คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : 14 Hot and Cold
Warning
• กล่าวถึงวิธีการสร้างมนุษย์ โดยการใช้กระดูกของมนุษย์
หนุ่มผิวแทนมองเจ้าลูกแพะสีขาวที่กำลังก้มกินหญ้า
อุกกาบาตที่ตกลงมาใจกลางประเทศอาร์เทมิสส่งผลให้สภาพแวดล้อมรอบข้างทั้งภายในหลุม และนอกหลุมนั้นเน่าเสีย ถ้าหากสิ่งมีชีวิตเผลอกินพืชผักผลไม้ หรือ น้ำที่ได้รับผลกระทบจากแพนโดร่าก็จะเกิดอาการป่วยจนถึงขั้นเสียชีวิต
ไม่แปลกที่ประเทศอาร์เทมิสถูกตั้งให้เป็นประเทศอันตราย และห้ามคนอื่นเข้า นอกเสียจากพวกโอลิมปัสกับนักวิทยาศาสตร์ที่สามารถเข้าได้
แต่ที่น่าแปลกใจก็คงจะเป็นถ้ำแห่งนี้ ที่อยู่ลึกที่สุดปลายทางของแพนโดร่า ภายในถ้ำไม่ได้รับผลกระทบเหล่านั้น พืชพันธุ์เจริญงอกงาม และน้ำที่ใสสะอาด ไม่มีสารพิษจากแพนโดร่าตกค้าง
“นี่ อากิระ”
ดวงตาสีดำสะท้อนภาพที่มีกองไฟตรงหน้ากำลังเรืองแสงปะทุ
“เธอคิดว่าโนวิโอ้จะโกรธฉันมั้ย?”
เขาถาม
“หมอนั้นตอนรู้ว่าฉันหักขาเธอแล้วใช้กระดูกส่วนขาสร้างโนวิโอ้กับอากิระขึ้นมา หมอนั้นโกรธฉันมากเลยนะ ชี้หน้าว่าฉันใหญ่เลย แล้วก็ยังพาอากิระหนีขึ้นไปหามนุษย์ข้างบนอีก ฮะฮะ”
เขาหัวเราะ แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกนั้นกลับเศร้าสร้อย
“อ่า.. นั่นสินะ ฉันลืมไปเลย”
สองมือยกขึ้นมากอบกุมใบหน้าของเขา
“เธอที่อยู่ตรงนี้ หรือ อยู่บนโลก ทั้งสามคนนั้นก็ยังเป็นเธออยู่ดี...”
เขากดนิ้ว เล็บนิ้วถูกจิกเข้ากับเนื้อหนังบนใบหน้า แรงกดนั้นแรงพอที่สามารถสร้างบาดแผลได้ แต่กลับไม่มีเลือดออกมาสักหยด
“เทเรเซีย...”
“เทเรเซีย...”
เทเรเซีย— นางฟ้าที่ฉันรักมากที่สุด
“ขอบคุณที่พามาส่งที่สนามบอลนะ”
เจ้าของผมสีบริสุทธิ์หันไปมองหนุ่มน้อยที่กลายร่างเป็นสิงโตสูงประมาณเอวของเขา
“เรื่องแค่นี้เอง”
ถ้าหากปล่อยไปคนเดียวแล้วมีพวกบ้านึกทำร้ายเธอขึ้นมาก็คงไม่ดี, คิชิเบะคิด
“ผมจะรออยู่แถวนี้นะ มิสึกิซังรีบไปเถอะครับ”
หนุ่มผมขาวพยักหน้า เขาเดินไปที่บริเวณสนามบอลที่มีพวกอาบิสที่มีสติปัญญาเตะบอลในร่างมนุษย์ ดวงตาสีฟ้าของสิงโตหนุ่มมองหลังของมิสึกิด้วยความกังวล
หวังว่าจะไม่ร้ายแรงนะ ยิ่งในสนามบอลมีไฮซากิคุงอยู่ด้วย..
คิชิเบะถอนหายใจ ถ้าหากสิ่งที่คิดไว้ดันเกิดขึ้นมาจริง ๆ เขาคงต้องฆ่าเจ้าพวกนั้นทิ้ง
เมื่อขาเรียวหยุดก้าว ดวงตาสองสีมองตัวทดลองสิบกว่าชีวิตที่เล่นบอลกันในสนามด้วยสีหน้ามีความสุขจนเขารู้สึกไม่อยากขัด
แต่มันต้องขัดไง หกโมงมีประชุมกับหัวหน้าคิระอีก
“ขอโทษนะ ฉันมาหาโค้ด 88 กับโค้ด 89”
พูดไปแล้ว
แล้วก็โดนจ้องด้วยสายตาที่โคตรไม่เป็นมิตร
“เฮ้ย นากุโมะ! สึซึโนะ! มีคนบ้ามาหา!”
