ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    【Inazuma Eleven all series x OC】月の花嫁 Tsuki no Hanayome

    ลำดับตอนที่ #12 : 12 Freedom of love

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 66


     

    Warning

    • ตัวละครเสียชีวิต

    • มีบรรยาย หรือ ฉากสยองขวัญนิดหน่อย

    • ความรักระหว่างเพศเดียวกัน

    • การเหยียดคนรักร่วมเพศ

    • การล่าแม่มด

     

     

     

    เรื่องราวความรักของโอไรอ้อน และอาร์เทมิส

    อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องเล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาจาก...

    ความรักของคนสองคน

    เพศที่ต่างกัน

    และความรักที่ถูกกีดกันด้วยกฎเกณฑ์

     

     

     

    ทุกคนต่างรู้จักชื่อเสียงของกลุ่มวีรสตรีแห่งนครไร้นามกันถ้วนหน้า

    กลุ่มที่ถือคติว่าผู้หญิงสามารถแข็งแกร่งเฉกเช่นเดียวกับบุรุษ

    กลุ่มที่ถือคติว่าตนจะไม่ครองรักกับบุรุษ

    และยังเป็นกลุ่มที่ปกป้องหญิงสาวด้วยกันเอง

    โดยมีหัวหน้ากลุ่ม คือ อาร์เทมิส

    สตรีผู้ครองเส้นไหมบริสุทธิ์ และดวงตาสีท้องทะเล เธอนั้นแข็งแกร่ง และไม่ยอมถูกกดขี่ต่อเพศชายที่ตั้งตนเป็นใหญ่

    เธอมักมาพร้อมคำกล่าวประมาณว่า

    ‘สตรีก็เป็นมนุษย์เฉกเช่นบุรุษ’

    นี่อาจเป็นเรื่องแปลกสำหรับคนในเขตพื้นที่มุเมย์ เพราะผู้ทรงปัญญามักกล่าวไว้ว่าสตรีต้องอยู่ใต้อำนาจของบุรุษ

    แต่อาร์เทมิสไม่คิดแบบนั้น

    เธอมองว่าไม่ว่าหญิง หรือ ชายก็สามารถยืนเคียงข้างกัน และใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์

    มีหลายคนที่อคติต่ออาร์เทมิส ที่เหมือนกับแกะดำในฝูงแกะขาว

    อาร์เทมิสหาได้สนใจ จริงอยู่ที่เธอนั้นเป็นนายพรานที่แข็งแกร่ง แต่เธอก็ทำเพื่ออิสรภาพของคนที่มีเพศเดียวกับเธอ

    วันหนึ่ง ชาวบ้านในเขตพื้นที่มุเมย์ขอร้องไห้เธอไปคุยกับโอไรอ้อนเรื่องการล่าสัตว์ เธอเองก็แปลกใจที่มีคนที่ชิงชังในตัวเธอมาอ้อนวอนขอร้องไห้ช่วย ท้ายที่สุดก็ใจอ่อนยอมไปคุยกับบุคคลปริศนาที่ชื่อโอไรอ้อน

    คิดเสียว่ารีบคุยแล้วรีบกลับไปหาครอบครัวของเธอ

    เมื่ออาร์เทมิสได้พบกับโอไรอ้อน ทั้งสองได้พูดคุยกัน เธอทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดี แม้โอไรอ้อนจะเป็นพวกที่มั่นใจในตัวเอง และมีความขี้เล่น แต่เธอคิดว่านั่นคือเอกลักษณ์ของชายคนนี้

    ทั้งที่โอไรอ้อนเป็นบุรุษ ทำไมสตรีอย่างเธอถึงได้มาพูดคุยกับบุรุษอย่างเขา?

