ยูกิมูระจ้องหน้าพนักงานคนใหม่ที่นั่งจับเอกสารไม่ยอมปล่อย ดวงตาสีทีลปลายตามองเอกสารที่แสดงข้อมูล และรูปของเขา

    อีกคนส่ายหน้า

    “ไม่มีหรอก แค่มาถามเรื่องทั่วไปน่ะ อ่า.. จะว่ายังไงดี? ฉันยังใหม่กับงานนี้เลยไม่มีอะไรจะตรวจสอบ หรือ ถามเป็นพิเศษน่ะ...” หนุ่มผมขาวก้มหน้าลงจนดวงตาสองสีสบกับข้อความในเอกสารที่แสดงข้อมูลของยูกิมูระ

    “งั้นเขียนไปว่าฉันสบายดี”

    มิสึกิพยักหน้ารับแล้วเขียนตามที่อีกคนว่า

    “นายกล้าทำกับพี่ชายแบบนี้ตอนไหนหรอครับ? ยูกิมูระคุง” เสียกระซิบที่แผ่วเบา แต่หนักแน่นจนมิสึกิสะดุ้งโหยง ดวงตาสองสีลุกลี้ลุกลนจนต้องมองหาว่าเสียงนั่นเป็นของใคร

    โค้ด 65 และยังเป็นเจ้าของชื่อนั้นถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เขายกแขนขึ้นมากอดอกแล้วมองหน้าหนุ่มผมเงินด้วยสายตาเอือมระอา

    “ส่วนของฟุบุกิเขียนไปว่าติดสัดจนเกือบจะเอานักวิจัยใหม่เป็นที่ระบายความใคร่ แต่โชคดีที่โค้ด 65 ช่วยไว้ทันละกันนะ?”

    ยูกิมูระเลือกที่จะเมินเฉยตัวตนของมนุษย์หมาป่าแล้วไปคุยกับพนักงานมือใหม่ตรงหน้า

    มิสึกิพยักหน้าตามแล้วเขียนตามที่ยูกิมูระพูดไปอย่างเงียบ ๆ

    “ใจร้าย!” ฟุบุกิจับไหล่ของยูกิมูระแล้วเขย่าร่างของญาติราวกับเด็ก

    ดวงตาสองสีเหลือบมองหัวของฟุบุกิ หูของเขาหายไปแล้ว หรือว่าหายติดสัด?

    “ชิโร่...” มิสึกิเรียกหนุ่มผมเงิน

    “ครับ?” เจ้าของชื่อหันไปมอง

    “หะ หายแล้วหรอ...?” มิสึกิหน้าแดงขณะที่พูด

    ฟุบุกิมองหน้าอีกคนค้าง ดวงตาสีเทาจ้องมองใบหน้างามของพนักงานหนุ่ม

    “ครับ” เขาระบายยิ้มออกมา นั่นจึงทำให้มิสึกิต้องหรี่ตาลงเหมือนตอนที่เจอฟุบุกิครั้งแรก

    แสบตา!

    “ในเมื่อไม่มีธุระอะไรกับพวกฉันแล้ว นายจะทำอะไรต่อ?” เจ้าของพลังเสือดาวหิมะถาม

    “ตามหาคนชื่อนากุโมะ ฮารุยะกับสึซึโนะ ฟูสึเกะน่ะ” มือขาวยกเอกสารอีกสองใบที่มีชื่อ และรูปของเจ้าของขึ้นโชว์ต่อหน้าทั้งสอง

    ยูกิมูระ และฟุบุกิมองข้อมูลในเอกสารสักพักแล้วทั้งสองก็หันมามองหน้ากัน

    “ถ้าสองคนนั้นคงไปเตะบอลกับพวกไฮซากิคุงที่สนามบอลน่ะ” ฟุบุกิตอบ

    “อืม แต่สองคนนั้นดันเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงซะด้วยสิ ระวังตัวไว้ด้วยนะ” ยูกิมูระหันไปตอบมิสึกิจนคนฟังถึงกับสะอึก

    “ทางที่ดีพาทัตสึยะคุงไปด้วยน่าจะโอเคกว่า เพราะสองคนนั้นสนิทกับทัตสึยะคุงพอสมควร” หนุ่มหมาป่าสีเงินแสดงความคิดเห็น

    “ฉันเห็นด้วย” ยูกิมูระพยักหน้าให้กับคำแนะนำนั้น

    “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะ..”

    “อื้ม! งั้นผมขอตัวนะ เพราะเหมือนจะโดนเรียกตัวน่ะ” ฟุบุกิขอตัวลาไปก่อน เพราะด้านหลังมิสึกิมีนักวิทยาศาสตร์หนุ่มทรงผู้ใหญ่มองมาที่ฟุบุกิได้สักพักหนึ่งจนเขาต้องไปหา

    “โชคดีนะ..” มิสึกิโบกมือลา ฟูยูกิเห็นท่าทางนั้นแล้วนึกเอ็นดูเบา ๆ เลยโบกมือลาให้

    เมื่อฟุบุกิจากไป ทุกอย่างก็เงียบลงทันที ไม่มีใครพูด ไม่มีใครทำอะไร มีแต่การมองหน้ากันของพนักงานหน้าใหม่แห่งแล็ปเอย์เซย์ และตัวทดลอง C zone ที่มีพลังแปลงกายเป็นเสือดาวหิมะ

    “มีคำถามอยากถามฉันงั้นหรอ? ถึงได้มองหน้าแบบนั้น” มิสึกิถาม

    ยูกิมูระพาตัวเองไปนั่งตรงหน้ามิสึกิ สองแขนโอบกอดกแกร่งของตัวเขา

    “มิสึกิ”

    “หือ?”

