ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    【Inazuma Eleven all series x OC】月の花嫁 Tsuki no Hanayome

    ลำดับตอนที่ #8 : 08 Wolf

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 66


     

    Warning 

    • ตัวละครมีพฤติกรรมโรคจิต

     

     

     

    “ขอบคุณสำหรับเอกสารนะ มิสึกิคุง”

    ทัตสึยะยิ้มให้ มือของเขารับเอกสารจากพนักงานใหม่ตรงหน้า

    “อืม”

    “แล้วเสื้อกาวน์ของนายหายไปไหนหรอครับ?” คนผมแดงที่สังเกตเห็นว่าอีกคนมาด้วยสภาพที่ไร้เสื้อกาวน์จึงเอ่ยถาม

    “ระหว่างตรวจสอบตัวทดลอง มีตัวทดลองไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ฉันเลยให้เสื้อกาวน์เธอไปใส่ก่อน” มิสึกิหันหน้าหนีแล้วยกมือขวามาจับแขนซ้ายของตัวเองแก้เขิน

    “เห สุภาพบุรุษจังเลยนะครับ” ทัตสึยะเอ่ยแซว

    “เงียบไป ฉันต้องไปหาโค้ด 63, โค้ด 65 โค้ด 88 และโค้ด 89 อีก เหนื่อยจะแย่” อีกคนบ่น

    ทัตสึยะมองอีกคนที่บ่นออกมาด้วยท่าทางน่ารักในสายตาของหนุ่มผมแดง เขาจึงยกยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู

    “อีก 20 นาทีจะมีการปล่อยตัวทดลองออกมาจากห้องในเขตของแต่ละโซน ทำไมไม่รอจังหวะนั้นไปหาล่ะครับ?”

    มิสึกิมองทัตสึยะตาแป๋ว

    มีแบบนี้ด้วยหรอ..?

    “แต่ก็มีบางคนไม่ออกจากห้อง เพราะติดวิจัย หรือ ตรวจสอบนี่แหละ”

    คนผมขาวพยักหน้ารับ

    “ขอบคุณสำหรับข้อมูล” มิสึกิพูดจบก็เดินจากไป

    “ด้วยความยินดีครับ” ทัตสึยะยกยิ้ม

    อ่า มิสึกิคุงไปแล้ว

    ดวงตามรกตสอดส่องมองซ้ายขวาอย่างระมัดระวัง

    เมื่อไม่มีใครอยู่แถวนี้ มือหนายกเอกสารขึ้น ค่อย ๆ แนบเอกสารเข้าที่จมูกโด่งของเขาแล้วสูดดมกลิ่นหอมที่หลงเหลืออยู่จาง ๆ ออกมาเต็มปอด

    “อ๊〜า”

    เสียงครางดังเล็ดออกมาอย่างห้ามไม่ได้

    “มิสึกิคุง.. มิสึกิคุง.. มิสึกิคุง...”

    “หอมจัง...”

     

     

     

    เวลา 14:23 น.

    ใช้เวลาไม่นาน ร่างของมิสึกิ อากิระ พนักงานหน้าใหม่ที่พึ่งถูกรับน้องมาได้ไม่นานก็มาเยือน C zone สำเร็จ

    ใช้เวลาไม่นานก็แย่แล้ว เดินทางมาเกือบ 20 กว่านาที เพราะลิฟต์มีคนยืนกองกันอย่างเยอะเลยตัดปัญหาด้วยการใช้บันได

    เมื่อยก็เมื่อย ร้อนก็ร้อน ยังจะต้องถือเอกสารไปมาอีก เหนื่อย

    “คือว่า..” มิสึกิหันไปมองตามเสียง

    ร่างของเด็กผู้ชายผมสีเงินสว่าง เขาอยู่ในชุดทดลองของแล็ป ดวงตาเทาเข้มมองมาที่มิสึกิ

    “มีอะไรหรอ?” มิสึกิถาม คาดว่าคนตรงหน้าคงเป็นตัวทดลองจากห้องวิจัยแน่ ๆ แต่ทำไมถึงออกมาข้างนอกได้?

