คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : 11 Orion
Warning
• อ้างอิงตัวละครจากตำนานเทพกรีก และเนื้อหาบางส่วนไม่เป็นความจริง
• ตัวประกอบเสียชีวิต
• มีบรรยายฉากสยองขวัญ
• กล่าวการใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวยในทางความเชื่อ
เรื่องราวความรักของโอไรอ้อน และอาร์เทมิส
อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องเล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาจาก...
ความรักของคนสองคน
เพศที่ต่างกัน
และความรักที่ถูกกีดกันด้วยกฎเกณฑ์
มุเมย์ เขตพื้นที่ที่มนุษย์ใช้เป็นที่ตั้งหลักในการพักพิงอยู่อาศัย
และโอไรอ้อน
เด็กชายวัยสิบขวบที่ไม่มีพ่อแม่ กล่าวคือ โอไรอ้อนเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่สูญเสียพ่อแม่
พ่อแม่ของเขาถูกเพื่อน ๆ ในทีมล่าใช้เป็นเหยื่อล่อสัตว์ป่าจนเสียชีวิต เหลือไว้เพียงแค่เขา และน้องสาวที่ยังมีชีวิตอยู่
ยังดีที่ผู้ทรงปัญญายังให้บ้านหลังเดิมให้เขา และน้องสาวอยู่ แต่ชีวิตการหากินยังคงลำบาก
น้องสาวของโอไรอ้อนเป็นเด็กดี และอ่อนโยน เธอไม่ถนัดเรื่องงานที่พวกผู้หญิงในเขตพื้นที่ทำกัน เพราะเธอยังเด็ก โอไรอ้อนผู้เป็นพี่คนโตสุดจึงเป็นฝ่ายทำทุกอย่าง
ถามว่าเหนื่อยมั้ย ที่ต้องทนกับชีวิตแบบนี้? ก็ไม่
ยังไงครอบครัวเขาก็สำคัญอยู่แล้ว และยิ่งเหลือแค่น้องสาวคนเดียว..
ในขณะที่เขาเหม่อ ก็มีเสียงเรียกเล็ก ๆ มาสะกิดเขา
‘ท่านพี่ ท่านพี่ ข้าขอออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ ได้หรือไม่?’
เป็นน้องสาวของเขาที่เป็นฝ่ายพูด
โอไรอ้อนยกยิ้ม
‘อืม ไปสิ’
เขาพูดแบบนั้นแล้วเดินตามน้องสาวของเขาจนทั้งคู่ได้ออกจากบ้าน
มือหนาปิดบานประตูไม้จนมีเสียงเอี๊ยด
และทุกอย่างก็มืดสนิท
เด็กสาวผมสีดำในทรงผมหางม้าวิ่งไปหาเพื่อน ๆ ของเธอที่ยืนคุยกันที่สนามหญ้า
โอไรอ้อนมองครอบครัวเพียงคนเดียวของเขาด้วยท่าทางมีความสุข
‘โอไรอ้อน! ไปล่าสัตว์กัน’
เด็กหนุ่มอีกฝากฝั่งตรงข้ามโอไรอ้อนเอ่ยทัก ดวงตาสีดำเฉกเช่นเดียวกับสีผมหันไปมองตามเสียงเรียก
‘ตอนนี้?’ โอไรอ้อนถาม
อีกฝ่ายพยักหน้า
เสบียงในบ้านก็เริ่มไม่เหลือ หากไม่หาเพิ่ม มีหวังได้อดตายแน่ ๆ
โอไรอ้อนคิดเช่นนั้นก่อนจะตอบรับ
เขาเดินไปหาน้องสาวแล้วบอกเธอ
สาวน้อยผมสีดำพยักหน้ารับแล้วโบกมือให้กับพี่ชาย
โอไรอ้อนยกยิ้มก่อนที่จะเดินไปหาเพื่อนในเขตพื้นที่
ระหว่างทางเดินนั้นไม่มีการพูดคุยใด ๆ ทั้งสิ้น ต่างฝ่ายต่างเงียบ แต่ไม่นานนักก็มีเสียงเอ่ยขึ้นจากปากของเด็กชายข้างโอไรอ้อน
‘จริงสิ โอไรอ้อน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพักนี้ผู้ทรงปัญญาได้ค้นพบวิธีที่จะแก้ปัญหาสัตว์ป่าทำร้ายผู้คนในเขตพื้นที่ได้แล้ว!’