    เธอแค่มาคุยกับโอไรอ้อน หาใช่มาทำเรื่องเชิงรัก ๆ ใคร่ ๆ และอาร์เทมิสตั้งตนว่าเป็นสาวพรหมจรรย์ที่ไม่ครองรัก ใช่ว่าเธอจะต้องทำตัวห่างเหินกับผู้ชายทุกคนบนโลก

    เวลาผ่านไปยาวนานจนทั้งสองได้คุยกันจนเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย โอไรอ้อนยอมไม่ล่าสัตว์ทุกตัวบนโลก เพื่อให้มนุษย์คนอื่น ๆ ตามหาเสบียงยื้อชีพ

    อาร์เทมิสยิ้ม ในเมื่ออีกฝ่ายนั้นเข้าใจได้ เธอจึงขอตัวไปก่อน เพราะอาร์เทมิสยังต้องไปหาครอบครัวในกลุ่มของเธอ

    นับแต่นั้นมา ทั้งสองก็ได้มีการแวะเวียนแลกเปลี่ยนความคิด และมุมมองที่ต่างกัน

    หญิงสาวดีใจที่มีบุรุษเข้าใจในสิ่งที่เธอทำ

    อาร์เทมิสทำตัวเข้มแข็ง เพราะเธอต้องการเป็นสตรีที่ยืนหยัดด้วยตนเอง เพื่อเป็นตัวแทนให้แก่หญิงสาวอีกมากมาย

    ไม่รู้ว่าทั้งสองใช้เวลาไปนานขนาดไหน แต่อาร์เทมิสพึ่งรู้ตัวเองว่าเธอกำลังมีความรัก

    ความรักที่ผิดกับกฎที่เธอตั้งไว้..

    มือบางกำเสื้อที่อกแน่น ใบหน้างามซีดด้วยความทรมาน

    ยิ่งรู้จักก็ยิ่งผูกพัน

    ยิ่งไม่คิดก็ยิ่งโหยหา

    ทำไมมันถึงได้ทรมานขนาดนี้...

    อาร์เทมิสไม่อาจรับได้ที่เธอปล่อยใจไปหลงรักโอไรอ้อน

    เพื่อที่จะตัดใจจากโอไรอ้อน อาร์เทมิสเลือกที่จะขังตัวเองในหอคอยที่อยู่ลึกในป่า และยังอยู่ในใต้ดินที่รายล้อมไปด้วยแมงป่องพิษจึงไม่อาจมีใครเข้ามาได้

    ทั้ง ๆ ที่รักเขามาก แต่เธอก็ไม่สามารถรักเขาได้

    หากเธอแหกกฎที่เธอสร้างไว้—

    เธอคงไม่มีหน้าไปช่วยสตรีอื่น

    เธอนี่มันช่างเหมือนกับคนหลอกลวงเลย..

     

     

     

    ยิ่งรู้จักก็ยิ่งรู้สึก

    ความรู้สึกที่บีบคั้นหัวใจ

    ทุกครั้งที่ได้พบเธอ หัวใจก็ยิ่งสั่นด้วยความตื่นเต้น

    โอไรอ้อนรู้แล้วว่าเขาเป็นอะไร

    เขากำลังมีความรัก

    ความรักที่มอบให้หญิงสาวที่ถือตนเป็นสาวพรหมจรรย์

    น่าขัน ทั้งที่เราสองคนพึ่งตั้งตนว่าเป็นมิตรสหายต่างเพศที่เข้าใจกันและกัน

    แต่ยอมรับเลยว่ายิ่งได้พูดคุยกับนาง เขาก็ยิ่งผูกพัน

    ทรมานหัวใจเหลือเกิน ราวกับว่ามีมีดนับพันเล่มมาปักเข้าที่กลางอกเขา

    แต่ให้ทำไงได้ ในเมื่อนางตั้งตนเป็นสาวพรหมจรรย์ไปแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะไปรักนาง

    มันช่วยไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่าไม่อาจรักกันได้ แต่หัวใจกลับสั่งให้เขาวิ่งไปหานาง

    นางที่ชื่อว่าอาร์เทมิส

    ชายหนุ่มผมสีดำก้าวขาวิ่ง เขาไม่รู้หรอกว่าเธออยู่ที่ไหน แต่เขาจะตามหา ตามจนกว่าจะหาเธอเจอ

