ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    【Inazuma Eleven all series x OC】月の花嫁 Tsuki no Hanayome

    ลำดับตอนที่ #11 : 11 Orion

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 66


     

    Warning

    • อ้างอิงตัวละครจากตำนานเทพกรีก และเนื้อหาบางส่วนไม่เป็นความจริง

    • ตัวประกอบเสียชีวิต

    • มีบรรยายฉากสยองขวัญ

    • กล่าวการใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวยในทางความเชื่อ

     

     

     

    เรื่องราวความรักของโอไรอ้อน และอาร์เทมิส

    อย่างที่รู้กันดีว่าเรื่องเล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาจาก...

    ความรักของคนสองคน

    เพศที่ต่างกัน

    และความรักที่ถูกกีดกันด้วยกฎเกณฑ์

     

     

     

    มุเมย์ เขตพื้นที่ที่มนุษย์ใช้เป็นที่ตั้งหลักในการพักพิงอยู่อาศัย

    และโอไรอ้อน

    เด็กชายวัยสิบขวบที่ไม่มีพ่อแม่ กล่าวคือ โอไรอ้อนเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่สูญเสียพ่อแม่

    พ่อแม่ของเขาถูกเพื่อน ๆ ในทีมล่าใช้เป็นเหยื่อล่อสัตว์ป่าจนเสียชีวิต เหลือไว้เพียงแค่เขา และน้องสาวที่ยังมีชีวิตอยู่

    ยังดีที่ผู้ทรงปัญญายังให้บ้านหลังเดิมให้เขา และน้องสาวอยู่ แต่ชีวิตการหากินยังคงลำบาก

    น้องสาวของโอไรอ้อนเป็นเด็กดี และอ่อนโยน เธอไม่ถนัดเรื่องงานที่พวกผู้หญิงในเขตพื้นที่ทำกัน เพราะเธอยังเด็ก โอไรอ้อนผู้เป็นพี่คนโตสุดจึงเป็นฝ่ายทำทุกอย่าง

    ถามว่าเหนื่อยมั้ย ที่ต้องทนกับชีวิตแบบนี้? ก็ไม่

    ยังไงครอบครัวเขาก็สำคัญอยู่แล้ว และยิ่งเหลือแค่น้องสาวคนเดียว..

    ในขณะที่เขาเหม่อ ก็มีเสียงเรียกเล็ก ๆ มาสะกิดเขา

    ‘ท่านพี่ ท่านพี่ ข้าขอออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ ได้หรือไม่?’

    เป็นน้องสาวของเขาที่เป็นฝ่ายพูด

    โอไรอ้อนยกยิ้ม

    ‘อืม ไปสิ’

    เขาพูดแบบนั้นแล้วเดินตามน้องสาวของเขาจนทั้งคู่ได้ออกจากบ้าน

    มือหนาปิดบานประตูไม้จนมีเสียงเอี๊ยด

    และทุกอย่างก็มืดสนิท

     

     

     

    เด็กสาวผมสีดำในทรงผมหางม้าวิ่งไปหาเพื่อน ๆ ของเธอที่ยืนคุยกันที่สนามหญ้า

    โอไรอ้อนมองครอบครัวเพียงคนเดียวของเขาด้วยท่าทางมีความสุข

    ‘โอไรอ้อน! ไปล่าสัตว์กัน’

    เด็กหนุ่มอีกฝากฝั่งตรงข้ามโอไรอ้อนเอ่ยทัก ดวงตาสีดำเฉกเช่นเดียวกับสีผมหันไปมองตามเสียงเรียก

    ‘ตอนนี้?’ โอไรอ้อนถาม

    อีกฝ่ายพยักหน้า

    เสบียงในบ้านก็เริ่มไม่เหลือ หากไม่หาเพิ่ม มีหวังได้อดตายแน่ ๆ

    โอไรอ้อนคิดเช่นนั้นก่อนจะตอบรับ

    เขาเดินไปหาน้องสาวแล้วบอกเธอ

    สาวน้อยผมสีดำพยักหน้ารับแล้วโบกมือให้กับพี่ชาย

    โอไรอ้อนยกยิ้มก่อนที่จะเดินไปหาเพื่อนในเขตพื้นที่

    ระหว่างทางเดินนั้นไม่มีการพูดคุยใด ๆ ทั้งสิ้น ต่างฝ่ายต่างเงียบ แต่ไม่นานนักก็มีเสียงเอ่ยขึ้นจากปากของเด็กชายข้างโอไรอ้อน

    ‘จริงสิ โอไรอ้อน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพักนี้ผู้ทรงปัญญาได้ค้นพบวิธีที่จะแก้ปัญหาสัตว์ป่าทำร้ายผู้คนในเขตพื้นที่ได้แล้ว!’