    “นาย...”

    “เป็นผู้ชายจริง ๆ งั้นหรอ?”

    “....”

    หนุ่มผมขาวนั่งนิ่ง นี่ไม่ใช่คำถามแรกถูกโดนถาม แต่เชื่อมั้ย? ไม่มีใครชินคำถามเกี่ยวกับตัวตนของเราหรอก

    “อืม ฉันเป็นผู้ชาย”

    มิสึกิตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง และหนักแน่น

    เสือดาวหิมะจ้องมองดวงตาของมิสึกิิที่ฉายแววความมั่นใจ เขาหลุบตาลงต่ำ สองแขนคลายออกแล้ววางมันบนลงโต๊ะ นิ้วยาวสอดประสานเข้าที่มือหนาของตัวเขาเอง

    “ถ้านายมั่นใจ ฉันก็ไม่เซ้าซี้อะไรมาก แต่รู้มั้ยว่าฉันมองการกระทำของฟุบุกิกับนายมาตั้งแต่ต้น”

    “....”

    “ฉันรู้มาตลอดว่าช่วงเวลานี้ฟุบุกิติดสัด หมอนั้นจะขังตัวเองในห้อง ไม่ยอมไปไหน และไม่ยอมให้ใครเข้าห้อง”

    “....”

    “เคยมีนักวิทยาศาสตร์คนนึงได้พาผู้หญิงมาให้ฟุบุกิระบายความใคร่ตามฤดูผสมพันธุ์ แต่รู้มั้ย? ว่ามันเกิดอะไรขึ้น..?”

    มิสึกินั่งเงียบ เขาส่ายหน้าเบา ๆ

    “ฟุบุกิ— หมอนั้นขย้ำผู้หญิงคนนั้นทิ้งจนผู้หญิงนั่นตาย ร่างกายไม่ขยับ ชีพจรก็ไม่หายใจ ยัยนั่นตายทันทีที่ถูกฟุบุกิฝังเขี้ยวที่คอหอย”

    “เพราะอย่างนั้น— ฉันเลยถามนายว่านายใช่ผู้ชายแน่หรอ?”

    มิสึกิยังคงเงียบ ดวงตาสั่นระริกด้วยความกลัว

    “นายคนแรกเลยนะ.. ที่ฟุบุกิยอมออกจากห้องทั้งที่หมอนั้นทรมานจากการติดสัด แถมยังขอให้นายช่วยระบายติดสัดอีก— นี่... มิสึกิ ตอบฉันทีสิ”

    ดวงตาสองสีมองหนุ่มผมน้ำเงินเข้ม บ่าเล็กถูกมือหนาจับรั้งไว้แล้วบีบมันจนมิสึกิเริ่มมีน้ำตาคลอ เขาเงยหน้ามองตัวทดลองหนุ่มที่กำลังแสดงสีหน้า

    ทรมาน...?

    “ถ้าหากนายไม่ใช่ผู้หญิง และยังยืนคำเดิมว่าเป็นผู้ชายจริง— มิสึกิ นาย...”

    “เป็นอาร์เทมิสในนิทานหลอกเด็กนั่นใช่มั้ย?”

     

     

     

     

    Talk with Roselle 

    เรื่องนี้ส่อเสียดเรื่องเพศหนักมาก ฉะนั้นทำใจไว้เลยว่าตอนหน้าหัวรุนแรงทางการเหยียดเพศแน่นอนค่ะ

    ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้แต่งเรื่องนี้มาเหยียดเพศนะคะ แต่เราอยากเขียนสิ่งที่มันสื่อออกมาเกี่ยวกับสังคมที่ยอมรับ หรือ ไม่ยอมรับตัวตนในเรื่องของเพศในหลาย ๆ เหตุการณ์ เช่น สังคมนี้ต้องให้เพศเดียวกันรักกันเอง ห้ามรักต่างเพศ ฯลฯ (สปอยตัวอย่างจากเหตุการณ์ที่นัตสึมิชอบฟุยุกะเชิงคู่รัก , กฎข้อที่ 3 ของแล็ปเอย์เซย์ที่ห้ามรักเพศต่างกัน , มิสึกิเล่าเรื่องความรักของโอไรอ้อน และอาร์เทมิสที่มีทั้งรูปแบบของต่างเพศ และเพศเดียวกัน หรือ ทัตสึยะที่มีอาการคลั่งไคล้มิสึกิ)

    ส่วนใครที่ข้องใจว่าน้องมิสึกิ อากิระ ตัวเอกดำเนินเรื่องราวของเรื่องนี้เป็นเพศอะไร?

    เฉลยจ้า

    ไม่บอก เดี๋ยวมีสักตอนที่น้องรู้ความจริงจากปากตาทัตสึยะเอง (สปอยยย)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×