    “ทำไมเธอมาอยู่ตรงนี้หรอ?” เด็กหนุ่มปริศนาถาม

    “บ่ายสองครึ่ง เจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวทดลองออกมาอยู่ในพื้นที่ ฉันก็เลยรอเวลาน่ะ พอดีต้องตรวจสอบตัวทดลองในเอกสารต่อ”

    “ถ้าเธอเป็นนักวิจัยก็เข้ามาได้ก่อนเวลาเลยนะ” อีกคนตอบแบบนั้นเลยทำให้มิสึกิมองหน้าด้วยความสงสัย

    “ที่ผมพูดแบบนั้น เพราะผมเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ตลอด และเธอคงมาใหม่สินะ ไม่เคยเจอมาก่อนเลย”

    “หากคิดจะให้ฉันแนะนำตัวเอง ทำไมนายไม่แนะนำตัวเองก่อนล่ะ?” มิสึกิถาม

    “ฮะ ๆ ผมชื่อฟุบุกิ ชิโร่, โค้ด 63 ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” เด็กหนุ่มที่ชื่อฟุบุกิ ชิโร่กล่าว

    แสบตา..

    มิสึกิหรี่ตาลง เพราะรอยยิ้มที่ปรากฏออกมาจากเด็กน้อยตรงหน้าทำให้เขาแสบตาสุด ๆ คนอะไรยิ้มทีเล่นจนเขาเกือบตาบอด

    แต่เดี๋ยวนะ

    โค้ด 63?

    มิสึกิยกเอกสารขึ้นมาดู แค่ใบแรกก็บอกได้ชัดเจนอยู่แล้วว่าชื่อกับรูปใคร

    ดวงตาสองสีสอดส่องรูปในเอกสารกับตรงหน้า เออ เหมือนกันมาก

    “อ่าว นายคือคนในเอกสารที่ฉันต้องตรวจนี่?”

    มิสึกิยกมือมาเกาหลังหัวเบา ๆ

    ชิโร่เองก็ทำตาปริบ ๆ

    “บังเอิญจังเลยนะครับ ฮะ ๆ”

    “ไหน ๆ ก็จะตรวจผมแล้ว ตามาสิครับ”

    คำเชิญที่เหมือนกับแอปเปิ้ลอาบยาพิษ

    หากถามว่าใครคือแม่เลี้ยงใจร้ายก็คงเป็นฟุบุกิ ชิโร่ที่กำลังล่อลวงให้เจ้าหญิงผู้น่าสงสารอย่างมิสึกิ อากิระทานแอปเปิ้ลแสนอร่อย แต่ว่า—

    “ได้สิ”

    เจ้าหญิงผู้น่าสงสารที่แสนโง่เขลา แทนที่จะรอเวลา กลับเข้าไปหาแม่เลี้ยงใจร้ายซะงั้น

     

     

     

    “ถึงแล้วล่ะ” เจ้าของผมสีเงินพาร่างของนักวิจัยคนใหม่มาถึงห้องปริศนาห้องหนึ่ง เป็นห้องสีขาวที่กว้างมากพอที่จะอัดคนหลายหมื่นคนไว้ในนี้

    นอกจากนั้นแล้ว—

    ห้องนี้ถูกประดับไปด้วยของเล่นเด็กมากมาย และยังมีมุมเครื่องเล่นเด็ก

    นี่ฉันอยู่แล็ปวิจัย หรือ สนามเด็กเล่น?

    มิสึกิสะดุ้ง เขามองไปที่มือของเขาที่ถูกโค้ด 63 กุมไว้อย่างแผ่วเบา

    “เข้าไปข้างในเถอะครับ.. เจ้าหน้าที่ไม่ว่าหรอก ดูสิ เขามองมาทางนี้ แต่ไม่ว่าอะไรเลยนะ?” ชิโร่ชี้ไปทางเจ้าหน้าที่ที่ยืนข้างประตูทางเข้าที่พวกเขาผ่านมา

    “อืม..” ถึงจะกลัวว่าโดนดุมั้ย แต่พามาขนาดนี้ก็ช่างมันละกัน

    ชิโร่ออกแรงดึงแขนของมิสึกิไปอย่างเบาแรง หนุ่มผมขาวก็เดินตามร่างนั้นไปต้อย ๆ

    ตามคำบอกเล่าของทัตสึยะ ถ้าฉันประมาทพวกอาบีส ฉันตายตั้งแต่ถูกนิ้วแตะแล้ว

    แต่ทำไมโค้ด 63 ถึงแตะตัวฉันเบาขนาดนั้นล่ะ..?