    แล้วบอกความรู้สึกนั้นให้เธอได้รู้

    แม้ว่ามันจะไม่มีทางที่เราสองคนจะรักกันได้

     

     

     

    ในป่าลึกที่อยู่ห่างไกลจากเขตพื้นที่มุเมย์ และห่างจากที่ตั้งฐานของกลุ่มวีรสตรีแห่งนครไร้นาม

    ในที่สุดก็หาเธอเจอ

    โอไรอ้อนชักดาบออกมาจัดการกองทัพแมงป่องพิษ

    แค่ตัวเขาคนเดียวก็ไม่อาจทนกับกองทัพพวกนี้ได้จึงตัดสินใจฝ่าเข้าไปที่หอคอย

    แม้ร่างกายนี้จะได้รับบาดแผล และพิษจากแมงป่อง

    เขาก็เลือกที่จะไปหาเธอ

     

     

     

    อ่า.. คงใช้เวลาตามหาเธอนานไปหลายอาทิตย์

    นางอยู่ที่นี่ไม่ผิดแน่ เขาจำได้ว่าธนูที่ถูกวางไว้บนโต๊ะเป็นของนาง

    ส่วนเจ้าของธนู...

    เหลือไว้เพียงแค่กระดูก

    ชายผมดำเดินไปยังซากกระดูกแล้วสัมผัสมันเบา ๆ

    นางคงลงโทษตัวเองโดยการขังตัวเองไว้ที่นี่ และไม่ทานอาหารอะไรเลย

    ใต้ดวงตาสีดำสนิทมีน้ำสีใสคลอออกมา

    ‘ต่อให้พันปี หมื่นปี หรือ ชาติหน้า ขอให้ข้า และเจ้าได้เกิดมาคู่กันโดยไม่มีกฎเกณฑ์มากีดกันความรักของเราสอง...’

    แล้วบรรจงจุมพิตที่กระดูกส่วนหัวอย่างโศกเศร้า

     

     

     

    แม้ชาตินี้ทั้งสองจะไม่ได้คู่กัน แต่พระเจ้ายังคงรับฟังเสียงของโอไรอ้อน ในพบชาติหน้าทั้งสองได้เกิดพร้อมกัน

    โอไรอ้อนที่กลับชาติมาเกิด เขาได้รับความทรงจำในชาติก่อน นั่นจึงทำให้เขารีบตามหาอาร์เทมิส

    และชาตินี้ โอไรอ้อนไม่ได้ใช่ชื่อว่าโอไรอ้อนอีกต่อไป เขาถูกพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดในชาตินี้ตั้งชื่อว่า ชู

    ชูยังคงมีลักษณะที่เหมือนกับชาติก่อน ผิดตรงที่เขานั้นอายุแค่สิบห้า ไม่เหมือนกับชาติก่อนที่อายุเลขหลักสอง

    เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าอาร์เทมิสในชาตินี้มีลักษณะเหมือนชาติก่อนหรือไม่ แต่หัวใจของเขานั้นเรียกร้องหานางตลอดเวลา

    ‘ผมสีขาว ดวงตาสีฟ้า’

    เขาท่องในใจ ขายังคงก้าวไปตามทาง ส่วนดวงตาก็มองหาหญิงสาวผมสีขาว และดวงตาสีฟ้า

    ราวกับโชคชะตาลิขิต ชูได้พบกับเจ้าของผมสีขาว และดวงตาสีฟ้า เหมือนกับอาร์เทมิสดั่งชาติก่อน

    ชูวิ่งไปหาร่างนั้นแล้วกล่าวทักทาย

    ‘สะ..สวัสดี!’

    เขาไม่รู้ว่าจะทักทายกับอีกคนยังไงดีจึงเริ่มรู้สึดประหม่าขึ้นมา

    ‘อืม สวัสดี.. มีอะไรกับฉันรึเปล่า?’