    โอไรอ้อนฮัมเสียงอย่างสนใจ

    ‘เห แล้วพวกเขาใช้วิธีใดกันงั้นหรือ?’ เขาถาม

    เมื่อมาถึงบ้านของโอไรอ้อน ขายาวก้าวไปตามทางห้องเก็บของที่อยํ่ข้าง ๆ บ้านหลักของเขา สองมือเปิดประตูห้องเก็บของแล้วหยิบอาวุธที่ใช้ในการล่าออกมา

    ‘เท่าที่ข้าได้ยินมา ผู้ทรงปัญญาใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวย’

    คำพูดดังกล่าวทำให้โอไรอ้อนชะงัก เขาหันไปมองหน้าเพื่อนในเขตพื้นที่ที่กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน

    ‘หมายความว่าอันใด...?’

    ‘แก้ปัญหาให้มนุษย์ โดยการใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวยงั้นหรือ?!’

    โอไรอ้อนทำหน้าไม่พอใจ

    ‘ข้าไม่รู้ ผู้ทรงปัญญาบอกว่ามันคือเสียสละเพื่อให้ทวยเทพรับฟังพวกเรา’

    ‘แต่ผู้ทรงปัญญากล่าวไว้ว่าอีกไม่นานพิธีก็จะเริ่มแล้ว ก่อนไปล่าสัตว์ เจ้าจะดูพร้อมกับข้าหรือไม่?’ เด็กชายถาม

    ‘ไม่ล่ะ ข้าจะรีบไปล่าแล้วรีบกลับ’ โอไรอ้อนปฎิเสธ

    ‘เข้าใจแล้ว..’ เด็กชายตอบแล้วเดินจากไป

    โอไรอ้อนก้าวขาออกจากบ้านแล้วเดินไปตามเส้นทางที่แสนคุ้นชิน

    ‘เจ้ารู้หรือไม่! ผู้ทรงปัญญาพบวิธีช่วยพวกเราให้รอดปลอดภัยจากสัตว์ร้ายแล้ว!’

    ‘จริงหรือ? ผู้ทรงปัญญาได้บอกหรือไม่ว่าใช้วิธีใด?’

    ‘เพื่อให้พระเจ้าทรงรับฟังพวกเรา เห็นว่าใช้มนุษย์เป็นเครื่องสังเวย

    และต้องเป็นเด็กเท่านั้น’

    โอไรอ้อนหยุดเดิน สองหูตั้งใจฟังสิ่งที่คนระแวกนั้นยืนคุยกัน

    ‘แล้วเด็กผู้โชคดีคนนั้นคือผู้ใดกัน?’

    ‘...■■■’

    ....

    เด็กหนุ่มผมสีดำหันหลังแล้ววิ่งกลับไปยังเส้นทางเดิมที่เขาพึ่งผ่านมา

    สองขาหยุดก้าว เขากวาดสายตามองหาร่างของน้องสาวของเขาด้วยความร้อนรน แต่ก็ไม่เจอน้องสาวที่แสนสำคัญคนนั้น

    ‘เจ้าเห็นน้องข้าหรือไม่!’

    และด้วยความร้อนรน เขาจึงถามเด็ก ๆ แถวนั้น เด็ก ๆ พากันส่ายหน้า แต่ก็มีบางคนตอบมาว่า

    ‘ผู้ทรงปัญญาพานางไปแล้ว’

    โอไรอ้อนวิ่ง แม้จะหอบเหนื่อย เขาก็ไม่หยุด

    เป้าหมายตรงหน้ามีแค่ที่เดียว

    ป่าหลังเขตพื้นที่มุเมย์

     

     

     

    ป่าหลังเขตพื้นที่มุเมย์ โอไรอ้อนเคยได้ยินมาว่าเคยมีหญิงสาวมาฆ่าตัวตายที่ลำธารในป่า

    หญิงสาวคนนั้นที่ตายไปกลายเป็นศพที่ถูกสัตว์ในป่ากินจนเหลือแต่กระดูก

    และโอไรอ้อนยังได้ยินมาอีกว่า เธอคือต้นเหตุที่ทำให้สัตว์ร้ายในป่าคลุ้มคลั่ง เพราะความอยากอาหาร