    หรือว่าโดนหลอกให้ตายใจ? แบบหลอกเหยื่อเข้ามาในถ้ำแล้วค่อยใส่แรงขย้ำทีเดียว?

    มิสึกิหน้าซีดให้กับความคิดนั้น

    “ถึงแล้วครับ”

    หนุ่มตาสองสีมองเงยหน้ามองไปข้างหน้า เขาก็ต้องชะงักด้วยความตกใจ

    ฟุบุกิ ชิโร่พาเขามาตรงโซนสนามฟุตบอล..

    ถึงจะไม่ได้กว้างขนาดนั้น แต่ในสนามนี้มีอาบีสที่มีสติปัญญาอยู่ประมาณ 10 คน

    “มาแล้วหรอฟุบุกิ! วันนี้ฉันจะโชว์ท่าเตะใหม่ให้พวกนายดูเป็นขวัญตา!!” หนุ่มผมสีเทายาวที่เห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาปรากฏก็เอ่ยทักทาย

    “ขอโทษนะครับ ไฮซากิคุง พอดีผมมีตรวจน่ะ” ชิโร่กล่าวขอโทษออกมาด้วยสีหน้าลำบากใจ

    ไฮซากิเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หนุ่มผมเงินก็ทำหน้าเบื่อหน่าย

    “โอเค งั้นพวกฉันไปเล่นก่อนนะ”

    ชิโร่ไม่ตอบ แต่โบกมือลาให้

    “จะไปจรวจที่ห้องหรอ?” มิสึกิที่เงียบมาสักพักถามด้วยความสงสัย

    “หรืออยากตรวจตรงนี้ล่ะครับ?”

    ดวงตาสีเทาเข้มมองดวงสายตาที่อ่านยาก จู่ ๆ น้ำเสียงเขาก็ดูจริงจังขึ้นมา

    “....”

    ทำไมเหมือนถูกล่อลวง..

    “งั้นไปที่ม้านั่งตรงนั้นดีกว่าเนอะ?” ชิโร่ยิ้มแล้วเดินมากอดแขนขวาของมิสึกิจนแขนของเขาแนบติดกับร่างกายของชิโร่

    “อื้อ..”

    หมอนี่.. น่ากลัวชะมัด

     

     

     

    “แล้ววันนี้อยากตรวจอะไรผมหรอ?”

    “แค่ถามทั่วไปน่ะ ฉันพึ่งเข้าทำงานเลยยังไม่ต้องลงลึก”

    มิสึกิยกเอกสารขึ้นมาอ่านพลางเหลือบมองชิโร่ที่นั่งตรงข้ามไปด้วย

    โค้ด 63, ฟุบุกิ ชิโร่ อายุ 15 ปี เป็นเด็กผู้ชายผมสีเงิน และมีศักดิ์เป็นพี่ชายของโค้ด 64, ฟุบุกิ อัตสึยะ เกิดที่ประเทศอาร์เทมิส แต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์หิมะถล่มเลยพลัดตกลงไปที่หลุมแพนโดร่าจนได้รับพลังแพนโดร่ามาครอบครองพร้อมกับน้องชาย

    พรแห่งแพนโดร่า คือ หมาป่า

    สามารถเปลี่ยนตัวเองให้กลายร่างเป็นหมาป่าได้ และสามารถกลับมาใช้ร่างมนุษย์ได้ตามปกติ

    เดี๋ยวนะ..

    หมาป่า?

    ห ม า ป่ า

    หมา!!