    เอ๊ะ.. ทำไมเสียงอาร์เทมิสต่ำจัง

    ‘ฉันชื่อชู ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วเธอ..?’

    ‘เธอ? เอ่อ.. ขอโทษนะ แต่ฉันเป็นผู้ชาย และฉันโนวิโอ้ ยินดีที่ได้รู้จัก’

    โนวีโอ้ยื่นมือไปทางชู แต่อีกคนดันทำหน้าช็อคจนแข็งค้าง

    ผิดคนรึเปล่า!?

    ‘อะ.. โอ้ เช่นกันนะ’ ชูยื่นมือไปจับมือของอีกฝ่าย

    มือนิ่มชะมัด ผู้ชายแน่หรอ?

    ‘งั้นฉันไปก่อนนะ ต้องไปทำธุระก่อน’

    โนวิโอ้ยิ้มให้ชูแล้วโบกมือลา

    หนุ่มผมดำก็โบกมือลาให้จนอีกคนเดินหันหลังแล้วจากไป

    ...

    อาร์เทมิสชาตินี้ไม่ได้เกิดเป็นผู้หญิงงั้นหรอ?

    พระเจ้าแอบเล่นตลกใส่แน่ ๆ

    ถึงจะดูเหมือนไม่ใช่อาร์เทมิสที่เรารู้จักในชาติก่อน แต่ไม่ผิดแน่..

    ทั้งสีผม สีของดวงตา และรอยยิ้มนั่น

    ชูยกมือขึ้นมากำอกเสื้อ

    ไม่เป็นไร.. ไม่ว่าเธอจะเกิดมาเป็นเพศไหน

    ฉันก็ยังรักเธอ..

     

     

     

    หลายวันที่ชูแวะเวียนไปหาโนวีโอ้ เรียกได้ว่าไปก่อกวนเสียมากกว่า

    ทั้งชวนออกไปเที่ยว เดินเล่นในชนบท พาไปทุ่งดอกไม้ที่นอกชนบท

    และด้วยความพยายามในการศึกษาโนวิโอ้ของชูก็ทำให้เขารู้ว่า

    โนวิโอ้เกิดมาเป็นเด็กที่มีร่างกายไม่แข็งแรง และมันส่งผลกระทบทำให้สีดวงตาข้างซ้ายของเขาเริ่มเข้มจนกลายเป็นสีน้ำเงิน

    ชูทำอะไรไม่ได้ นอกจากปลอบใจอีกฝ่าย มือหนากอบกุมมือบางนั้นไว้แน่น เพื่อเป็นหลักประกันว่าเขายังอยู่ข้างอีกฝ่ายเสมอ

    ชูรู้ตัวดีว่าเขานั้นกลายเป็นพวกรักเพศเดียวกันไปแล้ว นั่นก็เพราะว่าอาร์เทมิสที่เกิดมาในชาตินี้เป็นผู้ชาย

    แต่ที่เลวร้ายกว่านั่นคือ นี่เป็นยุคสมัยที่กฎยังไม่แน่นหนาพอที่จะสามารถให้การยอมรับเรื่องรักเพศเดียวกันได้

    และหากมีใครทำตัวแปลกแยกเหมือนแกะดำในฝูงแกะขาว คน ๆ นั้นจะถูกตามล่า

    ถูกตามล่าที่ว่า คือ การล่าแม่มด

    ‘จับมันไว้!’

    ‘เด็กนั่นไงที่มีตาสองสี!’

    ‘แม่มดงั้นหรอ!?’

    ‘ประหาร! ต้องนำไปประหารเดี๋ยวนี้เลยนะ!’

    ‘ลูกหลานของแม่มด!!’

    คำกล่าวมากมายดังออกมาที่ใจกลางชนบท

    ชูถูกจับมัดด้วยเชือกที่ผูกเงื่อนไว้อย่างแน่นหนา

    หน้าของเขาซีดเผือด ภาพความทรงจำที่น้องสาวของเขาตายต่อหน้ายังคงตราตรึงในใจ

    อีกแล้ว.. เหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว...