โอไรอ้อนฮัมเสียงอย่างสนใจ
‘เห แล้วพวกเขาใช้วิธีใดกันงั้นหรือ?’ เขาถาม
เมื่อมาถึงบ้านของโอไรอ้อน ขายาวก้าวไปตามทางห้องเก็บของที่อยํ่ข้าง ๆ บ้านหลักของเขา สองมือเปิดประตูห้องเก็บของแล้วหยิบอาวุธที่ใช้ในการล่าออกมา
‘เท่าที่ข้าได้ยินมา ผู้ทรงปัญญาใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวย’
คำพูดดังกล่าวทำให้โอไรอ้อนชะงัก เขาหันไปมองหน้าเพื่อนในเขตพื้นที่ที่กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน
‘หมายความว่าอันใด...?’
‘แก้ปัญหาให้มนุษย์ โดยการใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวยงั้นหรือ?!’
โอไรอ้อนทำหน้าไม่พอใจ
‘ข้าไม่รู้ ผู้ทรงปัญญาบอกว่ามันคือเสียสละเพื่อให้ทวยเทพรับฟังพวกเรา’
‘แต่ผู้ทรงปัญญากล่าวไว้ว่าอีกไม่นานพิธีก็จะเริ่มแล้ว ก่อนไปล่าสัตว์ เจ้าจะดูพร้อมกับข้าหรือไม่?’ เด็กชายถาม
‘ไม่ล่ะ ข้าจะรีบไปล่าแล้วรีบกลับ’ โอไรอ้อนปฎิเสธ
‘เข้าใจแล้ว..’ เด็กชายตอบแล้วเดินจากไป
โอไรอ้อนก้าวขาออกจากบ้านแล้วเดินไปตามเส้นทางที่แสนคุ้นชิน
‘เจ้ารู้หรือไม่! ผู้ทรงปัญญาพบวิธีช่วยพวกเราให้รอดปลอดภัยจากสัตว์ร้ายแล้ว!’
‘จริงหรือ? ผู้ทรงปัญญาได้บอกหรือไม่ว่าใช้วิธีใด?’
‘เพื่อให้พระเจ้าทรงรับฟังพวกเรา เห็นว่าใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวย
และต้องเป็นเด็กเท่านั้น’
โอไรอ้อนหยุดเดิน สองหูตั้งใจฟังสิ่งที่คนระแวกนั้นยืนคุยกัน
‘แล้วเด็กผู้โชคดีคนนั้นคือผู้ใดกัน?’
‘...■■■’
....
เด็กหนุ่มผมสีดำหันหลังแล้ววิ่งกลับไปยังเส้นทางเดิมที่เขาพึ่งผ่านมา
สองขาหยุดก้าว เขากวาดสายตามองหาร่างของน้องสาวของเขาด้วยความร้อนรน แต่ก็ไม่เจอน้องสาวที่แสนสำคัญคนนั้น
‘เจ้าเห็นน้องข้าหรือไม่!’
และด้วยความร้อนรน เขาจึงถามเด็ก ๆ แถวนั้น เด็ก ๆ พากันส่ายหน้า แต่ก็มีบางคนตอบมาว่า
‘ผู้ทรงปัญญาพานางไปแล้ว’
โอไรอ้อนวิ่ง แม้จะหอบเหนื่อย เขาก็ไม่หยุด
เป้าหมายตรงหน้ามีแค่ที่เดียว
ป่าหลังเขตพื้นที่มุเมย์
ป่าหลังเขตพื้นที่มุเมย์ โอไรอ้อนเคยได้ยินมาว่าเคยมีหญิงสาวมาฆ่าตัวตายที่ลำธารในป่า
หญิงสาวคนนั้นที่ตายไปกลายเป็นศพที่ถูกสัตว์ในป่ากินจนเหลือแต่กระดูก
และโอไรอ้อนยังได้ยินมาอีกว่า เธอคือต้นเหตุที่ทำให้สัตว์ร้ายในป่าคลุ้มคลั่ง เพราะความอยากอาหาร
เขาไม่รู้ว่าจริงไหม แต่โอไรอ้อนรู้ทันแผนการที่พวกผู้ทรงปัญญานั่นคิดออกตั้งแต่ฟังครั้งแรก
ใช้เด็กเป็นตัวล่อสัตว์ป่าเหมือนที่พ่อแม่ของเขาโดนกระทำ เพื่อจับสัตว์ป่ามาทำเป็นเสบียง ย่อมว่าไม่มีใครยอมรับได้กับความคิดนี้แน่ จึงใช้เทพพระเจ้าอ้าง
‘ได้โปรด.. ขอให้ทันทีเถอะ’
เขาไม่อยากเสียคนสำคัญอีกต่อไปแล้ว..