    มิสึกิผละออกจากเอกสารแล้วรีบมองคนตรงหน้า แต่ก็ต้องชะงัก

    หน้าของชิโร่อยู่ใกล้มิสึกิแค่ไม่กี่เซน จมูกของทั้งสองชนกันเรียบร้อยแล้วด้วย

    ดวงตาสีเทาเข้มจ้องลึกมาที่ดวงตาสองสี

    มิสึกิรู้สึกว่าตัวเองถูกตกเป็นเหยื่อให้กับบุคคลตรงหน้า

    “ทั้งท่าทาง นิสัย กลิ่นตัว ปฎิกิริยาตอบสนอง สัมผัสนุ่มนิ่มตามร่างกาย แถมเสียงยังอ่อนหวานซะจนผมอยากจะกินเธอสุด ๆ เลยล่ะ.. มิสึกิ อากิระคุง” น้ำเสียงเย็นดั่งหิมะฤดูหนาวเปล่งออกมา

    ร่างกายของมิสึกิสั่น เขาจำได้ว่าเขายังไม่ได้บอกชื่อตัวเองให้อีกฝ่ายรู้เลยนะ แล้วหมอนี่รู้ได้ไง—

    “ถ้าสงสัยว่าผมรู้ชื่อเธอได้ยังไง? นั่นก็เพราะผมสื่อจิตกับอัตสึยะยังไงล่ะ ผมกับอัตสึยะสื่อจิตคุยกันได้ แม้จะอยู่ห่างกัน อัตสึยะเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะ เกี่ยวกับตัวเธอน่ะ” น้ำเสียงถูกแปรเปลี่ยนออกมาอย่างขี้เล่น ใบหน้าคมคายยังแสดงรอยยิ้มที่ผิดกับคำพูดสุด ๆ

    “แล้วก็นะ~”

    “ผมอยากจะกินเธอมากเลยล่ะ อากิระคุง ตัวเธอนี่มันน่าอร่อยสุด ๆ” กล่าวจบ ลิ้นสากก็ยื่นออกมาเลียเข้าที่ข้างแก้มของมิสึกิ

    คนถูกเลียก็สะดุ้งด้วยความตกใจ สัญชาตญาณของมนุษย์สั่งให้ร่างกายของมิสึกิถอยห่างจากชิโร่ แต่ก็ถูกสองมือหนาจับไหล่ไว้แน่น

    ชิโร่ยกขาขึ้นมาบนโต๊ะแล้วเขยิบมาใกล้มิสึกิจนอีกนิดเขาจะคร่อมหนุ่มผมขาวที่นั่งสั่น

    สั่นอย่างกับกระต่ายเลยแหนะ

    ฮ๊า น่าอร่อยจัง

    “แค่เลียแก้มก็รู้สึกหวานแล้ว ถ้าได้เลียไปทั้งตัว ความหวานจะหายออกไปมั้ยนะ?” ชิโร่พูดออกมาด้วยเสียงกระเส่า หู และหางหมาป่าของชิโร่ปรากฏออกมาต่อหน้ามิสึกิ

    “มะ.. หมา...” มิสึกิหน้าซีด

    “หืม? ผมไม่ใช่หมาธรรมดานะ ผมเป็นหมาป่าต่างหาก” ชิโร่พองแก้มด้วยความน้อยใจ แต่ก็ไม่มีท่าทีจะปล่อย

    “ฉันไม่ชอบหมา..” มิสึกิก้มหน้า

    หมาป่าหนุ่มมองร่างน้อย ๆ ที่นั่งสั่นด้วยความเห็นใจ

    แต่ว่านะ

    “เธอเคยบอกสินะว่าจะถามเรื่องทั่วไปน่ะ?”

    หนุ่มผมขาวเงยหน้ามองชิโร่แล้วพยักหน้าตอบ

    “งั้นผมจะบอกให้ฟังละกัน ตั้งใจฟังไว้นะ?” หางสีเงินส่ายออกมาอย่างอารมณ์ดี

    “ช่วงนี้มันถึงฤดูนั้นพอดีเลยอยากจะให้เธอช่วยสักหน่อย”

    ฤดู? ฤดูอะไร?

    ชิโร่ คือ หมาป่า

    หมาป่า = สัตว์

    สัตว์ = มีการสืบพันธุ์ เพื่อสร้างลูก

    ...

    อย่าบอกนะว่า...

    “ผมอยู่ในช่วงติดสัดน่ะ...”

    “อากิระคุงช่วยผมได้ใช่มั้ย?”

     

     

     

     

    Talk with Roselle

    ชิโร่จะเอาเลยหรอ งั้นเอาเลอ เริ่มเลอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×