    โนวิโอ้ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นแม่มดก็ถูกพามาที่กลางชนบท

    เสาไม้สูงถูกตั้งไว้ใจกลางชนบท รอบฐานไม้มีไม้ และกองฟางวางไว้

    ชูดูออกทันทีว่าคนรักของเขาจะถูกโดนอะไร

    ‘โนวิโอ้ เด็กน้อยผู้น่าสงสาร แกมีความผิดที่มีตาสองสี และเป็นพวกรักร่วมเพศ!’

    เสียงซุบซิบมากมายดังขึ้น มีทั้งคำนินทาต่อว่าร้าย และคำสาปแช่งให้แก่โนวิโอ้ ชูที่ถูกมัดไว้กัดฟันแน่นด้วยความโกรธแค้น เขาไม่สามารถทำอะไรได้ และยังต้องมาทนฟังคำกล่าวหาจากคนในชนบทที่มีท่าทางชิงชังต่อโนวิโอ้

    ‘ฉันตัดสินใจแล้วว่าเราจะใช้วิธีฆ่าแม่มดด้วยการเผาทั้งเป็น!’

    เสียงเฮของชาวบ้านดังลั่นราวกับดีใจ

    ไม่เข้าใจ.. พวกเขาเป็นบ้าอะไรกัน? ดีใจขนาดนั้นเลยรอที่ต้องมาเผามนุษย์ทั้งเป็น...

    ชูน้ำตาไหล เขาเห็นร่างของโนวิโอ้ถูกพามามัดไว้เสาไม้

    ‘เริ่มเผาได้!’

    ‘ไม่! อย่านะ!’

     

     

     

    ผ่านไปแล้วห้าชั่วโมงหลังจากจบการเผาแม่มด

    ชูขังตัวเองไว้ในห้อง ข้าวปลาไม่ยอมแตะ

    ไม่เข้าใจ สับสน สองอย่างนี้วนอยู่ในหัวหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่สามารถหาคำตอบจากมันได้

    ทำไมเขาไม่ตาย? ทำไมโนวิโอ้ถึงเป็นฝ่ายโดนคนเดียว?

    ชูกำหมัดแน่น หยาดน้ำตาคงยังไม่หยุดไหล

    ภาพในชาติก่อนที่มีเขา และโนวิโอ้ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะมิตรสหายนั้นช่างมีความสุข ทั้งการล่า การสนทนา ความไว้เนื้อเชื่อใจ

    ความรู้สึกนี้อีกแล้ว..

    ทรมาน.. ทรมานเหลือเกิน...

    ชูเดินไปที่น้ำตกที่ห่างไกลจากชนบท ดวงตาสีดำที่ไร้ชีวิตมองท้องฟ้าที่กว้างใหญ่

    พระเจ้า... ถ้าหากท่านยังรับฟัง ได้โปรด— ช่วยมอบอิสรภาพของความรักให้แก่พวกเราทีเถอะ

    เสียงของหนักกระทบกับผิวน้ำจนเกิดเสียง ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยน้ำพร้อมกับทุกอย่างที่มืดสนิทราวกับภาพตัด

     

     

     

     

    Talk with Roselle

    เฉลยแล้วจ้า โอไรอ้อนคนนั้น คือ ชู จาก Inazuma Eleven GO คนติดเกาะก็อดเอเดนจากมูฟวี่ The Ultimate Bonds Gryphon นั่นเอง (ภาคหลักของ GO ก็มีโผล่มาบ้าง)

    แล้วก็เฉลยตัวละครอาเธน่าจากตอน 11 อาเธน่า คือ เบต้า จาก Inazuma Eleven GO Chrono Stone เพราะตามตำนานของเทพกรีกที่เป็นสาวพรหมจรรย์นั้นมี 3 คน ได้แก่ อาร์เทมิส อาเธน่า และเฮสเทีย หากมิสึกิเป็นอาร์เทมิส คนที่มีความเป็นอาเธน่ามากที่สุดก็ต้องเป็นเบต้านี่แหละค่ะ (อ้างอิงจากร่างอวตาร) ส่วนเฮสเทียนั้นไม่มีตัวตนค่ะ คิดซะว่าตัวประกอบให้ตรงพล็อตเฉย ๆ ละกันเนอะ