    เขาไม่รู้ว่าจริงไหม แต่โอไรอ้อนรู้ทันแผนการที่พวกผู้ทรงปัญญานั่นคิดออกตั้งแต่ฟังครั้งแรก

    ใช้เด็กเป็นตัวล่อสัตว์ป่าเหมือนที่พ่อแม่ของเขาโดนกระทำ เพื่อจับสัตว์ป่ามาทำเป็นเสบียง ย่อมว่าไม่มีใครยอมรับได้กับความคิดนี้แน่ จึงใช้เทพพระเจ้าอ้าง

    ‘ได้โปรด.. ขอให้ทันทีเถอะ’

    เขาไม่อยากเสียคนสำคัญอีกต่อไปแล้ว..

     

     

     

    กรี๊ด—ดด!!

    ภาพตรงหน้าแทบทำให้หัวใจของโอไรอ้อนแตกสลาย

    เด็กสาวตัวน้อยที่มีผมสีดำในชุดกระโปรงสีขาวถูกมัดด้วยเชือกที่หนาแน่น ขาของเธอถูกโซ่สั้นตรวนไว้จึงไม่สามารถหนีออกไปได้ และร่างของเด็กสาวกำลังเผชิญหน้ากับเจ้าป่าแห่งป่าหลังเขตพื้นที่มุเมย์

    ฝูงเสือสมิง

    ‘หากเราจับพวกมันได้ เสบียงก็เหลือล้นแล้ว!’

    เสียงเฮตะโกนลั่น

    ‘ปล่อยน้องสาวข้า!’

    โอไรอ้อนวิ่งไปทางเด็กสาวพร้อมอาวุธในมือ แต่เขาก็ถูกรั้งไว้ด้วยลำแขนแกร่งของพวกผู้ใหญ่

    ‘น้องสาวเจ้าไม่มีประโยชน์ที่จะงานแล้ว อยู่ต่อก็มีแต่ถ่วงไปเปล่า ๆ อยู่นิ่ง ๆ เสียโอไรอ้อน’

    ผู้ทรงปัญญากล่าว

    โอไรอ้อนชักสีหน้าโกรธ เขากล่าววาจาว่าร้ายใส่ผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่ในพื้นที่ไร้จุดเสี่ยงจากสัตว์ป่า

    เหลือไว้แค่เด็กสาวที่นั่งร้องไห้

    โอไรอ้อนตะโกนร้องไห้เธอหนี แต่เด็กสาวไม่อาจหนีได้ เพราะโซ่ตรวนที่ขา

    เขาพยายามสะบัดหนีจากการเหนี่ยวรั้งของพวกผู้ใหญ่ แต่มีหรือที่เด็กอย่างเขาจะหลุดพ้น

    ในไม่ช้า ฝูงเสือสมิงก็กระโจนใส่เธอ

    หยาดน้ำตาสีใสไหลลงข้างแก้มของโอไรอ้อน เขากรีดร้องอย่างทรมาน

    และทุกอย่างก็มืดสนิทราวกับภาพตัด...

     

     

     

    ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวไปกว่าความคิดของมนุษย์

    ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวไปกว่าการกระทำของมนุษย์

    ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวไปกว่าตันตนของมนุษย์

    ทำไม— มนุษย์ถึงได้น่าสมเพชขนาดนี้..

     

     

     

    ผ่านไปสิบปี โอไรอ้อนโตเป็นบุรุษรูปงาม

    เส้นผมสีดำที่ไว้ไฮไลท์สีแดงตัดขาว ตรงส่วนของไฮไลท์มีลูกปัดสีเขียวที่น้องสาวของเขาเป็นคนมอบให้

    โอไรอ้อนยังคงอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่มุเมย์ เพราะที่นั่นเต็มไปด้วยความทรงจำมากมายเกี่ยวกับครอบครัวของเขา

    แม้จะมีความสามารถในการใช้อาวุธที่เก่งกาจ แต่ชายผมดำตั้งตนเป็นนักล่าอิสระ และยังเปล่าประกาศอีกว่าเขาจะล่าสัตว์ทุกตัวให้หายไปให้หมด

    ก่อนหน้านี้ มิตรสหาย และเด็กสาวปริศนาที่เขารู้จักก็เสียชีวิตจากพวกสัตว์ป่าบุกมาทำร้าย

    เขาไม่อยากเสียใครอีกแล้ว เขาจึงเลือกที่จะทำมัน

    และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความรักที่เขาได้มาพบกับเธอ—

    อาร์เทมิส..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×