กรี๊ด—ดด!!
ภาพตรงหน้าแทบทำให้หัวใจของโอไรอ้อนแตกสลาย
เด็กสาวตัวน้อยที่มีผมสีดำในชุดกระโปรงสีขาวถูกมัดด้วยเชือกที่หนาแน่น ขาของเธอถูกโซ่สั้นตรวนไว้จึงไม่สามารถหนีออกไปได้ และร่างของเด็กสาวกำลังเผชิญหน้ากับเจ้าป่าแห่งป่าหลังเขตพื้นที่มุเมย์
ฝูงเสือสมิง
‘หากเราจับพวกมันได้ เสบียงก็เหลือล้นแล้ว!’
เสียงเฮตะโกนลั่น
‘ปล่อยน้องสาวข้า!’
โอไรอ้อนวิ่งไปทางเด็กสาวพร้อมอาวุธในมือ แต่เขาก็ถูกรั้งไว้ด้วยลำแขนแกร่งของพวกผู้ใหญ่
‘น้องสาวเจ้าไม่มีประโยชน์ที่จะงานแล้ว อยู่ต่อก็มีแต่ถ่วงไปเปล่า ๆ อยู่นิ่ง ๆ เสียโอไรอ้อน’
ผู้ทรงปัญญากล่าว
โอไรอ้อนชักสีหน้าโกรธ เขากล่าววาจาว่าร้ายใส่ผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่ในพื้นที่ไร้จุดเสี่ยงจากสัตว์ป่า
เหลือไว้แค่เด็กสาวที่นั่งร้องไห้
โอไรอ้อนตะโกนร้องไห้เธอหนี แต่เด็กสาวไม่อาจหนีได้ เพราะโซ่ตรวนที่ขา
เขาพยายามสะบัดหนีจากการเหนี่ยวรั้งของพวกผู้ใหญ่ แต่มีหรือที่เด็กอย่างเขาจะหลุดพ้น
ในไม่ช้า ฝูงเสือสมิงก็กระโจนใส่เธอ
หยาดน้ำตาสีใสไหลลงข้างแก้มของโอไรอ้อน เขากรีดร้องอย่างทรมาน
และทุกอย่างก็มืดสนิทราวกับภาพตัด...
ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวไปกว่าความคิดของมนุษย์
ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวไปกว่าการกระทำของมนุษย์
ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวไปกว่าตันตนของมนุษย์
ทำไม— มนุษย์ถึงได้น่าสมเพชขนาดนี้..
ผ่านไปสิบปี โอไรอ้อนโตเป็นบุรุษรูปงาม
เส้นผมสีดำที่ไว้ไฮไลท์สีแดงตัดขาว ตรงส่วนของไฮไลท์มีลูกปัดสีเขียวที่น้องสาวของเขาเป็นคนมอบให้
โอไรอ้อนยังคงอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่มุเมย์ เพราะที่นั่นเต็มไปด้วยความทรงจำมากมายเกี่ยวกับครอบครัวของเขา
แม้จะมีความสามารถในการใช้อาวุธที่เก่งกาจ แต่ชายผมดำตั้งตนเป็นนักล่าอิสระ และยังเปล่าประกาศอีกว่าเขาจะล่าสัตว์ทุกตัวให้หายไปให้หมด
ก่อนหน้านี้ มิตรสหาย และเด็กสาวปริศนาที่เขารู้จักก็เสียชีวิตจากพวกสัตว์ป่าบุกมาทำร้าย
เขาไม่อยากเสียใครอีกแล้ว เขาจึงเลือกที่จะทำมัน
และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความรักที่เขาได้มาพบกับเธอ—
อาร์เทมิส..
ความคิดเห็น