คนบ้า?
หมอนั่น— ถ้าจำไม่ผิด ชิโร่เรียกว่าไฮซากิสินะ เขาคิดว่านักวิทยาศาสตร์ = คนบ้างั้นหรอ!?
แต่ก็ไม่ผิดหรอกที่คิดแบบนั้น...
“คราวนี้เอาคนใหม่มาหาพวกฉันเลยงั้นหรอ? ใจกล้าดีนี่ วันก่อนก็เกือบกลายเป็นศพไปแล้ว ไม่เข็ดจริง ๆ สินะ พวกบ้านั่น!”
“ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ ให้ค่าอะไรไม่ได้หรอก”
มิสึกิมองสองหนุ่มที่เดินมาหาเขา คนทางซ้ายมีผมสีแดงเข้มที่ชวนให้รู้สึกนึกถึงทัตสึยะ แต่เอกลักษณ์ของคน ๆ นี้ที่เด่น ๆ เลยก็คงเป็นไอ้ก้อนดอกทิวลิปบนหัว และคนทางขวา ทำหน้าได้โคตรหยิ่ง ผมขาวปัดไปทางขวา คน ๆ นี้คงชอบพับแขนเสื้อขึ้นสินะ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้จากทั้งสองคน
ละอองความร้อน และละอองความเย็นที่แผ่ออกมามันเข้มข้นจนทำให้เขารู้สึก—
“โอ๊ะ? หลบได้ด้วย เจ๋งว่ะ”
“น่าสนใจ ถ้าเป็นคนก่อนคงตายไปแล้ว”
ใช่แล้ว มิสึกิที่สัมผัสได้ถึงพลังของแพนโดร่าที่ไหลออกมาจากทั้งสองจนเขาต้องรีบหลบ
ถ้าหากไม่หลบ มีหวังโดนละอองน้ำแข็งกับละอองไฟรุกรามเนื้อหนังจนร่างกายพังแน่
“ที่หลบได้ เพราะอ่านข้อมูลพวกนายมาบ้าง แต่อย่าทำแบบนี้อีกนะ มันอันตรา—”
“หุบปาก!”
มิสึกิปิดปากเงียบ เขามองใบหน้าของชายอารมณ์ร้อน
“รีบ ๆ ทำให้มันจบสักที เสียเวลา” ชายผู้ใช้พลังละอองน้ำแข็งพูด
“ฉันไม่มีอะไรจะถามมาก แค่อยากรู้ว่าตอนนี้พวกนายยังโอเคมั้ย” ในเมื่อถูกพูดไว้แบบนั้น มิสึกิเองก็ต้องยอมทำตามที่ขอ ไม่จำเป็นต้องแนะนำตัว หรือ พูดอะไรให้มันยืดยาว เพราะเขาเองก็เริ่มรู้สึกว่าหากอยู่นานกว่านี้ ได้มีการทะเลาะวิวาทแน่
“สบายดี” ทั้งสองตอบพร้อมกัน
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ” มิสึกิหันหลังกลับ ขาก้าวเดินไปข้างหน้า
“เดี๋ยว!”
เขาชะงัก ใบหน้าหันไปมองตามเสียง เป็นสึซึโนะที่พูด
“ถามแค่นี้จริงดิ?” นากุโมะถาม
มิสึกิพยักหน้า
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัว”
คราวนี้มิสึกิก้าวขายาว ๆ แล้วรีบเดินหนี
ไม่ใช่แค่สองคนนั้นที่อันตราย เขาสัมผัสได้ ออร่าความน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากกลุ่มคนสิบกว่าชีวิตที่อยู่ด้านหลังของนากุโมะ และสึซึโนะ
พวกไฮซากิ!
นอกจากชื่อของชายคนนั้น คนอื่น ๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร
“ไปซะแล้ว..”
“ตามดีปะ?”
“ไม่อ่ะ ฉันเชื่อว่าสักวันเราต้องได้เจอกัน”
“เชื่อไม่ได้หรอก นายมันโง่ เบิร์น”
“หาเรื่องหรอ กาเซล!”
“พวกนายสองคนเลิกทะเลาะกันสักทีดิ้ รำคาญว้อย!” ไฮซากิตะหวาด
“ชิ!”