    ส่วนใครคือโนวิโอ้? อ่อ ก็มิสึกิ อากิระ OC ของเรื่องนี้ยังไงล่ะ ตอนแนะนำตัวละคร OC ก็บอกอยู่ว่าชื่อ โนวิโอ้ | มิสึกิ อากิระ (Novio | Mizuki Akira)

    เราชอบชื่อตอนมากเลยค่ะ Freedom of love (อิสรภาพของความรัก) เป็นชื่อตอนที่สะท้อนสังคมในสมัยที่ยังมีการเหยียดคนรักร่วมเพศ เพราะในสังคมโลกปัจจุบันมีช่วงนึงที่ตอนนั้นปิดกั้นคนรักร่วมเพศกันหนักมากจนถึงขั้นมีกฎหมายห้ามรักร่วมเพศ เหมือนกับตอนที่โอไรอ้อน (ชู) รักอาร์เทมิส (โนวิโอ้/มิสึกิ อากิระ) ที่เป็นเพศเดียวกัน แม้ชาติก่อนอาร์เทมิสจะเป็นหญิง แต่ชาตินี้เกิดเป็นชายทั้งแท่ง แต่ไม่เป็นไรนะ พี่ชูยังยึดมั่นในรัก ต่อให้เธอจะเปลี่ยนเพศ ฉันก็ยังรัก (แต่สังคมตอนนั้นมันไม่ให้) เลยจบที่ตายคู่ เพราะมีแต่คนรังเกียจ (เหมือนโลกเราปะล่ะ ที่ตอนนั้นออกเป็นข่าว)

    หากใครจำตอนจบของเรื่องเล่าความรักของโอไรอ้อน และอาร์เทมิสที่มิสึกิเล่าให้ทัตสึยะฟังได้ แล้วรู้สึกว่ามันจบแปลก ๆ ทำไมมันไม่ตรงกัน? อ่อ จำที่น้องยูกิมูระคุงถามมิสึกิได้มั้ยคะ ว่าเรื่องเล่านี้ คือ นิทานหลอกเด็ก

    แหนะ มีคนโดนนิทานหลอกเด็กหลอกเข้าให้แล้วค่า ตอนที่ 10 , 11 และ 12 คือ ตอนที่เล่าเรื่องจริงที่เกิดจากประสบการณ์ของพี่ชูนั่นเอง ส่วนที่น้องมิสึกิเล่าให้ตาทัตฟัง คือ เรื่องหลอกเด็กที่จบสวย แต่พี่ชูที่ผ่านประสบการณ์จริงบอกจบไม่สวยว้อย ลูปตาย เพราะรักติดกฎนี่แหละ

    แล้วก็อีกเรื่องเกี่ยวกับเบต้า ไม่รู้ว่ามีคนเอะใจตอนที่ 10 ช่วงที่อาเธน่าดูเหมือนคนมีอาการเหมือนค้นพบแสงสว่างของตัวเอง (แสงสว่าง = อาร์เทมิส) ความจริงแล้วตอนนั้นอาเธน่าหลงรักอาร์เทมิสตั้งแต่แรกพบค่ะ เพราะอาเธน่าผ่านเรื่องร้ายมามากมายจนหัวใจบอบช้ำ พอได้เจออาร์เทมิสแล้วหัวใจมันสั่น เพราะโดนนางตก แต่ตอนนั้นอาเธน่าไม่รู้ว่าตัวเองรักอาร์เทมิสไปแล้วเลยโดนปล่อยผ่าน ถึงนี่จะเป็นเรื่องของอดีตชาติ แต่ (มี)

    สปอย

    ในปัจจุบัน เบต้าที่อยู่กลุ่มเอลโดราโด้ก็มีความคลั่งไคล้ในตัวของมิสึกิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×