ณ อาคารส่วนกลาง ลงไปยันชั้นล่างสุดแล้วมันจะปรากฏเส้นทางเส้นเดียวที่ถูกปูไว้ด้วยกระเบื้องสีขาวสะอาด สองขาเดินไปตามทาง มันตันสุดที่ประตูไม้แกะ สองมือดันประตูเข้าไปข้างใน แสงสว่างวาบแยงเข้าที่สายตา
เพียงแรกที่ก้าวเข้ามา ราวกับถูกสะกดจิตด้วยผลงานสถาปัตยกรรมสุดอลังการ มันถูกสร้างมาด้วยของมีมูลค่า ด้านในผนัง และเพดานนั้นก็ถูกตกแต่งออกมาอย่างงดงาม แต่คงไม่มีสิ่งใดงดงามเหมือนกับรูปปั้นที่ถูกแสดงอยู่ใจกลางพื้นที่
รูปปั้นของหญิงสาวที่แสดงสีหน้าด้วยรอยยิ้มที่สดใส ผมของเธอยาวถึงช่วงเอว รูปร่างของเธอนั้นสมส่วน และเธออยู่ในสภาพเปลือยเปล่า มีเพียงแค่ผ้าผืนเดียวที่ปกปิดส่วนช่วงอก และหว่างขา
ดวงตาของผู้มาใหม่สั่นระริก ราวกับถูกต้องมนต์สะกด รูปปั้นนั้นเหมือนมีอะไรบางอย่างที่พร้อมชักจูงให้ไปหา
“ขอให้นางฟ้าคุ้มครองเรา”
เสียงทุ่มต่ำเรียกความสนใจของผู้มาเยือนใหม่ ดวงตาสอดส่องตามเสียง เห็นร่างของชายคนหนึ่งในชุดฮากามะสีเขียวแก่
ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนแล้วหันตัวไปทางผู้มาเยือนใหม่
“ที่นี่สวยใช่มั้ย? ทัตสึยะ”
คนถูกถามยิ้มรับ
“ครับ งดงามมาก แต่ผมขอถามได้มั้ยครับ ท่านพ่อ”
“ว่ามาสิ”
“ผู้หญิงคนนั้นคือใครหรอครับ..” ทัตสึยะปรายตามองรูปปั้นที่อยู่ด้านหลังพ่อขอเขา
“รูปปั้นอันนี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่พ่อใช้เวลากว่าสามปี เพื่อให้มันออกสวยงามที่สุด และยังเป็นงานประติมากรรมเพียงชิ้นเดียวบนโลกที่ไม่มีใครเคยเห็นนอกจากพ่อ และลูกก็เป็นคนแรกที่ได้มาเห็น ทัตสึยะ”
ทัตสึยะเงียบ
“หญิงสาวคนนี้ คือ นางฟ้าผู้ปกป้องมนุษย์ เธอมีชื่อว่า—”
“เทเรเซีย อาร์ค เวสทัล”
Talk with Roselle
อดัม (Adam) เป็นมนุษย์คนแรก หากอิงตามพระคัมภีร์พันธสัญญาเก่าของชาวยิวที่ควบคู่กับอีฟ (Eve) ผู้หญิงคนแรกที่ถูกสร้างขึ้นจากซี่โครงของอดัม
บอกแค่นี้คงเข้าใจแล้วเนอะ? อะไรนะ ไม่เข้าใจอีกหรอ? งั้นจะธิบายแบบเข้าใจง่าย
เปรียบเทียบว่ามิสึกิ อากิระ คือ อดัม มนุษย์คนแรก
ชายชุดดำคนนั้นใช้กระดูกส่วนขาของมิสึกิ เพื่อสร้างมนุษย์เพิ่ม เหมือนที่อดัมใช้กระดูกสันหลังของตัวเองสร้างอีฟ
แต่ไม่ได้สร้างมนุษย์จากกระดูกส่วนขาของมิสึกิ เพื่อเป็นคู่รักแบบอดัมกับอีฟไง
ฉะนั้นจะมีมิสึกิ 3 คน
คนแรก คือ มิสึกิตัวจริง
คนสอง คือ มิสึกิที่เกิดจากกระดูกขาซ้ายของมิสึกิตัวจริง
คนสาม คือ มิสึกิที่เกิดจากกระดูกขาขวาของมิสึกิตัวจริง
ต้องเข้าใจแล้วล่ะ www
ส่วนนางฟ้าที่ปกป้องมนุษย์ ตามข้อมูลที่เรามาหาก็แทบจะมีหลายตัวเลยที่ปกป้องมนุษย์ และนางฟ้าบางตัวยังมีหน้าที่ และความสามารถที่ต่างกันออกไป เราเลยคิดว่ายำมั่วมันไปซะก็จบ เรียกแบบคนหมดความคิด นางฟ้าผู้ปกป้องมนุษย์ โดยคอนเซ็ปต์จะคล้าย ๆ เวนติ (GI) ที่เป็นเทพเมืองมอนด์ และคอยปกป้องผู้คนในเมืองมอนด์ , เอลิเซีย (HI3) Hassher of Humanity ยอมเสียสละตัวเอง เพื่อปกป้องมนุษยชาติ และเคยปลอมตัวเองอยู่ร่วมกับมนุษย์
ความคิดเห็น